แชร์

บทที่ 524

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
สถานการณ์ในจินโจวมีความซับซ้อน และเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเซียวจิ่งอี้หายตัวไป อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่มีทางมาเร็วเช่นนี้

ที่จริงก่อนหน้านี้ในใจเทียนเฉวียนมีความสงสัยอยู่เสี้ยวหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่กล้าคิดเรื่องนั้น

อวิ๋นฝูหลิงเห็นท่าทางที่งงงวยของเทียนเฉวียน ก็เข้าใจแล้วว่าเขาไม่รู้เรื่องที่เซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนหายตัว

“เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่?”

“เจ้าเป็นองครักษ์ข้างกายของท่านอ๋อง เหตุใดไม่อยู่กับท่านอ๋อง?”

เทียนเฉวียนหวนคืนสติ กล่าวตอบ “ท่านอ๋องเป็นคนให้ข้าน้อยอยู่เฝ้าที่นี่ และคอยจับตาดูสถานการณ์ของอ่าวเสี่ยวเยว่ขอรับ”

อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ที่นี่ก็คืออ่าวเสี่ยวเยว่?”

สถานที่ที่สกุลเวินลักลอบขนสินค้าก็คืออ่าวเสี่ยวเยว่

เทียนเฉวียนยกมือชี้ “เมื่อผ่านป่าผืนนี้ไป อีกด้านของป่าก็คืออ่าวเสี่ยวเยว่”

“ที่นี่อยู่สูง มองจากตรงนี้ สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของทางอ่าวเสี่ยวเยว่ได้อย่างชัดเจน”

“ท่านอ๋องพบว่าสกุลเวินกำลังลักลอบค้าขายกับคนญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้สูงมากว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนนำขี้ผึ้งทองมา ดังนั้นจึงสืบเรื่องการลักลอบขนสินค้ามาโดยตลอด”

“หลายวันก่อนทางอ่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 1

    อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งฟื้นคืนสติอย่างงงงวย ก็ถูกตบหน้าอย่างแรง“นังตัวดี ข้าชอบเจ้านั้นเป็นวาสนาของเจ้า!”“เจ้ายังกล้ากัดข้าอีกหรือ? แรงแค่นี้คิดว่าสามารถหนีพ้นจากเงื้อมมือของข้าได้งั้นหรือ?”“ปรนนิบัติข้ากับพวกพี่น้องให้มีความสุขแต่โดยดี แล้วข้าจะปล่อยเจ้ากับเจ้าเด็กนั่น!”“ไม่เช่นนั้น รอพวกเราพี่น้องทุกคนสนุกกับเจ้าจนพอแล้ว จะขายพวกเจ้าสองแม่ลูกให้ซ่องเสีย!”ความรู้สึกเจ็บแสบที่แก้ม ทำให้สติของอวิ๋นฝูหลิงแจ่มชัดขึ้นหลายส่วนความโกรธอันไร้ขอบเขตพลุ่งพล่านอยู่ในก้นบึ้งหัวใจนางนางเป็นหมอเทวดาที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในฐานปฏิบัติการโลกวิบัติ ใครหน้าไหนมันอยากตายถึงกล้าทำแบบนี้กับนาง?นางลืมตาขึ้น ก็มองเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังกุมใบหูที่มีเลือดไหลพลางฉีกกระชากเสื้อผ้าของนางด้วยสีหน้าหื่นกามและยังมีผู้ชายอีกหลายคนยืนเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ อย่างหยาบคาย“นังตัวดีนี่นิสัยรุนแรงใช้ได้ เมื่อครู่เกือบกัดหูลูกพี่ขาด”“นิสัยรุนแรงแบบนี้สิถึงจะมีรสชาติ…”“ลูกพี่ ท่านรีบจัดการเถอะ พวกเรายังรอสนุกอยู่นะ อีกเดี๋ยวมีคนมาก็อดหรอก”“วางใจเถอะ วันนี้ฝนตกหนักเช่นนี้ ไม่มีคนมาแน่นอน พวกเรามีเวลาอีกเยอะ ค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 2

    ระหว่างฟ้าดินที่ถูกหมอกปกคลุม เรือนไผ่สองชั้นหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางภายในเรือนไผ่เก็บทรัพยากรต่างๆ ที่อวิ๋นฝูหลิงรวบรวมมาได้ในโลกวิบัติ อวิ๋นฝูหลิงเดินวนในเรือนไผ่หนึ่งรอบ พบว่าทรัพยากรเหล่านั้นยังอยู่ นางรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในทันทีด้านซ้ายของเรือนไผ่เป็นแปลงสมุนไพร ปลูกสมุนไพรนานาชนิดส่วนด้านขวามีหินย้อยก้อนหนึ่ง ห้อยอยู่กลางอากาศตรงปลายแหลมของหินย้อย มีน้ำหยดหนึ่งเกาะอยู่ หยดน้ำจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่ส่วนด้านล่างของหินย้อยมีชามหินหนึ่งใบ ใช้สำหรับรองหยดน้ำที่หยดลงมาจากหินย้อยเวลานี้ในชามหินรองน้ำได้ครึ่งชามแล้วน้ำนี้เทียบได้กับยาวิเศษ เป็นของที่ดีมากคนทั่วไปดื่มสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ร้อยโรคไม่กล้ำกราย คนป่วยดื่มสามารถขจัดร้อยโรค ฮึกเหิมประดุจมังกรและเสือผาดโผนในพริบตาเวลาปรุงยาเพิ่มหนึ่งหยด สามารถกระตุ้นสรรพคุณยา เพิ่มประสิทธิภาพเพียงแต่หยดน้ำแห่งจิตวิญญาณนี่หยดช้ามาก เก็บมานานสามเดือนกว่าเพิ่งจะได้แค่ครึ่งชามแต่สามารถมีหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณเช่นนี้ครึ่งชาม อวิ๋นฝูหลิงก็ดีใจมากแล้วนางรีบนำหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณจากมิติมาดื่มสองอึกทันทีกระแสอุ่นสายหน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 3

    น้ำท่วมที่โหมกระหน่ำกลืนกินบ้านเรือนและไร่นาในพริบตาบ้านเรือนต้านแรงซัดของกระแสน้ำไม่ไหว ถูกซัดจนพังทลาย กลายเป็นเศษซากกระจัดกระจายไปทั่วชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังเหล่านั้น ก็ถูกน้ำท่วมม้วนเข้าไปในพริบตาคนเหล่านี้ไม่ทันได้ส่งเสียงขอความช่วยเหลือด้วยซ้ำ หลังจากลอยคออยู่ในน้ำครู่หนึ่ง ก็ถูกน้ำท่วมพัดหายไปอย่างไร้ร่องรอยชาวบ้านคนอื่นเห็นสถานการณ์ อดไม่ได้ที่จะหน้าซีด ตอนนี้แทบจะใช้มือและเท้าปีนขึ้นยอดเขาอย่างสุดชีวิตโดยเฉพาะพวกชาวบ้านที่อยู่ท้ายขบวน พวกเขาเห็นคนที่อยู่ข้างหลังพวกเขาถูกน้ำท่วมกลืนกินต่อหน้าต่อตาอีกเพียงนิดเดียว พวกเขาก็เกือบจะถูกฝังท่ามกลางน้ำท่วมแล้ว!ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาสนใจสัมภาระที่หนักอึ้งบนแผ่นหลังแล้ว โยนของทิ้งก็ปีนขึ้นเขาอย่างสุดชีวิตในเวลาเช่นนี้ สิ่งของจะสำคัญกว่าชีวิตได้อย่างไร!อวิ๋นฝูหลิงกุมศีรษะปีนขึ้นเขา ระหว่างนั้นหันกลับมาดูสถานการณ์ของน้ำท่วมแวบหนึ่งน้ำท่วมที่อยู่ใต้เขาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมู่บ้านจมไปแล้ว อีกทั้งปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่าจะท่วมสูงถึงไหล่เขาอวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจเวลานี้เอง หญิงสาวคนห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 4

    อวิ๋นฝูหลิงเงยหน้ามอง ก็มองเห็นตรงจุดที่อยู่ห่างออกไปร้อยกว่าเมตร มีชายฉกรรจ์รวมกลุ่มกันห้าหกคน คนกลุ่มนี้กำลังคุยอะไรบางอย่าง และยังชี้มาทางนางเป็นระยะหนึ่งในนั้นก็คือชายที่ผอมเหมือนลิง คนที่หนีออกจากบ้านนางก่อนหน้านี้สายตาของลิงผอมปะทะสายตาของอวิ๋นฝูหลิงพอดี เขาจ้องเขม็งใส่นางแวบหนึ่ง เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มีเจตนาร้ายแตกต่างจากคนที่วิ่งหนีกระเจิงก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เหมือนมีที่พึ่งอะไรบางอย่างอวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้ว เกิดความหวาดระแวงขึ้นในใจทันทีนางจมจิตใต้สำนึกเข้าไปในมิติ เริ่มรื้อค้นในเรือนไผ่ชาติที่แล้วนางปรุงผงยาป้องกันตัวไว้ไม่น้อย อีกทั้งทำมาจากวัตถุดิบที่ปลูกในมิติทั้งหมด ประสิทธิภาพรุนแรงกว่าผงยาทั่วไปหลายเท่าอวิ๋นฝูหลิงเลือกผงยามาสองสามห่อ นำออกมาจากมิติโดยอาศัยการบดบังของแขนเสื้อ แล้วแอบใส่เข้าไปในกระเป๋าแขนเสื้อนางเหลือบมองพวกลิงผอมแวบหนึ่งถ้าหากคนเหล่านี้ไม่ยุ่งกับนางก็ช่างเถอะ แต่ถ้าหากกล้าลงมือกับนาง นางจะให้พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติของการตายทั้งเป็นแน่นอนขณะเดียวกัน ชายที่ผอมเหมือนลิงกำลังฟ้องพรรคพวก“ลูกพี่อู๋ ที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริงนะ พวกพี่ใหญ่ข้าล้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 5

    โจวโหย่วเหลียงเพิ่งมารวมตัวกับครอบครัวบนยอดเขา ก็ได้รู้เรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงช่วยชีวิตลูกเมียของเขาจากปากเจิ้งซื่อเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจหายหลังจากตั้งสติได้ เขาก็บอกเรื่องนี้กับบิดามารดาของตน จากนั้นก็ถือลูกเดือยถุงหนึ่ง พาลูกเมียมาขอบคุณเมื่อเห็นอวิ๋นฝูหลิงบ่ายเบี่ยง โจวโหย่วเหลียงที่เป็นผู้ชายก็ไม่สะดวกที่จะคะยั้นคะยออวิ๋นฝูหลิง ได้แต่ขอบคุณบุญคุณที่ช่วยชีวิตของอวิ๋นฝูหลิงอยู่ข้างๆ อย่างจริงใจจากนั้นก็ดึงโจวฉางจี๋มาตรงหน้าก่อนมาโจวฉางจี๋ก็ถูกอบรมก่อนแล้ว เขากล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนิ่ม “ขอบคุณป้าอวิ๋น!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นใบหน้าเล็กที่อวบอิ่มและรูปร่างอ้วนเล็กน้อยของเขา ดวงตาที่เหมือนองุ่นดำก็สดใสขึ้นมาทันทีและรู้ด้วยว่าเขาเป็นที่รักของคนตระกูลโจว ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถกินจนได้รูปร่างเช่นนี้ในครอบครัวชาวนาอวิ๋นฝูหลิงเห็นเขาน่ารักมาก อดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะของเขา พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร!”พูดจบก็หันไปพูดกับสองสามีภรรยา “สถานการณ์เช่นก่อนหน้านี้ ข้าคิดว่าใครพบเจอก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทุกคนเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน ช่วยเหลือกันและกันเป็นสิ่งที่สมควรทำ พวกเจ้าไม่จำต้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 6

    โหวซานได้ยินดังนั้นก็นึกว่านี่เป็นแผนการที่ลูกพี่อู๋คิดขึ้นเพื่อกำราบอวิ๋นฝูหลิง สีหน้าจึงผ่อนคลายลงเล็กน้อยอีกอย่างอวิ๋นฝูหลิงรูปงาม ลูกพี่อู๋อยากจะลองลิ้มรสชาติของนางก่อนก็เป็นเรื่องปกติโหวซานนึกว่าเดาใจลูกพี่อู๋ถูก จึงหัวเราะแล้วหันไปยักคิ้วหลิ่วตาใส่ลูกพี่อู๋ จากนั้นเอ่ยขึ้น“หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ หากฆ่าทิ้งคงเสียดายแย่ ไม่สู้ให้นางได้เล่นสนุกกับลูกพี่อู๋ก่อน รอให้พี่น้องทุกคนสนุกกันเต็มที่แล้ว ข้าค่อยสังหารนาง เพื่อแก้แค้นให้พี่ใหญ่ก็ยังไม่สาย”ลูกพี่อู๋ได้ยินดังนั้น แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม ทว่าในดวงตากลับเหี้ยมเกรียมขึ้นทันใดเขาอยากจะตบแต่งอวิ๋นฝูหลิงด้วยใจจริง ย่อมทนฟังโหวซานเหยียดหยามนางด้วยคำพูดเช่นนี้ไม่ได้ชายจมูกงุ้มหลายคนเห็นสีหน้าของลูกพี่ พลันรู้ได้ทันทีว่าเขาโมโหแล้วแต่โหวซานยังไม่รู้ตัว ยังคงพูดจาหยาบโลนต่อไปไม่หยุดดวงตาอวิ๋นฝูหลิงเยือกเย็น ทว่าใบหน้ากลับยิ้มแย้ม “ได้สิ งั้นข้าจะเล่นสนุกกับพวกเจ้าก่อน”พอดีกับยามนี้ที่มีสายลมพัดผ่านไปยังทิศทางของพวกลูกพี่อู๋อวิ๋นฝูหลิงฉวยโอกาสตอนทุกคนเผลอ โปรยผงยาหนึ่งห่อผงยาโชยไปตามลมใส่หน้าพวกลูกพี่อู๋ จากนั้นถูกพวกเขา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 7

    สายตาอวิ๋นฝูหลิงหันมองหินลูกเล็กที่ตกอยู่ข้างกายโหวซานก้อนนั้นใช้เพียงหินก้อนเล็กก้อนเดียวก็สามารถฆ่าคนได้ อีกฝ่ายย่อมไม่ธรรมดาอวิ๋นฝูหลิงแหวกพงหญ้าออก ทันใดนั้นสบเข้ากับดวงตาดำขลับล้ำลึกภายในพงหญ้ามีชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดผ้าแพรสีดำปักลายสีทองนั่งอยู่มือขวาของเขาถือกระบี่ป้องกันไว้ตรงหน้า ดูระมัดระวังอย่างมากสายตาที่มองอวิ๋นฝูหลิงเต็มไปด้วยความระแวงชายหนุ่มดูเหมือนคนอายุยี่สิบกว่า ใบหน้าหมดจด คิ้วโก่งดั่งภาพวาด เป็นคนที่รูปงามมาก ทว่าท่าทางตึงเครียดของเขาในตอนนี้ ทำให้รังสีรอบตัวเขาดูขึงขังขึ้นมากอวิ๋นฝูหลิงรู้สึกแค่ว่าช่วงตาของชายหนุ่มดูคุ้นเคย แอบคิดในใจว่าหรือจะเป็นคนที่เจ้าของร่างเดิมรู้จักแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องตนอย่างแปลกหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่เคยรู้จักเจ้าของร่างเดิมมาก่อนอวิ๋นฝูหลิงจึงไม่คิดอะไรอีกนางสังเกตเห็นริมฝีปากที่ขาวซีดของชายหนุ่ม ใบหน้าเขาซีดเผือด จากนั้นได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง จึงรู้ว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสหากไม่รีบรักษาแล้วห้ามเลือด เกรงว่าคงยืนหยัดได้อีกไม่นาน เขาอาจจะตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปอวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด แล้วนำผงยาออกมาจากกระเป๋าหนึ่งขว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 8

    อวิ๋นฝูหลิงจ้องลูกพี่อู๋หนึ่งครั้งเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ อีกทั้งสามารถทำให้ลูกน้องเชื่อฟัง เชื่อใจ และทำตามได้ถือเป็นคนเก่งคนที่มีความสามารถเช่นนี้หากยอมศิโรราบต่อนาง รับใช้นาง ต่อไปต้องเป็นผู้ช่วยที่ดีอวิ๋นฝูหลิงที่ได้ลูกน้องใหม่สี่คน สั่งให้พวกเขาไปตามหาแหล่งน้ำและเก็บฟืนทันทีอวิ๋นฝูหลิงถือคติตบหัวแล้วลูบหลัง จึงแจกจ่ายถุงยาให้พวกเขาคนละหนึ่งอันถุงยานี้อวิ๋นฝูหลิงปรุงขึ้นอย่างตั้งใจ เมื่อสวมใส่ติดตัวจะมีสรรพคุณขับไล่งูและแมลง เป็นสิ่งจำเป็นเมื่ออยู่ในป่าในเขาก่อนหน้านี้อวิ๋นฝูหลิงพาอวิ๋นจิงมั่วไปมาในป่าอย่างตามใจ เพราะมีถุงยานี้ติดตัวทั้งสองเมื่อพวกของลูกพี่อู๋รู้ว่าถุงยาสามารถขับไล่งูและแมลง รู้ว่านี่เป็นของดีจึงรีบสวมติดตัวทันทีความขุ่นเคืองที่ต้องกินยาถอนพิษเพราะไม่มีทางเลือก จึงค่อยสลายไปบ้างเมื่อมีพวกลูกพี่อู๋ไปตามหาฟืนและแหล่งน้ำ มือหนึ่งของอวิ๋นฝูหลิงจูงอวิ๋นจิงมั่ว ส่วนอีกมือหนึ่งถือฟืนที่เพิ่งเก็บได้เมื่อครู่ จากนั้นย้อนกลับไปจุดที่ชาวบ้านรวมตัวกันหลังจากเซียวจิ่งอี้จัดการแผลบนร่างกายเสร็จแล้ว เขาแหวกพงหญ้าและมองเห็นแผ่นหลังของอวิ๋นฝูงหลิงพอดีเขากำขวดยาที

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 524

    สถานการณ์ในจินโจวมีความซับซ้อน และเต็มไปด้วยอันตราย ถ้าหากไม่ใช่เพราะเซียวจิ่งอี้หายตัวไป อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่มีทางมาเร็วเช่นนี้ที่จริงก่อนหน้านี้ในใจเทียนเฉวียนมีความสงสัยอยู่เสี้ยวหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่กล้าคิดเรื่องนั้นอวิ๋นฝูหลิงเห็นท่าทางที่งงงวยของเทียนเฉวียน ก็เข้าใจแล้วว่าเขาไม่รู้เรื่องที่เซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนหายตัว“เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่?”“เจ้าเป็นองครักษ์ข้างกายของท่านอ๋อง เหตุใดไม่อยู่กับท่านอ๋อง?”เทียนเฉวียนหวนคืนสติ กล่าวตอบ “ท่านอ๋องเป็นคนให้ข้าน้อยอยู่เฝ้าที่นี่ และคอยจับตาดูสถานการณ์ของอ่าวเสี่ยวเยว่ขอรับ”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ที่นี่ก็คืออ่าวเสี่ยวเยว่?”สถานที่ที่สกุลเวินลักลอบขนสินค้าก็คืออ่าวเสี่ยวเยว่เทียนเฉวียนยกมือชี้ “เมื่อผ่านป่าผืนนี้ไป อีกด้านของป่าก็คืออ่าวเสี่ยวเยว่”“ที่นี่อยู่สูง มองจากตรงนี้ สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของทางอ่าวเสี่ยวเยว่ได้อย่างชัดเจน”“ท่านอ๋องพบว่าสกุลเวินกำลังลักลอบค้าขายกับคนญี่ปุ่น มีความเป็นไปได้สูงมากว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนนำขี้ผึ้งทองมา ดังนั้นจึงสืบเรื่องการลักลอบขนสินค้ามาโดยตลอด”“หลายวันก่อนทางอ่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 523

    สถานที่ที่อวิ๋นฝูหลิงจะไปอยู่นอกเมืองจินโจว อยู่ไกลพอสมควรย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกอวิ๋นฝูหลิงจะเดินไปแต่น่าเสียดายที่ตอนออกจากหอหรูกุย ไม่มีม้าจากหอหรูกุยมาถึงร้านวัตถุโบราณของหลี่หยวน แทบจะข้ามครึ่งหนึ่งของเมืองจินโจวกลับไปเอาม้าที่หอหรูกุยตอนนี้ ระยะทางก็ไม่ได้ใกล้มากนักโชคดีที่เมืองจินโจวมีม้าและรถให้เช่ามากมาย ลองถามนายหน้าสักคนบนถนนก็สามารถเช่าได้แล้วหลี่หยวนนึกขึ้นได้ว่าพวกอวิ๋นฝูหลิงต้องเดินทางโดยม้า ดังนั้นก่อนพวกอวิ๋นฝูหลิงไป จึงบอกเรื่องนี้กับอวิ๋นฝูหลิงดังนั้นหลังจากอวิ๋นฝูหลิงกินบะหมี่เสร็จ ก็ลองถามชายชราเจ้าของร้านบะหมี่ดูชายชราตั้งร้านที่นี่ตลอด ย่อมรู้สถานการณ์ในละแวกนี้อย่างชัดเจนอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งใช้บริการร้านบะหมี่ ชายชราย่อมยินดีบอกทางนาง“ไปตามถนนสายนี้ แล้วเลี้ยวไปทางเหนือตอนแยกที่สอง”อวิ๋นฝูหลิงขอบคุณชายชราทั้งสามกินบะหมี่เสร็จ เหยากวงจ่ายเงิน ก็เดินเลียบถนนไปยังตลาดขายวัวและม้าแล้วยังไปไม่ถึงตลาดขายวัวและม้า ข้างทางก็มีร้านนายหน้าใหญ่ๆ แห่งหนึ่งอวิ๋นฝูหลิงไม่อยากเสียเวลา เข้าไปเช่าม้าสามตัวกับนายหน้าคนหนึ่งโดยตรงทั้งหมดนี้ใช้เวลาหนึ่งเค่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 522

    อวิ๋นฝูหลิงนึกถึงเรื่องนี้ กำลังจะเอ่ยปากถามว่าพวกเขาขายบะหมี่อะไรบ้าง ชายชราคนนั้นชิงกล่าวแนะนำก่อนหนึ่งก้าว “ร้านของพวกเรามีบะหมี่ธรรมดา บะหมี่น้ำมันเจียวต้มหอม บะหมี่เนื้อเส้น…”“บะหมี่เนื้อเส้นใช้เนื้อไก่กับน้ำแกงไก่ ราคาจะแพงกว่าเล็กน้อย ชามละสิบอีแปะ”เหยากวงเดินวนร้านบะหมี่หนึ่งรอบ หันมาเวลานี้พอดีนางพยักหน้าให้อวิ๋นฝูหลิงเบาๆอวิ๋นฝูหลิงเห็นดังนี้ จึงรู้ว่าร้านบะหมี่แห่งนี้สะอาดมากกินข้าวข้างนอก สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือร้านไม่ใส่ใจเรื่องความสะอาดดังนั้นเมื่อไรที่กินข้าวข้างนอก อวิ๋นฝูหลิงจะใส่ใจเกี่ยวกับความสะอาดของร้านเป็นพิเศษเหยากวงติดตามอวิ๋นฝูหลิงมานาน ย่อมรู้นิสัยของนางดังนั้นเมื่อมาถึงร้านบะหมี่ เหยากวงก็ไปตรวจดูความสะอาดของร้านบะหมี่ก่อนแล้วมั่นใจว่าสะอาด จึงจะสามารถกินอย่างวางใจหลังจากอวิ๋นฝูหลิงฟังเถ้าแก่แนะนำ นางถามเหยากวงกับหูคุนอยากกินอะไรเมื่อเห็นว่าพวกนางกินได้หมด จึงสั่งบะหมี่เนื้อเส้นมาสามชามชายชราเห็นพวกเขาสั่งบะหมี่เนื้อเส้นที่แพงที่สุด รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นแล้วเขาตะโกนไปทางหญิงชราที่อยู่ข้างเตา “ยายเฒ่า บะหมี่เนื้อเส้นสามชาม”

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 521

    เมื่อจ้าวเสวียซือได้ยิน ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างหงุดหงิดและกล่าว “ก็ได้!”จู่ๆ เขาก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงกล่าวอีก “ตอนที่พวกเรามาจินโจว พาคนมาด้วยส่วนหนึ่ง ท่านอ๋องหายตัวไป ข้าได้รับบาดเจ็บหมดสติ ตอนนี้คนพวกนั้นทำอะไรไม่ถูกแน่นอน”“ข้าจะให้ที่อยู่แก่เจ้า เจ้าไปรวบรวมคนเหล่านั้น ช่วงที่เจ้าอยู่จินโจว ก็มีคนให้ใช้งานมากขึ้น”อวิ๋นฝูหลิงก็กำลังคิดจะหาคนเพิ่มพอดี เมื่อได้ยินก็ย่อมตอบตกลงทันที “เรื่องตามหาท่านอ๋องกับผู้บัญชาการจั่วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”“เจ้าทำใจให้สบาย พักฟื้นให้เต็มที่ ไว้อีกสองสามวันข้าจะมาดูเจ้าใหม่”อวิ๋นฝูหลิงกำชับจ้าวเสวียซือสองสามประโยค จึงจะจากไปการคำนวณเวลาในห้องลับอย่างแม่นยำนั้นเป็นเรื่องยาก หลังจากอวิ๋นฝูหลิงออกมา พบว่าตอนนี้เป็นตอนเที่ยงแล้วที่อยู่ที่จ้าวเสวียซือให้นางอยู่นอกเมืองถ้าหากรีบไปตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะสามารถไปถึงก่อนฟ้ามืดหรือไม่อวิ๋นฝูหลิงลังเลครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจได้แล้วนางตัดสินใจจะไปวันนี้เลย ยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไร โอกาสที่จะตามหาเซียวจิ่งอี้กับจั่วเยี่ยนเจอก็ยิ่งมากเท่านั้นไม่แน่ว่าพวกคนที่อยู่นอกเมืองก็รู้อะไรบางอย่างเช่นกัน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 520

    “ยิ่งไปกว่านั้นมีสองคนนี้คอยดูแลในหอจินอวี้อยู่ ใครจะกล้าก่อเรื่องที่หอจินอวี้ได้?”“ดังนั้นชื่อเสียงของผู้นำใหญ่และรองผู้นำ จึงโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ”“ทว่าผู้นำใหญ่คนนั้น ไม่กี่ปีก่อนป่วยตายไปแล้ว รองผู้นำที่เหลืออยู่คนนั้น ก็ตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเช่นกัน”“ข้าคิดว่าการตายของรองผู้นำ ไม่ใช่แค่ข้ออ้างที่สร้างขึ้นมาเพื่อตามหามือสังหารเท่านั้น”ประโยคสุดท้าย หลี่หยวนพูดแฝงความนัยอวิ๋นฝูหลิงเข้าใจขึ้นมาบ้าง และกล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมาหอจินอวี้ถูกดูแลโดยผู้นำใหญ่กับรองผู้นำ ทั้งสองละทิ้งความชั่วหันเข้าสู่ความดี เพราะนายท่านใหญ่เวิน”“คิดว่าผู้นำใหญ่กับรองผู้นำเอาหอจินอวี้ไปรับผิดชอบ ก็เป็นเพราะนายท่านใหญ่เวินเช่นกัน”“พูดได้ว่าหลายปีมานี้หอจินอวี้อยู่ในมือของบ้านใหญ่มาโดยตลอด”“แม้ผู้นำใหญ่จะป่วยตายไปแล้ว ในหอจินอวี้ก็ยังมีรองผู้นำคอยดูแลอยู่ รองผู้นำเคยเป็นโจรมาก่อน ทั้งยังทำให้หอจินอวี้ยิ่งใหญ่มาด้วยกันกับนายท่านใหญ่เวิน แน่นอนว่าย่อมมีบารมีในหอจินอวี้”“ยามนี้นายท่านใหญ่เวินตายจากอุบัติเหตุ ลูกชายคนเดียวของเขาคุณชายใหญ่เวินก็ป่วยจนต้องนอนติดบนเตียง ไม่สนใจสิ่งใด”“กิจการทั้งห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 519

    อวิ๋นฝูหลิงแค่นเสียงเบาเสียงหนึ่ง “เจ้าต้องขอบคุณข้าด้วย”“หากข้ามาช้ากว่านี้อีกสักสองสามวัน บาดแผลบนร่างของเจ้า แม้แต่เทพเซียนคงยากจะช่วยแล้ว!”จ้าวเสวียซือผุดรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า “ใช่ ๆ ๆ โชคดีมากที่พี่สะใภ้มาทันเวลา ด้วยฝีมือแพทย์ที่เหนือชั้น จึงช่วยชีวิตข้าไว้ได้!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นเขายังคงมีรอยยิ้มสดใสเหมือนเมื่อก่อน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเช่นกัน“เมื่อเป็นเช่นนี้ มือสังหารที่สกุลเวินตามหาตัวไปทั่ว น่าจะเป็นเจ้าหรือไม่ก็คนที่ส่งเสียงโดยไม่ระวังผู้นั้น”จ้าวเสวียซือพยักหน้า “น่าจะใช่”“แต่เรื่องการตายของรองผู้นำของหอจินอวี้ ข้าไม่รู้จริงๆ”“คืนนั้นหลังจากที่ถูกพบ ข้าต่อสู้กับคนของหอจินอวี้มากมาย ยามนั้นมันชุลมุนมาก เพื่อหนีออกมา ข้าก็ฆ่าคนของหอจินอวี้ไปหลายคน ทว่าในบรรดานั้นมีรองผู้นำคนนั้นหรือไม่ ข้าก็ไม่รู้”“เรื่องที่คืนนั้นพวกเวินเจาทั้งสามคนมาพูดคุยกัน ไม่อาจแพร่งพรายออกมาได้แม้แต่ประโยคเดียว”“ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นโทษฐานเรื่องใด ก็ล้วนเพียงพอที่สกุลเวินจะถูกจับกุมมาสอบสวนทั้งสกุลได้!”อวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “ดังนั้นจากมุมมองของพวกเวินเจา เจ้ากับ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 518

    “เขารับปากว่าจะมอบธัญพืชสองลำเรือให้คนญี่ปุ่นคนนั้น แต่คนญี่ปุ่นจะต้องเอาอาวุธมาแลกเปลี่ยน”อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้วขึ้น “เวินเจาต้องการแลกเปลี่ยนกับอาวุธ เขาคิดจะทำอะไร? หรือสกุลเวินคิดจะก่อกบฏ?”ยามนี้ใต้หล้าสงบสุข ทะเลทั้งสี่ก็สงบสุขฮ่องเต้จิ่งผิงก็นับเป็นฮ่องเต้ที่ดีทุ่มเทกำลังทำให้แคว้นรุ่งเรือง แม้ว่าชีวิตของประชาชนจะไม่ได้มั่งมี แต่ก็ดีกว่าช่วงหลายปีก่อนที่บ้านเมืองวุ่นวายเพราะสงครามภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ใครกันจะคิดสั้นก่อกบฏ?ยิ่งไปกว่านั้นสกุลเวินก็เป็นสกุลที่สืบทอดต่อกันมายาวนานในจินโจว ในสกุลยังมีลูกหลานจำนวนไม่น้อยที่รับราชการเจ้าหน้าที่ทางการที่รับผิดชอบจินโจว เกือบทั้งหมดล้วนทุ่มเทสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสกุลเวิน เพราะเกรงว่าหากไปล่วงเกินสกุลเวินซึ่งเป็นเจ้าถิ่น จะทำให้ชีวิตในจินโจวไม่สู้ดีในระดับหนึ่ง สกุลเวินก็นับว่าเป็นฮ่องเต้ของจินโจว ต้องการเงินก็ได้เงิน ต้องการอำนาจก็มีอำนาจเวินเจาในฐานะลูกชายคนโตของบ้านรอง ในสถานการณ์ที่บ้านใหญ่ไร้ข่าวคราวและเริ่มเสื่อมถอย ตำแหน่งผู้นำสกุลเวินในอนาคต มีความเป็นไปได้สูงที่จะมาอยู่ในมือของเวินเจาทิ้งอนาคตที่ยอดเยี่ยมไป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 517

    อวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าคนญี่ปุ่น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นคนญี่ปุ่น?”จ้าวเสวียซือพยักหน้า น้ำเสียงมั่นใจ “จิวโจวอยู่ติดทะเล มีพ่อค้าต่างชาติจำนวนไม่น้อยไปมาเพื่อทำการค้า ข้าอยู่ที่จินโจวมาหลายวันขนาดนี้ จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างไร?”“ดูจากการแต่งตัวของคนผู้นั้น รวมถึงสำเนียงที่พูด ต้องเป็นคนญี่ปุ่นแน่นอน!”ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ อวิ๋นฝูหลิงก็ล้วนไม่มีความรู้สึกดีอันใดกับคนญี่ปุ่นเลยมักจะรู้สึกว่าชาวเกาะที่อาศัยอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ แห่งนั้น ไม่ได้มีดีอันใดเก็บซ่อนไว้การลักลอบซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายครั้งนี้ ไม่แน่สกุลเวินอาจจะร่วมมือกับคนญี่ปุ่นทั้งสองฝั่งฝ่ายหนึ่งดูแลภายใน อีกฝ่ายหนึ่งดูแลภายนอก ฝ่ายหนึ่งทำการนำเข้า อีกฝ่ายหนึ่งทำการส่งออก ร่วมมือกันย่อมยิ่งสะดวกการลักลอบซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายไม่เพียงแต่เป็นการนำสิ่งของภายนอกเข้ามา แต่ยังสามารถเอาของในประเทศตัวเองขายให้ต่างชาติได้ด้วยขี้ผึ้งทองที่ขายอยู่ในหอจินอวี้ของสกุลเวิน ไม่แน่ว่าที่มาของขี้ผึ้งทอง อาจจะเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นจิตใจของอวิ๋นฝูหลิงสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปถามต่อว่า “หลังจากน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 516

    “จากการทะเลาะเบาะแว้งของพวกเขา พวกเราจึงรู้ว่าสกุลเวินเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งขี้ผึ้งทองก็ถูกลักลอบนำเข้ามาเช่นกัน” “แต่เรื่องการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมายทำโดยบ้านรองสกุลเวินเป็นหลัก บ้านสามอิจฉาผลประโยชน์ส่วนนี้ จึงอยากเข้าร่วมด้วย และแบ่งผลประโยชน์มาส่วนหนึ่ง”“ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ทางการท้องถิ่นของจินโจวก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน”“หลังจากได้รับเบาะแส ท่านอ๋องก็หันไปเริ่มตรวจสอบสกุลเวิน”ราชวงศ์ต้าฉีเริ่มเปิดการค้าทางทะเล ดังนั้นพ่อค้าบริเวณชายฝั่งจึงต่างได้รับผลประโยชน์ และได้รับกำไรมากมายขอเพียงจ่ายภาษีให้ครบถ้วน และสินค้าที่ซื้อขายไม่ใช่สินค้าที่เกี่ยวกับอาวุธสงครามที่ควบคุมโดยราชสำนักอย่างพวกเสบียง อาวุธหนัก ม้า และเกลือ ทางราชสำนักก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการค้าทางทะเลระหว่างประเทศโพ้นทะเลกับราชวงศ์ต้าฉีแต่ก็มักจะมีเหล่าผู้คน ที่โลภมากไม่รู้จักพอเห็นได้ชัดว่าทำกำไรได้มากมาย แต่ก็มักจะยังอยากได้เงินมากกว่าเดิม แม้แต่ภาษีเล็กน้อยก็ยังไม่อยากจ่ายด้วยเหตุนี้จึงทำการลักลอบค้าขายสินค้าผิดกฎหมายแม้ราชสำนักจะตรวจสอบและปราบปรามอย่างเข้มงวดมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status