ใบหน้าของนางกำนัลอาวุโสมืดลง เมื่อเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ตวัดฝ่ามือลงมา หัวเราะเสียงเย็น และคว้าแขนของนางอย่างแรง มันทรงพลังมาก ราวกับว่าจะบดขยี้นาง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว “พระชายาอ๋องเจ็ดอย่ารังแกคนอื่นสิเพคะ บ่าวมิทราบได้จริง ๆ ว่าสาวใช้ของท่านอยู่ที่ใด...”คำพูดของนางยังไม่จบ จู่ ๆ ฉินเหยี่ย
นางกำนัลอาวุโสไร้วิธีต่อต้าน มองดูใบหน้าของตัวเองที่บวมจนกลายเป็นหัวหมูอย่างทำอะไรไม่ถูก “ท่าน ท่านกล้าทำเช่นนี้กับข้า” นางเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอีกครั้ง และจ้องฉินเหยี่ยนเย่ว์เขม็ง “องค์หญิงจะต้องฉีกท่านเป็นชิ้น ๆ แน่นอน”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เตะขาไปเตะนั้น กระแทกตันเถียนล่างของนางเข้าอย่างจังนางกำนัลอา
องค์หญิงมู่เหยี่ยเดินออกมา มองดูลานที่สกปรก และนางกำนัลกับขันทีที่นอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้น ก็ระเบิดความโกรธออกมา “ปี้เถา เกิดเรื่องอันใดขึ้น?"“องค์หญิง เป็นนางเพคะ” นางกำนัลอาวุโสชี้ไปที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์พร้อมเสียงเศร้าระคนโกรธ “เป็นนางที่นำม้าบ้าตัวนั้นมา ทุบตีคนของพวกเรา ทำให้ลานเรือนสกปรก และยังวา
“ข้าอยากจะตบเจ้า แม้ว่าข้าจะตบเจ้าจนตาย ก็ไม่มีใครกล้าสนใจ” องค์หญิงมู่เหยี่ยกล่าวพร้อมยกมือขึ้น “ข้าจะตบเจ้าให้ตาย พี่เจ็ดก็จะสามารถแต่งงานให้พี่ซูมาเป็นพระชายาได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์เคยเห็นนางทำร้ายม้าด้วยฝ่ามือเดียว ถ้าโดนตบจริง ๆ นางคงไม่มีโอกาสตอบโต้ด้วยซ้ำตงฟางหลีพูดถูก เมื่อเผชิญกับความแข็ง
ฝ่ามือขององค์หญิงมู่เหยี่ยนั้นรุนแรงและทรงพลัง โดยมีคลื่นสังหารอย่างแข็งแกร่งฝ่ามือนี้รุนแรงมากเสียจนหากกระทบเข้าที่ร่างกาย อัตราการเสียชีวิตจะเต็มร้อยส่วนท่ามกลางความเร็วปานสายฟ้าแลบ ฉินเหยี่ยนเย่ว์พบโอกาสเหมาะสม ทันใดนั้นของเหลวในขวดกระเบื้องเคลือบในมือก็หกออกมาขวดกระเบื้องเคลือบมีปากที่กว้าง ด
“พี่ซู ข้าอยากอาบน้ำ ข้ารู้สึกอึดอัดมาก” องค์หญิงมู่เหยี่ยตัวสั่นเทาจากความหนาวเย็น ดวงตาแดงก่ำ “มันสกปรกเหลือเกิน น่าสะอิดสะเอียนเหลือเกิน”“องค์หญิงไม่ต้องร้อนใจ” ซูเตี่ยนฉิงสวมเสื้อผ้าให้นาง เช็ดแก้มให้นางด้วยผ้าเปียก “มาจัดการเรื่องตรงหน้ากันก่อน แล้วข้าจะพาท่านไปอาบน้ำที่ทะเลสาบชุ่ย”องค์หญิงมู
“ยามค่ำเมื่อสี่วันก่อน พี่ซูของท่านมาที่จวนอ๋อง สาวใช้และแม่นมของนางเดินมาชนหม่อมฉัน จึงถูกหม่อมฉันสั่งสอนอย่างเข้มงวดไปยกหนึ่ง ในตอนนั้น สาวใช้ผู้นั้นถูกหม่อมฉันตบเสียจนโง่งม ส่วนแม่นมที่ผรุสวาทใส่หม่อมฉัน เกรงว่าลิ้นของนางคงจะเน่าไปเสียแล้วกระมัง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกซูเตี่
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ร้อนรนเล็กน้อยพิษของดอกบัวดำมีประสิทธิภาพดีมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวัตุดิบที่พิเศษ จึงยากที่จะทำขึ้นมาในปริมาณมาก ปริมาณพิษที่นางทำขึ้นไม่เยอะ เมื่อครู่เพิ่งจะใช้ไปกับสาวใช้ในวังไปเล็กน้อย และเทลงในปัสสาวะม้าในแจกันอีกนิดหน่อย เหลืออยู่อีกไม่เท่าไรยาพิษที่ผสมลงในแจกันนั้น หลังจากถ
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา
“เป็นผู้ใด?” ตงฟางหลีถามฉินเหยี่ยนเย่ว์ถอนหายใจลึก ๆ มือกำแขนเสื้อแน่นบนจดหมายที่นกกางเขนเงาส่งมา เป็นเรื่องที่นางไหว้วานให้พระชายาอ๋องเฉียนสืบสวนจริง ๆบนจดหมายไม่ได้มีเพียงข้อมูลที่เกี่ยวกับงูเพลิงแดงเท่านั้น พอเหมาะพอเจาะกับที่ยังมีข่าวของงูสวรรค์สีดำสนิทอีกด้วย!งูสวรรค์สีดำสนิทและงูเพลิงแดงสี
“พิษร้ายแรง?” ตงฟางหลีขมวดคิ้ว “เมื่อครู่ท่านมิใช่บอกว่าไม่รู้เรื่องพิษหรืออย่างไร?”“ข้าคร้านจะบอกเจ้าเท่านั้นเอง” ลู่จิ้นกลอกตาใส่ตงฟางหลี“ศิษย์น้องหญิง เจ้าอย่ากังวลเลย สิ่งนั้นถูกข้าจับไว้ได้แล้ว อยู่ตรงนี้” เขาโบกขวดกระเบื้องในมือไปมา“เหตุใดงูสวรรค์ถึงได้ปรากฏตัวที่นี่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์สับสน
มือของฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกลงบนหัวของเฮยตั้นพลางถอนหายใจลึก“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ พวกท่านไม่ต้องกังวล”“จะไม่เป็นไรได้อย่างไร? เมื่อครู่ข้าตกใจแทบตาย” ตงฟางหลียังคงหวาดผวาอยู่ในใจ“หม่อมฉันไม่เป็นไรจริง ๆ ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยกมือขึ้น สัมผัสแก้มซีดขาวของตงฟางหลีท่าทีของชายผู้นี้ผิดปกติแม้ว่าใบหน้าของเขา
ความโกรธของตงฟางหลียิ่งมากขึ้นเขาระงับอารมณ์หุนหันพลันแล่นที่จะทุบหัวของลู่จิ้นสักหมัด ถามด้วยเสียงทุ้มลึก “เหยียนเย่ว์ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?"“ยังไหว”“ยังไหว หมายความว่าอย่างไร?” ตงฟางหลียังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์น่าหวาดผวาเมื่อครู่นั้น ครั้นได้ยินคำตอบส่งเดชของลู่จิ้น จึงอดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียง“ค
หลังจากที่เฮยตั้นปล่อยของสิ่งนั้นออก ของสิ่งนั้นก็หนีออกไปด้วยการยืดและหดตัว“เหมียว” เฮยตั้นเห็นว่ามันจะหลบหนี จึงกระโจนไปตะครุบใส่ และกัดส่วนหัวของมันอย่างรุนแรงฉีกทึ้งอย่างแรง และของสิ่งนั้นก็แยกออกเป็นสองท่อนหลังถูกแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เฮยตั้นชะงักไปชั่วขณะ อุ้งเท้าทั้งสอง
น้ำเสียงนั้นราวกับกำลังบอกว่า...ไว้หน้าแล้วไม่รู้จักรับ!หลังจากนั้น กรงเล็บก็ตวัดมาทางเขาหลังจากอุ้งเท้าของมันเคลื่อนออก เจ้าสิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับเส้นผมตัวนั้นก็คิดจะหลบหนี“เมี้ยว!” เฮยตั้นไม่สนใจสั่งสอนตงฟางหลีทาสผู้โง่เขลาคนนี้อีกมันกระโจนเข้าไปอย่างดุดัน และตบของสิ่งนั้นอย่างรุนแรง ก่อนจะใช้
เงาดำสายหนึ่งกระโดดเข้ามาจากทางประตูร่างกายอวบอ้วนที่แข็งแรงประหนึ่งบินเข้ามา มาถึงตรงหน้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ในพริบตา“เมี้ยว”เฮยตั้นกระโดดขึ้นบนศีรษะของนางอย่างรวดเร็วและรุนแรง ร่างกายปิดดวงตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ขาหลังเกือบจะปิดแก้มของนางกรงเล็บหน้าขยุ้มผมนางเมื่อการมองเห็นของฉินเหยี่ยนเย่ว์ถูกบดบัง
อาการปวดศีรษะจนยากจะทนรับไหวถาโถมเข้ามาไม่หยุดราวกับมีเข็มจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงที่ศีรษะ เป็นความรู้สึกอันน่าหวาดกลัวที่ไม่เคยประสบมาก่อนเวลาผ่านไปเพียงชั่วพริบตา เหงื่อเม็ดโตก็ไหลพรากอาภรณ์เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นกันนางทนรับความเจ็บปวดเช่นนั้นไม่ไหว น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างยากจะต้านทานร้องไห้สะอึ