“พอได้แล้ว” ท่านเจ้าเมืองเคาะไม้เรียกสติหนึ่งครั้ง “อยู่ในศาล มีที่ให้ปีศาลกล้าส่งเสียงดังได้ที่ไหน?”“ใต้เท้า ผู้น้อยตายตาไม่หลับ เสียชีวิตอย่างไม่ยุติธรรมจนไม่อาจไปเกิดใหม่ได้” ร่างเงาอาภรณ์ขาวเจือเสียงสะอื้น “ขอใต้เท้าทวงความยุติธรรมเพื่อผู้น้อย ให้ผู้น้อยได้ไปเกิดใหม่เป็นคนในเร็ววันด้วยเจ้าค่ะ”
หากลำดับความอาวุโสแล้วท่านผู้เฒ่าค่อนข้างสูง ทั้งยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระพันปี ชั่วขณะหนึ่ง จึงไม่มีคนกล้าบุ่มบ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือท่านเจ้าเมืองลำบากใจทั้งสองฝ่ายบรรยากาศในศาลพลันชะงักงันในขณะเดียวกันนั้นเองภายในห้องของหออวี้เซียนที่อยู่ไม่ไกลจากศาลาว่าการ บุรุษวัยกลางคนคนหนึ่งผุดขึ้นยืนด้วยใบห
“ฮูหยินเหลยอันโหว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น “ข้าถามเจ้าอีกสักครั้ง เจ้ายังคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดคนอื่นอยู่หรือไม่?”ฮูหยินเหลยอันโหวยังคงเบิกตาจ้องนางอย่างเหี้ยมโหดเช่นเคย “ข้าไม่เสียใจ ถือสิทธิ์อันใดท่านช่วยเหลือฮูหยินขุยอันโหวแม่ลูกได้กลับช่วยลูกข้าไม่ได้เล่า ท่านไม่ช่วยก็คือคนผิด แม้ข้าตายก็จ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะเบา ๆ การรับมือคนไร้เหตุผลง่ายดายนัก เพียงแค่จะต้องไร้เหตุผลยิ่งกว่านางก็จักรับมือได้แล้ว“ท่านพี่รอง ท่านเลิกล้อข้าได้แล้วเพคะ หากเป็นไปได้ หม่อมฉันไม่คิดจะยั่วยุคนเช่นนี้หรอก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวพลางถอนหายใจ“เวลาไม่เช้าแล้ว รอให้เสด็จพ่อมาถึง ก็ให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารขึ้นมา
ไป๋โค้วรู้สึกถึงโทสะจากท่านอ๋องของตนเอง พลันรีบวิ่งไปด้านหลังอู๋ฉิ่งเหยียน สองมือจับบ่าของเขา ก่อนผลักเขาออกมาข้างหน้า “ท่านอ๋อง มิเกี่ยวข้องกับหม่อมฉันนะ คนที่แย่งพระชายาจากท่านเป็นเจ้าหนุ่มคนนี้”อู๋ฉิ่งเหยียนถูกไป๋โค้วโอบไหล่เช่นนี้ ใบหน้าแดงแล้วแดงอีก ทำตัวไม่ถูก“เจ้าขี้ขลาดอันใด?” ไป๋โค้วเห็นห
ทุกคนได้รับอิทธิพลมาจากเขา ก็มิสนใจกฎเกณฑ์ บรรยากาศในงานเลี้ยงจึงนับว่าดีมากฉินเหยี่ยนเย่ว์อดโลภมากดื่มไปหลายจอกไม่ได้เช่นกันฤทธิ์สุราลามเลียไปถึงที่แก้ม จนกลายเป็นสีแดง ชาดทาแก้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าจางหาย ดั่งกลิ่นหอมที่หลอมรวมเข้ากับหิมะฤดูใบไม้ผลิในแววตาคู่งามเป็นสีขุ่นมัว น้ำในดวงตาไหลวน หยาดห
เมื่อหลินเฟยจิ้งเดินออกไปจากงานเช่นนี้ บรรยากาศโดยรอบพลันตกสู่ความเงียบงันไปในทันใดตงฟางอิงแลบลิ้นปลิ้นตาออกมา เขาหาได้รู้ตัวไม่ว่าตนเองดันยั่วยุในเรื่องที่ไม่ควรขึ้นมาแล้วตงฟางเจวี๋ยจ้องมองไปยังถ้วยชาที่แตกสลายไป พลางเม้มริมฝีปากเล็กลงด้วยท่าทีครุ่นคิดสายตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกวาดตามองไปยังแผ่
หลังจากขึ้นมาบนรถม้าแล้วนั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงเอนตัวนอนไปด้านข้างพร้อมผล็อยหลับไปในทันทีตงฟางหลีที่กลัวว่านางจะปวดเมื่อยตัวนั้น จึงประคองหัวของนางมานอนอยู่บนขาของเขา พร้อมทั้งปัดปอยผมของนางไปไว้ข้าง ๆ แทน “ดูสภาพเจ้าสิ อะไรจะเมามายขนาดนี้?”เมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์พบท่านอนที่ทำให้ตัวเองนอนหลับสบายแล้