Share

บทที่ 529

Author: หลันซานอวี่
หลังจากอวิ๋นฝูหลิงฟังข้อมูลที่พวกจางซานมู่หามาได้ทีละคน อดไม่ได้ที่จะถือถ้วยน้ำชา เริ่มครุ่นคิดอย่างขมวดคิ้ว

นางรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาในหลายวันนี้

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ความสนใจของนางไปตกที่คนคนหนึ่ง

เวินจือเหิง คุณชายใหญ่สกุลเวิน

เวินจือเหิงเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนายท่านผู้เฒ่าใหญ่เวิน ลูกบ่มเพราะในฐานะผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปตั้งแต่เด็ก

ได้ยินมาว่าเขามีพรสวรรค์เหนือคนตั้งแต่เด็ก ฉลาดมีไหวพริบ

ทุกคนล้วนบอกว่าเขาคืออัจฉริยะที่ร้อยปีจะมีสักคน

แต่คนเช่นนี้กลับป่วยเป็นโรคร้าย รักษาไม่หายเสียที

โดยเฉพาะหลังจากนายท่านผู้เฒ่าใหญ่เวินเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เดิมทีเวินจือเหิงในฐานะผู้สืบทอดควรก้าวออกมาควบคุมสถานการณ์ ใครจะรู้ว่าอำนาจของสกุลเวินกลับตกไปอยู่ในมือของบ้านรอง

เวินจือเหิงที่เป็นผู้สืบทอดโดยชอบธรรมคนนี้ ก็แทบจะไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอีกเลย

นี่เป็นเพราะป่วยหนัก ไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน?

หรือมีสาเหตุอย่างอื่นที่พูดไม่ได้?

และยังมีโรคของเวินจือเหิง ป่วยได้บังเอิญเกินไปแล้วกระมัง

นายท่านผู้เฒ่าใหญ่เวินรักลูกชายคนนี้มาก ทุกอย่างในชีวิตประจำวันได้รับการดู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 530

    หลังจากนางมาถึงจินโจว ก็อยู่ข้างกายอวิ๋นฝูหลิงมาโดยตลอดข้อมูลในเมืองจินโจว ส่วนใหญ่จางซานมู่พาคนไปตรวจสอบคราวนี้ถ้าหากกลับไปรายงานอวิ๋นฝูหลิง เหยากวงก็รู้สึกว่านางดูไร้ประโยชน์มากอีกทั้งในบรรดาคนที่ตามอวิ๋นฝูหลิงมาจินโจวครั้งนี้ ไม่มีใครที่วิชาตัวเบาดีกว่านางแล้วผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี ต้องรู้จักแบ่งเบาภาระและแก้ปัญหาแทนเจ้านายอย่างไรแต่ไม่ใช่มาสร้างปัญหา ให้เจ้านายไปหาวิธีแก้ปัญหาเหยากวงครุ่นคิด ไม่นานก็คิดแผนได้แล้วพลันนางเปลี่ยนทิศทาง มุ่งหน้าไปยังร้านวัตถุโบราณเมื่อกลางวันทันทีหลี่หยวนกำลังกินข้าวเย็นกับบริกรสองคนบริกรสองคนนี้ดูผิวเผินเป็นบริกร แต่ที่จริงเหมือนกับหลี่หยวน ล้วนเป็นคนของหน่วยกระบี่เงาหลี่หยวนกำลังคีบผัก จู่ๆ สองหูก็ขยับเล็กน้อยทันใดนั้นเขาขว้างตะเกียบในมือขึ้นไปที่หลังคา ตะเกียบคู่นั้นเหมือนอาวุธลับ พุ่งทะลุหลังคาด้วยแรงอันมหาศาล หลังจากเสียงแตกดังขึ้น เศษกระเบื้องตกลงมา ขณะเดียวกันก็มีคนตกลงมาจากรูหลังคาที่แตกเมื่อบริกรสองคนนั้นเห็นดังนี้ ลุกขึ้นยืน และร่างกายหดเกร็งทันที แสดงท่าทางของการหวาดระแวงศัตรูออกมาเหยากวงตกลงมา เมื่อเห็นก็รีบกล่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 531

    แสงจันทร์กระจ่างแสงสีเงินเย็นยะเยือกสาดส่องไปทั่วห้องสายลมแผ่วเบาหอบหนึ่งพัดผ่าน ต้นไม้นอกหน้าต่างส่งเสียงกรอบแกรบ กิ่งไม้ของต้นไม้ก็พลิ้วไหวราวกับสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่แยกเขี้ยวกางกรงเล็บ ทอดเงาลงมาบนบานหน้าต่างเวินจือเหิงสะดุ้งตื่นจากนิทราอย่างกะทันหันทันทีที่เขาลืมตา ก็เห็นเงาต้นไม้บนบานหน้าต่างเงาไม้นั้นดูน่ากลัวเล็กน้อยแต่ช่วงนี้เวินจือเหิงมักจะสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ทุกคราที่ตื่นขึ้นมา ก็จะเห็นเงาไม้นั้นเขารู้ว่านั่นคือเงาของต้นไห่ถังต้นหนึ่งนอกหน้าต่าง ดังนั้นเมื่อเห็นมาหลายครั้งแล้ว จึงไม่ได้รู้สึกกลัวเวินจือเหิงรู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อย กำลังจะเรียกคนมารินน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง คาดไม่ถึงว่ากลับเห็นเงาคนร่างหนึ่งเดินออกมาจากเงาต้นไม้ต้นนั้นอย่างกะทันหันเวินจือเหิงตกใจจนชะงักค้างไปทันทีเงาร่างนั้นค่อย ๆ เดินมาทางเขาเวินจือเหิงนึกถึงนิทานแปลกประหลาดเหล่านั้นที่เขาเคยอ่านขึ้นมาโดยพลันนี่ นี่ นี่...นี่คงมิใช่ว่าต้นไห่ถังต้นนั้นนอกหน้าต่างของเขากลายเป็นวิญญาณไปแล้วกระมัง?สัตว์ประหลาดแบบที่เคยกล่าวในหนังสือ ชื่นชอบการดูดกลืนพลังวิญญาณของมนุษย์เป็นที่สุดมันปร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 532

    “แต่ยามนี้ผู้ที่กุมอำนาจในสกุลเวินกลับเป็นบ้านรอง”“ตรงกันข้ามท่านที่เป็นผู้สืบทอดโดยชอบธรรมกลับเป็นโรคร้าย ป่วยมานานรักษาไม่หาย”“ท่านคิดว่าหากท่านตายไป คนของบ้านรองสกุลเวินจะดีใจ หรือว่าเสียใจเล่า?”เวินจือเหิงเหลือบมองเหยากวง “เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดจายั่วยุข้า”“สกุลเวินเป็นอย่างไร ข้าย่อมรู้ดียิ่งกว่าผู้ใด”“เจ้ากับนายท่านของเจ้าทุ่มเทความพยายามเช่นนี้ เพราะต้องการรักษาข้า คิดว่าคงมิใช่การกระทำจากความเมตตา เพราะอยากช่วยชีวิตข้ากระมัง?”แม้เหยากวงจะไม่รู้แผนการทั้งหมดของอวิ๋นฝูหลิง แต่ก็พอเดาได้บางส่วนเดิมทีที่ผ่านมาพวกเขาต่างกำลังตามสืบหอจินอวี้กับบ้านรองสกุลเวินจู่ ๆ อวิ๋นฝูหลิงก็หันเหความสนใจมาที่ตัวคุณชายใหญ่เวินผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าสำหรับพวกนางแล้ว เขามีประโยชน์มิเช่นนั้นอวิ๋นฝูหลิงซึ่งอยู่ในช่วงเวลาเช่นนี้ คงมิเสียเวลาและความคิด เพื่อมารักษาคนที่ไม่สำคัญผู้หนึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับความสงสัยของเวินจือเหิง เหยากวงก็ยิ้มบาง “เมื่อท่านได้เจอนายท่านของข้า นายท่านของข้ามีเงื่อนไขอันใด ก็จะมาหารือกับท่านเอง”เวินจือเหิงใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบรับ“ได้”เขารู้สึกได้ว่าร่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 533

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงได้รับรายงานของเหยากวง บนใบหน้าก็ฉายความแปลกใจออกมาเล็กน้อยนางคาดเดาไว้ว่าคุณชายใหญ่เวินผู้นั้นมีโอกาสสูงมากที่จะไม่ปฏิเสธการรักษาแต่กลับคาดไม่ถึงว่าแม้แต่นางจะเข้าไปในสกุลเวินอย่างไร เขาก็ล้วนคิดวิธีไว้แทนนางแล้วดูท่าอาการป่วยของเวินจือเหิงผู้นั้น จะมีส่วนที่แปลกประหลาดอยู่มากยิ่งไปกว่านั้นคนผู้นี้อาจจะฉลาดกว่าที่นางคิดอยู่บ้างหากทั้งสองฝ่ายเป็นพันธมิตรกันได้ บางทีการเคลื่อนไหวที่เจียงหนานครั้งนี้ อาจจะราบรื่นกว่าที่คิดไว้วันรุ่งขึ้นอวิ๋นฝูหลิงตื่นขึ้นมาเตรียมตัวเพื่อการรักษาในวันนี้ตั้งแต่เช้าช่วงเวลาการรักษาระหว่างสกุลเวินกับสำนักโซ่วอันคือช่วงต้นยามซื่ออวิ๋นฝูหลิงมาก่อนล่วงหน้าครึ่งชั่วยาม ช่วงกลางยามเฉินก็มาถึงสกุลเวินแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนของสำนักโซ่วอัน อวิ๋นฝูหลิงยังให้จางซานมู่พาคนไปจับตามองในตรอกนอกสกุลเวินเป็นพิเศษเมื่อหมอจ้าวจากสำนักโซ่วอันมาถึง ก็ให้หาวิธีถ่วงเวลาเขาไว้ถ่วงเวลาไว้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ในระยะเวลาเท่านี้ ก็คงเพียงพอที่นางจะรักษาให้เวินจือเหิงแล้วอวิ๋นฝูหลิงคิดแผนไว้เป็นอย่างดี คาดไม่ถึงว่าทันทีที่มาถึ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 534

    เหยากวงได้ยินเช่นนี้ ในใจก็พลันเต้น ‘ตึกตัก’ ขึ้นมาแอบคิดว่าเมื่อครู่โชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงดึงนางไว้ได้ทันเวลา นางจึงยังไม่ได้พูดคำว่า ‘ใช่’ ออกไปมิเช่นนั้นเมื่อบังเอิญพบตัวจริงในยามนี้ พวกนางย่อมถูกเปิดโปงว่าเป็นตัวปลอม แล้วหลังจากนี้จะเข้าไปดูอาการป่วยของเวินจือเหิงในจวนสกุลเวินได้อย่างไร?หลังจากคนเฝ้าประตูทักทายหมอจ้าวด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้จึงเพิ่งนึกถึงอวิ๋นฝูหลิงกับเหยากวงทั้งสองคนที่มาเยือนได้“คุณชายรอง สองคนนี้ก็บอกว่ามาตรวจอาการให้คุณชายใหญ่เหมือนกันขอรับ”“พวกเขาบอกว่าตัวเองเป็นคนของสำนักโซ่วอัน หมอจ้าว ท่านดูหน่อยเถิดขอรับว่าพวกเขาใช่หรือของสำนักโซ่วอันหรือไม่?”สายตาของเวินเจากับหมอจ้าวหันไปมองอวิ๋นฝูหลิงกับเหยากวงทั้งสองคนนี้ทันทีไม่รอให้หมอจ้าวเอ่ยปาก อวิ๋นฝูหลิงก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “พี่ชายคนนี้ ทำไมจึงพูดจาไร้มูลเหตุใส่ร้ายคนตามใจชอบเช่นนี้เล่า?”“พวกข้าบอกเมื่อใดว่าตัวเองเป็นหมอจากสำนักโซ่วอัน?”คนเฝ้าประตูอ้าปากแย้งทันที “ก็เมื่อครู่ พวกท่านบอกว่ามารักษาคุณชายใหญ่ ข้าถามพวกท่านว่าเป็นหมอจากสำนักโซ่วอันใช่หรือไม่...”อวิ๋นฝูหลิงมองเขาด้วยรอยยิ้ม“เจ้าถามเช่นนี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 535

    หมอจ้าวครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะประสานมือให้อวิ๋นฝูหลิงโดยพลัน และพูดอย่างมีมารยาทว่า “ที่แท้ก็เป็นสหายจากสกุลหาง เสียมารยาทแล้ว ๆ!”อวิ๋นฝูหลิงประสานมือกลับทันที และพูดอย่างสุภาพว่า “หมอจ้าวเกรงใจกันเกินไปแล้ว ท่านเป็นผู้อาวุโส ผู้น้อยเดินทางมาเพื่อหาประสบการณ์ ในเรื่องทักษะแพทย์ยังต้องเรียนรู้จากท่านอีกมาก!”ป้ายหยกลายเห็ดหลินจือชิ้นนี้ในมือของอวิ๋นฝูหลิง เป็นนายท่านผู้เฒ่าหางมอบให้นาง ก่อนที่จะออกเดินทางจากเมืองหลวงเผื่อว่าวันใดนางออกเดินทาง และมีช่วงเวลาที่ไม่สะดวก ก็สามารถใช้สถานะของสกุลหางจัดการได้นี่คือเจตนาดีของนายท่านผู้เฒ่าหาง ทั้งยังเป็นความรู้สึกรักและอยากปกป้องที่มีต่อนางด้วยในตอนนั้นอวิ๋นฝูหลิงไม่อาจปฏิเสธได้ จึงทำได้เพียงรับไว้เดิมทีนางไม่คิดจะใช้แผ่นป้ายชิ้นนี้เพียงแต่วันนี้สถานการณ์บังคับ จึงจำต้องเอาออกมาใช้แก้ไขสถานการณ์เดิมนางยังกังวลว่าป้ายหยกลายเห็ดหลินจือชิ้นนี้จะใช้ไม่ได้ผลคาดไม่ถึงว่าหมอจ้าวเห็นป้ายหยกชิ้นนี้แล้ว จะรู้ตัวตนของนาง จึงลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่งโดยพลันดูท่านายท่านผู้เฒ่าหางจะไม่ได้หลอกนางสำนักผิงอันมีชื่อเสียงมากที่เจียงหนานแม้แต่สก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 536

    แม้ว่าเวินเจาจะมั่นใจว่าหมอธรรมดา ไม่อาจมองปัญหาบนร่างของเวินจือเหิงออกตั้งแต่เวินจือเหิงป่วย ก็ได้เชิญหมอมาไม่รู้ตั้งกี่คน หมอชื่อดังใกล้จินโจวก็เชิญมาไม่น้อย แต่ก็ยังไม่มีหนทางทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด วันนี้เมื่อเห็นอวิ๋นฝูหลิง จู่ ๆ เขาก็รู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมาเมื่อครู่เขาได้ยินหมอจ้าวบอกแล้ว ป้ายหยกลายเห็ดหลินจือชิ้นนั้นในมือของอวิ๋นฝูหลิงไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่งมีเพียงทายาทสายตรงหรือศิษย์สายตรงของสกุลหางเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้พกติดตัวทักษะแพทย์ของสกุลหางได้รับสืบทอดมาจากผู้อาวุโสอวิ๋นจี้ชุนโหวทักษะแพทย์ของคนผู้นั้นไม่เป็นสองรองใคร เป็นผู้ที่ได้บรรดาศักดิ์โดยอาศัยแค่ทักษะแพทย์คนเช่นนี้ คาดว่าในปัจจุบันมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น!หมอคนอื่นมองลับลมคมในบนร่างของเวินจือเหิงไม่ออก แต่คนของสกุลหาง อาศัยทักษะแพทย์ของพวกเขา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่ออกดังนั้นตั้งแต่เวินจือเหิงป่วย เวินเจาก็หลีกเลี่ยงการเชิญหมอจากสำนักผิงอันมาตรวจอาการมาโดยตลอดแม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็หาหมอที่มีทักษะแพทย์ธรรมดาจากสำนักผิงอันมาหมอเหล่านั้นที่เป็นสายตรงของสกุลหาง เขาล้วนไม่กล้าพามาทุกอย่างตั้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 537

    เวินเจาหวั่นใจ รีบผลักคนเฝ้าประตูออก และก้าวไล่ตามไปอย่างรวดเร็วมั่วซูนำทั้งกลุ่มไปยังเรือนชิวถังที่เวินจือเหิงพักอยู่อย่างว่องไวเวินจือเหิงเห็นมั่วซูนำคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ในกลุ่มนั้นยังมีหมอจ้าวจากสำนักโซ่วอันด้วยเมื่อมองพิจารณาอีกครา สตรีผู้นั้นที่บุกรุกเข้ามาในห้องของเขาเมื่อคืนก็อยู่ด้วยเช่นกัน เพียงแต่วันนี้แต่งกายเป็นบุรุษเขาอดไม่ได้ที่จะตกใจคนทั้งสองกลุ่มมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร?นี่มันสถานการณ์อันใดกัน?คนทั้งสองกลุ่มเผชิญหน้ากันตอนนี้ สตรีผู้นั้นไม่เพียงแต่ไม่ถูกคนเปิดโปง ทว่ากลับเข้ามาในสกุลเวินอย่างเปิดเผย ดูท่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง!เวินจือเหิงทั้งรู้สึกสับสนทั้งรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ แต่ภายนอกกลับยังสงบนิ่งโชคดีที่มั่วซูเป็นคนมีไหวพริบเมื่อเข้ามาในห้องก็ตะโกนว่า “คุณชาย ท่านมิได้บอกว่าไม่สบาย จึงให้ข้าไปเชิญหมอมาให้ท่านหรือ ท่านเดาสิขอรับว่าเป็นอย่างไร?”เขาส่งเสียง “นี่” ครั้งหนึ่ง และกะพริบตาให้เวินจือเหิง พลางแสดงละครต่อไปขณะพูด “ช่างบังเอิญเสียจริง ทันทีที่ข้าไปถึงประตูใหญ่ ก็บังเอิญเจอหมอจ้าว ทั้งยังมีหมอหางจากสำนักผิงอันท่านนี้ด้วยขอรับ”“ข้ารีบเชิญพวก

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 626

    อาศัยแค่เทียบยานั้นใบเดียว ด้วยการรักษาโรคชนิดหนึ่งได้อย่างแม่นยำ ก็เพียงพอที่จะตั้งตัวได้ ถึงขั้นมีชื่อเสียงโด่งดังทว่ายามนี้อวิ๋นฝูหลิงกลับหยิบตำราแพทย์เล่มหนึ่งออกมาให้ทุกคนเวียนกันอ่านและคัดลอกอย่างใจกว้างช่างมีจิตใจกว้างขวางเสียนี่กระไร!ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างตกตะลึงจนพูดไม่ออกโดยเฉพาะหมอผู้ดูหมิ่นอวิ๋นฝูหลิงในคราแรก ยามนี้สัมผัสได้เพียงความร้อนผ่านที่แก้ม รู้สึกอับอายเป็นอย่างยิ่งผ่านไปครู่หนึ่ง จึงเพิ่งมีคนตั้งสติได้ โค้งคำนับอวิ๋นฝูหลิงด้วยความเคารพ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง “การกระทำของแม่นางอวิ๋น เป็นแบบอย่างให้พวกข้าแล้วจริง ๆ พวกข้ายังเทียบแม่นางอวิ๋นไม่ติดเลย!”เมื่อมีคนเริ่มกล่าว คนอื่นก็เริ่มตอบสนองออกมาเช่นกัน พากันโค้งคำนับกล่าวขอบคุณอวิ๋นฝูหลิงอย่างจริงจังมีบางคนถึงกับเรียกอวิ๋นฝูหลิงว่าท่านอาจารย์ ขอบคุณที่ครั้งนี้นางช่วยรักษาอาการโรคที่เกิดจากขี้ผึ้งทองในจินโจว ทั้งยังถ่ายทอดคำสอนและไขข้อสงสัยอวิ๋นฝูหลิงก็มิได้อวดภูมิ รับคำคนเหล่านั้นอย่างนอบน้อมประการแรก ช่วงที่นางรักษาคนไข้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองในจินโจว ก็ได้สอนวิธีการรักษาของตัวเองให้เหล่าหมอท่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 625

    ท่านหมอในสำนักผิงอันต่างมองไปที่ตำราแพทย์ในมือหางซานสุ่ยด้วยดวงตาเป็นประกายนั่นเป็นถึงตำราแพทย์ที่บันทึกศาสตร์ฝังเข็มและเทียบยาสำหรับการรักษาผู้ป่วยเสพติดขี้ผึ้งทองเชียวนะโดยเฉพาะเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเป็นผู้เขียนตำราเล่มนี้ด้วยตัวเองในช่วงเวลาที่ได้ทำงานร่วมกันมานี้ ท่านหมอในเมืองจินโจวถือว่าได้เปิดหูเปิดตารับรู้ถึงฝีมือการแพทย์อันสูงส่งของอวิ๋นฝูหลิงแล้วยามหารือเรื่องการรักษาผู้ป่วยติดขี้ผึ้งทอง นางก็มักจะหาแนวทางสำหรับการรักษาที่เหมาะสมที่สุดออกมาเสมอทักษะฝังเข็มล้ำเลิศ เทียบยาก็ล้ำลึกพิสดาร แม้จะเป็นท่านหมออาวุโสที่สั่งสมประสบการณ์มานานก็ยังมีบ้างที่ด้อยกว่าโดยเฉพาะเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเป็นหมอหญิงอ่อนวัยที่อายุเพิ่งยี่สิบปีมีท่านหมอในเมืองจินโจวบางคนที่รู้สึกว่า การที่อวิ๋นฝูหลิงมีชื่อเสียงเลื่องลือนั้นทั้งหมดล้วนเป็นเพราะรัศมีอันมีติดตัวมาแต่กำเนิดด้วยนางถือกำเนิดในสกุลอวิ๋นเท่านั้น นางถึงได้มีชื่อเสียงและได้รับความเคารพอยู่บ้างในแวดวงแพทย์เช่นนี้ทว่าใครจะไปรู้ว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับใช้ฝีมือการแพทย์ของตัวเองมาตบหน้า สอนเป็นบทเรียนให้พวกเขาอย่างดีหลังได้รู้ซึ้งถึงฝีมือการแพทย์ของ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 624

    ขุนนางที่ถูกส่งมาใหม่เหล่านี้ ต่างทยอยเดินทางมาถึงจินโจวกันแล้วในช่วงไม่กี่วันมานี้ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมาถึง งานบริหารราชการและบริหารกองทัพของจินโจวล้วนมีเซียวจิ่งอี้รับผิดชอบชั่วคราวบัดนี้ขุนนางชุดใหม่มาถึงแล้ว แน่นอนว่าเซียวจิ่งอี้ย่อมเริ่มมอบหมายงานแก่พวกเขา คืนอำนาจบริหารราชการและกองทัพของจินโจวให้ขุนนางที่เหมาะสมจากความหมั่นเพียรและการจัดระเบียบของเซียวจิ่งอี้ งานบริหารราชการในเมืองจินโจวจึงได้รับการจัดระเบียบเป็นที่เรียบร้อยนานแล้ว ขอแค่เหล่าขุนนางที่มารับหน้าที่นี้ต่อไปมัวแต่กินดื่ม ไม่ทำการงาน ก็สามารถบริหารปกครองเมืองจินโจวได้ และฟื้นฟูให้จินโจวรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้สิ่งเดียวที่ทำให้เซียวจิ่งอี้ไม่สบอารมณ์และปวดหัวก็คือ จวบจนบัดนี้ยังไม่อาจจับกุมตัวราชครูเผ่าเยว่ผู้นั้นได้ไม่ว่าจะค้นหาไปทั่วเมือง หรือใช้เวินเจาเป็นเหยื่อล่อ ล้วนไม่เห็นแม้แต่ร่องรอยของราชครูเผ่าเยว่ผู้นั้นอีกทั้งประตูเมืองจินโจวก็ไม่อาจปิด ไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าออกได้เป็นเวลานานได้แม้ว่าประชาชนจะไม่กล้ามีปากเสียง แต่การชดเชยเรื่องอาหารการกินในชีวิตประจำวันก็นับว่าเป็นปัญหานอกจากนี้ประ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 623

    เซียวจิ่งอี้ดึงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอ้อมแขน “นี่เป็นจดหมายที่จิงมั่วเขียนมาให้เจ้า เสด็จพ่อสอดมาในสาส์นของข้ากับพระราชโองการ แล้วให้จุดพักม้าส่งมาให้พร้อมกัน”ทั้งสองคุยไปพลางเดินไปพลาง ยามนี้ก็ขึ้นไปบนรถม้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วอวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่ภายในเก๋งรถม้า ยื่นมือออกไปรับจดหมายที่เซียวจิ่งอี้ส่งให้จดหมายทั้งใหม่และตุง ดูแล้วหนาไม่น้อยอวิ๋นฝูหลิงดึงกระดาษจดหมายออกมา แล้วก้มหน้าอ่านจิงมั่วนั้นมีสติปัญญาปราดเปรื่อง บัดนี้ตัวอักษรที่ใช้เป็นประจำส่วนใหญ่ล้วนอ่านออกและเขียนได้แล้วเพียงแต่ท้ายที่สุดแล้วเป็นเพราะว่าเขาอายุยังน้อย ข้อมือยังไม่แข็งแรงมากพอ ดังนั้นตัวหนังสือจึงเขียนออกมาได้กระยึกกระยือ ไม่งดงามทว่าในสายตาของอวิ๋นฝูหลิง กลับรู้สึกว่าเขียนได้เท่านี้ก็ยอดเยี่ยมแล้วเพราะถึงอย่างไรตอนที่นางมีอายุเท่ากับจิงมั่วในยามนี้ ก็ไม่ได้ฉลาดเฉลียวและขยันเท่านี้บุตรชายข้านี่ช่างเก่งกาจจริง ๆ !อวิ๋นฝูหลิงตั้งใจอ่านข้อความในจดหมายทีละคำทีละประโยคจนจบในจดหมาย เซียวจิงมั่วถามถึงสารทุกข์สุกดิบของอวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้ จากนั้นถึงเริ่มเล่าถึงชีวิตของเขาในเมืองหลวงช่วงนี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 622

    ผู้ป่วยระดับกลางค่อนข้างลำบากกว่าผู้ป่วยอาการเบาอยู่บ้างแต่ก็ยังมีความหวังที่จะรักษาหายขาดเพียงแต่คนที่ทนต่อความทรมานได้นั้น จะว่าไปแล้วก็น้อยกว่าผู้ป่วยอาการเบามากโขด้วยอย่างไรแล้วยามที่ผู้ป่วยระดับกลางอาการอยากกำเริบ ก็อาการรุนแรงมากกว่าผู้ป่วยอาการเบาส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงนั้น ส่วนใหญ่ร่างกายจะพร่องไปหมดแล้วเพราะการเสพขี้ผึ้งทองเมื่อถึงขั้นนี้ก็แทบจะไม่มีคนที่อดทนต่อความทรมานที่ต้องเลิกเสพได้เลย ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงไม่ยอมเลิกเสพ พวกเขาต้องการแค่ขี้ผึ้งทองเท่านั้นต่อให้เสพขี้ผึ้งทองแล้วต้องตาย ก็ไม่สนสำหรับคนพวกนี้ หากเปรียบเทียบกันระหว่างความตายก็ความทรมานที่ไม่อาจเสพขี้ผึ้งทองได้นั้น ความตายกลับเป็นสิ่งที่พอจะอดทนรับได้มากกว่าทว่าเพราะเสพขี้ผึ้งทองมากเกินไป ร่างกายของพวกเขาจึงกลายเป็นตะเกียงขาดน้ำมัน เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วสิ่งที่อวิ๋นฝูหลิงทำให้คนเหล่านี้ได้ ก็มีเพียงพยายามบรรเทาความทรมานของพวกเขาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ๆ บ้างในช่วงชีวิตที่เหลือตะวันเคลื่อนเดือนคล้อย เวลาล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า สถานการณ์ของเมืองจินโจวก็ค่อย ๆ ดีขึ้น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 621

    เทียบกับเวินเจาที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เห็นได้ชัดว่าเด็กทารกที่ไม่รู้เรื่องราวใด ๆ บงการง่ายกว่ามากยิ่งไปกว่านั้นคือทารกคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเขาเองภายภาคหน้าหากมีวันที่ฟื้นฟูแคว้นขึ้นมาได้อีกครั้ง ความเหน็ดเหนื่อยตลอดครึ่งชีวิตของเขาจะได้มีลูกหลานสืบทอดจะได้ไม่เสียเปล่ากลายเป็นการตัดชุดแต่งงานให้ผู้อื่นในใจท่านจอมปราชญ์เหวินตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อย จึงไม่ได้กระตือรือร้นที่จะช่วยชีวิตเวินเจาสักเท่าไรนักอีกแล้วเพียงแต่การให้เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองมาแทนที่สายโลหิตของเชื้อพระวงศ์เผ่าเยว่นั้น เรื่องนี้จำเป็นต้องวางแผนให้ดี ๆ เคราะห์ดีที่การเดินทางมาจินโจวครานี้ ล้วนมีแต่คนสนิทในคนสนิทของเขาทั้งนั้นที่เดินทางติดตามมาด้วยคนที่รู้ว่าเขากับอวี้จูมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกันก็มีอยู่น้อยนิดขอแค่วางแผนให้เหมาะ เรื่องนี้ต้องสำเร็จแน่!การตอบโต้ระหว่างเซียวจิ่งอี้กับโจรกบฏเผ่าเยว่ที่มีท่านจอมปราชญ์เหวินเป็นผู้นำนั้น อวิ๋นฝูหลิงไม่สนใจทั้งสิ้น นอกจากมีบางครั้งที่ถูกเซียวจิ่งอี้ตามตัวไปช่วยวาดภาพเหมือนโจรกบฏอะไรจำพวกนี้แล้ว ทั้งหัวใจของนางล้วนจดจ่ออยู่ที่เรื่องการช่วยรักษาเหล่าช

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status