แชร์

บทที่ 133

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
ใบหน้าเล็กของเยว่เอ๋อร์ตกใจจนซีดขาวเล็กน้อย ร่างกายสั่นเทา

เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย เหตุใดวันนี้จึงทะเลาะกันเช่นนี้?

คำพูดฉู่เชียนหลีออกจากปาก อารมณ์ก็ขึ้นเช่นกัน เห็นใบหน้าของเฟิงเย่เสวียน ก็นึกถึงคำพูดของหานเฟิง นึกถึงแผนการของเขา นึกถึงเด็กหนุ่มผู้บริสุทธิ์ที่ถูกไฟคลอกตายที่ค่ายโจร…

“เฟิงเย่เสวียน เป็นเจ้าที่อยากรอข้า แต่สุดท้ายกลับมาโยนความผิดให้ข้า โทษที่ข้ากลับมาช้า?”

“ทำไม?”

“ตามที่เจ้าพูด เจ้าเตะข้าคืนที่เจ้าแต่งอนุภรรยา หรือนี่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่เป็นข้าที่ทำตัวต่ำ จงใจเอาร่างกายของตัวเองไปวางไว้ที่ใต้เท้าเจ้า?”

สีหน้าของเฟิงเย่เสวียนดูย่ำแย่เป็นพิเศษขึ้นมาทันที

“ตกลงเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”

ตอนอยู่ภูเขากว่างหนิงยังดีๆ อยู่เลย

“ฉู่เชียนหลี หรือเจ้าลืมคำพูดที่พวกเราเคยคุยกันและเคยทำในถ้ำไปแล้ว…”

“พอที!” ฉู่เชียนหลีพูดขัดเสียงดัง “เรื่องที่ผ่านไปแล้วไม่ต้องพูดถึงอีก ข้าง่วงแล้ว”

นางยกเท้าจะเดิน กลับถูกเฟิงเย่เสวียนดึงกลับมา

“วันนี้ต้องพูดให้รู้เรื่อง!”

“ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า”

“ฉู่เชียนหลี!”

“ปล่อยข้า!”

“ตกลงข้าทำอะไรผิด!”

ระหว่างที่ทั้งสองโต้เถียง หนังสือเล็กๆ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 134

    วันรุ่งขึ้นวันนี้ฉู่เชียนหลีอยากออกจากจวน แต่กลับถูกขวางเอาไว้“พระชายา ไม่ได้รับอนุญาตจากท่านอ๋อง ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าออกจวนขอรับ” ทหารยามที่เฝ้าประตูยื่นมือออกมาขวางคนไว้ฉู่เชียนหลีหัวเราะทำไม?คิดจะขังนาง?นางไม่ใช่นกในกรงเสียหน่อย และยิ่งไม่ใช่สัตว์ ไม่มีอิสระกระทั่งออกจากจวน? “แล้วถ้าข้าจะออกไปให้ได้ล่ะ” นางกล่าวถามกลับทหารยามก้มศีรษะ “พระชายาโปรดอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลยขอรับ”“ทำไมถึงเป็นข้าที่ทำให้พวกเจ้าลำบากใจ? เห็นได้ชัดว่าท่านอ๋องทำให้พวกเจ้าลำบากใจ” ฉู่เชียนหลีพูดจบ ก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก“พระชายา…”“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกล้าขวางข้า?”กวาดสายตามองอย่างเย็นชา ราวกับลูกธนูที่แหลมคม ทำให้มือที่ยื่นออกไปของทหารยามทั้งสองคนหยุดชะงัก ไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้าแม้แต่ครึ่งก้าวทันทีปัจจุบัน พระชายาได้รับความโปรดปราน สถานะไม่เหมือนเมื่อก่อนพวกเขาไม่กล้าละเลยสิ้นเสียงฉู่เชียนหลี นางก้าวเขาข้ามธรณีประตูไปอย่างลำพองทหารยามหมดหนทาง “รีบไปรายงานท่านอ๋อง”ออกจากจวนฉู่เชียนหลีไปบ้านหลังหนึ่งที่เรียบง่ายและเปลี่ยว เพื่อเยี่ยมผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บที่ขาคนนั้น

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 135

    ฉู่เชียนหลีเบิกตาเล็กน้อย“ก็เพราะข้าไม่ยอมไปงานเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งงานห้าสิบปี เจ้าก็เลยส่งคนไปตีขาของเขาหักทั้งสองข้าง…”ความตะลึงงันปรากฏขึ้นในแววตาของนาง มองดูผู้ชายตรงหน้า ราวกับเป็นปีศาจอสุรกายนั่นไม่ใช่สัตว์เดรัจฉานนั่นเป็นมนุษย์เป็นๆ ที่มีชีวิตนะ! “เฟิงเย่เสวียน คนคนนั้นเป็นมนุษย์! หรือว่าในสายตาของเจ้า ชีวิตมนุษย์ไร้ค่าเหมือนต้นหญ้า บอกฆ่าก็ฆ่าเลย บอกตายก็ตายเลย!”มนุษย์ทุกคนล้วนเป็นไข่มุกในฝ่ามือของบิดามารดา มีเลือดมีเนื้อ ไม่ใช่สุนัขหรือแมว!ผู้ชายคนนี้ ควบคู่กับเด็กหนุ่มที่ถูกเผาตายในค่ายโจร และรวมถึงความเฉยเมยไม่แยแสของเขา ฉู่เชียนหลีในฐานะที่เป็นหมอแทบเป็นบ้าแล้ว“เจ้ามันคนบ้า! เจ้ายัดเยียดสุขโกรธของตัวเองลงบนตัวคนอื่น ดึงดันทำตามใจตัวเอง วิธีการโหดเหี้ยม เจ้าไม่ใช่คน!”ใช้อำนาจบาตรใหญ่รังแกคนแตกต่างอะไรกับพวกขุนนางโกงกินเอาผลประโยชน์ส่วนรวมไปเป็นของตัวเอง?เฟิงเย่เสวียนเปิดริมฝีปากบาง เสียงสายหนึ่งดังอยู่ในลำคอเหอะ!ในที่สุดนางก็พูดความในใจออกมาแล้วในสายตาของนาง เขามันน่ารังเกียจ ไร้ยางอายและอัปลักษณ์เช่นนี้นี่เอง!“ต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับคนบ้าที่โหดเห

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 136

    เฟิงเย่เสวียนกดนางไว้ด้วยมือข้างเดียวโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง มืออีกข้างที่ว่างโอบเอวบางของนาง มือลูบไปที่หน้าท้อง จับผ้าคาดเอว พลันกระชาก“ปล่อยข้า!”“ข้าไม่เอา!”ฉู่เชียนหลีดิ้นรนอย่างสุดชีวิต นางไม่มีทางมีความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้ชอบเฟิงเย่เสวียนเหลือบมองนางจากเบื้องสูง “ผู้หญิงเป็นคนปากไม่ตรงกับใจเสมอ บอกว่าไม่เอา ก็คือจะเอา”ฉู่เชียนหลีโมโหจนดวงตาแดงก่ำ“เจ้าไปหาเซียวจือฮว่า อย่าทำข้า!”นางเกลียดนางโมโหนางไม่อยากกลายเป็นของเล่นของผู้ชาย“เหตุใดจึงทำหน้าเหมือนถูกขืนใจ?” เฟิงเย่เสวียนจับเสื้อผ้าบนไหล่ของนาง พลันดึงลงข้างล่าง “ตอนอยู่ในถ้ำภูเขากว่างหนิง เจ้าตอบสนองข้าอยู่นะ!”“เฟิงเย่เสวียน!”อย่าพูดถึงเรื่องของภูเขากว่างหนิง!นึกถึงกระโดดหน้าผา นึกถึงถ้ำ นึกถึงการจงใจวางแผนของเขา และความซาบซึ้งที่นางไม่รู้อะไรเลย คิดเพียงอยากตบตนเองให้ตายในฝ่ามือเดียวนางโง่เขลายิ่งนัก!นางกลับเชื่อว่าหมาป่าที่กินเนื้อมนุษย์มีความรู้สึก!“ปล่อยข้า! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าแม้แต่ปลายนิ้ว ข้าฆ่าเจ้าแน่!” นางออกแรงทั้งหมดในร่างกาย ดิ้นรนจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผาก เบ้าตายิ่งแดงก่

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 137

    ในเมื่อเรื่องของผู้ชายคนนั้นกับโจรภูเขามีเลศนัย เหตุใดเฟิงเย่เสวียนจึงไม่บอกนาง?ปล่อยให้นางเข้าใจผิด?เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนางทั้งหมด เขาก็มีส่วนผิดเช่นกัน ใครใช้ให้เขามีปากแต่ไม่พูด?“อืม!”รอหานเฟิงพูดจบ นางตอบรับอย่างเฉยเมย ก็จะไปทันทีหานเฟิง “?”ความเข้าใจผิดได้คลี่คลายแล้ว ควรจะดีกันเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ?“พระชายา…”“มีอะไรอีก? ขยันเรียกเช่นนี้ จะให้ข้าป้อนข้าวเจ้าหรือ?” ฉู่เชียนหลีตำหนิเขา“ข้าน้อยไม่กล้าขอรับ!” หานเฟิงตระหนกตกใจ“ฮึ!”นายกับบ่าวคู่นี้เหมือนกันไม่มีผิด ทำหน้าเย็นชา ให้ตายก็ไม่ยอมอธิบายแม้แต่ครึ่งคำ เหมือนกับว่าพูดให้ชัดเจน ก็จะเป็นการเอาชีวิตของพวกเขาต้องมีสะดุดสักวัน!ฉู่เชียนหลีสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหานเฟิงมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของนาง จิกผมอย่างทุกข์ระทมเล็กน้อยทั้งๆ ที่ไม่เป็นอะไรแล้ว เหตุใดจึงยังโกรธ?ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ภูเขากว่างหนิงยังดีกันอยู่เลยหัวใจของผู้หญิง เข็มใต้มหาสมุทร เข้าใจยากยิ่งนัก…สวรรค์โปรดคุ้มครอง ต่อไปเขาจะไม่ทุกข์เพราะความรักเด็ดขาดหานเฟิงเก็บตำลึงเงิน เตรียมไปรายงานข่าวที่ห้องหนังสือ เด็กรับใช้ที่เฝ้าประ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 138

    ฉู่เชียนหลีตะลึงงันก่อน จากนั้นรีบลุกขึ้น“เร็ว!”เยว่เอ๋อร์ปลื้มปีติ รีบเปิดประตู ต้อนรับท่านอ๋องเข้ามาฉู่เชียนหลี “รีบไปเอากลอนประตูมา ขัดประตูให้เรียบร้อย!”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลีวิ่งไปปิดประตูด้วยความเร็วราวกับจะไปเกิดใหม่ แต่ช้าไปหนึ่งก้าว ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งได้ยื่นเข้ามาแล้ว และผลักประตูเปิดอย่างแรงสีหน้าของเฟิงเย่เสวียนบูดบึ้งเป็นพิเศษนางไม่อยากเจอเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ…มองไปทางฉู่เชียนหลีที่ยังหอบกลอนประตูไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง รู้สึกเพียงขมับเต้นตุบๆ “เปลี่ยนเป็นผู้ชายอารมณ์ร้ายคนอื่น ภรรยานิสัยเช่นนี้ ถูกลากไปปรนนิบัติด้วยกระบองนานแล้ว”ฉู่เชียนหลีเชิดคาง“เช่นนั้นเจ้าก็มอบหนังสือหย่าให้ข้าสิ แค่พูดจะมีประโยชน์อะไร”เยว่เอ๋อร์ถลนตา “?!”โตจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นใครใจกล้ายั่วยุท่านอ๋องเช่นนี้… เฟิงเย่เสวียนยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าก็อยากหย่าเจ้าเช่นกัน มีพระชายาที่โง่เขลาเช่นนี้ ดึงระดับของข้าให้ต่ำลงจริงๆ”ฉู่เชียนหลีชะงักกะทันหัน “...”นางรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร…เชี่ย!เรื่องของภูเขากว่างหนิง นางไม่รู้เสียหน่อยเรื่องที่ผู้ชายคนเมื่อคืนเป็นส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 139

    บ้าจริง!เขาแสดงนิสัย ‘แค่มีเหตุผลก็ไม่ละเว้นคน’ ออกมาหมดเปลือกจริงๆ!ใบหน้าฉู่เชียนหลีดำจนกลายเป็นถ่าน “ข้ารู้แล้ว!”ฉันรู้ว่านี่เป็นแผนของนาย ฉันรู้ว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด ฉันรู้ว่าเป็นฝีมือของรัชทายาท ฉันรู้ทุกอย่างแล้วดังนั้นเชิญนายหุบปากได้ไหม?เฟิงเย่เสวียนพูดต่อ “แม้ข้าพูดมากไปบ้าง แต่ก็เพราะหวังดีกับเจ้า เจ้ายังเด็ก เส้นทางของอนาคตยังอีกยาวไกล ยิ่งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากเท่าไร ในอนาคตก็จะเป็นทุกข์น้อยลง”“ข้ารู้แล้ว!”นางแทบคลั่งแล้วบ้าจริง!เขาใช่อ๋องเฉินที่เยือกเย็น สุขุม พูดน้อย ฟุ่มเฟือยคนนั้นจริงหรือ? แต่ไม่ใช่จินฉานจื่อที่กลับชาติมาเกิดเป็นพระถังซัมจั๋งแน่นะ?จู้จี้จุกจิกกว่าแม่ของฉันอีก!เฟิงเย่เสวียนยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสง่างาม “เจ้าต้องอดทนฟังคำพูดของข้าและจำให้ขึ้นใจ เกลือที่ข้ากินมากกว่าเจ้าหลายปี ถนนใต้เท้าล้วนใช้เลือดเหยียบย่ำออกมาทีละก้าว”“ข้ารู้แล้ว!”“แล้วก็ยังมีอีกเรื่อง เจ้า…”“!”ไม่จบไม่สิ้นสักที!มีเหตุผลก็ไม่ละเว้นคนใช่ไหม!เชี่ย!ฉันกัดหัวสุนัขของนาย!ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!ในที่สุดฉู่เชียนหลีก็ทนไม่ไหวแล้ว ความโกรธที่อัดอั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 140

    ฉู่เชียนหลียืนมือเท้าเอวข้างหนึ่ง อีกมือชี้เฟิงเย่เสวียน ส่วนเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ ยื่นคอออกมาจูบปลายนิ้วของนางเบาๆภาพหยุดนิ่งแสงแดดส่องเฉียงเข้ามาจากหน้าต่าง แสงสีทองอันอบอุ่นกระทบลงบนร่างกายทั้งสอง เป็นภาพที่อ่อนโยนและกลมกลืนมาก ราวกับเป็นภาพวาดจริงๆเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านข้าง ถูกรัศมีหวานซึ้งทิ่มตาบอดทันที…เฟิงเย่เสวียนเงยหน้าขึ้น มองนางอย่างลึกซึ้ง ปลอบเสียงเบา“เชียนหลี ไม่โกรธ ดีหรือไม่?”“...” เฟิงเย่เสวียนก้มศีรษะ ให้เกียรติฉู่เชียนหลีมากพอแล้ว เดิมทีฉู่เชียนหลีก็เป็นฝ่ายที่ไม่มีเหตุผล ด่าก็ด่าจบแล้ว ไฟโทสะก็ระบายแล้ว ตอนนี้จะอ้างเหตุผลไม่ยอมคนต่อก็ไม่ดีมากนักแค่กๆ!นางดึงมือกลับ ตบไหล่ของเขาอย่างเย่อหยิ่งทะนงตน“ครั้งนี้ถือว่าข้าอารมณ์ดี ไม่ถือสากับเจ้า”“อ่า…แค่ก!”ตบนี้ทำให้สีหน้าเฟิงเย่เสวียนซีดขาวเล็กน้อย ไออยู่ในลำคอ ร่างกายอันสูงใหญ่อ่อนแอราวกับไม่สามารถรับการโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว“เจ้าเป็นอะไร?!”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันครู่หนึ่ง รีบดึงมือขวาของเขามาจับชีพจรเลือดออกในตับ…ยังคงเป็นปัญหาก่อนหน้านี้นึกถึงตอนอยู่ห้องหนังสือกะทันหัน ภายใต้ความตื่นตระหนก นางค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 141

    นางก้าวไปข้างหน้าอย่างเร็วด้วยความดีใจ “ฮว่าเอ๋อร์แค่บาดเจ็บที่มือ ไม่โดนน้ำก็ไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”ขอแค่สามารถไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปีของใต้เท้าหวังกับเขา ต่อให้กำลังป่วยก็ต้องไปนั่นเป็นถึงงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี!ทั่วหล้า มีผู้ชายกี่คนที่ปฏิบัติต่อภรรยารักเดียวใจเดียว ไม่ทิ้งไม่ห่าง เสมอต้นเสมอปลายเหมือนใต้เท้าหวัง?แล้วจะมีผู้ชายสักกี่ที่ไม่มีวันลืมความตั้งใจเดิม เกื้อหนุนกันและกัน อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับภรรยาจนแก่เฒ่า?งานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปีนี้เป็นงานเลี้ยง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นพรสำหรับความรักของคนหนุ่มสาวนางต้องไปเข้าร่วมนางจะไปพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ความสำคัญของนางที่อยู่ในใจท่านอ๋องไม่มีใครสามารถเทียบได้!เฟิงเย่เสวียนกวาดมองมือที่พันด้วยผ้าพันแผลของนางดึกเช่นนี้แล้ว นางยังจะออกไปข้างนอกอีกหรือ?“นี่ก็ดึกแล้ว”เซียวจือฮว่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ ก่อนออกจากจวนแต่งหน้าหวีผมนานไปหน่อยเจ้าค่ะ”นางมองท้องฟ้าแวบหนึ่ง “ ออกจากจวนตอนนี้ น่าจะไปถึงพอดี ไม่เสียงานแน่นอนเจ้าค่ะ”นางยกกระโปรงผ้าแพรเก้าเมฆาที่เรียบเนียนและสวยงามขึ้น ก้าวข้า

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1156

    ฉู่เชียนหลีจากไปห้าที่หก เจียงเป่ยประกาศหนังสือสงครามต่อเจียงหนาน เนื้อหามีอยู่ว่า คืนองค์หญิงเฟิงเจิ้งลู่ฉินภายในสามวัน ไม่คืนยกทัพบุกโจมตีเหตุผลเห็นสมควรอย่างยิ่งขอลูกสาวของตัวเองคืนหลังจากฉู่เชียนหลีรู้ อารมณ์สับสนอย่างบอกไม่ถูก เพราะนางรู้ว่าเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้รักเฟิงเจิ้งลู่ฉิน เขาแค่ต้องการใช้ข้ออ้างขอลูกสาวคืน เพื่อบุกโจมตีเจียงหนาน“พระชายา ทำอย่างไรดี?”อวิ๋นอิงถามพื้นห้องถูกปูด้วยพรมหนาๆ เด็กทั้งสามคนวิ่งเล่นบนนั้น สะดุดล้ม ชนกัน กระแทกกัน ถูกพรมปกป้องอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหลายวันที่อยู่ด้วยกัน เด็กทั้งสามคนคุ้นเคยกันแล้ว และเล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเจ้าไล่ข้า ข้าไล่เจ้าคลานไป คลานมาเจ้าแย่งขวดนมของข้า ข้าหยิกหน้าของเจ้า พูดอีอาๆ แม้ไม่มีใครฟังเข้าใจฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ มองไปทางลู่ฉินลู่ฉินคลอดก่อนกำหนด รูปร่างผอมและยังมีโรคหัวใจ เหมือนกับตุ๊กตาที่อ่อนแอตัวหนึ่งเฟิงเจิ้งหลีไม่รักนาง ฉู่เจียวเจียวไม่ชอบนาง ถ้าหากนางกลับเจียงเป่ย ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร…ขณะที่นางกำลังกังวล ลู่ฉินที่กำลังคลานเล่นเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คลานไปที่ตรงหน้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1155

    เฟิงเจิ้งหลีมาถึงตำหนักของไท่ซ่างหวงเหมือนไท่ซ่างหวงคาดการณ์ไว้นานแล้ว กำลังนั่งพิงบนหัวเตียงรอเขา สายตาของสองพ่อลูกบรรจบกันกลางอากาศเกิดความเงียบขึ้นชั่วพริบตาผ่านไปครู้หนึ่ง เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้าไปอย่างเหนื่อยล้า “เหตุใดไม่ไป?”เขาทิ้งร่างกายที่หนักอึ้งนั่งลงไป ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่เสียงพูดก็แหบ โดยรวมแล้วดูโทรมมากราวกับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขานั่น ถูกคนที่ชอบและเชื่อใจที่สุดหักหลังและทิ้ง ก็คือการทำร้าย ทิ้ง…เขาเกลียดคำนี้ที่สุดในชีวิตไท่ซ่างหวงมองดูลูกชายที่คล้ายเขาห้าส่วนตรงหน้า และคล้ายมารดาของเขาห้าส่วน พริบตาเดียว ลูกชายก็โตเช่นนี้แล้ว และเขาก็ขาดความรักมากมายเหลือเกินในดวงตาที่ขุ่นมัว เผยให้เห็นความรู้สึกผิดหลายส่วน“ถ้าหากข้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือญาติแม้แต่คนเดียว”“!”ร่างกายเฟิงเจิ้งหลีสั่นสะท้าน แผ่นหลังแข็งฉับพลันญาติ…ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อใช้คำนี้เรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา“หลีเอ๋อร์ ข้ารู้ หลายปีมานี้ พ่อติดค้างเจ้าเยอะมาก พ่อให้ความสำคัญกับบ้านเมืองจนมองข้ามเจ้า ในใจพ่อรู้สึกผิดนัก” ไท่ซ่างหวงกล่าวอย่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1154

    คืนแรกที่ออกจากเมืองหลวงฉู่เชียนหลีนอนไม่หลับ…เมืองหลวงอันไกลโพ้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำอูหลาน วังหลวงจุดเทียนสว่างไสวในยามค่ำคืนที่มืดมิด เหล่านางกำนัลถือโคมไฟ ก้มหน้าเดินผ่านยังเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดมากตำหนักเจาหยางทุกที่มืดมิด ไร้ผู้คน และไม่มีเทียนแม้แต่เล่มเดียว เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน เงียบราวกับดินแดนไร้ผู้คนแต่ท่ามกลางความมืดนั่น กลับมีเสียงหายใจเย็นๆ สายหนึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยิน เฟิงเจิ้งหลีนั่งอยู่บนบันได ร่างกายของเขากลมกลืนกับความมืดจนมองเห็นแทบไม่ชัด ดวงตาคู่นั้นฉายแสงในความมืด ราวกับจมอยู่ในเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดในอดีตที่นี่เคยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ เคยมีรอยยิ้มของนาง ท่าทางที่อ่อนโยนของนาง และเสียงอันนุ่มนวลที่พูดคุยกับเขา ภาพเหล่านั้นเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดยังคงอยู่ในสมองของเขา ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาชัดเจนมากตราตรึงมากนางเคยพูด อยู่ข้างกายเขา รู้สึกสบายใจมากนางเคยพูด จื่อเยี่ยชอบเขา นางก็จะดีกับเขานางเคยพูด…คำพูดไพเราะนางเป็นคนพูด เรื่องใจร้ายก็นางเป็นคนทำล้วนเป็นนาง!ฉู่เชียนหลี!โกหกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อครั้งแล้วครั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1153

    “คุณหนูอย่าคิดมาก แม้องค์หญิงแคว้นหนานยวนท่านนี้น่ารังเกียจไปบ้าง แต่นางทำงานเสร็จ ก็น่าจะกลับแคว้นแล้ว ก็แค่เจอกันชั่วคราว ทำอะไรไม่ได้หรอก” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมฉู่เชียนหลีไม่ได้คิดมากอย่างไรก็ตามผู้ชายอย่างเฟิงเย่เสวียนที่อายุยังน้อย รูปร่างหน้าตาโดดเด่น มีฐานะมีอิทธิพล สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายชอบก็เป็นเรื่องปกติถ้านางจะถือสา คนมากมายเช่นนั้น จะถือสาไหวได้อย่างไร?นางนึกถึงเรื่องของกู่แพทย์ มองจิ่งอี้อย่างจริงจัง เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเหมือนคนป่วย ก็รู้แล้วว่าเขากำลังใช้ร่างกายตัวเองเลี้ยงกู้แพทย์“เลี้ยงรอดหรือไม่?” นางถามเบาๆมีการบันทึกในตำราโบราณ กู่แพทย์ชนิดนี้อ่อนแอเลี้ยงยาก เผลอไม่ระวังนิดเดียวก็จะตาย สิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์จิ่งอี้หลุบตา เสียงเบามาก“เลี้ยงแล้วสามสิบกว่าตัว ในที่สุดก็เลี้ยงรอดสองตัว…”กู่แพทย์สองตัวนี้ ตอนนี้ถูกเขาเก็บไว้ในหน้าอก พกติดตัวไปทุกที่ ต่อให้เป็นเวลานอน ก็จะนำออกมาดูเป็นระยะกลัวว่าพลั้งเผลอนิดเดียว พวกมันก็จะตายฉู่เชียนหลีเหลือบมอง “อวิ๋นอิงรู้หรือไม่?”“นางไม่รู้ขอรับ คุณหนู อย่าพูดถ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1152

    เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีใบหน้างดงาม การแต่งกายดูขี้เล่นแต่ยังคงสูงศักดิ์ มัดมวยผมและถักเปียหางม้า ซึ่งบ่งบอกว่านางยังไม่แต่งงาน กระโดดออกมาปรากฏตัว ท่าทางที่สดใสร่าเริงนั่น ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายมากฉู่เชียนหลีเหลือบมอง“เจ้าคือ…”“ข้าชื่อจวินลั่วยวน เป็นองค์หญิงแคว้นหนานยวน”นางแนะนำตัวเอง เสียงนั่นเหมือนนกขมิ้นที่บินออกจากหุบเขา สดใสไพเราะ“อ๋องเฉินกับฮ่องเต้ตงหลิงสู้กัน เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยอ๋องเฉินที่เจียงหนาน ก็เพราะข้าแทรกแซง ฮ่องเต้ตงหลิงจึงให้ความสำคัญกับศึกเมืองเทียนสู่เป็นพิเศษ และลงสนามรบด้วยตัวเอง”ไม่เช่นนั้น ยังไม่สามารถล่อฮ่องเต้ตงหลิงออกมาได้ล่อเสือออกจากถ้ำ พระชายาอ๋องเฉินจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยพูดถึงก็ล้วนเป็นผลงานของนางฉู่เชียนหลีเข้าใจแล้วองค์หญิงของแคว้นหนานยวนท่านนี้ ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฮ่องเต้หนานยวน เป็นแก้วตาดวงใจที่เหมือนไข่มุกงามบนฝ่ามือ ถูกเอาใจใส่อย่างดีตั้งแต่เด็ก“รบกวนองค์หญิงแล้ว” นางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นมารยาทจวินลั่วยวนประหลาดใจเล็กน้อย “?”แค่นี้?ไม่มีแล้ว?พูดแค่สี่คำก็แสดงความขอบค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1151

    เด็กน้อยที่ดูกลัวๆ ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกับเจอที่พึ่งพิง เบ้าตาแดงก่ำ มุดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง“อุแว้!”ร้องไห้เสียงดังนางกลัวมากแม่ของนางไม่อยู่ นางถูกคนรับใช้โยนไปโยนมา กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ และยังไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่มีใครกล่อมนางอย่างอ่อนโยนและอดทนเหมือนท่านแม่ในที่สุดก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วไม่สามารถควบคุมความน้อยใจที่กดเอาไว้ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้“ฮือๆ…”สองมือจับเสื้อฉู่เชียนหลี มุดเข้าไปในอกของนางก็ร้องไห้อวิ๋นอิงยกมือขวาขึ้น รีบรับรองทันที “พระชายาวางใจได้ ตอนที่ท่านไม่อยู่ พวกเราดูแลลู่ฉินอย่างดี ไม่มีใครรังแกนางแน่นอน นางน่าจะคิดถึงท่านมาก จึงร้องไห้เช่นนี้”“ท่านไม่รู้หรอก แม้ลู่ฉินยังเล็ก แต่นางรู้ว่าใครเป็นใคร นางจะเอาท่านคนเดียว พึ่งพาท่าน คิดถึงท่าน”หัวใจฉู่เชียนหลีละลายตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา นางเลี้ยงเองกับมือมาโดยตลอด และความเชื่อใจและการพึ่งพาที่เด็กมีต่อนาง ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุด“ไม่ร้องนะ”นางเช็ดน้ำตาเบาๆ “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปอีกแล้ว”ในเมื่อเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวไม่เอาเด็กคนนี้ นางเลี้ยงเอง“แม่…”เสียง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1150

    ท้ายที่สุดเฟิงเจิ้งหลีก็ไม่ได้ลงมือกองทัพทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันในระยะไกลทั้งเช่นนี้เฟิงเย่เสวียนกอดฉู่เชียนหลีไว้ จับเชือกบังเหียนม้าแน่น ขี่ม้าจากไปเฟิงเจิ้งหลียืนอยู่ที่ข้างแม่น้ำ ร่างกายที่บอบบางถูกลมเย็นพัดจนเสื้อคลุมพลิ้วไหว สีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า มุมปากยังมีคราบเลือด ยืนมองนิ่งๆ ทั้งเช่นนี้…มอง…รอหลังจากขบวนของอ๋องเฉินหายลับตา เขายังคงยืนอยู่ข้างแม่น้ำ เนิ่นนานก็ไม่ขยับสองเท้าหนักเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่ว สายตามองตรงไปข้างหน้ากลิ่นอายรอบตัวขรึมมาก สีหน้าแยกไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือเข้าไป…เจียงหนาน เมืองน้ำ[1]  อากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมดีมากขบวนตรงไปที่ทำเนียบ“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”“พระชายา?!”เมื่อคนที่เข้ามาต้อนรับเห็นฉู่เชียนหลี แต่ละคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อน แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ“พระชายากลับมาแล้ว!”“พระชายากลับมาแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอวิ๋นอิง จิ่งอี้ เฟิ่งหราน คนมากมายรีบมาไม่เจอครึ่งปี มิตรภาพยังคงอยู่“พระชายา ในที่สุ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1149

    แสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าริบหรี่เวลาหนึ่งคืนเดียว เร่งเดินทางจากเมืองหลวงไปยังแม่น้ำอูหลาน ในช่วงที่ฟ้าใกล้สว่าง คนทั้งกลุ่มข้ามแม่น้ำเมื่อเดินไปถึงครึ่งทาง จุดที่ไกลออกไป มีขบวนอีกกลุ่มมุ่งหน้ามาอย่างเร่งรีบราวกับกระแสน้ำ สายลมเย็นยามเช้าพัดผ่าน เหมือนกับทัพใหญ่เข้าใกล้ชายแดน บรรยากาศที่กดดันอบอวลกลางอากาศหานเฟิง “นายท่าน อ๋องหลีมาแล้ว…”ขบวนสองกลุ่ม พบกันที่แม่น้ำอูหลานเฟิงเย่เสวียนอยู่บนสะพานเฟิงเจิ้งหลีอยู่บนฝั่งหยาดน้ำฟ้าตก สายน้ำไหลเชี่ยว สาดซัดเข้าฝั่ง หยดน้ำกระเซ็น ในอากาศเต็มไปด้วยความหนาวเย็น สองพี่น้องยืนสบตากันจากระยะที่ห่างกันหลายเมตรอยู่ไกลเกินไป แทบมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็เหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใช้สายตาประลองกันเงียบๆ“ฝ่าบาท” รองแม่ทัพเอ่ยปาก “นี่คือโอกาสดีในการกำจัดอ๋องเฉิน ถือโอกาสตอนที่พวกเขายังอยู่บนสะพาน พวกเราระเบิดสะพาน ให้พวกเขาตกลงไปในน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแน่นอน!”เขาคิดว่า นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมมากอ๋องเฉินข้ามสะพานไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อให้วิ่งไปอีกฝั่งของแม่น้ำ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งก้านธูปเวลาครึ่ง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status