Share

บทที่ 229

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“อย่ากังวลไปเอวา พวกเราจะจับไอ้บ้าคนนี้ ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้เขาหรือเธอทำร้ายเธอหรือหลานสาวฉันได้หรอก” เขาให้ความมั่นใจกับฉัน น้ำเสียงของเขาใช้โทนที่นุ่มนวล

“ขอบคุณนะ”

พวกเราพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่พวกเราจะวางสาย

ฉันยังไม่ได้ลุกจากจุดที่ฉันนั่งอยู่บนโซฟา มีสิ่งที่ต้องทำเป็นล้านในบ้าน แต่กระนั้นฉันไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ เหลือในตัวฉันเลย อีกอย่างด้วยความคิดและความหวาดกลัวทั้งหมด ฉันไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อได้แม้ว่าจะอยากก็ตาม

ฉันไม่รู้เลยว่านานแค่ไหนที่ฉันอยู่ตรงนั้นก่อนที่จะได้ยินเสียงกุญแจไข จากนั้นประตูหน้าบ้านของฉันก็เปิดออก ฉันหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า แม่กับพ่อเดินจับมือกันเข้ามา

ฉันยิ้มให้พวกเขา สองคนนั้นรักกันมากจนพวกเขาตัวติดกันตลอดเวลาเป็นส่วนใหญ่ มันน่ารักจริง ๆ

“สวัสดีค่ะ” ฉันทักทายพวกเขาขณะที่ฉันลุกขึ้นนั่ง

แม่นั่งลงข้างฉันในขณะที่พ่อนั่งลงฝั่งตรงข้าม

“เช่นกัน ลูก” พ่อพูดขึ้น

“สวัสดี ลูกรัก” แม่ทักทายกลับ

ฉันจะไม่มีทางคุ้นชินกับความรักในสายตาของพวกเขาได้เลย มันคือทุกอย่างสำหรับฉัน กับพวกเขา ฉันไม่ต้องสงสัยหรือคาดเดา สีหน้าของพวกเขาบ่งบอกออกมาหมดแล้ว

“มีอะไรให้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 230

    ฉันหมกมุ่นอยู่กับกระดาษโน้ตมาเป็นเวลาสองสามวันแล้ว ฉันแค่อยากจะหาตัวให้ได้ว่าคน ๆ นี้เป็นใครเพื่อที่ฉันจะได้เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุขฉันเกลียดตอนนี้ฉันขวัญอ่อนและหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา โนอายังสังเกตเห็นว่าฉันไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่เขาถาม ฉันเพียงบอกเขาว่าฉันโอเคดีทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่โอเคชีวิตของฉันนั้นเรียบง่ายมากย้อนกลับไปตอนที่ฉันแต่งงานกับโรแวนเมื่อเทียบกับตอนนี้ สิ่งเดียวที่ฉันกังวลคือเขาจะกลับมาทานมื้อเย็นไหม หรือเขาจะรักฉันบ้างไหม ฉันรู้ว่าฉันเคยเจ็บปวดตลอดเวลา แต่ฉันจะเลือกสิ่งนั้นมากกว่าการตายแบบใดก็ตามในเร็ว ๆ นี้ฉันไม่มีช่วงเวลาแห่งความสุขเลยตั้งแต่ที่ฉันหย่ากับโรแวน ความพยายามในการเอาชีวิตของฉันเกิดขึ้นถึงสามครั้ง รถของฉันถูกวางระเบิด บ้านของฉันถูกวางเพลิง และฉันถูกลักพาตัวสองครั้ง หลังจากฉันเห็นด้วยที่จะให้รีเปอร์อยู่ในชีวิตของฉัน ฉันคิดว่าเรื่องต่าง ๆ คงจะเข้าที่เข้าทาง แต่ไม่เลย…ตอนนี้บางคนกำลังตามล่าฉันอยู่ อีกครั้งแล้ว“แม่ครับ ผมไปบ้านกันเนอร์ได้ไหมครับ?” โนอาถามขึ้นมา ทำให้ฉันตกใจกลัวแทบแย่ ฉันพยายามใจเย็นไว้ นี่แหละคือที่ฉันบอกว่

  • ธุลีใจ   บทที่ 231

    เขาถลึงตามองฉัน แต่ภายในไม่กี่วินาทีสีหน้าของเขาก็อ่อนลง เขาคว้ามือฉัน พลิกมันขึ้น และจูบลงบนฝ่ามือฉันอย่างนุ่มนวล“ผมไม่รู้ว่าผมตกหลุมรักคุณเมื่อไหร่หรือตอนไหน ทั้งหมดที่ผมรู้คือผมรักคุณ เอวา ผมไม่เห็นมันในตอนนั้น ผมถูกครอบงำด้วยความขมขื่นและความโกรธจนไม่รู้ว่าผมได้แต่งงานกับคนที่พิเศษอะไรเช่นนี้ ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา มันยากที่จะอยู่โดยไม่มีคุณ เมื่อเห็นคุณเจ็บปวดหรือถูกทำร้ายมันทำลายผมทุกครั้ง ผมต้องใช้เวลากว่าจะตระหนักได้ว่าผมตกหลุมรักคุณ แต่ผมอยู่ที่นี่ขอร้องให้คุณให้โอกาสผมได้แสดงให้คุณเห็นถึงความรักที่คุณสมควรได้รับจากผมแต่ไม่เคยได้เลย”ฉันดูตกตะลึงไปอย่างแท้จริง ขณะที่เขาลุกจากที่นั่งและคุกเข่าตรงหน้าฉัน ทั้งหมดนี้เหมือนราวกับฝัน มันเหมือนกับว่าฉันอยู่ในโลกที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง“โอ้ โรแวน” ฉันเริ่มพูด โดยพยายามที่จะทำให้สมองทำงาน “คุณไม่ได้รักฉัน คุณไม่เคยรักฉันเลย เอมม่าคือคนที่คุณรักและเป็นรักเดียวเท่านั้น เธอคือคนที่กุมหัวใจคุณไว้ จำได้ไหม? ”ความเจ็บปวดและความเสียใจฉายแวบในดวงตาของเขา ฉันรู้สึกแย่สำหรับเขา แต่ฉันรู้ว่าบางทีเขาเพียงแค่สับสนเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ มันแค

  • ธุลีใจ   บทที่ 232

    ”สามครั้งแล้วและเธอก็จะจบ เอวา”ฉันอ่านและอ่านโน้ตนั้นซ้ำ หัวใจของฉันเต้นแรงมากจนฉันคิดว่ามันจะเจาะเป็นรูทะลุอกออกมา ฉันกลัวจนขึ้นสมองและฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไง นี่เป็นโน้ตที่สามที่ฉันได้รับฉันเพิ่งกลับมาจากการส่งโนอาที่โรงเรียนตอนที่ฉันพบมันอยู่ตรงหน้าประตูบ้าน ตอนฉันเห็นกล่องที่ถูกผูกด้วยโบว์สีแดงครั้งแรก ฉันคิดว่ามันคือของขวัญ จนกระทั่งฉันเปิดมันดูและพบซากหนูที่ตายแล้วพร้อมกับกระดาษโน้ตข้างในตอนนี้ฉันตื่นตระหนกมากเพราะการคุกคามนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายลงฉันทิ้งกล่องพร้อมกับหนูลงในถังขยะก่อนที่ฉันจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหารีเปอร์ ฉันภาวนาขอให้เขาจะมีคำตอบให้ฉัน ให้เขาพบว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้เขารับสายหลังจากไม่กี่วินาทีและฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก“เอวา” เขารับสายลวก ๆ ฟังดูเหมือนว่าเขากำลังสูบบุหรี่“โปรดบอกฉันทีว่าคุณมีบางอย่างให้ฉัน” ฉันอ้อนวอนอย่างสิ้นหวังฉันรู้ว่ามันหยาบคายที่ไม่แม้แต่จะทักทายเขาด้วยซ้ำ แต่ฉันกลัว ฉันเป็นกังวลและคอยเหลียวหลังมองตลอด ฉันกลายเป็นหวาดระแวงมากจนใครก็ตามที่ฉันบังเอิญพบบนถนนหรือร้านค้า จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในทันทีฉันไม่ได้บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 233

    ส่วนที่สองโรแวน “คุณผู้ชาย? มีอะไรที่คุณอยากให้ฉันสั่งจากร้านอาหารไหมคะ” เลขาของผมถามขึ้นมา แต่ผมยังคงจ้องมองนอกหน้าต่างห้องทำงานของผมต่อไปวิวที่นี่ดีมากจริง ๆ มันคือหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมผมถึงเลือก แต่วันนี้มันไม่ได้ให้ความเงียบสงบกับผมตามปกติ “ไม่ล่ะ ไม่ใช่วันนี้” ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมองเธอ“โอเคค่ะถ้างั้น ฉันจะกลับมาในอีกครึ่งชั่วโมง”ผมไม่ได้ตอบเธอและหลังจากไม่กี่นาทีที่ผมได้ยินเสียงประตูปิด ผมถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ลางสังหรณ์บางอย่างเกาะยึดติดกับผม มันล้อมรอบผมราวคลื่น วันนี้ยิ่งรู้สึกมากกว่าวันก่อนเสียอีกผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หัวใจของผมเป็นกังวล ผมไม่สามารถสงบสติอารมณ์และไม่สามารถจดจ่อได้ มันเหมือนว่าจิตวิญญาณของผมกำลังพยายามบอกผมบางอย่าง แต่ผมคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรผมพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง ผมนึกถึงเอวาและการพูดคุยของเรา ผมเข้าใจเธอ โธ่เว้ยผมทำให้เธอลังเลหรือเปล่า ผมใช้เวลามากกว่าสิบปีในการตอกย้ำเธอว่าเอมม่าคือผู้หญิงคนเดียวที่ผมจะรักผมทำทุกอย่างด้วยอำนาจของผมเพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าผมใส่ใจเธอน้อยนิดแค่ไหน ผมใช้เวลาเก้าปีในการลงโทษเธอสำหรับบางสิ่

  • ธุลีใจ   บทที่ 234

    ผมเห็นเขาข่มความรู้สึกไว้ ก่อนที่สายตาของเขาจะจดจ่อมาที่ผม“เป็นเอวา” เขาพูดออกมาในที่สุดผมกำลังจะถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอวาก็ตอนที่เสียงที่ได้ยินในทีวีเอ่ยชื่อของเธอขึ้นมา ผมเริ่มหันไปมองยังทิศทางของทีวี“ได้โปรด โรแวน…อย่าดูเลย มองฉัน” น้องชายของผมอ้อนวอนผม แต่ผมไม่ได้สนใจเขาผมต้องการรู้ว่านักข่าวจะพูดอะไรเกี่ยวกับเอวากันแน่ข่าวด่วนพาดหัวข้อข่าวเขียนด้วยตัวอักษรใหญ่และหนา“มีข่าวด่วนเพิ่งเข้ามาค่ะ สมาชิกของตระกูลชาร์พและผู้ก่อตั้งมูลนิธิโฮปถูกยิงโดยบุคคลนิรนามในวันนี้ เรายังไม่รู้ว่าเธอตกอยู่ในสภาวะใด แต่มือปืนได้เปิดฉากยิงดูเหมือนว่าจะเป็นการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังเธอ วิดีโอที่คุณกำลังจะได้รับชมนี้อาจจะรบกวนใจบางคน”ผมรู้สึกว่าหัวเข่าอ่อนแรงลง แต่ไม่มีอะไรที่จะเตรียมพร้อมผมในการเฝ้ามองผู้หญิงที่ผมรักกำลังถูกยิงหลายครั้งวิดีโอแสดงให้เห็นในขณะที่เอวากำลังเดินออกมาจากร้านไอศครีม สายตาของเธอดูละห้อยและเธอมีการขมวดคิ้วเล็กน้อยบนใบหน้า ใครก็ตามที่ถ่ายวิดีโอจับภาพรถตู้สีดำที่มีกระจกป้องกันแสงแดดเร่งความเร็วไปยังทิศทางของเธอ เพียงก่อนที่เขาจะขับผ่านเธอไป คนที่สวมหน้ากากได้ลดกร

  • ธุลีใจ   บทที่ 235

    ให้ตาย ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเธอ? ทำไมถึงมีคนทำแบบนี้กับเธอ? มีร่องรอยที่ผมเพิกเฉยไปใช่ไหม? เธอตกอยู่ในอันตราย แล้วผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยหรือ?คำถามยังคงโจมตีอยู่ในหัวของผมขณะที่เกบขับรถออกจากลานจอดรถชั้นใต้ดินไป ผมจะไม่มีทางให้อภัยตัวเองถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายและผมไม่ได้สังเกตเห็นมัน หรือแม้แต่จะทำอะไรสักอย่างด้วยซ้ำ“เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” ผมถามในขณะที่หวาดกลัวในคำตอบของเขาจนทำให้ผมหายใจไม่ออกเธอต้องมีชีวิตอยู่ เกบเหลือบหันมามองผม “ฉันไม่รู้มากนัก แต่ฉันรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่”‘ฉิวเฉียด’ คำพูดไม่ได้เอ่ยออกมา แต่บอกเป็นนัยผมเห็นวิดีโอนั้น ใครก็ตามที่ตามล่าเธออยู่ต้องการให้แน่ใจว่าเอวาตายไม่มีโอกาสรอด ผมไม่รู้การประเมินบาดแผลของเธอ แต่ผมรู้ว่าอย่างน้อยลูกกระสุนสองนัดได้โดนตัวเธอ“นายรู้ไหมว่าเธออยู่โรงพยาบาลไหน?” ผมถาม เสียงของผมฟังดูกระด้างแม้กระทั่งฟังด้วยหูของตัวเองผมจดจ่ออยู่กับการที่จะไปหาเธอมากจนผมไม่แม้แต่จะสนใจถามด้วยซ้ำว่าเธอถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลไหน ผมเพียงอยากจะไปอยู่ที่นั่นเพื่อเธอ“อืม ไม่ต้องห่วง ฉันโทรถามและได้ข้อมูลมาแล้ว พวกเขาบอกฉันว่าพวกเขาพาเธอไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 236

    “เอวา ชาร์พครับ” ผมเกือบตะโกนเมื่อมาถึงเคาน์เตอร์พยาบาลพยาบาลคนหนึ่งพยักหน้าและโบกมือเรียกผม “ทางนี้ค่ะ คนไข้ถูกพามาที่นี่เมื่อประมาณสิบนาทีที่แล้ว ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน”“เธอเป็นยังไงบ้างครับ? แล้วเด็กล่ะ?”“ดิฉันขอโทษค่ะ คุณโรแวน ดิฉันไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ คุณหมอกำลังรักษาเธออยู่ และฉันได้รับคำสั่งให้พาครอบครัวของเธอไปที่ห้องพักรอเมื่อมาถึง”ผมอยากจะร้องตะโกน อยากจะระบายความโกรธใส่เธอ แต่ก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลยเธอพาผมไปที่ห้องพักรอ จากนั้นก็รีบร้อนเดินออกไปในไม่กี่วินาทีต่อมา ทิ้งให้ผมอยู่กับความคิดที่วิ่งพล่านและความกังวลที่อัดแน่น เมื่อคิดว่าคงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงแขนเล็ก ๆ ที่โอบรอบตัวผมผมหันไปมองสัมผัสอันฉับไวนี้ แล้วก็พบว่าเป็นแม่ของผมที่จ้องกลับมา“แม่” ผมเอ่ยอย่างแผ่วเบา น้ำตาคลออยู่ที่ขอบตา แต่กลับกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาผมไม่เคยรู้สึกไร้พลังขนาดนี้มาก่อน อ่อนแอเหลือเกิน“เอวาจะไม่เป็นไรนะลูก แต่ลูกต้องเชื่อมั่นก่อนนะ”ผมพยักหน้าเพราะไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้“หมอว่ายังไงบ้าง?” เสียงของเล็ตตี้ทำให้ผมรู้ว่าทุกคนอยู่ท

  • ธุลีใจ   บทที่ 237

    ผมจ้องหมอราวกับคนโง่ที่ไม่เข้าใจภาษามนุษย์ ในความเป็นจริง คำพูดของเขายังไม่ได้ซึมซับเข้ามาในหัวผมทั้งหมด นี่กำลังขอให้ผมเลือกระหว่างเอวากับลูกในท้อง รู้บ้างหรือเปล่าว่ามันยากเย็นขนาดไหน?“คุณโรแวนครับ ทุกวินาทีมีค่า เราจำเป็นต้องทราบการตัดสินใจของคุณโดยไว้ครับ” หมอพูดแทบเป็นเหมือนการอ้อนวอนผมอ้าปากจะพูด แต่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ผมพยายามอีกครั้งและก็เหมือนเดิม“คุณโรแวนคะ?” พยาบาลเรียกด้วยน้ำเสียงเจือความกังวล“เด็กค่ะ” เสียงอ่อนโยนของเล็ตตี้ดังขึ้น ทำลายความเงียบ “ถ้าต้องเลือก ก็ต้องช่วยเด็กค่ะ”หมอและพยาบาลพยักหน้าก่อนจะรีบกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ผมหันไปหาเล็ตตี้ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปั่นป่วนอยู่ภายในท่าทางของผมคงสื่ออะไรบางอย่าง เพราะเธอจ้องกลับมาด้วยสายตาแข็งกร้าวก่อนจะพูด“ไม่ต้องมองฉันแบบนั้นเลย โรแวน นี่คือสิ่งที่เอวาต้องการนะ” เธอพูดพร้อมกัดฟันกรอดโครินออกมาปกป้องเพื่อนตน“เล็ตตี้พูดถูก เอวาเลือกลูกก่อนเสมอไม่ว่าจะเวลาไหน ถ้าเราตัดสินใจเลือกช่วยชีวิตเธอแทนลูกในท้อง มีหวังโดนเกลียดไปตลอดแน่”ผมรู้สึกเหมือนพลังชีวิตถูกดึงออกไปหลังจากที่เธอพูดในสิ่งที่ผมคิดเมื่อไม่ก

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 466

    ริมฝีปากของเกเบรียลทาบลงมาทันทีที่ประตูห้องปิดลงข้างหลังเรา จูบช่างหนักแน่นราวกับการลงทัณฑ์"ไม่มีใครแตะต้องของของผมได้ และจำไว้ให้ดีว่าคุณคือของของผม ฮาร์เปอร์" เขาคำราม เสียงเต็มไปด้วยความโกรธ"ฉันแค่เต้นอยู่ดี ๆ เขาก็เข้ามา" ฉันแก้ตัว "ฉันพยายามหนีแล้วนะ แต่เขาก็จับฉันเอาไว้น่ะสิ"ความสัมพันธ์ระหว่างฉันและเกเบรียลตึงเครียดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่ตึงเครียดนั้นไม่ใช่เพราะว่าเพราะสิ่งต่าง ๆ เลวร้าย แต่เพราะว่ามันดีมากเลยต่างหาก ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกหลังจากอาหารเย็นคืนนั้น เรารับประทาน ดื่ม และพูดคุยกัน แต่จูบนั้นเป็นไฮไลท์ของค่ำคืนรอยจูบอีกมากมายเกิดขึ้นระหว่างเราตั้งแต่นั้นมา จูบที่ทำให้ฉันต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ จูบของเขากลายเป็นเหมือนยาเสพติด มันบ้ามากฉันรู้ แตฉันอดไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาสัมผัสริมฝีปากของฉัน ฉันก็แทบละลายเป็นเวลาสี่วันแล้วตั้งแต่มื้อค่ำวันนั้น ฉันเลิกวางหมอนกั้นระหว่างเราในคืนที่สาม มันไร้ประโยชน์เพราะสุดท้ายฉันก็อยู่ในอ้อมแขนของเขาอยู่ดี"ไม่สำคัญหรอก" เสียงของเขาดึงฉันกลับสู่ความเป็นจริง "ไม่มีผู้ชายคนไหนได้รับอนุญาตให้แตะต้องคุณทั้งนั้น""อย่างนั้นเหร

  • ธุลีใจ   บทที่ 465

    ฉันขยับไปตามจังหวะเพลง รู้สึกเหมือนความกลัวทั้งหมดหายไป พูดกันตามตรง ฉันไม่เคยไปร้านเหล้ามาก่อน ไม่เคยเข้าร่วมงานปาร์ตี้ใด ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงพ่อแม่ นี่เป็นครั้งแรกของฉันเลยก็ว่าได้พ่อแม่ไม่ใช่ประเภทเข้มงวดขนาดนั้น แต่ฉันไม่มีเพื่อน และฉันเป็นคนเก็บตัวมากจนไม่มีใครในโรงเรียนรู้ว่าฉันมีตัวตน ฉันไม่ได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้เพียงเพราะฉันเก็บตัวมากเกินไป อาจเรียกว่าเป็นพวกไร้ตัวตนก็ว่าได้ฉันรู้สึกดีที่ได้ดื่มและผ่อนคลาย วันนี้เป็นวันสุดท้ายในโตเกียว และทุกอย่างก็เป็นไปอย่างราบรื่น เกเบรียลสามารถทำให้พวกเขาทำตามตามเงื่อนไขของข้อตกลงได้เราอยู่ที่นี่ในร้านเหล้าสุดหรูแห่งนี้ เพราะหนึ่งในนักลงทุนต้องการเฉลิมฉลองการบรรลุข้อตกลงนี้ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำเงินหลายพันล้านมาสู่บริษัทวู้ดฉันยังคงโยกตัวไปตามจังหวะเพลง หลับตาและยกมือขึ้น ทำไมฉันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน? โอ้ ใช่ ฉันแต่งงานตอนอายุสิบแปด อยู่ในชีวิตแต่งงานเป็นเวลาสามปี ตั้งท้อง หย่าร้าง คลอดลูก แต่งงานใหม่ เลี้ยงลูก เป็นม่าย จากนั้นแต่งงานเป็นครั้งที่สามให้ตายสิ พอมองชีวิตตัวเองตอนนี้ ฉันรู้ว่ามันไม่ต่างอะไรกับร

  • ธุลีใจ   บทที่ 464

    ‘เหมือนกับที่ผมกำลังตกหลุมรักคุณอยู่แบบนี้ไง’คำพูดของเกเบรียลวนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งวัน เรามีการประชุมติด ๆ กันกับนักลงทุนหลายราย แต่ฉันไม่สามารถจดจ่อกับอะไรได้เลย ยกเว้นประโยคนั้นอย่างที่คุณคงเดาได้ ฉันเป็นคนคิดมาก ฉันวิเคราะห์และคิดมากทุกอย่างจนมันทำให้ฉันใกล้บ้า นั่นคือสิ่งที่ฉันทำมาทั้งวันคำพูดเหล่านั้นหมายความว่าอย่างไร? เป็นไปได้จริงหรือที่เขากำลังตกหลุมรักฉัน? ถ้ามันเป็นกลลวงล่ะ? ถ้าเขาแค่หลอกฉันล่ะ? ฉันควรเชื่อสิ่งที่เขาพูดไหม? ถ้ามันเป็นความจริงและเขาหมายความตามนั้น ฉันจะทำอย่างไร? ฉันควรทำอย่างไร?ฉันอยากถามเขาแทบแย่ แต่ฉันไม่อยากดูเหมือนกระตือรือร้นหรือสิ้นหวังเกินไปฉันคิดถูกแล้ว ว่าการที่ยอมเป็นภรรยาของเกเบรียลอีกครั้งมีแต่ทำให้วุ่นวาย“เป็นอะไรไหม?” เขาเอ่ยถามมองด้วยสายตาที่แสดงความเป็นห่วง“ไม่ค่ะ” ฉันกระซิบ พยายามผลักความคิดเหล่านั้นออกไปการคิดถึงเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้ช่วยอะไร สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องมานั่งปวดหัวไมเกรนอยู่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการเลย“เราพักอยู่ในห้องก็ได้ถ้าคุณต้องการ ไม่ต้องลงไปก็ได้”ฉันฝืนยิ้มเล็กน้อยและตั้งสติ "ไม

  • ธุลีใจ   บทที่ 463

    "ผมได้ยินว่าคุณแต่งงานแล้ว แต่ไม่ยักรู้ว่าภรรยาจะสวยขนาดนี้" หนึ่งในหุ้นส่วนกล่าวหลังจากการประชุม ขณะที่เรากำลังเก็บของ "เสียดายผมไม่ได้พบเธอก่อนคุณ"เขาดูไม่แก่กว่าเกเบรียลมากนัก อาจจะอยู่ในช่วงกลางหรือสามสิบปลาย ๆ ฉันไม่แน่ใจนักดวงตาของเขามองสำรวจเรือนร่างฉันไปทั่ว ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกเปิดเผยและอึดอัด ฉันขยับเข้าไปใกล้เกเบรียลมากขึ้นเพราะรังเกียจสายตาของเขาฉันแต่งงานแล้วนะให้ตายเถอะ และสามีของฉันก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาถึงกับกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร? มันน่าขยะแขยงนัก"ถ้าไม่หยุดมองภรรยาของฉันแบบนั้น อิชิโร่ ฉันจะควักลูกตานายออกมาด้วยช้อนชาอันนี้ แล้วเอาไปปั่นเป็นน้ำแข็งไส จากนั้นยัดลงคอนาย" เกเบรียลเตือนด้วยน้ำเสียงขู่เข็ญที่ทำให้ฉันขนลุกอิชิโร่กลืนน้ำลาย สีหน้าหวาดหวั่นต่อคำขู่ของเกเบรียลฉันรู้ว่ามันไม่ควรจะทำให้รู้สึกดี แต่การที่เกเบรียลแสดงว่าตนเองเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดีมาก ฉันรักมันเหลือเกิน"ขอโทษด้วยนะครับ" อิชิโร่พูดเสียงเบา ดวงตาไม่สบตาฉันหรือเกเบรียลเกเบรียลแค่นเสียงแต่ไม่รับคำขอโทษ และฉันก็เช่นกัน"มาเริ่มกันเถอะครับ" ชายคนหนึ่ง ซึ่งฉันคิดว่าเ

  • ธุลีใจ   บทที่ 462

    เรียกฉันว่าคนขี้ขลาดก็ได้ ฉันไม่สน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรเมื่อฉันไปถึงห้องนั่งเล่น ฉันโทรสั่งอาหารเช้าให้มาส่งที่ห้องของเรา ก่อนจะนั่งลงรอฉันรู้ว่านี่จะเป็นหายนะตั้งแต่ตอนที่เกเบรียลบอกว่าเราจะใช้ห้องร่วมกัน ฉันคิดว่าหมอนจะช่วยได้ แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็เดินไปเปิด"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง" พนักงานเสิร์ฟทักทาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า"อรุณสวัสดิ์ค่ะ""ให้ดิฉันวางตรงไหนดีคะ?" เธอถามขณะที่ฉันหลีกทางให้เธอเข้ามา"บนโต๊ะอาหารก็ได้ค่ะ" ฉันตอบเธอเธอพยักหน้าและเดินไปที่นั่น เธอเพิ่งวางอาหารเช้าลงและกำลังจะออกไป เกเบรียลก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อฝีเท้าเธอเริ่มช้าลง และเธอเกือบจะสะดุดเมื่อมองเห็นเขา เกเบรียลเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ดังนั้นฉันจึงไม่โทษเธอหรอก"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดเมื่อรู้ว่าสายตาของเธอยังคงอยู่ที่เกเบรียล ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็อยู่ที่ฉันเสียงของฉันดึงเธอออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าก่อนจากไป เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็ปิดประตูให้เรียบร้อย"แล้วยังไงดี คุณจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเก

  • ธุลีใจ   บทที่ 461

    ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงคืนนั้นรวมถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ก็ทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวแล้ว ฉันขยับตัวเล็กน้อย หวังว่าจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นและบรรเทาความปั่นป่วนในร่างกาย แต่มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะการขยับตัวทำให้ร่างกายแนบชิดกับเกเบรียลมากขึ้นกว่าเดิมเกเบรียลส่งเสียงครางต่ำ แหบพร่า และเร้าอารมณ์ เช่นเดียวกับที่เขาเคยเปล่งออกมาในคืนนั้น ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว เสียงนั้นพุ่งตรงเข้าสู่ความรู้สึกของฉัน ทำให้ฉันหยุดพยายามจะขยับตัวให้สบายขึ้นฉันค่อย ๆ หันไปมองเขา หวังว่าเขาจะยังหลับอยู่ พอเห็นว่าเปลือกตาของเขายังคงปิดสนิท ฉันก็รู้สึกโล่งใจ แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเมื่อได้มองใบหน้าของเขาชัด ๆตอนหลับ เขาดูสงบและงดงามเหลือเกิน ขนตายาวทอดเงาบนแก้ม ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เพียงแค่มองฉันก็เกิดความรู้สึกอยากสัมผัสเขา อยากแนบจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นฉันกำลังจมดิ่งลงไปอีกครั้ง กับผู้ชายที่กุมหัวใจฉันไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน คนเดียวกับที่ตอนนี้กำลังขอในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ฉันหลงใหลในตัวเขามาก จนกระทั่งฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนสายเกินไปเสียงครางหลุดออกจากริมฝีปากขอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status