“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”
เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์.. เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถาม เขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย.. “อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว” บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว “ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้าจะ..ทำให้สตรีผู้นั้นตระหนักถึงจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจนมากกว่านี้ ข้าจะจัดงานเลี้ยงค่ะ เป็นงานเลี้ยงเพื่อฉลองที่ตระกูลเวนสันของเรา..เปิดกิจการร้านเครื่องประดับแห่งใหม่ ท่านพี่ว่าดีหรือไม่คะ” บาทีอัสพยักหน้า เขาไม่อยากให้น้องสาวจมอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไป อะไรก็ตามที่ทำให้นางรู้สึกดีถึงแม้ว่าจะเพียงชั่วพักชั่วครู่ก็ตาม เขายินดีทำตามที่นางต้องการทั้งนั้นเลย “ตามที่เจ้าต้องการเลยลินดา” นั่นคือเหตุผลว่าทำไมตระกูลเวนสัน ถึงได้ร่อนจดหมายส่งถึงตระกูลชนชั้นสูงทุกตระกูลเพื่อเรียนเชิญให้มาที่งานเลี้ยงในคฤหาสน์เวนสัน ก็เพื่อโอ้อวดแก่หญิงหม้ายที่กำลังจะคว้าไข่ทองคำไป ว่าให้นางรู้จักประมาณตน แน่นอนว่าการจัดงานเลี้ยงที่น่าสนุกนี้มีผู้คนมากมายรอคอยให้ถึงวัน ชนชั้นสูงส่วนใหญ่ไม่ต้องทำงานเนื่องจากฐานะที่ร่ำรวยมากอยู่แล้ว เช่นนั้นแล้วอะไรจะทำให้พวกเขาเพลิดเพลินได้อีกหากไม่ใช่เรื่องทะเลาะกันของชาวบ้านชาวเมือง “เราเองก็จะเข้าร่วมงานเลี้ยงของตระกูลเวนสันด้วย..” สาวใช้ขององค์หญิงริโอน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ตระกูลเวนสันมิได้ส่งบัตรเชิญมาให้เรานะเพคะ” องค์หญิงริโอน่าตวัดสายตาเพื่อมองสาวใช้ประจำตัวของเธอด้วยแววตาไม่พอใจ “ข้าคือองค์หญิงเพียงพระองค์เดียวของจักรวรรดิแห่งนี้ จะไปร่วมงานต้องรอคอยบัตรเชิญด้วยอย่างนั้นหรือ หากว่าข้าอยากไป..ข้าย่อมต้องได้ไป ใครหน้าไหนก็ขวางข้าไม่ได้ทั้งนั้น” ข้าต้องการไปดูใบหน้าที่ซีดเผือดของนังคนแม่หม้ายผู้นั้นที่อาจหาญกล้าแตะต้องฟลอยด์ของข้า มันน่าสนุกมากเลยไม่ใช่รึไงที่จะได้มองภรรยาเก่าและภรรยาใหม่ของฟลอยด์ก่อสงครามประสาทกัน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะไปที่นั่นให้ได้อย่างแน่นอน! .................... “ท่านเคาน์เตสเองก็ได้รับจดหมายเชิญครับ..” ไมเนอร์กล่าวพร้อมกับรินน้ำชาใส่ถ้วยให้แก่ท่านดยุคผู้เป็นเจ้านายของเขา “แล้ว..โรวีนาว่าอย่างไร นางจะไปที่งานเลี้ยงรึเปล่า?” ฟลอยด์แทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ด้วยซ้ำ เมื่อได้ยินไมเนอร์รายงานเรื่องของโรวีนา หากนางตอบรับบัตรเชิญว่าจะไปที่งาน เขาจะได้ไปเตรียมตัวเพื่อไปกับนางด้วย ไม่ควรมีใครหรือว่าสตรีผู้ใดต้องเดือดร้อนเพราะเขา.. ทำไมเบลินดาถึงได้ทำตัวเหมือนเด็กๆ เช่นนั้นกันนะ เขาพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยล้า “เรื่องนั้นท่านเคาน์เตสยังไม่ตอบกลับจดหมายครับ ข้าเองก็ไม่รู้ว่านางจะเอาเช่นไร แต่ข้าสั่งให้คนของเราที่ด้านหน้าคฤหาสน์เอาไว้แล้ว หากมีการเคลื่อนไหวคนของเราน่าจะรีบมารายงานในทันที” ฟลอยด์พยักหน้า เขาเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกคฤหาสน์ “เช่นนั้นเจ้าไปสั่งสาวใช้ให้จัดเตรียมชุดเอาไว้เถิด เผื่อว่าคนของเรามารายงาน ข้าจะได้รีบตามไปในทันที” ไมเนอร์มองแววตาที่เปลี่ยนไปของเจ้านายเขา มันแปลกประหลาดแต่ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวคำทักท้วงขึ้นมา หน้าที่ของเขาคือการต้องทำตามคำสั่ง ถึงแม้ว่าท่าทีของท่านดยุคจะแปลกไปแต่เขาไม่มีสิทธิ์ยื่นมือไปสอดหรอก “ข้าคิดว่าเจ้าไปเรียกสาวใช้มาเลยเถอะ บอกพวกนางให้มาเตรียมตัวให้ข้า..ข้าจะไปหาโรวีนาที่คฤหาสน์ซารังต์เอง” ................. “เพราะแบบนั้นลูกหมูตัวที่สามจึงปลอดภัย เห็นไหมเมลลี่หากว่าลูกสร้างบ้านที่ทำจากอิฐลูกก็จะปลอดภัยจากหมาป่าเหมือนกับลูกหมูตัวที่สาม..” เมลลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยกับนิทานที่ท่านแม่เล่าให้เธอฟัง “แล้วทำไมหมาป่าถึงมีพลังมากขนาดที่จะเป่าบ้านไม้ให้พังได้ล่ะคะ..ลูกไม่เคยพบเจอหมาป่าที่มีความสามารถเช่นนั้นมาก่อนเลย” โรวีนาหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อลูกสาวของเธอเอ่ยถามเช่นนั้น เธอกำลังหัวเราะกลบเกลื่อนความผิดปกติของตัวเองอยู่ “เรื่องนั้น..เพราะว่าหมาป่าตัวนั้นคือนักเวทปลอมตัวมาเพื่อทดสอบลูกหมูสามตัวนั่นไงล่ะ หลังจากที่หมาป่าเป่าบ้านหลังที่สามไม่พัง หมาป่าก็เลยมอบตะเกียงวิเศษที่สามารถขอพรได้สามครั้งให้ลูกหมูทั้งสามตัว เพราะแบบนั้นพวกเขาทั้งหมดก็เลยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข..จบปิ้ง นอนได้แล้วลูกรัก” ก่อนที่เมลลี่จะถามต่อ โรวีนาก็รีบตัดบทในทันที เธอเอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะจุมพิตลงไปบนหน้าผากของลูกสาวตัวน้อย “ข้าอยากรู้อีกหน่อยว่าพวกลูกหมูขอพรอะไรในตะเกียงวิเศษ” โรวีนาลูบหลังของเมลลี่เบาๆ เพื่อเป็นการกล่อมนอน “เรื่องนั้นเป็นความลับจ้าลูกรัก..” เมลลี่ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะเอ่ยถามท่านแม่ออกไป “แล้ว..หากว่าลูกเป็นเด็กดี ลูกจะได้ตะเกียงวิเศษบ้างไหมคะ” นี่มีเรื่องอะไรที่เมลลี่อยากได้แต่ไม่กล้าพูดออกมาสินะ “แน่นอนลูกรัก ในช่วงเวลาสิ้นปีจะมีหมาป่าที่เป็นนักเวทมามอบพรให้ลูกหนึ่งข้อ พอถึงวันนั้นลูกจงเขียนคำอธิษฐานแล้ววางเอาไว้ที่ข้างเตาผิง พรที่ลูกอยากได้จะเป็นความจริงล่ะ..” ดวงตาของเมลลี่เป็นประกาย “แต่อย่าลืมว่าในช่วงเวลาต่อจากนี้ลูกจะต้องเป็นเด็กดีนะ เมลลี่..ที่ลูกเป็นอยู่นั้นมันคือการเป็นเด็กดีแล้วล่ะ แม่ไม่ต้องการอะไรเพิ่มแต่ช่วยเห็นใจคาเรนอีกหน่อยเถอะนะ เขาเกิดมาโดยที่ไม่ได้พบเจอใบหน้าของท่านแม่เลยสักครั้ง แถมท่านดยุคก็งานยุ่งมากๆ อีกด้วย คฤหาสน์ฮาสคลาวหลังใหญ่มากขนาดนั้น..แต่ไม่มีใครเลยที่จะโอบกอดคาเรนด้วยความรักอย่างแท้จริง..เมลลี่ลูกเป็นลูกที่ดีมากๆ แล้วเพราะอย่างนั้นช่วยเป็นพี่สาวที่ดีของคาเรนด้วยนะ”แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
“นี่ คุณรู้รึเปล่าว่าการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งต้องใช้เงินมากแค่ไหน ครอบครัวของเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีเท่าไหร่นัก แค่ลำพังชุดเดรสและเครื่องประดับของคุณผมจะต้องทำงานหนักมาแค่ไหนคุณรู้บ้างรึเปล่าโรวี่!!!”โรวีนามองหน้าของสามีตัวเองที่พึ่งจะพ่นคำกล่าวเช่นนั้นออกมาในทันทีที่เธอบอกกล่าวกับเขาว่าเธอตั้งครรภ์“อิไล..เราแต่งงานกันมาสองปีแล้ว แม่ของคุณทวงถามถึงทายาทแห่งซารังต์ตลอดเวลา คุณออกไปข้างนอกทั้งวันจะรู้ได้ยังไงว่าฉันพบเจออะไรบ้างในบ้านหลังนี้น่ะ”อิไลเขวี้ยงแก้วสุราลงพื้นด้วยความรู้สึกโกรธ“ผม..เหนื่อย แค่หาเงินก็เหนื่อยจะแย่แล้วนี่จะต้องหาเงินเพิ่มขึ้นเพราะเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกผมรึเปล่าอีกด้วย โรวี่..เรานอนด้วยกันครั้งล่าสุดเมื่อสามเดือนที่แล้วนะ ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่ คุณจะไปแอบเล่นชู้กับบรรดาชายหนุ่มที่อยู่รอบตัวคุณรึเปล่า”ใบหน้าที่งดงามของโรวีนาแข็งค้างในทันที นี่คือการตั้งครรภ์ครั้งแรกของเธอ และเธอมั่นใจว่านี่คือลูกของอิไลอย่างแน่นอนเพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอไม่ได้ไปนอนกับใครทั้งนั้น! อันที่จริงตั้งแต่แต่งงานกับเขาเธอไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับบุรุษคนไหนเลยเธอคือบุตรี
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเมลลี่คือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ แน่นอนว่าที่เมลลี่เติบโตไปเป็นคนร้ายกาจส่วนหนึ่งก็เพราะว่าโรวีนาที่ทำร้ายนางทั้งร่างกายและจิตใจแต่คงจะไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะว่าฉันคนนี้อยู่ที่นี่แล้วยังไงล่ะนิยายเรื่องนี้ฉันไม่ได้อ่านแค่รอบเดียวเพราะแบบนั้นนี่มันง่ายมากในเรื่องการหาเงินและการดำเนินเรื่องฉันกระชับเสื้อคลุมของตัวเองให้แน่นหนามากกว่าเดิมก่อนจะรีบเดินไปยังลานประมูลฉันไม่มีเงินสักเหรียญแต่ที่เข้ามาที่นี่ได้เพราะตราประทับของขุนนาง..โชคดีจริงๆ ที่โรวีนาไม่ได้เอามันไปจำนำหรือว่าขายเพื่อแลกกับการไปซื้อชุดเดรสสวยๆ ของนางเรื่องความสวยไม่เถียงเลยเพราะว่าโรวีนางงดงามมากจริงๆ แต่เรื่องทักษะเอาตัวรอดโรวีนามีมันน้อยไปหน่อย สมบัติของอิไลมีมากมายแต่ถูกญาติและมารดาของอิไลเอาไปจนหมด อีกทั้งอิไล..ติดการพนันอย่างหนักในช่วงหลังๆ เขาเองก็ผลาญสมบัติของตระกูลตัวเองหลงเหลือเศษเงินเอาไว้ให้โรวีนานิดหน่อยแค่นั้น“เราจะเริ่มการประมูลชิ้นแรกกันเลยนะครับ..สร้อยเพชรสีชมพู..”เมื่อเริ่มเปิดลานประมูลก็เริ่มมีผู้คนแย่งชิงกันใส่ราคา เรื่องเครื่องประดับฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว
ที่เจโรมใส่ราคาประมูลแข่งอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครล่วงรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของต้นไม้ชนิดนี้..ฟลอยด์แค่นหัวเราะเมื่อเขาลอบมองใบหน้าที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมนั้น สตรีใดกันที่เจ้าเล่ห์และกล้าที่จะเล่นกับคนอย่างเจโรมกันนะชักจะน่าสนใจแล้วละสิ..“ข้าต้องการข้อมูลของสตรีผู้นั้นทั้งหมด ไปตรวจดูจากตราขุนนางที่นางใช้วางหลักประกันเอาไว้หน่อยสิ”ไมเนอร์พยักหน้าเพื่อเป็นการรับรู้ เขาเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปหาข้อมูล___“หวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะรักษาคำพูด หากว่าในคาราวานคณะละครสัตว์ของเจ้ายังมียาที่สามารถรักษาโรคกามมาขาย ..รับรองได้เลยว่าพวกเจ้าแม้แต่คนเดียว จะไม่ได้มาเหยียบที่เมืองหลวงในจักรวรรดิอีก”โรวีนาก้มหน้าลง“ด้วยเกียรติของพ่อค้า รับเงินมาแล้วย่อมไม่ผิดสัญญา”ตระกูลเวลลิงตันคือตระกูลที่ร่ำรวยมาจากกิจการโรงพยาบาลที่ขยายสาขาอำนาจอย่างรวดเร็ว หมอที่เรียนจบใหม่ล้วนแล้วแต่ได้ทุนจากโรงพยาบาลของเวลลิงตันทั้งนั้น มันคือธุรกิจที่ผูกขาดอย่างสมบูรณ์ในจักรวรรดิแห่งนี้ ส่วนคนจนที่ไม่มีเงิน แน่นอนว่าก็จะไม่ได้รับการรักษาวันนี้..ฉันทำอะไรเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่การหลอกเอาเงินก้อนใหญ่มาจ
ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเอาไว้ และฉันเองก็ยังอยากให้เมลลี่มีชีวิตในฐานะเลดี้ชนชั้นสูงต่อไปไม่ว่าอย่างไรฉันจะต้องรักษา บรรดาศักดิ์ยศท่านเคาน์ซารังต์เอาไว้ให้ได้“หากอยากแต่งงานก็จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสิคะท่านเคาน์เตส จริงอยู่ที่ชื่อเสียงของท่านไม่สู้ดีเท่าไหร่นักแต่เหล่าบุรุษพวกนั้นย่อมอยากเป็นท่านเคาน์ด้วยกันทั้งนั้น”อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่โรวีนา เธอไม่ชอบใจความงดงามที่เจิดจรัสนั้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือของเคาน์เตสซารังต์ไม่ได้เลย เธอไม่ชอบที่ท่านเคาน์เตสมีความงดงามมากกว่าเธอ แต่ก็ดันหลงใหลไปกับความงามนั้นจนน่าหงุดหงิดนี่ฉัน..มาปรึกษาเรื่องสำคัญผิดคนรึเปล่านะ ฉันมองเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรผ่านสายตาของเลดี้แรนเซล แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างโรวีนาเองก็ไม่ใช่คนดี จริงอยู่ที่ก่อนหน้าที่จะคลอดเมลลี่ โรวีนาไม่มีชู้และไม่เคยชายตามองบุรุษคนไหน แต่ทว่าหลังจากที่คลอดเมลลี่ออกมา เธอกลับลักลอบมีชู้กับบุรุษที่พึงใจ โรวีนาเป็นพวกเกลียดชังบุรุษที่หน้าตาดีเพราะว่าอิไลนั้นหล่อเหลาและนางชอบอิไลเพราะความหล่อเหลากับความอ่อนโยนของเขาในใจจึงจดจำและฝังใจถึงเรื่องนั้น
ฟลอยด์ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม เขารู้ดีว่าทั้งองค์จักรพรรดิและจักรพรรดินีรอคอยการพบเจอกับโรวีนามากแค่ไหน และการที่เขาพาเธอมาที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านี่คือ..หนึ่งในสัญญาของเราเมื่อคืนเขาไม่ได้นอน เขาไม่ได้นอนเป็นประจำอยู่แล้วนั่นคือเหตุผลว่าทำไมต่อให้เขาไม่ได้หลับตาลงเลย ใบหน้าของเขาก็ดูปกติเหมือนกับคนที่นอนเต็มอิ่มเขาคิดมากทั้งเรื่องที่เราพึ่งจะจุมพิตกัน เรื่องที่ตัวเองเผลอไผลหลงใหลดอกไม้งามที่มีหนามแหลมคมดอกนั้น และยังเรื่องที่มีสตรีบุกเข้าไปในห้องอาบน้ำของเขาอีกด้วย มีเรื่องราวมากมายให้เขาต้องใช้ความคิด และหนึ่งในความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเขาไม่ควรจะรู้สึกอะไรกับ โรวีนาเลย ไม่ควรมีความรักหรือว่าความผูกพันใดๆ ทั้งนั้น นั่นคือเรื่องที่ไม่ถูกต้องเขาต้องการแบ่งเขตความสัมพันธ์ของเราอีกครั้ง นั่นคือเหตุว่าทำไมเขาถึงพาเธอมาที่นี่ เพื่อให้เธอกันริโอนาให้ออกห่างจากเขาไป“นางงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นสตรีที่เพียงแค่มองครั้งเดียวก็ทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาได้ ฟลอยด์...อารู้ว่าบุรุษเช่นเรานั้นไม่อาจสู้รบกับสตรีได้ชนะหรอก แต่ทว่า..นั่นคือโรวีนา..นางไม่คู่ควรกับการเป็นดัชเชสฮาสคลาว เจ้าจะอับอายใน
อารีเอนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เธอกำลังลอบมองสีหน้าของเลดี้เบลินดาอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆบอกตามตรงว่าในตอนที่เธอเอ่ยปากชวนโรวี่มาที่นี่ เธอคาดหวังนะ เพราะหากโรวี่มางานนี้จะสนุกอย่างแน่นอนและคงจะได้เห็นโรวี่ตอกกลับเลดี้เบลินดาแบบสนุกๆ แต่โรวี่ไม่มาก็ถือว่านั่นคือเรื่องที่ดีอีกหนึ่งอย่างสตรีที่งดงามปานรูปสลักผู้นั้นมีความคิดที่เดาทางไม่ได้จริงๆ“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปงานเลี้ยงที่จัดขึ้นมาเพื่อเล่นงานฉันทำไม..”“แต่หากว่าท่านไม่ไปทุกคนจะมองว่าท่านเสียมารยาทนะคะ”โรวีนายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ“แล้วทำไมฉันจะต้องสนใจความคิดของคนอื่นขนาดนั้นกันคะ..ในเมื่อช่วงเวลาที่แย่มากที่สุดในชีวิตของฉันก็ไม่เห็นจะมีใครมาคอยช่วยเหลืออะไรฉันสักหน่อย”นั่นแหละมันน่าทึ่งตรงนั้น..โรวีนาลอยตัวอยู่เหนือปัญหาโดยที่นางไม่สนใจใครทั้งนั้น ช่างน่านับถือจริงๆ“นี่เคาน์เตสไม่มาอย่างนั้นหรือคะเนี่ย.. แสดงว่างานนี้เลดี้เวนสันก็เสียเงินจัดฟรีๆ เลยอย่างนั้นสินะคะ”“นั่นนะสิ เป็นภรรยาเก่าที่พยายามจะอวดเบ่งใส่ภรรยาใหม่ แต่แผนการที่วางเอาไว้ซะดิบดีกลับไม่สำเร็จด้วยซ้ำ ดูท่าว่าเลดี้คงจะโมโหมากๆ เลยนะคะ”พรุ่งนี้จะต้องมีข่าวดังอย่างแน่น
ราวกับร่างกายของเธอกำลังร่วงหล่นลงไปสู่ห้วงเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ความหอมหวานที่ไม่เคยคาดคิดและจินตนาการมาก่อนในชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นมาเธอแค่คิดว่าจุมพิตนี้คงทำให้เบลินดานั่งไม่ติดพื้นและทำให้องค์หญิงริโอนาทานข้าวไม่อร่อยไปสักสามวันแต่เธอลืมคิดไปว่าจุมพิตนี้ก็กำลังทำให้เธอรู้สึกเจียนตายเหมือนกัน หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากอก ปลายนิ้วเลื่อนไล้ไปตามลำคอในขณะที่ริมฝีปากของเรายังคงแนบชิด ต่างฝ่ายต่างดูดริมฝีปากของอีกฝ่ายทั้งยังเปลี่ยนมุมเพื่อให้ลึกล้ำมากยิ่งขึ้น มันคือจูบที่เริ่มต้นช้าๆ และค่อยๆ เร่าร้อนมากยิ่งขึ้นฟลอยด์แน่ใจว่าเขาไม่ชอบการสัมผัสร่างกายของสตรีอย่างแน่นอน ชีวิตของเขานั้นมักจะเกิดเรื่องยุ่งๆ ขึ้นมาเพราะสตรี เช่นนั้นแล้วเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความใกล้ชิด แต่ทว่าในยามที่โรวีนาร้องขอจุมพิตจากเขานั้น เขากลับไม่มีความลังเลใดๆ อยู่เลย เขารู้ว่าเธอกำลังต้องการทำสิ่งใด และจุมพิตนี้มันเอาไว้ใช้เพื่อตอบโต้เหล่าสตรีที่ตั้งใจจะทำร้ายเธอ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงยินยอมส่งมอบจุมพิตให้เธอ ถึงแม้ว่าหัวใจของเขาจะรู้สึกประหม่ามากก็ตามทีการเริ่มจูบของเรามันเป็นไปอย่างเงอะงะ แต่เม
แววตาของเมลลี่สลดลงเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงตรงนี้ อันที่จริงเธอนั้นมีทั้งท่านพ่อและท่านแม่เพียงแต่พวกท่านไม่ค่อยแสดงความรักต่อเธอเท่านั้นเองท่านพ่อที่ต่อว่าด่าทอว่าเธอคือตัวซวย และท่านแม่ที่ทุบตีเธอด้วยความเจ็บปวดในทุกครั้ง..เมลลี่ยื่นมือไปแตะสัมผัสลงบนใบหน้าของท่านแม่“ท่านแม่คะ..ท่านแม่ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่รึเปล่า”คำถามนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่โรวีนาเป็นอย่างมาก“เจ็บสิลูกรัก แม่เจ็บปวดแทบทุกครั้งที่เห็นหน้าลูกเลย มันคือความรู้สึกผิดที่กำลังกัดกินหัวใจของแม่ หากว่าแม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แม่จะไม่มีวันทำร้ายลูกเช่นนั้นอย่างแน่นอน..แม่ขอโทษนะเมล..แม่ไม่ควรทำสิ่งที่เลวร้ายพวกนั้นกับลูกเลย”เมลลี่ขบเม้มริมฝีปากแน่น เด็กน้อยที่เคยแตกสลายมานับครั้งไม่ถ้วนเพราะถูกบิดาและมารดาทำร้าย ในยามนี้เธอกำลังเกิดใหม่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมารดา..“ข้าไม่เคยโกรธหรือว่าเกลียดชังท่านแม่เลยนะคะ”นั่นแหละที่มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเดิม พ่อแม่คือโลกทั้งใบของลูก แต่โลกทั้งใบของเมลลี่มันหมองหม่นเพราะพ่อและแม่ที่แม่งโคตรจะเฮงซวยเลย พวกเขาไม่รักกันนั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ไม่รักกันก็ไม่เป็นไ
“แต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะ? ฟลอยด์เนี่ยนะจะแต่งงานใหม่”เบลินดาเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อหูเมื่อสาวใช้ของเธอบอกกล่าวข่าวลือที่กำลังโด่งดังในช่วงนี้ดยุคฮาสคลาวด์กำลังจะแต่งงานใหม่ และสตรีที่เขาจะแต่งงานด้วยคือเคาน์เตสโรวีนา ซารังต์..เรื่องความงดงามเธอไม่เถียงอยู่แล้ว เพราะในเมืองหลวงแห่งนี้เคาน์เตสผู้นั้นงดงามที่สุด แต่เรื่องฐานะทางสังคม นิสัยใจคอ และข่าวลืออีกมากมายนั่นทำให้ในหัวของเบลินดาเต็มไปด้วยคำถามเขาไปสนใจสตรีที่มีดีแค่ความงามผู้นั้นได้อย่างไรกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย..“อยากให้พี่เสนอฎีกาคัดค้านการแต่งงานนี้รึเปล่า เพราะถึงอย่างไรน้องก็คือมารดาของคาเรน..น้องมีสิทธิ์ในการคัดค้านงานแต่งใหม่ของท่านดยุคอยู่แล้ว”บาทีอัสนั่งลงข้างๆ น้องสาวที่ทำท่าทางเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา เขาเข้าใจความรู้สึกของเบลินดาดีว่านางคงจะเจ็บปวด น้องสาวของเขาหลงรักท่านดยุคมากแค่ไหนเรื่องนั้นเราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ ตั้งแต่ที่มีการหย่าร้างกัน ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมานานถึงห้าปี แต่เบลินดาไม่เคยลืมท่านดยุคเลยแม้แต่นิดเดียว“ไม่ค่ะ ข้าไม่ต้องยื่นหนังสือคัดค้านเพื่อทำให้ท่านดยุครู้สึกไม่ดีกับข้า แต่ข้า
“เรื่องนั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือนะคะ ในตอนนั้นข้าก็อยู่ที่งานแต่งด้วย ท่านเบลินดาสีหน้าไม่ดีเลยถึงแม้ว่าจะอยู่ในงานแต่งของตัวเองก็ตาม”อารีเอนเล่าเรื่องในงานแต่งครั้งที่แล้วของท่านดยุคและเลดี้เบลินดาให้โรวีนาได้ฟัง“เช่นนั้นแล้ว..ใครกันคะที่กล้าลงมือกับดัชเชสแห่งฮาสคลาว อำนาจของท่านดยุคก็มีไม่น้อยเลยนี่คะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อารีเอนถึงพาตัวเองมาที่คฤหาสน์ตระกูลซารังต์..ทั้งๆ ที่เธอตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีที่ซื่อบื้อเช่นเคาน์เตสโรวีนา แต่ทว่าพอกลับไปถึงบ้านก็นึกขึ้นได้ว่าในงานแต่งงานครั้งที่แล้วของท่านดยุคมีเรื่องแปลกประหลาดเต็มไปหมด“นั่นสินะคะ คนที่ทำก็คือคนที่จะต้องมีอำนาจมากกว่าท่านดยุคถูกต้องไหมคะท่านเคาน์เตส..”คนที่มีอำนาจมากกว่าท่านดยุคอย่างนั้นหรือ? หรือว่าจะเป็นองค์หญิง?“ฉันอยากจะบอกกับเลดี้มาตั้งนานแล้ว..เลดี้สามารถเรียกชื่อของฉันแทนยศได้นะคะ”โรวีนากล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่อารีเอน เธอไม่มีเพื่อนมาก่อนเลย ทั้งเธอและทั้งโรวีนาคนเก่า เราทั้งสองคนคือพวกอินโทเวิส หรือว่ายังไงกันนะ ถึงไม่ค่อยคิดอยากจะเข้าสังคม มันก็เลยทำให้เราไม่มีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียวในสายตาของโรวีนา เ
แววตาของฟลอยด์กำลังจับจ้องไปที่โรวีนา..เธอกำลังตักอาหารหลายอย่างใส่จานของลูกชายเขา แต่ทว่าโรวีนาก็ไม่ลืมตักอาหารชนิดเดียวกันใส่จานของลูกสาวเธอด้วย บนใบหน้าแสนงดงามนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานที่ระบายออกมา“รู้ใช่ไหมว่าเด็กที่ดีควรทำยังไง รีบๆ ทานอาหารให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้โตไวๆ ยังไงล่ะ”เมลลี่ยกยิ้มพร้อมกับมองหน้าท่านแม่ของนางอย่างไม่คลาดสายตา เด็กน้อยผู้นั้นไม่เห็นมีร่องรอยจากการถูกทำร้ายเลย นางดูปกติมากๆ และความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกก็ดีมากด้วย เขาคิดว่าวันนี้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนอาหารไม่ย่อยซะอีก แต่กลายเป็นว่าอาหารมื้อนี้ไม่ได้แย่เท่าที่คิดเอาไว้อีกทั้งคาเรนทานมื้อเย็นได้มากกว่าในยามปกติอีกด้วย“ข้าเองก็อยากจะโตเร็วๆ ..”ฉันพยายามห้ามใจตัวเองแล้วไม่ให้ยกมือนี่ไปลูบผมของคาเรน แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆโรวีนาลูบผมของคาเรนด้วยความรู้สึกเอ็นดู หากทำได้เธออยากอุ้มเจ้าเด็กแก้มพองนี่ขึ้นมาหอมซักฟอด ถ้าเธอทำแบบนั้นท่านดยุคได้มองตาเขียวอย่างแน่นอน เรายังไม่สนิทสนมกันมากขนาดนั้น เธอไม่ควรล้ำเส้นมากเกินไป“ข้าเองก็เหมือนกันค่ะท่านแม่..ข้าจะรีบโตไวๆ เหมือนกัน”ข้าจะปกป้องท่านแม่จากทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่เงียบไม่ใช่เพราะว่าฉันหวาดกลัวแต่มันเป็นเพราะว่าฉันกำลังคิดคำด่าหมอนี่ต่างหาก ในขณะที่ฉันกำลังจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ป้าเพื่อพ่นคำหยาบคาย ที่เจโรมจะไม่มีวันจินตนาการถึง อยู่ๆ ก็มีมือมาจับเข้าที่ไหล่ของฉันเพื่อดึงรั้งให้ฉันเดินถอยไปข้างหลัง ริมฝีปากที่กำลังเผยอออกมาเพื่อที่จะสบถด่าปิดลงในทันทีพร้อมกับความปลื้มปีติที่ท่วมท้นในหัวใจนี่ฉันกำลังคิดไปเองรึเปล่าเรื่องที่ว่าท่านดยุคกำลังปกป้องฉันเอาไว้ คิดไปเองรึเปล่าว่าเขากำลังกันฉันให้ออกห่างจากเจโรม“แหม สนิทสนมกันไวจังนะครับ ทั้งๆ ที่พึ่งจะพบเจอกันครั้งแรกตอนที่อยู่ที่งานเลี้ยงของตระกูลเวลลิงตันแท้ๆ แสดงความเป็นเจ้าของไวจังเลยนะครับ”ฟลอยด์หรี่ตามองหน้าของเจโรม เขายกมือขึ้นพร้อมกับกับกางเอกสารใบสำคัญการสมรสของเขาและโรวีนาให้เจโรมดู ในนั้นมีการลงนามของเขาและโรวีนา อีกทั้งยังมีตราประทับขององค์จักรพรรดิอีกต่างหาก“นางมิใช่เคาน์เตสแล้วเจโรมแต่โรวีนาคือดัชเชสต่างหาก ดัชเชสแห่งฮาสคลาว”ความอ่อนหวานเข้ากอบกุมหัวใจของฉันในทันที ราวกับโลกใบนี้กำลังหยุดหมุนเลย เหมือนหยาดฝนที่ชุ่มฉ่ำกำลังตกลงมาในหัวใจที่แห้งแล้ง หัวใจของฉันกำลังเต้นผิดจังหวะอย่างไม
“โรวีนา ซารังต์? บอกหน่อยว่าเราไม่ได้อ่านชื่อของสตรีที่อยู่ในใบทะเบียนสมรสนี่ผิด”ฟลอยด์ส่งยิ้มให้แก่ท่านอาของเขา หรือองค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิแห่งนี้“ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะแต่งงานกับโรวีนาจริงๆ”องค์จักรพรรดิคาลิโซมองไปที่จักรพรรดินีของพระองค์ที่กำลังยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มด้วยท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆต่างก็ล่วงรู้ถึงชื่อเสียงของสตรีที่ฉาวโฉ่แห่งยุค“ชาล็อต หลานชายของเจ้ากำลังจะแต่งงานใหม่นะ ฟลอยด์กำลังจะแต่งงานกับ..เคาน์เตสซารังต์”จักรพรรดินีชาล็อตวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะ พระนางมองหน้าของหลานชายก่อนจะหยักยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เขาแตกต่างจากเมื่อหกปีก่อนมากทีเดียว ในตอนที่เขามาร้องขอแก่เธอ เพื่อให้เธอพระราชทานสมรสให้แก่เขาและเบลินดาการแต่งงานในครั้งนี้ดูท่าว่าจะไม่ได้เกิดจากความรักอย่างนั้นสินะ..อีกทั้งฟลอยด์เองก็อายุสามสิบแล้ว เขามีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตของตัวเองได้เต็มที่“โรวีนาถือเป็นสาวงามที่งดงามมากที่สุดจนได้ฉายาว่าเป็นดอกไม้แห่งแดนใต้ เลือกได้ดีนี่ฟลอยด์”มุมปากของฟลอยด์กดลึกเป็นรอยยิ้ม“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ..”เมื่อจักรพรรดินีกล่าวเช่นนั้นแล้วองค์จักรพรรดิยังจะทำเช่นไรได้อีก นอกจ