แววตาของโรวีนานั้นหรี่ลงเพื่อมองดูบุตรสาวของตัวเอง เธอจ้องมองอย่างลึกซึ้งเพื่อที่จะพยายามอ่านสิ่งที่อยู่ด้านในแววตาหวาดกลัวนั้น“เอาล่ะเมลลี่..ลูกมีอะไรจะบอกแม่งั้นหรือ?”หญิงชราผู้นั้นแนะนำว่าตัวเองคือแม่นมของท่านดยุค เช่นนั้นแล้วหากว่าเธอบอกกล่าวว่านางทำร้ายคาเรน ท่านแม่และท่านดยุคจะมีปัญหากันรึเปล่านะโรวีนาโอบกอดลูกสาวผู้สับสนของเธอเอาไว้แนบอก ราวกับกำลังปลอบโยนในทุกความรู้สึกที่เมลลี่กำลังเผชิญหน้า“ไม่มี..อะไรค่ะ ลูกแค่อยากจะบอกกับท่านแม่ว่าที่นี่กว้างใหญ่มากๆ และลูกชอบที่นี่”ความอ่อนไหวปรากฏขึ้นมาในสายตาของเมลลี่ ลูกของเธอนั้นสั่นไหวน้อยๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของเธอก็ตามที นั่นทำให้โรวีนารู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาแน่ๆ แต่ต่อให้เค้นถาม เมลลี่ก็ไม่น่าจะกล้าบอกเธอ“แม่คิดเอาไว้แล้วว่าลูกจะต้องชอบ หากว่าลูกมีอะไรที่ไม่สบายใจมาบอกกล่าวกับแม่ได้ทุกเวลาเลยนะ..วันนี้ให้แม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังดีหรือไม่”เรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่พบเจอมา จางหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อพบเจอรอยยิ้มของท่านแม่ นี่คือเหตุผลสินะว่าทำไมคาเรนถึงได้อดทนต่อการทำร้ายของวิเวียนเพราะว่าในชีวิตของเขานั
คำถามนั้นของเขายังคงดังก้องอยู่ในหูไม่จางหายไป มันเหมือนกับหยาดน้ำฝนที่ตกลงมาชโลมใจของเธอให้ชุ่มฉ่ำขึ้นมาสายตาของเขากวาดผ่านร่างกายของเธออย่างช้าๆ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกลืนกินด้วยความปรารถนา“หากว่าท่านต้องการ..ข้าก็ไม่ได้ติดขัดอะไร..”เธอกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อดูน่ารักและน่าเอ็นดูมาทีเดียว โรวีนากำลังแสดงท่าทีเขินอายออกมา และนั่นทำให้เขารู้สึกทำตัวไม่ถูกไปด้วย เจตนาของเขานั้นเพียงแค่จะชวนเธอไปนั่งพูดคุยกันเพิ่มเติมแต่ดูเหมือนในความหมายของคำกล่าวของเขามันจะกำกวมมากเกินไปจนทำให้โรวีนาคิดไปไกล..ทว่าในสายตาคู่นั้นของเธอกลับไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวหรือว่าท่าทีรังเกียจออกมาเลย....ในบางทีหากเขาลองตีเนียนแล้วเดินหน้าต่อไปเป็นอย่างไรกันนะ ในเมื่อเราจะเป็นคู่แต่งงานกันอยู่แล้วการทำเรื่องเช่นนี้ก็ไม่นับว่าผิดอะไรที่เขาตั้งข้อแม้มากมายในสัญญาการแต่งงานก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีสตรีที่มองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้อยู่ในบ้านเดียวกัน แต่โรวีนาไม่เคยมองเขาด้วยสายตาเช่นนั้นเลย..นั่นทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดกับสายตาของเธอ..ฟลอยด์ไม่ได้กล่าวคำใดต
เขาผละริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากที่ฉ่ำวาวของเธอ มันเผยอเล็กน้อยและนั่นคือภาพที่ทำให้ร่างกายของเขามันแข็งทื่อไปหมด ฟลอยด์เคยคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถแตะต้องสตรีได้ เขาคิดว่าตัวเองไม่ชื่นชอบการอยู่กับสตรีหรือว่าการทำเรื่องเช่นนั้น แต่กับโรวีนาไม่รู้ว่าเป็นเพราะความงดงามที่เหนือมนุษย์ของนางหรือว่าเป็นเพราะแววตาคู่นั้นกันแน่ที่ทำให้เขาไม่สามารถห้ามใจได้เลยปลายจมูกของเขาซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอ พร้อมกับลมหายใจที่ถี่กระชั้น“มากกว่านี้..ได้รึเปล่าครับ มากกว่าจุมพิต..มากกว่าการกอด..ผมทำมากกว่านั้นได้ไหม..”ทุกการสัมผัสของเขานั้นมันเหมือนกับจะแกล้งให้เธออายหรือไม่ก็จะยั่วให้คลั่ง“...ได้ไหมครับ ได้โปรด..”ความนุ่มนวลและความร้อนของผิวกายอันเปลือยเปล่าที่ได้สัมผัสกันครั้งแรก ปลุกเร้าความรู้สึกซาบซ่านขึ้นมา ทั้งเสียงกระซิบหรือว่าลิ้นที่ลากไล้ผ่านลำคอของเธอล้วนแล้วแต่กระตุ้นความต้องการอย่างร้ายกาจ“ฉันตอบตกลงตั้งแต่ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนี้แล้วนะคะ..ถึงยังไงสิ่งนี้ก็ไม่สามารถทำกับผู้อื่นได้นอกจากสามีและภรรยา เรื่องนี้ท่านบอกฉันเองนะคะ”ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่กำลังขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อไป
แก้มสีแดงระเรื่อชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากความสุขสม มือของโรวีนาสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อต้องแตะสัมผัสไปที่ชุดของฟลอยด์ เธอดึงเชือกชุดคลุมของเขาออกเบาๆ และเมื่อเชือกที่มัดหลุดร่วงออกจากกัน ก็เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เขาดูสมบูรณ์แบบสมกับที่เป็นฮาสคราวมากจริงๆ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก นิสัยใจคอและฐานะที่แสนมั่นคงเธอกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าไม่มีบุรุษคนไหนในจักรวรรดิแห่งนี้ที่สมบูรณ์แบบได้เท่าเขาอีกแล้ว ฟลอยด์คือจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร เป็นตัวละครที่เธอทั้งเทิดทูนและบูชา..เขามีนิสัยใจคอที่นุ่มลึกและใจเย็นเป็นที่สุด แววตาของเขาทำหน้าที่ราวกับเครื่องมืออ่านใจ การควบคุมสีหน้าต่อสายตาคู่นั้นจึงเป็นเรื่องที่เธอทำได้ยากเย็นพอสมควร..นิ้วมือของโรวีนาไล้ลงไปยังกางเกงที่ ฟลอยด์สวมอยู่ เธอช้อนสายตามองหน้าเขาอีกครั้งราวกับว่าจะขออนุญาตแตะต้องตรงตำแหน่งต่อไป และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือการพยักหน้าเบาๆ กับรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของเขาเมื่อกางเกงที่สวมอยู่หลุดร่วงลงไปกองที่ข้อเท้า ก็ทำให้เธอได้มองเห็นส่วนกลางหว่างขาที่ตื่นตัวเต็มที่ มันบอกเล่าความต้องการของเขาได้เป็นอย่างดีเลยว่า
โรวีนารู้สึกว่าตัวเองกำลังจมลงไปในคลื่นความสุดที่ซัดสาดเข้ามาไม่หยุดหย่อน เลือดในตัวคล้ายจะเดือดพล่านขณะที่ใบหน้ายังคงชาวาบ สมองคล้ายจะหยุดทำงานชั่วขณะ เธออยู่ในสภาพที่คิดอะไรไม่ออกนอกจากความต้องการที่จะระบายปลดเปลื้อง“ฟะ..ฟลอยด์..อื้อ!”เธอแอ่นสะโพกสู้ลิ้นสาก ขมิบรัดในระยะใกล้พานให้หว่างขาแข็งจัด เธอกำลังอยากยอมแพ้ โรวีนาหยุดโลมเลียแท่งเนื้อในปากเพราะไม่สามารถรับมือจากความวาบหวามที่กำลังก่อตัวขึ้นมาในร่างกายได้เขาพลิกร่างกายของเธอให้นอนหงายอยู่บนพื้นเตียง ฟลอยด์ใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำที่เปื้อนอยู่บนหน้า เขาในยามนี้ดูเหมือน กับฟลอยด์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เขาดูร้อนแรงและเร่าร้อนมากกว่าฟลอยด์ที่ปกติจะใจเย็นและสุขุมนุ่มลึกเธอน้ำตาคลอแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมองหน้าเขา“โรวี่..มันหยุดไม่ได้แล้ว และผมรู้ว่าคุณเองก็ต้องการมัน..ไม่ต้องกลัวไป..ผมจะไม่ทำรุนแรงหรอกนะ”เขาแยกเรียวขาของเธอออกจากกัน ก่อนจะแทรกตัวเข้ามา ฟลอยด์รูดรั้งแก่นกายในมือของตัวเองเบาๆ เขามองหน้าของโรวีนาอีกครั้งแล้วกดแทรกส่วนปลายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดให้เข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มที่เปียกชุ่มของเธอมันควรจะเข้าไปได้ง่ายๆ เพราะว่าเ
เมลลี่มองหน้ากับคาเรนเมื่อเด็กน้อยทั้งสองคนไม่เห็นท่านแม่ลงมาทานอาหารมื้อเช้าด้วยกัน“ท่านพ่อครับ..ท่านแม่ไปไหน..?”คาเรนเอ่ยถามกับท่านพ่อของเขาที่กำลังนั่งดื่มชาด้วยท่าทีอารมณ์ดี ทว่าเมื่อได้ฟังคำถามนั้นท่าทีที่สงบเยือกเย็นของฟลอยด์ก็เสียอาการในทันที“แม่ของลูกทั้งสองคน..ยังไม่ตื่นน่ะ เมื่อคืนพ่อและแม่คุยงานกันดึกไปหน่อย..”สายตาของไมเนอร์ที่มองไปทางเจ้านายของเขามันเก็บอาการเอาไว้แทบไม่อยู่ เขาอยากจะร้อง “ห้ะ” ออกมาดังๆ แต่ก็เกรงใจคุณหนูทั้งสองคนที่กำลังมองนายท่านของเขาอยู่ เมื่อคืนในตอนที่เขารู้ว่านายท่านจะใช้ห้องตรงกลาง เขาและยูนีกจัดเตรียมห้องกันแทบไม่ทัน และหลังจากนั้นเขาก็สั่งให้สาวใช้จัดเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้เพื่อให้นายท่านทั้งสองคน เพราะหวังว่าเจ้านายของพวกเขานั้นจะออกมาหลังจากที่ทั้งสองคนเสร็จธุระกันแล้ว แต่ปรากฏว่าท่านดยุคไม่ออกมาจากห้องนั้นจนถึงช่วงเช้าของอีกวัน สาวใช้สามคน เขาและยูนีกไม่ได้นอนเลยเพราะมัวแต่ยืนรอต้อนรับท่านดยุค เผื่อว่าท่าจะใช้งาน แต่ท่านกลับเดินออกมาจากห้องนั้น ก่อนจะสั่งให้ยูนีกเข้าไปพาท่านดัชเชสกลับไปนอนที่ห้อง พร้อมกับคำสั่งให้นางจัดเตรียมยาห้ามตั้งครรภ์ด้
ฉันเดินลงมาที่ชั้นสองพร้อมกับยูนีกและลียา คราแรกที่ฉันเห็นหน้าก็ยูนีกก็พบว่าสาวใช้กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอะไรสักอย่างเมื่อเห็นหน้าฉัน และรอยยิ้มของยูนีกก็ทำให้ฉันรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองมันเห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ“คุณวิเวียนกำลังสอนคุณหนูทั้งสองอยู่ค่ะ..เข้าไปด้านในไม่ได้นะคะ”เมื่อมาถึงห้องเรียนฉันก็พบว่ามีสาวใช้สองคนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องเพื่อขัดขวางไม่ให้ฉันเข้าไปด้านใน การเรียนของเด็กน้อยทั้งสองคนเป็นความลับมากขนาดที่ว่าฉันที่เป็นแม่แท้ๆไม่สามารถเข้าไปดูได้เลยงั้นเรอะ“ถอยออกไปด้วยค่ะ กล้าดีอย่างไรถึงมากล่าวคำพูดเช่นนั้นต่อหน้าของท่านดัชเชส”ยูนีกกล่าวพร้อมกับผลักสาวใช้ทั้งสองคนหนีให้พ้นทาง“ทะ..ท่านดยุคสั่งเอาไว้ค่ะ ว่าห้ามไม่ให้ใครเข้าไปทั้งนั้น! อีกทั้งท่านหญิงก็ยังไม่ได้เป็นดัชเชสเลยนี่คะ”มันควรจะจบลงง่ายๆ โดยที่สาวใช้ทั้งสองคนนี้เปิดทางเพื่อให้ฉันเข้าไปหาลูกสาวเพื่อดูการเรียนการสอนของเด็กทั้งสองคน จริงอยู่ที่วิเวียนนั้นคือแม่นมของท่านดยุค แต่แล้วยังไงล่ะ..เด็กที่อยู่ในห้องนั้นคือลูกๆ ของฉันนะโว้ย!!“เอาล่ะลียา ตอนนี้ข้าอยากจะดูให้เห็นกับตาสักหน่อยว่าเรื่องที่ว่าเจ้าสาม
โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับของตัวเองเบาๆ เธอมองดูหมอที่กำลังรักษาและทำแผลให้เด็กทั้งสองคนด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในใจรู้สึกเจ็บปวดราวกับกับเข็มแหลมทิ่มแทงในใจ มีคำถามมากมายเต็มไปหมดที่เธออยากจะเอ่ยถามทั้งเมลลี่และคาเรนแต่ฉันกำลังรอคอยให้หมอทำแผลให้เด็กทั้งสองเสร็จก่อน แล้วถึงจะพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัว เรื่องในวันนี้ท่านดยุคมี คำสั่งไม่ให้ผู้ใดแพร่งพรายออกไปเขาเองก็คงจะเจ็บปวดมากเหมือนกัน เพราะถูกคนที่ไว้ใจทำร้ายลูกชายของเขา ในตอนที่ฟลอยด์กล่าวถึงวิเวียนริมฝีปากของเขามันจะมีรอยยิ้มประดับเอาไว้เสมอ นั่นแสดงให้เห็นว่าเขารักวิเวียนมากแค่ไหน และไว้ใจนางมากถึงขนาดที่ไม่คิดสงสัยถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีข้าวของส่วนตัวของตัวเองหายไปมากมายก็ตาม เขาไล่สาวใช้ออกแทนที่จะสอบถามความเป็นจริงจากพวกนาง เพราะในใจไม่เคยคิดระแวดระวังถึงแม่นมแสนใจดีที่เลี้ยงดูเขามาในอกของเขาคงรู้สึกเหมือนถูกบดขยี้จนหัวใจแหลกเหลวไปหมด“หมอและคนอื่นๆ ออกไปจนหมดแล้วค่ะท่านดัชเชส..”ยูนีกกล่าวกับเธอเพื่อให้เธอได้เดินเข้าไปพูดคุยกับเด็กทั้งสองคน โรวีนาเดินเข้าไปอุ้มคาเรนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะจุมพิตบนหน้าผากของเด็กน้อยเ
“หนังสือมาส่งแล้วครับ..”เจ้าของร้านหนังสือรีบออกมารับหนังสือที่ถูกส่งมาในทันที นี่คือหนังสือเดินทางที่ขายดีมากๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะสั่งมาขายมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการของผู้คนได้เลยเจ้าของหนังสือคือบุรุษผู้หนึ่งที่เขียนแทนตัวเองว่าเมล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกดินแดน แล้วเขียนเรื่องเล่ามากมายพร้อมแนบรูปวาดมาในหนังสือด้วย การเขียนที่สนุกเหมือนกับได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่า และรูปวาดที่สวยงามเหมือนกับได้มองสถานที่ที่ถุกกล่าวถึงด้วยสายตาของตัวเอง มันยิ่งยกระดับให้หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น“รีบๆ ยกเข้ามาได้เลย..แล้วสั่งเพิ่มมาอีกสองร้อยเล่มนะ ชาวเมืองชอบหนังสือการเดินทางนี้มากเลย..”เด็กส่งหนังสือก้มหน้าขอบคุณ“ได้เลยครับนายท่าน..”เพียงแค่วางหนังสือพวกนั้นที่หน้าร้าน ผู้คนมากมายก็เดินทางเข้ามาจับจองหนังสือกันอย่างคับคั่งเมลลี่กำลังยืนมองหนังสือของตัวเองที่ถูกขายออกอย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสวมหมวกเพื่อปิดบังใบหน้าเธอออกเดินทางครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า มันคือการออกเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีแมทสันกับท่านตา และหลังจากนั้นเธอก็พบกับท่านลุงอาเดน พี่ชาย
“นี่มันอะไรกันอาริ?”โรวีนาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่ออารีเอนส่งบัตรเชิญมาให้เธอ มันเป็นบัตรเชิญการแต่งงานระหว่างอาริเอนและลอร์ดเวนสัน เธอไม่คิดว่ามันจะกะทันหันมากขนาดนี้ นี่ทั้งสองคนไปตกหลุมรักกันตอนนี้ก่อน“กับบางคน ที่ใช่มันจะใช่เลยโรวี่ ท่านบาทีอัสนั้นไม่เรื่องมาก ท่านเป็นคนดี ไม่นอกใจและยกเรื่องเงินทั้งหมดในเวนสันให้ฉันเป็นผู้จัดการ ท่านบอกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตสามีภรรยาของเราเอาไว้อย่างชัดเจน ท่านไม่ใช่คนขี้หึงและไม่มีเหตุผล แต่ท่านก็ห้ามไม่ให้ฉันไม่ร่วมงานเลี้ยงโดยที่ไม่มีท่านไปด้วย ท่านยินดีจะไปงานเลี้ยงทุกงานที่ฉันอยากไป และหากว่าเรามีลูกจะใช้ชื่อตระกูลเวนสันก่อน ส่วนลูกคนที่สองจะใช้ชื่อตระกูลแรนเซล โรวี่..เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่คุยเรื่องการแต่งงานชัดเจนมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าฉันหาพ่อของลูกเจอแล้วเพราะแบบนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกับเขาในทันที”โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ส่วน เบียงก้าเธอกำลังหัวเราะอยู่“เรื่องนั้นก็สมกับที่เป็นอารินะคะ ขอให้อาริมีความสุขมากๆ กับการแต่งงานในครั้งนี้”เบียงก้าหย่ากับบารอนลัคเน่แล้ว ตอนนี้นางคือมาดามเจ้าของร้านตัดเสื้อเท่านั้น ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือว่าบ
ฟลอยด์กุมมือของโรวีนาเอาไว้ เขามองท่านพ่อตาที่กำลังอุ้มลูกสาวของเราอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน..“มีใครจะขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ของข้าอีกรึเปล่า หากมีก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อให้ทุกคนได้ยินหลังจากที่ทหารของพระราชคุมตัวของอิไลออกไปแล้วเจโรมมองฟลอยด์และโรวีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะถูกฟลอยด์อ่านแผนการออกจนหมด นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ฟลอยด์จะงัดหลักฐานการหย่าและหลักฐานการจดทะเบียนสมรสของเขาออกมา เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีขัดขวางไม่ได้จริงๆ สินะ งานแต่งในครั้งนี้ เขาไม่สามารถดึงรั้งสตรีผู้นั้นมาอยู่ข้างกายได้เลยจริงๆ ..เขาแพ้แบบไม่เป็นท่าเลย พ่ายแพ้แบบที่ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้โรวีนาแม้แต่นิดเดียว คู่แข่งของเขานั้นน่ากลัวมากจริงๆ“ท่านเคาน์เวลลิงตันครับ นี่เป็นเช็คเงินสดที่ท่านดยุคฝากมาให้พร้อมกับจดหมายครับ”ไมเนอร์เดินเข้าไปส่งมอบของที่ท่าน ดยุคสั่งให้เขาจัดเตรียมเอาไว้ ให้แก่ท่านเคาน์เวลลิงตันเจโรมเปิดจดหมายออกก็พบว่าในจดหม
คาดินันกระแอมออกมาเบาๆ เพราะว่าในยามนี้ท่านดยุคและท่านดัชเชสกำลังแสดงความรักที่มากมายต่อกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างลำบากโรวีนาละริมฝีปากออกจากกลีบปากของฟลอยด์ด้วยความนึกเสียดาย เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะกอบกุมมือกันแน่น“พิธีสาบานของคู่บ่าวสาวทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วครับ มีใครจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้รึเปล่า? ..”นั่นคือสิ่งที่ฟลอยด์กังวล เขาปรายสายตามองไปที่ยังที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ราวกับกำลังรอคอยบางอย่างอยู่“ข้าขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ครับ!!..”เจโรมแสยะยิ้มออกมาเมื่ออิไลแสดงตัวในการคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ แน่นอนว่าฟลอยด์ไม่ได้คิดยินยอมให้อิไลเข้ามาในงานนี้โดยง่าย รอบๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยทหารของฮาวคลาวที่กำลังเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบแขกที่เข้ามา หากว่าเขาไม่ให้อิไลปลอมตัวมาก็คงไม่มีทางเข้าในนี้ได้อย่างแน่นอนและเมื่ออิไลซึ่งเป็นสามีเก่าของโรวีนาแสดงตัวออกมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นในทันทีท่านดยุคแมทสันจับดาบที่เอว เขาตั้งใจว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการ อิไลให้สาสมกับที่ไอ้คนสารเลวนั่นทำให้ลูกสาวของเขาเจ็บปวด แต่ทว่าไมเนอร์จับมื
ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ในห้องแต่งตัวภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งหรูหราและคุ้นตาเอาซะเลย สาวใช้จากพระราชวังสามารถทำงานของพวกนางได้อย่างคล่องแคล่วจนน่าตกใจ ในเวลาไม่นานการแต่งกายที่แสนยากลำบากก็เสร็จสิ้นลง มีชุดที่ต้องสวมทับหลายชั้นมากๆ ชุดแต่งงานของดัชเชสนั้นยุ่งยากมาทีเดียว จะต้องสวมกระโปรงที่มีโครงด้านในเพื่อให้กระโปรงบานออกและเป็นรูปทรงที่สวยงาม อีกทั้งยังต้องสวมใส่คลอเซ็ตเพื่อรัดเอวที่เล็กอยู่แล้วในคอดกิ่วยิ่งกว่าเดิม และยังมีการดันทรงชุดชั้นในเพื่อให้เนินอกโผล่พ้นออกมานอกชุดเล็กน้อย แต่การพยายามอย่างหนักของสาวใช้ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่า ภาพที่สะท้อนในกระจกดูเหมือนกับเทพธิดาที่งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง จากเดิมที่โรวีนานั้นงดงามมากๆ อยู่แล้ว แต่ในยามนี้ดูท่าว่าผู้ที่พบเห็นใบหน้านี้ของเธอจะต้องจดจำความงดงามนี้ไปตลอดแน่ๆ“เสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะโรวี่..”ท่านพ่อของเธออยู่ในชุดดยุคเต็มยศ ท่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี..“ลูกงดงามมากจริงๆ ให้ตายเถอะ..ลูกเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย”นางฟ้าตัวน้อยงั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอโตมากพอที่จะมีลูกและมีสามีแล้วแต่
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นกังวลนะครับคุณหนู แค่ท่านยิ้มออกมา แล้วโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินเท่านั้นเอง..ท่านดัชเชสจะต้องดีใจมากๆ ที่คุณหนูเป็นผู้โปรยดอกไม้ตามทางเดินของท่าน”โลแวนกำลังให้กำลังใจคาเรนที่แสดงท่าทีประหม่า เขารู้มาว่าคุณหนูตัวน้อยไม่เคยออกงานหรือว่าอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นจึงหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นและประหม่าของเด็กชายอายุห้าขวบไม่ได้“...ท่านแม่..จะดีใจมากๆ เลยใช่ไหมโลแวน หากท่านแม่เห็นข้ากำลังโปรยดอกไม้”โลแวนพยักหน้า“เพราะว่าคุณหนู..คือแก้วตาดวงใจของท่านดัชเชสไงครับ วันนี้คือวันที่ท่านดยุคและท่านดัชเชสแต่งงานกัน วันที่ทั้งสองท่านจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์..”คราแรกที่ท่านดัชเชสบอกกับเขาว่างานของเขามันคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามตรงว่าโลแวนกังวลมากๆ เพราะเขากับเด็กไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เขาเติบโตมาในเส้นทางที่เปียกปอนไปด้วยเลือด ต้องต่อสู้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจต่อไป..แล้วเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไงกันแต่เมื่อเขาได้พบเจอคุณหนูทั้งสอง มันเหมือนกับว่าโลแวนได้พบเจอนางฟ้าและเทพบุต
“ดูเหมือนว่าท่านดัชเชสจะเข้าใจเบลินดาเป็นอย่างดีเลยนะครับ..อันที่จริงผมเองก็คิดมาสักพักแล้วเรื่องการมีภรรยาและการสร้างครอบครัว พรุ่งนี้ผมมีนัดกับเลดี้แรน เชล ..ตามมารยาทแล้วผมควรจะมีของติดไม้ติดมือไปในครั้งแรกที่เรานัดกันใช่ไหมครับ ท่านดัชเชสพอจะรู้ไหมว่าเลดี้แรนเชลชอบหรือว่าไม่ชอบอะไร”มีนัดกับอารีเอนงั้นเหรอ? เธอไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่าอารีเอนสนใจท่านลอร์ด..แต่ความดีของเขาอาจจะทำให้ชีวิตที่แสนวุ่นวายของอารีเอนสงบลงก็ได้นะ ก็นับว่านี่คือคู่ที่เหมาะสมกันมากทีเดียว“ช่อดอกไม้สักช่อก็พอแล้วค่ะ อาริไม่ต้องการของขวัญหรือว่าของมีค่าอะไรหรอก..แค่ท่านไปตามนัดกับนาง นางก็น่าจะดีใจแล้ว”ความไม่มั่นใจของบาทีอัสนั้นจางหายไปนิดหน่อย ตัวเขานั้นไม่เคยคิดถึงเรื่องความรัก จนท่านดัชเชสกล่าวถึงเจตนาที่แท้จริงของเบลินดา นั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองอาจจะใส่ใจน้องสาวมากเกินไป จนทำให้นางรู้สึกผิดกับความหวังดีของเขาก็เป็นได้..“กำลัง..คุยอะไรกันอยู่ครับ?”ฟลอยด์ไม่ค่อยชอบใจที่เขาเห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของลอร์ดเวนสันในยามที่หมอนี่มองหน้าของโรวีนาเลย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเป็นพวกขี้หึงจนไม่สนใจส
“ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ..”ฉันกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้ท่านลอร์ดบาทีอัส ฟลอยด์บอกกับฉันว่าเขาอยากจะลองต่อสู้กับความกลัวของตัวเองดู เพราะแบบนั้นเขาจึงขอเข้าไปพูดคุยกับ เบลินดาตามลำพัง ฉันก็เลยมานั่งรอที่ด้านนอกกับท่านลอร์ดบาทีอัส“ผมเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ เบลินดาขอย้ายไปอยู่ที่บ้านพักของตระกูลเวนสันในแกรนด์ดัชชีทางเหนือ ที่นั่นอากาศบริสุทธิ์มากกว่าที่เมืองหลวง อีกทั้งยังเงียบสงบมากกว่า..บอกตามตรงว่าผมเองก็อดใจหายไม่ได้เลยครับ เราสองคนพี่น้องอยู่ด้วยกันมาตลอด แต่อีกไม่นานเราต้องแยกจากกันแล้ว..มันอดใจหายไม่ได้เลย”โรวีนาส่งยิ้มให้กับลอร์ดบาทีอัส“ฉันเข้าใจเลดี้เบลินดานะคะ เธอคงคิดว่าเธออยากให้พี่ชายที่แสนดีของเธอได้มีชีวิตของตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาท่านทุ่มเทดูแลน้องสาวเพียงอย่างเดียวเลยนี่คะ มันคงถึงเวลาที่ท่านจะหาภรรยาของตัวเองได้สักทีแล้ว ช่วยเข้าใจความหวังดีขอเลดี้เบลินดาด้วยเถอะนะคะ”บาทีอัสมองหน้าของโรวีนาด้วยใบหน้าที่เขินอายเล็กน้อย เขาไม่ได้เขินที่อีกฝ่ายคือสาวงามที่สุดในจักรวรรดิ แต่เขาเขินที่เธอสามารถมองเห็นเจตนาของเบลินดาได้ และเขาเองก็ไม่เคยคิดถึงเ
หลังจากที่เดินขึ้นรถม้าแล้ว ยังไม่ทันที่ฉันจะได้นั่งลงในอีกฝั่งของรถม้า ฟลอยด์ก็เป็นฝ่ายดึงฉันให้นั่งลงบนตักของเขา มือของเขาโอบกอดร่างกายของฉันเอาไว้ในขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ตามถนนหนทางโรวีนาเงียบไปพักหนึ่ง ในยามนี้มีเพียงเสียงหัวใจของใครสักคนดังก้องขึ้นมาเขาซบใบหน้าลงบนไหล่ของเธอเบาๆ ราวกับว่าไหล่เล็กๆของเธอนั้นคือที่พึ่งเพียงสุดท้ายของเขาอย่างน้อยที่สุดในวันนี้ก็มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น นั่นก็คือจักรพรรดินีรับปากเขาว่าจะไม่ให้ริโอนามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก เขาวางใจได้ในระดับหนึ่งว่าชีวิตของเขามันไม่ต้องไปพัวพันกับเรื่องที่เขาไม่อยากให้เกิดอีกแล้ว“..จักรพรรดินีรับปากแล้วว่าจะไม่ให้องค์หญิงมารบกวนท่านอีก เช่นนั้นแล้ว..การแต่งงานของเราก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วอย่างนั้นสินะคะ.."เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและไม่มั่นคง โรวีนาไม่ได้อยากทำลายบรรยากาศดีๆ ระหว่างเราเลย แต่ทุกคนย่อมต้องยอมรับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อหน้าที่ของเธอจบลงแล้ว เธอไม่จำเป็นจะต้องทำให้เขาเดือดร้อนไปกับเธอด้วย ท่านพ่อเดินทางมาแล้ว เธอไม่ต้องรอคอยบรรดาศักดิ์ของซารังต์อีกต่อไป เมลลี่ก็จะสามารถเป