ฉู่เจียวเจียว ‘ข้า’ อยู่ครึ่งวัน ถูกฉู่เชียนหลีดักคอเอาไว้ได้ทุกครั้ง ‘ข้า’ พูดเหตุผลออกมาไม่ได้ โมโหจนสีหน้ายิ่งแดงกว่าเดิม มือทั้งสองข้างกำแน่นน่าชิงชัง!สาปแช่งลูกของนางก็พอทนแล้ว ยังสาปแช่งให้นางตายทั้งสองแม่ลูก เหตุใดหัวใจของฉู่เชียนหลีถึงได้น่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้?“ท่านอ๋อง ท่านดูนางสิ!”นางดึงมือของเฟิงเจิ้งหลี กระทืบเท้าด้วยความโมโห แฝงด้วยความออดอ้อน อยากจะให้อ๋องหลีทวงความยุติธรรมให้นางเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้อยากจะพูดมาก“อ๋องเฉินมาแล้ว ข้าขอไปทักทายเสียหน่อย”พูดจบ เขาชักมือออกอย่างไม่ไยดี สาวเท้าเดินออกไปไม่ได้เข้าข้างฉู่เชียนหลี แล้วก็ไม่ได้ปกป้องฉู่เจียวเจียวเช่นกัน ทำตัวเป็นกลาง ปลีกตัวเดินออกไปหาที่สงบในความเป็นจริง ฉู่เจียวเจียวเถียงไม่ชนะฉู่เชียนหลี การเมินเฉยของเขาเท่ากับว่าเป็นการเข้าข้างฉู่เชียนหลีฉู่เจียวเจียวโมโหไม่น้อย กัดฟันเงินจนเกือบแตกละเอียดเขาไปทั้งแบบนี้หรือ?ทิ้งนางไว้ไม่สนใจงั้นหรือ?ไม่มีความอดทนขนาดนี้เลยหรือ?หรือว่าเขาไม่กลัวว่านางจะโพล่งเรื่องที่เขาฆ่าองค์ชายใหญ่ออกไปงั้นหรือ?“พระชายา ดื่มน้ำชา” เยว่เอ๋อร์ยกน้ำชามาให้ แล้วก็ยกมาให้
ถ้าหากอ๋องติ้งเป็นอะไรไป นางก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้บรรดาแขกเหรื่อสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ผิดปกติ ต่างพากันเดินไปทางห้องครัว“เพลิงไหม้รุนแรง รีบไปดูเร็วเข้า!”“ได้ข่าวว่าท่านอ๋องติ้งถูกขังอยู่ในเปลวเพลิงรุนแรง เกรงว่าจะถึงแก่ชีวิต!”“เร็วเข้า!”ทันทีที่ฉู่เชียนหลีร้อนใจ ท้องน้อยก็กระตุกทีหนึ่ง “ซี้ด——““พระชายา ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”“หลีก!” เฟิงเย่เสวียนฝ่าฝูงชนที่วุ่นวาย วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จับมือทั้งสองข้างของฉู่เชียนหลี ประคองนางไปนั่งอย่างระมัดระวัง“เจ้าอยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนเด็ดขาด มีข้าอยู่ ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นแน่!”กล่าวอย่างรวดเร็ว “หานเฟิง เจ้าไปอพยพแขกเหรื่อ พาคนไปดับไฟ บอกพวกเข้าอย่าอยู่รวมกันเป็นก้อน ป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำซ้อน!”“ขอรับ!” หานเฟิงรับคำสั่ง รีบไปจัดการ“หานอิ๋ง!”หานอิ๋งเองก็รีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว“เจ้าอยู่ที่นี่ เฝ้าพระชายาเอาไว้อย่าให้ห่างแม้แต่ก้าวเดียว ห้ามเกิดข้อผิดพลาดใด ๆ!” เฟิงเย่เสวียนกำชับเสียงเข้มเสร็จ ก็รีบไปจัดการกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นทันทีเกิดเพลิงไหม้เรื่องเล็ก ถ้าหากเกิดมีใครถึงแก่ความตาย เช่นนั้นก็คงจัดก
ทุกคนถึงได้สังเกตว่าพระชายาหายไปแล้วหานอิ๋งวิ่งเข้ามา ประหลาดใจ และมีความตื่นตระหนกเล็กน้อย “เมื่อครู่พระชายายังนั่งอยู่ตรงนี้...เหตุใดจู่ ๆถึงหายตัวไป?”เฟิงเย่เสวียนสีหน้าอึมครึมขึ้นมาทันที สีหน้าหมองคล้ำราวกับถ่านไม้ สายตาที่เย็นเยือกมองตรงไปยังหานอิ๋ง“ข้าให้เจ้าปกป้องนางเอาไว้ให้ดีไม่ใช่หรือ!”หานอิ๋งตกใจ“นายท่าน ข้า...เมื่อครู่นี้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ล้มหัวแตก ข้าน้อยไปช่วยทำแผลให้นาง ตอนที่ข้าเดินออกไป เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพระชายายังอยู่ ข้ายังกำชับให้พระชายาอย่าเดินไปไหน เป็นนางที่จงใจเดินไปเอง ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อย...โอ๊ย!”เพียะ!จู่ ๆ เสียงฝ่ามือที่แหวกอากาศก็ดังก้องขึ้น ความเย็นเยือกที่แผ่ซ่านออกมา ทำให้ทุกคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้นตัวสั่นเทา สีหน้าแข็งทื่อ ไม่กล้าหายใจเสียงดังฉู่เชียนหลีหายตัวไปแล้วเพลิงไหม้ครั้งนี้ ไม่ใช่อุบัติเหตุ...ฤดูหนาวอันเย็นเยียบ เสียงน้ำไหลจ๊อก ๆ ลมที่ปะทะผิวน้ำเหมือนกับมีดที่ไร้รูปร่าง หนาวเย็นยะเยือกเข้ากระดูก เหมือนกับว่าจะกรีดใบหน้าจนมีเลือดออกตอนที่ฉู่เชียนหลีฟื้นขึ้นมา เป็นริมคูน้ำรอบนอกเมืองนางนอนอยู่บนพื้น มือทั้งสองข้า
ฉู่เชียนหลีคิดว่าความคิดและจิตใจของนางมีปัญหา ถึงขั้นบิดเบี้ยวเล็กน้อย ทำเรื่องผิดแต่ไม่เคยค้นหาปัญหาจากตัวเอง มีแต่โทษคนอื่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเรื่องจริงทั้งหมดที่นางพูด เป็นการกระตุ้นเซียวจือฮว่าเซียวจือฮว่าไม่อยากยอมรับว่านี่คือเรื่องจริง แต่จำต้องเผชิญหน้า การกระตุ้นถูกเรื่องบางอย่าง จู่ ๆก็สงบลง“เจ้าเชิญพูดตามสบาย”สีหน้าสงบ น้ำเสียงก็สงบ“ไม่ว่าข้าจะทำผิดอะไร ทั้งหมดก็เพื่อท่านอ๋อง ข้ารู้จักท่านอ๋องก่อน เจ้าเป็นคนมาทีหลัง มีสิทธิ์อะไรมาแย่งตำแหน่งของข้า? ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่มีใครกล้าแย่งสิ่งของที่เป็นของข้าเซียวจือฮว่า”คนที่แย่ง ผลที่ตามมามีเพียงอย่างเดียวก็คือตายเช่นนั้นก็ตายซะ!ตาย!นางมองฉู่เชียนหลี ยิ้มอย่างแปลกประหลาด “คูเมืองนี้ทั้งกว้างทั้งลึก น้ำไหลเชี่ยวกราก ตอนนี้เป็นฤดูหนาว น้ำในแม่น้ำหนาวเข้ากระดูก ถ้าหาก ‘ไม่ระวัง’ แล้วตกลงไปละก็ จะต้องตายแน่นอนใช่ไหม?”ฉู่เชียนหลีขมวดคิ้วดูท่าอีกฝ่ายคิดจะเอานางให้ตายถึงจะยอมรามือสินะ“แต่ว่าเจ้าวางใจ ข้าไม่ทางให้เจ้าตายเร็วขนาดนี้หรอก” เซียวจือฮว่าแสยะยิ้ม “ข้ารู้ว่าฝีมือการรักษาของเจ้าล้ำเลิศ ตอนที่ลักพาตัวเจ้า
นางไม่รู้สึกว่าตนเองผิดเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังคิดว่าสมเหตุสมผลฉู่เชียนหลีจ้องมองท่าทางของนาง จู่ ๆ ก็หลุดขำออกมา“เจ้าหัวเราะอะไร?” เซียวจือฮว่าหันมองนางอย่างไม่พอใจ ก่อนตาย ไม่ได้เห็นท่าทางที่หวาดกลัวของฉู่เชียนหลี จุดนี้ทำให้นางผิดหวังเป็นอย่างมากฉู่เชียนหลีหัวเราะ “แน่นอนว่าหัวเราะเพราะเจ้าน่าสมเพชนะสิ”“เจ้าไม่เคยยอมรับตัวตนของตนเองเลย ไม่เคยเข้าใจสถานะของตนเอง วิ่งตามสิ่งของที่เดิมทีก็ไม่ได้เป็นของตนเอง หลงตัวเอง สูญเสียความเป็นตัวเอง ถึงขนาดลืมแม้กระทั่งตัวเองเป็นใคร หรือคิดว่าไม่น่าสมเพชงั้นหรือ?”“เจ้า!”สีหน้าของเซียวจือฮว่าดูแย่ทันที มือทั้งสองข้างกำแน่นด้วยความโมโหคำพูดเหล่านี้ เหมือนกับการกรีดหัวใจของนาง แล้วสาดเกลือใส่นังแพศยาที่สมควรตายผู้นี้มีสิทธิ์อะไรมาหัวเราะเยาะนาง?ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะนาง ท่านอ๋องจะเปลี่ยนใจได้อย่างไร?“เป็นเพราะเจ้าแย่งของของข้า ผู้ชายของข้าไป!”“เจ้ามันเป็นนังแพศยา!”นางกระชากคอเสื้อของฉู่เชียนหลีด้วยความโมโห ดวงตาที่แดงก่ำทั้งสองข้างเบิกกว้างด้วยความโมโห คำรามออกมาราวกับเสียสติ “ฉู่เชียนหลี ทำไมเจ้าไม่ตายไปซะ!”“ถ้าหากเจ้า
ผิดหวัง...เซียวจือฮว่าได้ยินประโยคนี้ จู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมาเมื่อก่อนเขาโปรดปรานนาง เข้าข้างนาง ปกป้องยาง ไม่เคยพูดจากับนางรุนแรงเช่นนี้มาก่อน แล้วก็ไม่เคยมองนางด้วยสายตาที่เย็นชาและห่างเหินเช่นนี้มาก่อนเขาเปลี่ยนไปแล้ว...ในขณะที่ร้องไห้ไป จู่ ๆ ก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง“เฮอะ เฮอะ ๆ ๆ ฮ่า ๆๆ!”รักก็ดี เกลียดก็ช่าง ขอเพียงแค่ทำให้เขาจดจำนางเอาไว้ได้เท่านั้น แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว“ท่านอ๋อง แต่งงานกับข้าเถอะ แต่งงานกับข้าดีหรือไม่?” จ้องมองดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาพร้อมยิ้ม “พวกเราอยู่ด้วยกันตลอดไป เหมือนกับเมื่อก่อน ท่านทำงาน ข้าดีดพิณ ท่านจิบชา ข้าเต้นรำ ไม่แยกจากกันตลอดไป ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ดีหรือไม่?”นางปรารถนามาก ต้อยต่ำมากจริง ๆ “ขอร้องท่าน...”“ถ้าหากท่านไม่รับปากละก็ ข้าจะผลักฉู่เชียนหลีลงไป!”ฉู่เชียนหลีที่ตัดเชือกเงียบ ๆ “...”ทำไมต้องพูดถึงนางด้วย?เหมือนว่านางไม่ได้ทำผิดอะไรใช่ไหม?ทันทีที่มีดผ่าตัดในมือยกขึ้นเล็กน้อย ทันทีที่ข้อมือคลายออก เชือกก็ขาด แต่นางกลับไม่ได้ขยับ จู่ ๆ ก็อยากรู้ตัวเลือกของเฟิงเย่เสวียนเซียวจือฮว่าจับฉู่เชียนหลี “ข้านับถึงสาม ท่านเลือกมา
นางพยายามจับเขาเอาไว้ หายใจหอบถี่ เงยหน้าอย่างยากลำบาก“ท่านอ๋อง ข้าคือฮว่าเอ๋อร์...คือฮว่าเอ๋อร์...เสด็จแม่ของท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องกับท่านแม่ข้า พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่าทอดทิ้งข้า...อย่า...”นางส่งเสียสะอื้นแม้ว่าจะตาย นางก็ดื้อรั้นเช่นเดิม ราวกับว่าธาตุไฟเข้าแทรกเข้าสู่ทางมาร ย้อนกลับไปไม่ได้แล้วเฟิงเย่เสวียนหลุบตาลง เหลือบมองคนที่อยู่ข้างเท้า ดวงตาไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย“ตอนที่เจ้าลักพาตัวฉู่เชียนหลี เคยคิดถึงผลที่ตามมาบ้างหรือไม่?” น้ำเสียงเย็นชาเขาเคยให้โอกาสนางในเมื่อไม่เห็นค่า เช่นนั้นก็มีเพียงการถอนรากถอนโคน“โยนลงไปในคูเมือง!”“ไม่!”หานเฟิงรับคำสั่ง จับเซียวจือฮว่าขึ้น เซียวจือฮว่าอดกลั้นต่อความเจ็บปวดรุนแรงพยายามดิ้นรน “ไม่! ไม่เอา!”อากาศหนาวขนาดนี้ นางได้รับบาดเจ็บ โยนลงไปในแม่น้ำคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยนางไม่อยากตาย!จ้องมองใบหน้าที่เฉยชาของชายหนุ่ม เวลานี้ นางตื่นตระหนกแล้ว นางตื่นตระหนกอย่างสุดขีดเขาเอาจริง...เขาต้องการฆ่านางจริง ๆ...“ทะ ท่านอ๋อง อย่า...” นางพยายามดิ้นรนสุดกำลัง “ท่านอ๋อง อย่าฆ่าข้า ข้า ต่อไปข้าจะไม่กระด้างกระเดื่อ
จวนอ๋องเฉินเฟิงเย่เสวียนอุ้มฉู่เชียนหลีกลับมา แขกเหรื่อมากมายหันมามองพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แปลกใจเป็นอย่างมาก แต่ไม่ทันได้ซักไซ้มากความ ก็ถูกพ่อบ้านเรียกไปอีกด้านหนึ่งเรือนด้านหน้ากับเรือนด้านหลักแยกจากกันด้านหนึ่งมีความเคลื่อนไหว ด้านหนึ่งเงียบสงบมุ่งตรงไปยังเรือนหานเฟิงทันที “เรียกหมอประจำจวน!”เขาวางนางไว้บนเตียง ดึงผ้าห่มมาห่มเรียบร้อย ตอนที่มองเห็นแผลมีดบาด ดวงตาก็เคร่งขรึมลงทันทีบาดแผลมีดบาดค่อนข้างลึก คราบเลือดเปื้อนข้อมือ คราบเลือดแห้งกรัง สะท้อนบนผิวขาวดุจหิมะ มองดูไปน่าตกใจ“ข้าไม่เป็นอะไร”ฉู่เชียนหลีสังเกตเห็นสายตาของเขา จึงเอาแขนลง ใช้แขนเสื้อบดบังเอาไว้เหลือบตามองเขา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง“เรื่องของเซียวจือฮว่า...”เซียวจือฮว่าสถานะพิเศษ เป็นคนของตระกูลเซียว เขาทำแบบนี้...นางไม่รู้ว่าควรจะตัดสินอย่างไร สำหรับตระกูลเซียวแล้ว นางเป็นแค่เพียงคนนอกคนหนึ่ง แต่เรื่องนี้กลับเกิดขึ้นเพราะนาง นางจึงรู้สึกว่าตนเองควรจะพูดอะไรสักอย่างเฟิงเย่เสวียนหลุบตาลง จับข้อมือของนางเบา ๆ อย่างทะนุถนอม ปากเพียงพูดเพียงแค่สี่คำออกมาอย่างเย็นชา“