ตอนพูด เขาดึงอวิ๋นอิงเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เหมือนกำลังทำตามหน้าที่ แค่มาส่งยาเท่านั้นดวงตาอวิ๋นอิงกลับโค้งงอ พลันยิ้มเล็กน้อย ลุกขึ้นยืน“เยว่เอ๋อร์ ข้านึกขึ้นได้กะทันหันว่ายังมีเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ได้ทำ ข้ากลับห้องก่อนแล้ว”พูดจบก็ไปแล้ว ทิ้งให้เยว่เอ๋อร์กับหานเฟิงอยู่กันสองคนเยว่เอ๋อร์รับยาไว้ “ขอบคุณมาก”วางไว้บนโต๊ะ อีกเดี๋ยวค่อยใช้กล่าวขอบคุณ เก็บยาเสร็จ เงยหน้าเห็นหานเฟิงยังยืนอยู่ ไม่มีท่าทีที่จะไป จึงอดไม่ได้จะตะลึงงันครู่หนึ่ง“ใต้เท้าหานเฟิงยังมีเรื่องอะไรหรือ?”หานเฟิงชะงัก คำพูดห่วงใยหลายประโยคมาถึงปลายลิ้น ยึกยักไม่กล้าพูดออกมา กำหมัดแน่นอย่างเขินอายพักหนึ่ง หมุนกายก็จากไปด้วยความอัดอั้นอยากพูดแต่พูดไม่ออกไม่พูดก็อัดอั้นพูดก็ไม่ค่อยกล้าไม่พูดก็อัดอั้นอีกหงุดหงิด!เยว่เอ๋อร์ “?”เกาศีรษะ มองแผ่นหลังเขาแวบหนึ่ง แล้วมองยาบนโต๊ะ เยว่เอ๋อร์งงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!ทำตัวแปลกๆ!โรงหมอเป้าฟู่หลังจากเกิดเรื่องสองชั่วยาว เฟิ่งหรานบอกเรื่องที่ตรวจสอบพบออกมาทีละอย่าง เรื่องเสาบ้านล้มมีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับอ๋องเฟิงและอ๋องเจวี๋ย เป็นหนึ่ง
จางเฟยโกรธมาก อยากฆ่าอ๋องเจวี๋ยโดยตรง จึงจะสามารถระบายความคับข้องใจนี้เป็นถึงลูกผู้ชายอกสามศอก กลับลงมือกับผู้หญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งโหดเหี้ยมเช่นนี้ มันใช่ลูกผู้ชายหรือ?เฟิ่งหรานเกลี้ยกล่อมให้เขาใจเย็นๆ ทำอะไรต้องพิจารณาถึงผลที่ตามมา ยิ่งกว่านั้นจางเฟยเป็นหมอจางเฟยบอกว่าก่อนที่จะรู้จักคุณหนู เขาคือมือเบญจพิษที่มีชื่อเสียงในยุทธภพ ตั้งแต่รู้จักคุณหนู ถูกบังคับให้เป็นหมอ ธรรมชาติของเขานั้นอำมหิตมากเถียงกันไปเถียงกันมา ไม่ได้ผลสรุปเสียที จิ่งอี้ยกเท้าจากไปกะทันหันคนทั้งกลุ่มหันไปมอง “?”ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นไปโดยไม่พูดสักคำทั้งเช่นนี้แล้ว?ทั้งคู่ก็ไม่เถียงกันแล้ว คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวาวิ่งไปข้างกายจางขาเป๋ “เหล่าจาง เจ้ามีความคิดเยอะ เจ้าลองพูดดูว่าควรจะแก้แค้นให้คุณหนูอย่างไร?”จางขาเป๋หลับตา พลางลูบเคราสีขาวไปด้วย พลางกล่าวอย่างลึกล้ำ“สำนักอู๋จี๋อยากยื่นมือเข้าไปยุ่ง แค่ต้องมีสถานะที่เหมาะสม เรื่องนี้ไม่ได้ยาก”“ฮืม?” ทั้งคู่เกิดความอยากรู้อยากเห็น“ควรจะทำอย่างไร จึงจะสามารถให้อิทธิพลของยุทธภพ แทรกแซงเรื่องของราชวงศ์อย่างทำนองคลองธรรม และยังจะไม่ถูกฝ่าบาทจงใจหาเรื่อง?”
เยว่เอ๋อร์ตะลึงงัน “อะไรคืออาศัยข้าเสพสุข?”เหตุใดนางจึงไม่ค่อยเข้าใจคำพูดนี้?อวิ๋นอิงยกสองมือของตนเองขึ้น “นี่ไง!”หานเฟิงตั้งใจมาส่งยาให้เยว่เอ๋อร์ นี่ก็พึ่งบารมีของเยว่เอ๋อร์ไม่ใช่หรือ จึงจะสามารถใช้ยาที่ดีเช่นนี้?เยว่เอ๋อร์เกาศีรษะ ยังคงไม่เข้าใจความหมายของอวิ๋นอิงอวิ๋นอิงเพียงแค่ยิ้มแล้วยิ้มอีก ไม่ได้พูดอะไรมากผู้เล่นมักอ่านเกมไม่ออก ผู้ชมมักอ่านเกมขาด ตนเองไม่เข้าใจ พูดมากเพียงใดก็ไร้ประโยชน์“นี่ก็ดึกแล้ว เจ้ารีบพักผ่อน ข้ากลับแล้ว” อวิ๋นอิงตบไหล่ของเยว่เอ๋อร์ ลุกขึ้นกลับห้องเพิ่งผลักประตูออก ก็ได้กลิ่นเย็นๆ สายหนึ่งเมื่อเงยหน้ามองไปภายในห้องที่เรียบง่ายและมืดสลัว ร่างเงาสีดำสายหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างน่าประหลาด ชายคนนั้นกลมกลืนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดสลัว แทบเห็นใบหน้าที่สุขุมและเย็นชาไม่ชัดเจนชายคนนั้นเงยหน้า ดวงตาสีเข้มเป็นประกาย เหมือนมีกลิ่นคาวเลือดที่มองไม่เห็นสายหนึ่งปะทะหน้าอวิ๋นอิงพลันอวิ๋นอิงแน่นหน้าอก จะถอยออกจากห้องโดยไม่รู้ตัวแต่ชายคนนั้นพุ่งเข้ามาคว้าแขนดึงนางเข้าห้อง พลิกมือปิดประตู นางเซไปชนเข้ากับกำแพง ถูกชายคนนั้นยืนขวางอยู่ตรงมุมแคบๆ ของกำแพง
นิ้วมือที่เย็นเล็กน้อยของจิ่งอี้ค่อยๆ เลื่อนลงมา จากคางของนาง คอ ผ่านลูกกระเดือก แล้วค่อยๆ บีบคอที่ผอมแห้งราวกับแค่ออกแรงเล็กน้อย ก็สามารถบีบจนหักโดยตรงเป็นหรือตายแค่พริบตาเดียว ร่างกายอวิ๋นอิงหดเกร็ง แผ่นหลังแข็งเหมือนกระดานไม้ แม้แต่หายใจก็ลำบากนางคลุกคลีอยู่ในสำนักยุทธ์ของบ้านตนเองตั้งแต่เด็ก นิสัยร่าเริง ตีต่อยกับเด็กผู้ชายมาโดยตลอด เคยเห็นคนมาทุกประเภทคนดี คนชั่ว ชอบเสแสร้ง ชอบเปรียบเทียบ ต้องการเป็นที่หนึ่งตลอด…แต่ไม่เคยใกล้ชิดกับคนที่อันตรายอย่างเขา บางทีอาจเพราะอยู่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคย สัญชาตญาณของนางต้องการหนี…“อวิ๋น…”ข้างนอก เยว่เอ๋อร์มาแล้วหลังจากทายาเสร็จ มีเรื่องหนึ่งที่นางลืมบอกอวิ๋นอิง จึงตั้งใจแวะมา แต่เดินมาถึงหน้าประตู จากช่องของประตูกลับเห็น…คุณชายจิ่ง?!เป็นเขาจริงๆ!เขากับอวิ๋นอิง…สีหน้าเยว่เอ๋อร์เปลี่ยนไปทันที ขาทั้งสองข้างยืนแข็งอยู่ตรงที่เดิมฉับพลัน…ในเวลาเดียวกัน เรือนหานเฟิง ภายในห้อง กำลังแสดงฉากที่ประจันหน้ากันเฟิงเย่เสวียนกางขาทั้งสองข้างออก นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสุขุม ดวงตาที่หรี่ลงเล็กน้อยราวกับนกอินทรีจ้องฉู่เชียนหลี เหมือนกับกำลั
แค่คิดก็ปวดใจเหมือนถูกมีดกรีด อยากจะจับฉู่เชียนหลีมัด ผูกติดกับสายคาดเอวของตนเองเสียเดี๋ยวนี้ ไปที่ใดก็พาไปด้วยทุกที่ แต่เขารู้ว่านางเป็นมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งของ นางต้องการอิสระและพื้นที่เขาแค่โมโหที่นางไม่ระวังตัวเรื่องของคนร้าย เขาจะตรวจสอบเอง และต้องลงโทษนางด้วยเช่นกัน ต่อไปจะได้หลาบจำ!เมื่อคิดเช่นนี้ เหวี่ยงฝ่ามือใหญ่ใส่ก้นของฉู่เชียนหลี เพียะ!เสียงดังชัดเจนเป็นพิเศษร่างฉู่เชียนหลีสั่นสะท้าน ยืนอึ้งอยู่ตรงที่เดิม มีเครื่องหมายคำถามโผล่บนศีรษะสิบกว่าตัว นางโดนตี?และยังเป็นก้นด้วย?รู้สึกถึงความเจ็บปวดเล็กน้อยที่ส่งมาจากตำแหน่งที่อ่อนไหว แก้มของนางแดงก่ำทันที รีบใช้สองมือปิดไว้“เจ้า…ครั้งต่อไปข้าจะระวัง เจ้า…ดุข้าสองสามคำก็พอสิ เหตุใดยังลงมือด้วย สุภาพชนใช้ฝีปากไม่ใช้มือ…ซี้ด!”เพิ่งกล่าวจบ ใบหน้าหล่อที่สุขุมและเยือกเย็นขยายใหญ่ตรงหน้ากะทันหันเข้าใกล้!กลีบริมฝีปากที่ประทับลงมาเย็นๆ ปนกลิ่นปอเหอจางๆ ของเขา วินาทีต่อ ริมฝีปากเจ็บแสบเขากัดนาง!กัดริมฝีปากล่างของนางไว้ไม่ปล่อย ถามด้วยเสียงที่คลุมเครือเล็กน้อย “คราวหน้ายังจะประมาทอีกหรือไม่?”“ซี้ด!”ฉู่เชียนหลีเจ
ตำแหน่งฮ่องเต้ เขาเอาแน่!“เชียนหลี มีข้าอยู่ ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากทำร้ายพวกเจ้าสองแม่ลูก นอกจากข้ามศพของข้าไปก่อน!” คำพูดของเขาหนักแน่นดั่งเหล็กกล้า เด็ดเดี่ยวดุจขุนเขาภรรยาที่อรชรอ้อนแอ้นในอ้อมแขนกับลูกที่ยังไม่เกิด เป็นหนึ่งเดียวที่เขาห่วงบนโลกใบนี้ครอบครัว!ฉู่เชียนหลีค่อยๆ เอนกายลง สองมือจับฝ่ามือใหญ่ของเฟิงเย่เสวียน วางลงบนท้องน้อยของตนเองเกิดในราชวงศ์ เส้นทางมีอุปสรรคขวางกั้น อันตรายไม่ขาดสาย ไม่บุกบั่นฝ่าฟันจนถึงวาระสุดท้าย ก็จะไม่มีวันที่สงบสุขขอแค่มีเขาอยู่ มีลูกอยู่ ขอแค่ครอบครัวนี้สมบูรณ์ นางก็พร้อมแลกด้วยทุกอย่าง“เฉิน ข้าหวงแหนครอบครัวนี้มาก เลือดเนื้อและลูกของข้า วัยเยาว์ของข้า ทั้งหมดของข้า ล้วนอุทิศให้จวนอ๋องเฉิน เจ้าอย่าทำสิ่งที่ทำให้ข้าผิดหวังเด็ดขาด”นางลูบแก้มของเฟิงเย่เสวียนภายในห้องข้างที่มืดสลัว ใต้ผ้าห่มอันอบอุ่น ใบหน้าเฟิงเย่เสวียนคลุมเครือ มองเห็นเค้าโครงไม่ชัดคำพูดแต่ละคำของนางจริงจังเป็นพิเศษ“ถ้าหากมีวันหนึ่ง เจ้าทำให้ข้าเสียใจ ข้าจะไป ไปสถานที่ที่เจ้าหาไม่เจอ และไม่มีวันพบเจ้าอีก”ลมหายใจเฟิงเย่เสวียนแน่นเล็กน้อย กระชับแขนทั้งสองข้าง กอด
สองมือโอบเอวเฟิงเจิ้งหลี ออกแรงกอดไว้แน่น ใบหน้าข้างแนบติดแผ่นหลัง สูดดมกลิ่นหอมบนกายเขาลึกๆ อาลัยอาวรณ์จนแทบเป็นบ้าแล้ว“ข้าจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ ท่านยอมไถ่ถามทุกข์สุขของผู้หญิงข้างนอก ก็ไม่ยอมมองพระชายาที่รอท่านอยู่ที่จวนทุกวัน หัวใจของข้าเจ็บปวดมาก เหมือนกับมีคนเอามีดมาแทง”“ท่านอ๋อง พวกเราต่างหากจึงจะเป็นสามีภรรยาที่อยู่เคียงข้างกันจนแก่เฒ่า ท่านช่วยมองข้า รักข้าหน่อยได้หรือไม่?”เสียงที่สั่นเครือของนางมีเสียงสะอื้นปะปน อ้อนวอนอย่างต่ำต้อยเป็นพิเศษเพื่อความรัก นางยอมเฝ้าห้องที่ว่างเปล่าเพียงลำพังทุกคืนเพื่อความรัก นางสามารถทำได้ทุกอย่างขอแค่สามารถได้รับการตอบกลับจากเขา ให้นางแลกด้วยทุกอย่างที่มีก็ไม่เสียดายเฟิงเจิ้งหลีหลุบตา จับมือเล็กทั้งสองข้างที่อยู่บนเอว งัดแล้วงัดอีก กลับงัดไม่ออก น้ำเสียงยิ่งเย็นชาทันที“ปล่อย!”เขาไม่เคยอยากแตกงานกับนาง ย่อมไม่รักนางอยู่แล้วถ้าหากทั่วหล้า ความรักทั้งหมดสามารถได้รับการตอบแทน เช่นนั้นคนที่เขาต้องการก็ไม่มีทางเป็นฉู่เจียวเจียวแน่นอน“ท่านอ๋อง…”“ปล่อย!”เขาจับข้อมือนางอย่างหมดความอดทน พลันออกแรงบิดแล้วเหวี่ยง ถึงขั้นเหวี่ยงคนลงพื
เพราะเรื่องของเสาบ้าน ทำให้คนบาดเจ็บมากมายเช่นนั้น พระชายาโทษตนเอง ต้องไม่สบายใจอย่างแน่นอนแต่นี่ก็ไม่ใช่ความต้องการของพระชายาอวิ๋นอิงหวังใช้นิยายมาเบี่ยงเบนความสนใจของพระชายา นางเปิดหน้าแรกแล้วอ่าน“ตอนที่สามร้อยหนึ่ง หมอที่มีชื่อเสียงที่สุดในทั่วหล้ารับคำสั่งองค์หญิง เดินทางมาจวนองค์หญิงอย่างเร่งด่วน เพิ่งวิ่งถึงหน้าเตียง หลงอ้าวเทียนก็สิ้น…สิ้นใจแล้ว?”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลี “?”อวิ๋นอิง “?”สิ้นใจ?พระเอกสิ้นใจจริงๆ? นางไม่ได้อ่านผิด?ขยับหนังสือเข้ามาใกล้หน้า ดูอย่างละเอียดในระยะใกล้ บัณฑิตสิ้นใจจริงๆ!ถ้าหากบัณฑิตตายแล้ว เนื้อเรื่องที่เหลือจะเขียนต่ออย่างไร?อวิ๋นอิงรีบพลิกไปอีกหน้า ตอนที่สามร้อยสอง : พิธีศพของหลงอ้าวเทียน ตอนที่สามร้อยสาม : โลงศพไม้มู่หนานที่องค์หญิงออกแบบเอง ตอนที่สามร้อยสี่ : ฝังศพการแสดงออกของนางแข็งทื่ออยู่บนใบหน้า สำลักจนพูดอะไรไม่ออกฉู่เชียนหลี “...”บัณฑิตตายแล้ว อ๋องหลีบาดเจ็บแล้ว พระชายาอ๋องติ้งบาดเจ็บแล้ว เยว่เอ๋อร์กับอวิ๋นอิงก็บาดเจ็บแล้วเช่นกัน มีเพียงนางที่ปลอดภัยหายห่วง ความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจพุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้งทั้งหมดเป