Share

บทที่ 230

Author: หลันซานอวี่
เวลานี้เอง เทียนเฉวียนก้าวออกมากล่าว “หรือไม่มอบคนคนนี้ให้ข้าน้อย ข้าน้อยใช้วิธีทรมาน สามารถทำให้เขาพูดแน่นอน!”

อวิ๋นฝูหลิงโบกมือ “เหตุใดต้องยุ่งยากเช่นนี้ด้วย?”

กล่าวจบ นางล้วงยาลูกกลอนออกมาจากแขนเสื้อหนึ่งเม็ด จับคางของนักฆ่าคนนั้น แล้วป้อนยาเข้าไปในป่าของเขา

ทันทีที่ยาลูกกลอนเข้าปาก ก็เหมือนละลายเป็นของเหลว ไหลลงไปตามลำคอ

นักฆ่าคนนั้นดิ้นรน อยากล้วงเอายาลูกกลอนออกมา ทว่ากลับถูกคนจับไว้แน่น ไม่สามารถขยับตัวเลย

ผ่านไปครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงจึงจะส่งสัญญาณให้ปล่อยเขา

นักฆ่าคนนั้นมองไปทางอวิ๋นฝูหลิงแล้วถาม “เจ้าให้ข้ากินยาอะไร? ยาพิษหรือ?”

อวิ๋นฝูหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “เป็นของที่ทำให้เจ้าพูดในสิ่งที่รู้ออกมาทั้งหมด!”

กล่าวจบ อวิ๋นฝูหลิงจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หันไปนั่งลงบนรถม้าที่ไม่มีผนังรถแล้ว ตรวจดูสิ่งของที่อยู่บนรถม้าครู่หนึ่ง

การต่อสู้ครั้งนี้ สิ่งของบนรถม้าพังยับเยิน และเหลือไม่มากแล้ว

ท่ามกลางเสียงกรีดร้อง อวิ๋นฝูหลิงตรวจนับของบนรถม้าเสร็จ ก็กลับมาที่ตรงหน้านักฆ่าคนนั้นใหม่

นักฆ่าคนนั้นมองอวิ๋นฝูหลิง สายตาเต็มไปด้วยการอ้อนวอน “ฆ่า…ฆ่าข้าเถอะ!”

กระดูกและเลือดเนื้อบนร่างกาย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 231

    ยามที่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงหมู่บ้านซวงหลิน ก็มีสภาพเนื้อตัวเปื้อนเลือด ทำให้เซียวจิ่งอี้อกสั่นขวัญแขวนไม่รอให้เซียวจิ่งอี้ถาม อวิ๋นฝูหลิงก็กล่าวออกมาก่อน “ระหว่างทางกลับมาได้เจอกับพวกมือสังหารเข้า ข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลือดบนตัวก็เป็นของมือสังหารเหล่านั้น”กล่าวจบ ก็กำลังจะเข้าไปในห้องเพื่อรักษาบาดแผล และเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาดเซียวจิ่งอี้อยากเข้าไปดูอาการบาดเจ็บของนางด้วย แต่ถูกอวิ๋นฝูหลิงขวางไว้ให้อยู่นอกประตูโชคดีที่เหยากวงมีไหวพริบ จึงตามเข้ามาช่วยด้วยอวิ๋นฝูหลิงถอดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออก หลังจากใช้น้ำสะอาดล้างบาดแผล ก็ทายาผงลงไป ก่อนจะใช้ผ้าสะอาดพันบาดแผลขณะที่เหยากวงรีบช่วยพันแผล ก็สังเกตบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงอย่างละเอียดด้วยเห็นว่าบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงตื้นมาก ชัดเจนว่าเป็นเพียงแผลบนผิวหนังภายนอก บาดแผลมิได้ร้ายแรงนักนางลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก และรู้สึกแปลกใจเช่นกันทักษะการต่อสู้ของมือสังหารเหล่านั้นหาได้อ่อนแอไม่ ยิ่งไปกว่านั้นยามที่อวิ๋นฝูหลิงถูกแทง นางเห็นอย่างชัดเจนว่า ดาบของมือสังหารผู้นั้นแหลมคมมาก เมื่อถูกดาบนั้นเข้าหากมิตายก็ย่อมบาดเจ็บสาหั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 232

    “ข้าก็มิได้เป็นคนอ่อนปวกเปียก ที่จะยอมให้ครอบครัวนั้นมารังแกกันได้!”“ท่านรู้หรือไม่ว่าขอบเขตสูงสุดของการแก้แค้นคือสิ่งใด?”เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้ว พลางถามว่า “สิ่งใดหรือ?”อวิ๋นฝูหลิงตอบด้วยรอยยิ้ม “คือการทำให้เขาสูญเสียสิ่งที่เขาหวงแหนมากที่สุด”“การสังหารคนโดยตรงหาใช่เรื่องยากอันใด ข้าสามารถจัดการได้ด้วยยาพิษถุงเดียวด้วยซ้ำ”“แต่การปล่อยให้พวกเขาตายไปเช่นนั้น ย่อมง่ายเกินไปสำหรับพวกเขา บนโลกนี้มีเรื่องที่เจ็บปวดเสียยิ่งกว่าความตายนับสิบเท่าร้อยเท่าอยู่!”เซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงมีความคิดในใจแล้ว ก็ล้มเลิกความคิดที่จะให้คนไปสังหารอวิ๋นหลิงจือ“ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใดก็ทำเถิด ข้าจะสนับสนุนเจ้าเอง”อวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะจุมพิตเซียวจิ่งอี้อีกครา“ในเมื่ออวิ๋นหลิงจือจ้างมือสังหารมาฆ่าข้า หมายความว่าพวกเขารู้ข่าวว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ด้วยว่าข้าอยู่ที่เจียงโจว”“ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาย่อมไม่มีทางรามือ เพราะตัวตนของข้าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงที่สุดของพวกเขา”“ในเมื่อเป็นสงครามที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายตก ข้าก็จะไม่ย่อมอ่อนข้อให้พวกเขาเช่นกัน”“ถ้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 233

    เซียวจิ่งอี้ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะอุ้มอวิ๋นจิงมั่วขึ้นมาและเดินออกไปข้างนอกอวิ๋นจิงมั่วตอบสนอง ด้วยการเตะขาพลางตะโกนโดยพลัน “ท่านพ่อ วางข้าลงขอรับ ข้ามาหาท่านแม่!”เขาได้ยินว่าแม่กลับมาแล้ว จึงกล่าวลาเพื่อน ๆ ตัวน้อย และวิ่งกลับมาหาแม่แม่รับปากเขาว่า เมื่อกลับมาแล้วจะนำน้ำตาลปั้นตัวใหญ่มาให้เขาตัวหนึ่งแม่ยังไม่ได้เอาน้ำตาลปั้นให้เขาเลยเซียวจิ่งอี้กลับตบก้นของอวิ๋นจิงมั่วเบา ๆ และพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ให้พ่อลองทบทวนตัวอักษรสามตัวที่สอนให้เจ้าไปเมื่อวานก่อน หากท่องได้จึงจะให้กินน้ำตาลปั้น!”อวิ๋นจิงมั่วโอดครวญ “ท่านพ่อ ท่านช่างเห็นแก่สตรีจนละทิ้งหลักการเสียจริง!”“ข้าเป็นลูกชายของท่าน พอท่านมีภรรยาแล้วจะลืมลูกชายมิได้นะขอรับ!”เซียวจิ่งอี้ปวดเศียรเวียนเกล้า อดไม่ได้ที่จะตบก้นลูกชายเบา ๆ ไปอีกครั้ง“เจ้าไปเรียนรู้เรื่องเหลวไหลพวกนี้มาจากที่ใดกัน?”อวิ๋นฝูหลิงกลับหัวเราะขึ้นมาขณะที่ฟังอยู่ในห้องเรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงได้รับบาดเจ็บ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้และปิดบังแม้แต่กับอวิ๋นจิงมั่วด้วยเช่นกันวันนี้หลิงโหยวเข้ามาอย่างกะทันหัน และมาพูดกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “คุณหนูใหญ่ ท่านพาข้าก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 234

    “พวกเจ้ามีผู้ใดเต็มใจจะรั้งอยู่ที่นี่ต่อบ้าง?”พวกลูกพี่อู๋ทั้งสี่คนมองกันไปมาลูกพี่อู๋กล่าวว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของแม่นางอวิ๋น”จางซานมู่เม้มริมฝีปาก “ข้าเต็มใจจะอยู่ที่นี่ขอรับ”สวี่ตงลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “แม่นางอวิ๋น ข้าจะฟังคำสั่งของท่าน”คังหมิงหย่วนครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “แม่นางอวิ๋น ให้ข้าอยู่ต่อเถอะขอรับ ข้าล้วนคุ้นเคยกับสวนสมุนไพรดี ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้ข้ายังรู้จักสมุนไพรกว่าร้อยชนิด ในภายภาคหน้าข้าอยากเป็นเหมือนนายท่านหาง ซึ่งรู้จักสมุนไพรทั่วทั้งใต้หล้า เป็นผู้ที่ค้าขายยา!”อวิ๋นฝูหลิงแอบรู้สึกชื่นชมคังหมิงหย่วนตั้งแต่ที่เขาเฟิ่งลั่ว อวิ๋นฝูหลิงได้สอนความรู้ทางการแพทย์และเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรให้เขาอยู่เสมอหากจะเรียนรู้การตรวจชีพจรวินิจฉัยโรค จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยแปดหรือสิบปีจึงจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่หากคังหมิงหย่วนมุ่งความสนใจไปที่สมุนไพร ย่อมเป็นหนทางที่ไม่เลวอวิ๋นฝูหลิงใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “เช่นนั้นคังหมิงหย่วนก็อยู่ต่อเถอะ”กล่าวจบ อวิ๋นฝูหลิงก็ให้คนอื่นออกไปก่อน และเหลือคังหมิงหย่วนเพียงผู้เดียวพวกลูกพี่อู๋ทั้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 235

    ยามเช้าตรู่ กองทหารเกียรติยศของฝ่าบาทอี้อ๋องก็เคลื่อนพลเต็มกำลัง โดยมีทหารรักษาพระองค์นับร้อยถูกส่งมาคุ้มกัน เดินทางจากประตูทิศเหนือของเขตปกครองเจียงหนิง มุ่งสู่เมืองหลวงอย่างผ่าเผยขณะเดียวกัน รถม้าสีเขียวที่ภายนอกดูเรียบง่ายสองคัน ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์สิบกว่าคน ก็มุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านซวงหลิน ตรงไปยังเมืองหลวงหลังจากรถม้าเดินทางออกจากเขตปกครองเจียงหนิง อวิ๋นฝูหลิงก็เลิกผ้าม่านของรถม้าเปิดออกพลางถอนหายใจอย่างโล่งอกนางยิ้มให้เซียวจิ่งอี้พลางกล่าวว่า “ความคิดของท่านไม่เลวเลย ที่ให้แบ่งกองกำลังออกไปสองเส้นทาง ความสนใจทั้งหมดก็จะถูกกองกำลังหลักดึงดูดไป พวกเราก็สามารถเดินทางอย่างผ่อนคลายได้ ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงก็ได้พักผ่อนไปด้วย”เซียวจิ่งอี้ทนไม่ไหวที่ต้องจัดการกับเจ้าหน้าที่ทางการไปตลอดทาง อีกทั้งเพื่อความปลอดภัยของตน จึงคิดวิธีนี้ขึ้นมามีกองทหารเกียรติยศขององค์ชายดึงดูดความสนใจ พวกเขาก็สามารถเดินทางได้อย่างไม่เป็นจุดสนใจ ทั้งยังลดปัญหาไปได้มากอวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่บนรถม้าตลอดทั้งเช้า จนปวดเอวไปหมดนางบอกกับเซียวจิ่งอี้ว่า “ข้าอยากขี่ม้า”เซียวจิ่งอี้ให้คนนำ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 236

    เซียวจิ่งอี้กล่าวกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “เดินทางมาหลายวันแล้ว เจ้าย่อมเหนื่อยล้าเป็นแน่ พวกเราจะพักอยู่ที่จินโจวสักสองสามวัน แล้วค่อยเดินทางต่อก็ยังไม่สาย”“เขตปกครองจินโจวแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาก คุ้มค่าแก่การเที่ยวชมสักครา”กล่าวจบ เซียวจิ่งอี้ก็สั่งให้เทียนเฉวียนไปจองโรงเตี๊ยมระหว่างที่พวกเขาเดินทาง ก็แสร้งทำตัวเป็นพ่อค้าพเนจร เพื่อไม่ให้ตัวตนถูกเปิดเผย จึงมิได้ไปพักแรมอยู่ที่จุดพักม้าเทียนเฉวียนไปทำหน้าที่โดยพลันเทียนเฉวียนจองโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเมือง และจองเรือนหลังหนึ่งไว้ด้วยหลังจากล้างเนื้อล้างตัวและกินอาหารกลางวัน ก็พักผ่อนครู่หนึ่ง ก่อนที่อวิ๋นฝูหลิงจะไปซื้อของด้วยความสนใจไปเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าในยุคสมัยนี้จะมิได้สะดวกสบายเท่ายุคปัจจุบัน แต่กลับมีข้อดีของมันเองเช่นกันตัวอย่างเช่นงานฝีมือมากมาย ที่ทำออกมาอย่างประณีตมาก ซึ่งยุคปัจจุบันมิอาจเทียบได้อวิ๋นฝูหลิงซื้อของไปตามทาง ความสุขที่ได้ซื้อของนั้นมิอาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้โดยง่ายระหว่างที่นางกำลังเพลิดเพลินไปกับการเที่ยวเล่น ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นฝูงชนด้านหน้า ซึ่งดูเหมือนจะคึกคักกันเป็นอย่างยิ่งอวิ๋นฝูหลิงสงสั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 237

    “ถึงหูซานจะเหลวไหลเพียงใด แต่จะถึงขั้นใช้ชีวิตของแม่เขา มาทำร้ายแม่นางหลี่เชียวหรือ?”“ถูกต้อง นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะทำได้หรือ? ข้าคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้กระมัง”“ไม่แน่แม่นางหลี่อาจจะเขียนใบสั่งยาพลาด จนทำให้แม่เฒ่าหูตาย!”อวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียงวิจารณ์ของคนรอบตัว ก็ใคร่ครวญหูซานเห็นแม่นางสกุลหลี่ไม่หวาดกลัวอันตราย ทั้งยังสามารถโต้แย้งกลับมาได้อย่างสมเหตุสมผล ก็ลุกพรวดขึ้นมากล่าวโดยพลัน“ถุย โรงหมอของสกุลพวกเจ้ามีชื่อเสียงที่เขตปกครองจินโจว ก็เป็นเพราะฝีมือการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของพ่อเจ้า”“ตั้งแต่พ่อเจ้าตายจากไป และเจ้ารับช่วงต่อโรงหมอมา ข้าก็เห็นว่ากิจการโรงหมอของพวกเจ้าย่ำแย่ลงทุกวัน”“ถ้าให้ข้าพูด เจ้าซึ่งเป็นแม่นางผู้หนึ่ง จะไปรู้วิชาแพทย์อันใด ถือโอกาสรีบปิดโรงหมอและแต่งงานไปเสียจะดีกว่า”“หากเจ้ายอมรับข้อเสนอแต่งงานของคุณชายสกุลวั่นตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และปิดโรงหมอไปตบแต่ง ก็คงไม่มีเรื่องเลวร้ายเช่นวันนี้เกิดขึ้น!”แม่นางสกุลหลี่คาดเดาได้ว่าสาเหตุที่หูซานมาก่อเรื่อง อาจเป็นเพราะการบงการของคุณชายสกุลวั่นยามนี้เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหูซาน ก็ยิ่งทำให้มั่นใจกว่าเดิมน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 238

    ผู้ที่สามารถร่ำเรียนวิชาแพทย์ และค้ำจุนโรงหมอของสกุลมาได้ด้วยตัวเอง ไม่ควรต้องมามีจุดจบเช่นนี้นางมองบนเปลที่อยู่บนพื้น ซึ่งมีแม่เฒ่าสกุลหูนอนเหมือนเสียชีวิตอยู่นางหันกลับมากระซิบบางสิ่งกับเหยากวงเหยากวงพยักหน้า ก่อนจะก้าวออกไปจากฝูงชนโดยพลันเซียวจิ่งอี้เห็นเช่นนั้น ก็รู้ว่าอวิ๋นฝูหลิงต้องการช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมถึงอย่างไรแผนการของคุณชายสกุลวั่นกับหูซานผู้นั้น เขาก็ทนดูต่อไปไม่ไหวเช่นกันเหยากวงทำตามคำสั่งของอวิ๋นฝูหลิง หลังจากเข้าไปใกล้แม่เฒ่าสกุลหูอย่างเงียบเชียบ ก็รวบรวมกำลังภายใน ก่อนจะยื่นมือไปออกแรงกดจุดจู๋ซานหลี่เพียงชั่วพริบตา แม่เฒ่าสกุลหูก็ลุกพรวดขึ้นมาโดยพลัน ขณะที่กุมขาข้างนั้นซึ่งถูกเหยากวงกดจุดพลางร้องออกมาว่า “โอ๊ย”อวิ๋นฝูหลิงซึ่งซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน เริ่มเป็นฝ่ายชักนำทันที “โธ่ถัง คนยังไม่ตายนี่!”เทียนเฉวียนกับลูกพี่อู๋ก็มีไหวพริบเป็นอย่างยิ่ง จึงตะโกนตามโดยพลัน“คนผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่!”“หรือก่อนหน้านี้แกล้งตาย เพื่อจงใจใส่ร้ายแม่นางสกุลหลี่?”ผู้คนที่ดูอยู่โดยรอบถูกศพที่ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหันของแม่เฒ่าหูทำให้ตกใจ ยามนี้ยังถูกพวกอวิ๋นฝูห

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 500

    “เป็นของที่ข้าใช้ยาสมุนไพรล้ำค่ามากมาย และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำออกมาได้ไม่กี่หยด”“ท่านต้องเก็บให้ดีนะ”“ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือถูกพิษ ไม่ว่าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ไม่ว่าพิษรุนแรงแค่ไหน ขอแค่ยังมีลมหายใจ เมื่อดื่มมันแล้ว ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นข้าจึงตั้งชื่อมันว่ายาไม่ตาย”“ยาไม่ตายนี่ท่านเก็บไว้ ถ้าหากไม่ต้องใช้มันย่อมดีที่สุด ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ท่านก็มีวิธีเอาตัวรอดมากขึ้น!”เซียวจิ่งอี้มองน้ำเต้าหยกที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก รู้สึกอุ่นใจราวกับแช่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเขากอดอวิ๋นฝูหลิงไว้ในอ้อมแขน “วางใจได้ ข้าไปเจียงหนานครั้งนี้จะระวัง หลังจากนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นฝูหลิงกอดเขา “ท่านพูดแล้วนะว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”ทั้งสองอาลัยอาวรณ์อยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงกล่าวกะทันหัน “หรือไม่ข้าไปกับท่านด้วย?”เซียวจิ่งอี้ยังไม่รู้ว่าทางเจียงหนานเป็นอย่างไร อีกทั้งไปสืบคดีขี้ผึ้งทองที่เจียงหนานครั้งนี้ ยังเกี่ยวข้องกับชาวแคว้นเยว่ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมายแน่นอนเขาไม่อยากให้อวิ๋นฝูหลิงตกอยู่ในอันตราย“ทางเมืองหลวงยังต้องมีเจ้าคอยดูแล”“ข้าได้สั่งการลงไปแล้ว เพื่อไม่แหวกหญ้าใ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 499

    การลอบสังหารเมื่อครั้งก่อน ถ้าหากทำสำเร็จจริงๆ การตายของเซียวจิ่งอี้ต้องทำให้ฮ่องเต้จิ่งผิงโกรธมากแน่คนฉลาดล้วนมองออก ฮ่องเต้จิ่งผิงได้เลือกเซียวจิ่งอี้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ถ้าหากเซียวจิ่งอี้ตาย เพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอดราชบัลลังก์ องค์ชายทั้งหลายต้องเอาการตายของเซียวจิ่งอี้มาเป็นเครื่องมือใส่ร้ายกันและกันแน่นอนถึงเวลาเหล่าองค์ชายห้ำหั่นกัน ต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอนและเหตุการณ์ขี้ผึ้งทองครั้งนี้ยิ่งร้ายแรงถ้าหากขุนนางและชนชั้นสูงของต้าฉีล้วนติดขึ้ผึ้งทอง พวกเขาจะไม่ฟังคำสั่งชาวแคว้นเยว่ที่อยู่เบื้องหลัง มอบต้าฉีออกไปหรือ?ถึงเวลาชาวแคว้นเยว่ไม่เสียทหารแม้แต่คนเดียว ก็สามารถทำความฝันฟื้นฟูแคว้นให้เป็นจริงเมื่อจ้าวเสวียซือตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกล่าว “ชาวแคว้นเยว่พวกนี้น่ารังเกียจจริงๆ!”เดิมทีแคว้นเยว่เป็นแคว้นเล็กๆ ที่อยู่แถบชายแดนฮ่องเต้องค์สุดท้ายโหดร้ายและไร้ความสามารถ ส่งผลให้ราษฎรอยู่อย่างยากไร้ เกิดจลาจลขึ้นทุกหนทุกแห่ง ราษฎรพากันลุกฮือช่วงสุดท้ายของสงคราม กองทัพต่อต้านที่นำโดยฮ่องเต้ไท่จูปะทะกับกองทัพของสกุลหวังแห่งเจียงโจวอย่างสูสีใค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 498

    เขาจะลากคอผู้อยู่เบื้องหลังที่คิดค้นขี้ผึ้งทองมาทำร้ายผู้คน ออกมากระทืบให้ตาย!ตอนที่เซียวจิ่งอี้กลับมา จ้าวเสวียซือเข้ามาขวางเขาระหว่างทาง ทั้งสองเข้าไปในห้องหนังสือหลังจากเข้าห้องหนังสือ เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง “เจ้าไม่เป็นไรแล้ว?”จ้าวเสวียซือพยักหน้า “สองวันนี้ไม่อยากเลย พระชายาเอาขี้ผึ้งทองมาถึงตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่ได้อยากสูบมากเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว”“พระชายาบอกว่าเลิกสำเร็จชั่วคราว”“ข้ามาหาท่าน เพราะอยากถามดูว่าเจ้าตรวจสอบทางเรือนเสินเซียนไปถึงไหนแล้ว?”“คนที่อยู่เบื้องหลังใช้ขี้ผึ้งทองทำข้าเสียอนาถเลย ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงยังมีผู้เคราะห์ร้ายอีกกี่คน ข้าไม่ละเว้นเขาเด็ดขาด!”ช่วงนี้เขายุ่งอยู่กับการเลิกขี้ผึ้งทอง รู้เพียงเซียวจิ่งอี้รายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้จิ่งผิง และกำลังสืบแล้วส่วนสืบไปถึงไหนแล้ว เขาไม่รู้แต่ว่าจ้าวเสวียซืออยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้ มีอะไรก็พูด ไม่เคยอ้อมค้อมเขาไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองเขาอยากเป็นผู้ช่วยของเซียวจิ่งอี้ ร่วมสืบคดีนี้กับเซียวจิ่งอี้เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง เขากำลังขาดคนที่เชื่อถือได้พอดี ในเมื่อจ้าวเสวียซ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 497

    เซียวจิ่งอี้กล่าวอธิบาย “ภายนอก เฟิ่งเหนียงเป็นเจ้าของหอชุนเฟิง แต่ความจริงอาศัยหอชุนเฟิงรวบรวมข่าวต่างๆ ให้ข้า”“นางมีทักษะเฉพาะที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เชี่ยวชาญการทำหน้ากากหนังมนุษย์”อวิ๋นฝูหลิงประหลาดใจเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าหอชุนเฟิงจะเป็นกิจการของเซียวจิ่งอี้หอชุนเฟิงเป็นหอคณิกาที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แต่ว่าผู้หญิงในหอล้วนเป็นนางคณิกาชั้นสูง นับได้ว่าเป็นสถานที่เริงรมย์ระดับสูงผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงอายุประมาณสามสี่สิบที่มีเรือนร่างเย้ายวนคนหนึ่งถูกคนรับใช้พาเข้ามา นางคำนับอย่างเย้ายวน “เฟิ่งเหนียงคำนับท่านอ๋องและพระชายา!”หน้าตาของผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก แววตายั่วยวนแม้เริ่มมีอายุแล้ว แต่ยังคงเป็นหญิงงามที่มีเสน่ห์หญิงงามเช่นนี้ แม้เป็นอวิ๋นฝูหลิงก็อดมองไม่ได้แต่ว่าเฟิ่งเหนียงคนนี้อยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิง ทำตัวเรียบร้อย แววตาสดใสเซียวจิ่งอี้ยกมือ “ลุกขึ้นเถอะ”สีหน้าของเขาเรียบเฉย ไม่ได้หวั่นไหวเพราะความงามของเฟิ่งเหนียง ราวกับว่านางไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป“วันนี้ที่เรียกเจ้ามา เพราะมีงานจะให้ทำ”เฟิ่งเหนียงหลุบตา “ท่านอ๋องเชิญสั่ง”เซียวจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 496

    “แล้วค่อยตรวจสอบดูว่ามีกี่คนที่ติด ดูว่ามีวิธีรักษาหรือไม่”ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า “เรามอบอำนาจให้เจ้าสอบสวนเรื่องนี้ สามารถประหารก่อน รายงานทีหลัง!”“เรารู้สึกว่าความเป็นมาของขี้ผึ้งทองไม่ธรรมดา”“เกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีแผนการใหญ่”“อี้เอ๋อร์ เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงและเจียงหนาน ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด”“ต้องรู้คนที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ เราก็อยากรู้เช่นกัน ใครกันที่ใช้วิธีชั่วช้าเช่นนี้ อยากทำลายรากฐานของต้าฉี”เซียวจิ่งอี้ประสานมือขานรับเขารับผิดชอบเรื่องสืบสวนคดี แต่เรื่องการรักษา ต้องพึ่งอวิ๋นฝูหลิงแล้วหลังจากเซียวจิ่งอี้ส่งฮ่องเต้จิ่งผิงกลับวัง ตอนที่ออกมา เทียนเฉวียนได้รับคำสารภาพจากการสอบสวนชุยซวี่ตงและคนอื่นแล้วเขาส่งคำสารภาพให้เซียวจิ่งอี้หลังจากเซียวจิ่งอี้ดูคำสารภาพที่หนาเป็นปึก กล่าวออกคำสั่ง “เจ้าพาคนกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าเรือนเสินเซียน”“อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น”“อีกสองวัน ก็เป็นวันที่ผู้ดูแลเจียงหนานสั่งคนมาส่งของให้เรือนเสินเซียน”“รอถึงวันนั้นค่อยลงมือ”“ใช่แล้ว เรียกเฟิ่งเหนียงมา ข้ามีงานจะให

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 495

    เวลานี้สำหรับชุยซวี่ตง แรงดึงดูดของขี้ผึ้งทองอยู่เหนือกว่าเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย บอกสิ่งที่ตัวเองรู้ออกมาอย่างหมดเปลือกเรื่องร้ายแรงมีตั้งแต่เฉิงเอินกงอาศัยตำแหน่งของตัวเองซื้อขายยศตำแหน่ง ยักยอกทรัพย์ รับสินบน ยึดที่ดินทำกินเรื่องเล็กน้อยก็มีตั้งแต่น้องเมียเป็นชู้กับพี่สะใภ้ คุณหนูหนีตามผู้ชายไป เรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตกใจทั้งสิ้นฮ่องเต้จิ่งผิงฟังจนหน้าบึ้งตึงเซียวจิ่งอี้รู้ว่าชุยซวี่ตงก็มีส่วนกับเรือนเสินเซียน จึงกล่าวถาม “ใครให้พวกเจ้าเปิดเรือนเสินเซียน? พวกเจ้าไปเอาของมาจากไหน?”สีหน้าชุยซวี่ตงซีดมาก แทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองแล้ว“ขี้ผึ้งเสินเซียน…ข้าต้องการขี้ผึ้งเสินเซียน…”เซียวจิ่งอี้หันไปขยิบตาให้เทียนเฉวียน เทียนเฉวียนเดินเข้าไป ส่งกล้องยาสูบของขี้ผึ้งทองให้ชุยซวี่ตงทันทีชุยซวี่ตงรีบใช้สองมือคว้ากล่องยาสูบ สูบแรงๆ ไปหนึ่งทีหลังจากร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงอารมณ์ความสุขที่พึงพอใจพริบตาต่อมา เทียนเฉวียนยึดกล้องยาสูบท่าทางของชุยซวี่ตงเหมือนต้องการมากกว่านี้ “ได้โปรด ให้ข้าสูบอีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว…”

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 494

    หลังจากนั้นเขาให้องครักษ์ลับแอบลักพาตัวคนที่อยู่ในรายชื่อมาที่คฤหาสน์ในเมื่อจะให้ฮ่องเต้จิ่งผิงรู้ถึงความอันตรายของขี้ผึ้งทอง และสนับสนุนเขาตรวจสอบเรือนเสินเซียน เพื่อลากตัวคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาลงโทษตามกฎหมายแค่อธิบายด้วยคำพูด มันไม่เสียแรงเกินไปหรอกหรือยังมีอะไรที่น่าตกใจและน่ากลัวกว่าการได้เห็นอาการอยากด้วยตัวเอง?ก็เหมือนกับเมื่อคืน เขาเห็นด้านที่น่าเกลียดของจ้าวเสวียซือตอนอยากด้วยตาตัวเองชุยซวี่ตงคุณชายเจ็ดจวนเฉิงเอินกงจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองนอนอยู่ในห้องนอน แต่วันนี้เช้าพอตื่นขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคยเขาลุกขึ้นจะเปิดประตูออกไป กลับพบว่าประตูถูกลงกลอนจากข้างนอกไม่ว่าเขาจะตะโกนเสียงดังแค่ไหน ข่มขู่ อ้อนวอน ก็ไม่มีใครสนใจเขาชุยซวี่ตงทั้งกลัวทั้งตกใจ อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่านี่คือฝีมือของใครกันแน่?คนคนนั้นลักพาตัวเขามาที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?หลังจากเวลาค่อยๆ ผ่านไป ชุยซวี่ตงเริ่มหาวบ่อยขึ้น ความรู้สึกฉุนเฉียวผุดออกมาจากส่วนลึกในใจเขายื่นมือไปล้วงขี้ผึ้งทองและกล้องยาสูบของตัวเอง เพื่อเอาออกมาสูบโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่เจออะไรเลยอาการคลั่งและค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 493

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงต้มยาเสร็จ ยกมาให้จ้าวเสวียซือดื่มแล้ว จึงจะกล่าว“ช่วงนี้เจ้าก็พักอยู่ที่จวนอี้อ๋องไปก่อน ข้าจะสั่งให้คนเฝ้าเรือนหลังนี้ไว้ จะให้เจ้ามีโอกาสเข้าใกล้ขี้ผึ้งทองไม่ได้”“ตอนนี้เจ้ายังไม่ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง ยังมีโอกาสเลิกพึ่งพาขี้ผึ้งทอง”“ข้าจะใช้การฝังเข็มกับยามาช่วยเจ้าเลิก สามารถลดความเจ็บปวดระหว่างที่เจ้าเลิกได้”“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจของเจ้า เจ้าต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ด้วยตัวเอง”“ถ้าหากความตั้งใจของเจ้าไม่แน่วแน่ ผ่านมันไปไม่ได้ คนรอบข้างช่วยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!”จ้าวเสวียซือพยักหน้า สีหน้าตื้นตัน “พี่สะใภ้ วันนี้ขอบคุณมาก!”อวิ๋นฝูหลิง “ท่านอ๋องเห็นเจ้าเป็นพี่น้อง คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันเช่นนี้”เซียวจิ่งอี้ยกมือตบไหล่จ้าวเสวียซือ “ฟังพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าต้องเลิกขี้ผึ้งทองให้ได้!”“นอกจากชีวิตที่เหลือของเจ้าอยากถูกมันควบคุม”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวเสียงเย็น “ครึ่งชีวิตที่ไหนล่ะ ถ้าหากสูบเป็นเวลานาน อย่างมากสองสามปีก็ตายแล้ว!”จ้าวเสวียซือได้สัมผัสความร้ายกาจของขี้ผึ้งทองแล้ว เขารู้สึกเกลียดมันมากแค่นึกถึงอาการกำเริบก่อนหน้านี้ ฉุนเฉ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 492

    อย่างไรก็ตามจ้าวเสวียซือเคยสูบแค่สองครั้ง เขาอาจจะไม่ติดก็ได้ให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋อง ก็แค่เพื่อความมั่นใจเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าเขาจะติดจริงๆดูเหมือนขี้ผึ้งทองนั่น ร้ายกาจยิ่งกว่าที่อวิ๋นฝูหลิงรู้เวลานี้นางรู้สึกโชคดีมากรู้สึกโชคดีที่พบทันเวลา ยังสามารถช่วยจ้าวเสวียซือ ไม่เช่นนั้นภายใต้สถานการณ์ที่นางไม่รู้ จ้าวเสวียซือสูบขี้ผึ้งทองต่อไป เกรงว่าเขาคงหมดทางเยียวยาแล้วจริงๆและรู้สึกโชคดีที่วันนี้นางให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋องถ้าหากไม่ใช่เพราะสั่งให้คนเฝ้าไว้ จ้าวเสวียซือเกิดความอยาก ต้องแอบออกไปซื้อขี้ผึ้งทองสูบแน่นอนจ้าวเสวียซือเห็นเซียวจิ่งอี้ไม่ขยับเขยื้อน สายตาของเขาหันไปมองทางอวิ๋นฝูหลิงแทนเขานึกถึงขี้ผึ้งทองในกล่องของตัวเองถูกอวิ๋นฝูหลิงเอาไป รีบยื่นมือออกไปคว้าชายกระโปรงของอวิ๋นฝูหลิงทันที“พี่สะใภ้ เอาขี้ผึ้งทองให้ข้า…”“ได้โปรด!”“ให้ข้าสูบอีกครั้งเถอะ แค่ครั้งเดียวก็พอ”“ข้าสาบาน ข้าสูบครั้งนี้เสร็จ ต่อไปจะไม่แตะต้องอีกแล้ว!”“พี่สะใภ้ ได้โปรด…”อวิ๋นฝูหลิงไม่ขยับ หันไปกล่าวกับเซียวจิ่งอี้ “จับเขาไว้”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า ไปจับตัวจ้าวเสวียซือตามที่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status