หลังจากนางเดินไป ฉู่เชียนหลีรีบอ้าปากเรียก “หานเฟิง!”ทันทีที่พูดจบ หานเฟิงรีบเดินพุ่งตัวเข้ามา คิดว่ามีเรื่องสำคัญอะไร แต่กลับได้ยินพระชายาถาม“ตั้งแต่หลังจากที่ท่านอ๋องกลับมาจากเมืองตงหนิง ก็เอาแต่เพ่งเล็งรัชทายาทมาโดยตลอด เหตุใดเขาถึงได้รีบร้อนลงมือขนาดนั้น?”จุดนี้ นางไม่สามารถเข้าใจได้ก่อนหน้านี้ ไม่ว่ารัชทายาทจะอวดดีอย่างไร เขาก็มักจะมีท่าทีโอบอ้อมอารี เห็นแก่ความสัมพันธ์ญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่งหานเฟิงกลับไม่รู้เรื่อง ‘ฆ่าลูกเหลือแม่ไว้’ เรื่องนี้มีเพียงหานอิ๋งกับเฟิงเย่เสวียนเท่านั้นที่รู้ เขาเกาหัว กล่าว“น่าจะเป็นเพราะรัชทายาททำเลยเถิดเกินไป”เขาพูดด้วยความโกรธ “พระชายา ตอนนั้นท่านป่วย อาจจะไม่ทราบ เรื่องโรคระบาดที่เมืองตงหนิง เป็นฝีมือของรัชทายาท!”กึก...ด้านนอกประตู ฝีเท้าของอวิ๋นอิงหยุดชะงักทันทีเป็นรัชทายาท...เรื่องโรคระบาด คาดไม่ถึงว่าจะเป็นฝีมือของรัชทายาท...เขาพลางแพร่โรคระบาด ทำร้ายบรรดาชาวบ้าน พลางแสร้งทำท่าทางเป็นคนดี มาช่วยเหลือชาวบ้าน มารดาของนางก็ตายด้วยเหตุนี้เช่นกัน...ที่แท้ก็เป็นเขา!ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างที่กำลังยกถาดของสาวน้อยก็กำแน่น ดว
ถงเฟยสะอึกทีหนึ่งท่าทางดูมีเหตุผลมากเมื่อโดนปลอบโยนสำเร็จจึงนั่งลง เฟิงเจิ้งหลีลุกขึ้นยืน ซักถามอย่างเป็นห่วง “อาการของอ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง? ฟื้นแล้วหรือไม่? ข้าช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ ข้านำโสมคนสำหรับบำรุงเลือดมาด้วยหนึ่งต้น”เขาหยิบกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้ากล่องหนึ่งออกมาจากด้านในแขนเสื้อ“ถึงแม้ว่าจะมูลค่าไม่มากมายนัก แต่หวังว่าจะสามารถช่วยเจ้าได้”ฉู่เชียนหลีเห็นดังนั้น ก็ใจอ่อนทันทีตลอดหลายปีมานี้ เดิมทีเขาก็มีชีวิตอยู่อย่างลำบากยากแค้น เป็นองค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน ยังได้รับการข่มเหงรังแกอีกด้วย และราคาของโสมคนค่อนข้างแพง เขากลับมอบสิ่งของแบบนี้ออกมาให้ ได้แสดงความจริงใจมากแล้ว“ขอบคุณมาก! ขอบคุณมาก!” นางสองมือรับมา กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจฉู่เจียวเจียวก็มาด้วยนางนั่งอยู่ข้างกายของเฟิงเจิ้งหลี เมื่อเห็นว่าอ๋องหลีให้ความสำคัญกับเรื่องของจวนอ๋องเฉินมากขนาดนี้ ทันทีที่จวนอ๋องเฉินมีความเคลื่อนไหวอะไร เขามักจะเป็นคนแรกที่มาที่นี่ก่อนเสมอ ยังมอบโสมคนของดีขนาดนี้ให้อีกด้วย ยากที่จะไม่ดีใจถ้าหากความของอ๋องหลีกับอ๋องเฉินดี ยังพอเข้าใจได้แต่ในมุมมองของนาง เหตุใดควา
นี่มัน?!คว่ำลงไปเลย?ให้ความกล้าหาญกับนาง นางก็ไม่กล้าทำแบบนี้หรอกให้ตายเถอะ!อวิ๋นอิงรู้สึกว่าพระชายาโยนปัญหายากให้นาง ทั้งยังน่าปวดเศียรเวียนเกล้าอีกด้วยด้านข้าง เยว่เอ๋อร์ให้เห็นสีหน้า ‘ไม่กลัวตาย’ อีกทั้งยังถกแขนเสื้อเรียบร้อยแล้วด้วย“เหมือนว่าท่านอ๋องจะต่อต้านการกินยา ทุกครั้งพระชายาก็ป้อนแบบนี้”“อวิ๋นอิง ลงมือเถอะ!”เตรียมตัวรับความตายให้ดีเถอะ!อวิ๋นอิงร้องไห้ “ท่านอ๋องกับพระชายาต่างฝ่ายต่างทำร้ายกันจริงงั้นหรือ?”“หรือคิดว่าเป็นเรื่องหลอกลวงกันล่ะ?” ใบหน้าของเยว่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความช่ำชอง “เจ้ามาช้า เจ้าไม่รู้ ตอนที่พระชายาเพิ่งแต่งเข้าจวนอ๋อง นั่นถึงเรียกว่าทำร้ายซึ่งกันและกัน...ไม่ต้องพูดแล้ว รีบป้อนยาให้ท่านอ๋อง”อวิ๋นอิงยกถ้วยยา หันหน้าไปมองชายหนุ่มที่หมดสติอยู่บนเตียงถึงแม้จะหมดสติไม่ฟื้น แต่หน้าตานั่น เค้าโครงนั่น ความสูงส่งที่แผ่ซ่านออกมาทั่วทั้งร่างกาย ทำให้คนมองดูเพียงไกล ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้อวิ๋นอิงยังคงไม่กล้าเช่นเดิม “พี่เยว่เอ๋อร์ ไม่อย่างนั้นพี่จัดการ?”เยว่เอ๋อร์ “ข้ากลัวตาย”“แต่ข้าก็กลัวตายเช่นกันนะ...”“...”ตกอยู่ในความเงียบงันชั่วขณะทั้ง
ฝีเท้าของฉู่เชียนหลีหยุดชะงักเล็กน้อย ตอนที่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินน้ำเสียงที่ทั้งอ่อนแอ และเบาของเขา กำลังจะสาวเท้าเดินออกไปต่อนั้น น้ำเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นอีกครั้ง“ข้า...มีเรื่องจะอยากจะบอกเจ้า...สำคัญมาก...แค่ก...”บนเตียง ชายหนุ่มยกร่างกายท่อนบนขึ้นอย่างยากลำบาก จ้องมองภาพด้านหลังของนางด้วยดวงตาที่ซีดขาว แขนที่ค้ำยันเตียงนอนกำลังสั่นเทาเนื่องจากเสียเลือดมากเกินไป เขาอ่อนแอมากในภายภาคหน้าฉู่เชียนหลีจะเป็นมารดา เรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูก นางมีสิทธิ์ที่จะรับรู้เขาไม่อยากปิดบังนางอีกต่อไปด้านข้าง เมื่อหานอิ๋งได้ยินคำว่า ‘เรื่องสำคัญมาก’ ประโยคนี้ ดวงตาก็วูบไหวเล็กน้อย ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ว่าเป็นเรื่องอะไรนางเผยอปากเล็กน้อย ไม่รอให้ฉู่เชียนหลีตอบกลับ ก็เอ่ยปากกล่าวก่อน“นายท่านฟื้นขึ้นมาแล้ว ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว ประจวบเหมาะกับที่ข้าน้อยสืบเรื่องที่เกี่ยวกับฆาตกรเจอแล้วพอดี นายท่านจะจัดการตอนนี้เลยหรือไม่?”ทันทีที่ถงเฟยได้ยินคำว่า ‘ฆาตกร’ เส้นประสาทเส้นหนึ่งในหัวสมองก็ตึงเครียดขึ้นทันทีฆาตกร!แท้ที่จริงแล้วผู้ใดเป็นคนทำร้ายลูกให้เป็นแบบนี้กันแน่!เกือบอันตรายถึงชีวิ
สีหน้าของหานอิ๋งจริงจังเป็นอย่างยิ่ง น้ำเสียงจริงใจเป็นอย่างมาก แฝงไปด้วยการโน้มน้าวอย่างแข็งขัน“นายท่าน ได้โปรดเชื่อข้าน้อย ข้าน้อยก็เป็นผู้หญิงเช่นกัน เข้าใจหัวอกของผู้หญิงดี จะบอกพระชายาไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”นางเน้นย้ำคำว่า ‘อย่างเด็ดขาด’ ยิ่งเป็นการเตือนให้ชายหนุ่มตระหนักถึงความรุนแรงของผลที่ตาม“ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!”ทันทีที่พูดออกไป ก็จะเป็นเรื่องใหญ่มีเพียงวิธีนี้ถึงจะสามารถช่วยชีวิตพระชายาได้!เฟิงเย่เสวียนอยากจะบอกฉู่เชียนหลี แต่ก็กลัวถึงผลที่ตามมา อยากพูด ก็กลัวนางจะไม่ให้ความร่วมมือ หากไม่พูด ในใจของเขาจะต้องทรมานเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหลังจากได้ยินคำพูดของหานอิ๋ง...เขารู้ว่าความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่แต่ไม่มีลูกคนนี้ ก็ยังจะมีลูกได้อีกหลาย ๆ คนนี่นา!เขาตกอยู่ใน สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขากดหว่างคิ้วที่แสนเจ็บปวด ออกแรงนวด“ข้าเคยสัญญากับนางว่าจะปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจ ไม่หลอกลวงซึ่งกันและกัน...”“นี่คือการโกหกด้วยเจตนาดี! นายท่าน ท่านช่วยชีวิตพระชายา พระชายาควรจะต้องขอบคุณท่าน จะตำหนิท่านได้อย่างไร? การโกหกด้วยเจตนาดีไม่นับว่าเป็นการโกหก!”หานอิ๋งเหลือบตาข
สำนักหมอหลวงที่ไร้น้ำยาพวกนั้น วิชาการแพทย์ไม่เก่งกาจเท่าฉู่เชียนหลี ยิ่งไม่ต้องคาดหวังให้พวกเขาไปสืบยี่สิบกว่าปีมานี้ เป็นครั้งแรกที่สะดุดเข้ากับ ‘ฝีมือการรักษาดีเกินไป’ หินก้อนนี้ สิ่งที่เขาบูชามาโดยตลอดก็คือเงินทองกับอำนาจ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าฝีมือการแพทย์ดี ก็จะเป็นความยุ่งยากเฟิงเจิ้งอวี้กะพริบตาเล็กน้อย ทันใดนั้น ก็เอ่ยปากโจมตีทันที“เสด็จพ่อ บรรดาขุนนางใหญ่ในราชสำนักระยะนี้ถูกไล่ลาทีละคน หรือฉ้อโกง หรือรับสินบน หรือกระทำผิด อีกทั้งมาจากฝีมือของอ๋องเฉิน การตายของเจ้ากรมคลังนั่น จะเป็นฝีมือของ...”ประโยคหลัง ยังไม่ได้พูดจบ แต่ความหมายที่แฝงในนั้นได้บอกชัดเจนมากแล้วฮ่องเต้สายตาอึมครึมเล็กน้อย เปล่งประกายอะไรบางอย่าง“ขุนนางที่อ๋องเฉินบีบออกมา ล้วนเป็นคนที่ทำความผิด หลักฐานแน่ชัด เขาไม่ได้ทำผิดอะไร รัชทายาท เจ้าจะตั้งความผิดให้เขาเพราะเหตุผลนี้?”เขาหันมองเฟิงเจิ้งอวี้ด้วยสายตาล้ำลึก ทำให้เฟิงเจิ้งอวี้ตกใจระหว่างพี่น้อง กลัวการต่อสู้กันเองที่สุด!เขาก้มหน้าลงทันที “เสด็จพ่อ หม่อมฉันคิดมากไปเอง! หม่อมฉันรู้ผิดแล้ว หม่อมฉันจะติดตามผู้ตรวจการศาลาว่าการซุ่นเทียนไปสืบเรื่องนี
“เสวียนเอ๋อร์ อยู่ดีๆ เจ้าถามเรื่องนี้ทำไม?” ถงเฟยถามอย่างห่วงใย “รัชทายาทเขา…”“เสด็จแม่ อย่าคิดมาก”เฟิงเย่เสวียนขัดคำพูดและปลอบใจนาง เวลาเดียวกันก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนานี้แต่ถงเฟยจะไม่เป็นห่วงได้อย่างไร?การแย่งชิงผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ราชวงศ์น้ำลึกไม่เห็นก้นบึ้ง ทุกคนล้วนเหยียบศพปีนขึ้นที่สูง มนุษย์มีเพียงชีวิตเดียว เมื่อไรที่ผิดพลาด ก็จะตายตลอดกาล นางจะวางใจได้อย่างไร?ยิ่งกว่านั้น คนที่สู้กับรัชทายาท… ถงเฟยนั่งอยู่ตรงนั้น สองมือที่กำแน่นวางอยู่บนหัวเข่า มองดูใบหน้าที่สงบเหมือนในอดีตของเฟิงเย่เสวียน รู้สึกร้อนใจมากนางรู้ดี เด็กคนนี้มีความเป็นผู้ใหญ่ รู้ความ ตั้งแต่เล็กจนโต เขายอมให้ตนเองบาดเจ็บ ก็ไม่ยอมให้นางเป็นห่วงแม้แต่น้อยก็เพราะมีความอดทนและรู้ความสูงเกินไป จึงทำให้ผู้คนปวดใจ“ยาเสร็จแล้ว”นอกประตู ฉู่เชียนหลีถือถาดเดินเข้ามา กวาดมองคนบนเตียงแวบหนึ่ง หลังจากก้มเอววางลง ก็จะออกไปทันที“ใช่แล้ว!” ถงเฟยตบหน้าผากตนเองกะทันหัน “ข้าต้มน้ำไว้ในครัว ตอนนี้น่าจะเดือดแล้ว ข้าไปดูก่อน!”พูดจบก็เดินหายลับตาไปอย่างรวดเร็วฉู่เชียนหลี “?”ต้มน้ำ?ฮืม?มองดูถงเฟยวิ่งออกไปและ
“เชียนหลี…”“ปู่เจ้าอยู่นี่ หลานรักหุบปาก!”“แค่กๆ!”เมื่อเฟิงเย่เสวียนได้ยินคำนี้สำลักฉับพลัน ไม่เพียงบาดแผลฉีกเท่านั้น ยังมีเลือดกระอักออกจากปาก หน้าอกกระพือขึ้นอย่างแรง เกือบหมดสติฉู่เชียนหลีพลิกข้อมือ นำยาฉุกเฉินออกจากกำไลเฉียนคุน อันดับแรกฉีดยากระตุ้นหัวใจป้องกันหัวใจวายก่อน จากนั้นฉีดยาห้ามเลือด จึงจะเปิดผ้าพันแผลเพื่อทำแผลทำเอาสองมือเปื้อนเลือด ปากก็ด่าทอไม่หยุด“บอกให้เจ้าเลิกพูดได้แล้ว เลิกพูดได้แล้ว เจ้าอยากตายหรือ! เจ้าไม่เพียงเรื่องมาก ยังพูดมากอีกด้วย!”“หากไม่ใช่เพราะแม่ศึกษาทักษะการแพทย์มาหลายสิบปี ก็คงช่วยเจ้าไม่ได้จริงๆ แต่งกับข้า เป็นบุญวาสนาที่เจ้าสั่งสมไว้เมื่อชาติที่แล้ว พบเจอเจ้า เป็นข้าที่ขาดศีลธรรมเมื่อชาติที่แล้ว”เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำนี้ โมโหจนตาขาวปลิ้นขึ้นบน “แค่ก! แค่กๆ!”“เลิกพูดได้แล้ว!”โมโหจนหายใจไม่ทัน “แค่กๆๆ!”“หุบปาก! เลือดห้ามไม่อยู่แล้ว!”“แค่ก! แค่กๆๆ…”เพียะ!ทันใดนั้น ฝ่ามือที่เสียงดังชัดเจนเหวี่ยงใส่หน้าหล่อของเฟิงเย่เสวียน รอยฝ่ามือปรากฏขึ้นทันที ใบหน้าครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีแดงโดยตรงแต่ว่าได้ผลมาก เขาหยุดไอแล้วเฟิงเย่เสวียนท
นางเม้มมุมปาก อิจฉาเล็กน้อย นั่งเงียบๆ อยู่ที่ข้างๆ ละสายตาไปทางอื่นเขากล่อมน้องสาวครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความเงียบของนาง จึงเงยหน้ามอง“ทำไม ไม่พอใจแล้ว?”“หึงแล้ว?”“...”เขาจี้จุดในประโยคเดียว“โตเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้แล้ว ยังจะหึงกับลูกสาวของตัวเองอีก หรือข้าจะถูกปีศาจน้อยสองคนนี้แย่งไปได้?”“...”นี่ทำเหมือนนางดูปัญญาอ่อนมาก และจริงจังมาก?ฉู่เชียนหลีเบะปาก“เจ้าเห็นข้าเป็นใคร โลกทัศน์ของข้าแคบเช่นนั้นเลยหรือ?”“ใช่”“?”“ใครก็ได้!”เขาลุกขึ้นทันที ส่งน้องสาวที่เพิ่งกล่อมจนสงบให้แม่นม หมุนกายก็ไปอุ้มฉู่เชียนหลี อีกทั้งยังอุ้มในท่าแนวราบ เหมือนอุ้มเด็กคนหนึ่ง แต่คนที่เขาอุ้มคือทารกที่มีอายุมากแล้ว“ไม่หึงนะ ข้ารักเจ้าคนเดียว”“?”ฉู่เชียนหลีตั้งสติได้ก็เขินอายจนหน้าแดง จะขอลงทันที แม่นมยังดูอยู่ข้างๆ นะ คำพูดที่เขาพูดมัน…ก็ไม่อายเลย!“ปล่อยข้าลงไป”“ไม่ ทั้งๆ ที่เจ้าชอบให้ข้าทำเช่นนี้กับเจ้า ไม่ใช่ข้าวใหม่ปลามันอะไรเสียหน่อย ยังจะเขินอะไรอีก?”“!”ฉู่เชียนหลีหน้าแดง จ้องเขาอย่างอายจนโกรธ“รีบปล่อยข้าลงได้แล้ว ข้าจะหึงน้องสาวได้อย่างไร ข้าเปล่านะ! ข้าเห็นน้องสาวติดเ
ดังคำกล่าวที่ว่า จากกันนานชนะคู่ใหม่ปลามัน ไม่เจอกันสามเดือน คนสองคนที่คุ้นเคยแต่ก็ไม่คุ้นเคยกอดกันแน่น เปลวไฟนิรนามถูกจุดขึ้นในใจ เมื่อลุกท่วม ก็ร้อนแรงจนสะเทือนฟ้าสะเทือนบกอย่างไม่สามารถควบคุมหนึ่งจูบที่ลึกซึ้งแน่นแฟ้นลึกล้ำคิดถึงความรักเขากระหายจนอยากกลืนนางลงท้อง อยากแทะกระดูก กัดนาง กินนาง แม้แต่ลมหายใจของนางก็กลืนลงท้องนางเริ่มต้านทานไม่ไหว สมองที่ขาดอากาศว่างเปล่า สองมือยันอยู่บนหน้าอกเขา พยายามผลักออกเขาไม่ถอย กลับกันยิ่งทับแน่นขึ้นผ่านไปเนิ่นนานกลีบริมฝีปากแยกจากกันนางหอบหายใจอย่างหนัก แทบเป็นลมแล้ว แก้มทั้งสองข้างแดงฉาน แดงจนสะดุดตา แดงจนแสบตา แดงจนทำให้เขากระวนกระวายใจ ต้องการมากกว่านี้แต่เขากลับต้องอดกลั้นนางยังอยู่ในช่วงเพิ่งคลอด ภายในหนึ่งเดือนห้ามแตะต้องมีความต้องการแต่ไม่มีที่ลง ภายใต้สถานการณ์ที่หมดหนทาง เขากัดคอนาง สูดดมแรงๆ เหมือนดับความกระหาย“อาเฉิน เจ้าทำข้าเจ็บแล้ว…”เสียงตะโกนเบาๆ ดังเข้าไปในหูเฟิงเย่เสวียน มันคือการเสแสร้งเสียงที่อ่อนโยน มันคือการอ้อนก็เหมือนกับประกายไฟถูกลมพัด พริบตานั้นลุกท่วมร่างกายเฟิงเย่เสวียน เลือดในร่าง
อ๋องเฉินกลับมาแล้ว!เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ทั้งจวนอ๋องเฉินครึกครื้น ผ่านไปสามเดือนเต็มๆ ในที่สุดท่านอ๋องก็กลับมาแล้ว คนทั้งจวนวิ่งไปต้อนรับที่หน้าประตู“ท่านอ๋อง!”กลับมาแล้ว!ในที่สุด!ท่านอ๋องกลับมาแล้ว ทุกคนก็เหมือนได้เสาหลักกลับคืนมา มีที่พึ่งพิง มีความมั่นใจ แม้แต่เสียงพูดก็เปี่ยมไปด้วยพลังแล้ว“เฉินเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว ปล่อยให้แม่คิดถึงตั้งนาน!” ถงเฟยดีใจจนร้องไห้คนอื่นก็เช่นกันเฟิงเย่เสวียนโอบเอวเล็กของฉู่เชียนหลีไว้ มองดูจวนที่คุ้นเคย ใบหน้าที่คุ้นเคย สิ่งเดียวที่คิดถึงในเวลานี้คือลูก!เมื่อเดินเข้าจวน ก็ตรงไปที่เรือนหานเฟิง เข้าไปในห้อง ก็มองเห็นเด็กสองคนที่นอนอยู่ในเปลโยกสองคน!พวกนางนอนด้วยกัน เพิ่งดื่มนมอิ่ม กำลังนอนหลับสนิทกำปั้นเล็กๆ ของพี่สาวตัวอ้วนวางอยู่ที่ข้างศีรษะทั้งสองข้าง ปากน้อยๆ ที่อวบอิ่มห่อยื่นออกมาเล็กน้อย และดูดปากเป็นระยะ เหมือนกำลังนึกถึงรสชาติของนม น่ารักมากน้องสาวตัวผอมเหมือนรู้สึกไม่ปลอดภัย มือน้อยกำผ้าห่อทารกแน่น ร่างกายเล็กๆ นอนขดตัว ราวกับต้องการซ่อนตัวเองไว้ใบหน้าของเด็กที่อ่อนเยาว์สะกิดหัวใจเฟิงเย่เสวียนในพริบตา ทำให้เขา
“สวรรค์!”มีชาวบ้านเห็น ตกใจจนกรีดร้องรอตอนที่ฉู่เชียนหลีไปดู เห็นเพียงผ้าห่อทารกตกลงไปในทะเลสาบอย่างรวดเร็ว นางอยู่ห่างออกมาสิบกว่าเมตร อย่างไรก็ช่วยไม่ทันพริบตานั้น หัวใจนางเหมือนถูกมีดกรีดขณะที่ทุกคนกำลังประหม่า ในช่วงเหตุการณ์คับขัน มีร่างเงาสีหมึกสายหนึ่งพุ่งพรวดเข้ามาราวกับวิญญาณผี พลันกระโดดข้ามทะเลสาบอย่างฉับไว รับเด็กไว้แล้วร่อนลงพื้นอย่างมั่นคงปลอดภัยหายห่วง!สมองของฉู่เชียนหลีว่างเปล่าไปชั่วพริบตาหนึ่ง ขาอ่อนจนเกือบล้มลงพื้น โชคดีที่เยว่เอ๋อร์รีบประคองไว้ เมื่อยืนมั่นคงและเงยหน้ามอง ก็ต้องตะลึงอีกครั้งเขา!เขากลับมาแล้ว!เฟิงเย่เสวียน!เขายังคงสวมชุดเพ้าหมึกสีเข้ม เกล้าผมตั้งสูง ไม่เจอกันสามเดือน ผิวของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย มีแผลเป็นตรงแก้มหนึ่งสาย ช่วยเพิ่มความเฉียบคมให้เขาสามส่วน ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยแววของความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล ทำให้แลดูหนักแน่นและเป็นผู้ใหญ่กว่าเมื่อก่อนฉู่เจียวเจียวตกใจมาก“อ๋องเฉิน…”เขากลับมาได้อย่างไร?เหตุใดจู่ๆ ก็โผล่ออกมาโดยไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงเหมือนกับผี?เฟิงเย่เสวียนอุ้มเด็กไว้ในข้อพับแขน มืออีกข้างยกขึ้น มองนางด้วยร
รอนางกลายเป็นพระชายารัชทายาท เวลาที่ฉู่เชียนหลีพบนาง จำเป็นต้องคุกเข่าคำนับฉู่เจียวเจียวเชิดคางขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองนางแวบหนึ่ง กล่าวราวกับประทานความเมตตา“ถ้าหากเจ้ารู้จักประมาณตน ทางที่ดีตอนนี้ออกไปจากนอกสายตาของข้า ถ้าหากข้าอารมณ์ดีแล้ว วันข้างหน้า ข้าก็จะละเว้นพิธีของการคำนับเมื่อเจ้าพบข้า”ราชโองการยังประกาศไม่ถึงจวนอ๋องหลี นางก็วางมาดของพระชายารัชทายาทแล้วกิริยานั่น น้ำเสียงนั่น ท่าทางนั่น เหมือนนกยูงรำแพนหางตัวหนึ่ง เหลือบมองฉู่เชียนหลีจากเบื้องสูงฉู่เชียนหลีหัวเราะ“พระชายารัชทายาทแล้วอย่างไร? พระชายาอ๋องหลีแล้วอย่างไร? หรือทำผิดแล้ว ไม่ต้องยอมรับผิดก็ได้?”“หรือในความเข้าใจของเจ้า เมื่อเจ้าเป็นพระชายารัชทายาท ก็สามารถใช้อำนาจบาตรใหญ่ อยากทำอะไรก็ได้?”เมื่อชาวบ้านได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเปลี่ยนทันทีถ้าหากแม้แต่พระชายารัชทายาทก็ไร้เหตุผลเช่นนี้ เมื่อรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ จะปฏิบัติต่อราษฎรอย่างดีหรือ?พระชายารัชทายาทใช้อำนาจรังแกคน อวดอ้างบารมีเช่นนี้ มีนางอยู่ ราษฎรสามารถมีชีวิตที่ดีหรือ?ฉู่เจียวเจียวรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของชาวบ้าน นางรีบกล่าว“ฉู่เ
ฉู่เจียวเจียว “?”เมื่อหันไปมอง เห็นเพียงเต๋อฝูพาหมอหลวงสูงวัยท่านหนึ่งมารออยู่ที่ด้านข้าง และไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไรฉู่เชียนหลีประหลาดใจเล็กน้อย“กงกงเต๋อฝู ท่านอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เต๋อฝูสะบัดแส้มาไว้ในข้อพับ โน้มตัวเล็กน้อย คำนับทีหนึ่ง กล่าวตอบอย่างนอบน้อม“ข้าน้อยรับบัญชาจากฝ่าบาท เดิมทีควรไปประกาศราชโองการที่จวนอ๋องหลี ตอนที่เดินผ่านตรงนี้ เห็นพระชายาทั้งสองท่านโต้เถียงไม่ลงตัว จึงสั่งให้คนเข้าวังเชิญหมอหลวงมา สุขภาพของพระนัดดาองค์โตเกี่ยวข้องกับอนาคตของราชวงศ์ ข้าน้อยไม่กล้ารอช้า”ประกาศราชโองการ?ฉู่เชียนหลีเข้าใจอะไรบางอย่างในพริบตาดูเหมือนฉู่เจียวเจียวให้กำเนิดพระนัดดาองค์โต ฝ่าบาทจึงมีราชโองการแต่งตั้งอ๋องหลีเป็นรัชทายาท…แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลาให้คิดมาก ความสนใจทั้งหมดล้วนจดจ่ออยู่บนตัวของเด็กที่ร้องไห้ไม่หยุด“รบกวนหมอหลวงลองตรวจสุขภาพของพระนัดดาองค์โตหน่อย ว่าปลอดภัยหรือไม่?”หมอหลวงพยักหน้า เดินเข้าไปฉู่เจียวเจียวตื่นตระหนกทันที…มือที่อุ้มลูกกระชับเล็กน้อย พลางจับผ้าห่อทารกไว้แน่น แววตาสั่นไหว ลนลานเล็กน้อยแต่มาถึงขั้นนี้ นางไม่มีข้ออ้างที่จะปฏิเสธแล
เยว่เอ๋อร์สะดุ้งตกใจชาวบ้านเบิกตากว้างขณะที่เด็กกำลังจะร่วงลงบนพื้น ฉู่เชียนหลีกระโจนเข้าไป ก่อนหนึ่งวินาทีที่เขาจะตกลงบนพื้น นางรับเขาเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิดพูดถึงก็แปลก เมื่อครู่ตอนอยู่ในอ้อมแขนพระชายา เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด พอมาอยู่ในอ้อมแขนของฉู่เชียนหลี เสียงร้องไห้ก็ค่อยๆ เบาลง และสงบไปในที่สุดทันใดนั้น มีเสียงตะคอกดังขึ้น“ฉู่เชียนหลี!”“เจ้าทำอะไร!”ฉู่เจียวเจียวรีบเดินเข้าไป แย่งลูกกลับคืนมาทันที“ต่อให้เจ้าไม่พอใจข้า ก็ไม่ควรโยนลูกของข้า! เจ้ารู้หรือไม่ว่าด้วยความสูงเมื่อครู่ หัวของจื่อเยี่ยชี้ลงข้างล่าง มีโอกาสที่จะคอหักตายทันที!”“เจ้าก็เป็นแม่คนเช่นกัน จิตใจอำมหิตเช่นนี้ได้อย่างไร!”นางชี้หน้าฉู่เชียนหลี ตำหนิด้วยความโกรธและเสียงดัง พูดบลาๆ ราวกับปืนกล ไม่ปล่อยให้ฉู่เชียนหลีได้พูดแทรกคนชั่วชิงร้องเรียนก่อน ก็คงประมาณนี้“อุแว้…”เด็กที่เพิ่งเงียบไปสองวินาที เริ่มร้องไห้อีกครั้งฉู่เจียวเจียวรีบกล่อม “จื่อเยี่ยเป็นเด็กดี จื่อเยี่ยไม่ร้องนะ แม่ไม่ดีเอง ล้วนเป็นเพราะแม่ไม่ดีเอง ล้วนเป็นความผิดของแม่ แม่ไม่ควรให้กำเนิดเจ้า ถ้าหากเจ้าเป็นเด็กผู้หญิง เกรงว่าคงไม่
มัวแต่ห่วงยืนกรานว่าเป็นฝีมือฉู่เชียนหลี จนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท…ก็จริง หลังจากคลอดลูก สมรรถภาพด้านต่างๆ ของร่างกายลดลง แม้แต่ความจำก็ไม่ดีเป็นครั้งคราวอย่างที่เรียกว่าคลอดลูกหนึ่งครั้ง โง่ไปอีกสามปีจริงๆ ฉู่เชียนหลีเดินออกมาหนึ่งก้าว ยื่นมือแล้วกล่าว“ส่งเด็กมาให้ข้า”ฉู่เจียวเจียวกอดลูกแน่น ถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว“เหตุใดต้องให้เจ้าตรวจ? ข้าเชื่อใจเจ้าได้หรือ? เจ้าเป็นทักษะการแพทย์ จื่อเยี่ยมีปัญหาหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับปากของเจ้าไม่ใช่หรือ?”ในความเป็นจริง ร้อนตัวเล็กน้อยเฟิงเจิ้งจื่อเยี่ยถูกพิษหรือไม่ ในใจนางรู้ดีที่สุดถ้าหากถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคน นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน และยังจะถูกชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ฉู่เชียนหลีกล่าวอย่างเย็นชา“ต่อหน้าชาวบ้านมากมายเช่นนี้ ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ถ้าหากข้าคิดจะทำอะไร สามารถหลบพ้นสายตาของทุกคนหรือ?”แม้นางโง่เพียงใด ก็ไม่ทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้เดินเข้าไปอีกครั้ง จับมุมหนึ่งของผ้าห่อทารก“ส่งเด็กให้ข้า บนร่างกายเขามีพิษหรือไม่ ข้าพิสูจน์ก็รู้เอง”ฉู่เจียวเจียวยิ่งกอดลูกแน่นแล้ว “เจตนาเจ้าไม่ดี ข้าไม่มีทางส่งจื่อเยี่ยให
“เจ้ากล้าวางยาพิษพระนัดดาองค์โต!”เสียงตะคอกของฉู่เจียวเจียวดังมาก ทำให้ชาวบ้านโดยรอบได้ยินกันทุกคน และยิ่งทำให้ชาวบ้านตกใจมากพิษ!เพราะความริษยา พระชายาอ๋องเฉินจึงวางยาพิษกับเด็กทารกที่เพิ่งคลอดได้สามวัน!สวรรค์!ทันใดนั้น สายตาของทุกคนที่มองฉู่เชียนหลีกลายเป็นแปลกประหลาด…เยว่เอ๋อร์โกรธแล้ว “พระชายาอ๋องหลี ท่านพูดเหลวไหลอะไร! พระชายาแค่อุ้มเขาครู่เดียว ยังไม่ถึงห้าอึดใจก็ถูกท่านแย่งกลับไปแล้ว จะมีพิษได้อย่างไร! นี่ท่านเป็นโรคหลงผิดหรือ?”“อุแว้…”เสียงที่ร้องไห้ไม่หยุดของเด็ก ก็เหมือนกับเป็นหลักฐานที่หนักแน่น โต้กลับคำพูดของเยว่เอ๋อร์คำพูดของเยว่เอ๋อร์ดูไม่มีน้ำหนักทันทีชาวบ้านทุกคนไม่เชื่อ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ราวกับระลอกคลื่น“เมื่อครู่ข้าเห็นกับตา ตอนแรกพระนัดดาองค์โตไม่ได้ร้องไห้ หลังจากที่กลับถึงอ้อมแขนของแม่ ก็ร้องไห้ไม่หยุด นี่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาหรอกหรือ?”“ใช่ พระนัดดาองค์โตต่อต้านเช่นนี้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่สบาย”“หรือว่าถูกพิษจริงๆ?”“ถ้าหากนางฆ่าพระนัดดาองค์โตตาย ลูกสาวฝาแฝดที่นางคลอด ก็จะกลายเป็นที่โปรดปรานที่สุดในราชวงศ์แล้วไม่ใช่หรือ?”“ใช่…”เสียงก