ไม่ว่าผลสรุปออกมาเป็นแบบไหน ล้วนแต่เป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งนั้นฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มเยาะเย้ยออกมาในทันที ดูเหมือนว่านางจะต้องไปพูดคุยกับหมอหลวงหน่อยเสียแล้วหมอหลวงที่รู้สึกได้ถึงการจ้องมองของฉินเหยี่ยนเย่ว์นั้น พลันตัวสั่นเทาไปในทันที ก่อนจะรีบถอยกายกลับไปหลังจากที่ฝูงชนที่เหลือจากไปแล้วนั้น หลงเหลื
"เด็กน้อย" ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ถอนหายใจออกมา "มีบางอย่างที่เจ้ายังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ ดังนั้นอย่านึกฝืนตัวเองเลย การเติบโตขึ้นถือเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดสำหรับเจ้า"ตงฟางอิงที่มีท่าทีโศกเศร้าเช่นนี้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่รู้ว่าจะปลอบเขาอย่างไรดีหลังจากมารดาของตนเองสิ้นใจเขากลับต้องมาอาศัยอยู่กับมา
ครั้นนางปรากฏตัวก็แทบจะดึงดูดสายตาของทุกคนสุดท้ายแล้ว การทุบตีแม่นมข้างกายฮองเฮาในที่สาธารณะ ทั้งยังบังคับให้ฮองเฮากำจัดแม่นมทั้งสองทิ้งนั้น เรื่องที่ใจกล้าบ้าบิ่นพรรค์นี้ ก็เป็นคนเสียสติคนนี้เท่านั้นที่ทำได้มิมีผู้ใดเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้อง ทว่าข่าวที่ว่าองค์ชายสิบได้รับการช่วยชีวิตนั้นแพร่กร
เสื้อผ้าของซูเตี่ยนฉิงพลิ้วไสว ใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์อยู่ท่ามกลางหิมะขาวและดอกเหมยแดง ราวกับเทพธิดาลงมายังดินแดนมนุษย์นางมีรูปร่างอรชร หลังจากขึ้นมาจนถึงศาลาก็หายใจเข้าลึก ๆ เล็กน้อย บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่อประปราย“แม่นางซู มีเรื่องอะไรหรือ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอนตัวไปพิงราวบันได สอดส่องสายตาไปไกล“เสด็จพี่ห
การเปลี่ยนแปลงนั้นเล็กน้อยมาก จนแม้แต่ตงฟางหลีเองก็อาจไม่สังเกตเห็นทว่านางรู้ว่าเขาเปลี่ยนไปแล้วในครั้งอดีต หากมีสตรีสัมผัสแขนเสื้อของเขาก็จะรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างยิ่ง แม่นางหงเย้าที่พระสนมอวิ๋นมอบแก่เขา แม้ว่านางจะอาศัยอยู่ในตำหนักหมิงอวี้ กลับไม่สามารถเข้าไปในห้องของเขาได้เลยยามนี้ตงฟางหลีไม่เ
หิมะโปรยปรายลงมา และภายใต้คลื่นสังหารอันรุนแรง เกล็ดหิมะที่จะตกมิตกแหล่ไม่สามารถรับแรงกดดันได้จนปลิวว่อนลงมาคลื่นสังหารกลายเป็นใบมีด มาพร้อมกับลมหนาวและหิมะตก ทั้งมวลนี้ปกคลุมร่างของฉินเหยี่ยนเย่ว์ทิวทัศน์งดงามกลายเป็นนรก“เสด็จพี่หลี” ซูเตี่ยนฉิงกอดเอวของตงฟางหลี ใบหน้าซีดเผือด สะอื้นไห้ไม่หยุด “
นางแทบจะต้องยึดราวบันไดไว้ตัวเพื่อยืนให้ตั้งมั่นฉินเหยี่ยนเย่ว์มองท่าทางภาคภูมิใจของซูเตี่ยนฉิง มองตงฟางหลีปล่อยคลื่นสังหารอันน่าสะพรึงกลัวใส่นางเพื่อสตรีผู้นี้ในใจมีความเดือดดาลไร้นามพลุ่งพล่านขึ้นมา“เฮอะ ซูเตี่ยนฉิง ผลลัพธ์เช่นนี้ในยามนี้ ท่านน่าจะพึงพอใจแล้วกระมัง? เสด็จพี่หลีของท่านก็ยังคงเป็
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยืนตัวตรงและนิ่งสงบภายใต้ความสงบนี้ มีความอึดอัดอดกลั้นและความกดดันที่ไร้รูปร่างปกคลุมลงมาแม้ว่าเป็นตงฟางหลีก็ยังตกใจกับความกดดันนี้“ตงฟางหลี หม่อมฉันเคยบอกแล้วว่าไม่ควรผิดพลาดซ้ำเกินสามครั้ง มิว่าท่านจะใช้มือข้างใดตบหม่อมฉัน หม่อมฉันจะทำลายมือข้างนั้นของท่านเสีย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ
บนใบหน้าเย็นชาและแน่วแน่นั้น เผยให้เห็นถึงสีหน้าไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่งร่างกายสูงใหญ่ของเขาถอยหลังไปอย่างไร้ร่องรอย น้ำเสียงนั้นทั้งลำบากใจทั้งเจ็บปวด “หวั่นเอ๋อร์...ไม่สิ พระชายาเฉียนจากไปแล้ว และคงไม่มีวันกลับมาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เรือนบุปผาหาได้มีผู้ใดอยู่ไม่ เชิญท่านอ๋องเจ็ดกลับไปเถิด”ยามที่จางฉู
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เวลาที่เหยี่ยนเย่ว์จะได้รับความทรมานก็จะยิ่งนานมากขึ้นเท่านั้นยามที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา หน้าผากตงฟางหลีถึงกับเต้นตุบ ๆ โดยไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกไปเองหรือไม่เขามักจะรู้สึกว่า แม้ว่ายัยหนูของเขาจะพลั้งเผลอถูกคนลักพาตัวไปทว่า มิใช่สตรีที่จะปล่อยให้ผู้อื่นเข่นฆ่าได้
ขณะเดียวกันภายในหอฉยงฮวาใบหน้าตงฟางหลีดำทะมึนนิ้วของเขาเคาะที่โต๊ะเบา ๆหลังจากคาดเดาได้ว่าเหยี่ยนเย่ว์อาจถูกเฉียนอ๋องลักพาตัวไปเขากลัวว่าหากเข้าไปหาตรง ๆ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นกลัวว่าหลังจากพี่ใหญ่ที่มีนิสัยวิปริตเช่นนั้นถูกกระตุ้นเข้า จะทำอันตรายต่อเหยี่ยนเย่ว์ดังนั้น จึงมาที่หอฉยงฮวาก่อ
ท่ามกลางการนองเลือดพร่าเลือน เขาตกตะลึงและเผยสีหน้าเหลือเชื่อ “เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร?”“ดูเหมือนข้าจะเดาถูก” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เย้ยหยันเดิมทีนางไม่แน่ใจนัก และอยากหลอกลวงเขาคิดไม่ถึงว่าการหลอกลวงจะประสบผลสำเร็จในครั้งเดียวการกระทำโหดเหี้ยมเกิดขึ้นที่ก้นทะเลสาบ ช่างเข้ากับนิสัยวิปริตนี้จริง ๆ“เจ้ารู้ได
เฉียนอ๋องทนไม่ไหวจึงกระอักเลือดออกมาเต็มปากในเลือดนั้น ยังพาให้ฟันขาวหลุดออกมาฟันตรงนั้นเต็มไปด้วยเลือด กลิ้งไปบนพื้นหลายรอบก่อนจะหยุดลงขากรรไกรของเฉียนอ๋องได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถปิดปากได้ชั่วขณะ เลือดและน้ำลายไหลลงมาไม่หยุด น่าคลื่นไส้นัก“ถุย ผู้หญิงอำมหิต เจ้ากำเริบเสิบสานได้ไม่นานหรอก คอยดูเถ
เฉียนอ๋องเพิ่งถูกเฆี่ยนไปเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็เจ็บปวดจนมีเหงื่อกาฬเม็ดใหญ่ไหลออกมา“ดูเหมือนท่านจะรู้สึกตัวแล้ว” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองใบหน้าซีดเผือดของเฉียนอ๋อง และออกแรงมากขึ้น “ข้าโรยบางอย่างลงบนแส้นิดหน่อย”“เมื่อแส้พบเลือด ความเจ็บปวดของท่านจะทวีคูณขึ้น และเมื่อข้าเฆี่ยนท่านหนึ่งแส้ ท่านจะเจ็บปวดไ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์นึกถึงท่าทางที่น่าสงสารขณะที่หายใจรวยรินของเซียวเซี่ยงหวั่นนึกถึงความทรมานอันไร้มนุษยธรรมที่เซียวเซียงหวั่นต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในช่วงเวลานี้...ไม่เพียงแค่เซียวเซี่ยงหวั่นเท่านั้นยังมีหญิงสาวคนอื่น ๆ เสียชีวิตอยู่ในห้องลับแห่งนี้ด้วยเดิมพวกนางอยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ
หลังจากพลิกสถานการณ์กลับแล้ว เขาจะต้องทำให้นางเสียใจที่ได้เกิดมาเป็นสตรี!เฉียนอ๋องหลุบสายตาลง และหาโอกาสที่เหมาะสมถือโอกาสตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์เข้ามาใกล้ จึงใช้มือข้างที่เหลืออยู่ลอบโจมตีไปฉินเหยี่ยนเย่ว์จับความเคลื่อนไหวของเขาได้นานแล้วคนชั่วร้ายวิปริตเช่นเฉียนอ๋อง ไม่มีคำว่าน่ารังเกียจที่สุด ม