“ฮูหยินเหลยอันโหว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น “ข้าถามเจ้าอีกสักครั้ง เจ้ายังคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นความผิดคนอื่นอยู่หรือไม่?”ฮูหยินเหลยอันโหวยังคงเบิกตาจ้องนางอย่างเหี้ยมโหดเช่นเคย “ข้าไม่เสียใจ ถือสิทธิ์อันใดท่านช่วยเหลือฮูหยินขุยอันโหวแม่ลูกได้กลับช่วยลูกข้าไม่ได้เล่า ท่านไม่ช่วยก็คือคนผิด แม้ข้าตายก็จ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะเบา ๆ การรับมือคนไร้เหตุผลง่ายดายนัก เพียงแค่จะต้องไร้เหตุผลยิ่งกว่านางก็จักรับมือได้แล้ว“ท่านพี่รอง ท่านเลิกล้อข้าได้แล้วเพคะ หากเป็นไปได้ หม่อมฉันไม่คิดจะยั่วยุคนเช่นนี้หรอก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวพลางถอนหายใจ“เวลาไม่เช้าแล้ว รอให้เสด็จพ่อมาถึง ก็ให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารขึ้นมา
ไป๋โค้วรู้สึกถึงโทสะจากท่านอ๋องของตนเอง พลันรีบวิ่งไปด้านหลังอู๋ฉิ่งเหยียน สองมือจับบ่าของเขา ก่อนผลักเขาออกมาข้างหน้า “ท่านอ๋อง มิเกี่ยวข้องกับหม่อมฉันนะ คนที่แย่งพระชายาจากท่านเป็นเจ้าหนุ่มคนนี้”อู๋ฉิ่งเหยียนถูกไป๋โค้วโอบไหล่เช่นนี้ ใบหน้าแดงแล้วแดงอีก ทำตัวไม่ถูก“เจ้าขี้ขลาดอันใด?” ไป๋โค้วเห็นห
ทุกคนได้รับอิทธิพลมาจากเขา ก็มิสนใจกฎเกณฑ์ บรรยากาศในงานเลี้ยงจึงนับว่าดีมากฉินเหยี่ยนเย่ว์อดโลภมากดื่มไปหลายจอกไม่ได้เช่นกันฤทธิ์สุราลามเลียไปถึงที่แก้ม จนกลายเป็นสีแดง ชาดทาแก้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าจางหาย ดั่งกลิ่นหอมที่หลอมรวมเข้ากับหิมะฤดูใบไม้ผลิในแววตาคู่งามเป็นสีขุ่นมัว น้ำในดวงตาไหลวน หยาดห
หนาว!น้ำเย็นจัดที่ไหลเข้าจมูกและลำคอนั้น ทำเอาไม่สามารถหายใจได้ในทันทีฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกได้ว่า ศีรษะของนางกำลังถูกใครบางคนกดเอาไว้ทำให้มิอาจลุกออกมาจากน้ำเย็นได้ในระหว่างที่นางกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่นั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายผ่านคลื่นน้ำที่กระจายไปมาได้ใน
“เฮ้อ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มาหา” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาท่านอ๋องสามในความทรงจำของเจ้าของเดิมนั้น เป็นบุรุษเจ้าชู้โดยแท้ฉินเหยี่ยนเย่ว์จึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้า พร้อมทั้งเป่าผมให้แห้งอย่างลวก ๆเดิมทีร่างกายนี้ยังอ่อนแอมากนัก แม้ว่าจักจะอาบน้ำต้มยาเพื่อขับไล่ความหนาวเย็นออกไปแล้วก
“ยังมิเหมาะที่จะด่วนสรุปในตอนนี้?” นัยน์ตาของท่านอ๋องสามพลันฉายแววเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยหางตา “มีคนเห็นว่าเจ้าเตะเสวี่ยเอ๋อร์ลงไป เจ้ายังกล้าที่จะปฏิเสธอีกหรือ?”“หม่อมฉันมิเคยคิดที่จะปฏิเสธเพคะ”ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางยืนตัวตรง ทั้งน้ำเสียงและนัยน์ตาที่สื่อออกมาหาได้มีท่าที
สีหน้าของท่านอ๋องสามพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเองก็คร้านที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป จึงได้ก้าวเดินออกไปด้วยท่าทีฉุนเฉียวในทันที ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่หลับตาลง ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมทั้งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมานั้น พลันกลายเป็นไอหมอกสีขาวขุ่นในทันที พลางจางหายไปในอากาศอย