แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
เมลลี่มองยูนีกที่กำลังจัดเสื้อผ้าของเธอลงหีบไม้ เรากำลังจะย้ายบ้านกัน ท่านแม่บอกกล่าวเอาไว้ว่าเราจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ฮาสคลาวเป็นการชั่วคราวก่อน ซึ่งท่านแม่ก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่ามันจะนานมากแค่ไหน อาจจะเนิ่นนานจนกว่าเธอจะสามารถเติบโตจนรับช่วงต่อบรรดาศักดิ์ท่านเคาน์ต่อจากท่านพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วคฤหาสน์ซารังต์นั้นเคยเป็นฝันร้ายของเธอ เธอเกลียดชังที่บ้านหลังใหญ่นี่หาความสุขไม่ได้เลย แต่เมื่อลองมองอีกมุมหนึ่ง เมลลี่เกิดที่นี่และอยู่ที่นี่มาตลอด วันหนึ่งที่จะต้องย้ายบ้านกะทันหัน แน่นอนว่าเธอย่อมมีความกังวลเกิดขึ้นมาในใจ“ไม่มีอะไรจะต้องเป็นกังวลหรอกนะคะคุณหนู ท่านดยุคเองก็ดูใจดีอีกทั้งคุณชาย คาเรนก็ยินดีต้อนรับพวกเรา เชื่อเถอะว่าครอบครัวใหม่ของคุณหนูจะต้องมีความสุขมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน..อีกทั้งท่านเคาน์เตสพยายามทำทุกอย่างเพื่อคุณหนูมากเลยนะคะ ในอดีตท่านอาจจะเคยทำเรื่องที่ผิดพลาด แต่ในยามนี้ท่านกำลังแก้ไขความผิดพลาดที่ท่านทำอยู่..”บอกตามตรงว่ายูนีกไม่เคยรู้สึกโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านโรวีนาเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะลำบากมากก็เถอะ“ยูนีก..ชายผู้นั้นขอข้าเต้นรำล่ะ
หลังจากที่แอบๆ มองดูเมลลี่และคาเรน อยู่ด้วยกัน โรวีนาคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาระหว่างเด็กทั้งสองคนนะมันยากนิดหน่อยตรงที่เธอต้องระมัดระวังสิ่งที่อาจจะกระทบกระเทือนจิตใจของเมลลี่ เพราะที่ผ่านมาเมลลี่เสียใจมากมายแล้ว ส่วนคาเรนเขาเป็นเด็กที่ไม่ขาดอะไรเลยสักอย่างแต่ลึกๆ ในใจเธอคิดว่าเขามีความรู้สึกโหยหาความรักจากใครสักคนอยู่ เพราะแบบนั้นการที่เขาแสดงออกมาว่าตัวเองเป็นเด็กดี..มันเป็นเพราะว่าเขาต้องการที่จะได้รับคำชมและได้รับอ้อมกอดจากคนอื่นเยอะๆอย่างน้อยเด็กผู้ชายวัยห้าขวบก็ควรจะดื้อหน่อยสิ เห็นทีว่าเธอจะต้องสอนให้คาเรนดื้อสักหน่อยแล้วล่ะ“กำลังคิดอะไรอยู่หรือคะท่านหญิง..”ยูนีกกำลังพยายามไม่ให้ตัวเองเรียกท่านโรวีนาว่าเคาน์เตสอยู่ เพราะจากนี้ไปจะต้องเรียกท่านโรวีนาว่าท่านดัชเชส ในระหว่างนี้เธอก็เลยจะต้องฝึกเรียกให้ชิน“แค่คิดว่าการย้ายบ้านในครั้งนี้ คงไม่ทำให้เมลลี่อึดอัดใจใช่ไหม”ยูนีกมองนายหญิงของเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยน“ไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ คุณหนูอาจจะเหงาที่ไม่ได้ไปช่วยพอลเก็บแอปเปิ้ล นิดหน่อยเท่านั้นเอง..ข้าดีใจนะคะที่ได้มองเห็นรอยยิ้มของท่านอีกครั้ง ครั้งนี้ท่านหญิงก็จะแต่งงานอย
“ห้องของท่านดัชเชสจะอยู่ฝั่งซ้ายนะครับ ส่วนห้องของท่านดยุคอยู่ด้านขวา..ตรงกลางจะเป็นห้องสำหรับการเข้าหอ.เดิมทีตามธรรมเนียมแล้วมีวันที่กำหนดเอาไว้อย่างแน่ชัดถึงการร่วมเตียงของดยุคและดัชเชสแห่งฮาสคลาว แต่ข้ายังไม่แน่ใจว่าท่านยุคต้องการยึดตามธรรมเนียมเดิมรึเปล่า”ผู้ที่รับหน้าที่แนะนำคฤหาสน์ให้เธอก็หนีไม่พ้นไมเนอร์ เขาพาเธอมาที่ห้องนอนของตัวเอง เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่ดูราวกับเตียงของเจ้าหญิงในนิทาน ดูหรูหราและเกินเอื้อมมากทีเดียว อีกฝั่งของชั้นสามคือห้องนอนของท่านดยุคสินะ ส่วนเด็กๆ จะอยู่ที่ชั้นสองของคฤหาสน์..จากหน้าต่างของห้องนี้สามารถมองเห็นเรือนกระจกได้อย่างชัดเจนห้องนอนของดัชเชสฮาสคลาวให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง เหมือนกับว่าฉันตัวเล็กลงนิดหน่อยเพราะขนาดของห้องที่กว้างมากเกินไป..“ห้องทำงานของท่านดัชเชสจะอยู่ที่ชั้นสองครับ ท่านดยุคให้ผมจัดเตรียมห้องทำงานเอาไว้ให้ท่านเรียบร้อยแล้ว ท่านต้องการทหารหรือว่าอัศวินเอาไว้สำหรับประสานงานด้วยรึเปล่าครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉัน..ไม่ต้องการคนของท่านดยุคหรอกค่ะ แค่ให้เข้ามาอยู่ที่คฤหาสน์ฮาสคลาวก็เป็นเหมือนการรบกวนมากๆ แล้ว”ไมเนอร์ไม่ได้กล่าวคำใด เขาวางต
“ทำดีมากวิเวียน เรื่องการเลื่อนขั้นลูกชายของเจ้าเพื่อให้เขาเป็นทหารองครักษ์ข้าจะทำให้เขาในทันที”วิเวียนคุกเข่าลงเบื้องหน้าขององค์หญิงริโอน่า เธอทำงานที่คฤหาสน์ฮาสคลาวมานานตั้งแต่ท่านแม่ของท่านดยุคยังมีชีวิตเพราะแบบนั้นท่านดยุคจึงไว้ใจเธอมากทีเดียว เธอมีลูกชายแค่คนเดียวเท่านั้น และไม่มีใครรู้การมีอยู่ของลูกชายเธอ นั่นยิ่งทำให้ท่านดยุคไว้วางใจเธอมากกว่าเดิมที่เธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เพราะมันทำให้เธอไม่มีแรงจูงใจมากพอที่จะหักหลังท่านดยุค“ขอบพระทัยที่ทรงเมตตาเพคะ..”ริโอนาหรี่ตามองหน้าของวิเวียน“เรื่องลูกของนังโรวีนา จัดการให้หนักมือหน่อยนะ ข้าเกลียดนักนังพวกที่ไม่รู้จักประมาณตน ต้องทำให้ลูกสาวของมันทนอยู่ที่ฮาสคลาวไม่ได้ นังเด็กนั่นจะได้พาแม่ของมันออกมาจากที่นั่น”ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เธอจะไม่ยินยอมมอบท่านพี่ฟลอยด์ให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น เขาจะต้องเป็นของเธอ..ชายรูปงามและเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์นี่สิถึงจะคู่ควรกัน“แล้วเรื่องสตรีที่ลักลอบเข้าไปในห้องอาบน้ำของท่านดยุคเป็นอย่างไรบ้าง”วิเวียนก้มหน้าลงอีกครั้ง“สตรีผู้นั้น เสียชีวิตแล้วเพคะองค์หญิง”ริโอนาหัวเราะชอบใจ“ต้องแบบนั้นสิ ใครท
ดวงตาของริโอน่าสั่นไหวพอๆ กับมือทั้งสองข้างที่สั่นเทาไม่หยุด เธอยืนอยู่ที่ด้านหน้าห้องทำงานของเสด็จพ่อ ทั้งคู่มีปากเสียงที่รุนแรงมากเสียจนเธอที่ยืนอยู่ด้านนอกได้ยินชัดเจนทั้งหมดเสด็จแม่กำลังจะหย่ากับเสด็จพ่ออย่างนั้นหรือ? ต้นเหตุมาจากเธอเนี่ยนะ?ขณะที่ใบหน้าของริโอนากำลังชา ประตูห้องทำงานของเสด็จพ่อก็เปิดออก เสด็จแม่เดินออกมาและสายพระเนตรของพระองค์กำลังจ้องมองหน้าเธออยู่“ได้ยินหมดแล้วอย่างนั้นสินะ หากว่าครั้งนี้ลูกไม่ยินยอมรามือ แม่จะออกไปจากที่นี่จริงๆ นะริโอนา ฟลอยด์ควรจะมีชีวิตดีๆ ได้แล้ว ที่ผ่านมาลูกยังทรมานเขาไม่พอรึไง?”เธออ้าปากค้างก่อนจะหัวเราะออกมา“ลูกนั้นหรือทรมานท่านพี่ฟลอยด์ ลูกทำไปเพราะความรักนะเพคะเสด็จแม่ หากไม่ให้ลูกรักท่านพี่ เช่นนั้นเสด็จแม่ควรจะเอ่ยห้ามตั้งแต่แรกสิ ทรงทำท่าทางเห็นดีเห็นงามด้วยทำไม ในตอนที่เสด็จพ่อเลือกฟลอยด์มาเป็นสามีของลูกน่ะ..”จักรพรรดินีชาล็อตแค่นหัวเราะ“เช่นนั้นแม่จะทำให้ลูกรู้สึกถึง..ความรักที่แม่มีต่อลูกบ้างดีไหมริโอนา แม่จะส่งอัศวินของพระราชวังเข้าไปในห้องนอนของลูก ให้เขาหยิบจับและพยายามขโมยข้าวของส่วนตัวขององค์หญิงไปขายที่งานประมูล หลัง
“เจ้าควรจะต้องขอบคุณที่ข้าหาเจ้าเจอก่อนคนของฮาสคลาวนะ..เอาล่ะเคาน์ซารังต์ เรามาพูดคุยกันสักหน่อยเป็นไง”อิไลไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเคาน์เวลลิงตันต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขากำลังนั่งรถม้าเพื่อเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงแต่กลับถูกชายผู้นี้จับตัวมาอย่างเสียมารยาท“ที่ท่านจับตัวข้าและภรรยามา เพราะว่าท่านต้องการพูดคุยกับข้าอย่างนั้นหรือครับ? อันที่จริงท่านควรจะส่งบัตรเชิญไปให้ข้าน่าจะดีกว่าการกระทำที่ไร้มารยาทเช่นนี้”เจโรมหรี่ตามองหน้าของอิไล เขาไม่ชอบพูดคุยกับคนโง่เท่าไหร่นักเพราะว่ามันเปลืองเวลา แต่ทว่าอิไลนั้นอาจจะสามารถเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่เขาจะสามารถนำไปวางเอาไว้ที่ด้านหน้าคฤหาสน์ฮาสคลาวได้“เจ้าจะตายอิไล..ตอนนี้ทั้งทหารของ ฮาสคลาวและทหารของแมทสันกำลังไล่ล่าตัวเจ้าอย่างบ้าคลั่ง เพื่อที่พวกเขาจะฆ่าเจ้าปิดปาก..เจ้าจะไม่มีปากได้พูดอวดดีเช่นนี้อีกเลยด้วยซ้ำ หากว่าข้าไม่พาเจ้ามาที่นี่..ไม่ต้องขอบคุณก็ได้แค่เค้นความฉลาดของเจ้าออกมาหน่อย เพราะเรื่องที่ข้าจะพูดออกมานี้มันจำเป็นต้องใช้สมองนิดหน่อย..”อิไลถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินที่เจโรมกล่าว หมายความว่าท่าน ดยุคแมทสันรู้แล้วสินะว่าเขาเป็นคนเอาเงิ
บางสิ่งในอกรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ค่อยๆแผ่ซ่าน ฉันมองแผ่นหลังของเขาในขณะที่ฟลอยด์กำลังกอบกุมมือของฉันเอาไว้เพื่อพาฉันเดินกลับเข้าไปในงาน เขาไม่พูดอะไรแต่ท่าทีที่เขาแสดงออกมานั้นมันเหมือนกับว่าเขาไม่พอใจที่ฉันอยู่กับท่านลอร์ดแห่งเวนสันหรือว่าฟลอยด์จะหึงงั้นเหรอ? ไหนบอกว่าเราไม่ควรรักกันยังไงล่ะ แล้วทำไมเขาถึงได้แสดงท่าทีที่ไม่ปกติเช่นนี้ออกมากันนะ หรือว่าเพราะเราอยู่ในฐานะของสามี ภรรยา เขาจึงต้องการความสมจริงอย่างงั้นเหรอ?“อย่าออกไป..คุยกับบุรุษอื่นโดยที่ไม่มีผมอยู่ตรงนั้นอีกนะครับ..ผมไม่ใช่คนใจกว้างอะไร อีกทั้งอาจจะมีข่าวลือแปลกๆ เกิดขึ้นมาก็ได้..ชื่อเสียงของฮาสคลาวมันคือสิ่งที่คุณเองควรจะรักษาเอาไว้”บ้าชะมัด นี่เขาโมโหจนพูดอะไรออกมากันเนี่ย เขาแค่ไม่อยากให้เธอไปคุยกับบุรุษอื่น ไม่ว่าจะที่ไหนหรือว่าเมื่อไหร่ เขาไม่อยากให้โรวีนาห่างหายไปจากสายตาของเขาเลย..อ่า..ที่แท้ท่านดยุคก็ไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของฮาสคลาวเสื่อเสียอย่างนั้นเองสินะ เป็นเธอเองที่คิดมากเกินไป ดันไปเผลอเข้าข้างตัวเองซะได้“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของฮาสคลาวเสื่อมเสียอย่างแน่นอน..ขอโทษด้วยนะคะ"ฟลอยด์ไม่
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้โอกาสมาพูดคุยกับพี่ชายของเลดี้เบลินดา ภรรยาเก่าของท่านดยุคและเป็นมารดาของคาเรน“ข้ารู้ครับว่าตัวเองกำลังรบกวนท่านดัชเชส แต่ว่าเบลินดาสุขภาพแย่มาตั้งแต่ตอนที่นางเป็นเด็ก และมันแย่ลงหนักมากยิ่งขึ้นเมื่อนางคลอดคาเรนออกมา เบลินดานั้นรักลูกชายของนางจากใจจริงๆ แต่ทว่าท่านดยุคกลับไม่ยินยอมให้เบลินดาและคาเรนได้พบหน้ากัน น้องสาวของข้าเก็บตัวเงียบที่คฤหาสน์ นางไม่ออกงานมานานมากๆ แล้วครับ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะตั้งใจจัดงานขึ้นมาเพื่อหักหน้าท่านดัชเชส แต่เบลินดาไม่ได้คิดร้ายต่อท่านอย่างแน่นอน ช่วยไปพบเจอนางสักครั้งได้ไหมครับ ช่วยรับฟังคำขอของน้องสาวข้าสักครั้ง..ถือซะว่าเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ได้..”เราอยู่ในสวนด้านหน้าของคฤหาสน์ฮาสคลาว เพราะท่านลอร์ดดูเหมือนว่าจะต้องการพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว และเธอเองก็พอเดาได้ว่าเขาต้องการร้องขอเรื่องใดกับเธอ คราแรกโรวีนาคิดว่าท่านลอร์ดจะร้องขอให้เธอพาคาเรนไปพบเบลินดาซะอีก แต่ทว่ามันเหนือการคาดหมายเล็กน้อยตรงที่สตรีผู้นั้นร้องขอเพื่อให้ได้พบเธอ..“เรื่องนั้น..มันไม่นับว่าเป็นการรบกวนอะไรเลยค่ะ เพียงแต่ท่านล
ถึงแม้ว่าเบลินดาจะอยากไปที่งานเลี้ยงของตระกูลฮาสคลาวมากแค่ไหนก็ตามที แต่ทว่าการไปร่วมงานเลี้ยงของสามีเก่าที่กำลังจะแต่งงานกับภรรยาใหม่นั้นดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก เธอนั่งลงบนโซฟาก่อนจะยกมือขึ้นมาภาวนาด้วยมือที่สั่นเทา“ท่านพี่..ขัดขวางไม่สำเร็จอย่างนั้นหรือคะ ทำไมกำหนดการแต่งงานของท่านดยุคและเคาน์เตสซารังต์ยังคงอยู่เหมือนเดิม..”น้ำเสียงที่เบลินดาเอ่ยถามพี่ชายของเธอนั้นมันสั่นเทาไปหมด ในยามนี้บาทีอัสกำลังมองหน้าน้องสาวของเขาด้วยแววตารู้สึกผิดก่อนหน้านี้เขาได้มีการพูดคุยกับท่านเคาน์เวลลิงตันเรื่องแผนการที่จะทำให้เคาน์เตสซารังต์และดยุคฮาสคลาวยกเลิกงานแต่ง คือให้เขาไปลักพาตัวของเคาน์เตสซารังต์มา หลังจากนั้นให้เขาแสร้งทำเป็นว่าตัวเองและสตรีผู้นั้นมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน เพียงแค่ได้ฟังแผนการของท่านเคาน์ก็ทำให้เขารู้สึกผิดในแบบที่แทบรับตัวเองไม่ได้“ลินดา..เจ้าและท่านดยุคหย่ากันไปตั้งนานแล้วนะ เรื่องราวความรักของเจ้าและท่านดยุคมันจบลงไปนานหลายปีแล้ว เจ้าไม่ควร..ยึดติดอะไรขนาดนั้น..ปล่อยวางมันบางเถอะน้องรัก เจ้ายังมีพี่อยู่นะ..”หยาดน้ำตาของเบลินดารินไหลลงมาอาบแก้ม เธอมองพี่ชายด้ว
ทั้งๆ ที่ก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้องนี้ ท่านดยุคและโรวีนากำลังพูดคุยกันอย่างออกรสแท้ๆ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนี้บรรยากาศในห้องกลับแตกต่างออกไป“ขอบคุณท่านดยุคมากนะครับ ที่เดินทางมาร่วมงานที่น่ายินดีของผมและโรวีนา..ท่านเดินทางมาไกล พักให้หายเหนื่อยหลายๆ เดือนก่อนก็ได้ครับแล้วค่อยเดินทางกลับ..ทางฮาสคลาวยินดีต้อนรับท่านอยู่แล้วครับ ทั้งคาเรนและเมลลี่เองก็คงจะดีใจมากแน่ๆ ที่ท่านตาของพวกเขาพักอยู่ที่นี่นานหน่อย”คราแรกดยุคแมทสันตั้งใจว่าเขาจะแกล้งทำหน้าตึงใส่ว่าที่ลูกเขยสักหน่อย แต่ทว่าดยุคฮาสคลาวกลับกล่าวในสิ่งที่เขาอยากได้ยินอยู่พอดี“เรื่องนั้นขอบคุณดยุคฮาสคลาวมากนะครับ..ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถขัดขวางงานแต่งนี้ของโรวีนาได้เพราะว่าองค์จักรพรรดิได้ลงนามในหนังสือสมรสเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่อยากให้โรวี่เลือกสามีผิดเป็นครั้งที่สองหรอกนะครับ..”ฟลอยด์ยื่นมือไปจับมือของโรวีนาเอาไว้ เขาส่งยิ้มให้เธอก่อนจะมองหน้าท่านดยุคด้วยแววตาที่ไร้ซึ่งความหวั่นเกรง“เรื่องนั้นท่านดยุคแมทสันไม่ต้องเป็นกังวลเพราะว่าผมจะดูแลโรวีนาให้ดีที่สุดเท่าที่บุรุษผู้หนึ่งจะสามารถกระทำได้..ไม่มีอะไรจะต้องเป
ดยุคแมทสันวางคาเรนลงบนโซฟา มือของเขานั้นจับมือของเมลลี่และคาเรนเอาไว้อย่างแนบแน่นแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเขาส่งกล่องของขวัญเล็กๆ ให้แก่เมลลี่และคาเรนคนละหนึ่งกล่อง“เพราะว่าตาไม่เคยพบเจอหลานๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นตาจึงไม่รู้ว่าหลานๆ ชอบอะไร นี่คือของขวัญแรกพบชิ้นแรกที่ตาจะให้หลานทั้งสองคนนะ”เขาสืบเรื่องของบุตรชายท่านดยุคมาล่วงหน้า และก็พบว่าคาเรนเป็นเด็กน่าสงสารมากจริงๆ เด็กคนนี้ไม่มีท่านตาหรือว่าท่านยายมาก่อน และถึงแม้ว่าเราทั้งสองคนจะไม่ได้มีสายเลือดใดๆ ร่วมกันเลยก็ตาม แต่โรวีนาบอกกล่าวกับเขาผ่านทางจดหมายว่านางยินดีรับคาเรนเป็นลูกชาย ด้วยเหตุนั้นเองไม่ว่าเราจะมีสายเลือดเดียวกันหรือว่าไม่มี เขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะรับคาเรนเป็นหลานชายคาเรนไม่เคยได้รับของขวัญจากคนอื่นมาก่อนเลย เขามองหน้าของท่านพี่เมลลี่ก็พบว่าท่านพี่กำลังยิ้มแย้มด้วยความดีใจ พร้อมกับลูบหลังของเขาเบาๆ“เรามีท่านตาแล้วนะคาเรน..มาเปิดกล่องของขวัญของท่านตาออกพร้อมกันเลยดีไหม?”คาเรนพยักหน้า หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาแบบไม่เคยเป็นมาก่อนเลย เขารู้มาพักหนึ่งแล้วว่าการมีท่านแม่และพี่สาวมันดีมากๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะสามารถท
คำถามนั้นของเขา พาให้รู้สึกสั่นไหวจนควบคุมสีหน้าไม่ได้เลย เธอชอบที่เขาเป็นคนทำ และชอบท่านี้มากทีเดียวเพราะมันทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน.. “ก็ต้องชอบ..ที่ท่านเป็นคนทำอยู่แล้วค่ะ” เมื่อได้คำตอบตามที่หัวใจต้องการจะได้ยิน ฟลอยด์ก็แสยะยิ้มออกมา เขาดึงปลายนิ้วที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานสีใสออกมา ก่อนจะกดแทรกแก่นกายของเขาเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ ยามที่กดแทรกส่วนนั้นเข้าไป ช่องทางรักของเธอที่ทั้งเปียกเยิ้มและลื่นก็ทำให้มันเข้าไปด้านในได้อย่างง่ายๆ เขากัดกรามแน่ เอวสอบแอ่นตอกอันแรงๆ หลายครั้งติดๆ กันราวกับเขากำลังเก็บเกี่ยวความรู้สึกที่แสนงดงามนั้นเข้ามาในจิตใต้สำนึกและความทรงจำของเขา ปลายเท้าพลันเขย่งลอยขึ้นมา เมื่อเขากระทำรุนแรงในแบบที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว “อะ..อ๊า!..ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ อื้อ!..ฟลอยด์..” ถึงแม้ว่าเธอจะร้องห้ามแต่ร่างกายกับตอบสนองแบบตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ความรุนแรงพวกนั้นของเขาทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสุขสมที่เหนือคำบรรยาย เธอชื่นชอบในทุกอย่างที่เป็นฟลอยด์ ไม่ว่าเขาจะทำรุนแรงมากแค่ไหนมันก็กลายเป็นความสุขให้เธออยู่ดี เขายกขาของเธอขึ้นมา มือ
มีคำถามมากมายก่อตัวขึ้นมาในใจ ว่าคนเรานั้นจะสามารถตกหลุมรักคนคนหนึ่งได้มากมายขนาดไหนกันนะ คำถามนั้นฉันกำลังเฝ้าถามตัวเองในยามนี้ว่าคำตอบของคำถามนั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่นะ ฉันกำลังตกหลุมรักชายที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้านี้อีกครั้งหนึ่งโดยที่ตัวเองนั้นไม่มีหนทางใดๆ มาโต้แย้งหรือว่าตอบโต้เขาเลย ฉันได้แต่ยินยอมจมลงไปในห้วงแห่งความหลงใหลอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีทางขัดขืน เขาเดินเข้ามาใกล้เธอก่อนจะจับเธอให้หันหลังมาให้เขา ปลายนิ้วของฟลอยด์กำลังถอดกระดุมเสื้อที่ด้านหลังของเธออย่างแผ่วเบามากที่สุด โรวีนาในยามที่เธอเปียกปอนไปด้วยน้ำ นั้นดูน่าหลงใหลในแบบที่เขาละสายตาออกไปจากใบหน้านั้นไม่ได้เลย เขาได้แต่เทิดทูนและบูชาเธอในใจ พร้อมกับอุ้มเธอวิ่งขึ้นมาในห้องนี้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครหน้าไหนมองเห็นเธอในยามที่เธอเย้ายวนใจมากที่สุด ใจจริงเขาอยากจะสั่งให้ข้ารับใช้ทุกคนหลับตาลงในขณะที่เขาพาโรวีนาก้าวเดินผ่านไป เขาไม่อยากให้ใครจดจำใบหน้านี้เอาไว้..อยากเก็บซ่อนเพื่อไม่ให้ใครหน้าไหนมองเห็นเธอ เขาคงบ้าไปแล้ว..ฟลอยด์คิดว่าตัวเขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ กับอา