Share

บทที่ 225

Penulis: หลันซานอวี่
เครื่องประดับอัญมณีเหล่านี้เก็บไว้ในมิติของอวิ๋นฝูหลิงมาโดยตลอด

และยังเป็นเพราะครั้งนี้อวิ๋นฝูหลิงจะเตรียมของขวัญแต่งงานให้คุณหนูถัง จึงค้นของออกมาจากมิติ

นางเลือกไปเลือกมาท่ามกลางกองอัญมณี สุดท้ายเลือกสร้อยข้อมือเพชรเส้นนี้

เครื่องประดับของยุคนี้ใช้เงินกับทองเป็นหลัก ที่ล้ำค่ากว่านี้หน่อยก็เป็นเครื่องประดับหยก นอกจากนี้ยังมีไข่มุก ปะการัง และรวมถึงพลอยต่างๆ

เพชรในยุคนี้หายากมาก

ดังนั้นเมื่อนำสร้อยข้อมือเพชรเส้นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงออกมา ทำเอาฮูหยินถังกับคุณหนูถังตะลึงโดยตรง

เดิมทีอวิ๋นฝูหลิงคิดว่าสกุลถังมีอิทธิพลและเงินทอง มอบพวกเครื่องเงิน เครื่องทอง และเครื่องหยกมันธรรมดาเกินไป จึงตัดสินใจมอบเครื่องประดับเพชร

ในมิติของอวิ๋นฝูหลิงมีเครื่องประดับเพชรหลายชุด นางรู้สึกว่าให้เป็นชุดสะดุดตาเกินไป จึงได้เลือกเอาแค่สร้อยข้อมือออกมาหนึ่งเส้น

แต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฮูหยินถังกับคุณหนูถัง ต่อให้เป็นเพียงสร้อยข้อมือเพชรเส้นเดียว ในสายตาของพวกนางก้อนล้ำค่าและไม่ธรรมดาอย่างมาก

อวิ๋นฝูหลิงกล่าวกับคุณหนูถังด้วยรอยยิ้ม “นี่คือเพชร เป็นอัญมณีชนิดหนึ่ง”

“มันเป็นของที่ข้าได้มาโดยบังเอิญ วันนี้นำม
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 226

    แม้ครอบครัวของคนที่พวกเขาสามีภรรยาเลือกให้ลูกสาวไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังต้องรอบครอบไว้ก่อนฮูหยินถังตัดสินใจอบรมคุณหนูถังเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับครอบครัวสามีหลังแต่งงานกะทันหัน แล้วค่อยสอนนางเกี่ยวกับหลักการการเข้าสังคม หลังอวิ๋นฝูหลิงออกจากสกุลถัง ก็เดินซื้อของในหัวเมืองครู่หนึ่ง ก็กลับหมู่บ้านซวงหลินแล้วลูกพี่อู๋ขับรถม้าตรงหน้ารถ โดยมีเทียนเฉวียนนั่งอยู่ข้างๆอวิ๋นฝูหลิงกับเหยากวงนั่งอยู่ในรถนายบ่าวสี่คนมีพูดมีหัวเราะตลอดทาง ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่อตอนที่เดินทางมาได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ สีหน้าเทียนเฉวียนก็เคร่งขรึมฉับพลัน มือขวาจับกระบี่สั้นที่อยู่ตรงเอวเขางอนิ้วมือข้างซ้าย เคาะบนตัวรถสองทีเมื่อเหยากวงได้ยินสัญญาณลับ ก็กำกระบี่คู่กายในมือแน่นทันที สีหน้าเย็นชา ราวกับเตรียมพร้อมรอกระบี่ออกจากฝักอวิ๋นฝูหลิงก็รู้สึกถึงความผิดปกติเช่นกัน แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร รถม้าก็จอดลงกะทันหันอวิ๋นฝูหลิงเซไปข้างหน้าตามแรงเฉื่อย จากนั้นก็ได้ยินเสียงอาวุธกระทบกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่องสีหน้าอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนฉับพลัน เมื่อเลิกม่านมองออกไปข้างนอก ก็เห็นเทียนเฉวียนกำลังสู้กับผู้อื่นแบบหนึ่งต่อสี่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 227

    พริบตาที่ตัวรถรถม้าแตกเป็นชิ้นๆ อวิ๋นฝูหลิงแทบสัมผัสได้ถึงปราณกระบี่ของอีกฝ่ายอีกฝ่ายเป็นถึงยอดฝีมือ เหตุใดต้องฆ่านางกันนะ?อวิ๋นฝูหลิงฉงนงงงวยในใจ ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่เวลาคิดเรื่องนี้หลังจากตัวรถแตกเป็นชิ้นๆ โดยรอบอวิ๋นฝูหลิงไม่มีอะไรบดบังแล้ว นางอยู่ในสายตาของมือลอบสังหารทันทีมือลอบสังหารสองคนที่ไล่ตามชูกระบี่ขึ้น โจมตีมาทางอวิ๋นฝูหลิงทว่าการเคลื่อนไหวของอวิ๋นฝูหลิงเร็วกว่าพวกเขาฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้วอวิ๋นฝูหลิงเหนี่ยวไกหน้าม้า ยิงออกไปพร้อมกันสามดอกมือลอบสังหารที่อยู่ใกล้คนนั้น ถูกลูกดอกหน้าไม้ยิงทะลุหัวใจในพริบตาเมื่ออีกคนเห็นสหายตาย การโจมตีของกระบี่ที่พุ่งมาทางอวิ๋นฝูหลิงยิ่งดุดันแล้วที่อวิ๋นฝูหลิงสามารถยิงมือลอบสังหารคนนั้นตายได้ก่อนหน้านี้ ล้วนอาศัยพริบตาที่ตัวรถรถม้าแตกอย่างเหนือความคาดหมายระยะห่างของทั้งสองฝ่ายในเวลานี้ยังคงอยู่ใกล้กันมาก หน้าไม้ไม่สามารถใช้ข้อได้เปรียบของมันอีกต่อไปอวิ๋นฝูหลิงตัดสินใจทิ้งหน้าไม้ เปลี่ยนมาใช้มีดสั้นแทนอวิ๋นฝูหลิงเชื่อว่าสามารถสู้ด้วยฝีมือที่ได้จากการขัดเกลาในโลกวิบัติใครจะรู้ว่าเมื่อปะทะกัน นางก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 228

    เมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นว่าไม่สามารถล้วงข้อมูลของคนที่อยู่เบื้องหลัง กับทำให้นักฆ่าคนนี้ล้มเลิกความคิดที่จะฆ่านาง ทำได้เพียงเปลี่ยนแผนแล้ว“เช่นนั้นก็ได้”“ถ้าหากวันนี้จะตายในมือของเจ้าจริงๆ สามารถสะสางบัญชีแค้นนี้ ข้าก็นอนตายตาหลับแล้ว!”อวิ๋นฝูหลิงถอนหายใจทีหนึ่ง กล่าวอย่างเศร้าๆนักฆ่าคนนั้นมองอวิ๋นฝูหลิงแวบหนึ่งเสื้อตรงหน้าอกของอวิ๋นฝูหลิงถูกเลือดย้อมจนเป็นสีแดงแล้ว ดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง เหมือนสามารถตายได้ทุกเมื่อเขามั่นใจว่าเมื่อครู่ตอนแทงอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ออมมือ อีกทั้งกระบี่ก็แทงใส่หน้าอกโดนกระบี่ของเขา ต้องตายอย่างไร้ข้อกางขาแน่ๆถือโอกาสตอนที่อวิ๋นฝูหลิงยังไม่สิ้นใจ รีบทำเรื่องให้เสร็จดีกว่าสิบเท่าของราคา งานที่เงินดีเช่นนี้หาไม่ได้ง่ายๆทำงานนี้สำเร็จ เงินที่ได้มาเพียงพอสำหรับชีวิตที่เหลือของเขาแล้ว เขาก็สามารถวางมือ ไม่ต้องเป็นนักฆ่าอีกแล้วหลังจากมั่นใจว่าอวิ๋นฝูหลิงไม่เป็นภัยอีก นักฆ่าคนนั้นก็ล้วงหนังสือจ้างวานฉบับหนึ่งออกจากหน้าอก โน้มกายยื่นหายอวิ๋นฝูหลิง“ลงนามหนังสือสัญญาฉบับนี้และจ่ายเงินเสร็จ การจ้างวานนี้ก็จะมีผลทันที ต่อให้อยู่สุดหล้าฟ้าเขียว ข้าก็จะช่วยเ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 229

    ก่อนหน้านี้เทียนเฉวียนเห็นอย่างชัดเจนกระบี่ที่แทงใส่อวิ๋นฝูหลิงดุดันมาก อาการบาดเจ็บต้องสาหัสแน่นอนแล้วมาดูเสื้อตรงหน้าอกของอวิ๋นฝูหลิง ล้วนเต็มไปด้วยเลือด หัวใจของเทียนเฉวียนยิ่งบีบรัดแน่นแล้ว“แม่นางอวิ๋น… ท่าน…”ชั่วขณะเทียนเฉวียนตื่นตระหนก อยากดูอาการบาดเจ็บของอวิ๋นฝูหลิงแต่เพิ่งยื่นมือออกไป ก็ตระหนักว่าบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงอยู่ตรงหน้าอก เขาที่เป็นผู้ชายจะดูได้อย่างไร?อีกทั้งอวิ๋นฝูหลิงไม่เหมือนเหยากวง ถูกฝึกออกมาพร้อมกับพวกเขา ปกติบาดเจ็บที่แขนขา ก็ไม่มีข้อห้ามต่อกันมากนักแต่แม่นางอวิ๋นไม่เหมือนกันนี่เป็นผู้หญิงของนายท่านพวกเขา จะก้าวล่วงได้อย่างไร?อวิ๋นฝูหลิงโบกมือแล้วกล่าว “ข้ากินยาไปแล้ว แค่บาดแผลดูเหมือนสาหัส ที่จริงไม่ได้รุนแรงเช่นนั้น”เทียนเฉวียนเห็นอวิ๋นฝูหลิงกระปรี้กระเปร่า เหมือนไม่สาหัสจริงๆอวิ๋นฝูหลิงกล่าวอีก “เจ้าไปช่วยเหยากวง ต้องจับเป็นนักฆ่าคนนั้นให้ได้!”นักฆ่าสี่คน ตายไปแล้วสามคน อยากรู้ตัวคนจ้าง ทำได้เพียงลงมือจากผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวคนนี้แล้วเทียนเฉวียนขานรับทีหนึ่ง ถือกระบี่เดินเข้าไปทันทีนักฆ่าเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตเห็นสหายตายหม

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 230

    เวลานี้เอง เทียนเฉวียนก้าวออกมากล่าว “หรือไม่มอบคนคนนี้ให้ข้าน้อย ข้าน้อยใช้วิธีทรมาน สามารถทำให้เขาพูดแน่นอน!”อวิ๋นฝูหลิงโบกมือ “เหตุใดต้องยุ่งยากเช่นนี้ด้วย?”กล่าวจบ นางล้วงยาลูกกลอนออกมาจากแขนเสื้อหนึ่งเม็ด จับคางของนักฆ่าคนนั้น แล้วป้อนยาเข้าไปในป่าของเขาทันทีที่ยาลูกกลอนเข้าปาก ก็เหมือนละลายเป็นของเหลว ไหลลงไปตามลำคอนักฆ่าคนนั้นดิ้นรน อยากล้วงเอายาลูกกลอนออกมา ทว่ากลับถูกคนจับไว้แน่น ไม่สามารถขยับตัวเลยผ่านไปครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงจึงจะส่งสัญญาณให้ปล่อยเขานักฆ่าคนนั้นมองไปทางอวิ๋นฝูหลิงแล้วถาม “เจ้าให้ข้ากินยาอะไร? ยาพิษหรือ?”อวิ๋นฝูหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “เป็นของที่ทำให้เจ้าพูดในสิ่งที่รู้ออกมาทั้งหมด!”กล่าวจบ อวิ๋นฝูหลิงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หันไปนั่งลงบนรถม้าที่ไม่มีผนังรถแล้ว ตรวจดูสิ่งของที่อยู่บนรถม้าครู่หนึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ สิ่งของบนรถม้าพังยับเยิน และเหลือไม่มากแล้วท่ามกลางเสียงกรีดร้อง อวิ๋นฝูหลิงตรวจนับของบนรถม้าเสร็จ ก็กลับมาที่ตรงหน้านักฆ่าคนนั้นใหม่นักฆ่าคนนั้นมองอวิ๋นฝูหลิง สายตาเต็มไปด้วยการอ้อนวอน “ฆ่า…ฆ่าข้าเถอะ!”กระดูกและเลือดเนื้อบนร่างกาย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 231

    ยามที่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงหมู่บ้านซวงหลิน ก็มีสภาพเนื้อตัวเปื้อนเลือด ทำให้เซียวจิ่งอี้อกสั่นขวัญแขวนไม่รอให้เซียวจิ่งอี้ถาม อวิ๋นฝูหลิงก็กล่าวออกมาก่อน “ระหว่างทางกลับมาได้เจอกับพวกมือสังหารเข้า ข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลือดบนตัวก็เป็นของมือสังหารเหล่านั้น”กล่าวจบ ก็กำลังจะเข้าไปในห้องเพื่อรักษาบาดแผล และเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดเซียวจิ่งอี้อยากเข้าไปดูอาการบาดเจ็บของนางด้วย แต่ถูกอวิ๋นฝูหลิงขวางไว้ให้อยู่นอกประตูโชคดีที่เหยากวงมีไหวพริบ จึงตามเข้ามาช่วยด้วยอวิ๋นฝูหลิงถอดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออก หลังจากใช้น้ำสะอาดล้างบาดแผล ก็ทายาผงลงไป ก่อนจะใช้ผ้าสะอาดพันบาดแผลขณะที่เหยากวงรีบช่วยพันแผล ก็สังเกตบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงอย่างละเอียดด้วยเห็นว่าบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงตื้นมาก ชัดเจนว่าเป็นเพียงแผลบนผิวหนังภายนอก บาดแผลมิได้ร้ายแรงนักนางลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก และรู้สึกแปลกใจเช่นกันทักษะการต่อสู้ของมือสังหารเหล่านั้นหาได้อ่อนแอไม่ ยิ่งไปกว่านั้นยามที่อวิ๋นฝูหลิงถูกแทง นางเห็นอย่างชัดเจนว่า ดาบของมือสังหารผู้นั้นแหลมคมมาก เมื่อถูกดาบนั้นเข้าหากมิตายก็ย่อมบาดเจ็บสาหั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 232

    “ข้าก็มิได้เป็นคนอ่อนปวกเปียก ที่จะยอมให้ครอบครัวนั้นมารังแกกันได้!”“ท่านรู้หรือไม่ว่าขอบเขตสูงสุดของการแก้แค้นคือสิ่งใด?”เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้ว พลางถามว่า “สิ่งใดหรือ?”อวิ๋นฝูหลิงตอบด้วยรอยยิ้ม “คือการทำให้เขาสูญเสียสิ่งที่เขาหวงแหนมากที่สุด”“การสังหารคนโดยตรงหาใช่เรื่องยากอันใด ข้าสามารถจัดการได้ด้วยยาพิษถุงเดียวด้วยซ้ำ”“แต่การปล่อยให้พวกเขาตายไปเช่นนั้น ย่อมง่ายเกินไปสำหรับพวกเขา บนโลกนี้มีเรื่องที่เจ็บปวดเสียยิ่งกว่าความตายนับสิบเท่าร้อยเท่าอยู่!”เซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงมีความคิดในใจแล้ว ก็ล้มเลิกความคิดที่จะให้คนไปสังหารอวิ๋นหลิงจือ“ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใดก็ทำเถิด ข้าจะสนับสนุนเจ้าเอง”อวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะจุมพิตเซียวจิ่งอี้อีกครา“ในเมื่ออวิ๋นหลิงจือจ้างมือสังหารมาฆ่าข้า หมายความว่าพวกเขารู้ข่าวว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ด้วยว่าข้าอยู่ที่เจียงโจว”“ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาย่อมไม่มีทางรามือ เพราะตัวตนของข้าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงที่สุดของพวกเขา”“ในเมื่อเป็นสงครามที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายตก ข้าก็จะไม่ย่อมอ่อนข้อให้พวกเขาเช่นกัน”“ถ้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 233

    เซียวจิ่งอี้ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะอุ้มอวิ๋นจิงมั่วขึ้นมาและเดินออกไปข้างนอกอวิ๋นจิงมั่วตอบสนอง ด้วยการเตะขาพลางตะโกนโดยพลัน “ท่านพ่อ วางข้าลงขอรับ ข้ามาหาท่านแม่!”เขาได้ยินว่าแม่กลับมาแล้ว จึงกล่าวลาเพื่อน ๆ ตัวน้อย และวิ่งกลับมาหาแม่แม่รับปากเขาว่า เมื่อกลับมาแล้วจะนำน้ำตาลปั้นตัวใหญ่มาให้เขาตัวหนึ่งแม่ยังไม่ได้เอาน้ำตาลปั้นให้เขาเลยเซียวจิ่งอี้กลับตบก้นของอวิ๋นจิงมั่วเบา ๆ และพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ให้พ่อลองทบทวนตัวอักษรสามตัวที่สอนให้เจ้าไปเมื่อวานก่อน หากท่องได้จึงจะให้กินน้ำตาลปั้น!”อวิ๋นจิงมั่วโอดครวญ “ท่านพ่อ ท่านช่างเห็นแก่สตรีจนละทิ้งหลักการเสียจริง!”“ข้าเป็นลูกชายของท่าน พอท่านมีภรรยาแล้วจะลืมลูกชายมิได้นะขอรับ!”เซียวจิ่งอี้ปวดเศียรเวียนเกล้า อดไม่ได้ที่จะตบก้นลูกชายเบา ๆ ไปอีกครั้ง“เจ้าไปเรียนรู้เรื่องเหลวไหลพวกนี้มาจากที่ใดกัน?”อวิ๋นฝูหลิงกลับหัวเราะขึ้นมาขณะที่ฟังอยู่ในห้องเรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงได้รับบาดเจ็บ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้และปิดบังแม้แต่กับอวิ๋นจิงมั่วด้วยเช่นกันวันนี้หลิงโหยวเข้ามาอย่างกะทันหัน และมาพูดกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “คุณหนูใหญ่ ท่านพาข้าก

Bab terbaru

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status