Share

บทที่ 167

Author: หลันซานอวี่
ตอนที่อวิ๋นฝูหลิงตั้งสติได้ เซียวจิ่งอี้ก็มายืนขวางอยู่ตรงหน้านางแล้ว

ลูกธนูที่แหลมคมดอกหนึ่ง ยิงเข้าไปที่หน้าอกของเขา

กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นเตะจมูกอวิ๋นฝูหลิง

อวิ๋นฝูหลิงเบิกตากว้าง มองเซียวจิ่งอี้อย่างตะลึง

พริบตานั้น เหมือนเวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างโดยรอบหายไปหมด

สมองของนางวางเปล่า เหมือนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เหมือนเพียงพริบตาเดียว แต่ก็เหมือนนานมาก จึงจะมีเสียงดังเข้าไปในหูของนางอีกครั้ง

นางได้ยินเสียงคนกำลังตะโกน

“นายท่าน!”

“ท่านอ๋อง!”

“อาอี้!”

ผู้คนจำนวนมากพุ่งพรวดเข้ามาพร้อมกัน

ร่างกายของเซียวจิ่งอี้ล้มลงไปอย่างอ่อนปวกเปียก อวิ๋นฝูหลิงเกือบประคองไม่ทัน

ในที่สุดนางก็หวนคืนสติ รีบกดหน้าอกของเขาเพื่อห้ามเลือด

“เร็ว ยกเขาขึ้นเตียงไม้ที่อยู่ตรงนั้น!” อวิ๋นฝูหลิงเงยหน้ามองเทียนเฉวียน กล่าวทันที

เวลานี้สถานที่เกิดเหตุถูกควบคุมแล้ว คนกลุ่มหนึ่งไปไล่ตามมือลอบสังหารที่หนีไปได้ ส่วนที่เหลือปิดล้อมที่เกิดเหตุ

ก่อนหน้านี้เทียนเฉวียนส่งเสียงนกหวีดขอความช่วยเหลือ ไม่เพียงมีองครักษ์ลับซ่อนตัวอยู่โดยรอบรีบมา ยังมีทหารรักษาพระองค์กับกับหน่วยกระบี่เงาที่ซ่อนตัวอยู่รอบนอกด้วย

เซียว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 168

    เมื่อท่านเจ้าเมืองถังที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำว่า ‘หัวธนูมีพิษ’ ก็เข่าอ่อนจนเกือบทรุดลงพื้นทันทีนี่มันดวงอะไรของเขากันเนี่ย?ก่อนหน้านี้ตอนรู้ว่าเขาคืออี้อ๋อง เขาก็กลัวว่าอี้อ๋องจะเป็นอะไรในเจียงโจว จนลากเขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยใครจะรู้ว่าผ่านไปครู่เดียว ก็มีมือลอบสังหารมาลอบสังหารอีกทั้งบนหัวธนูยังอาบยาพิษนี่ถ้าหากอี้อ๋องเป็นอะไรไป เขาจะไม่ถูกฝังไปเป็นเพื่อนด้วยหรือ?รอหลังจากได้ยินคำพูดครึ่งหลังของอวิ๋นฝูหลิง ท่านเจ้าเมืองถังจึงจะเหมือนได้ชีวิตกลับมาครึ่งหนึ่งเขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก รีบกล่าว “แม่นางอวิ๋น ขอแค่สามารถช่วยท่านอ๋อง ต้องการอะไรพูดมาได้เลย!”อวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิด หลังจากนั้นเงยหน้ามองท่านเจ้าเมืองถังแวบหนึ่ง “ข้าต้องการให้หมอหางมาเป็นผู้ช่วยให้ข้า ที่นี่ยังขาดสมุนไพรถอนพิษหลายอย่าง เดี๋ยวข้าเขียนเทียบยาให้ รบกวนมอบให้นายท่านหาง ให้เขาไปเอามา ”ท่านเจ้าเมืองถังพยักหน้า รีบสั่งให้คนไปเชิญหมอหางกับนายท่านหางมาทันทีที่เกิดเหตุถูกทหารล้อมอย่างแน่นหนา ทุกคนถูกจำกัดให้อยู่ตรงที่เดิม ห้ามเดินไปมาตามอำเภอใจหมอหางกับนายท่านหางถูกเชิญมาอย่างรวดเร็วทั้งสองล้วนเป็นคนฉลาด เห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 169

    เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่เพียงอาการบาดเจ็บฟื้นฟูยาก และยังอาจจะเลือดออกมากจนทำให้เสียชีวิตดังนั้นหัวธนูที่มีครีบเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ในกองทัพกลัวเพราะเมื่อไหร่ที่ถูกยิง โอกาสมีชีวิตรอดก็ลดน้อยลงแต่หัวธนูประเภทนี้ ไม่ได้ทำง่ายๆ ต่อให้เป็นกองทัพ ก็ไม่ได้ใช้ในวงกว้างตกลงใครกันแน่ที่ลงมือเหี้ยมโหดเช่นนี้ ไม่เพียงอาบยาพิษบนหัวธนู และยังใช้หัวธนูที่มีครีบเช่นนี้ลอบสังหารอีก?จู่ๆ สายตาของจ้าวเสวียซือก็ลึกล้ำในห้องส่วนตัวของหอสุราที่ใกล้กับประตูเมืองแห่งหนึ่งร่างเงาสายหนึ่งผลักประตูเข้าไป กล่าวกับคนในห้องอย่างนอบน้อม “ท่านราชครู สำเร็จแล้วขอรับ!”“อวี้อ๋องถูกยิง บนลูกธนูมีพิษ เขาต้องตายแน่ๆ!”“พวกเราเสียคนไปกว่าครึ่ง คนที่รอดมาได้จะหาวิธีมารวมกับพวกเรา”“ทุกอย่างดำเนินตามแผนขอรับ!”คนในห้องหมุนกายกลับมา เขาก็คือท่านจอมปราชญ์เหวินที่เคยเป็นกุนซือของเจียงโจวอ๋อง มุมปากท่านจอมปราชญ์เหวินเผยอขึ้น เผยให้เห็นรอยยิ้มสายหนึ่ง“เช่นนั้นพวกเราก็ควรไปแล้ว!”ไม่นานก็มีรถม้าคันหนึ่งแล่นออกจากประตูเมือง มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงและหลังจากรถม้าคันนี้เพิ่งออกจากเมือง ก็มีคนถือป้ายคำ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 170

    รถม้าโยกเยกโคลงเคลง มุ่งหน้าไปยังทางตะวันตกของเมืองอวิ๋นจิงมั่วกอดอวิ๋นฝูหลิงแน่นเวลานี้อวิ๋นฝูหลิงจึงจะมีเวลาดูแลเขานางตบหลังอวิ๋นจิงมั่วเบาๆ พลางกล่าวอย่างอ่อนโยน “มั่วมั่วตกใจใช่หรือไม่?”ภาพเหตุการณ์ลอบสังหารก่อนหน้านี้ น่าตกใจมากจริงๆอวิ๋นจิงมั่วส่ายศีรษะ ชูลูกเสือน้อยในอ้อมแขนขึ้นแล้วกล่าว “มีเทียนเทียนปกป้อง มั่วมั่วไม่กลัว”แรกเริ่มลูกเสือน้อยตัวนี้ถูกอวิ๋นจิงมั่วตั้งชื่อว่าอี้เทียน ต่อมารู้สึกเรียกไม่คล่องปาก ก็เลยเรียกมันว่า ‘เทียนเทียน’ เสียเลยอวิ๋นฝูหลิงนึกถึงภาพที่เห็นลูกเสือน้อยข่วนใบหน้ามือลอบสังหารเหล่านั้นจนเลือดอาบ อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของมันอวิ๋นจิงมั่วเงยหน้ามองอวิ๋นฝูหลิงแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็ถามเสียงเบา “ท่านแม่ ท่านจะแต่งงานกับท่านลุงหวังหรือไม่?”การกระทำที่ลูบหัวลูกเสือน้อยของอวิ๋นฝูหลิงชะงัก และมองอวิ๋นจิงมั่วอย่างไม่เชื่อสายตาในหัวของเด็กคนนี้ใส่อะไรไว้กันแน่?อวิ๋นจิงมั่วลังเลครู่หนึ่ง แล้วกล่าวต่อ “วันนี้ท่านลุงหวังช่วยท่านบังลูกธนู บุญคุณช่วยชีวิต ตอบแทนด้วยร่างกาย…”อวิ๋นฝูหลิงหน้าบึ้งทันที ดึงหูของอวิ๋นจิงมั่วแล้วกล่าว “เจ้าไปเรียนข

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 171

    ก่อนถึงวันนี้ อวิ๋นฝูหลิงมีความรู้สึกที่ดีต่อเซียวจิ่งอี้นางยังรู้สึกว่าเซียวจิ่งอี้หาได้เป็นเพียงสหายธรรมดาของนางไม่หากเป็นเช่นนี้ต่อไป การที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลง ก็หาใช่ว่าจะเป็นไปมิได้ทว่าทันทีที่รู้ว่าเซียวจิ่งอี้เป็นองค์ชายเจ็ด ทุกสิ่งก็หยุดลงโดยพลัน!หัวใจของอวิ๋นฝูหลิงที่เกือบจะลุ่มหลงในความรัก กลับมาเย็นชาแข็งกระด้างอีกคราทั้งร่างก็ได้สติแจ่มชัดเป็นอย่างยิ่งเซียวจิ่งอี้สังเกตท่าทีของอวิ๋นฝูหลิงอย่างระมัดระวังก่อนเขาจะหมดสติไป ได้ยินเสียงของเทียนเฉวียนกับเจ้าเมืองถัง และดูเหมือนจะได้ยินเสียงของจ้าวเสวียซือผู้เป็นสหายสนิทด้วยเขาคิดว่าตัวตนของเขาคงจะถูกเปิดเผยต่อหน้าอวิ๋นฝูหลิงแล้ว และไม่อาจปิดบังต่อไปได้อีกเช่นนั้นหลังจากอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าเขาคือองค์ชายเจ็ดเซียวจิ่งอี้ จะมีปฏิกิริยาอย่างไรกัน?เซียวจิ่งอี้มองไม่เห็นความสุขในดวงตาของอวิ๋นฝูหลิง ทั้งยังไม่มีความตกใจ เกรงกลัว หรือตื่นตระหนก...ท่าทีของนางเย็นชาไม่แยแส ราวกับตนเป็นเพียงคนไข้ในสายตาของนาง เป็นแค่คนไข้ผู้หนึ่งที่หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับนางแม้แต่น้อยหัวใจของเซียวจิ่งอี้จมดิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 172

    หลังจากเขาตระหนักได้ว่าเซียวจิ่งอี้พูดสิ่งใด ทั้งร่างก็รู้สึกยินดีขึ้นมาหากมิใช่เพราะเป็นห่วงว่าเซียวจิ่งอี้ได้รับบาดเจ็บมา เขาก็อยากจะใช้มือเขย่าร่างของเซียวจิ่งอี้“เจ้ามีลูกชายแล้วหรือ?”“เจ้ามีลูกชายตั้งแต่เมื่อใด ใครเป็นแม่เด็กหรือ?”“อ้อ จริงด้วย คงเป็นแม่นางอวิ๋นเมื่อครู่กระมัง”“สวรรค์ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อใดกัน?”“ข้าเป็นสหายที่สนิทที่สุดของเจ้า เรื่องใหญ่เช่นนี้ข้ากลับไม่รู้แม้แต่น้อย!”“เจ้าปิดบังแม้แต่กับข้า ยังนับเป็นสหายกันได้อยู่อีกหรือ?”เซียวจิ่งอี้ทนเสียงโวยวายของจ้าวเสวียซือต่อไปไม่ไหวแต่เมื่อเห็นเขากระโดดขึ้นลง ด้วยท่าทางตื่นเต้นลิงโลด เซียวจิ่งอี้ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาอธิบาย “ข้าก็เพิ่งรู้ไม่นานเช่นกัน”“แท้จริงแล้ว แม่นางอวิ๋นเป็นอดีตบุตรีของจวนจี้ชุนโหว ซึ่งก็คืออวิ๋นฝูหลิงผู้เป็นคุณหนูใหญ่สกุลอวิ๋น”“เดิมทีข้าวางแผนว่าอีกไม่นาน หลังจากพาพวกเขาสองแม่ลูกกลับไปเมืองหลวงแล้ว จะบอกเจ้าอีกที”แต่เมื่อดูจากท่าทีที่ค่อนข้างเย็นชาของอวิ๋นฝูหลิงในยามนี้ เกรงว่าเรื่องราวคงไม่ง่ายถึงเพียงนั้นแล้วโธ่ถัง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะนักฆ่าน่าตายพวกนั้นที่โผล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 173

    เทียนเฉวียนตอบโดยพลัน “เรียนนายท่าน เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ขอรับ”“สัญลักษณ์พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่สลักอยู่บนร่างของคนเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งที่ต่างกัน บางคนอยู่ที่หน้าอก บางคนอยู่ที่ต้นขา ซึ่งล้วนเป็นตำแหน่งที่ถูกเสื้อผ้าปิดบังไว้”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกบางสิ่งขึ้นมาได้โดยพลัน และพูดออกมาเบา ๆ “สัญลักษณ์พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว หรือจะเป็นคนของเผ่าเยว่?”เมื่อได้ยินเซียวจิ่งอี้พูดว่าคนของชนเผ่าเยว่ ท่าทีของจ้าวเสวียซือก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาโดยพลัน“คนของชนเผ่าเยว่นับถือเทพจันทรา และสลักสัญลักษณ์พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวลงบนร่างเป็นเครื่องหมายก็จริง”“แต่ยามที่ฮ่องเต้เกาจู่ก่อตั้งแคว้น แคว้นเยว่ก็ล่มสลายไปแล้ว อีกทั้งคนเผ่าเยว่ก็เกือบจะสูญพันธุ์แล้วเช่นกัน”“หรือจะมีคนของเผ่าเยว่ที่รอดชีวิตมาได้อยู่?”“แต่เหตุใดพวกเขาต้องมาลอบสังหารเจ้าด้วย?”เซียวจิ่งอี้ก็ไม่เข้าใจเช่นกันเขารู้สึกว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นคอยบงการทุกสิ่งดูเหมือนในเงามือจะมีแผนร้ายที่ใหญ่กว่านี้ซ่อนอยู่หลังจากตั้งใจพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวเสวียซือก็เห็นว่าเซียวจิ่งอี้มี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 174

    หากนางอยากให้อวิ๋นจิงมั่วอยู่ข้างกาย ก็ต้องปกปิดความสัมพันธ์ของอวิ๋นจิงมั่วและเซียวจิ่งอี้แต่เป็นเช่นนี้ จะยุติธรรมต่ออวิ๋นจิงมั่วหรือ?สถานะราชวงศ์ ในยุคสมัยนี้ เป็นสัญลักษณ์ของการยืนอยู่บนจุดสูงสุด อำนาจ ความมั่งคั่ง เป็นสิ่งที่ผู้อื่นต้องดิ้นรนทั้งชีวิต แต่สำหรับพวกเขา กลับได้มาอย่างง่ายดายพวกเขาสามารถกอบกุมหลายสิ่งหลายอย่างไว้ได้อวิ๋นฝูหลิงไม่อาจกีดกันสิทธิประโยชน์เหล่านี้ของอวิ๋นจิงมั่ว เพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองหากอวิ๋นจิงมั่วกลับคืนสู่สกุล ยิ่งกว่าเป็นซื่อจื่อจวนอ๋อง คือได้เป็นพระราชนัดดาตัวตนเช่นนี้ ย่อมทำให้เขาได้รับหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้อื่นใฝ่ฝันแม้ในขณะเดียวกันจะสูญเสียหลายสิ่งไปด้วยก็ตามอวิ๋นฝูหลิงตกอยู่ในภวังค์ครู่หนึ่ง รู้สึกราวกับตัวเองกลับไปยามที่ยังเด็กในยามนั้นที่พ่อแม่หย่าร้างกัน มีคนถามนางว่า อยากไปกับพ่อ หรืออยากไปกับแม่?อวิ๋นฝูหลิงรู้สึกว่าตัวเองกับเซียวจิ่งอี้ ราวกับเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังจะหย่าร้างกันอวิ๋นจิงมั่วต้องเผชิญกับการเลือกว่าจะอยู่กับนางที่เป็นมารดา หรือตามเซียวจิ่งอี้ผู้เป็นบิดาไปอวิ๋นจิงมั่วเห็นแม่แค่กอดเขาไว้ โดยที่ไ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 175

    อวิ๋นฝูหลิงนอนไม่หลับทั้งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น นางต้องไปเปลี่ยนยาให้เซียวจิ่งอี้เมื่อมาถึงเรือนที่เซียวจิ่งอี้พักอยู่ ก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาดังมาจากในเรือนองครักษ์หน้าประตูเมื่อเห็นนาง ก็เข้าไปรายงานโดยพลันผ่านไปไม่นาน เทียนเฉวียนก็ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองผู้ที่ออกมาพร้อมเขา ก็คือท่านเจ้าเมืองถังท่านเจ้าเมืองถังมีท่าทีหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก หลังออกมาจากห้อง ก็ยังใช้แขนเสื้อเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงโค้งคำนับท่านเจ้าเมืองถัง ก็ตามเทียนเฉวียนเข้าไปในห้องนอกจากเซียวจิ่งอี้แล้ว จ้าวเสวียซือก็อยู่ด้วยเมื่อเห็นอวิ๋นฝูหลิง ใบหน้าของจ้าวเสวียซือก็เผยรอยยิ้มออกมา และประสานมือทักทายนาง“แม่นางอวิ๋น รบกวนเจ้าช่วยเปลี่ยนยาให้ท่านอ๋องด้วย”อวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนี้ก็แปลกใจแม้นางจะไม่ได้พูดคุยกับจ้าวเสวียซือมากนัก แต่ก็มองออกว่าแม้ภายนอกคนผู้นี้จะดูเป็นคุณชายเจ้าสำราญ แต่แท้จริงก็ยังมีความผ่าเผยอยู่เต็มใบหน้าก่อนหน้านี้จ้าวเสวียซือปฏิบัติต่อนาง อย่างมากก็สุภาพด้วยในฐานะหมอผู้มีทักษะแพทย์ยอดเยี่ยมผู้หนึ่งต่างจากในวันนี้โดยสิ้นเชิง ที่ในมารยาทแฝงไปด้วยความเคารพอยู่หลายส่ว

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 500

    “เป็นของที่ข้าใช้ยาสมุนไพรล้ำค่ามากมาย และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำออกมาได้ไม่กี่หยด”“ท่านต้องเก็บให้ดีนะ”“ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือถูกพิษ ไม่ว่าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ไม่ว่าพิษรุนแรงแค่ไหน ขอแค่ยังมีลมหายใจ เมื่อดื่มมันแล้ว ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นข้าจึงตั้งชื่อมันว่ายาไม่ตาย”“ยาไม่ตายนี่ท่านเก็บไว้ ถ้าหากไม่ต้องใช้มันย่อมดีที่สุด ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ท่านก็มีวิธีเอาตัวรอดมากขึ้น!”เซียวจิ่งอี้มองน้ำเต้าหยกที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก รู้สึกอุ่นใจราวกับแช่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเขากอดอวิ๋นฝูหลิงไว้ในอ้อมแขน “วางใจได้ ข้าไปเจียงหนานครั้งนี้จะระวัง หลังจากนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นฝูหลิงกอดเขา “ท่านพูดแล้วนะว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”ทั้งสองอาลัยอาวรณ์อยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงกล่าวกะทันหัน “หรือไม่ข้าไปกับท่านด้วย?”เซียวจิ่งอี้ยังไม่รู้ว่าทางเจียงหนานเป็นอย่างไร อีกทั้งไปสืบคดีขี้ผึ้งทองที่เจียงหนานครั้งนี้ ยังเกี่ยวข้องกับชาวแคว้นเยว่ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมายแน่นอนเขาไม่อยากให้อวิ๋นฝูหลิงตกอยู่ในอันตราย“ทางเมืองหลวงยังต้องมีเจ้าคอยดูแล”“ข้าได้สั่งการลงไปแล้ว เพื่อไม่แหวกหญ้าใ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 499

    การลอบสังหารเมื่อครั้งก่อน ถ้าหากทำสำเร็จจริงๆ การตายของเซียวจิ่งอี้ต้องทำให้ฮ่องเต้จิ่งผิงโกรธมากแน่คนฉลาดล้วนมองออก ฮ่องเต้จิ่งผิงได้เลือกเซียวจิ่งอี้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ถ้าหากเซียวจิ่งอี้ตาย เพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอดราชบัลลังก์ องค์ชายทั้งหลายต้องเอาการตายของเซียวจิ่งอี้มาเป็นเครื่องมือใส่ร้ายกันและกันแน่นอนถึงเวลาเหล่าองค์ชายห้ำหั่นกัน ต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอนและเหตุการณ์ขี้ผึ้งทองครั้งนี้ยิ่งร้ายแรงถ้าหากขุนนางและชนชั้นสูงของต้าฉีล้วนติดขึ้ผึ้งทอง พวกเขาจะไม่ฟังคำสั่งชาวแคว้นเยว่ที่อยู่เบื้องหลัง มอบต้าฉีออกไปหรือ?ถึงเวลาชาวแคว้นเยว่ไม่เสียทหารแม้แต่คนเดียว ก็สามารถทำความฝันฟื้นฟูแคว้นให้เป็นจริงเมื่อจ้าวเสวียซือตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกล่าว “ชาวแคว้นเยว่พวกนี้น่ารังเกียจจริงๆ!”เดิมทีแคว้นเยว่เป็นแคว้นเล็กๆ ที่อยู่แถบชายแดนฮ่องเต้องค์สุดท้ายโหดร้ายและไร้ความสามารถ ส่งผลให้ราษฎรอยู่อย่างยากไร้ เกิดจลาจลขึ้นทุกหนทุกแห่ง ราษฎรพากันลุกฮือช่วงสุดท้ายของสงคราม กองทัพต่อต้านที่นำโดยฮ่องเต้ไท่จูปะทะกับกองทัพของสกุลหวังแห่งเจียงโจวอย่างสูสีใค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 498

    เขาจะลากคอผู้อยู่เบื้องหลังที่คิดค้นขี้ผึ้งทองมาทำร้ายผู้คน ออกมากระทืบให้ตาย!ตอนที่เซียวจิ่งอี้กลับมา จ้าวเสวียซือเข้ามาขวางเขาระหว่างทาง ทั้งสองเข้าไปในห้องหนังสือหลังจากเข้าห้องหนังสือ เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง “เจ้าไม่เป็นไรแล้ว?”จ้าวเสวียซือพยักหน้า “สองวันนี้ไม่อยากเลย พระชายาเอาขี้ผึ้งทองมาถึงตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่ได้อยากสูบมากเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว”“พระชายาบอกว่าเลิกสำเร็จชั่วคราว”“ข้ามาหาท่าน เพราะอยากถามดูว่าเจ้าตรวจสอบทางเรือนเสินเซียนไปถึงไหนแล้ว?”“คนที่อยู่เบื้องหลังใช้ขี้ผึ้งทองทำข้าเสียอนาถเลย ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงยังมีผู้เคราะห์ร้ายอีกกี่คน ข้าไม่ละเว้นเขาเด็ดขาด!”ช่วงนี้เขายุ่งอยู่กับการเลิกขี้ผึ้งทอง รู้เพียงเซียวจิ่งอี้รายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้จิ่งผิง และกำลังสืบแล้วส่วนสืบไปถึงไหนแล้ว เขาไม่รู้แต่ว่าจ้าวเสวียซืออยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้ มีอะไรก็พูด ไม่เคยอ้อมค้อมเขาไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองเขาอยากเป็นผู้ช่วยของเซียวจิ่งอี้ ร่วมสืบคดีนี้กับเซียวจิ่งอี้เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง เขากำลังขาดคนที่เชื่อถือได้พอดี ในเมื่อจ้าวเสวียซ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 497

    เซียวจิ่งอี้กล่าวอธิบาย “ภายนอก เฟิ่งเหนียงเป็นเจ้าของหอชุนเฟิง แต่ความจริงอาศัยหอชุนเฟิงรวบรวมข่าวต่างๆ ให้ข้า”“นางมีทักษะเฉพาะที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เชี่ยวชาญการทำหน้ากากหนังมนุษย์”อวิ๋นฝูหลิงประหลาดใจเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าหอชุนเฟิงจะเป็นกิจการของเซียวจิ่งอี้หอชุนเฟิงเป็นหอคณิกาที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แต่ว่าผู้หญิงในหอล้วนเป็นนางคณิกาชั้นสูง นับได้ว่าเป็นสถานที่เริงรมย์ระดับสูงผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงอายุประมาณสามสี่สิบที่มีเรือนร่างเย้ายวนคนหนึ่งถูกคนรับใช้พาเข้ามา นางคำนับอย่างเย้ายวน “เฟิ่งเหนียงคำนับท่านอ๋องและพระชายา!”หน้าตาของผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก แววตายั่วยวนแม้เริ่มมีอายุแล้ว แต่ยังคงเป็นหญิงงามที่มีเสน่ห์หญิงงามเช่นนี้ แม้เป็นอวิ๋นฝูหลิงก็อดมองไม่ได้แต่ว่าเฟิ่งเหนียงคนนี้อยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิง ทำตัวเรียบร้อย แววตาสดใสเซียวจิ่งอี้ยกมือ “ลุกขึ้นเถอะ”สีหน้าของเขาเรียบเฉย ไม่ได้หวั่นไหวเพราะความงามของเฟิ่งเหนียง ราวกับว่านางไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป“วันนี้ที่เรียกเจ้ามา เพราะมีงานจะให้ทำ”เฟิ่งเหนียงหลุบตา “ท่านอ๋องเชิญสั่ง”เซียวจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 496

    “แล้วค่อยตรวจสอบดูว่ามีกี่คนที่ติด ดูว่ามีวิธีรักษาหรือไม่”ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า “เรามอบอำนาจให้เจ้าสอบสวนเรื่องนี้ สามารถประหารก่อน รายงานทีหลัง!”“เรารู้สึกว่าความเป็นมาของขี้ผึ้งทองไม่ธรรมดา”“เกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีแผนการใหญ่”“อี้เอ๋อร์ เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงและเจียงหนาน ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด”“ต้องรู้คนที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ เราก็อยากรู้เช่นกัน ใครกันที่ใช้วิธีชั่วช้าเช่นนี้ อยากทำลายรากฐานของต้าฉี”เซียวจิ่งอี้ประสานมือขานรับเขารับผิดชอบเรื่องสืบสวนคดี แต่เรื่องการรักษา ต้องพึ่งอวิ๋นฝูหลิงแล้วหลังจากเซียวจิ่งอี้ส่งฮ่องเต้จิ่งผิงกลับวัง ตอนที่ออกมา เทียนเฉวียนได้รับคำสารภาพจากการสอบสวนชุยซวี่ตงและคนอื่นแล้วเขาส่งคำสารภาพให้เซียวจิ่งอี้หลังจากเซียวจิ่งอี้ดูคำสารภาพที่หนาเป็นปึก กล่าวออกคำสั่ง “เจ้าพาคนกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าเรือนเสินเซียน”“อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น”“อีกสองวัน ก็เป็นวันที่ผู้ดูแลเจียงหนานสั่งคนมาส่งของให้เรือนเสินเซียน”“รอถึงวันนั้นค่อยลงมือ”“ใช่แล้ว เรียกเฟิ่งเหนียงมา ข้ามีงานจะให

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 495

    เวลานี้สำหรับชุยซวี่ตง แรงดึงดูดของขี้ผึ้งทองอยู่เหนือกว่าเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย บอกสิ่งที่ตัวเองรู้ออกมาอย่างหมดเปลือกเรื่องร้ายแรงมีตั้งแต่เฉิงเอินกงอาศัยตำแหน่งของตัวเองซื้อขายยศตำแหน่ง ยักยอกทรัพย์ รับสินบน ยึดที่ดินทำกินเรื่องเล็กน้อยก็มีตั้งแต่น้องเมียเป็นชู้กับพี่สะใภ้ คุณหนูหนีตามผู้ชายไป เรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตกใจทั้งสิ้นฮ่องเต้จิ่งผิงฟังจนหน้าบึ้งตึงเซียวจิ่งอี้รู้ว่าชุยซวี่ตงก็มีส่วนกับเรือนเสินเซียน จึงกล่าวถาม “ใครให้พวกเจ้าเปิดเรือนเสินเซียน? พวกเจ้าไปเอาของมาจากไหน?”สีหน้าชุยซวี่ตงซีดมาก แทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองแล้ว“ขี้ผึ้งเสินเซียน…ข้าต้องการขี้ผึ้งเสินเซียน…”เซียวจิ่งอี้หันไปขยิบตาให้เทียนเฉวียน เทียนเฉวียนเดินเข้าไป ส่งกล้องยาสูบของขี้ผึ้งทองให้ชุยซวี่ตงทันทีชุยซวี่ตงรีบใช้สองมือคว้ากล่องยาสูบ สูบแรงๆ ไปหนึ่งทีหลังจากร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงอารมณ์ความสุขที่พึงพอใจพริบตาต่อมา เทียนเฉวียนยึดกล้องยาสูบท่าทางของชุยซวี่ตงเหมือนต้องการมากกว่านี้ “ได้โปรด ให้ข้าสูบอีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว…”

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 494

    หลังจากนั้นเขาให้องครักษ์ลับแอบลักพาตัวคนที่อยู่ในรายชื่อมาที่คฤหาสน์ในเมื่อจะให้ฮ่องเต้จิ่งผิงรู้ถึงความอันตรายของขี้ผึ้งทอง และสนับสนุนเขาตรวจสอบเรือนเสินเซียน เพื่อลากตัวคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาลงโทษตามกฎหมายแค่อธิบายด้วยคำพูด มันไม่เสียแรงเกินไปหรอกหรือยังมีอะไรที่น่าตกใจและน่ากลัวกว่าการได้เห็นอาการอยากด้วยตัวเอง?ก็เหมือนกับเมื่อคืน เขาเห็นด้านที่น่าเกลียดของจ้าวเสวียซือตอนอยากด้วยตาตัวเองชุยซวี่ตงคุณชายเจ็ดจวนเฉิงเอินกงจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองนอนอยู่ในห้องนอน แต่วันนี้เช้าพอตื่นขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคยเขาลุกขึ้นจะเปิดประตูออกไป กลับพบว่าประตูถูกลงกลอนจากข้างนอกไม่ว่าเขาจะตะโกนเสียงดังแค่ไหน ข่มขู่ อ้อนวอน ก็ไม่มีใครสนใจเขาชุยซวี่ตงทั้งกลัวทั้งตกใจ อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่านี่คือฝีมือของใครกันแน่?คนคนนั้นลักพาตัวเขามาที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?หลังจากเวลาค่อยๆ ผ่านไป ชุยซวี่ตงเริ่มหาวบ่อยขึ้น ความรู้สึกฉุนเฉียวผุดออกมาจากส่วนลึกในใจเขายื่นมือไปล้วงขี้ผึ้งทองและกล้องยาสูบของตัวเอง เพื่อเอาออกมาสูบโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่เจออะไรเลยอาการคลั่งและค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 493

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงต้มยาเสร็จ ยกมาให้จ้าวเสวียซือดื่มแล้ว จึงจะกล่าว“ช่วงนี้เจ้าก็พักอยู่ที่จวนอี้อ๋องไปก่อน ข้าจะสั่งให้คนเฝ้าเรือนหลังนี้ไว้ จะให้เจ้ามีโอกาสเข้าใกล้ขี้ผึ้งทองไม่ได้”“ตอนนี้เจ้ายังไม่ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง ยังมีโอกาสเลิกพึ่งพาขี้ผึ้งทอง”“ข้าจะใช้การฝังเข็มกับยามาช่วยเจ้าเลิก สามารถลดความเจ็บปวดระหว่างที่เจ้าเลิกได้”“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจของเจ้า เจ้าต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ด้วยตัวเอง”“ถ้าหากความตั้งใจของเจ้าไม่แน่วแน่ ผ่านมันไปไม่ได้ คนรอบข้างช่วยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!”จ้าวเสวียซือพยักหน้า สีหน้าตื้นตัน “พี่สะใภ้ วันนี้ขอบคุณมาก!”อวิ๋นฝูหลิง “ท่านอ๋องเห็นเจ้าเป็นพี่น้อง คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันเช่นนี้”เซียวจิ่งอี้ยกมือตบไหล่จ้าวเสวียซือ “ฟังพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าต้องเลิกขี้ผึ้งทองให้ได้!”“นอกจากชีวิตที่เหลือของเจ้าอยากถูกมันควบคุม”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวเสียงเย็น “ครึ่งชีวิตที่ไหนล่ะ ถ้าหากสูบเป็นเวลานาน อย่างมากสองสามปีก็ตายแล้ว!”จ้าวเสวียซือได้สัมผัสความร้ายกาจของขี้ผึ้งทองแล้ว เขารู้สึกเกลียดมันมากแค่นึกถึงอาการกำเริบก่อนหน้านี้ ฉุนเฉ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 492

    อย่างไรก็ตามจ้าวเสวียซือเคยสูบแค่สองครั้ง เขาอาจจะไม่ติดก็ได้ให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋อง ก็แค่เพื่อความมั่นใจเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าเขาจะติดจริงๆดูเหมือนขี้ผึ้งทองนั่น ร้ายกาจยิ่งกว่าที่อวิ๋นฝูหลิงรู้เวลานี้นางรู้สึกโชคดีมากรู้สึกโชคดีที่พบทันเวลา ยังสามารถช่วยจ้าวเสวียซือ ไม่เช่นนั้นภายใต้สถานการณ์ที่นางไม่รู้ จ้าวเสวียซือสูบขี้ผึ้งทองต่อไป เกรงว่าเขาคงหมดทางเยียวยาแล้วจริงๆและรู้สึกโชคดีที่วันนี้นางให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋องถ้าหากไม่ใช่เพราะสั่งให้คนเฝ้าไว้ จ้าวเสวียซือเกิดความอยาก ต้องแอบออกไปซื้อขี้ผึ้งทองสูบแน่นอนจ้าวเสวียซือเห็นเซียวจิ่งอี้ไม่ขยับเขยื้อน สายตาของเขาหันไปมองทางอวิ๋นฝูหลิงแทนเขานึกถึงขี้ผึ้งทองในกล่องของตัวเองถูกอวิ๋นฝูหลิงเอาไป รีบยื่นมือออกไปคว้าชายกระโปรงของอวิ๋นฝูหลิงทันที“พี่สะใภ้ เอาขี้ผึ้งทองให้ข้า…”“ได้โปรด!”“ให้ข้าสูบอีกครั้งเถอะ แค่ครั้งเดียวก็พอ”“ข้าสาบาน ข้าสูบครั้งนี้เสร็จ ต่อไปจะไม่แตะต้องอีกแล้ว!”“พี่สะใภ้ ได้โปรด…”อวิ๋นฝูหลิงไม่ขยับ หันไปกล่าวกับเซียวจิ่งอี้ “จับเขาไว้”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า ไปจับตัวจ้าวเสวียซือตามที่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status