แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเอง
ท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง.. เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่ “ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า” คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก “เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย” เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา.. “ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ” นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไรแต่ทำไมไม่ทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีวะ หน้าที่คนรักทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่หน้าที่พ่อแม่กลับไม่มีปัญญาทำให้ดี เด็กคนนี้ เดิมทีเกิดมาจากความรักของทั้งสองคนไม่ใช่เหรอ พอมันมีปัญหาเกิดขึ้นมา กลับลืมเลือนไปเลยว่าความรักที่ทั้งโรวีนาและอิไลเคยมีให้กันเป็นแบบไหน ทำไมเด็กคนหนึ่งจะต้องมาเป็นเหยื่อความรุนแรงของครอบครัวด้วยนะ นี่แหละการมีลูกเมื่อพร้อมถึงได้สำคัญ! “เมลลี่..จากนี้ไปเรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ ทั้งแม่และลูก..แล้วก็ครอบครัวใหม่ของเราด้วย ลูกงดงามในแบบของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสนใจคำกล่าวที่ว่าทำไมลูกไม่เหมือนแม่หรอก ขนาดคาเรนเขายังไม่เหมือนแม่ของเขาเลย..ใช่ไหมล่ะ” อ่า..เธอและคาเรนเองก็มีอะไรๆ ที่เหมือนกันด้วยสินะ ตรงที่เราทั้งสองคนไม่เหมือนท่านแม่เลยแม้แต่นิดเดียว “ลูกจะเป็น..พี่สาวที่ดีค่ะ” โรวีนาดีดนิ้ว “เช่นนั้นก็นอนได้แล้วลูกรัก อย่าลืมว่าลูกจะต้องเป็นเด็กดี หมาป่านักเวทจะได้มาให้พรลูกในวันสิ้นปี” เมลลี่พยักหน้าก่อนที่เธอจะหลับตาลง โรเวนาเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูให้เบาที่สุด เธอเดินลงไปด้านล่างเพื่อไปหาน้ำดื่มสักหน่อย แต่ทว่าเธอกลับพบเจอคนที่ไม่สมควรอยู่ที่นี่ ท่านดยุคกำลังนั่งรอเธออยู่ที่ห้องรับรอง เขาแต่งตัวเต็มยศราวกับว่ากำลังจะไปร่วมงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง “ท่านดยุคคะ..ฉันไม่เห็นมีใครบอกกล่าวเลยว่าท่านจะมาที่นี่” โรวีนาสวมชุดนอนที่มีเสื้อคลุมค่อนข้างบางมากพอสมควร โชคดีที่เขาสั่งให้ข้ารับใช้ที่ตามมาไปรอด้านนอก “อ่า..ผมได้ยินมาว่าคุณได้รับบัตรเชิญเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลเวนสัน” เมื่อได้ยินคำถามนั้นโรเวนาก็คิดออกในทันที เธอหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าที่กำลังตื่นตกใจของท่านดยุค “ให้ตายสิ บัตรเชิญนั้นฉันไม่ได้ส่งคืนไปที่คฤหาสน์เวนสันค่ะ ไม่ได้ตอบรับหรือว่าปฏิเสธบัตรเชิญเลย..” เธอจะไปที่นั่นทำไมก่อน ในเมื่อมีแต่คนรอดูความฉิบหายของเธอ สู้อยู่ที่บ้านจิบไวน์เย็นๆ แล้วอ่านหนังสือนิยายรักน่าจะยังดีกว่า เมื่อฟลอยด์รู้ว่าตัวเองเป็นกังวลมากเกินไป เขาก็หลุดขำออกมา “เป็นเช่นนั้นดีแล้วครับ..ผมคิดว่าคุณจะไปที่งานนั้น..” “เพราะแบบนั้นท่านก็เลยรีบมาช่วยฉันอย่างนั้นสินะคะ ท่านดยุคนี่เป็นคนมีน้ำใจมากจริงๆ แต่ว่าไหนๆ ก็ไหนๆ ท่านก็มาที่นี่แล้ว..ช่วยอะไรฉันสักอย่างได้ไหมคะ” คนพวกนั้นรอดูเธอขายหน้านักใช่ไหม เช่นนั้นเธอจะตอกกลับให้หน้าหงายกันไปข้างหนึ่ง.. “ช่วย..จูบฉันสักครั้งได้ไหมคะ ถึงแม้ว่าท่านจะรังเกียจแต่คิดซะว่านี่คือคำขอร้องที่มาจากใจจริงๆ ของฉันได้ไหมคะ” ฟลอยด์เองก็ไม่ได้ชื่นชอบที่จะมีสตรีมาแตะต้องตัวเขา แต่ทว่าเพราะสายตาที่โรวีนามองมาที่เขานั้นมันแปลกมากกว่าคนอื่น เธอไม่ได้มองมาที่เขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ สายตาของเธอนั้นกระจ่างใสและระยิบระยับราวกับมีดวงดาวอยู่ในนั้น “ยูนีก ช่วยไปตามพอลมาหน่อยสิ” พอลเป็นชาวไร่ที่สนิทสนมกับทั้งยูนีกและเมลลี่ อีกทั้งเขายังทำงานเป็นผู้จัดการสำนักพิมพ์อีกด้วย “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะท่านเคาน์เตส” เมื่อได้รับรายงานเช่นนั้นโรวีนาก็จับมือของฟลอยด์เดินออกมาด้านนอกคฤหาสน์ “ดะ..เดี๋ยวก่อนครับ ชุดของคุณมัน..” โรวีนาเหลือบมองชุดตัวเอง เธอสวมชุดนอนที่บางไปหน่อย แต่นั่นไม่เป็นอะไรหรอก ชื่อเสียงของเธอไม่ดีอยู่แล้วการสวมชุดนอนที่ดูราวกับกำลังยั่วยวนท่านดยุคนั่นไม่ถือว่าผิดอะไร “ช่วยอุ้มฉันขึ้นไปนั่งบนโต๊ะได้ไหมคะ” เขาทำตามที่เธอบอกกล่าวอย่างว่าง่าย ฟลอยด์อุ้มโรวีนาขึ้นมานั่งบนโต๊ะน้ำชาในสวนหน้าบ้านของเธอ และในวินาทีต่อมาเธอก็ยกมือขึ้นแล้วโอบล้อมรอบคอของเขา “ขอแบบสมจริงนะคะ..เอาแบบที่สตรีทั่วทั้งจักรวรรดิอยากจะจ้างนักฆ่ามาฆ่าฉันเลยก็ได้” ดวงตาสีโทแพซของเขาจ้องมองที่ริมฝีปากสีกุหลาบของโรวีนา เขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ในขณะที่เธอค่อยๆ หลับตาลง พอรู้สึกตัวอีกทีริมฝีปากก็สัมผัสได้ถึงรสจูบของเขาแล้ว พอลทำหน้าที่ถ่ายรูปออกมาหลายรูปทีเดียว เขาต้องการรูปที่แสดงออกถึงความรักของบุรุษและสตรีที่กำลังจะแต่งงานกัน.. “ข้าถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว..ต้องบอกนายท่านทั้งสองรึเปล่า..?” ยูนีกยกนิ้วชี้ขึ้นมาทาบบนริมฝีปากเพื่อบอกให้พอลเงียบ เธอจูงมือของเขาออกไปจากตรงนี้พร้อมกับมองหน้าของท่านไมเนอร์ เพื่อให้ท่านฝั่งนั้นพาอัศวินของฮาสคลาวออกไปเช่นเดียวกัน เรากำลังให้ความส่วนตัวกับท่านดยุคและว่าที่ดัชเชสของฮาสคลาว เปลือกตาของเราปิดลงในขณะที่ริมฝีปากสัมผัสกัน แน่นอนว่าคราแรกมันช้า แต่ทว่าเมื่อเกลียวลิ้นของเราแตะสัมผัสกัน จุมพิตจึงค่อยๆ ทวีความลุ่มลึกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โพรงปากของเธอแทบหลอมละลายด้วยอุณหภูมิจากรสจูบที่เร่าร้อน ผ่านไปนานแค่ไหนเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอรู้เพียงแค่ไม่อยากให้เขาผละริมฝีปากออกไปเลย.. ถ่ายต่ออีกสักหมื่นรูปก็ได้พอล เธอจะตั้งใจทำงานหาเงินมาจ่ายค่ารูปพวกนั้นเองราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
“นี่ คุณรู้รึเปล่าว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินมากแค่ไหน ครอบครัวของเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีเท่าไหร่นัก แค่ลำพังชุดเดรสและเครื่องประดับของคุณผมจะต้องทำงานหนักมาแค่ไหนคุณรู้บ้างรึเปล่าโรวี่!!!”โรวีนามองหน้าของสามีตัวเองที่พึ่งจะพ่นคำกล่าวเช่นนั้นออกมาในทันทีที่เธอบอกกล่าวกับเขาว่าเธอตั้งครรภ์“อิไล..เราแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แม่ของคุณทวงถามถึงทายาทแห่งซารังต์ตลอดเวลา คุณออกไปข้างนอกทั้งวันจะรู้ได้ยังไงว่าฉันพบเจออะไรบ้างในบ้านหลังนี้น่ะ”อิไลเขวี้ยงแก้วสุราลงพื้นด้วยความรู้สึกโกรธ“ผม..เหนื่อย แค่หาเงินก็เหนื่อยจะแย่แล้วนี่จะต้องหาเงินเพิ่มขึ้นเพราะเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกผมรึเปล่าอีกด้วย โรวี่..เรานอนด้วยกันครั้งล่าสุดเมื่อสามเดือนที่แล้วนะ ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่ คุณจะไปแอบเล่นชู้กับบรรดาชายหนุ่มที่อยู่รอบตัวคุณรึเปล่า”ใบหน้าที่งดงามของโรวีนาแข็งค้างในทันที นี่คือการตั้งครรภ์ครั้งแรกของเธอ และเธอมั่นใจว่านี่คือลูกของอิไลอย่างแน่นอนเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอไม่ได้ไปนอนกับใครทั้งนั้น! อันที่จริงตั้งแต่แต่งงานกับเขาเธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับบุรุษคนไหนเลยเธอคือบุตรี
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเมลลี่คือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ แน่นอนว่าที่เมลลี่เติบโตไปเป็นคนร้ายกาจส่วนหนึ่งก็เพราะว่าโรวีนาที่ทำร้ายนางทั้งร่างกายและจิตใจแต่คงจะไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะว่าฉันคนนี้อยู่ที่นี่แล้วยังไงล่ะนิยายเรื่องนี้ฉันไม่ได้อ่านแค่รอบเดียวเพราะแบบนั้นนี่มันง่ายมากในเรื่องการหาเงินและการดำเนินเรื่องฉันกระชับเสื้อคลุมของตัวเองให้แน่นหนามากกว่าเดิมก่อนจะรีบเดินไปยังลานประมูลฉันไม่มีเงินสักเหรียญแต่ที่เข้ามาที่นี่ได้เพราะตราประทับของขุนนาง..โชคดีจริงๆ ที่โรวีนาไม่ได้เอามันไปจำนำหรือว่าขายเพื่อแลกกับการไปซื้อชุดเดรสสวยๆ ของนางเรื่องความสวยไม่เถียงเลยเพราะว่าโรวีนางงดงามมากจริงๆ แต่เรื่องทักษะเอาตัวรอดโรวีนามีมันน้อยไปหน่อย สมบัติของอิไลมีมากมายแต่ถูกญาติและมารดาของอิไลเอาไปจนหมด อีกทั้งอิไล..ติดการพนันอย่างหนักในช่วงหลังๆ เขาเองก็ผลาญสมบัติของตระกูลตัวเองหลงเหลือเศษเงินเอาไว้ให้โรวีนานิดหน่อยแค่นั้น“เราจะเริ่มการประมูลชิ้นแรกกันเลยนะครับ..สร้อยเพชรสีชมพู..”เมื่อเริ่มเปิดลานประมูลก็เริ่มมีผู้คนแย่งชิงกันใส่ราคา เรื่องเครื่องประดับฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
ที่เจโรมใส่ราคาประมูลแข่งอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครล่วงรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของต้นไม้ชนิดนี้..ฟลอยด์แค่นหัวเราะเมื่อเขาลอบมองใบหน้าที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมนั้น สตรีใดกันที่เจ้าเล่ห์และกล้าที่จะเล่นกับคนอย่างเจโรมกันนะชักจะน่าสนใจแล้วละสิ..“ข้าต้องการข้อมูลของสตรีผู้นั้นทั้งหมด ไปตรวจดูจากตราขุนนางที่นางใช้วางหลักประกันเอาไว้หน่อยสิ”ไมเนอร์พยักหน้าเพื่อเป็นการรับรู้ เขาเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปหาข้อมูล___“หวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะรักษาคำพูด หากว่าในคาราวานคณะละครสัตว์ของเจ้ายังมียาที่สามารถรักษาโรคกามมาขาย ..รับรองได้เลยว่าพวกเจ้าแม้แต่คนเดียว จะไม่ได้มาเหยียบที่เมืองหลวงในจักรวรรดิอีก”โรวีนาก้มหน้าลง“ด้วยเกียรติของพ่อค้า รับเงินมาแล้วย่อมไม่ผิดสัญญา”ตระกูลเวลลิงตันคือตระกูลที่ร่ำรวยมาจากกิจการโรงพยาบาลที่ขยายสาขาอำนาจอย่างรวดเร็ว หมอที่เรียนจบใหม่ล้วนแล้วแต่ได้ทุนจากโรงพยาบาลของเวลลิงตันทั้งนั้น มันคือธุรกิจที่ผูกขาดอย่างสมบูรณ์ในจักรวรรดิแห่งนี้ ส่วนคนจนที่ไม่มีเงิน แน่นอนว่าก็จะไม่ได้รับการรักษาวันนี้..ฉันทำอะไรเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่การหลอกเอาเงินก้อนใหญ่มาจ
ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเอาไว้ และฉันเองก็ยังอยากให้เมลลี่มีชีวิตในฐานะเลดี้ชนชั้นสูงต่อไปไม่ว่าอย่างไรฉันจะต้องรักษา บรรดาศักดิ์ยศท่านเคาน์ซารังต์เอาไว้ให้ได้“หากอยากแต่งงานก็จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสิคะท่านเคาน์เตส จริงอยู่ที่ชื่อเสียงของท่านไม่สู้ดีเท่าไหร่นักแต่เหล่าบุรุษพวกนั้นย่อมอยากเป็นท่านเคาน์ด้วยกันทั้งนั้น”อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่โรวีนา เธอไม่ชอบใจความงดงามที่เจิดจรัสนั้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือของเคาน์เตสซารังต์ไม่ได้เลย เธอไม่ชอบที่ท่านเคาน์เตสมีความงดงามมากกว่าเธอ แต่ก็ดันหลงใหลไปกับความงามนั้นจนน่าหงุดหงิดนี่ฉัน..มาปรึกษาเรื่องสำคัญผิดคนรึเปล่านะ ฉันมองเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรผ่านสายตาของเลดี้แรนเซล แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างโรวีนาเองก็ไม่ใช่คนดี จริงอยู่ที่ก่อนหน้าที่จะคลอดเมลลี่ โรวีนาไม่มีชู้และไม่เคยชายตามองบุรุษคนไหน แต่ทว่าหลังจากที่คลอดเมลลี่ออกมา เธอกลับลักลอบมีชู้กับบุรุษที่พึงใจ โรวีนาเป็นพวกเกลียดชังบุรุษที่หน้าตาดีเพราะว่าอิไลนั้นหล่อเหลาและนางชอบอิไลเพราะความหล่อเหลากับความอ่อนโยนของเขาในใจจึงจดจำและฝังใจถึงเรื่องนั้น
ในขณะที่โรวีนากำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่ หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังยืนมองเธอด้วยอย่างชั่งใจเขาไม่กล่าวคำใดออกมาแม้แต่ครึ่งคำแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ลมหายใจของฉันติดขัดรู้สึก..เหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมเลย นี่คืออาการในตอนที่ได้พบเจอดาราคนโปรดหรือแม้กระทั่งศิลปินที่ชื่นชอบ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำตาตัวเองมันกำลังรินไหลออกมาด้วยรึเปล่า ไม่รู้แม้กระทั่งว่าในยามนี้ฉันกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่..“สายัณห์สวัสดิ์ครับเคาน์เตสซารังต์..”คำกล่าวทักทายนั้นทำให้บรรยากาศรอบๆ ตัวของเราทั้งคู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย หากว่าฉันมองไม่ผิด ฉันคิดว่าตัวเองมองเห็นแววตารังเกียจของท่านดยุคไม่เป็นไรหรอก นี่คือเรื่องปกติเพราะวีรกรรมของโรวีนาใช่ย่อยซะที่ไหน สตรีที่นอกใจสามีแล้วหันไปคบหากับชายชู้ ทอดทิ้งและทำร้ายลูกสาวของตัวเอง..จนในยามนี้สถานการณ์ของโรวีนาคนนั้นกำลังจะไม่มีคฤหาสน์ซุกหัวนอนด้วยซ้ำไม่แปลกหรอกหากว่าเขาจะเกลียดชังเธอน่ะ“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านดยุค..”เสียงนี้อีกแล้ว ช่วงเวลาที่สตรีเบื้องหน้าของเขากล่าวคำทักทายออกมานั้นริมฝีปากของเธอจะเหมือนกับปีกนกที่กำลัง
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์..เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถามเขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย..“อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว”บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว“ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้า
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ