อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ
บอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่าง สตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ “ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..” “แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ” โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย” นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ “นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ” “นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ” พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่นอน ถึงเรื่องงานเลี้ยงในวันนี้ที่ดูเหมือนว่าเบลินดาจะจัดเทียบเท่า และในวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็มีข่าวใหญ่มากจริงๆ เพียงแค่เธออ่านพาดหัวข่าว อารีเอนก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมา “ดยุคและว่าที่ดัชเชสแสดงความรักกันที่ด้านหน้าคฤหาสน์ซารังค์อย่างเร่าร้อน ในขณะที่ทางฝ่ายภรรยาเก่าจัดงานเลี้ยงขึ้นมาเพื่อโอ้อวดความร่ำรวยของตัวเอง แต่ทางว่าที่ดัชเชสฮาสคลาวคนใหม่ไม่สนใจเลยสักนิด” ดูท่าว่าหลังจากที่เบลินดาอ่านข่าวนี้ นางคงจะกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งแน่ๆ ……………… “กรี้ด!! นี่มันอะไรกันคะ ท่านพี่ติดต่อไปหาโรงพิมพ์ที่เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์นี่เลยนะคะ น้องต้องการให้เขาออกมารับผิดชอบที่กล้าเขียนข่าวดูหมิ่นน้องเช่นนี้” บาทีอัสเดินเข้าไปหาน้องสาวก่อนที่เขาจะโอบกอดและปลอบใจเธอ เขาค่อยๆ ลูบหลังของเบลินดาเบาๆ เพื่อให้เธอสงบลง เขามีน้องสาวแค่คนเดียวเท่านั้น อีกทั้งสุขภาพของเบลินดาเองก็ไม่ค่อยดี เธอมีปัญหานิดหน่อย หากว่าเธอโกรธมากๆ เบลินดาจะมีอาการหายใจไม่ทัน และสุขภาพของเบลินดาแย่ลงมากกว่าเดิม เมื่อน้องสาวของเขาคลอดคาเรน หลายชายตัวน้อยออกมา ท่านดยุคใจร้ายกับเบลินดามากทีเดียว เพราะทันทีที่น้องสาวของเขาคลอดคาเรน ออกมา ท่านดยุคก็ยื่นหนังสือหย่าให้ในทันที “ไม่เป็นไรนะลินดา เจ้าใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ไปก่อน..” “พี่คะ..ฟลอยด์..ฟลอยด์เค้ายังไม่เคย..จูบข้าเลยสักครั้งเดียว แต่เขากลับทำสิ่งที่ไม่เคยทำกับข้าสักครั้ง..กับนังผู้หญิงชั่วช้าคนนั้น!! ข้าควรจะทำอย่างไรดี นางจะมาแย่งทั้งลูกและสามีของข้าไปนะคะพี่ พี่ต้องช่วยข้านะ” บาทีอัสหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด เรื่องของเบลินดาและท่านดยุคมันจบไปนานหลายปีแล้ว สำหรับท่านดยุคมันจบไปแล้วแต่สำหรับเบลินดาเรื่องราวความรักของนางและท่านดยุคดูเหมือนว่าจะไม่เคยจบลงเลย นางทำใจไม่ได้และนั่นคือปัญหาใหญ่มากทีเดียว “เมื่อวานนี้นังองค์หญิงมาที่งานด้วย นางตั้งใจจะมาดูว่าข้าจะทำอย่างไร..พี่คะตอนนี้นังนั่นเองก็จะต้องหัวเราะเยาะข้าอยู่แน่ๆ ฮือ!!..ข้าไม่อยากอยู่แล้วข้าอยากตาย..พี่คะ พี่จะต้องจัดการนังผู้หญิงคนนั้น..” บาทีอัสพยักหน้าเบาๆ เพื่อรับปากเบลินดาไปก่อน “ดื่มยาก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะลองหาทางจัดการนางดู” เบลินดารับถ้วยยาที่พี่ชายของเธอส่งมาให้ “พี่รับปากข้าแล้วนะคะ พี่ต้องจัดการ โรวีนา ให้ข้านะ..” เบลินดาดื่มยาจนหมดถ้วยก่อนที่นางจะโอบกอดพี่ชายแน่น ในชีวิตของนางมีเพียงแค่พี่ชายคนเดียวเท่านั้นที่หวังดีกับนางจริงๆ และท่านพี่ตามใจนางที่สุด ท่านพี่จะต้องไปจัดการโรวีนาให้นางแน่ๆ เลย ไม่นานนักเบลินดาก็หลับในอ้อมกอดของพี่ชาย บาทีอัสอุ้มน้องสาวของเขามาส่งที่เตียงนอน “นางจะหลับไปหลายวันทีเดียว อย่าไปรบกวนการนอนของนาง หากนางตื่นขึ้นมาก็หาอาหารให้นางทานปกติ..เก็บหนังสือพิมพ์ทุกฉบับให้พ้นจากมือของนาง” สาวใช้ก้มหน้าลงด้วยท่าทีหวาดกลัว คำสั่งของนายท่านนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เธอพยายามแล้วพยายามเก็บหนังสือพิมพ์ให้พ้นมือของคุณหนูแล้วแต่ทว่าไม่รู้เหมือนกันว่าใครที่มันส่งหนังสือพิมพ์มาทางจดหมายให้คุณหนู “รับทราบค่ะนายท่าน จากนี้ข้าจะระวังให้มากขึ้น” ..................... “ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้..” ไม่เกร็งได้ไงก่อน ไม่มีการบอกล่วงหน้าอะไรทั้งนั้นอยู่ๆ ท่านดยุคก็มาที่บ้านของเธอพร้อมกับบอกว่าจะพาเธอไปที่พระราชวังเพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินี “ท่านอา..ใจดีนะ พวกท่านไม่ว่าอะไรเจ้าหรอก” ก็อยากจะเชื่ออยู่เหมือนกัน แต่อย่าลืมว่าเธอคือโรวีนา ซารังต์ แม่สาวน้อยที่ชื่อเสียงหดหู่แบบสุดๆ ไม่มีท่านอาที่ไหนจะใจดีเมื่อได้พบเจอกับสตรีที่มีชื่อเสียงอื้อฉาวแบบเธอหรอก “ถวายความเคารพแด่ดวงอาทิตย์ของจักรวรรดิเพคะ หม่อมฉันมีนามว่าโรวีนา...ซา..” “ชื่อของเจ้าข้ารู้แล้ว และไม่ได้อยากจะถามซ้ำด้วย มาเถอะไหนๆ เราก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วมานั่งพูดคุยกันดีกว่า..” นั่นไง ไหนล่ะการต้อนรับที่แสนอบอุ่น แบบที่ฟลอยด์บอกกล่าว “เรามีเครื่องประดับมากมายที่จะยกให้เจ้าอยู่พอดี ช่วยตามเรามาหน่อยได้ไหม” จักรพรรดินีชาล็อตเอ่ยขึ้นก่อนที่พระนางจะส่งยิ้มให้แก่โรวีนา “เพคะ..” เธอลุกขึ้นแล้วเดินตามหลังของจักรพรรดินีไป แน่นอนว่าเธอไม่สามารถเดินข้างๆ พระนางได้ตามกฎแล้วจะต้องอยู่ให้ห่างจากพระนางสี่ฝีเท้า..แล้วฝีเท้าที่ว่านั่นมันเท้าของใครกันนะ ทำไมไม่เขียนบอกว่าอยู่ให้ห่างหนึ่งเมตรสองเมตรอะไรแบบนั้น “เจ้าจะย้ายเข้าไปที่ฮาสคลาวเมื่อไหร่กัน..อ่อ แล้วไม่ต้องเดินห่างขนาดนั้นก็ได้ ข้าไม่ได้ยินที่เจ้าพูดหรอกนะ” โรวีนาเดินเข้ามาใกล้จักรพรรดินีอีกหน่อย “อีกสามวันเพคะ” “เช่นนั้นก็ดีแล้ว..รีบๆ เข้าไปอยู่ที่นั่นเจ้าจะได้รู้จักฟลอยด์ให้ดีขึ้น” โรวีนาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสีหน้าของจักรพรรดินีให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะเท่าที่เธอฟังจากน้ำเสียงมันไม่ได้มีความยินดีปรากฏอยู่ในนั้นเลย “หม่อมฉันเองก็ตั้งใจว่าจะทำเช่นนั้นเพคะ จะทำความรู้จักท่านดยุคให้มากที่สุดเลย” จักรพรรดินีชาล็อตจ้องมองใบหน้าของโรวีนาราวกับจะอ่านให้ทะลุถึงสิ่งที่อยู่ข้างในใจของเธอ “ฟลอยด์คือหลานที่องค์จักรพรรดิทรงรักและเอ็นดูมากที่สุด พระองค์หมายมั่นว่าจะให้เขาอภิเษกกับริโอน่า..เพื่อขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากพระองค์..”ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
“นี่ คุณรู้รึเปล่าว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินมากแค่ไหน ครอบครัวของเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีเท่าไหร่นัก แค่ลำพังชุดเดรสและเครื่องประดับของคุณผมจะต้องทำงานหนักมาแค่ไหนคุณรู้บ้างรึเปล่าโรวี่!!!”โรวีนามองหน้าของสามีตัวเองที่พึ่งจะพ่นคำกล่าวเช่นนั้นออกมาในทันทีที่เธอบอกกล่าวกับเขาว่าเธอตั้งครรภ์“อิไล..เราแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แม่ของคุณทวงถามถึงทายาทแห่งซารังต์ตลอดเวลา คุณออกไปข้างนอกทั้งวันจะรู้ได้ยังไงว่าฉันพบเจออะไรบ้างในบ้านหลังนี้น่ะ”อิไลเขวี้ยงแก้วสุราลงพื้นด้วยความรู้สึกโกรธ“ผม..เหนื่อย แค่หาเงินก็เหนื่อยจะแย่แล้วนี่จะต้องหาเงินเพิ่มขึ้นเพราะเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกผมรึเปล่าอีกด้วย โรวี่..เรานอนด้วยกันครั้งล่าสุดเมื่อสามเดือนที่แล้วนะ ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่ คุณจะไปแอบเล่นชู้กับบรรดาชายหนุ่มที่อยู่รอบตัวคุณรึเปล่า”ใบหน้าที่งดงามของโรวีนาแข็งค้างในทันที นี่คือการตั้งครรภ์ครั้งแรกของเธอ และเธอมั่นใจว่านี่คือลูกของอิไลอย่างแน่นอนเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอไม่ได้ไปนอนกับใครทั้งนั้น! อันที่จริงตั้งแต่แต่งงานกับเขาเธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับบุรุษคนไหนเลยเธอคือบุตรี
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเมลลี่คือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ แน่นอนว่าที่เมลลี่เติบโตไปเป็นคนร้ายกาจส่วนหนึ่งก็เพราะว่าโรวีนาที่ทำร้ายนางทั้งร่างกายและจิตใจแต่คงจะไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะว่าฉันคนนี้อยู่ที่นี่แล้วยังไงล่ะนิยายเรื่องนี้ฉันไม่ได้อ่านแค่รอบเดียวเพราะแบบนั้นนี่มันง่ายมากในเรื่องการหาเงินและการดำเนินเรื่องฉันกระชับเสื้อคลุมของตัวเองให้แน่นหนามากกว่าเดิมก่อนจะรีบเดินไปยังลานประมูลฉันไม่มีเงินสักเหรียญแต่ที่เข้ามาที่นี่ได้เพราะตราประทับของขุนนาง..โชคดีจริงๆ ที่โรวีนาไม่ได้เอามันไปจำนำหรือว่าขายเพื่อแลกกับการไปซื้อชุดเดรสสวยๆ ของนางเรื่องความสวยไม่เถียงเลยเพราะว่าโรวีนางงดงามมากจริงๆ แต่เรื่องทักษะเอาตัวรอดโรวีนามีมันน้อยไปหน่อย สมบัติของอิไลมีมากมายแต่ถูกญาติและมารดาของอิไลเอาไปจนหมด อีกทั้งอิไล..ติดการพนันอย่างหนักในช่วงหลังๆ เขาเองก็ผลาญสมบัติของตระกูลตัวเองหลงเหลือเศษเงินเอาไว้ให้โรวีนานิดหน่อยแค่นั้น“เราจะเริ่มการประมูลชิ้นแรกกันเลยนะครับ..สร้อยเพชรสีชมพู..”เมื่อเริ่มเปิดลานประมูลก็เริ่มมีผู้คนแย่งชิงกันใส่ราคา เรื่องเครื่องประดับฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
ที่เจโรมใส่ราคาประมูลแข่งอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครล่วงรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของต้นไม้ชนิดนี้..ฟลอยด์แค่นหัวเราะเมื่อเขาลอบมองใบหน้าที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมนั้น สตรีใดกันที่เจ้าเล่ห์และกล้าที่จะเล่นกับคนอย่างเจโรมกันนะชักจะน่าสนใจแล้วละสิ..“ข้าต้องการข้อมูลของสตรีผู้นั้นทั้งหมด ไปตรวจดูจากตราขุนนางที่นางใช้วางหลักประกันเอาไว้หน่อยสิ”ไมเนอร์พยักหน้าเพื่อเป็นการรับรู้ เขาเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปหาข้อมูล___“หวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะรักษาคำพูด หากว่าในคาราวานคณะละครสัตว์ของเจ้ายังมียาที่สามารถรักษาโรคกามมาขาย ..รับรองได้เลยว่าพวกเจ้าแม้แต่คนเดียว จะไม่ได้มาเหยียบที่เมืองหลวงในจักรวรรดิอีก”โรวีนาก้มหน้าลง“ด้วยเกียรติของพ่อค้า รับเงินมาแล้วย่อมไม่ผิดสัญญา”ตระกูลเวลลิงตันคือตระกูลที่ร่ำรวยมาจากกิจการโรงพยาบาลที่ขยายสาขาอำนาจอย่างรวดเร็ว หมอที่เรียนจบใหม่ล้วนแล้วแต่ได้ทุนจากโรงพยาบาลของเวลลิงตันทั้งนั้น มันคือธุรกิจที่ผูกขาดอย่างสมบูรณ์ในจักรวรรดิแห่งนี้ ส่วนคนจนที่ไม่มีเงิน แน่นอนว่าก็จะไม่ได้รับการรักษาวันนี้..ฉันทำอะไรเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่การหลอกเอาเงินก้อนใหญ่มาจ
ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเอาไว้ และฉันเองก็ยังอยากให้เมลลี่มีชีวิตในฐานะเลดี้ชนชั้นสูงต่อไปไม่ว่าอย่างไรฉันจะต้องรักษา บรรดาศักดิ์ยศท่านเคาน์ซารังต์เอาไว้ให้ได้“หากอยากแต่งงานก็จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสิคะท่านเคาน์เตส จริงอยู่ที่ชื่อเสียงของท่านไม่สู้ดีเท่าไหร่นักแต่เหล่าบุรุษพวกนั้นย่อมอยากเป็นท่านเคาน์ด้วยกันทั้งนั้น”อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่โรวีนา เธอไม่ชอบใจความงดงามที่เจิดจรัสนั้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือของเคาน์เตสซารังต์ไม่ได้เลย เธอไม่ชอบที่ท่านเคาน์เตสมีความงดงามมากกว่าเธอ แต่ก็ดันหลงใหลไปกับความงามนั้นจนน่าหงุดหงิดนี่ฉัน..มาปรึกษาเรื่องสำคัญผิดคนรึเปล่านะ ฉันมองเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรผ่านสายตาของเลดี้แรนเซล แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างโรวีนาเองก็ไม่ใช่คนดี จริงอยู่ที่ก่อนหน้าที่จะคลอดเมลลี่ โรวีนาไม่มีชู้และไม่เคยชายตามองบุรุษคนไหน แต่ทว่าหลังจากที่คลอดเมลลี่ออกมา เธอกลับลักลอบมีชู้กับบุรุษที่พึงใจ โรวีนาเป็นพวกเกลียดชังบุรุษที่หน้าตาดีเพราะว่าอิไลนั้นหล่อเหลาและนางชอบอิไลเพราะความหล่อเหลากับความอ่อนโยนของเขาในใจจึงจดจำและฝังใจถึงเรื่องนั้น
ในขณะที่โรวีนากำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่ หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังยืนมองเธอด้วยอย่างชั่งใจเขาไม่กล่าวคำใดออกมาแม้แต่ครึ่งคำแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ลมหายใจของฉันติดขัดรู้สึก..เหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมเลย นี่คืออาการในตอนที่ได้พบเจอดาราคนโปรดหรือแม้กระทั่งศิลปินที่ชื่นชอบ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำตาตัวเองมันกำลังรินไหลออกมาด้วยรึเปล่า ไม่รู้แม้กระทั่งว่าในยามนี้ฉันกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่..“สายัณห์สวัสดิ์ครับเคาน์เตสซารังต์..”คำกล่าวทักทายนั้นทำให้บรรยากาศรอบๆ ตัวของเราทั้งคู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย หากว่าฉันมองไม่ผิด ฉันคิดว่าตัวเองมองเห็นแววตารังเกียจของท่านดยุคไม่เป็นไรหรอก นี่คือเรื่องปกติเพราะวีรกรรมของโรวีนาใช่ย่อยซะที่ไหน สตรีที่นอกใจสามีแล้วหันไปคบหากับชายชู้ ทอดทิ้งและทำร้ายลูกสาวของตัวเอง..จนในยามนี้สถานการณ์ของโรวีนาคนนั้นกำลังจะไม่มีคฤหาสน์ซุกหัวนอนด้วยซ้ำไม่แปลกหรอกหากว่าเขาจะเกลียดชังเธอน่ะ“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านดยุค..”เสียงนี้อีกแล้ว ช่วงเวลาที่สตรีเบื้องหน้าของเขากล่าวคำทักทายออกมานั้นริมฝีปากของเธอจะเหมือนกับปีกนกที่กำลัง
ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่รู้ตัวอีกทีฉันก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยงพร้อมกับท่านดยุคฮาสคลาวซะแล้ว แน่นอนว่าสายตาของเหล่าสตรีที่มองมานั้นราวกับต้องการจะแผดเผาฉันทั้งเป็นให้ได้ ก็แน่ล่ะนี่คือบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอันดับหนึ่งของจักรวรรดินะ จะไม่ให้พวกนางแค้นได้อย่างไรกัน “ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าเคาน์เตสจะควงท่านดยุคฮาสคลาวเข้ามาในงานเลี้ยง..ไม่อย่างนั้นฉันคงมาพร้อมกับท่านเคาน์เตสแล้วค่ะ” อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ฟลอยด์ “อ่า..เราไม่ได้มาด้วยกันค่ะ พอดีว่าฉันนั่งอยู่ในสวนและได้พูดคุยกับท่านดยุค ..หัวใจของฉันนั้นเต้นแรงราวกับว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก เราไม่เคยพูดคุยทำความรู้จักกันมาก่อนเพราะแบบนั้นแล้วพอได้ลองเปิดใจก็พบว่าท่านดยุคและฉันนั้นมีหลายๆ อย่างที่คล้ายคลึงกัน..ใช่ไหมคะ” ฉันหันไปมองหน้าฟลอยด์พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเพื่อให้เขาตอบรับ “..ครับ ตามที่เคาน์เคสว่ามาเลย” “...เหรอคะ ดีจังเลยนะคะ” อ้าก!! หมั่นไส้ชะมัดเลย เกิดมาสวยแล้วยังคว้าท่านดยุคที่สตรีทุกคนในจักรวรรดิหมายตาไปเป็นคู่ควงอีกงั้นเรอะ ฉันไม่ควรแนะนำให้เคาน์เตสมาที่งานนี้เลยแม้แต่น้อย ไม่ควรบอกนา
“อย่างนั้นเองสินะ ขออภัยด้วยนะครับเคาน์เตส ข้าคงจะจำคนผิด..สตรีชั่วช้าที่อาจหาญกล้าหลอกเงินข้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน เป็นข้าเองที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ..”น้ำเสียงของเขานั้นหนักแน่นพร้อมกับเน้นย้ำที่ประโยคสำคัญ แต่แน่นอนว่ารอยยิ้มแสนงดงามที่ดูเหมือนกับดอกไม้กำลังผลิบานของฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย การค่อนแคะเล็กๆ น้อยๆ นี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก“ไม่เป็นค่ะท่านเคาน์ ข้าเข้าใจว่าคนเรานั้นสามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าท่านเคาน์ถูกสตรีหลอกลวง..ให้ตายสิท่านเองก็เป็นบุรุษที่หลงใหลในความงดงามเหมือนกันอย่างนั้นสินะคะ”น้ำเสียงของโรวีนานั้นอ่อนละมุนราวกับว่ากำลังมีมือมาแตะลงบนบ่าของเจโรม และนั่นไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยพับผ่าสิ เขาอยากจะฉุดรั้งข้อมือเล็กๆ ของสตรีผู้นี้แล้วพานางไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้เพื่อหาข้อสรุปว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างที่เขาสงสัยรึเปล่า เธอคือสตรีในคืนนั้นหรือไม่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปากเล็กๆ นั่นอ้าออกมาบอกเล่าความจริง..“ข้าเหนื่อยแล้วล่ะ เห็นทีว่าข้าคงจะต้องขอตัวกลับก่อนนะเจโรม..ถึงแม้จะยังอยากเล่นสนุกอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย แต่ทว่าข้าอยา
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์..เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถามเขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย..“อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว”บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว“ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้า
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ