“จะจัดแต่งงานแล้วงั้นเหรอ? ให้ตายสิท่านดยุคนี่ทำงานรวดเร็วจนน่าหงุดหงิดมากจริงๆ”เจโรมกล่าวออกมาพร้อมกับเดินขึ้นรถม้า เขากำลังเดินทางมุ่งหน้าไปที่ลานประลองทาส ในช่วงเวลาที่มีเรื่องราวไม่สบายใจ การที่เขาเดินทางไปที่นั่นมันช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้น“ไม่ขัดขวางอย่างนั้นหรือครับท่านเคาน์”ข้ารับใช้เอ่ยถามเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่คุ้นเคย“ไม่ต้องรอให้ถึงมือของข้าหรอก ข้าเชื่อว่าหลังจากที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ถูกวางขายจะต้องมีคนนั่งไม่ติดพื้นหลายคนเลยล่ะ ทั้งองค์หญิง ริโอนาและ..เลดี้เบลินดา โรวีนาจะต้องย่อยยับอย่างแน่นอน นางจะแหลกสลายก่อนถึงมือข้าด้วยซ้ำ”เขากำลังรอคอยการรับชมละครสนุกๆ อยู่เลยว่าทางองค์หญิงจะทรมานโรวีนาแบบไหนดี ยัยองค์หญิงคนนั้นจะงัดแผนการแบบไหนมาต่อสู้กันนะเขาแทบจะรอดูไม่ไหวเลยล่ะ เพราะว่ามันจะต้องสนุกมากแน่ๆ“สวัสดีครับท่านเคาน์..”เสียงทักทายนั้นคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเพราะว่านี่คือบาทีอัสพี่ชายของเลดี้เบลินดายังไงล่ะ ที่ลานประลองเต็มไปด้วยขุนนางมากมายที่มาใช้ช่วงเวลานี้เพื่อปลดปล่อยความตึงเครียดจากการทำงาน“สวัสดีครับลอร์ดเวนสัน ไม่ได้พบกันนานเลย”เขารู้ดีว่าท่านลอร์ดไม่ค่อยออ
“จากนี้ไปเจ้าทั้งสองคนจะต้องไปอยู่กับท่านหญิงผู้นี้นะ”พ่อค้าทาสบอกกล่าวแก่โลแวนและลียา มันน่าตกใจมากๆ ที่ทั้งสองคนดันเป็นพี่น้องกันลียาคุกเข่าลงเบื้องหน้าของโรวีนา“ข้าให้คำมั่นสัญญาเลยค่ะนายหญิงว่าข้าจะดูแลรับใช้นายหญิงให้ดี ท่านช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ ข้ายินดีรับใช้ท่านด้วยชีวิตเลย”โรวีนาส่งยิ้มให้กับลียา“ข้าไม่ใช่เจ้านายของเจ้าหรอก เจ้านายของเจ้ามีชื่อว่าเมลลี่..นางเป็นลูกสาวของข้าเอง ช่วยดูแลนางให้ดีดังที่เจ้าให้คำมั่นเอาไว้กับข้าด้วยนะ”ลียาพยักหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา“ขอบคุณนายหญิงที่ช่วยเหลือน้องสาวของข้านะครับ ข้าเองก็ขอสาบานว่าจะภักดีต่อท่าน..จนกว่าชีวิตของข้าจะจบลง..”ยังไม่ทันที่โลแวนจะได้กล่าวจบฟลอยด์ก็ฉุดรั้งโรวีนาให้เดินถอยหลังออกมาเล็กน้อย“หน่วยก้านดีนี่ ชอบการต่อสู้ใช่ไหม..ก่อนที่จะมารับใช้ดัชเชสเจ้าจะต้องถูกฝึกก่อน ไมเนอร์พาโลแวนไปที่ค่ายทหารของฮาสคลาว .ฝึกให้ฝีมือของเขาอยู่ในระดับดีเยี่ยม หลังจากนั้นค่อยส่งเขามาเป็นอัศวินประจำตัวของดัชเชส”ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่ในตอนนี้เธอไม่มีอาการเหงื่อออกและตัวสั่นตอนที่อยู่ข้างๆ ฟลอยด์แล้ว เหมือนกับว่าเธอสามารถจั
แววตาของโรวีนานั้นหรี่ลงเพื่อมองดูบุตรสาวของตัวเอง เธอจ้องมองอย่างลึกซึ้งเพื่อที่จะพยายามอ่านสิ่งที่อยู่ด้านในแววตาหวาดกลัวนั้น“เอาล่ะเมลลี่..ลูกมีอะไรจะบอกแม่งั้นหรือ?”หญิงชราผู้นั้นแนะนำว่าตัวเองคือแม่นมของท่านดยุค เช่นนั้นแล้วหากว่าเธอบอกกล่าวว่านางทำร้ายคาเรน ท่านแม่และท่านดยุคจะมีปัญหากันรึเปล่านะโรวีนาโอบกอดลูกสาวผู้สับสนของเธอเอาไว้แนบอก ราวกับกำลังปลอบโยนในทุกความรู้สึกที่เมลลี่กำลังเผชิญหน้า“ไม่มี..อะไรค่ะ ลูกแค่อยากจะบอกกับท่านแม่ว่าที่นี่กว้างใหญ่มากๆ และลูกชอบที่นี่”ความอ่อนไหวปรากฏขึ้นมาในสายตาของเมลลี่ ลูกของเธอนั้นสั่นไหวน้อยๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในอ้อมกอดของเธอก็ตามที นั่นทำให้โรวีนารู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาแน่ๆ แต่ต่อให้เค้นถาม เมลลี่ก็ไม่น่าจะกล้าบอกเธอ“แม่คิดเอาไว้แล้วว่าลูกจะต้องชอบ หากว่าลูกมีอะไรที่ไม่สบายใจมาบอกกล่าวกับแม่ได้ทุกเวลาเลยนะ..วันนี้ให้แม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังดีหรือไม่”เรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่พบเจอมา จางหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อพบเจอรอยยิ้มของท่านแม่ นี่คือเหตุผลสินะว่าทำไมคาเรนถึงได้อดทนต่อการทำร้ายของวิเวียนเพราะว่าในชีวิตของเขานั
คำถามนั้นของเขายังคงดังก้องอยู่ในหูไม่จางหายไป มันเหมือนกับหยาดน้ำฝนที่ตกลงมาชโลมใจของเธอให้ชุ่มฉ่ำขึ้นมาสายตาของเขากวาดผ่านร่างกายของเธออย่างช้าๆ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกลืนกินด้วยความปรารถนา“หากว่าท่านต้องการ..ข้าก็ไม่ได้ติดขัดอะไร..”เธอกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อดูน่ารักและน่าเอ็นดูมาทีเดียว โรวีนากำลังแสดงท่าทีเขินอายออกมา และนั่นทำให้เขารู้สึกทำตัวไม่ถูกไปด้วย เจตนาของเขานั้นเพียงแค่จะชวนเธอไปนั่งพูดคุยกันเพิ่มเติมแต่ดูเหมือนในความหมายของคำกล่าวของเขามันจะกำกวมมากเกินไปจนทำให้โรวีนาคิดไปไกล..ทว่าในสายตาคู่นั้นของเธอกลับไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวหรือว่าท่าทีรังเกียจออกมาเลย....ในบางทีหากเขาลองตีเนียนแล้วเดินหน้าต่อไปเป็นอย่างไรกันนะ ในเมื่อเราจะเป็นคู่แต่งงานกันอยู่แล้วการทำเรื่องเช่นนี้ก็ไม่นับว่าผิดอะไรที่เขาตั้งข้อแม้มากมายในสัญญาการแต่งงานก็เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีสตรีที่มองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความคลั่งไคล้อยู่ในบ้านเดียวกัน แต่โรวีนาไม่เคยมองเขาด้วยสายตาเช่นนั้นเลย..นั่นทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดกับสายตาของเธอ..ฟลอยด์ไม่ได้กล่าวคำใดต
เขาผละริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากที่ฉ่ำวาวของเธอ มันเผยอเล็กน้อยและนั่นคือภาพที่ทำให้ร่างกายของเขามันแข็งทื่อไปหมด ฟลอยด์เคยคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถแตะต้องสตรีได้ เขาคิดว่าตัวเองไม่ชื่นชอบการอยู่กับสตรีหรือว่าการทำเรื่องเช่นนั้น แต่กับโรวีนาไม่รู้ว่าเป็นเพราะความงดงามที่เหนือมนุษย์ของนางหรือว่าเป็นเพราะแววตาคู่นั้นกันแน่ที่ทำให้เขาไม่สามารถห้ามใจได้เลยปลายจมูกของเขาซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอ พร้อมกับลมหายใจที่ถี่กระชั้น“มากกว่านี้..ได้รึเปล่าครับ มากกว่าจุมพิต..มากกว่าการกอด..ผมทำมากกว่านั้นได้ไหม..”ทุกการสัมผัสของเขานั้นมันเหมือนกับจะแกล้งให้เธออายหรือไม่ก็จะยั่วให้คลั่ง“...ได้ไหมครับ ได้โปรด..”ความนุ่มนวลและความร้อนของผิวกายอันเปลือยเปล่าที่ได้สัมผัสกันครั้งแรก ปลุกเร้าความรู้สึกซาบซ่านขึ้นมา ทั้งเสียงกระซิบหรือว่าลิ้นที่ลากไล้ผ่านลำคอของเธอล้วนแล้วแต่กระตุ้นความต้องการอย่างร้ายกาจ“ฉันตอบตกลงตั้งแต่ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนี้แล้วนะคะ..ถึงยังไงสิ่งนี้ก็ไม่สามารถทำกับผู้อื่นได้นอกจากสามีและภรรยา เรื่องนี้ท่านบอกฉันเองนะคะ”ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่กำลังขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อไป
แก้มสีแดงระเรื่อชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากความสุขสม มือของโรวีนาสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อต้องแตะสัมผัสไปที่ชุดของฟลอยด์ เธอดึงเชือกชุดคลุมของเขาออกเบาๆ และเมื่อเชือกที่มัดหลุดร่วงออกจากกัน ก็เผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม เขาดูสมบูรณ์แบบสมกับที่เป็นฮาสคราวมากจริงๆ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก นิสัยใจคอและฐานะที่แสนมั่นคงเธอกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าไม่มีบุรุษคนไหนในจักรวรรดิแห่งนี้ที่สมบูรณ์แบบได้เท่าเขาอีกแล้ว ฟลอยด์คือจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร เป็นตัวละครที่เธอทั้งเทิดทูนและบูชา..เขามีนิสัยใจคอที่นุ่มลึกและใจเย็นเป็นที่สุด แววตาของเขาทำหน้าที่ราวกับเครื่องมืออ่านใจ การควบคุมสีหน้าต่อสายตาคู่นั้นจึงเป็นเรื่องที่เธอทำได้ยากเย็นพอสมควร..นิ้วมือของโรวีนาไล้ลงไปยังกางเกงที่ ฟลอยด์สวมอยู่ เธอช้อนสายตามองหน้าเขาอีกครั้งราวกับว่าจะขออนุญาตแตะต้องตรงตำแหน่งต่อไป และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือการพยักหน้าเบาๆ กับรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของเขาเมื่อกางเกงที่สวมอยู่หลุดร่วงลงไปกองที่ข้อเท้า ก็ทำให้เธอได้มองเห็นส่วนกลางหว่างขาที่ตื่นตัวเต็มที่ มันบอกเล่าความต้องการของเขาได้เป็นอย่างดีเลยว่า
โรวีนารู้สึกว่าตัวเองกำลังจมลงไปในคลื่นความสุดที่ซัดสาดเข้ามาไม่หยุดหย่อน เลือดในตัวคล้ายจะเดือดพล่านขณะที่ใบหน้ายังคงชาวาบ สมองคล้ายจะหยุดทำงานชั่วขณะ เธออยู่ในสภาพที่คิดอะไรไม่ออกนอกจากความต้องการที่จะระบายปลดเปลื้อง“ฟะ..ฟลอยด์..อื้อ!”เธอแอ่นสะโพกสู้ลิ้นสาก ขมิบรัดในระยะใกล้พานให้หว่างขาแข็งจัด เธอกำลังอยากยอมแพ้ โรวีนาหยุดโลมเลียแท่งเนื้อในปากเพราะไม่สามารถรับมือจากความวาบหวามที่กำลังก่อตัวขึ้นมาในร่างกายได้เขาพลิกร่างกายของเธอให้นอนหงายอยู่บนพื้นเตียง ฟลอยด์ใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำที่เปื้อนอยู่บนหน้า เขาในยามนี้ดูเหมือน กับฟลอยด์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย เขาดูร้อนแรงและเร่าร้อนมากกว่าฟลอยด์ที่ปกติจะใจเย็นและสุขุมนุ่มลึกเธอน้ำตาคลอแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมองหน้าเขา“โรวี่..มันหยุดไม่ได้แล้ว และผมรู้ว่าคุณเองก็ต้องการมัน..ไม่ต้องกลัวไป..ผมจะไม่ทำรุนแรงหรอกนะ”เขาแยกเรียวขาของเธอออกจากกัน ก่อนจะแทรกตัวเข้ามา ฟลอยด์รูดรั้งแก่นกายในมือของตัวเองเบาๆ เขามองหน้าของโรวีนาอีกครั้งแล้วกดแทรกส่วนปลายที่มีขนาดใหญ่ที่สุดให้เข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มที่เปียกชุ่มของเธอมันควรจะเข้าไปได้ง่ายๆ เพราะว่าเ
เมลลี่มองหน้ากับคาเรนเมื่อเด็กน้อยทั้งสองคนไม่เห็นท่านแม่ลงมาทานอาหารมื้อเช้าด้วยกัน“ท่านพ่อครับ..ท่านแม่ไปไหน..?”คาเรนเอ่ยถามกับท่านพ่อของเขาที่กำลังนั่งดื่มชาด้วยท่าทีอารมณ์ดี ทว่าเมื่อได้ฟังคำถามนั้นท่าทีที่สงบเยือกเย็นของฟลอยด์ก็เสียอาการในทันที“แม่ของลูกทั้งสองคน..ยังไม่ตื่นน่ะ เมื่อคืนพ่อและแม่คุยงานกันดึกไปหน่อย..”สายตาของไมเนอร์ที่มองไปทางเจ้านายของเขามันเก็บอาการเอาไว้แทบไม่อยู่ เขาอยากจะร้อง “ห้ะ” ออกมาดังๆ แต่ก็เกรงใจคุณหนูทั้งสองคนที่กำลังมองนายท่านของเขาอยู่ เมื่อคืนในตอนที่เขารู้ว่านายท่านจะใช้ห้องตรงกลาง เขาและยูนีกจัดเตรียมห้องกันแทบไม่ทัน และหลังจากนั้นเขาก็สั่งให้สาวใช้จัดเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้เพื่อให้นายท่านทั้งสองคน เพราะหวังว่าเจ้านายของพวกเขานั้นจะออกมาหลังจากที่ทั้งสองคนเสร็จธุระกันแล้ว แต่ปรากฏว่าท่านดยุคไม่ออกมาจากห้องนั้นจนถึงช่วงเช้าของอีกวัน สาวใช้สามคน เขาและยูนีกไม่ได้นอนเลยเพราะมัวแต่ยืนรอต้อนรับท่านดยุค เผื่อว่าท่าจะใช้งาน แต่ท่านกลับเดินออกมาจากห้องนั้น ก่อนจะสั่งให้ยูนีกเข้าไปพาท่านดัชเชสกลับไปนอนที่ห้อง พร้อมกับคำสั่งให้นางจัดเตรียมยาห้ามตั้งครรภ์ด้
ดวงตาของริโอน่าสั่นไหวพอๆ กับมือทั้งสองข้างที่สั่นเทาไม่หยุด เธอยืนอยู่ที่ด้านหน้าห้องทำงานของเสด็จพ่อ ทั้งคู่มีปากเสียงที่รุนแรงมากเสียจนเธอที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินชัดเจนทั้งหมดเสด็จแม่กำลังจะหย่ากับเสด็จพ่ออย่างนั้นหรือ? ต้นเหตุมาจากเธอเนี่ยนะ?ขณะที่ใบหน้าของริโอนากำลังชา ประตูห้องทำงานของเสด็จพ่อก็เปิดออก เสด็จแม่เดินออกมาและสายพระเนตรของพระองค์กำลังจ้องมองหน้าเธออยู่“ได้ยินหมดแล้วอย่างนั้นสินะ หากว่าครั้งนี้ลูกไม่ยินยอมรามือ แม่จะออกไปจากที่นี่จริงๆ นะริโอนา ฟลอยด์ควรจะมีชีวิตดีๆ ได้แล้ว ที่ผ่านมาลูกยังทรมานเขาไม่พอรึไง?”เธออ้าปากค้างก่อนจะหัวเราะออกมา“ลูกนั้นหรือทรมานท่านพี่ฟลอยด์ ลูกทำไปเพราะความรักนะเพคะเสด็จแม่ หากไม่ให้ลูกรักท่านพี่ เช่นนั้นเสด็จแม่ควรจะเอ่ยห้ามตั้งแต่แรกสิ ทรงทำท่าทางเห็นดีเห็นงามด้วยทำไม ในตอนที่เสด็จพ่อเลือกฟลอยด์มาเป็นสามีของลูกน่ะ..”จักรพรรดินีชาล็อตแค่นหัวเราะ“เช่นนั้นแม่จะทำให้ลูกรู้สึกถึง..ความรักที่แม่มีต่อลูกบ้างดีไหมริโอนา แม่จะส่งอัศวินของพระราชวังเข้าไปในห้องนอนของลูก ให้เขาหยิบจับและพยายามขโมยข้าวของส่วนตัวขององค์หญิงไปขายที่งานประมูล หลัง
“เจ้าควรจะต้องขอบคุณที่ข้าหาเจ้าเจอก่อนคนของฮาสคลาวนะ..เอาล่ะเคาน์ซารังต์ เรามาพูดคุยกันสักหน่อยเป็นไง”อิไลไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเคาน์เวลลิงตันต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขากำลังนั่งรถม้าเพื่อเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงแต่กลับถูกชายผู้นี้จับตัวมาอย่างเสียมารยาท“ที่ท่านจับตัวข้าและภรรยามา เพราะว่าท่านต้องการพูดคุยกับข้าอย่างนั้นหรือครับ? อันที่จริงท่านควรจะส่งบัตรเชิญไปให้ข้าน่าจะดีกว่าการกระทำที่ไร้มารยาทเช่นนี้”เจโรมหรี่ตามองหน้าของอิไล เขาไม่ชอบพูดคุยกับคนโง่เท่าไหร่นักเพราะว่ามันเปลืองเวลา แต่ทว่าอิไลนั้นอาจจะสามารถเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่เขาจะสามารถนำไปวางเอาไว้ที่ด้านหน้าคฤหาสน์ฮาสคลาวได้“เจ้าจะตายอิไล..ตอนนี้ทั้งทหารของ ฮาสคลาวและทหารของแมทสันกำลังไล่ล่าตัวเจ้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่พวกเขาจะฆ่าเจ้าปิดปาก..เจ้าจะไม่มีปากได้พูดอวดดีเช่นนี้อีกเลยด้วยซ้ำ หากว่าข้าไม่พาเจ้ามาที่นี่..ไม่ต้องขอบคุณก็ได้แค่เค้นความฉลาดของเจ้าออกมาหน่อย เพราะเรื่องที่ข้าจะพูดออกมานี้มันจำเป็นต้องใช้สมองนิดหน่อย..”อิไลถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินที่เจโรมกล่าว หมายความว่าท่าน ดยุคแมทสันรู้แล้วสินะว่าเขาเป็นคนเอาเงิ
บางสิ่งในอกรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ค่อยๆแผ่ซ่าน ฉันมองแผ่นหลังของเขาในขณะที่ฟลอยด์กำลังกอบกุมมือของฉันเอาไว้เพื่อพาฉันเดินกลับเข้าไปในงาน เขาไม่พูดอะไรแต่ท่าทีที่เขาแสดงออกมานั้นมันเหมือนกับว่าเขาไม่พอใจที่ฉันอยู่กับท่านลอร์ดแห่งเวนสันหรือว่าฟลอยด์จะหึงงั้นเหรอ? ไหนบอกว่าเราไม่ควรรักกันยังไงล่ะ แล้วทำไมเขาถึงได้แสดงท่าทีที่ไม่ปกติเช่นนี้ออกมากันนะ หรือว่าเพราะเราอยู่ในฐานะของสามี ภรรยา เขาจึงต้องการความสมจริงอย่างงั้นเหรอ?“อย่าออกไป..คุยกับบุรุษอื่นโดยที่ไม่มีผมอยู่ตรงนั้นอีกนะครับ..ผมไม่ใช่คนใจกว้างอะไร อีกทั้งอาจจะมีข่าวลือแปลกๆ เกิดขึ้นมาก็ได้..ชื่อเสียงของฮาสคลาวมันคือสิ่งที่คุณเองควรจะรักษาเอาไว้”บ้าชะมัด นี่เขาโมโหจนพูดอะไรออกมากันเนี่ย เขาแค่ไม่อยากให้เธอไปคุยกับบุรุษอื่น ไม่ว่าจะที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่ เขาไม่อยากให้โรวีนาห่างหายไปจากสายตาของเขาเลย..อ่า..ที่แท้ท่านดยุคก็ไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของฮาสคลาวเสื่อเสียอย่างนั้นเองสินะ เป็นเธอเองที่คิดมากเกินไป ดันไปเผลอเข้าข้างตัวเองซะได้“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของฮาสคลาวเสื่อมเสียอย่างแน่นอน..ขอโทษด้วยนะคะ"ฟลอยด์ไม่
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้โอกาสมาพูดคุยกับพี่ชายของเลดี้เบลินดา ภรรยาเก่าของท่านดยุคและเป็นมารดาของคาเรน“ข้ารู้ครับว่าตัวเองกำลังรบกวนท่านดัชเชส แต่ว่าเบลินดาสุขภาพแย่มาตั้งแต่ตอนที่นางเป็นเด็ก และมันแย่ลงหนักมากยิ่งขึ้นเมื่อนางคลอดคาเรนออกมา เบลินดานั้นรักลูกชายของนางจากใจจริงๆ แต่ทว่าท่านดยุคกลับไม่ยินยอมให้เบลินดาและคาเรนได้พบหน้ากัน น้องสาวของข้าเก็บตัวเงียบที่คฤหาสน์ นางไม่ออกงานมานานมากๆ แล้วครับ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะตั้งใจจัดงานขึ้นมาเพื่อหักหน้าท่านดัชเชส แต่เบลินดาไม่ได้คิดร้ายต่อท่านอย่างแน่นอน ช่วยไปพบเจอนางสักครั้งได้ไหมครับ ช่วยรับฟังคำขอของน้องสาวข้าสักครั้ง..ถือซะว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ได้..”เราอยู่ในสวนด้านหน้าของคฤหาสน์ฮาสคลาว เพราะท่านลอร์ดดูเหมือนว่าจะต้องการพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว และเธอเองก็พอเดาได้ว่าเขาต้องการร้องขอเรื่องใดกับเธอ คราแรกโรวีนาคิดว่าท่านลอร์ดจะร้องขอให้เธอพาคาเรนไปพบเบลินดาซะอีก แต่ทว่ามันเหนือการคาดหมายเล็กน้อยตรงที่สตรีผู้นั้นร้องขอเพื่อให้ได้พบเธอ..“เรื่องนั้น..มันไม่นับว่าเป็นการรบกวนอะไรเลยค่ะ เพียงแต่ท่านล
ถึงแม้ว่าเบลินดาจะอยากไปที่งานเลี้ยงของตระกูลฮาสคลาวมากแค่ไหนก็ตามที แต่ทว่าการไปร่วมงานเลี้ยงของสามีเก่าที่กำลังจะแต่งงานกับภรรยาใหม่นั้นดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก เธอนั่งลงบนโซฟาก่อนจะยกมือขึ้นมาภาวนาด้วยมือที่สั่นเทา“ท่านพี่..ขัดขวางไม่สำเร็จอย่างนั้นหรือคะ ทำไมกำหนดการแต่งงานของท่านดยุคและเคาน์เตสซารังต์ยังคงอยู่เหมือนเดิม..”น้ำเสียงที่เบลินดาเอ่ยถามพี่ชายของเธอนั้นมันสั่นเทาไปหมด ในยามนี้บาทีอัสกำลังมองหน้าน้องสาวของเขาด้วยแววตารู้สึกผิดก่อนหน้านี้เขาได้มีการพูดคุยกับท่านเคาน์เวลลิงตันเรื่องแผนการที่จะทำให้เคาน์เตสซารังต์และดยุคฮาสคลาวยกเลิกงานแต่ง คือให้เขาไปลักพาตัวของเคาน์เตสซารังต์มา หลังจากนั้นให้เขาแสร้งทำเป็นว่าตัวเองและสตรีผู้นั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน เพียงแค่ได้ฟังแผนการของท่านเคาน์ก็ทำให้เขารู้สึกผิดในแบบที่แทบรับตัวเองไม่ได้“ลินดา..เจ้าและท่านดยุคหย่ากันไปตั้งนานแล้วนะ เรื่องราวความรักของเจ้าและท่านดยุคมันจบลงไปนานหลายปีแล้ว เจ้าไม่ควร..ยึดติดอะไรขนาดนั้น..ปล่อยวางมันบางเถอะน้องรัก เจ้ายังมีพี่อยู่นะ..”หยาดน้ำตาของเบลินดารินไหลลงมาอาบแก้ม เธอมองพี่ชายด้ว
ทั้งๆ ที่ก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้องนี้ ท่านดยุคและโรวีนากำลังพูดคุยกันอย่างออกรสแท้ๆ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนี้บรรยากาศในห้องกลับแตกต่างออกไป“ขอบคุณท่านดยุคมากนะครับ ที่เดินทางมาร่วมงานที่น่ายินดีของผมและโรวีนา..ท่านเดินทางมาไกล พักให้หายเหนื่อยหลายๆ เดือนก่อนก็ได้ครับแล้วค่อยเดินทางกลับ..ทางฮาสคลาวยินดีต้อนรับท่านอยู่แล้วครับ ทั้งคาเรนและเมลลี่เองก็คงจะดีใจมากแน่ๆ ที่ท่านตาของพวกเขาพักอยู่ที่นี่นานหน่อย”คราแรกดยุคแมทสันตั้งใจว่าเขาจะแกล้งทำหน้าตึงใส่ว่าที่ลูกเขยสักหน่อย แต่ทว่าดยุคฮาสคลาวกลับกล่าวในสิ่งที่เขาอยากได้ยินอยู่พอดี“เรื่องนั้นขอบคุณดยุคฮาสคลาวมากนะครับ..ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถขัดขวางงานแต่งนี้ของโรวีนาได้เพราะว่าองค์จักรพรรดิได้ลงนามในหนังสือสมรสเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่อยากให้โรวี่เลือกสามีผิดเป็นครั้งที่สองหรอกนะครับ..”ฟลอยด์ยื่นมือไปจับมือของโรวีนาเอาไว้ เขาส่งยิ้มให้เธอก่อนจะมองหน้าท่านดยุคด้วยแววตาที่ไร้ซึ่งความหวั่นเกรง“เรื่องนั้นท่านดยุคแมทสันไม่ต้องเป็นกังวลเพราะว่าผมจะดูแลโรวีนาให้ดีที่สุดเท่าที่บุรุษผู้หนึ่งจะสามารถกระทำได้..ไม่มีอะไรจะต้องเป
ดยุคแมทสันวางคาเรนลงบนโซฟา มือของเขานั้นจับมือของเมลลี่และคาเรนเอาไว้อย่างแนบแน่นแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเขาส่งกล่องของขวัญเล็กๆ ให้แก่เมลลี่และคาเรนคนละหนึ่งกล่อง“เพราะว่าตาไม่เคยพบเจอหลานๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นตาจึงไม่รู้ว่าหลานๆ ชอบอะไร นี่คือของขวัญแรกพบชิ้นแรกที่ตาจะให้หลานทั้งสองคนนะ”เขาสืบเรื่องของบุตรชายท่านดยุคมาล่วงหน้า และก็พบว่าคาเรนเป็นเด็กน่าสงสารมากจริงๆ เด็กคนนี้ไม่มีท่านตาหรือว่าท่านยายมาก่อน และถึงแม้ว่าเราทั้งสองคนจะไม่ได้มีสายเลือดใดๆ ร่วมกันเลยก็ตาม แต่โรวีนาบอกกล่าวกับเขาผ่านทางจดหมายว่านางยินดีรับคาเรนเป็นลูกชาย ด้วยเหตุนั้นเองไม่ว่าเราจะมีสายเลือดเดียวกันหรือว่าไม่มี เขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะรับคาเรนเป็นหลานชายคาเรนไม่เคยได้รับของขวัญจากคนอื่นมาก่อนเลย เขามองหน้าของท่านพี่เมลลี่ก็พบว่าท่านพี่กำลังยิ้มแย้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลูบหลังของเขาเบาๆ“เรามีท่านตาแล้วนะคาเรน..มาเปิดกล่องของขวัญของท่านตาออกพร้อมกันเลยดีไหม?”คาเรนพยักหน้า หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเลย เขารู้มาพักหนึ่งแล้วว่าการมีท่านแม่และพี่สาวมันดีมากๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะสามารถท
คำถามนั้นของเขา พาให้รู้สึกสั่นไหวจนควบคุมสีหน้าไม่ได้เลย เธอชอบที่เขาเป็นคนทำ และชอบท่านี้มากทีเดียวเพราะมันทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน.. “ก็ต้องชอบ..ที่ท่านเป็นคนทำอยู่แล้วค่ะ” เมื่อได้คำตอบตามที่หัวใจต้องการจะได้ยิน ฟลอยด์ก็แสยะยิ้มออกมา เขาดึงปลายนิ้วที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานสีใสออกมา ก่อนจะกดแทรกแก่นกายของเขาเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ ยามที่กดแทรกส่วนนั้นเข้าไป ช่องทางรักของเธอที่ทั้งเปียกเยิ้มและลื่นก็ทำให้มันเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายๆ เขากัดกรามแน่ เอวสอบแอ่นตอกอันแรงๆ หลายครั้งติดๆ กันราวกับเขากำลังเก็บเกี่ยวความรู้สึกที่แสนงดงามนั้นเข้ามาในจิตใต้สำนึกและความทรงจำของเขา ปลายเท้าพลันเขย่งลอยขึ้นมา เมื่อเขากระทำรุนแรงในแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว “อะ..อ๊า!..ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ อื้อ!..ฟลอยด์..” ถึงแม้ว่าเธอจะร้องห้ามแต่ร่างกายกับตอบสนองแบบตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ความรุนแรงพวกนั้นของเขาทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสุขสมที่เหนือคำบรรยาย เธอชื่นชอบในทุกอย่างที่เป็นฟลอยด์ ไม่ว่าเขาจะทำรุนแรงมากแค่ไหนมันก็กลายเป็นความสุขให้เธออยู่ดี เขายกขาของเธอขึ้นมา มือ
มีคำถามมากมายก่อตัวขึ้นมาในใจ ว่าคนเรานั้นจะสามารถตกหลุมรักคนคนหนึ่งได้มากมายขนาดไหนกันนะ คำถามนั้นฉันกำลังเฝ้าถามตัวเองในยามนี้ว่าคำตอบของคำถามนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่นะ ฉันกำลังตกหลุมรักชายที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้านี้อีกครั้งหนึ่งโดยที่ตัวเองนั้นไม่มีหนทางใดๆ มาโต้แย้งหรือว่าตอบโต้เขาเลย ฉันได้แต่ยินยอมจมลงไปในห้วงแห่งความหลงใหลอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทางขัดขืน เขาเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะจับเธอให้หันหลังมาให้เขา ปลายนิ้วของฟลอยด์กำลังถอดกระดุมเสื้อที่ด้านหลังของเธออย่างแผ่วเบามากที่สุด โรวีนาในยามที่เธอเปียกปอนไปด้วยน้ำ นั้นดูน่าหลงใหลในแบบที่เขาละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นไม่ได้เลย เขาได้แต่เทิดทูนและบูชาเธอในใจ พร้อมกับอุ้มเธอวิ่งขึ้นมาในห้องนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครหน้าไหนมองเห็นเธอในยามที่เธอเย้ายวนใจมากที่สุด ใจจริงเขาอยากจะสั่งให้ข้ารับใช้ทุกคนหลับตาลงในขณะที่เขาพาโรวีนาก้าวเดินผ่านไป เขาไม่อยากให้ใครจดจำใบหน้านี้เอาไว้..อยากเก็บซ่อนเพื่อไม่ให้ใครหน้าไหนมองเห็นเธอ เขาคงบ้าไปแล้ว..ฟลอยด์คิดว่าตัวเขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ กับอา