Share

บทที่ 231

Author: หลันซานอวี่
ยามที่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงหมู่บ้านซวงหลิน ก็มีสภาพเนื้อตัวเปื้อนเลือด ทำให้เซียวจิ่งอี้อกสั่นขวัญแขวน

ไม่รอให้เซียวจิ่งอี้ถาม อวิ๋นฝูหลิงก็กล่าวออกมาก่อน “ระหว่างทางกลับมาได้เจอกับพวกมือสังหารเข้า ข้าได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เลือดบนตัวก็เป็นของมือสังหารเหล่านั้น”

กล่าวจบ ก็กำลังจะเข้าไปในห้องเพื่อรักษาบาดแผล และเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่สะอาด

เซียวจิ่งอี้อยากเข้าไปดูอาการบาดเจ็บของนางด้วย แต่ถูกอวิ๋นฝูหลิงขวางไว้ให้อยู่นอกประตู

โชคดีที่เหยากวงมีไหวพริบ จึงตามเข้ามาช่วยด้วย

อวิ๋นฝูหลิงถอดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดออก หลังจากใช้น้ำสะอาดล้างบาดแผล ก็ทายาผงลงไป ก่อนจะใช้ผ้าสะอาดพันบาดแผล

ขณะที่เหยากวงรีบช่วยพันแผล ก็สังเกตบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงอย่างละเอียดด้วย

เห็นว่าบาดแผลของอวิ๋นฝูหลิงตื้นมาก ชัดเจนว่าเป็นเพียงแผลบนผิวหนังภายนอก บาดแผลมิได้ร้ายแรงนัก

นางลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก และรู้สึกแปลกใจเช่นกัน

ทักษะการต่อสู้ของมือสังหารเหล่านั้นหาได้อ่อนแอไม่ ยิ่งไปกว่านั้นยามที่อวิ๋นฝูหลิงถูกแทง นางเห็นอย่างชัดเจนว่า ดาบของมือสังหารผู้นั้นแหลมคมมาก เมื่อถูกดาบนั้นเข้าหากมิตายก็ย่อมบาดเจ็บสาหั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 232

    “ข้าก็มิได้เป็นคนอ่อนปวกเปียก ที่จะยอมให้ครอบครัวนั้นมารังแกกันได้!”“ท่านรู้หรือไม่ว่าขอบเขตสูงสุดของการแก้แค้นคือสิ่งใด?”เซียวจิ่งอี้เลิกคิ้ว พลางถามว่า “สิ่งใดหรือ?”อวิ๋นฝูหลิงตอบด้วยรอยยิ้ม “คือการทำให้เขาสูญเสียสิ่งที่เขาหวงแหนมากที่สุด”“การสังหารคนโดยตรงหาใช่เรื่องยากอันใด ข้าสามารถจัดการได้ด้วยยาพิษถุงเดียวด้วยซ้ำ”“แต่การปล่อยให้พวกเขาตายไปเช่นนั้น ย่อมง่ายเกินไปสำหรับพวกเขา บนโลกนี้มีเรื่องที่เจ็บปวดเสียยิ่งกว่าความตายนับสิบเท่าร้อยเท่าอยู่!”เซียวจิ่งอี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงมีความคิดในใจแล้ว ก็ล้มเลิกความคิดที่จะให้คนไปสังหารอวิ๋นหลิงจือ“ไม่ว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใดก็ทำเถิด ข้าจะสนับสนุนเจ้าเอง”อวิ๋นฝูหลิงอดไม่ได้ที่จะจุมพิตเซียวจิ่งอี้อีกครา“ในเมื่ออวิ๋นหลิงจือจ้างมือสังหารมาฆ่าข้า หมายความว่าพวกเขารู้ข่าวว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้ด้วยว่าข้าอยู่ที่เจียงโจว”“ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาย่อมไม่มีทางรามือ เพราะตัวตนของข้าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงที่สุดของพวกเขา”“ในเมื่อเป็นสงครามที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตายตก ข้าก็จะไม่ย่อมอ่อนข้อให้พวกเขาเช่นกัน”“ถ้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 233

    เซียวจิ่งอี้ก้าวไปข้างหน้าก่อนจะอุ้มอวิ๋นจิงมั่วขึ้นมาและเดินออกไปข้างนอกอวิ๋นจิงมั่วตอบสนอง ด้วยการเตะขาพลางตะโกนโดยพลัน “ท่านพ่อ วางข้าลงขอรับ ข้ามาหาท่านแม่!”เขาได้ยินว่าแม่กลับมาแล้ว จึงกล่าวลาเพื่อน ๆ ตัวน้อย และวิ่งกลับมาหาแม่แม่รับปากเขาว่า เมื่อกลับมาแล้วจะนำน้ำตาลปั้นตัวใหญ่มาให้เขาตัวหนึ่งแม่ยังไม่ได้เอาน้ำตาลปั้นให้เขาเลยเซียวจิ่งอี้กลับตบก้นของอวิ๋นจิงมั่วเบา ๆ และพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ให้พ่อลองทบทวนตัวอักษรสามตัวที่สอนให้เจ้าไปเมื่อวานก่อน หากท่องได้จึงจะให้กินน้ำตาลปั้น!”อวิ๋นจิงมั่วโอดครวญ “ท่านพ่อ ท่านช่างเห็นแก่สตรีจนละทิ้งหลักการเสียจริง!”“ข้าเป็นลูกชายของท่าน พอท่านมีภรรยาแล้วจะลืมลูกชายมิได้นะขอรับ!”เซียวจิ่งอี้ปวดเศียรเวียนเกล้า อดไม่ได้ที่จะตบก้นลูกชายเบา ๆ ไปอีกครั้ง“เจ้าไปเรียนรู้เรื่องเหลวไหลพวกนี้มาจากที่ใดกัน?”อวิ๋นฝูหลิงกลับหัวเราะขึ้นมาขณะที่ฟังอยู่ในห้องเรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงได้รับบาดเจ็บ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้และปิดบังแม้แต่กับอวิ๋นจิงมั่วด้วยเช่นกันวันนี้หลิงโหยวเข้ามาอย่างกะทันหัน และมาพูดกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “คุณหนูใหญ่ ท่านพาข้าก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 234

    “พวกเจ้ามีผู้ใดเต็มใจจะรั้งอยู่ที่นี่ต่อบ้าง?”พวกลูกพี่อู๋ทั้งสี่คนมองกันไปมาลูกพี่อู๋กล่าวว่า “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำสั่งของแม่นางอวิ๋น”จางซานมู่เม้มริมฝีปาก “ข้าเต็มใจจะอยู่ที่นี่ขอรับ”สวี่ตงลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “แม่นางอวิ๋น ข้าจะฟังคำสั่งของท่าน”คังหมิงหย่วนครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “แม่นางอวิ๋น ให้ข้าอยู่ต่อเถอะขอรับ ข้าล้วนคุ้นเคยกับสวนสมุนไพรดี ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้ข้ายังรู้จักสมุนไพรกว่าร้อยชนิด ในภายภาคหน้าข้าอยากเป็นเหมือนนายท่านหาง ซึ่งรู้จักสมุนไพรทั่วทั้งใต้หล้า เป็นผู้ที่ค้าขายยา!”อวิ๋นฝูหลิงแอบรู้สึกชื่นชมคังหมิงหย่วนตั้งแต่ที่เขาเฟิ่งลั่ว อวิ๋นฝูหลิงได้สอนความรู้ทางการแพทย์และเรื่องเกี่ยวกับสมุนไพรให้เขาอยู่เสมอหากจะเรียนรู้การตรวจชีพจรวินิจฉัยโรค จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยแปดหรือสิบปีจึงจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่หากคังหมิงหย่วนมุ่งความสนใจไปที่สมุนไพร ย่อมเป็นหนทางที่ไม่เลวอวิ๋นฝูหลิงใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “เช่นนั้นคังหมิงหย่วนก็อยู่ต่อเถอะ”กล่าวจบ อวิ๋นฝูหลิงก็ให้คนอื่นออกไปก่อน และเหลือคังหมิงหย่วนเพียงผู้เดียวพวกลูกพี่อู๋ทั้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 235

    ยามเช้าตรู่ กองทหารเกียรติยศของฝ่าบาทอี้อ๋องก็เคลื่อนพลเต็มกำลัง โดยมีทหารรักษาพระองค์นับร้อยถูกส่งมาคุ้มกัน เดินทางจากประตูทิศเหนือของเขตปกครองเจียงหนิง มุ่งสู่เมืองหลวงอย่างผ่าเผยขณะเดียวกัน รถม้าสีเขียวที่ภายนอกดูเรียบง่ายสองคัน ซึ่งอยู่ภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์สิบกว่าคน ก็มุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านซวงหลิน ตรงไปยังเมืองหลวงหลังจากรถม้าเดินทางออกจากเขตปกครองเจียงหนิง อวิ๋นฝูหลิงก็เลิกผ้าม่านของรถม้าเปิดออกพลางถอนหายใจอย่างโล่งอกนางยิ้มให้เซียวจิ่งอี้พลางกล่าวว่า “ความคิดของท่านไม่เลวเลย ที่ให้แบ่งกองกำลังออกไปสองเส้นทาง ความสนใจทั้งหมดก็จะถูกกองกำลังหลักดึงดูดไป พวกเราก็สามารถเดินทางอย่างผ่อนคลายได้ ระหว่างเดินทางกลับเมืองหลวงก็ได้พักผ่อนไปด้วย”เซียวจิ่งอี้ทนไม่ไหวที่ต้องจัดการกับเจ้าหน้าที่ทางการไปตลอดทาง อีกทั้งเพื่อความปลอดภัยของตน จึงคิดวิธีนี้ขึ้นมามีกองทหารเกียรติยศขององค์ชายดึงดูดความสนใจ พวกเขาก็สามารถเดินทางได้อย่างไม่เป็นจุดสนใจ ทั้งยังลดปัญหาไปได้มากอวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่บนรถม้าตลอดทั้งเช้า จนปวดเอวไปหมดนางบอกกับเซียวจิ่งอี้ว่า “ข้าอยากขี่ม้า”เซียวจิ่งอี้ให้คนนำ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 236

    เซียวจิ่งอี้กล่าวกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “เดินทางมาหลายวันแล้ว เจ้าย่อมเหนื่อยล้าเป็นแน่ พวกเราจะพักอยู่ที่จินโจวสักสองสามวัน แล้วค่อยเดินทางต่อก็ยังไม่สาย”“เขตปกครองจินโจวแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาก คุ้มค่าแก่การเที่ยวชมสักครา”กล่าวจบ เซียวจิ่งอี้ก็สั่งให้เทียนเฉวียนไปจองโรงเตี๊ยมระหว่างที่พวกเขาเดินทาง ก็แสร้งทำตัวเป็นพ่อค้าพเนจร เพื่อไม่ให้ตัวตนถูกเปิดเผย จึงมิได้ไปพักแรมอยู่ที่จุดพักม้าเทียนเฉวียนไปทำหน้าที่โดยพลันเทียนเฉวียนจองโรงเตี๊ยมที่ดีที่สุดในเมือง และจองเรือนหลังหนึ่งไว้ด้วยหลังจากล้างเนื้อล้างตัวและกินอาหารกลางวัน ก็พักผ่อนครู่หนึ่ง ก่อนที่อวิ๋นฝูหลิงจะไปซื้อของด้วยความสนใจไปเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าในยุคสมัยนี้จะมิได้สะดวกสบายเท่ายุคปัจจุบัน แต่กลับมีข้อดีของมันเองเช่นกันตัวอย่างเช่นงานฝีมือมากมาย ที่ทำออกมาอย่างประณีตมาก ซึ่งยุคปัจจุบันมิอาจเทียบได้อวิ๋นฝูหลิงซื้อของไปตามทาง ความสุขที่ได้ซื้อของนั้นมิอาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้โดยง่ายระหว่างที่นางกำลังเพลิดเพลินไปกับการเที่ยวเล่น ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นฝูงชนด้านหน้า ซึ่งดูเหมือนจะคึกคักกันเป็นอย่างยิ่งอวิ๋นฝูหลิงสงสั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 237

    “ถึงหูซานจะเหลวไหลเพียงใด แต่จะถึงขั้นใช้ชีวิตของแม่เขา มาทำร้ายแม่นางหลี่เชียวหรือ?”“ถูกต้อง นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะทำได้หรือ? ข้าคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้กระมัง”“ไม่แน่แม่นางหลี่อาจจะเขียนใบสั่งยาพลาด จนทำให้แม่เฒ่าหูตาย!”อวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียงวิจารณ์ของคนรอบตัว ก็ใคร่ครวญหูซานเห็นแม่นางสกุลหลี่ไม่หวาดกลัวอันตราย ทั้งยังสามารถโต้แย้งกลับมาได้อย่างสมเหตุสมผล ก็ลุกพรวดขึ้นมากล่าวโดยพลัน“ถุย โรงหมอของสกุลพวกเจ้ามีชื่อเสียงที่เขตปกครองจินโจว ก็เป็นเพราะฝีมือการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของพ่อเจ้า”“ตั้งแต่พ่อเจ้าตายจากไป และเจ้ารับช่วงต่อโรงหมอมา ข้าก็เห็นว่ากิจการโรงหมอของพวกเจ้าย่ำแย่ลงทุกวัน”“ถ้าให้ข้าพูด เจ้าซึ่งเป็นแม่นางผู้หนึ่ง จะไปรู้วิชาแพทย์อันใด ถือโอกาสรีบปิดโรงหมอและแต่งงานไปเสียจะดีกว่า”“หากเจ้ายอมรับข้อเสนอแต่งงานของคุณชายสกุลวั่นตั้งแต่ก่อนหน้านี้ และปิดโรงหมอไปตบแต่ง ก็คงไม่มีเรื่องเลวร้ายเช่นวันนี้เกิดขึ้น!”แม่นางสกุลหลี่คาดเดาได้ว่าสาเหตุที่หูซานมาก่อเรื่อง อาจเป็นเพราะการบงการของคุณชายสกุลวั่นยามนี้เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหูซาน ก็ยิ่งทำให้มั่นใจกว่าเดิมน

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 238

    ผู้ที่สามารถร่ำเรียนวิชาแพทย์ และค้ำจุนโรงหมอของสกุลมาได้ด้วยตัวเอง ไม่ควรต้องมามีจุดจบเช่นนี้นางมองบนเปลที่อยู่บนพื้น ซึ่งมีแม่เฒ่าสกุลหูนอนเหมือนเสียชีวิตอยู่นางหันกลับมากระซิบบางสิ่งกับเหยากวงเหยากวงพยักหน้า ก่อนจะก้าวออกไปจากฝูงชนโดยพลันเซียวจิ่งอี้เห็นเช่นนั้น ก็รู้ว่าอวิ๋นฝูหลิงต้องการช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมถึงอย่างไรแผนการของคุณชายสกุลวั่นกับหูซานผู้นั้น เขาก็ทนดูต่อไปไม่ไหวเช่นกันเหยากวงทำตามคำสั่งของอวิ๋นฝูหลิง หลังจากเข้าไปใกล้แม่เฒ่าสกุลหูอย่างเงียบเชียบ ก็รวบรวมกำลังภายใน ก่อนจะยื่นมือไปออกแรงกดจุดจู๋ซานหลี่เพียงชั่วพริบตา แม่เฒ่าสกุลหูก็ลุกพรวดขึ้นมาโดยพลัน ขณะที่กุมขาข้างนั้นซึ่งถูกเหยากวงกดจุดพลางร้องออกมาว่า “โอ๊ย”อวิ๋นฝูหลิงซึ่งซ่อนตัวอยู่ในฝูงชน เริ่มเป็นฝ่ายชักนำทันที “โธ่ถัง คนยังไม่ตายนี่!”เทียนเฉวียนกับลูกพี่อู๋ก็มีไหวพริบเป็นอย่างยิ่ง จึงตะโกนตามโดยพลัน“คนผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่!”“หรือก่อนหน้านี้แกล้งตาย เพื่อจงใจใส่ร้ายแม่นางสกุลหลี่?”ผู้คนที่ดูอยู่โดยรอบถูกศพที่ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหันของแม่เฒ่าหูทำให้ตกใจ ยามนี้ยังถูกพวกอวิ๋นฝูห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 239

    หลังจากหูซานจากไป ฝูงชนก็ค่อย ๆ แยกย้ายกันคุณชายวั่นยังคงรักษาท่าทีของวีรบุรุษเอาไว้ และกล่าวกับแม่นางหลี่ว่า “แม่นางหลี่ อย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับคนชั่วเจ้าแผนการอย่างหูซานเลย”“หากคราหน้าเขากล้ามาหาเรื่องถึงที่อีก เจ้าก็ให้คนไปเรียกข้าได้”“ข้าจะช่วยทวงความเป็นธรรมให้แม่นางหลี่แน่นอน!”แม่นางหลี่รู้ดีแก่ใจว่าคุณชายวั่นเป็นคนเช่นไรแต่สกุลวั่นเป็นสกุลใหญ่ในเขตปกครองจินโจว แม้ว่าคุณชายวั่นผู้นี้จะมาจากสกุลสาขาของสกุลวั่น แต่ก็ยังมิใช่คนที่นางจะไปล่วงเกินได้แม่นางหลี่ทำได้เพียงข่มกลั้นความรังเกียจ และกล้ำกลืนฝืนทนคุกเข่าลงไปคำนับ พลางกล่าวขอบคุณเขา“วันนี้ขอบคุณคุณชายวั่นที่ช่วยเหลือ ข้ารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง!”“เพียงแต่ข้ายังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ จึงไม่อาจรับรองคุณชายวั่นได้ ขอคุณชายวั่นโปรดอภัยให้ผู้น้อยด้วย!”ก่อนหน้านี้แม่นางหลี่ปฏิเสธทำขอแต่งงานของคุณชายวั่น ด้วยเหตุผลว่าต้องไว้ทุกข์แม้คุณชายวั่นจะเป็นคนมากตัณหา แต่กลับมิชอบใช้กำลังดังนั้นเมื่อเขาถูกตาต้องใจแม่นางหลี่ จึงใช้วิธีเอาชนะใจหญิงงามเสียก่อนวันนี้คุณชายวั่นไม่อยากเซ้าซี้ไปมากกว่านี้ หลังจากพูดไม่กี่ประโยค ก

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status