โรแกนหญิงสาวผู้เคยเป็นอดีตสหายสนิทของว่าที่จอมมาร เดินตรงมาจับข้อมือของผู้ที่ถูกกล่าวหา
ยกมีดกรีดข้อมือของอีกฝ่ายโดยสีหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง ปล่อยให้เลือดไหลเอ่ออย่างไม่ไยดี ลงมือวาดอักขระวงแหวนเวทบางอย่างด้วยความเชี่ยวชาญ ขณะที่นาธาน โดโนแวนผู้ทรยศหักหลังอัศวินที่ปกป้องทุกคนกับลงมือร่ายคำสาปร่ายคาถาระบายความอัดอั้นที่ต้องอยู่ใต้เงาของคนที่ชื่อว่าเป็นเพื่อนอย่างสะใจ ลงมือระบายความอัดอั้นที่เก็บอยู่ในใจมานาน...ไอ้พวกสารเลวชั่วช้า…เลือดมากมายของเซเวียร์ที่ถูกกรีดมาใช้วาดอักขระเลือดบนพื้นหิน โดยที่สีหน้าเจ้าตัวไม่เปลี่ยนแปลง เพราะหัวใจของเขาว่างเปล่าจนไร้ความรู้สึก หลับตาลงอย่างคนที่ปลงตก เขาอยากจบชีวิตที่ทรมานจิตใจนี้ลงให้จบลงสักทีเกรกอรี่กำหมัดแน่นมองภาพตรงหน้า แม้ว่าเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นคู่อริของอีกฝ่าย แต่ก็ไม่เคยมีความคิดทำให้อีกฝ่ายตายหรือมีสภาพปางตายแบบนี้ พวกนั้นเป็นเพื่อนขยะแบบไหนกันอักขระเวทบนพื้นที่โรแกนวาดจนเป็นรูปร่างคร่าว ๆ จนสามารถมองรูปแบบออกได้ เขามองปาดเดียวก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นการฆาตกรรมแบบหน้าด้านชายหนุ่มพบคัมภีร์มหาทมิฬฉบับสมบูรณ์ หลังจากจัดการทำความสะอาดเก็บกวาดครั้งใหญ่กับคฤหาสน์หลังสงคราม แล้วเขาก็อ่านมันจนจบ ไม่ใช่แค่นั้นเซเวียร์ก็ยืมมันไปอ่านเล่นอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกันเพราะเจ้าตัวอยากทำความเข้าใจความคิด วิถีชีวิตจอมมารซิลแวนซะเหลือเกิน แต่ตอนนี้ทำไมเซเวียร์ถึงไม่ขัดขืน นี่แหละที่เขาไม่เข้าใจ และเขาก็จะลากมาถามเค้นคำตอบโง่ ๆ นี้ให้ได้น่าเสียดายที่พวกนั้นอ่านมันไม่จบ ถึงแม้ว่าคัมภีร์จะไม่สมบูรณ์ แต่ดูเหมือนพวกนั้นจะรีบร้อนจนลืมอ่านคำเตือนท้ายเล่มที่ไม่ค่อยครบเท่ากับเล่มจริงที่อยู่หน้าสุดท้ายที่พวกมันคงลืมเปิดอ่านแต่ก็น่าจะเอะใจบ้าง หึ…ชายหนุ่มเหยียดยิ้ม ใครจะคิดว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากขยะที่ได้เก็บมาปัดฝุ่น แล้วโยนเข้าห้องสมุดในคฤหาสน์ เพราะเป็นหนึ่งในคัมภีร์หายากแถมยังโชคดีที่เขาเคยเก็บเลือดบางส่วนของโรแกนที่ทำเลอะเทอะบ้านเขาด้วยความหมั่นไส้ไว้ เอาไปสาปส่งหล่อนให้เจ็บ ๆ คัน ๆ ตอนที่ถูกจับตัวมาช่วงสงคราม เพราะเธอถูกป้าเขาทรมานจนเลือดตกยางออกจนดูน่าเห็นใจในตอนนั้น แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคิดว่าป้าเขาลงมือเบาไปหน่อย
แล้วพาอัศวินดวงตกอับตลอดกาลไปพักผ่อนในห้วงมิติของเขาแบบปลอดภัย จากนั้นหันหลังกลับออกไปไม่สนใจเหตุการณ์วุ่นวายที่อยู่ด้านหลัง เพราะถ้าเขาหันกลับมามอง ก็คงเห็นสิ่งที่โหดร้ายทารุณที่สุดตั้งแต่เกิดมาเลยก็ได้นิโคลถูกคนรักและเจ้าหน้าที่มือปราบหลายคนช่วย เธอถูกส่งไปที่สถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นความลับโดยการนำทางของนาธาน และไม่รู้ตัวเลยว่าเป็นการพาตัวเองไปเยือนดินแดนความตายก่อนวัยอันควรเร็วขึ้นเพียงแค่ย่างก้าวเข้าไป สัญชาตญาณมือปราบก็ร้องเตือนอันตราย แต่พวกเขาจะทำอย่างไรได้ เมื่อประตูนรกเปิดรอรับพวกเขาอยู่แล้วนั่น!!!ดวงตาหลายคู่เบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก พลังเวทของพวกเขาถูกปิดกั้นไม่สามารถใช้งานได้เลย คล้ายกับคนธรรมที่ไร้เวทมนตร์ ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ควรตายไปแล้วกลับยังไม่ตาย และมีลมหายใจอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง“อ่าห์…สวัสดีมือปราบทุกท่าน ขอบคุณที่มาเป็นกำลังให้ข้า...”นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ชีวิตพวกเขาได้ยินจากปากคนที่ไม่เคยคาดคิด คนที่เป็นจอมมารตัวจริง ก่อนจะสูญเสียสติไป และไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีกเหล่ามือปราบที่ตาสว่า
ชายหนุ่มจัดการบาดแผลตามร่างภายนอกอย่างรวดเร็ว ไม่เหลือแม้กระทั่งรอยแผลเป็นให้เห็น สมกับตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษด้านการปรุงยาพ่วงกับศัลยแพทย์มือหนึ่งของที่ไร้เวทมนตร์น้ำยารักษามากมายลอยคว้างอยู่กลางอากาศเรียงกันมาให้หยิบกรอกปากเซเวียร์นับไม่ถ้วน ตั้งแต่น้ำยาแก้ฟกซ้ำธรรมดาไปยังน้ำยาปลูกอวัยวะใหม่ที่หาซื้อได้ยากแต่ไม่คณามือดยุควินเซอร์ที่ปรุงขึ้นใหม่ได้สบายเพียงแค่ตวัดมือไม่กี่ที จะเสียดายก็ตรงที่ต้องไปหาสมุนไพรเหล่านั้นมาใหม่ พวกมันหายากนักที่จะมีคุณภาพดีตามที่เขาต้องการ...ใช้น้ำยาเปลืองชะมัด คราวนี้เจ้าติดหนี้ข้าบานแน่เซฟฟี่…นายแพทย์จำเป็นกำลังรักษาว่าที่จอมมารได้แต่บ่นอุบอิบ แต่ก็ยังไม่หยุดมือช่วยเหลือเซเวียร์ ทุกอย่างทั้งหมดดูเหมือนจะเรียบร้อยดีเหงื่อไหลอาบใบหน้าคม คนไข้จำเป็นของเขาอาการหนักไม่น้อย พวกนั้นไม่เบามือเลย ทั้งคาถาคำสาปและแรงสะท้อนของพิธีกรรมทำให้อดีตอัศวินยังคงไม่ได้สติ แม้ว่าร่างกายจะถูกน้ำยาและเวทมนตร์ช่วยเหลือจนสมบูรณ์แล้วก็ตาม ทำให้ดยุค
ทำไมยุคเขาถึงไว้รื้อแล้วสร้างใหม่เกือบทั้งหมด คฤหาสน์ก็เพิ่งสร้างใหม่ นี่ยังต้องวางอักขระเขตแดนประจำตระกูลใหม่อีก!!!ผู้นำตะกูลวินเซอร์คนปัจจุบันได้แต่คร่ำครวญร่ำไห้ในใจ ภายใต้สีหน้าไม่แยแสหากบรรพบุรุษต้นตระกูลที่ถ้าได้ยินผู้นำคนปัจจุบันว่าคงอยากลุกขึ้นมาจากหลุมสวดเจ้าลูกหลานเวรนี่สักที“ทำไมสเวนต้องอยู่กับข้า?” เสียงเรียบ ๆ เอ่ยขึ้นมาของเจ้าบ้าน พรางมองไล่สายตาไปที่พวกนั้นอย่างกดดัน“เพราะเซเวียร์เคยช่วยชีวิตเจ้าไงล่ะ” สาวสวยผู้ทะเยอทะยานพูดหยั่งเชิง“ฮะ? สมองฉลาด ๆ ของเธอเสื่อมสภาพไปแล้วหรือไง พูดไม่คิด”เจ้าของคฤหาสน์มองเธออย่างงงวย เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอไปเอาแรงกับพลังเวทที่สูญเสียไปมาจากไหน เพราะสภาพร่างกายของโรแกนที่เจอตอนนี้น่าจะกรอบ เหนียว เหี่ยวย่น หมดแรงนอนเป็นซากอีกนานอย่างแน่นอนแต่เธอคงใช้วิธีสกปรกอีกล่ะสิเฮ้อ...น่าสมเพช ๆ“แล้วทำไมข้าต้องช่วยมัน” เกรกอรี่พูดอย่างเฉยชาและลุกขึ้นยืนจากโซฟาชั้นดี คนพวกนี้ไม่มีทางรู้ได้ว่าเขากับเซเวียร์ญาติดีกันแล้ว&
ผู้นำตระกูลวินเซอร์วิ่งออกมาให้ห่างจากคฤหาสน์หลังงามของเขา ถึงจะมั่นใจว่าแรงคาถากระจอกงอกง่อยจะไม่มีทางทำอะไรคฤหาสน์แสนสวยของเขาได้ แต่กันไว้ก่อนก็ดีไม่น้อยแม้ว่าจะมีเวทมนตร์ซ่อมแซมก็เถอะ แต่คงเหนื่อยน่าดู ถ้าให้เขาผู้เป็นคุณชายต้องผันตัวเองไปซ่อมบ้านปะหลังคาต้นไม้มากมายกลายสภาพเป็นเศษซากเกลื่อนกลาดด้วยคาถาที่รุนแรงแบบไม่มีการออมมือออมเท้า ชายหนุ่มเหลือบมองซากที่ถ้าโดนเข้าไปเขาคงหมดหล่อกันพอดี พวกนั้นจะจริงจังตั้งใจรุมกระทืบเขาอะไรปานนั้นพื้นดินบางส่วนที่ไม่อาจหลบลูกหลงพ้น กลายสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ดีที่เขาต้อนพวกนั้นออกมาจากบริเวณบ้านของเขาเพราะคฤหาสน์และบริเวณอาณาเขตของตระกูลวินเซอร์ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมา ผู้ที่จะซ่อมแซมแก้ไขคือเจ้าของผู้เป็นเจ้าบ้านและผู้นำตระกูลมือใหม่อย่างเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้นแถมคฤหาสน์ก็ไม่ใช่หลังเล็ก ๆ ใหญ่กับปราสาทเกิดเสียหายขึ้นมา อีกกี่ปีที่เขาจะซ่อมเสร็จ ไม่แก่จนผมหงอกผมร่วงกันพอดีหรือไงกัน พวกมันน่าจะมาเร็วกว่านี้ซะสองวันจะทำบ้านพัง เขาก็จะไม่เดือดร้อนเลยในเมื่อคนที่ต้องซ่อมเป็นพ่อที่น่ารักน่าฟัดข
เขาต้องรีบจบศึกนี้แล้ว จะยืดเยื้อไม่ได้ก่อนที่พวกนี้จะรู้ว่าความจริงว่าเขาให้ท่านพ่อกับท่านแม่ออกท่องเที่ยวไปในที่ไม่มีใครรู้ แล้วที่พวกมันได้ข่าวไป ก็เป็นข่าวลือที่เขาปล่อยไปว่ากำลังไปพักที่บ้านต่างอากาศนอกเมือง เป็นข่าวตบตาพวกอยากรู้อยากเห็น เพื่อให้ท่านพ่อสุดที่รักได้จู๋จี๋กับท่านแม่โดยไม่มีสิ่งใดรบกวน ถ้าพวกมันรู้ ที่อยู่ที่แท้จริงของท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านจะต้องมาลำบากพัวพันกับเรื่องบัดซบนี้อีกแน่ “ไม่ต้องรีบร้อนใจไปคุณชายวินเซอร์ เจ้าจะได้ไปหาครอบครัวเลือดบริสุทธิ์ที่น่ารังเกียจในปรภพแน่นอน” นิโคลเอ่ยเสียงแหบแห้งขัดกับดวงตากระหายเลือด นี่หล่อนยังลากสังขารตัวเองตามมาอีกหรือ “ตายซะ” แสงสีแดงเลือดพิฆาตสว่างขึ้นต้านกับแสงสีเงินราวหมอกควันผลักกันไปมา มือแกร่งถือไม้กายสิทธิ์อย่างมั่นคงสมกับชื่อเสียงนักเรียนดีเด่นคนหนึ่ง มืออีกข้างคอยร่ายเวทปัดคาถาที่ต่างเข้ามาโจมตีเขาพร้อมกันทุกทิศทาง นี่พวกมันกระเอาเขาตายแบบไม่ต้องเหลือซากไว้ฝังเลยหรือไงกัน!!! สายตาของอดีตผู้อำนวยการศาสตราจารย์ใหญ่ของสถานศึกษายิ่งใหญ่ จ้องมองมาอย่
ภาพจากความทรงจำที่เจ้าของความทรงจำเห็นแล้วอดกระตุกมุมปากเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่ว่าถ้าเขาเป็นคนเล่าเรื่องราว แล้วรายละเอียดสำคัญที่อาจเป็นกุญแจที่ไขสาเหตุที่พาพวกเขามาที่นี่ คนอย่างเขาคนไม่เปิดเผยเรื่องน่าขายหน้าเช่นนี้ให้อีกฝ่ายดู แม้ว่าจะเป็นสหายรักก็ตามจากนั้นก็เป็นภาพความทรงจำเหตุการณ์ที่เขาเอาชีวิตรอดอย่างวุ่นวายเล็กน้อยในช่วงที่มาดินแดนแห่งนี้แต่ก็ไม่หนักหนาเท่าแมคเคนที่ถูกจับเป็นทาสในเรือนเบี้ยให้ผู้คนกลั่นแกล้ง จนถึงมาในช่วงเหตุการณ์ที่เขาถูกสะกดรอยตามไปทั่วทุกหนทุกแห่ง มีภาพเหมือนของเขาประกาศไปทุกมุมเมือง แม้กระทั่งตรอกซอกซอยแหล่งอโคจรก็ยังไม่เว้น เขาเลยเลือกที่จะเข้าถ้ำเสือ เผยตัวตนเพื่อให้รู้จุดหมายของพวกคนเหล่านี้...เด็กน้อยอายุอานามราวสามหนาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่าขาดวิ่น บาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัว เดินโซซัดโซเซเหมือนเด็กขาดสารอาหาร ไปกลางถนนที่มีรถม้าที่กำลังวิ่งมาอย่างเร็ว วางกับดักเล็ก ๆ เพื่อดูท่าทีของคนที่ติดตามเขายิ่งกว่าแมลงวันตรอมยังไงเด็กคนนี้ก็ไม่กลัวที่จะบาดเจ็บ เพราะเขาคือ เกรกอรี่ วินเซอร์ ดยุคหนุ่มแห่งตระกูลจอมเวทสายเลือดบร
เยี่ยหยางพาแมคเคนมาส่วนที่ลึกที่สุดของเทียนถูหวู่ เป็นโชคดีของพวกเขาที่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับทำพิธีอยู่ใต้ฝ่าเท้า อยู่ในบริเวณของหมู่ตึกเป่ยจงที่สร้างตามความเชื่อความศรัทธาว่าเต่านิลอสรพิษเป็นสัตว์พื้นพิภพ มีความสำคัญกับปฐพีมากที่สุด แต่เขาพบว่าที่แห่งนี้ไม่ค่อยมีผู้คนนิยมมาใช้สอยเท่าที่ควร เพราะบรรยากาศวังเวงมืดมนสวรรค์เป็นใจให้ข้า…แมคเคนรู้สึกอยากหอมแก้มเพื่อนรักก็ตอนนี้แหละการถอนคำสาปที่ได้ผลดีในการคืนศาสตร์มืดควรให้ผืนดินที่ดูดซับทุกอย่าง และจะดีที่สุดควรจะเป็นใต้ดินที่ลึกที่สุด ใกล้ใต้พิภพมากที่สุด เพื่อดูดซับคำสาป ความชั่วร้าย และเสริมพลังในการทวนย้อนคาถาเป็นพื้นฐานทั่วไปของผู้วิเศษ อีกทั้งวันนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญจันทร์เต็มดวงยิ่งเหมาะที่สุด ยกเว้นบางคาถาที่เป็นคำสาปของเวทแสงซึ่งน้อยคนจะรู้คำสาปตึงร่างตรอกวิญญาณที่แมคเคนเผชิญเป็นคำสาปที่อยู่ในหมวดศาสตร์มืด มีผลให้ร่างกายไม่สามารถรวบรวมเวทมนตร์ แกนวิญญาณเสียหาย แกนเวทอาจถูกทำลายเยี่ยหยางวาดวงเวทขั้นสูงด้วยเลือดยูนิคอร์นที่ได้มาอย่างถูกต้องมีคุณสมบัติสามารถชำระล้างวิญญาณ คำสาปที่น่
เอ๊ะ? เมื่อกี้อีกฝ่ายบอกว่าเขาเป็นน้องชาย ก็หมายความว่าอีกคนเป็นพี่ชายที่ท่านแม่เอ่ยถึงงั้นหรือ“ท่านคือ?”“อ่ะแฮ่ม...ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง น้องชายของข้า”เยี่ยหยางกล่าวยิ้มกว้างต้อนรับน้องชายอย่างอารมณ์ดี ปัดความบาดหมางส่วนตัวระหว่างเขากับเฉิงเยว่ทิ้งทันที ราวกับเรื่องที่ปะทะคารมกันไม่เคยเกิดขึ้นจูเฉิงเยว่ “...”“เจ้าไม่เชื่อ?” เยี่ยหยางเห็นน้องชายเงียบไปก็ถามกลับ ก็ได้คำตอบที่ปวดใจมาแทนว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อแม้แต่น้อย“นี่เจ้าดู” คนเป็นพี่ลากน้องชายหมาด ๆ มายืนหน้ากระจกเทียบ “สีผมเราสองคนก็เหมือนกัน สีตาก็ด้วย นี่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลเราเลยนะ”“ท่านพ่อท่านแม่ไม่ได้มีสีผมสีตาประหลาดอย่างนี้” เฉิงเยว่แย้ง“ก็ได้ ๆ ข้าจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าฟัง” เยี่ยหยางพูดเสียงเล็กเสียงน้อยกับน้องชายอย่างอ่อนโยนจากนั้นรินน้ำชาให้ตัวเองและน้องชาย เตรียมสนทนายืดยาวให้อีกฝ่ายยอมรับเขาให้ได้ เขาอยากมีน้องชายตั้งแต่อยู่ระนาบมนตราแล้ว แต่ท
เจ้าตัวเลยพิสูจน์โดยถลกแขนเสื้อขึ้นไม่เกรงใจเจ้าบ้านบาดแผลยาวจากคมกระบี่ค่อย ๆ สมานตัวเองเห็นชัดด้วยตาเปล่า ดวงตากลมโตเบิกตากว้างอย่างตกใจยารสชาติห่วยนรกแตก แต่มีประสิทธิภาพดีเกินคาด คงไม่มีโอสถใดเยี่ยมยอดเท่านี้ มันสามารถรักษาบาดแผลได้ในพริบตาเฉิงเยว่มองหน้าเส้าหยางอย่างมึนงง สายตาเต็มไปด้วยคำถาม ว่า ทำไมต้องช่วยเขามากมายอย่างนี้“คุณชายจู คงมีคำถามอยากถามข้า”เยี่ยหยางถาม เขาไม่ต้องเสแสร้งปกปิดตัวตน เผยบุคลิกเป็นตัวเอง ออกมา “เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเองมีพลังอย่างอื่นนอกจากปราณยุทธ”“ข้ารู้ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”“คุณชายมองตัวเองในยามนี้ก่อน” เยี่ยหยางร่ายเวทเรียกกระจกส่องทั้งตัวให้เฉิงเยว่ได้มองตัวเองทั้งตัวดูท่าเจ้าตัวจะไม่รู้ว่า นอกจากตัวเองมีพลังเวทแล้ว แม้แต่รูปลักษณ์ก็ยังเปลี่ยนไปเฉิงเยว่มองภาพสะท้อนนิ่งงึนงัน มือยกจับเส้นผมที่เคยเป็นสีเข้มกับกลายเป็นสีเงินยวงขาวสว่างทั่วทั้งศีรษะ ดวงตาสีฟ้าแทนที่ดวงตาเข้มที่เคยมีนับสิบปีไม่ มันเกิดอะไรขึ้นกับเข
“จุ๊ ๆ ไม่ต้องรีบอยากตาย เดี๋ยวข้ามีเรื่องสนทนาอย่างสนิทสนมกับพวกเจ้า”บุคคลที่สวมหน้ากากตัวสูงกว่า กล่าวกับพวกมันที่เหลือรอดห้าคน ด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมแผ่ไอเย็นทั่วร่าง จนไม่มีใครกล้าขยับตัวปิดปากเงียบ กลัวว่าหากเผลอส่งเสียงจะกลายเป็นนกถูกเกาทัณฑ์ตัวแรกพวกมันมองเพื่อนร่วมอาชีพอีกคนชิ่งตายด้วยสีหน้าอิจฉาแม่ง! หนีตายไปสบายก่อนใครเพื่อนเลยเยี่ยหยางหลังจากข่มขู่มือสังหารเสร็จ ก็หันไปหาจูเฉิงเยว่ที่เปลี่ยนรูปลักษณ์ไป“คุณชายข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า หวังว่าจะไม่ปฏิเสธ” เขาเอ่ยกับคุณชายจูเฉิงเยว่ “สภาพเจ้าตอนนี้คงไปพบใครลำบาก มากับข้า”ส่วนเฉิงเยว่เหนื่อยจนพูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้าอย่างจำยอมให้อีกฝ่าย ตัวเขาคาดไม่ถึงว่าคนที่มาช่วยคือเส้าหยาง โชคดีที่อีกฝ่ายยื่นมือมาช่วย แม้เคยเห็นหน้าค่าตา ไม่เคยคุยกันอย่างสนิทสนมก็ตามทันทีที่จูเฉิงเยว่พยักหน้าตกลง เยี่ยหยางก็ร่ายคาถาเคลื่อนย้ายพริบตาอีกหน นำทั้งคนทั้งศพของเหล่านักฆ่า กลับไปที่เขาเพิ่งจากมาอีกครั้ง“อ๊ะ! อาหยางลืมสิ่งใด?”
และผลลัพธ์ก็คือระเบิดโทสะของจูเฉิงเยว่ที่ไม่มีใครล่วงรู้ เพราะผู้ลองดีต่างไปรายงานตัวกับยมบาลกันทุกคนเรียบร้อย สำหรับบางคนการมีโทสะ อาจทำให้ขาดสติ แต่สำหรับเฉิงเยว่โทสะในเรื่องนี้กลับทำให้เขาสงบอารมณ์ สงบนิ่งจนน่ากลัว ประสาททั้งห้าเปิดรับสัมผัส แววตานิ่งเย็นยะเยือกพร้อมทำลายพวกมันหารู้ไม่ว่า ได้ก้าวข้ามขีดอารมณ์ของทายาทตระกูลจูให้แล้ว ลมไร้ที่มาโหมกระหน่ำจากทุกทิศทาง ล้อมรอบกลุ่มมือสังหารสองกลุ่มที่ส่งคนมามากกว่างานอื่น ๆ พวกมันต่างมองหน้ากันอย่างมึนงง ข่าวลือในสมาคมนักฆ่าเกี่ยวกับคุณชายตัวประหลาดผู้นี้เห็นทีจะเป็นจริง พวกมันต้องรีบจบงานนี้ ก่อนที่ชีวิตของมันจะต้องจบลงที่นี่เอง ท่าทีกวนโทสะเหยื่อเปลี่ยนเป็นลงมือสังหารอย่างจริงจังเคร่งเครียดมากขึ้น คมอาวุธพุ่งเข้ามาทุกทิศทางเล็งเข้าที่จุดตาย จูเฉิงเยว่รู้สึกถึงพลังบางอย่างไหลเวียนในร่างกาย เอ่อล้นเต็มไปด้วยพลัง ความรู้สึกที่รุนแรงยิ่งกว่าพลังข
พวกเขาทุกคนที่เป็นคนของสมาคมเหวินชา ต่างเป็นคนที่อาหยางเลือกเองกับมือ ถูกสั่งสอนฝึกฝนจนกลายเป็นยอดคน แม้ว่าอาหยางของเขาจะเป็นแค่เด็ก แต่ความรู้และประสบการณ์กลับมากมายมหาศาลอาหยางต้องประสบเหตุการณ์เช่นใดที่บีบบังคับให้ต้องเติบโตเลี้ยงตัวเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะเติบโตมาด้วยกันช่วงหนึ่ง และรู้จักครอบครัวเบื้องหลังตี้ตี่ แต่เขาคิดว่ามันต้องมีเรื่องราวมากกว่าที่เขารู้ หวังว่าน้องน้อยของเขาจะใช้ชีวิตเฉกเช่นคนปกติทั่วไป อย่าได้เจ็บปวดเช่นพี่ชายคนนี้เลยจูเฉิงเยว่เมื่อสะกดรอยตามชินอ๋องไม่ทัน เขาก็ย้อนกลับไปที่จุดมุ่งหมายเดิม ที่ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึงยามเซินแล้ว จะให้ท่านแม่รอนานไม่ใช่ความคิดที่ดี“สบายดีหรือไม่ คุณชายจูเฉิงเยว่?”คุณชายน้อยตระกูลจูถึงกลับกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย ที่ต้องพบกับพวกโตแต่ตัวแต่ไร้สติปัญญาอีกแล้ว พวกมันราวสิบคนปิดบังหน้าตาเยี่ยงโจรหาเรื่องคนตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน ช่างอาจหาญยิ่งนัก เขาไม่อยากเสียเวลากับคนพวกนี้ยิ่งกว่าอ๋องจอมบัดซบคนนั้นสักอีก“ถอยออกไปตอนนี้ ข้าจะยังไม่เอาเรื่องพวกเจ้า” จูเฉิ
ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาริเริ่มลงมือทำหลังจากแน่ใจว่าต้องติดอยู่ต่างถิ่นคือ หาเงินและหลักแหล่งที่มั่นคง“อาหยาง!!!”เสียงร้องอย่างดีใจของกู้ซีเจ๋อ ผู้รับหน้าที่ดูแลกิจการทั้งหมดแทนเยี่ยหยางร้องอย่างคิดถึงคนที่หายหน้าหายตาไปนาน เขาไม่เห็นเงาหัวนายท่าน ‘เส้าหยาง’ หัวหน้าสมาคมการค้าเหวินชาจนแทบลืมว่ามีตัวตน ยังดีที่เส้นผมสีสว่างเด่นบอกเอกลักษณ์ที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางลืม จะมีใครที่มีเส้นผมสีนี้ตั้งแต่ยังไม่แก่เฒ่ากันบ้าง ถ้าไม่ใช่เจ้านายที่นึกได้ว่าตัวเองก็มีงานต้องทำ“ระงับอารมณ์ตื่นเต้นที่คิดถึงน้องรักหน่อยพี่”ดวงตาสองสีมองไปที่พี่ชายนอกสายเลือดของเขาด้วยดวงตาหยอกเย้ากู้ซีเจ๋อ ที่ทำหน้าที่แทนเจ้าของกิจการได้อย่างดีเยี่ยม สมกลับที่คนเป็นน้องวางใจทิ้งงานให้แบบไม่ต้องเป็นห่วง“ข้าไม่ได้ตื่นเต้นคิดถึงเจ้า แต่คิดว่าเมื่อไหร่เจ้าจะเอางานตัวเองกลับไปสะสางสักที ข้าแทบจะจมกองบัญชีตายอยู่แล้ว” กู้ซีเจ๋อมองหน้าน้องชายที่เคยน่ารักอย่างขุ่นเคืองเยี่ยหยางเจอกับกู้ซีเจ๋อโดยบังเอิญเมื่อสิบปีก่อน
หลังจากที่ข่าวคราวรั่วไหลออกไปโดยที่เฉิงเยว่ไม่ต้องลงแรง ท่านแม่ก็ร้องจะมาพบหน้าเขาให้ได้ เป็นเหตุให้ตาลุงหวงเมียเร่งปั่นงานราษฎร์งานหลวงที่ตัวเองดูแลข้ามวันข้ามคืน โหมงานเป็นเดือนเศษเพื่อหาวันหยุดติดสอยห้อยตามภรรยาสุดที่รักมาหาลูกชายแสนน่ารักอย่างเขาและมันก็คือวันนี้เฉิงเยว่กลับหมู่ตึกไท่ตง ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ตัวเองดูเป็นเด็กน้อยในสายตาท่านแม่ที่รัก เขาขัดสีฉวีวรรณตัวเองเกือบชั่วยาม และยืนอยู่หน้ากองเสื้อผ้ากองใหญ่อยู่อีกเกือบครึ่งชั่วยามเด็กหนุ่มตัวน้อยหยิบชุดนั้นชุดนี้ขึ้นแล้ววางลงอยู่หลายที เสื้อผ้าถูกคัดแยกเป็นหลายกอง จนในที่สุดมือหนุ่มน้อยก็เอื้อมไปหยิบชุดที่อยู่แยกตัวเดียวไม่อยู่รวมกับเสื้อกองไหนเสื้อไหมชุดผาวสีเหลืองอ่อนคาดด้วยเข็มขัดเอวสีขาว มวยผมผูกด้วยที่คาดที่สีเดียวกับเสื้อ ปักปิ่นเรียบอันเล็กบนศีรษะ เครื่องประดับและอาภรณ์ที่อยู่บนร่าง ทำให้จูเฉิงเยว่เด็กหนุ่มกลายเด็กน้อยที่ดูละมุนน่ารักน่าทะนุถนอมเป็นที่สุดเฉิงเยว่หมุนตัวสำรวจความเรียบร้อยจากกระจกเงาที่สะท้อนภาพคุณชายน้อยแสนน่าเอ็นดู มุมปากยกยิ้มขึ้นอย่างพึงพอใจ เ
“ข้าขอสนทนากับเส้าหยางต่อสักครู่” ฉีเจิ้งแม้ในใจจะร่ำร้องแค่ไหน แต่เขาก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณชายเจ้าเล่ห์ ก็สวมบทรับหน้าลู่เฉินอย่างไม่มีพิรุธการมาของเจียงกงกงเปรียบเสมือนการได้เวลาพักผ่อนดี ๆ เพราะลู่เฉินจอมเข้มงวด ได้ปล่อยให้ญาติผู้พี่ได้กระดี๊กระด๊ากับของพระราชทาน ทำให้ท่านอ๋องผู้เลื่องชื่อได้ทำตัวขี้เกียจอย่างจริงจังสักทีเยี่ยหยางตรวจนับข้าวของในหีบพระราชทานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี เขายกครึ่งหนึ่งแบ่งให้หวงฉีเจิ้งที่ออกแรงรับมือผู้บุกรุกในตำหนักสรรพาวุธพอ ๆ กับเขา ส่วนหูลี่เซียนเขาให้นางไปขอส่วนแบ่งจากเจ้านายจิ้งจอกขนฟูอย่างลู่เฉินเถอะ เขาไม่มีแบ่งให้ เพราะรู้สึกหมั่นไส้นางอย่างมาก วัน ๆ หนึ่งเดินตามญาติผู้น้องของเขาต้อย ๆเวลาที่ผ่านมาเดือนกว่าจากสัปดาห์เป็นเดือน ตั้งแต่หูลี่เซียนกลายเป็นเซียนจิ้งจอก ชีวิตนางก็สบายกว่าเขาหลายเท่า วัน ๆ กิน ๆ นอน ๆ จนเหมือนหมูมากกว่า(หมา)จิ้งจอกแล้ว วิ่งเทียวไปเทียวมาระหว่างห้องของญาติผู้น้องกับห้องเขา ตอนนี้นางก็หลบลู่เฉินมาสิงสถิตที่ห้องเขา นั่งหน้าหงิกเพราะไม่มีอะไรให้ทำส่วนเขากับฉีเจิ้งตกอยู่ในสภาวะเ
“ไท่จื่อ อาการของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ข้าจะได้กลับไปทูลฝ่าบาทได้ถูกต้อง”เจียงกงกงขันทีส่วนพระองค์เอ่ยถามรัชทายาทของแคว้นที่ยังดูซีดเซียวอยู่บ้าง“เจียงกงกง อาการข้าดีขึ้นมากแล้ว กลางฤดูใบไม้ผลิพิษก็จะสลายจนหมด ต้องขอบคุณคุณชายเส้าหยางที่ช่วยชีวิตข้าและชินอ๋องไว้” ลู่เฉินบอก“เกรงใจแล้ว ข้าแค่ทำสิ่งที่สมควรทำ” เส้าหยางรับคำขอบคุณ สีหน้าอาการ และท่วงท่าดูสง่างามผ่าเผย“เส้าหยางจวิน ข้านำคำขอบคุณจากฝ่าบาทมามอบให้ท่านที่ช่วยปกป้องสายเลือดมู่หรง” เจียงกงกงหันไปพูดกับเส้าหยางขันทีส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ราชอาณาจักรซีเว่ยมองสำรวจประเมินท่านชายเส้าหยางจวิน เพื่อนำไปกราบทูลองค์เหนือหัวของตนอย่างละเอียด พลางคิดพิเคราะห์อืม...คนผู้นี้ที่โดดเด่นเกินใคร เส้นผมสีขาวประหลาด ดวงตาสองสีที่ประหลาดยิ่งกว่า ปกปิดหน้าตา ปกปิดแซ่สกุล ใบหน้าหลังหน้ากากยากคาดเดาว่าเป็นเช่นไร บุคลิกสง่างามดุจเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่งแผ่ออกมา ลมปราณลึกล้ำตรวจสอบไม่ได้ แต่กลับเป็นแค่ศิษย์สายนอก“ขอบคุณท่านกงกงผู้เฒ่า”เจียงกงกงหลังจากที่เก็บข้อมูลไว้ราย