โตมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยมีใครกล้าหลอกลวงนางไอ้เด็กเปรต!“หลิงเชียนอี้ ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้าหลบครั้งนี้ได้ แต่หลบตลอดไปไม่ได้หรอก ถ้าข้าจับตัวเจ้าได้ เจ้าตายแน่!”ฉู่เชียนหลีกำหมัด ตะโกนเสียงดัง เมื่อหวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ทั้งน่าตกใจและอันตรายนั้น นางก็โมโหจนลำคอแดงก่ำถ้าหากไม่ใช่เพราะนางฉลาดปราดเปรื่องหนีไว ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องโหดร้ายอะไรขึ้นหลิงเชียนอี้ไอ้คนน่ารังเกียจ!ยังพูดว่าเสียดายที่เจอกับนางช้าไป อยากจะเป็นเพื่อนสนิทอะไรต่าง ๆ นานา พริบตาเดียวก็ทรยศนางเสียแล้ว“ไอ้สารเลว!”“พี่หญิง...”ทันใดนั้น น้ำเสียงประหลาดใจเสียงหนึ่งก็แทรกเข้ามาฉู่เชียนหลีชะงักไปทันที หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นเซียวจือฮว่ายืนอยู่บนทางเดินเล็ก ๆ ที่เป็นหินกรวด ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร กำลังกุมปาก มองมาทางนางด้วยสีหน้าด้วยใบหน้าตื่นตะลึงพี่หญิงกำลัง...สบถด่าอยู่งั้นหรือ?พระชายาอ๋องเฉินมีฐานะเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ ฐานะสูงส่ง เหตุใดถึงได้ทำตัวเยี่ยงหญิงบ้านป่า?ฉู่เชียนหลีเงียบไปเล็กน้อย จากนั้นเอามือลง จัดระเบียบเสื้อผ้า และทัดลูกผมไว้ข้างหู ทำสีหน้าท่าทางสง่างามดังเดิมทันที บนใบห
เขายิ่งพูดยิ่งรีบร้อน ยิ่งกำมือทั้งสองข้างของนางเอาไว้แน่น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามฉู่เชียนหลีจะออกแรงขนาดไหนก็สะบัดเขาไม่หลุด“ปล่อยข้า!”“เสียวฉู่ ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังโมโหเรื่องที่ข้ากับคุณหนูรองฉู่คบหากัน แต่เจ้าวางใจ ในใจของข้ามีเพียงเจ้าเท่านั้น แม้ว่าบนใบหน้าของเจ้าจะมีปาน ข้าก็ไม่เคยใส่ใจมาก่อน หัวใจของข้าที่มีต่อเจ้า หรือว่าเจ้ายังไม่เข้าใจ?”“ปล่อยมือ!”“เสียวฉู่ อย่าเก็บความรู้สึกภายในใจของตนเองเลย ให้ข้ากอดเจ้าหน่อยเถิด!”ออกแรงกอดแน่นฉู่เชียนหลีมุดหัวเข้าไปในอ้อมอกของชายหนุ่ม ทั่วทั้งหน้ามุดเข้าไปในทรวงอกของเขา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมแรงของชายหนุ่มถึงได้มากมายขนาดนี้ รัดนางเอาไว้แน่น อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกนางพยายามต่อสู้ ดิ้นรน ยิ่งพยายาม ชายหนุ่มยิ่งกอดแน่นอารมณ์ที่ลึกซึ้งระหว่างทั้งสองคนกำลังหลั่งไหล ไม่มีใครเห็นเงาร่างสีดำที่ยืนอยู่บริเวณไม่ไกลจากตรอก ฉากนี้สะท้อนอยู่นัยน์ตาดำขลับที่ยากจะหยั่งถึงตั้งนานแล้ว...หันหลังกลับ แล้วเดินจากไปในที่สุด!ฉู่เชียนหลีกระทืบเท้าของเขาทีหนึ่งถึงได้ดิ้นหลุดออกจากอ้อมกอดของเขาได้ ถอยหลังออกไปไกล เอ่ยเสียงเย็นชา“คุณชายหาน‘ฉู่เชียนห
ครืดเสียงโซ่เหล็กดังขึ้นเบา ๆ เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงฝีเท้าจึงเงยหน้ามองไป พริบตาเดียว ท่าโน้มตัวของเขานั้นราวกับกำลังรอเหยื่อ ดวงตามืดมนราวกับบ่อน้ำโบราณที่มองไม่เห็นก้นบ่อ อากาศเย็นที่ซ่อนอยู่ในนั้นยิ่งทำให้อากาศหนาวเป็นน้ำแข็งริมฝีปากบางเผยอออก“เข้ามา”คำพูดที่เย็นชาสองคำ แทบจะแยกแยะอารมณ์ของเขาไม่ออกไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หัวใจของฉู่เชียนหลีบีบรัดทันที แต่นางไม่ได้ทำเรื่องละอายใจอะไร จะละอายใจทำไม?เมื่อสงบสติอารมณ์แล้วก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในทันใดนั้น ชายหนุ่มยกแขนเสื้อขึ้น ปล่อยกำลังภายในกลุ่มหนึ่ง กระแทกเข้าไปที่ประตูปัง!ฉู่เชียนหลีหันหน้าไปมองตามจิตสำนึก เมื่อเห็นว่าประตูปิดลงแล้ว แต่ยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ได้กลิ่นอายที่อันตรายกลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้นางเมื่อหันหน้ากลับไป ก็เห็นชายหนุ่มลุกขึ้น เดินมาทางนาง ร่างกายที่สูงใหญ่กำยำทอดเงาขนาดมหึมา เข้ามาใกล้ทีละก้าว ๆ แสงดำมืดแผ่คลุมนางทีละนิด ๆ ปลายนิ้วของเขากำลังเล่นกับโซ่เหล็กด้วยท่าทางสบาย ๆ“ท่าน...”แผ่นหลังของฉู่เชียนหลีเย็นขึ้นเล็กน้อย ร่างกายเกร็งขึ้นบางส่วนอย่างอดไม่ได้“ท่าน...เป็นอะไรไป?”เขาจ้องมองนางด
นางบิดร่างกาย พยายามถีบขาบิดตัว พยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่ ขัดขืนการเข้าใกล้ของชายหนุ่มเป็นอย่างหนักชายหนุ่มใช้กำลังกดนางเอาไว้ น้ำหนักของร่างกายราวกับภูเขาลูกใหญ่ ลมหายใจที่รุนแรง พันธนาการอย่างเผด็จการ ยิ่งไม่ให้ขัดขืนนางจำต้องยอมรับ สิ่งที่เขาพยายามยัดเยียดให้!“ข้าไม่ต้องการ!”“ปล่อยข้า!”“อ๊า!”ฉู่เชียนหลีกรีดร้อง จ้องเขม็งอย่างโกรธแค้น พยายามดิ้นรน มีชีวิตมาสองชาติยังไม่เคยเจอกับเรื่องประเภทนี้ ชายหนุ่มใช้ความได้เปรียบทางพละกำลังที่มีมาแต่กำเนิดกดนางเอาไว้อย่างแน่นหนาด้วยมือเท้าทั้งสองข้างขยับเขยื้อนไม่ได้ นางก็เหมือนกับปลาที่ถูกตรึงอยู่บนเขียง ได้เพียงยอมให้ฆ่าแกงเสื้อผ้าไหลลงจากหัวไหล่มาที่แขนหัวไหล่และหน้าอกรู้สึกหนาว...ไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนอย่างไรก็ไม่ขยับ ภายใต้ความตื่นตระหนก เงยหน้ากระแทกเข้ากับบ่าของชายหนุ่ม อ้าปากแล้วออกแรงกัดทีหนึ่ง“อือ!”ชายหนุ่มเจ็บปวด การกระทำชะงักไปเล็กน้อยการกัดครั้งนี้ ไม่ออมแรงแม้แต่น้อย ได้ลิ้มรสกลิ่นคาวเลือดโดยตรงชายหนุ่มกวาดสายตาที่เย็นยะเยือกไปยังศีรษะเล็กที่อยู่บริเวณหัวไหล่ ปลายนิ้วที่เย็นเยือกบีบคางของหญิงสาวเอาไว้ ออกแร
ด้านนอกเรือนหานเฟิงฉู่เชียนหลีคว้าเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง วิ่งที่ด้านหลังภูเขาปลอมด้วยท่าทางตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก วิ่งเข้าไปหลบในสถานที่ลับตาคนถึงจะกล้าหยุดวิ่งกระหืดกระหอบ ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นเยือกเป็นน้ำตา...นางลูบใบหน้าที่เปียกชื้นอย่างตกใจกลัว นางไม่กลัวฟ้า ไม่กลัวดิน ฝีมืออยู่กับตัว กล้าหือกับทุกคน แต่กลับถูกเฟิงเย่เสวียนทำให้ตกใจจนร้องไห้ออกมา?ไม่เอาไหนจริง ๆ !เมื่อนึกย้อนกลับไปเมื่อครู่นี้ สีหน้าของนางก็หม่นหมองลงอึมครึมเป็นอย่างยิ่งเป็นเซียวจือฮว่าบอกนาง ว่ามีคนมาหานางเฟิงเย่เสวียนก็รู้เรื่องที่นางไปพบกับหานมู่ซีเดาออกได้ไม่ยาก เรื่องนี้จะต้องเป็นฝีมือของเซียวจือฮว่าเซียวจือฮว่า!ฉู่เชียนหลีจัดเสื้อผ้า นำผมที่ยุ่งเหยิงทัดข้างหูเรียบร้อย ปรับลมหายใจเรียบร้อย รอจนกระทั่งตอนที่มองความผิดปกติใดๆไม่ออก ถึงได้เดินออกมาจากด้านหลังภูเขาปลอม เดินมุ่งหน้าไปยังเรือนหมิงเยว่ด้วยสายตาที่มืดครึ้มระหว่างทาง มีคนจำนวนไม่น้อยจ้องมองนางเดิมทีอยากจะทำความเคารพ แต่เมื่อเห็นท่าทางที่เคร่งขรึมบึ้งตึงนั้นของพระชายาก็ตกใจจนก้มหน้างุด ไม่กล้าพูดมากจ
เซียว เป็นแซ่ของเซียวกุ้ยเฟยมารดาของอ๋องเฉินนางเป็นหลานสาวของเซียวกุ้ยเฟย!ฉู่เชียนหลีถูกเซียวจือฮว่าผลักอย่างรุนแรง ถอยหลังไปสามสี่ก้าว ความโกรธครอบงำจิตใจ จึงเข้าไปชนผลักนางคืน“อ๊า!”เซียวจือฮว่าถอยหลังไปเจ็ดแปดก้าวอย่างไม่ทันตั้งตัว กระแทกเข้ากับมุมโต๊ะ ศีรษะกระแทกลงบนพื้น หน้าผากแตกเลือดไหลอาบ“นายหญิง!”เป่าอวี้ตกใจจนส่งเสียงกรีดร้องออกมา “เลือด...อ๊า! เลือดไหล...!”ฉู่เชียนหลีแสยะมุมปากอย่างเย็นชา เหลือบตามองลงไปยังคนที่อยู่แทบเท้า เอ่ยเยาะหยัน“กล้าผลักข้า? เจ้าคิดว่าข้ารังแกได้ง่าย ๆ สินะ! ข้าจัดการเฟิงเย่เสวียนไม่ได้ หรือว่าจะจัดการดอกบัวขาวที่กระโดดโลดเต้นมั่วไปทั่วเช่นเจ้าไม่ได้?”เป็นถึงหมอเทวดาแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด จะยอมถูกนังแพศยาคนนี้รังแกได้อย่างนั้นเหรอ?ถ้าหากมีครั้งหน้า ก็คงไม่ใช่แค่การผลักทีเดียวง่าย ๆ แบบนี้อีกแล้ว!เฮอะ!นางนวดหัวไหล่ที่เจ็บปวด สะบัดแขนเสื้ออย่างเย็นชาแล้วเดินจากไปเซียวจือฮว่าล้มอยู่บนพื้นด้วยท่าทางอ่อนแอ เจ็บปวดจนหายใจหอบเป็นระยะ รู้สึกว่าเลือดนั้นไหลเข้าตา ย้อมสายตาที่มองเห็นเป็นสีแดง แต่นางกลับค่อย ๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มแปลกประหล
“แค่ก ๆ... แค่ก...”บนตั่งนอน เซียวจือฮว่าร่างกายแขนขาอ่อนแรง “แค่ก...เฉิน ไม่ ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่หญิง...แค่ก ๆ”เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ เพียงประโยคเดียว นางพูดด้วยความลำบากยิ่ง ไอไม่หยุด หลังจากพูดจบ ก็หายใจติดขัด ใบหน้างามยิ่งซีดเซียวบาดดวงตาเฟิงเย่เสวียนกดบ่านางเอาไว้ “นอนดี ๆ เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม ข้าย่อมต้องทวงคืนความยุติธรรมให้แก่เจ้า”ทันทีที่เซียวจือฮว่าได้ยินประโยคนี้ก็ร้อนใจ มือเล็กที่เย็นเฉียบรีบคว้ามือของชายหนุ่มเอาไว้“อย่า อย่า...เป็นฮว่าเอ๋อร์...แค่ก ๆ ที่ไม่ระวังล้มเอง...แค่ก...”“อย่าทำให้พี่หญิงลำบากใจ...แค่ก ๆ!”ตัวนางบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ยังไม่ห่วงความปลอดภัยของตนเองคิดแทนพระชายา ฉากนี้อยู่ในสายตาของบรรดาคนรับใช้ เบ้าตาแดงก่ำอย่างอดไม่ได้พระชายารองเซียวจิตใจเมตตาเกินไปแล้ว!พระชายารังแกนางถึงขนาดนั้น แล้วยังทำให้อายุขัยของนางลดไปสามสิบปี คิดไม่ถึงว่านางเลือกที่จะให้อภัยเป่าอวี้ร้องไห้จนดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงแหบแห้ง“นายหญิง ท่านอย่าดื้อรั้นเลยเจ้าค่ะ ท่านอ๋องจะคืนความเป็นธรรมให้ท่าน ถ้าหากท่านไม่ยอมพูด เช่นนั้นบ่าวจะพูดเองเจ้าค่ะ!”เซียวจือฮว่าร้อนใจทัน
เมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินสองคำนี้ ก็อยากจะหัวเราะทันทีให้นางก้มหัว?นอกเสียจากจะตีนางให้ตาย“นางผลักข้าก่อน ข้าก็แค่เอาคืนเท่านั้น เหตุใดต้องขอโทษ? ถ้าหากจะพูดขอโทษ ไม่ใช่ว่านางต้องเป็นฝ่ายมาขอโทษข้าหรอกหรือ?”ชายหนุ่มสายตาเย็นชาลงเซียวจือฮว่าผลักนาง?แต่เรื่องจริงที่เขาได้ยินมาไม่ใช่แบบนี้“จือฮว่าร่างกายอ่อนแอมาตลอด เหตุใดนางจึงต้องผลักเจ้าโดยไม่มีสาเหตุ? เจ้าจงใจไปถึงเรือนหมิงเยว่ ก็คือเป็นฝ่ายไปหาถึงที่ เพื่อให้จือฮว่าผลักเจ้า?”ฉู่เชียนหลีสะอึกทันทีคิดไม่ถึงว่าคำพูดประโยคนี้นางจะไม่มีเหตุผลมาหักล้าง“เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน ในจวนมีคนรับใช้สิบกว่าคนเห็นเจ้า บุกเข้าไปที่เรือนหมิงเยว่ด้วยสีหน้าดุร้ายและโกรธเคือง เจ้ายังกล้าพูดว่าจือฮว่ารังแกเจ้า?”เขาก้าวไปด้านหน้า คว้าข้อมือเรียวเล็กของนางเอาไว้ กระชากนางมาข้างหน้าด้วยท่าทางเย็นยะเยือก“ฉู่เชียนหลี ในใจของเจ้ามีความโกรธก็มาระบายกับข้าซิ รังแกเซียวจือฮว่าที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงนับว่าเก่งอะไร?”“ตามข้าไปขอโทษนาง!”ฉู่เชียนหลีรีบหย่อนก้น ออกแรงถอยไปด้านหลังแล้วเกร็งตัว“ข้าไม่ไป!”นางไม่ได้ทำอะไรผิด เหตุใดจึงต้องยอมก้มหัวให