Share

บทที่ 153

Author: หลันซานอวี่
อวิ๋นฝูหลิงยิ้มซาบซึ้งไปทางนายท่านหางและท่านหมอหาง

จากนั้นจึงหันไปทางท่านหมอซุนแล้วกล่าววาจาเสียงดัง “ประลองวิชาแพทย์ก็ประลองวิชาแพทย์ ท่านคิดจะประลองเช่นไร?”

เหล่าผู้คนที่มุงดูต่างพากันส่งเสียงอื้ออึงกันในบัดดล

นึกไม่ถึงว่าแม่นางอวิ๋นจะกล้ารับคำท้า

แต่พอลองคิดดูอีกที หากแม่นางอวิ๋นคิดจะเป็นหมออยู่ที่เขตปกครองเจียงหนิง นอกจากรับคำท้าแล้ว ก็ไม่มีหนทางอื่นให้เลือกอีก

ท่านหมอซุนเห็นแม่นางอวิ๋นรับคำท้า จึงยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีหยิ่งยโส

นางสตรีไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!

เขาจะทำให้นางได้รู้ซึ้ง จะเป็นหมอรักษาคนนั้นมิใช่เรื่องที่สตรีเช่นนางจะทำได้!

สตรีน่ะ ก็ควรทำตัวว่าง่ายอยู่แต่ในเรือนหลัง คอยเกื้อกูลสามีอบรมสั่งสองบุตรให้ดี ประพฤติตนให้เหมาะสม!

ท่านหมอซุนเอ่ยปากว่า “เจ้ากับข้าจะไปนั่งตรวจไข้ที่ริมถนน แล้วตรวจโรคให้กับคนไข้ที่มาหา”

“แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไข้คนไหนที่มารักษา ก็ห้ามปฏิเสธทั้งสิ้น”

“กำหนดจำนวนอยู่ที่สิบคน ใครที่สามารถรักษาอาการให้คนไข้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาสามวัน ก็จะเป็นผู้ชนะ”

“คนที่แพ้ ต้องไสหัวออกไปจากเขตปกครองเจียงหนิง ชั่วชีวิตนี้ห้ามเป็นหมอรักษาคนอีก!”

อวิ๋นฝูห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
จะมั่นหน้าไปรับกฎมันทำไม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 154

    “หากถึงตอนนั้นแล้วยาสมุนไพรไม่พอ แล้วข้าทำเพียงได้แต่ควักเงินของตัวเองจ่ายออกไปก่อนเล่า!”“สำนักช่วยชีพมั่งมีไปด้วยเงินทองและอำนาจ เงินหนึ่งพันตำลึงนี้ถือว่าน้อยนัก สู้ให้มาสักสองพันตำลึงไม่ดีกว่าหรือ?”ในเวลาเพียงไม่นาน เงินหนึ่งพันตำลึงแปรเปลี่ยนกลายเป็นเงินสองพันตำลึงเสียแล้วนายท่านสวี่รู้สึกได้ว่าตนเองแทบจะหายใจไม่ออกอยู่รอมร่อเขาโบกมือขึ้นมาแล้วพูดออกไปโต้ง ๆ ว่า “หนึ่งพันตำลึงก็หนึ่งพันตำลึง!”เขาล้วงเสื้อผ้าบนกาย ไม่นานนักก็ล้วงตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงออกมาได้ แล้วยื่นให้อวิ๋นฝูหลิงไปอวิ๋นฝูหลิงรับไปด้วยอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ขอบคุณนายท่านสวี่เป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ!”ต่อให้นำไปซื้อยาสมุนไพร เงินหนึ่งพันตำลึงนี้ก็ใช้ไม่หมดส่วนหลังจากนี้ที่ว่าหากมีเหลือก็คืนให้ หากขาดไปก็ต้องชดนั้น จะคืนน่ะย่อมไม่อาจเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่เงินชดน่ะต้องได้ชดแน่นอน!นึกไม่ถึงเลยว่าร่วมประลองวิชาแพทย์แล้ว นางยังจะถือโอกาสหลอกเอาเงินจำนวนหนึ่งมาจากสำนักช่วยชีพได้ที่อวิ๋นฝูหลิงทำเช่นนี้ อย่างแรกเลยคือเพราะนางเชื่อใจสำนักช่วยชีพไม่ลง กังวลว่าพวกเขาจะเล่นแง่กับยาสมุนไพรอย่างที่สองคือนางคิดจะใช้ย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 155

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นลูกพี่อู๋เดี๋ยวหดมือเดี๋ยวหดเท้าดูไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ก็อดหัวเราะพลางเอ็ดให้ไม่ได้ “ดูท่าทางเงอะงะของเจ้าสิ!”“ตอนกลับค่อยห่ออาหารขึ้นชื่อของที่นี่กลับไปสักสองสามให้ เอากลับไปให้พวกสวี่ตงได้ลองกินกัน”ลูกพี่อู๋หัวเราะแหะ ๆ “ขอบคุณแม่นางอวิ๋น”ที่นี่เป็นหอสุราอันดับหนึ่งประจำหัวเมืองเลยนา!หากเป็นเมื่อก่อน กระทั่งเขาจะเข้ามาในนี้ยังเข้ามาไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องเรื่องได้ลิ้มลองอาหารของที่นี่เลยทว่ายามนี้เขากลับได้นั่งกินอาหารบนโต๊ะอยู่ในห้องอาหารนี่ช่างวันชีวิตดี ๆ ที่เมื่อก่อนกระทั่งคิดก็ยังไม่กล้าเลยทีเดียวเชียวไว้กลับไปแล้ว เขาต้องไปคุยโวกับจางซานมู่และพรรคพวกของเขาอีกสองสามคนนั่นสักหน่อยแล้วว่าเขาเองก็เป็นคนที่เคยไปหอจุ้ยเซียนมาก่อนคนหนึ่ง!ครั้นกินมือกลางวันกันเสร็จ อวิ๋นฝูหลิงก็ไปเลือกสั่งอาหารอร่อย ๆ มาจำนวนหนึ่งเพื่อห่อกลับไปให้พวกสวี่ตงหลังจากออกมาจากหอจุ้ยเซียนแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็ไปตลาดม้าล่อที่เมืองบูรพาหนหนึ่งก่อนตลาดม้าล่อเป็นสถานที่ขายปศุสัตว์โดยเฉพาะอวิ๋นฝูหลิงตั้งใจจะซื้อรถม้าคันหนึ่งไว้เป็นพาหนะแทนการเดินเท้าทว่าพอเดินดูตลาดม้าล่อไปรอบหนึ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 156

    นายท่าหางเดินทางไปในครานี้ เกรงว่าพรุ่งนี้เช้านั่นแหละจึงจะกลับมาได้ยังไม่ทันที่ท่านหมอหางจะได้เอ่ยถามไถ่ นายท่านหางก็กระโดดขึ้นรถม้าจากไปแล้วส่วนอวิ๋นฝูหลิงก็นั่งโยกเยกอยู่บนรถม้าไปตลอดทางจนกลับไปถึงหมู่บ้านซวงหลินเรือนของสกุลอวิ๋นกำลังอยู่ในช่วงสร้างใหม่ ยามนี้พอจะเริ่มเห็นเป็นเค้าโครงขึ้นมาแล้วอวิ๋นฝูหลิงเดินดูลานก่อสร้างรอบหนึ่งเพื่อดูความก้าวหน้า และพอทักทายกับทุกคนแล้ว นางจึงไปจัดการกิจของตนเองนางคิดจะจัดการกับยาสมุนไพรในมิติสักเล็กน้อย ลองดูว่ามียาสมุนไพรตัวไหนหยิบออกมาใช้ได้บ้างส่วนลูกพี่อู๋ก็ถือกล่องอาหารไปหาพวกจางซานมู่เทียนเฉวียนหาโอกาสได้ จึงนำเรื่องที่สำนักช่วยชีพจะทำการประลองวิชาแพทย์กับแม่นางอวิ๋นไปรายงานแก่เซียวจิ่งอี้ครั้นเซียวจิ่งอี้ได้ฟัง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ฝีมือการแพทย์ของแม่นางอวิ๋นสูงยิ่ง นางกล้ารับคำท้า ก็คงจะเอาชนะได้นั่นแหละ”“แต่กลัวว่าสำนักช่วยชีพจะเล่นลูกไม้ใส่”“นายท่านสวี่ผู้นั้นดำเนินกิจการอยู่ในเขตปกครองเจียงหนิงมานานหลายปี ไม่ว่าจะเส้นสาย เงินทอง หรืออำนาจล้วนเหนือกว่าแม่นางอวิ๋นทุกด้าน”“ในเมื่อพวกเขากล้าเป็นฝ่ายเสนอตัวต้องการประลอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 157

    นายท่านผู้เฒ่าหางนั้นมีอายุเกินเจ็ดสิบปีแล้ว ผมเผ้าหนวดเคราล้วนขาวโพลนไปหมด ทว่าใบหน้าของเขากลับยังเปล่งปลั่งดูมีชีวิตชีวา เห็นได้ว่าปกติแล้วเขาบำรุงรักษาดูแลตนเองเป็นอย่างดีครั้นรู้ว่าหลานชายมาเยี่ยมหา นายท่านผู้เฒ่าหางก็ตกใจยิ่งนัก“เหตุใดเจ้าถึงกลับมาฉุกละหุกเช่นนี้?”“มาเยี่ยมหาข้านี่มีเรื่องอันใดกัน?”นายท่านหางพยักหน้า เล่าเรื่องที่ท่านหมอซุนแห่งสำนักช่วยชีพต้องการประลองวิชาแพทย์กับแม่นางอวิ๋นในวันพรุ่งนี้ให้ฟังนายท่านผู้เฒ่าเอ่ยถาม “แม่นางอวิ๋นที่ผ่าเปิดท้องคุณชายน้อยสกุลลู่ ทว่าคนกลับมีชีวิตอยู่รอดต่อมาได้ผู้นั้นน่ะหรือ?”เรื่องที่แม่นางอวิ๋นผ่าเปิดท้องช่วยชีวิตคนนั้น ได้กลายเป็นเรื่องเอะอะฮือฮาไปทั่วทั้งหัวเมืองมานานแล้วแม้นายท่านผู้เฒ่าหางจะไม่ชอบออกไปนอกเรือนนัก ทว่ากลับเคยได้ยินได้ฟังมาเช่นกันเขาสนใจขึ้นมาในทันที“ไม่ได้เห็นคนประลองวิชาแพทย์กันมานานหลายปีแล้ว”“พรุ่งนี้ข้าเองก็ไปร่วมชมความครึกครื้นด้วยดีกว่า จะได้เจอแม่นางอวิ๋นในข่าวเล่าข่าวลือผู้นั้น”ที่นายท่านหางเดินทางกลับมาพบนายท่านผู้เฒ่าที่บ้านเดิมครานี้ ก็ด้วยเดิมทีเขาอยากจะถามเรื่องสกุลอวิ๋นจากนายท่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 158

    เขาผ่อนลมหายใจ แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “ไม่เป็นไร แค่คนไข้พวกนั้น ก็มาพอที่จะทำให้พวกเราชนะนางแล้ว!”ท่านหมอซุนพยักหน้า มั่นใจเต็มเปี่ยมในการประลองวิชาแพทย์วันพรุ่งนี้จันทราลาลับทินกรทอแสง วันใหม่เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วสกุลอวิ๋นครึกครื้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพราะเมื่อวานลูกพี่อู๋หลุดพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจ สมาชิกสกุลอวิ๋นทุกคนจึงรู้เรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงต้องประลองวิชาแพทย์กับคนอื่นในวันนี้อวิ๋นจิงมั่วโวยวายจะตามไปด้วย เขาจะไปเป็นกำลังใจให้ท่านแม่พวกลูกพี่อู๋ทั้งสี่คนกลัวว่าแม่นางอวิ๋นจะเสียเปรียบ จึงอยากไปด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความน่ากริ่งเกรงสุดท้ายแม้กระทั่งเซียวจิ่งอี้ก็แสดงตัวว่าอยากไปด้วยอวิ๋นฝูหลิงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว จึงให้ทุกคนที่อยากไปเดินทางไปด้วยกันมันเสียเลยหลังคนทั้งคณะกินข้าวเช้ากันเรียบร้อย ก็พากันเฮโลตรงดิ่งไปที่หัวเมืองสถานที่ประลองวิชาแพทย์จัดขึ้นที่ปากทางถนนใหญ่บูรพาวิถีถนนใหญ่บูรพาวิถีเป็นถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดประจำหัวเมือง มีร้านรวงตั้งอยู่มากมาย สำนักผิงอัน สำนักช่วยชีพ และสำนักแพทย์อื่น ๆ ก็ตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆแม้จะเป็นเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน แต่ข

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 159

    ครั้นหมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งหันไปมองตามเสียง จึงเห็นนายท่านผู้เฒ่าหางเดินลงมาจากรถม้าสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนในฉับพลันทันใด รีบหมุนกายไปต้อนรับด้วยท่าทางอย่างผู้อ่อนอาวุโส“ท่านอาจารย์อาหางมาได้อย่างไรขอรับ?”นายท่านผู้เฒ่าหางพยักหน้าให้หมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งเล็กน้อย “ได้ยินว่าวันนี้มีเรื่องครึกครื้นใหญ่ เจ้าเองก็มาชมความครึกครื้นกับเขาด้วย?”หมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งถึงกับโอดครวญในใจไม่หยุดไม่กี่วันก่อนเข้าขึ้นไปหาสมุนไพรตัวหนึ่งบนเขาหนานอัน เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เองใครเล่าจะรู้ว่าเพิ่งกลับมา คนของอี้อ๋องก็มาหาถึงหน้าประตู เชิญให้เขาต้องมาชมการประลองในวันนี้ให้ได้เสียแล้วแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสำนักหมอหลวงแล้ว แต่ยังมีลูกหลานในตระกูลอยู่ในสำนัก เขาย่อมคิดเผื่อลูกหลานอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นคำสั่งของราชนิกุล มีหรือที่เขาจะกล้าไม่ปฏิบัติตามทว่าเรื่องเช่นนี้ ล้วนไม่จำเป็นต้องให้คนนอกรู้หมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งก็พูดตามน้ำไปกับนายท่านหันในทันที “ขอรับ ไม่ได้เห็นการประลองวิชาแพทย์มาหลายปีแล้ว!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เหตุใดหมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งถ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 160

    ลูกพี่อู๋และคนอื่น ๆ อีกสองสามคนล้วนตามไปช่วยเซียวจิ่งอี้ไม่อยากเปิดเผยสถานะที่แท้จริง จึงไม่ตามไปสมทบ ทว่ากลับไปซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนเขาจับมืออวิ๋นจิงมั่วไว้ แล้วกล่าวกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “ข้าจะดูแลจิงมั่วให้ดี เจ้าไม่ต้องกังวล สนใจแค่การประลองก็พอ!”อวิ๋นจิงมั่วกำหมัดเล็ก ๆ ของตนเอง แสดงท่าทางให้กำลังใจ “ท่านแม่ ท่านต้องชนะแน่!”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวขอบคุณเซียวจิ่งอี้ จากนั้นจึงย่อตัวประทับจูบลงบนแก้มของอวิ๋นจิงมั่ว“มีมั่วมั่วมาคอยให้กำลังใจด้วยตัวเองแบบนี้ แม่ต้องทุ่มเทสุดกำลังแน่นอน!”สำนักช่วยชีพจัดเตรียมของที่ต้องใช้ในการประลองวิชาแพทย์เสร็จเรียบร้อยแล้วโต๊ะ เก้าอี้ เตียงไม้ เตาไฟ หมอดินเผาสำหรับต้มยาและของอื่น ๆ มีอยู่จำนวนไม่น้อยท่านหมอซุนหยิบหมอนหนุนจับชีพจร เข็มเงินและข้าวของต่าง ๆ ออกมาจากกล่องยา วางไว้บนโต๊ะทีละอย่าง ๆครั้นเห็นอวิ๋นฝูหลิงเดินมา เขาก็ประสานมือแล้วยิ้มพลางกล่าว “แม่นางอวิ๋น วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ไม่เจ้าก็ข้าคนใดคนหนึ่งจะได้เป็นหมอรักษาคนเป็นวันสุดท้าย อีกประเดี๋ยวแม่นางอวิ๋นต้องทุ่มเทสุดชีวิตนะ เพราะหากแพ้พ่าย เดี๋ยวมันจะน่าอดสูเอา!”เขาชะงักไปเล็กน้อย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 161

    ตอนแรกท่านเจ้าเมืองถังคิดว่าตัวเองตาลายเสียอีกแต่เมื่อเห็นเทียนเฉวียนที่ยืนอยู่ข้างเซียวจิ่งอี้ จำได้ว่าเขาก็คือคนที่นำป้ายคำสั่งจวนอี้อ๋องมาถ่ายทอดคำสั่งเมื่อคืน ขาก็ยิ่งอ่อนแล้วก่อนหน้านี้อี้อ๋องถูกลอบสังหารที่เจียงโจว ฝ่าบาทส่งจั่วเยี่ยน ผู้บัญชาการหน่วยกระบี่เงามาตรวจสอบที่เจียงโจวโดยเฉพาะใครจะรู้ว่าทันทีที่จั่วเยี่ยนมา ไม่เพียงตามหาอี้อ๋องจนพบ และยังสืบพบคดีสำคัญอย่างเจียงโจวอ๋องมีเจตนาก่อกบฏทั้งแวดวงขุนนางเจียงโจวสั่นสะเทือน คนก็ถูกฆ่าไปแล้วหลายชุดท่านเจ้าเมืองถังก็ได้เลื่อนตำแหน่งเพราะเหตุนี้ ถูกย้ายมารับตำแหน่งเจ้าเมืองเจียงหนิงที่เจียงโจวเดิมทีเขาคิดว่าอี้อ๋องกลับเมืองหลวงภายใต้การคุ้มกันของหน่วยกระบี่เงากับทหารรักษาพระองค์ ตั้งแต่เมื่อไหร่วันก่อนแล้วใครจะคิดว่าเขายังอยู่เจียงโจว?นี่ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย เขาจะรับผิดชอบไหวได้อย่างไร? เมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ หัวใจดวงน้อยของเขาก็เต้นเร็วขึ้นเขากลัวแล้วแม้ท่านเจ้าเมืองถังตกใจมาก แต่เขาไม่ได้โง่เขลาเซียวจิ่งอี้แค่ส่งผู้ใต้บังคับบัญชามาถ่ายทอดคำพูด ไม่เคยปรากฏตัวในที่ว่าการ ตอนนี้ก็สวมเสื้อผ้าธ

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status