ผู้นำตระกูลวินเซอร์วิ่งออกมาให้ห่างจากคฤหาสน์หลังงามของเขา ถึงจะมั่นใจว่าแรงคาถากระจอกงอกง่อยจะไม่มีทางทำอะไรคฤหาสน์แสนสวยของเขาได้ แต่กันไว้ก่อนก็ดีไม่น้อย
แม้ว่าจะมีเวทมนตร์ซ่อมแซมก็เถอะ แต่คงเหนื่อยน่าดู ถ้าให้เขาผู้เป็นคุณชายต้องผันตัวเองไปซ่อมบ้านปะหลังคาต้นไม้มากมายกลายสภาพเป็นเศษซากเกลื่อนกลาดด้วยคาถาที่รุนแรงแบบไม่มีการออมมือออมเท้า ชายหนุ่มเหลือบมองซากที่ถ้าโดนเข้าไปเขาคงหมดหล่อกันพอดี พวกนั้นจะจริงจังตั้งใจรุมกระทืบเขาอะไรปานนั้น พื้นดินบางส่วนที่ไม่อาจหลบลูกหลงพ้น กลายสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ดีที่เขาต้อนพวกนั้นออกมาจากบริเวณบ้านของเขา เพราะคฤหาสน์และบริเวณอาณาเขตของตระกูลวินเซอร์ ถ้าเกิดความเสียหายขึ้นมา ผู้ที่จะซ่อมแซมแก้ไขคือเจ้าของผู้เป็นเจ้าบ้านและผู้นำตระกูลมือใหม่อย่างเขาเพียงผู้เดียวเท่านั้น แถมคฤหาสน์ก็ไม่ใช่หลังเล็ก ๆ ใหญ่กับปราสาทเกิดเสียหายขึ้นมา อีกกี่ปีที่เขาจะซ่อมเสร็จ ไม่แก่จนผมหงอกผมร่วงกันพอดีหรือไงกัน พวกมันน่าจะมาเร็วกว่านี้ซะสองวันจะทำบ้านพัง เขาก็จะไม่เดือดร้อนเลยในเมื่อคนที่ต้องซ่อมเป็นพ่อที่น่ารักน่าฟัดขเขาต้องรีบจบศึกนี้แล้ว จะยืดเยื้อไม่ได้ก่อนที่พวกนี้จะรู้ว่าความจริงว่าเขาให้ท่านพ่อกับท่านแม่ออกท่องเที่ยวไปในที่ไม่มีใครรู้ แล้วที่พวกมันได้ข่าวไป ก็เป็นข่าวลือที่เขาปล่อยไปว่ากำลังไปพักที่บ้านต่างอากาศนอกเมือง เป็นข่าวตบตาพวกอยากรู้อยากเห็น เพื่อให้ท่านพ่อสุดที่รักได้จู๋จี๋กับท่านแม่โดยไม่มีสิ่งใดรบกวน ถ้าพวกมันรู้ ที่อยู่ที่แท้จริงของท่านพ่อท่านแม่ พวกท่านจะต้องมาลำบากพัวพันกับเรื่องบัดซบนี้อีกแน่ “ไม่ต้องรีบร้อนใจไปคุณชายวินเซอร์ เจ้าจะได้ไปหาครอบครัวเลือดบริสุทธิ์ที่น่ารังเกียจในปรภพแน่นอน” นิโคลเอ่ยเสียงแหบแห้งขัดกับดวงตากระหายเลือด นี่หล่อนยังลากสังขารตัวเองตามมาอีกหรือ “ตายซะ” แสงสีแดงเลือดพิฆาตสว่างขึ้นต้านกับแสงสีเงินราวหมอกควันผลักกันไปมา มือแกร่งถือไม้กายสิทธิ์อย่างมั่นคงสมกับชื่อเสียงนักเรียนดีเด่นคนหนึ่ง มืออีกข้างคอยร่ายเวทปัดคาถาที่ต่างเข้ามาโจมตีเขาพร้อมกันทุกทิศทาง นี่พวกมันกระเอาเขาตายแบบไม่ต้องเหลือซากไว้ฝังเลยหรือไงกัน!!! สายตาของอดีตผู้อำนวยการศาสตราจารย์ใหญ่ของสถานศึกษายิ่งใหญ่ จ้องมองมาอย่
ภาพจากความทรงจำที่เจ้าของความทรงจำเห็นแล้วอดกระตุกมุมปากเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่ว่าถ้าเขาเป็นคนเล่าเรื่องราว แล้วรายละเอียดสำคัญที่อาจเป็นกุญแจที่ไขสาเหตุที่พาพวกเขามาที่นี่ คนอย่างเขาคนไม่เปิดเผยเรื่องน่าขายหน้าเช่นนี้ให้อีกฝ่ายดู แม้ว่าจะเป็นสหายรักก็ตามจากนั้นก็เป็นภาพความทรงจำเหตุการณ์ที่เขาเอาชีวิตรอดอย่างวุ่นวายเล็กน้อยในช่วงที่มาดินแดนแห่งนี้แต่ก็ไม่หนักหนาเท่าแมคเคนที่ถูกจับเป็นทาสในเรือนเบี้ยให้ผู้คนกลั่นแกล้ง จนถึงมาในช่วงเหตุการณ์ที่เขาถูกสะกดรอยตามไปทั่วทุกหนทุกแห่ง มีภาพเหมือนของเขาประกาศไปทุกมุมเมือง แม้กระทั่งตรอกซอกซอยแหล่งอโคจรก็ยังไม่เว้น เขาเลยเลือกที่จะเข้าถ้ำเสือ เผยตัวตนเพื่อให้รู้จุดหมายของพวกคนเหล่านี้...เด็กน้อยอายุอานามราวสามหนาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่าขาดวิ่น บาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัว เดินโซซัดโซเซเหมือนเด็กขาดสารอาหาร ไปกลางถนนที่มีรถม้าที่กำลังวิ่งมาอย่างเร็ว วางกับดักเล็ก ๆ เพื่อดูท่าทีของคนที่ติดตามเขายิ่งกว่าแมลงวันตรอมยังไงเด็กคนนี้ก็ไม่กลัวที่จะบาดเจ็บ เพราะเขาคือ เกรกอรี่ วินเซอร์ ดยุคหนุ่มแห่งตระกูลจอมเวทสายเลือดบร
เยี่ยหยางพาแมคเคนมาส่วนที่ลึกที่สุดของเทียนถูหวู่ เป็นโชคดีของพวกเขาที่สถานที่ที่เหมาะสมสำหรับทำพิธีอยู่ใต้ฝ่าเท้า อยู่ในบริเวณของหมู่ตึกเป่ยจงที่สร้างตามความเชื่อความศรัทธาว่าเต่านิลอสรพิษเป็นสัตว์พื้นพิภพ มีความสำคัญกับปฐพีมากที่สุด แต่เขาพบว่าที่แห่งนี้ไม่ค่อยมีผู้คนนิยมมาใช้สอยเท่าที่ควร เพราะบรรยากาศวังเวงมืดมนสวรรค์เป็นใจให้ข้า…แมคเคนรู้สึกอยากหอมแก้มเพื่อนรักก็ตอนนี้แหละการถอนคำสาปที่ได้ผลดีในการคืนศาสตร์มืดควรให้ผืนดินที่ดูดซับทุกอย่าง และจะดีที่สุดควรจะเป็นใต้ดินที่ลึกที่สุด ใกล้ใต้พิภพมากที่สุด เพื่อดูดซับคำสาป ความชั่วร้าย และเสริมพลังในการทวนย้อนคาถาเป็นพื้นฐานทั่วไปของผู้วิเศษ อีกทั้งวันนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญจันทร์เต็มดวงยิ่งเหมาะที่สุด ยกเว้นบางคาถาที่เป็นคำสาปของเวทแสงซึ่งน้อยคนจะรู้คำสาปตึงร่างตรอกวิญญาณที่แมคเคนเผชิญเป็นคำสาปที่อยู่ในหมวดศาสตร์มืด มีผลให้ร่างกายไม่สามารถรวบรวมเวทมนตร์ แกนวิญญาณเสียหาย แกนเวทอาจถูกทำลายเยี่ยหยางวาดวงเวทขั้นสูงด้วยเลือดยูนิคอร์นที่ได้มาอย่างถูกต้องมีคุณสมบัติสามารถชำระล้างวิญญาณ คำสาปที่น่
เยี่ยหยางลุกจากเตียงยื่นมือจับแมคเคนเหมือนการแลกเปลี่ยนธุรกิจเสร็จสิ้น“นี่เจ้า…” แมคเคนพูดไม่ออก เพื่อนเขายังคงเขี้ยวลากดินสมกับเป็นสายเลือดวินเซอร์ ดวงตามังกรทองมิวรุสเป็นสิ่งที่เกรกอรี่เล็งไว้นานแล้วเป็นหนึ่งในสมบัติของตระกูลคลากส์ อีกทั้งเขาไม่สามารถเบี้ยวได้ เพราะนี่ถือเป็นสัญญาของหนี้ชีวิตของผู้วิเศษ“แล้วเจ้าจะอาศัยอยู่ที่ไหน”“กับเจ้าไง เกรก”“ตอนนี้ข้าเป็นผู้ฝึกตน” เยี่ยหยางพูดเตือนความจำเพื่อน “เจ้าจะร่วมฝึกตนด้วย?”“ใช่ เจ้าทำอะไร ข้าก็ทำตามเจ้า คนเดียวหัวหาย สองคนยังเหลืออีกหัว” แมคเคนกล่าวอย่างไม่แยแส“เจ้ามันตัวดำเมี่ยม เป็นผู้ฝึกตนไม่ได้หรอก” เยี่ยหยางยักคิ้วบอก แต่แมคเคนยังคงดูงง ๆ เขาจึงอธิบายเพิ่ม “ผิวดำเท่ากับเป็นทาส กฎของสังคมที่นี่ตราไว้”“นี่เรียกว่าผิวเข้มไม่ใช่ผิวดำ แล้วผิวสีเข้มก็เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลคลากส์ แล้วทีเจ้ายังซีดเหมือนผีดิบเหมือนผีดูดเลือดเลย” แมคเคนโวยวายใส่เพื่อนรัก ที่มีหน้ามาว่าจุดเด่นเขาไ
ข้าจะอยู่เฉย ๆ นอนนิ่ง ๆ ให้เจ้าลงมือข้าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว...เยี่ยหยางโบกมือ เรียกผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ห่อหุ้มคนถูกฟอกขาวจนมิดชิดกันภาพอุจาดสายตา นำพาร่างอ่อนปวกเปียกออกมาจากอ่าง ร่ายเวทปรับขนาดเสื้อผ้าตัวเองให้เหมาะกับสหายรูปลักษณ์ใหม่น้ำยาที่ถูกใช้งานจนหมดฤทธิ์ถูกคาถาร่ายให้สลายไป อ่างน้ำใหญ่จัดเก็บในที่ของมันในพริบตา“ข้าต้องปรุงยาตัวนี้เพิ่มอีกหลาย ๆ ถัง เจ้าใช้มันเปลืองมาก” เยี่ยหยางบ่นพึมพรำ เขายกไม้กายสิทธิ์ชี้ไปที่ศีรษะแมคเคน เส้นผมที่ไม่เป็นทรงก็จัดระเบียบเป็นทรงเรียบร้อย“อืม ไม่ค่อยแตกต่างจากผู้อื่นแล้ว”สายตาของชินอ๋องหรี่ตาประเมินรูปลักษณ์ของจอมเวทผิวคล้ำที่ขาวสว่างใสในตอนนี้“แมคคราหลัง เจ้าก็จัดการตัวเองละกัน ข้าไม่อยากเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่ต้องคอยจับเจ้าอาบน้ำประแป้งให้”“ใครอยากให้เจ้าประแป้งให้” แมคเคนแขวะ“เอานี่ไป ไม่รู้ว่าจะเข้ากันได้มั้ย ข้าเก็บได้จากมรดกกองทรัพยสมบัติของจอมมารที่เกลื่อนกลาดบ้านตอนเก็บกวาด”เยี่ยหยางโยนแหวนเงินร
เสียงบรรยายเนื้อหาในตำราช่วงเช้าของศิษย์นอกวันนี้ ช่างเงียบสงบเรียบร้อยดีนัก ศีรษะของศิษย์หลายคนรวมทั้งเยี่ยหยาง ต่างผงกขึ้นลงทำความเคารพอาจารย์ที่พูดปาว ๆ บรรยายการก่อกำเนิดในวิชาประวัติศาสตร์บรรพกาล ที่เนิบนาบแผ่วเบาราวกับบทเพลงขับกล่อมก่อนนอนทำให้บรรดาลูกศิษย์ต่างเข้าถึงฌาน หลับสัปหงกกันแต่เช้า พาต่อแถวเข้าเฝ้าเง็กเซียนประมุขสวรรค์กันแทบยกห้องสองผู้วิเศษที่เมื่อคืนต่างแทบไม่ได้หลับไม่นอน เจอเสียงกล่อมเกลาเข้าไปต้องพ่ายแพ้ แต่พู่กันกลับขยับปาดน้ำหมึกจดตัวอักษรอย่างสวยงาม บันทึกคำสอนในบทเรียนโดยไม่มีผู้ใดสนใจด้วยเวทมนตร์แม้แต่คุณชายจูผู้หยิ่งผยองยังศีรษะทิ่ม ไม่ต้องกล่าวถึงสือหลงโหยว รายนี้เข้าเฝ้าเง๊กเซียนเป็นคนต้น ๆ ของห้องก็ว่าได้คงมีผู้เดียวที่ยังนั่งหลังตรง ตั้งใจจดฟังบันทึกจริงจังอย่างรัชทายาทราชอาณาจักรซีเว่ยที่ไม่ละเลยหน้าที่ตนเอง จนกระทั่งหมดเวลาร่ำเรียน เหล่าศิษย์ที่ไปท่องแดนความฝันก็ฟื้นคืนสติอย่างรู้เวลาอวี้หย่าหวิ๋นอ้าปากกว้างหาวไม่เกรงใจใคร เอาศีรษะไถโต๊ะแคบอย่างง่วงเหงาหาวนอน“วิชานี้ไม่ควรสอนในยามนี้เลย ข้าต
“นี่เป็นการขึ้นบินครั้งแรกของพวกเจ้าการขี่กระบี่ต้องอาศัยสมาธิ สติ และการฝึกฝน ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่กระบี่ และแผ่นไม้มีพื้นที่ให้เจ้าเหยียบมากขึ้นก็ตาม” อาจารย์ม่อให้ศิษย์เริ่มขึ้นลอยเหนือพื้น“อย่าได้สติแตก รวบรวมสมาธิ มุ่งมั่นไปที่ไม้กระดาน จำไว้รวมจิตเป็นหนึ่งไปได้” ม่อซวิ่นไม่กลัวว่าจะมีใครจะตกลงมา เพราะผู้ที่มีปราณไม่แข็งแกร่งพอก็จะบังคับแผ่นไม้ลอยสูงไม่ได้อย่าง...เยี่ยหยางที่อาจารย์ม่อส่งสายตามองอย่างสงสารเห็นใจอาจารย์ท่านไม่ต้องส่งสายตาสงสารเห็นใจข้ามากเช่นนี้ก็ได้เยี่ยหยางที่ได้รับสายตาเห็นอกเห็นใจจากผู้เป็นอาจารย์ ก็จะวูบหน้ามืดขอลาป่วย ได้แต่ทนหน้าหนายืนหยัดเสแสร้งแสดงเป็นคนโง่งมไม่เอาไหน รักษาบุคลิกชินอ๋องแห่งราชอาณาจักรซีเว่ยที่ทุกคนชื่นชมจากใจด้วยความแน่วแน่“ท่านอ๋องผู้เก่งกาจ ทำไมไม่ขึ้นบินหรือพ่ะย่ะค่ะ?” คุณชายจูเจ้าเก่าหันมาจิกกัดเยี่ยหยางก่อนที่จะลอยออกไปพร้อมแผ่นไม้“จะไปไหนก็ไป อย่ามายุ่งกับข้า เจ้าลูกเต่า” เยี่ยหยางขู่ฟ่อ แต่คนถูกขู่กับหายไปแล้ว เจ้าคุณชายหน้าเหม็นนี่… ช่างมันเถอะก็
ท้องฟ้าโปร่งสายลมอ่อนปะทะใบหน้า องค์รัชทายาทราชอาณาจักรซีเว่ยมู่หรงลู่เฉินเหยียบแผ่นไม้กระดานล่องลอยบนผืนฟ้าเหนือน่านพื้นดินเทียนถูหวู่มาสองชั่วยามแล้วสายตามองกว้างออกไปรอบตัว เขารู้สึกปลอดโปร่งเป็นอิสระ ฉับพลันไม่ไกลออกไปจากตำแหน่งของเขา ลู่เฉินได้ยินเสียงร้องอย่างทรมาน เขาจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นโดยอาศัยวิสัยทัศน์จากความสูง สังเกตดูสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าเบื้องล่างจิ้งจอกน้อยขนสีแดงเพลิงตัวเดียว อยู่ท่ามกลางเขี้ยวเล็บฝูงหมาป่าหลายสิบตัวที่จ้องตะปบทำร้าย มันขู่คำรามสู้กลับไป แม้ว่าด้านหลังจะชนกับต้นไม้ไร้สิ้นทางถอย มันพยายามขู่ให้พวกหมาบ้าเลือดถอยห่าง ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสารแผ่นไม้ของมู่หรงลู่เฉินลดระดับความสูงร่อนลงอย่างรวดเร็ว ยังไม่แตะพื้นดินลอยไประนาบพื้นเข้าสู่ใจกลางวงทะเลาะวิวาทที่น่ารุมประณามด้วยความวู่วาม เพราะเขารู้สึกโกรธพวกหมาป่าจัดอย่างไม่มีสาเหตุดวงตาสีมรกตสุกสกาวสู้ไม่ถอยแม้ว่าตัวจะเล็กกว่ามาก เพราะนางจะไม่ยอมเด็ดขาด ถ้ายอมแพ้เมื่อไหร่หมายถึงศักดิ์ศรีที่รักษามาต้องหมดลง ยอมเป็นสัตว์หน้าตัวเมียให้หมาบ้าข่มเหงนางถูกหมาป่าตัวที่อยู่ใก
ข่าวรัชทายาทราชอาณาจักรซีเว่ยถูกอสูรเทาเทียทำร้ายและชินอ๋องบาดเจ็บสาหัส ล่วงรู้ไปถึงพระกรรณฮ่องเต้ราชอาณาจักรซีเว่ย จนวุ่นวายไปทั่วราชสำนักเหล่าขุนนางต่างออกมาโต้แย้งสนทนาซุบซิบเรื่องนี้ บรรดาฮูหยินตราตั้งยันชาวบ้านต่างหยิบยกมาพูดคุยเรื่องรัชทายาท นินทาชินอ๋อง บ้างก็ว่าถึงคราต้องตั้งรัชทายาทคนใหม่ บ้างก็ว่าบ้านเมืองจะสงบเพราะชินอ๋องนอนเป็นผักปลาแต่ข่าวลือย่อมมีความจริงผสมอยู่ มู่หรงหย่งสือฮ่องเต้แห่งราชอาณาจักรซีเว่ยรับสารมาจากสือหลงโหยว ผู้ที่เขาแต่งตั้งให้เป็นสหายและองครักษ์ประจำตัวของพระโอรสเพียงองค์เดียว เนื้อความในสารเล่ารายงานตั้งแต่ออกจากเมืองหลวง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของชินอ๋องผู้เลื่องชื่อเจ็ดส่วนสิบ ซึ่งแต่ละเรื่องผู้นั่งบัลลังก์มังกรก็คาดไว้อยู่แล้วว่าต้องเกิดขึ้นตามปกติส่วนตอนนี้อาการของมู่หรงลู่เฉินรัชทายาทราชอาณาจักรซีเว่ย ก็พ้นขีดอันตรายไม่มีบาดแผลภายนอก เพราะโอสถพิเศษของเส้าหยาง จะมีก็แต่พิษเทาเทียที่ยังค้างอยู่ในร่างกาย ต้องใช้เวลารักษาให้พิษค่อย ๆ สลายจือจาง ส่วนหลานชายตัวปัญหาตอนนี้ก็กระโดดโลดเต้นก่อเรื่องได้แล้วซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดข
ชินอ๋องตะโกนเรียกคนที่รอรับคำสั่งอยู่ด้านนอก“ส่งคนพวกนี้ไปให้กู้ซีเจ๋อดูแล ให้พวกเขาฝึกร่วมกลับกลุ่มของเหวินชา อย่าให้เสด็จอาทราบ ส่วนค่าใช้จ่ายทุกอย่างทำบัญชีอย่าละเอียด”“พ่ะย่ะค่ะ”ฉีหลินเหลียงรับคำสั่ง แล้วเดินออกไปเตรียมการตามคำสั่งชินอ๋อง“ไปกัน”“โอ๊ะเสร็จแล้ว กลับกันเถอะ” หูลี่เซียนเริ่มมึนแล้วลุกขึ้นยืน นางอยากไปซบอกลู่เฉินนอน“งานเรายังไม่เสร็จนะ ข้ายังไม่รู้เลยว่าใครเป็นตัวการ เกิดมันลงมือก่อเรื่องอีก เราจะตั้งรับไม่ทัน” เยี่ยหยางที่แม้ดื่มสุราไปมาก แต่เขาไม่รู้สึกเมาเลยสักนิด เอ่ยจุดประสงค์ที่เขากลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง“แล้วเราจะทำยังไง?”“ลี่เซียนเจ้าเมาแล้ว?”เยี่ยหยางมองหน้าเพื่อนสาว ที่เหมือนความคิดหยุดลงพร้อมสุราที่เข้าปาก “เจ้าพวกนี้ไม่รู้ แต่หัวหน้าพวกมันรู้ เราก็ไปถามหัวหน้าพวกมันสิ”“ต่อให้ตาย ก็ต้องปลุกมาถามก่อน ใครให้พวกมันรับงานนี้ล่ะ? รับงานมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบ”“เยี่ย
หวงฉีเจิ้งเริ่มทำการสอดส่องความทรงจำของผู้หลับใหล ค่อย ๆ แผ่จิตแทรกเข้าไปในห้วงความฝัน ย้อนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เขามองดูความฝันของคนหลายร้อยคน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้วพวกมันแค่ต้องการอาวุธวิญญาณร้อยปีเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง คนเหล่านี้เป็นแค่ลูกกระจ๊อกของกลุ่มโจรหลาย ๆ กลุ่ม ที่ถูกหัวหน้าพวกมันสั่งมาเท่านั้น ไม่แม้จะเห็นหรือได้ยินเสียงตัวการสั่งการแม้แต่น้อยหวงฉีเจิ้งสั่นหัว หลังจากถอนจิตคืนกลับมา “ไม่มีประโยชน์ พวกมันไม่รู้อะไรเลย แต่พวกมันถูกหัวหน้าพวกมันใช้วิชาพิสดารลงอักขระเลือดไว้ หากคิดจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาคือตาย”“อักขระเลือด?”“อืม พวกหัวหน้าโจรภูเขาพวกนี้เป็นคนทำให้ลูกน้องมันเอง แต่ว่าใครเป็นคนสอน ข้าไม่รู้”“เรื่องนี้มันไม่ธรรมดาอยู่แล้ว อีกฝ่ายสามารถหาเทาเทียมาลงมือด้วย คิดว่ามันคงวางแผนการมาอย่างดี” หูลี่เซียนครุ่นคิด“เก็บคนพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เปลืองค่าข้าวตำหนักข้า” เยี่ยมยางบ่นหงุดหงิดไม่พอใจที่ไม่ได้เรื่อ
หลังจากหนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ข่าวคราวของผู้บุกรุกเงียบหายไปสืบสาวหาต้นเหตุไม่ได้ เพราะทันทีที่สอบปากคำ พวกมันต่างไม่ยอมปริปากแม้แต่น้อยแม้ว่าบางคนที่ถูกอาจารย์จ้าวเป็นคนสอบสวนต้องยอมเอ่ยวาจา แต่เพียงแค่คิดจะพูด ก็กลายเป็นศพต่อหน้าต่อตาจ้าวถิงเซียวด้วยพิษกลืนวิญญาณอย่างไม่รู้ตัวด้วยวิธีปกปิดความลับที่โหดเหี้ยมอำมหิต จึงได้แต่ปล่อยผู้บุกรุกที่มีชีวิตที่เหลือไป เนื่องจากคนที่รู้ต้นตอเรื่องราวตายเรียบหมดแล้วแน่นอนว่าเยี่ยหยางไม่ยอมแพ้ จอมเวทสามคนแอบกลับไปที่เมืองหลวงของราชอาณาจักรซีเว่ย ย่องเข้าตำหนักชินอ๋อง“นี่เยี่ยหยาง ทำไมเจ้าจะต้องย่องแอบเข้าบ้านตัวเอง?” จอมเวทสาวถามเจ้าของบ้าน“แม่นางหูลี่เซียน แม่นางรู้หรือไม่ว่าเปิ่นหวางเป็นผู้ใด”เยี่ยหยางถามทีเล่นทีจริงกับอลิซาเบธ หรือ หูลี่เซียน นามที่แม่บุญธรรมตั้งให้นาง นามที่มีความหมายเทพธิดาที่งดงามเฮอะ ๆ …ส่วนญาติผู้น้องเขาก็เรียกนางว่าลี่ลี่ นามที่มีความหมายว่า น่ารักงดงามความงดงามเอย เทพธิดาเอย ความน่ารักเอย เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เพื่อนสาวเขาควรมีชื่อที่มีค
ร่างจิ้งจอกแดงเรืองแสงสว่างขนาดตัวที่ค่อย ๆ ขยายขึ้นจากยืนสี่ขาเป็นสองเท้า หลังที่ขนานกับพื้นดินค่อย ๆ เหยียดตรง เงาของสตรีอยู่ท่ามกลางเงาควัน เส้นผมยาวสลวยจรดพื้น“เฮ้ย! ลืม!!! เสื้อ ๆ อยู่ไหน”เยี่ยหยางที่เห็นเงาร่างเปลือยเปล่าของเพื่อนสาว ก็รีบปิดตาเรียกเสื้อผาวตัวใหญ่ลอยไปคลุมสาวเจ้าไม่ให้อุจาดตาเขา เขาไม่อยากฝันร้ายเพราะเห็นร่างแม่มดโป๊ขี้วีน“ไอ้...ไอ้บ้า...เกรก นายทำบ้าอะไร”เสียงแหบแห้งตะกุกตะกักเพราะไม่ได้พูดมานานโวยขึ้น เสื้อผาวตัวใหญ่คลุมหัวปิดหน้าปิดตาจนมองไม่เห็นไรอะไรแสงและควันจางหายนางดึงเสื้อมาคลุมร่างไร้อาภรณ์ เสื้อผาวนุ่มลื่นเว้าไปตามส่วนโค้ง จนเห็นทรวดทรงโฉมงามล่มเมือง นิ้วมือเรียวยาวดังกิ่งหลิวรวบเส้นผมยาวลากออกมานอกอาภรณ์ สองหนุ่มเห็นหน้าตาคุ้นเคยยืนหน้าหงิกกลบความสวยจนหมด“ไง ยังอยู่ดีนิพ่อคุณชาย” คำทักทายแรกหลังจากด่าทอของแม่มดสาวนามอลิซาเบธ“ไม่เลวเลยสหายข้า ได้เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของที่นี่ ตอแหลเนียนได้ตลอด”อลิซาเบธตบไหล่เพื่อนชายคนนี้ ที่ชอบทำหน้าเ
เยี่ยหยางเห็นโอกาสคืนฐานะ ก็สลับตัวกับร่างหลอมแร่แปรธาตุทันทีที่พ้นสายตาอาจารย์ประจำวิชาปรุงโอสถ เขาถอดหน้ากากออกดื่มน้ำยารสชาติย่ำแย่ลงคอ กลับมาเป็นชินอ๋องตามเดิมส่วนร่างปลอมก็โยนเข้าห้วงมิติเก็บรักษาไว้เผื่อคราวหน้ามีโอกาสได้ใช้ในห้องหนึ่งของมิติที่เต็มไปด้วยร่างหลอมที่รูปลักษณ์ต่างกันไปจ้าวถิงเซียวเมื่อเข้ามาอีกครั้งก็ไม่เห็นศิษย์ผู้สวมหน้ากากแล้ว เขายอมปล่อยเรื่องนี้ไปก่อนในตอนนี้ แต่ไม่มีทางที่จะไม่สืบหาราวเรื่องอาจารย์ปรุงโอสถเดินผ่านเตียงของศิษย์ชายที่อาการหนัก เพราะโดนพิษเทาเทียเหมือนกันที่นอนอยู่ด้านข้างผู้ที่เข้ามาใหม่ ยาเม็ดใหญ่ถูกป้อนเข้าปากลู่เฉินเพื่อสลายพิษ จากนั้นก็ไปดูอาการอีกคนที่ตอนนี้นั่งหันซ้ายหันขวาไม่มีอาการเจ็บปวด คือ ชินอ๋องจอมเสเพลที่เขาอยากจะสั่งสอนหนัก ๆ เหลือเกิน“ไม่เป็นอะไรแล้ว ก็กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง อย่ามาเกะกะ” ผู้เป็นใหญ่ในจวนเยียวยาไล่ศิษย์ที่ไม่ต้องดูแลแล้วออกไป แต่ก็เห็นสายตามองคนเจ็บไม่ไปไหน“เขาไม่เป็นอะไรมากแล้วพิษในกายจะค่อย ๆ สลายไปเอง”“ขอบคุณที่ท่านอาจารย์จ้าวดูแล
ดวงตาของสัตว์เทพกวาดตามองเทาเทียหลายร้อยตัวที่ยังไม่สงบอ้าปากกว้างน้ำลายไหลยืดตามคมเคี้ยวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มันรู้สึกว่าปากพวกนี้เหม็นสุด ๆ พวกไม่รักษาความสะอาดของช่องปากเลย‘แหยะ...ข้าไม่อยากฟัดกับพวกหมาบ้าน้ำลายอย่างเทาเทียเลยหยางหยาง’‘เจ้าไม่ฟัด ข้าฟัดกับพวกมันเอง’เยี่ยหยางตอบกลับสัตว์เทพคู่ตัวเองเสียงเย็น เขารู้ว่าฉงหยิ๋นพูดแบบนี้กำลังเรียกสติให้เขาควบคุมอารมณ์ เขาไม่คลุ้มคลั่งตอนนี้หรอก ยังมีอะไรให้ต้องจัดการอีกมากเขาส่งญาติผู้น้องให้สือหลงโหยวดูแลอย่างดีแล้ว ก่อนจะร่ายเกราะเวทคุ้มกายให้พวกเขา จากเก็บไม้กายสิทธิ์และเรียกไม้เท้าออกมาจัดการกับหมาบ้าน้ำลาย ทั้งยกทั้งฟาดทั้งสาปส่ง จนพวกมันแน่นิ่งไปหลายสิบตัวมือซ้ายก็ถือดาบประจำตระกูลวินเซอร์จ้วงแทงไม่ยั้ง เทาเทียแม้จะรู้สึกสัมผัสถึงอันตราย แต่มันก็ช้าไป แม้ว่ารวมกำลังพลต่อสู้เยี่ยหยางที่ฆ่าเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์อย่างโกรธแค้น ก็ไม่อาจสู้จอมเวทที่โทสะเดือดดาลพุ่งสะท้านฟ้าได้ ต่อให้เขาแสดงตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย กลั่นแกล้งคน จนอายฟ้าดิน ย่อมขีดกำจัดขีดไว้ฝ่ายผู้บุกรุกเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
เส้นผมสีเงินสะท้อนแสงตกกระทบสว่างเป็นเด่นชัด เดินออกมาเป็นคนแรกตามด้วยคนอื่น ๆ ทั้งหมดอยู่ในชุดของศิษย์เทียนถูหวู่ ทุกคนไม่มีล่องลอยของการบาดเจ็บมีเพียงอาการเหนื่อยล้าเมื่อยกล้ามเนื้อเท่านั้น ใบหน้า หน้าตา สีหน้าแจ่มใสไม่มีแววตาหวาดกลัวใด ๆ เดินออกมาเหมือนคนเพิ่มออกมาจากห้องนอนดวงตาผู้คนที่อยู่นอกตำหนักทั้งสองฝ่ายเบิกกว้างตกใจ จนลูกตาแทบกระเด็นกระบี่ทวนง้าวร่วงหล่นจากมือกระทบพื้น ส่งเสียงเคร้งคร้างดังเป็นทอด ๆ ภาพเลวร้ายต่าง ๆ ที่คิดไปไกลได้กลับตาลปัตรความหวังของฝ่ายบุกรุกเหมือนปีนถึงยอดผากลับถูกถีบลงมาเหยียบขยี้เละไม่เหลือซาก ผู้ที่บุกเข้าไปภายในตำหนักที่เหลืออีกครึ่งจากการเก็บไว้สอบปากคำด้วยอำนาจชินอ๋อง ตอนนี้ถูกมัดมือมัดปากไม่กล้าหืออือเดินเรียงแถวกันมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยยิ่งกว่าทหารในกองทัพ สีหน้าเจี๋ยมเจี้ยมเดินคอตกหมดอาลัยตายอยากกันทุกคน“เกิดอะไรขึ้น”น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยเรียบ ๆ ดวงตาคมหรี่มองภาพด้านนอก บุคลิกของผู้สวมหน้ากากอำพรางตัวตนคนนี้ ทำให้ทุกคนที่เห็นต่างรู้สึกว่ามีอำนาจอัดแน่นในร่างสูงสง่า จนทำให้ดูน่าเกรงขาม แต่น
ถึงพังพอนเหลืองที่เคารพหลานชายสุดที่รักของท่านถูกพวกมันรังแกย่ำยี พวกมันกระทืบข้า ลวนลามข้า เหยียดหยามวงศ์ตระกูลข้า จนไม่มีหน้ารักษา อีกทั้งกล่าวหาว่าท่านไม่มีน้ำยาสั่งสอนข้า จนกลายเป็นสวะรกแผ่นดินเท่ากับพวกมันลบหลู่เบื้องสูงเท่ากับเหยียบหน้าฝ่าบาท พวกมันเป็นคนของตาเฒ่าหลี่ที่หวังสร้างคลื่นใต้น้ำก่อเรื่อง มีโทษสมควรตาย เรื่องนี้ไท่จื่อเป็นสักขีพยานได้ ยังเคราะห์ดีที่มีผู้แข็งแกร่งช่วยเหลือข้าเอาไว้ และเป็นผู้ส่งตัวพวกมันและจดหมายฉบับนี้มาให้ฝ่าบาทพิจารณา ป.ล พวกมันเป็นคนของพรรคมารอสูรที่ตาแก่หลี่อยู่เบื้องหลังกล้าเหิมเกริมบุกเทียนถูหวู่ ข้าส่งพวกมันให้ท่านนอนกกกอดได้เพียงเท่านี้จาก ชินอ๋อง หลานรักของเสด็จอาฮ่องเต้ฮ่องเต้ราชอาณาจักรซีเว่ยที่กำลังประชุมขุนนางหารือเรื่องบ้านเมืองอ่านสารจบหนวดกลับกระตุกไม่หยุด เส้นขมับเต้นตุบ ๆ สายตาคมมองไปที่บรรดาร่างล่อนจ้อนที่มีผ้าปกปิดกันอุจาด รอยสักบอกยี่ห้อเจ้านายถูกเยี่ยหยางพรางไว้“ทหารจับพวกมันไปขังคุกของชินอ๋อง ร