ฉู่เชียนหลีหวนคืนสติ หันกลับไปมองคนข้างหลังแวบหนึ่ง เม้มปากยิ้มเล็กน้อย“ขอบคุณท่านโหว”ถอนมือกลับอย่างสุภาพ พยักหน้าแสดงความเคารพ ก็เดินเข้าห้องไปดูอาการขององค์หญิงใหญ่แล้วโหวติ้งกว๋อยืนอยู่ตรงที่เดิม มองฝ่ามือที่ว่างเปล่าครู่หนึ่ง กวาดมองแผ่นหลังของนาง แล้วมองอ๋องเฉินที่หายไปจากประตูลานเรือน หลังจากยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก จึงจะเอ่ยปาก“ใครก็ได้”เก็บศพ ล้างคราบเลือด หลังจากความวุ่นวายผ่านไป กลับคืนสู่ความสงบสภาพร่างกายขององค์หญิงใหญ่ค่อยๆ คงที่ ต่อจากนี้แค่พักฟื้นให้ดี ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เวลานี้นางกำลังนอนหลับอย่างเหนื่อยล้า ลูกสาวที่เพิ่งเกิดนอนอยู่ข้างๆ นาง ตัวเล็กๆ แดงๆ ย่นๆ สองสามีภรรยาอายุสามสิบกว่าปีแล้ว มีลูกสาวตอนอายุมากแล้ว โหวติ้งกว๋อชอบมาก สั่งให้นักพรตที่ดูฮวงจุ้ย ทำนายดวงเป็น ทำนายวันเกิดและตั้งชื่อลูกสาวทันที เพื่อขอพรและโชคลาภฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ข้างๆ ลูบท้องของตนเอง มองดูเด็กทารกที่อยู่บนเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เหม่อลอยเล็กน้อย“พระชายาอ๋องเฉิน?”“เมียเจ้าเจ็ด?”“ฉู่เชียนหลี?”“ฮืม?!”เรียกติดต่อกันหลายครั้ง ฉู่เชียนหลีจึงจะหวนคืนสติ มอง
จวนบนภูเขาขนาดใหญ่ บ้านเรือนกับทิวทัศน์ของภูเขากลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทิวทัศน์ธรรมชาติ สวยงามไร้ที่สิ้นสุด ขณะที่ทุกคนรายล้อมอยู่ในเรือนหลัก กำลังห่วงใยสถานการณ์ขององค์หญิงใหญ่กับลูก มุมหนึ่งที่ไม่สะดุดตาของใต้ภูเขาน้ำพุ เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น เก็บก้อนหินขึ้น โยนลงไปในน้ำเป็นระยะๆจ๋อม!จ๋อม!น้ำสาดกระเซ็นเขางอขาทั้งสองข้าง คางพาดอยู่บนหัวเข่า เปลือกตาของเขาตกอย่างไม่ใส่ใจ ไร้ชีวิตชีวาอาจเพราะเหม่อลอย แม้แต่ข้างหลังมีเสียงฝีเท้าก็ไม่ได้ยิน จนกระทั่งเสียงของผู้หญิงดังขึ้น“ไม่มีความสุขอีกแล้ว?”หลิงเชียนอี้ชะงักครู่หนึ่ง หันกลับไปเห็นอวิ๋นอิงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อน หลังจากนั้นก็รีบเก็บอารมณ์ด้านลบทั้งหมด “เปล่า!”“ข้าแค่เป็นห่วงท่านแม่เกินไป และช่วยอะไรไม่ได้ ก็เลยมาสูดอากาศ”อยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ แสดงมาดและท่าทางที่ดีที่สุดของตนเองออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าหญิงหรือชาย ล้วนเป็นธรรมชาติของมนุษย์อวิ๋นอิงกะพริบตาปริบๆ เอียงศีรษะมองไปทางเขา ผมสั้นที่เรียบร้อยสะบัดออกอย่างเป็นธรรมชาติมีหรือที่นางจะมองความคิดของท่านโหวน้อยไม่ออก?สิบแปดปีก่อน เขาเป็นลูกชายคนเดียวของท
คำพูดที่โพล่งออกมา แม้แต่อวิ๋นอิงก็ตะลึงงันแล้วนางพูดเช่นนี้ได้อย่างไร…หลิงเชียนอี้กลับหมุนกายฉับพลัน เดินปรี่เข้ามาตรงหน้านาง จับไหล่ทั้งสองข้างของนาง เหมือนดีใจจนคลั่ง“อวิ๋นอิง ถ้าหากเจ้ายินดีพึ่งพาข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน!”เขาจะแบกความรับผิดชอบของลูกผู้ชายคนหนึ่ง มอบความรู้สึกปลอดภัยให้นาง หรือแม้กระทั่งที่พักพิงสำหรับหลบลมหลบฝนบ้าน!อวิ๋นอิงจับริมฝีปากของตนเองอย่างตะลึงงัน “ข้า…” เดิมทีนางอยากปลอบใจเขา แต่คำพูดที่มาถึงปลายลิ้น…เหตุใดจึงกล่าวออกไปเป็นอีกความหมาย“ท่านโหว ข้า…”“เยี่ยมไปเลย!”หลิงเชียนอี้ดีใจจนดึงคนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยตรง กระชับแขน กอดนางแน่น “เยี่ยมไปเลย! อวิ๋นอิง เจ้าวางใจ ต่อไปข้าจะไม่โกรธง่ายๆ แล้ว ข้าจะกลายเป็นผู้ใหญ่ หนักแน่น และทำงานใหญ่เหมือนท่านน้าเฉิน!” อารมณ์ของเด็กหนุ่มมาเร็ว แต่ก็ไปเร็วเช่นกันเมื่อครู่ยังอัดอั้นไม่มีความสุข ตอนนี้หัวเราะเหอะๆ แล้วหัวเราะจนเหมือนกับคนบ้าที่ได้รับลูกอม “อวิ๋นอิง เจ้าพูดถูก ข้าเป็นผู้ชาย ต้องหนักแน่นหน่อย ข้าจะไม่ใช้อารมณ์กับน้องสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิด อย่างมากก็กระทืบนางสามห้าวันสักยกเพื่อระ
คำพูดประโยคเดียว ทำให้แววตาอวิ๋นอิงขรึมลงทันที และยิ่งทำให้นางกลับสู่ความเป็นจริงสาวใช้…ใช่แล้ว นางเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไร้พ่อไร้แม่คนหนึ่ง ส่วนเขากลับเป็นถึงท่านโหวน้อย ลูกชายของเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นตงหลิง เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝนนางกับเขาคนละฟ้า คนละดิน นางกำลังพร่ำเพ้ออะไร? และกำลังเพ้อฝันอะไร?อวิ๋นอิงเม้มปาก ปัดความคิดที่ไม่ควรมีทั้งหมดในสมองทิ้ง ถอนสายบัวคำนับ“ท่านโหวน้อย บ่าวขอตัวก่อนเจ้าค่ะ”พูดจบก็ยกเท้าไปเลยหลิงเชียนอี้รู้สึกถึงความผิดปกติ รู้จักนางมานานเช่นนี้ นางเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา ไม่เคยเสแสร้ง พูดหนึ่งไม่เป็นสอง จิตใจกว้างขวางและรักอิสระ ยิ่งไม่เคยใช้คำว่า ‘บ่าว’ แทนตนเองนางจ้องกู้ชิงชิงอย่างเย็นชา“ข้างกายข้ามีใครที่ไหน เกี่ยวอะไรกับเจ้า? สัญญาณแต่งงานของเจ้ากับข้าได้ยกเลิกนานแล้ว หากเจ้ายังชี้มือชี้เท้ากับคนของข้าอีก อย่าโทษว่าข้าไล่เจ้าออกจากจวน!”ม่านตากู้ชิงชิงหดอย่างตะลึงงันเขาดุนางเขาดุนางเพื่อสาวใช้คนหนึ่ง…ผู้อาวุโสของพวกเขาเป็นคนกำหนดสัญญาแต่งงาน สองตระกูลมีมิตรภาพยาวนานหลายชั่วอายุคน เชื่อมความสัมพันธ์ด้วยกันแต่งงาน การรวมกันของเศรษฐ
คิดไม่ถึงว่าสาวใช้คนนี้จะสงบใจเย็นและฉลาดมีไหวพริบ ถึงกับเปิดโปงนางในที่เกิดเหตุ ทำให้กู้ชิงชิงอับอายเล็กน้อยหลิงเชียนอี้ขมวดคิ้ว “อวิ๋นอิง พวกเราไป!”กู้ชิงชิง “...”นางเป็นภรรยาที่ยังไม่ได้แต่งงานของเขานะปกป้องผู้หญิงคนอื่นต่อหน้านาง จะให้นางเอาหน้าไปไว้ที่ใด? ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นองค์หญิงหรือจวิ้นจู่[1] ก็พอเข้าใจได้ แต่นี่เป็นแค่สาวใช้ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง มีอะไรที่สู้นางได้? นี่ไม่ใช่กำลังตบหน้านางหรือ?กู้ชิงชิงคลานลุกขึ้น ใช้หลังมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้า “หยุดเดี๋ยวนี้!”เดินไปที่ตรงหน้าอวิ๋นอิง กล่าวอย่างเย็นชา“ต่อให้ก่อนหน้านี้ข้าจงใจล้ม แล้วอย่างไร? เมื่อครู่เจ้าผลักข้าล้มเป็นเรื่องจริง สาวใช้ตัวเล็กๆ ล่วงเกินเบื้องสูง ใครเป็นคนสอนมารยาทแก่เจ้า?”อวิ๋นอิงจ้องนางอย่างเย็นชา “ข้าก็แค่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง”“พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองก็สามารถผลักข้าหรือ?” กู้ชิงชิงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้าบอกว่าข้าไม่ได้ฆ่าคน เช่นนั้นเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ก็ต้องฆ่าเจ้าใช่หรือไม่ จึงจะนับว่าพิสูจน์ตัวเอง?”พูดจาฉะฉาน เถียงข้างๆ คูๆ กลับมีมาดของคนมีเหตุผลไม่ยอมคนหลิงเชียนอี้
“น้าสะใภ้ระวัง!”“พระชายา!”ฉู่เชียนหลีตั้งหลักอย่างมั่นคง พลันหรี่ตาลง ยกมือก็กระชากข้อมือของกู้ชิงชิง “ข้าอาศัยตระกูลฉู่?”นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุดในปีนี้ตอนอยู่ตระกูลฉู่ บิดาไม่ห่วง มารดาไม่รัก พี่สาวรังแก อดทนอดกลั้นหลังจากออกเรือน จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายฉู่ไม่เคยช่วยเหลือนาง นางอันมักต้องการใช้ประโยชน์นาง และเอาทุกอย่างของนางไปนางอาศัยตระกูลฉู่ขึ้นนั่งตำแหน่งพระชายาอ๋องเฉิน? เหอะ!“แล้วเช่นนั้นเจ้าอาศัยอะไรล่ะ?” นิ้วมือที่เย็นเฉียบบีบคางของกู้ชิงชิง ยกขึ้นอย่างเย็นชา “อาศัยจิตใจดำมืดที่ทำร้ายคนของเจ้าหรือ?”อายุแค่นี้ จิตใจชั่วช้า เกรงว่าเคยอาศัยสถานะรังแกคนไม่น้อย“คุณหนูกู้ ถ้าหากเจ้ามาจวนโหวติ้งกว๋อเพื่อก่อความวุ่นวาย ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า ใครก็ได้ ส่งแขก!” พลันหลิงเชียนอี้โบกมือ ‘เชิญ’ คนออกไปอย่างหมดความอดทนกู้ชิงชิงเสียหน้า กล่าวเตือนอย่างเย็นชา“พี่อี้ พวกเรามีสัญญาแต่งงานตั้งแต่เด็ก ท่านเข้าข้างคนนอกได้อย่างไร?”“ไม่ว่าท่านไปหอนางโลมก็ดี เลี้ยงเมียน้อยก็ดี ภรรยาคนสุดท้ายของท่านต้องเป็นข้าเท่านั้น!”นางเป็นคนนิสัยโอ้อวดหยิ่งผยอง และยิ่งเป็นคนอารมณ์ร้อน
กลับถึงเรือนหลัก หลิงเชียนอี้มองไปทางมารดา ส่วนอวิ๋นอิงได้ยินเรื่องของหมอหญิงทำร้ายคน และยังโยนความผิดให้พระชายา นางเริ่มอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงแต่หลังจากเข้าใจสาเหตุของเรื่องราว จู่ๆ ก็ขมวดคิ้ว“พระชายา นี่เหมือนจะไม่ค่อยถูกต้อง”ฉู่เชียนหลีอึ้งไปครู่หนึ่ง รู้ว่าภายนอกของอวิ๋นอิงเป็นคนอุกอาจไร้ข้อผูกมัด แต่จิตใจกลับละเอียดอ่อนเหมือนผ้าไหม นางรีบกล่าวถามต่อ“ไม่ถูกต้องตรงไหน?”สีหน้าอวิ๋นอิงเคร่งขรึม วิเคราะห์อย่างจริงจัง “ท่านกับหมอหญิงคนนั้นไม่เคยเจอกัน นางจะทำร้ายท่านได้อย่างไร? เบื้องหลังต้องมีคนบงการแน่นอน!”ฉู่เชียนหลีเหมือนตื่นรู้ทันทีซี้ด…“ข้าคิดว่าหมอหญิงคนนั้นอยากทำร้ายองค์หญิงใหญ่ แค่ลากข้ามาเป็นแพะรับบาปมาโดยตลอด”“พระชายา ท่านคิดดูดีๆ หมอหญิงไม่เคยเข้าใกล้ท่าน เป็นไปได้อย่างไรที่จะนำเมล็ดเชียนอิงใส่บนตัวท่าน?”เมื่อวิเคราะห์เช่นนี้ คนที่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่หมอหญิงคนเดียว ยิ่งกว่านั้นพุ่งเป้ามาที่ฉู่เชียนหลีใครกันที่ใส่เมล็ดเชียนอิงลงในแขนเสื้อฉู่เชียนหลี?ฉู่เชียนหลีจับแขนเสื้อ “ข้าอยู่จวนอ๋องเฉินตลอด หลังจากได้รับข่าวก็รีบมาทันที นอกจากเจ้ากับเย
นายท่านไม่เคยถามคำถามเช่นนี้กับนาง จู่ๆ ก็ถามขึ้นมา ต้องมีเหตุผลแน่นอนหานอิ๋งสบตาที่โกลาหลคู่นั้นของเขา เหมือนกับมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ก็เหมือนมองทะลุปรุโปร่ง นางรีบคุกเข่าข้างหนึ่งอย่างร้อนตัว“ไม่รู้ว่าข้าน้อยทำอะไรผิด นายท่านโปรดพูดให้ชัดเจน!”เฟิงเย่เสวียนหลุบตา มองนางอย่างเรียบเฉยเมื่อสิบกว่าปีก่อน พวกเขาเติบโตด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเป็นร่วมตาย เป็นนายกับบ่าว และยิ่งเป็นพี่น้อง ถ้าหากวันหนึ่ง คนที่ใกล้ชิดที่สุดใช้มีดแทงข้างหลัง…“ครั้งหนึ่งเซียวจือฮว่าทำผิด ข้าเคยให้โอกาสนางหนึ่งครั้ง วันนี้ ก็ให้เจ้าหนึ่งครั้ง”สิ้นเสียงที่เรียบเฉย เฟิงเย่เสวียนจับเสา ลากฝีเท้าที่หนักอึ้ง เดินเข้าไปในห้องหนังสืออย่างโอนเอนไม่มั่นคง“นายท่าน…”เซียวจือฮว่าทำผิดครั้งแรก เนื่องจากสาบานต่อหน้าป้ายวิญญาณบรรพชนของตระกูลเซียว จึงได้รับการให้อภัย ครั้งที่สอง นางบังอาจลักพาตัวฉู่เชียนหลี ถูกนายท่านฆ่าตายด้วยกระบี่เดียวกับมือนางรู้จักนิสัยของนายท่านเป็นอย่างดี ถ้าหากนางทำผิดอีกครั้ง จุดจบก็จะเหมือนกับเซียวจือฮว่าผู้ชายที่เย็นชาคนนี้ พูดหนึ่งไม่เป็นสอง ให้รางวัลและลงโทษแบ่งแยกชัดเจน ไม่ว่
มีดพาดอยู่บนคอนาง คมมีดที่เย็นเฉียบส่องประกายด้วยแสงเย็นยะเยือก ราวกับว่านางแค่ออกแรงเล็กน้อย ก็จะตัดเส้นเลือดอันบอบบางของนางทันทีเฟิงเจิ้งหลีกำลังจะเข้าใกล้พลันมือของนางก็ออกแรงกด “ถ้าหากเจ้ายังต้องการจับตัวเฟิงเย่เสวียน เก็บข้าไว้ดีกว่า ถ้าหากข้าเป็นอะไรไป เกรงว่าเจ้าไม่สามารถควบคุมเฟิงเย่เสวียนแล้ว”เขาชะงักเล็กน้อยข่มขู่?มันก็จริง เฟิงเย่เสวียนหนีออกจากเมืองแล้ว แม้เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่เฟิงเย่เสวียนมีที่ดินศักดินา มีกำลังทหาร สามารถตั้งตนเป็นอ๋อง ถ้าหากสู้กันจริงๆ ใช่ว่าเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเฟิงเย่เสวียนเสมอไปแต่ว่า นางรังเกียจเขาเช่นนี้เลยหรือ?ถึงขั้นยอมใช้คอของตัวเองมาขู่เขา? เขาก็ขมวดคิ้วแน่น กล่าวอย่างเย็นชา“เจ้ากล้าตายหรือ? ไม่ต้องการจื่อเยี่ยแล้ว?”“ใครบ้างที่อยากตาย? แต่ถ้าหากต้องอยู่อย่างอัปยศ ไม่สู้ตายเสียดีกว่า ให้ทุกอย่างมันจบสิ้นเสีย”“เจ้า!”ในแววตาของเขามีความโกรธเอ่อล้นออกมา อยากเข้าไป แต่เท้ากลับยืนแข็งอยู่ตรงที่เดิมมองดูนางที่เชิดคางเล็กน้อย และมือที่กำแน่นอย่างดึงดัน ความโกรธติดอยู่ในอก ไม่สามารถระบายออกมา ทำให้เขาอัดอั้นจนรู้สึกทรมานบ้า
“ตาม!” ผู้บัญชาการจางกระทืบเท้าตะโกนเสียงดัง “รีบตาม! ขี่ม้าที่เร็วที่สุด ต้องจับอ๋องเฉินกลับมาให้ได้!”“รับทราบ!”เปิดประตูเมือง ทหารรักษาพระองค์ไล่ตามอย่างรวดเร็วเฟิงเจิ้งหลีหยิบธนูมาหนึ่งคัน ดึงลูกธนู เล็งยามค่ำคืนอันมืดสลัวที่อยู่นอกเมือง แต่ทันใดนั้นก็ถูกฉู่เชียนหลีกระแทกอย่างแรงธนูพลาดเป้าเขาหัวเราะอย่างเย้ยหยัน โยนธนูลงบนพื้น กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ“หนี หนีไปเลย ทั้งแคว้นตงหลิงเป็นของข้าแล้ว ข้าดูสิว่าเจ้าจะสามารถหนีไปถึงไหน!”ใต้ฟ้าอันกว้างใหญ่ ล้วนเป็นของกษัตริย์เขาจะจับเฟิงเย่เสวียนได้ในสักวัน“เฟิงเจิ้งหลี เจ้ามันเป็นคนบ้าที่เสียสติจริงๆ โลกนี้มีผลกรรมเสมอ สักวันเจ้าจะถูกสิ่งที่เจ้าทำตามสนอง”คนที่เสียสละ สักวันจะได้ผลตอบแทนคนที่กระทำความชั่ว สักวันจะต้องชดใช้ไม่ใช่กรรมไม่ตามสนอง แค่ยังไม่ถึงเวลาเฟิงเจิ้งหลีคว้าแขนของฉู่เชียนหลี พลันดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน บีบคางของนาง “เหมือนเจ้าแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นข้าตกต่ำแล้วนะ”“แต่น่าเสียดาย คนดีอายุสั้น คนชั่วอายุยืนพันปี ข้าต้องอยู่รอดต่อไป จะรอดูว่าเฟิงเย่เสวียนตายต่อหน้าข้าอย่างไร”ฉู่เชียนหลีถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น
ทุกคนรออยู่ที่นอกประตูเมือง เฟิงเย่เสวียนขี่ม้าเข้าไปใกล้ สายตาจ้องฉู่เชียนหลีอย่างลึกซึ้งหลายวินาทีฉู่เชียนหลียิ้มระหว่างทั้งสองคน คำพูดมากมายไม่จำเป็นต้องพูด แค่สบตากัน ก็สามารถเข้าใจกันแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเขาถอนสายตากลับ กระตุกม้าให้หยุดลง โน้มกายและเอื้อมมือไปรับลูก“ส่งเขาให้ข้า”เฟิงเจิ้งหลียิ้มได้อ่อนโยนมาก ก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวอย่างเชื่อฟัง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย ส่งเด็กที่อยู่ในมือออกไป“น้องเจ็ด เดินทางปลอดภัย”เขาเน้นเสียงคำว่า ‘ปลอดภัย’ เป็นพิเศษ เหมือนมีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่อ๋องเฉินยื่นมือออกมาแล้ว ขณะที่กำลังจะสัมผัสโดนเด็ก เฟิงเจิ้งหลีปล่อยมือกะทันหันทันใดนั้นเด็กสูญเสียแรงยึดเหนี่ยว ร่วงลงไปโดยตรง!“จื่อเยี่ย!”พลันเฟิงเย่เสวียนแน่นหน้าอก กระโดดลงจากม้าด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด ก็เห็นอ๋องหลีรับเด็กไว้แล้ว และก็เพราะพริบตาที่เขาเผลอนี้ จึงถูกธนูลับดอกหนึ่งยิงเข้าที่สะบักฉึก…“อาเฉิน!”“ท่านอ๋อง!”เหตุการณ์เกิดขึ้นกะทันหัน ไม่มีใครรับมือทันเวลาเฟิงเจิ้งหลีใช้มือซ้ายอุ้มเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ย มือขวาจับตัวฉู่เชียนหลี ถอยหลังเจ็ดแปดก้าว ขณะ
เฟิงเย่เสวียนเดินออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว “ปล่อยฉู่เชียนหลีกับเด็ก ข้าอยู่เอง เจ้าจับฉู่เชียนหลีไม่มีประโยชน์ มีเพียงจับข้าเท่านั้น เจ้าจึงจะสามารถนั่งราชบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง”เฟิงเจิ้งหลีเย้ยหยัน“อย่ามาต่อรองกับข้า ข้ายอมถอยให้แล้ว ถ้าหากยังได้คืบจะเอาศอก ข้าไม่ถือสาที่จะพินาศไปพร้อมกัน”ฉู่เชียนหลีรีบถอยกลับมาจับข้อมือเฟิงเย่เสวียน กล่าวเสียงเบา “เจ้าพาจื่อเยี่ยไป!”“เชียนหลี…”“คนที่เขาต้องการคือข้า มีเพียงเจ้าไปและมีชีวิตรอดต่อไปเท่านั้น จึงจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ จื่อเยี่ยไปแล้ว ข้าจึงจะวางใจ ถึงเวลานั้น เขาก็ไม่มีข้อได้เปรียบอีก และไม่จำเป็นต้องกลัวเขาอีกแล้ว” ฉู่เชียนหลีวิเคราะห์เบาๆ อย่างฉับไวเฟิงเจิ้งหลีไม่มีทางฆ่านางใช้นางคนเดียว แลกกับความปลอดภัยของจื่อเยี่ย แลกกับความปลอดภัยของทุกคน อย่างไรก็ดีกว่าสู้กันตายไปข้างหนึ่ง เลือดนองเหมือนแม่น้ำไม่ใช่ว่านางจะถูกขังอยู่ในเมืองหลวงตลอดไปตราบใดที่ยังมีชีวิต ก็มีโอกาสเฟิงเย่เสวียนรู้ผลได้ผลเสียในนี้ เด็กคนนี้อย่างไรก็ต้องช่วย แต่เขาจะทิ้งฉู่เชียนหลีไว้คนเดียวได้อย่างไร“เชียนหลี ข้ามันไร้ประโยชน์”“ข้าไม่อนุญาตให้เจ
เมื่อพรรคของอ๋องหลีได้ยินเช่นนี้ ก็กลัวทันทีดูท่าทีของพระชายาอ๋องเฉิน นี่กำลังจะเปิดฉากสังหารครั้งใหญ่ในวังชัดๆ!ฆ่าคนติดต่อกันสองคน ไม่กระพริบตาแม้แต่ทีเดียวเลือดกระเซ็นโดนใบหน้า ก็เย็นเฉียบท่าทางที่ชั่วร้ายเหมือนปีศาจนั่น ทำให้ขุนนางหลายคนเกิดความกลัว ลองถามคนทั่วหล้า จะมีสักกี่คนที่ไม่กลัว? อยู่ต่อหน้าความเป็นความตาย ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวพวกเขาไม่อยากตายขุนนางคนหนึ่งกลัวจนพูดติดอ่าง“อ๋อง อ๋องหลี…อย่างไรเด็กที่อยู่ในมือท่านก็เป็นพระนัดดาองค์โต เป็นสายเลือดของราชวงศ์ ถ้าหากฆ่าเขา ในวันข้างหน้า มลทินของท่านจะถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ เกรงว่าจะถูกคนรุ่นหลังด่าทอต่อๆ กันเป็นหมื่นปี”ขุนนางอีกคนก็กล่าวเสียงสั่น“อ๋องเฉินโปรดพิจารณา…”ถ้าหากสู้กันจริงๆ พวกเขาสู้ไม่ไหวอ๋องเฉินมีฮ่องเต้หนุนหลัง มีกองทัพ มีกำลังทหาร อ๋องเฉินเป็นฝ่ายได้เปรียบทุกด้านในมืออ๋องหลี นอกจากพระนัดดาองค์โต ก็ไม่มีเบี้ยอย่างอื่นแล้ว อีกทั้ง ทหารรักษาพระองค์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ทหารองครักษ์เงาของอ๋องเฉินเมื่อไรที่สู้กัน พวกเขาจะตายกันหมดไม่จำเป็นต้องตายไปครั้งหนึ่ง บางครั้ง เมื่อเห็นว่าพอแล้วก
เฟิงเย่เสวียนแค่ขมวดคิ้วทีหนึ่ง ก็ข่มความเจ็บปวดนี้ลงไปผู้บัญชาการจางฟาดอย่างดุร้ายลองคิดดูเขาที่เป็นขุนนางคนหนึ่ง สามารถใช้แส้ฟาดองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด นี่เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเพียงใด พูดคำนี้ออกไป เขาสามารถอวดสามสิบปียิ่งฟาดยิ่งรู้สึกสนุก ยิ่งฟาดยิ่งแรงเพี๊ยะ!เพี๊ยะๆๆ!ทุกคนร้อนใจจนกระทืบเท้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป อ๋องหลีบ้าไปแล้ว เขาไม่ใช่อ๋องหลีที่เข้าถึงได้ง่ายอีกแล้ว!ฉู่เชียนหลีเพิ่งคิดจะกระโจนเข้าไป ก็ถูกอ๋องหลีสั่งให้คนคุมตัวไปยืนอยู่ข้างๆ บังคับให้นางมองดูต่อหน้าต่อตา“ฉู่เชียนหลี ข้าเคยบอกแล้ว เจ้าจะต้องเสียใจ คนไร้ประโยชน์อย่างเฟิงเย่เสวียน แม้แต่ลูกชายก็ปกป้องไม่ได้ มีประโยชน์อะไร”แววตาเฟิงเจิ้งหลีเปล่งแสงที่บ้าคลั่ง“เขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ฝ่าบาทจะให้ความสำคัญกับคนไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร? ฉู่เชียนหลี เจ้าว่าเจ้าตาบอดใช่หรือไม่? เจ้าดูสภาพที่สะบักสะบอมของเขาตอนนี้ เหมือนสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าก็ยังชอบเขา เช่นนั้นเจ้าก็เป็นสุนัขตัวเมียที่แพศยา”เขายิ้มอย่างชั่วร้าย สิ่งที่พูดออกมายิ่งไม่น่าฟังทุกคนตาแดง อยากพุ่งเข้าไปสับอ๋องหลีเป็นชิ้นๆ เสีย
ผู้ชายที่ร่างกายสูงใหญ่งอหัวเข่า คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอ๋องหลีอย่างตั้งตรง แม้อยู่ต่ำกว่า แต่ความสูงศักดิ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากกระดูก ไม่ลดน้อยลงเลยสักนิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา นอกจากคุกเข่าให้ฮ่องเต้และบรรพชน พวกเขาไม่เคยเห็นอ๋องเฉินคุกเข่าให้ใครเฟิงเจิ้งหลีเห็นดังนี้ แหงนหน้าหัวเราะ“ฮ่าๆๆ!”คิดไม่ถึงจริงๆ เขาจะมีวันนี้ด้วยลูกชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด แพ้ให้กับลูกชายที่ไม่โปรดปรานที่สุด ไม่สะดุดตาที่สุด และยังถูกทุกคนรังแก ความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าเช่นนี้ ทำให้ในใจเขาสาแก่ใจจริงๆ“ฮ่าๆๆๆ เฟิงเย่เสวียน เจ้าก็มีวันนี้ด้วย!”หัวเราะเสร็จ เขารู้สึกว่าความเย่อหยิ่งของอ๋องเฉินมันขัดตาทั้งๆ ที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบจนต้องคุกเข่า เหตุใดยังอวดดีหยิ่งผยองเช่นนี้?เขาออกคำสั่ง “ก้มหัวเจ้าลงไป”เฟิงเย่เสวียนเม้มปาก ก้มศีรษะลงเขาออกคำสั่งอีกครั้ง “โขกศีรษะ!”“อ๋องหลี ท่านอย่ารังแกให้มันมากนัก! ท่านกับท่านอ๋องของเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน ท่านรับการโขกหัวจากเขาไม่ได้! ไม่กลัวบรรพชนรู้แล้ว อายุสั้นหรือ!” พ่อบ้านหยางกล่าวด้วยความโกรธเพิ่งกล่าวจบ ก็ถูกผู้บัญชาการจางถีบจนล้มลงพื้นหลังจากล้มลง ก
“ปล่อยคนของเจ้าแล้ว เจ้าเป็นอิสระแล้ว คืนลูกให้ข้า” ฉู่เชียนหลีจ้องเขาเฟิงเจิ้งหลีเหลือบมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ท่าทางที่ร้องไห้จนหน้าแดง เห็นแล้วปวดใจนักคิดว่าแค่นี้ก็จบแล้วหรือ?เขายิ้ม“ฉู่เชียนหลี เหมือนเจ้าจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์นะ?”“?”“……”“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาต่อรองกับข้า? เด็กอยู่ในมือข้า เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับข้า ถึงคราวที่เจ้าต้องมาสอนข้าทำงานตั้งแต่เมื่อไร?”สีหน้าฉู่เชียนหลีเคร่งขรึมทันทีเห็นได้ชัด เขาได้คืบจะเอาศอก“เจ้ายังต้องการอะไรอีก?”“ข้าหรือ” เขาเงยหน้าด้วยรอยยิ้ม กวาดมองทุกคน และตำหนักอันหรูหราหลังนี้ วังหลวงที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แผ่นดินที่ดีเช่นนี้เขาต้องการอะไร ยังต้องให้พูดอีกหรือ?แต่ว่า มองดูท่าทางที่ร้อนใจของฉู่เชียนหลี เขาเกิดอยากสนุก ต้องการระบายความคับข้องใจที่ได้รับในสองวันนี้ออกมาให้หมดลูบแก้มของเด็กน้อยพลางกล่าว“อยากได้ลูกคืน ไม่มีปัญหา มันก็ต้องดูว่าอ๋องเฉินมีความจริงใจหรือไม่”เงียบไปครู่หนึ่ง“อืม หรือไม่อ๋องเฉินคุกเข่า โขกหัวให้ข้าสามครั้ง ข้าก็คืนลูกให้เจ้า เป็นอย่างไร?”ฉู่เชียนหลีโมโหแล้วด้วยนิสัยที่ยอมหนึ่งก้าว จะเอาสิบก้าวข
“เจ้า!”ฉู่เชียนหลีถูกความเฉยเมยของนางยั่วจนโมโหแล้ว ยิ่งคิดไม่ถึงว่าใต้ฟ้าจะมีแม่ที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้มันก็จริงฉู่เจียวเจียวกับเฟิงเจิ้งหลี ถ้าไม่เหมือนกันก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่มีอะไรที่พวกเขาสองสามีภรรยาทำไม่ลงรอหลังจากลู่ฉินเติบโต รู้ว่าตัวเองมีแม่เช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเศร้าเพียงใด!“ฉู่เชียนหลี เฟิงเย่เสวียน พวกเจ้าเลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบปล่อยตัวอ๋องหลี ความอดทนข้ามีขีดจำกัด!” ฉู่เจียวเจียวกล่าวอย่างเย็นชา“จะเอาชีวิตของลูกชาย หรือจะปล่อยคน พวกเจ้าเลือกเอง”อย่างไรนางก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วไม่ดิ้นรน ตายสถานเดียวดิ้นรน เดิมพัน ยังมีโอกาสสายตาเฟิงเย่เสวียนเคร่งขรึมมาก หางตาเหลือบมองหานเฟิง หานเฟิงเข้าใจทันที เขาซ่อนมือไว้ที่หลัง และทำท่าสัญญาณมือไปที่ด้านหลังมือธนูเตรียมพร้อมจู่ๆ ฉู่เจียวเจียวก็กล่าวเสริมอีกประโยคอย่างเย็นชา “พวกเจ้าสามารถลองดูได้ ดูสิว่าการเคลื่อนไหวของพวกเจ้าไว หรือมีดที่อยู่ในมือข้าเร็ว”“ต่อให้ข้าตาย การฆ่าเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยก็ใช้เวลาแค่พริบตาเดียว”ฉู่เชียนหลีสั่งให้มือธนูหยุดทันที “ปล่อยคน!”อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามผู้หญิงคนนี้มันเป็นผู