แชร์

บทที่ 152

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
“พวกเจ้าว่า แม่นางอวิ๋นจะกล้ารับคำท้าหรือไม่?”

เหล่าผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันจนบรรยากาศคึกคัก ทว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับตกอยู่ในอาการสับสนมึนงง

ประลองวิชาแพทย์? นี่มันเรื่องอะไรกัน?

แล้วประลองอย่างไร?

เคราะห์ดีที่หลิงโหยวกระซิบอธิบายให้ฟังได้ถูกเวลา “ประลองวิชาแพทย์เป็นธรรมเนียมที่มีมาอยู่ตลอดในแวดวงการแพทย์ขอรับ”

“แรก ๆ นั้นมีไว้เพียงเพื่อขัดเกลาฝีมือการแพทย์ พัฒนาก้าวข้ามตนเองเท่านั้น”

“หลัง ๆ มาความหมายของมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป”

“วิถีทางการแพทย์พัฒนามาได้จวบจนถึงทุกวันนี้ เพราะโดยทั่วไปแล้วในแต่ละพื้นที่ล้วนมีตระกูลแพทย์ที่มีอิทธิพลแสนมั่นคงร่วมมือกันแบ่งอำนาจไป”

“หากหมออยากทำงาน โดยทั่วไปแล้วก็จะเลือกพึ่งพาอาศัยสำนักแพทย์ประจำท้องที่ เมื่อทำเช่นนี้ก็จะลดความยุ่งยากไปได้มากขอรับ”

อวิ๋นฝูหลิงแสดงท่าทีเข้าใจ ความหมายก็คือเมื่อมีคนใหม่เข้ามาร่วมวง ก็จำต้องทำความเคารพผู้เป็นหัวหน้าเสียก่อน

มีคนคอยคุ้มกะลาหัว จึงจะไม่ถูกกลั่นแกล้งรังแก

อีกทั้งสำนักแพทย์ที่แบ่งเขตอิทธิพลกันเรียบร้อยเหล่านั้นก็ไม่คาดหวังว่าจะมีคนใหม่เข้ามาแบ่งเค้กชิ้นนี้เพิ่มอีก

“ไม่อย่างน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
จะไปประลองทำเพื่อ ไม่กลัวมันใช้วิธีสกปรกเลยเหรอ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 153

    อวิ๋นฝูหลิงยิ้มซาบซึ้งไปทางนายท่านหางและท่านหมอหางจากนั้นจึงหันไปทางท่านหมอซุนแล้วกล่าววาจาเสียงดัง “ประลองวิชาแพทย์ก็ประลองวิชาแพทย์ ท่านคิดจะประลองเช่นไร?”เหล่าผู้คนที่มุงดูต่างพากันส่งเสียงอื้ออึงกันในบัดดลนึกไม่ถึงว่าแม่นางอวิ๋นจะกล้ารับคำท้าแต่พอลองคิดดูอีกที หากแม่นางอวิ๋นคิดจะเป็นหมออยู่ที่เขตปกครองเจียงหนิง นอกจากรับคำท้าแล้ว ก็ไม่มีหนทางอื่นให้เลือกอีกท่านหมอซุนเห็นแม่นางอวิ๋นรับคำท้า จึงยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีหยิ่งยโสนางสตรีไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!เขาจะทำให้นางได้รู้ซึ้ง จะเป็นหมอรักษาคนนั้นมิใช่เรื่องที่สตรีเช่นนางจะทำได้!สตรีน่ะ ก็ควรทำตัวว่าง่ายอยู่แต่ในเรือนหลัง คอยเกื้อกูลสามีอบรมสั่งสองบุตรให้ดี ประพฤติตนให้เหมาะสม!ท่านหมอซุนเอ่ยปากว่า “เจ้ากับข้าจะไปนั่งตรวจไข้ที่ริมถนน แล้วตรวจโรคให้กับคนไข้ที่มาหา”“แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไข้คนไหนที่มารักษา ก็ห้ามปฏิเสธทั้งสิ้น”“กำหนดจำนวนอยู่ที่สิบคน ใครที่สามารถรักษาอาการให้คนไข้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาสามวัน ก็จะเป็นผู้ชนะ”“คนที่แพ้ ต้องไสหัวออกไปจากเขตปกครองเจียงหนิง ชั่วชีวิตนี้ห้ามเป็นหมอรักษาคนอีก!”อวิ๋นฝูห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 154

    “หากถึงตอนนั้นแล้วยาสมุนไพรไม่พอ แล้วข้าทำเพียงได้แต่ควักเงินของตัวเองจ่ายออกไปก่อนเล่า!”“สำนักช่วยชีพมั่งมีไปด้วยเงินทองและอำนาจ เงินหนึ่งพันตำลึงนี้ถือว่าน้อยนัก สู้ให้มาสักสองพันตำลึงไม่ดีกว่าหรือ?”ในเวลาเพียงไม่นาน เงินหนึ่งพันตำลึงแปรเปลี่ยนกลายเป็นเงินสองพันตำลึงเสียแล้วนายท่านสวี่รู้สึกได้ว่าตนเองแทบจะหายใจไม่ออกอยู่รอมร่อเขาโบกมือขึ้นมาแล้วพูดออกไปโต้ง ๆ ว่า “หนึ่งพันตำลึงก็หนึ่งพันตำลึง!”เขาล้วงเสื้อผ้าบนกาย ไม่นานนักก็ล้วงตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงออกมาได้ แล้วยื่นให้อวิ๋นฝูหลิงไปอวิ๋นฝูหลิงรับไปด้วยอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ขอบคุณนายท่านสวี่เป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ!”ต่อให้นำไปซื้อยาสมุนไพร เงินหนึ่งพันตำลึงนี้ก็ใช้ไม่หมดส่วนหลังจากนี้ที่ว่าหากมีเหลือก็คืนให้ หากขาดไปก็ต้องชดนั้น จะคืนน่ะย่อมไม่อาจเป็นไปได้อยู่แล้ว แต่เงินชดน่ะต้องได้ชดแน่นอน!นึกไม่ถึงเลยว่าร่วมประลองวิชาแพทย์แล้ว นางยังจะถือโอกาสหลอกเอาเงินจำนวนหนึ่งมาจากสำนักช่วยชีพได้ที่อวิ๋นฝูหลิงทำเช่นนี้ อย่างแรกเลยคือเพราะนางเชื่อใจสำนักช่วยชีพไม่ลง กังวลว่าพวกเขาจะเล่นแง่กับยาสมุนไพรอย่างที่สองคือนางคิดจะใช้ย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 155

    อวิ๋นฝูหลิงเห็นลูกพี่อู๋เดี๋ยวหดมือเดี๋ยวหดเท้าดูไม่เป็นตัวของตัวเองแล้ว ก็อดหัวเราะพลางเอ็ดให้ไม่ได้ “ดูท่าทางเงอะงะของเจ้าสิ!”“ตอนกลับค่อยห่ออาหารขึ้นชื่อของที่นี่กลับไปสักสองสามให้ เอากลับไปให้พวกสวี่ตงได้ลองกินกัน”ลูกพี่อู๋หัวเราะแหะ ๆ “ขอบคุณแม่นางอวิ๋น”ที่นี่เป็นหอสุราอันดับหนึ่งประจำหัวเมืองเลยนา!หากเป็นเมื่อก่อน กระทั่งเขาจะเข้ามาในนี้ยังเข้ามาไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องเรื่องได้ลิ้มลองอาหารของที่นี่เลยทว่ายามนี้เขากลับได้นั่งกินอาหารบนโต๊ะอยู่ในห้องอาหารนี่ช่างวันชีวิตดี ๆ ที่เมื่อก่อนกระทั่งคิดก็ยังไม่กล้าเลยทีเดียวเชียวไว้กลับไปแล้ว เขาต้องไปคุยโวกับจางซานมู่และพรรคพวกของเขาอีกสองสามคนนั่นสักหน่อยแล้วว่าเขาเองก็เป็นคนที่เคยไปหอจุ้ยเซียนมาก่อนคนหนึ่ง!ครั้นกินมือกลางวันกันเสร็จ อวิ๋นฝูหลิงก็ไปเลือกสั่งอาหารอร่อย ๆ มาจำนวนหนึ่งเพื่อห่อกลับไปให้พวกสวี่ตงหลังจากออกมาจากหอจุ้ยเซียนแล้ว อวิ๋นฝูหลิงก็ไปตลาดม้าล่อที่เมืองบูรพาหนหนึ่งก่อนตลาดม้าล่อเป็นสถานที่ขายปศุสัตว์โดยเฉพาะอวิ๋นฝูหลิงตั้งใจจะซื้อรถม้าคันหนึ่งไว้เป็นพาหนะแทนการเดินเท้าทว่าพอเดินดูตลาดม้าล่อไปรอบหนึ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 156

    นายท่าหางเดินทางไปในครานี้ เกรงว่าพรุ่งนี้เช้านั่นแหละจึงจะกลับมาได้ยังไม่ทันที่ท่านหมอหางจะได้เอ่ยถามไถ่ นายท่านหางก็กระโดดขึ้นรถม้าจากไปแล้วส่วนอวิ๋นฝูหลิงก็นั่งโยกเยกอยู่บนรถม้าไปตลอดทางจนกลับไปถึงหมู่บ้านซวงหลินเรือนของสกุลอวิ๋นกำลังอยู่ในช่วงสร้างใหม่ ยามนี้พอจะเริ่มเห็นเป็นเค้าโครงขึ้นมาแล้วอวิ๋นฝูหลิงเดินดูลานก่อสร้างรอบหนึ่งเพื่อดูความก้าวหน้า และพอทักทายกับทุกคนแล้ว นางจึงไปจัดการกิจของตนเองนางคิดจะจัดการกับยาสมุนไพรในมิติสักเล็กน้อย ลองดูว่ามียาสมุนไพรตัวไหนหยิบออกมาใช้ได้บ้างส่วนลูกพี่อู๋ก็ถือกล่องอาหารไปหาพวกจางซานมู่เทียนเฉวียนหาโอกาสได้ จึงนำเรื่องที่สำนักช่วยชีพจะทำการประลองวิชาแพทย์กับแม่นางอวิ๋นไปรายงานแก่เซียวจิ่งอี้ครั้นเซียวจิ่งอี้ได้ฟัง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ฝีมือการแพทย์ของแม่นางอวิ๋นสูงยิ่ง นางกล้ารับคำท้า ก็คงจะเอาชนะได้นั่นแหละ”“แต่กลัวว่าสำนักช่วยชีพจะเล่นลูกไม้ใส่”“นายท่านสวี่ผู้นั้นดำเนินกิจการอยู่ในเขตปกครองเจียงหนิงมานานหลายปี ไม่ว่าจะเส้นสาย เงินทอง หรืออำนาจล้วนเหนือกว่าแม่นางอวิ๋นทุกด้าน”“ในเมื่อพวกเขากล้าเป็นฝ่ายเสนอตัวต้องการประลอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 157

    นายท่านผู้เฒ่าหางนั้นมีอายุเกินเจ็ดสิบปีแล้ว ผมเผ้าหนวดเคราล้วนขาวโพลนไปหมด ทว่าใบหน้าของเขากลับยังเปล่งปลั่งดูมีชีวิตชีวา เห็นได้ว่าปกติแล้วเขาบำรุงรักษาดูแลตนเองเป็นอย่างดีครั้นรู้ว่าหลานชายมาเยี่ยมหา นายท่านผู้เฒ่าหางก็ตกใจยิ่งนัก“เหตุใดเจ้าถึงกลับมาฉุกละหุกเช่นนี้?”“มาเยี่ยมหาข้านี่มีเรื่องอันใดกัน?”นายท่านหางพยักหน้า เล่าเรื่องที่ท่านหมอซุนแห่งสำนักช่วยชีพต้องการประลองวิชาแพทย์กับแม่นางอวิ๋นในวันพรุ่งนี้ให้ฟังนายท่านผู้เฒ่าเอ่ยถาม “แม่นางอวิ๋นที่ผ่าเปิดท้องคุณชายน้อยสกุลลู่ ทว่าคนกลับมีชีวิตอยู่รอดต่อมาได้ผู้นั้นน่ะหรือ?”เรื่องที่แม่นางอวิ๋นผ่าเปิดท้องช่วยชีวิตคนนั้น ได้กลายเป็นเรื่องเอะอะฮือฮาไปทั่วทั้งหัวเมืองมานานแล้วแม้นายท่านผู้เฒ่าหางจะไม่ชอบออกไปนอกเรือนนัก ทว่ากลับเคยได้ยินได้ฟังมาเช่นกันเขาสนใจขึ้นมาในทันที“ไม่ได้เห็นคนประลองวิชาแพทย์กันมานานหลายปีแล้ว”“พรุ่งนี้ข้าเองก็ไปร่วมชมความครึกครื้นด้วยดีกว่า จะได้เจอแม่นางอวิ๋นในข่าวเล่าข่าวลือผู้นั้น”ที่นายท่านหางเดินทางกลับมาพบนายท่านผู้เฒ่าที่บ้านเดิมครานี้ ก็ด้วยเดิมทีเขาอยากจะถามเรื่องสกุลอวิ๋นจากนายท่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 158

    เขาผ่อนลมหายใจ แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “ไม่เป็นไร แค่คนไข้พวกนั้น ก็มาพอที่จะทำให้พวกเราชนะนางแล้ว!”ท่านหมอซุนพยักหน้า มั่นใจเต็มเปี่ยมในการประลองวิชาแพทย์วันพรุ่งนี้จันทราลาลับทินกรทอแสง วันใหม่เดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วสกุลอวิ๋นครึกครื้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพราะเมื่อวานลูกพี่อู๋หลุดพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจ สมาชิกสกุลอวิ๋นทุกคนจึงรู้เรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงต้องประลองวิชาแพทย์กับคนอื่นในวันนี้อวิ๋นจิงมั่วโวยวายจะตามไปด้วย เขาจะไปเป็นกำลังใจให้ท่านแม่พวกลูกพี่อู๋ทั้งสี่คนกลัวว่าแม่นางอวิ๋นจะเสียเปรียบ จึงอยากไปด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความน่ากริ่งเกรงสุดท้ายแม้กระทั่งเซียวจิ่งอี้ก็แสดงตัวว่าอยากไปด้วยอวิ๋นฝูหลิงเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว จึงให้ทุกคนที่อยากไปเดินทางไปด้วยกันมันเสียเลยหลังคนทั้งคณะกินข้าวเช้ากันเรียบร้อย ก็พากันเฮโลตรงดิ่งไปที่หัวเมืองสถานที่ประลองวิชาแพทย์จัดขึ้นที่ปากทางถนนใหญ่บูรพาวิถีถนนใหญ่บูรพาวิถีเป็นถนนที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดประจำหัวเมือง มีร้านรวงตั้งอยู่มากมาย สำนักผิงอัน สำนักช่วยชีพ และสำนักแพทย์อื่น ๆ ก็ตั้งอยู่บริเวณใกล้ ๆแม้จะเป็นเวลาเพียงแค่หนึ่งวัน แต่ข

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 159

    ครั้นหมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งหันไปมองตามเสียง จึงเห็นนายท่านผู้เฒ่าหางเดินลงมาจากรถม้าสีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนในฉับพลันทันใด รีบหมุนกายไปต้อนรับด้วยท่าทางอย่างผู้อ่อนอาวุโส“ท่านอาจารย์อาหางมาได้อย่างไรขอรับ?”นายท่านผู้เฒ่าหางพยักหน้าให้หมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งเล็กน้อย “ได้ยินว่าวันนี้มีเรื่องครึกครื้นใหญ่ เจ้าเองก็มาชมความครึกครื้นกับเขาด้วย?”หมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งถึงกับโอดครวญในใจไม่หยุดไม่กี่วันก่อนเข้าขึ้นไปหาสมุนไพรตัวหนึ่งบนเขาหนานอัน เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เองใครเล่าจะรู้ว่าเพิ่งกลับมา คนของอี้อ๋องก็มาหาถึงหน้าประตู เชิญให้เขาต้องมาชมการประลองในวันนี้ให้ได้เสียแล้วแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสำนักหมอหลวงแล้ว แต่ยังมีลูกหลานในตระกูลอยู่ในสำนัก เขาย่อมคิดเผื่อลูกหลานอยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นคำสั่งของราชนิกุล มีหรือที่เขาจะกล้าไม่ปฏิบัติตามทว่าเรื่องเช่นนี้ ล้วนไม่จำเป็นต้องให้คนนอกรู้หมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งก็พูดตามน้ำไปกับนายท่านหันในทันที “ขอรับ ไม่ได้เห็นการประลองวิชาแพทย์มาหลายปีแล้ว!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้วก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “เหตุใดหมอหลวงผู้เฒ่าเจิ้งถ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 160

    ลูกพี่อู๋และคนอื่น ๆ อีกสองสามคนล้วนตามไปช่วยเซียวจิ่งอี้ไม่อยากเปิดเผยสถานะที่แท้จริง จึงไม่ตามไปสมทบ ทว่ากลับไปซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนเขาจับมืออวิ๋นจิงมั่วไว้ แล้วกล่าวกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “ข้าจะดูแลจิงมั่วให้ดี เจ้าไม่ต้องกังวล สนใจแค่การประลองก็พอ!”อวิ๋นจิงมั่วกำหมัดเล็ก ๆ ของตนเอง แสดงท่าทางให้กำลังใจ “ท่านแม่ ท่านต้องชนะแน่!”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวขอบคุณเซียวจิ่งอี้ จากนั้นจึงย่อตัวประทับจูบลงบนแก้มของอวิ๋นจิงมั่ว“มีมั่วมั่วมาคอยให้กำลังใจด้วยตัวเองแบบนี้ แม่ต้องทุ่มเทสุดกำลังแน่นอน!”สำนักช่วยชีพจัดเตรียมของที่ต้องใช้ในการประลองวิชาแพทย์เสร็จเรียบร้อยแล้วโต๊ะ เก้าอี้ เตียงไม้ เตาไฟ หมอดินเผาสำหรับต้มยาและของอื่น ๆ มีอยู่จำนวนไม่น้อยท่านหมอซุนหยิบหมอนหนุนจับชีพจร เข็มเงินและข้าวของต่าง ๆ ออกมาจากกล่องยา วางไว้บนโต๊ะทีละอย่าง ๆครั้นเห็นอวิ๋นฝูหลิงเดินมา เขาก็ประสานมือแล้วยิ้มพลางกล่าว “แม่นางอวิ๋น วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ไม่เจ้าก็ข้าคนใดคนหนึ่งจะได้เป็นหมอรักษาคนเป็นวันสุดท้าย อีกประเดี๋ยวแม่นางอวิ๋นต้องทุ่มเทสุดชีวิตนะ เพราะหากแพ้พ่าย เดี๋ยวมันจะน่าอดสูเอา!”เขาชะงักไปเล็กน้อย

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 376

    อวิ๋นฝูหลิงตรวจดู จมูกของเด็กไม่มีน้ำคร่ำอุดตัน แล้วก็มองหว่างขาของเด็กแวบหนึ่งเป็นเด็กผู้ชายเด็กออกจากน้ำคร่ำของมารดา ราวกับรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ก็ร้องไห้อุแว้ๆ เสียงดังทันทีแต่ว่าเสียงกลับเบากว่าเด็กทารกทั่วไปแม้ไม่ได้เสียงดังมาก แต่ทุกคนที่รออยู่นอกห้องคลอดยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กทารกชั่วขณะฉู่หมิงตะลึงเล็กน้อย เงยหน้ามองไปทางฮูหยินฉู่ กล่าวอย่างเหม่อลอย “ท่านแม่ ท่านได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?”ฮูหยินฉู่ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กเช่นกันแต่นี่ก็เร็วเกินไปแล้วตั้งแต่พวกเขาเข้าไปจนถึงตอนนี้ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลยนี่ก็คลอดแล้ว?พระชายาคังจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างตื่นเต้น “เป็นเสียงร้องไห้ของเด็ก!”“คลอดแล้ว คลอดแล้ว!”“แต่ไม่รู้ว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?”เมื่อได้ยินเสียงรอบข้าง ฉู่หมิงมั่นใจแล้วว่าเมื่อครู่ตัวเองไม่ได้หูฝาดลูกของเขาเกิดแล้ว!ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข ตื่นเต้นจนจะวิ่งเข้าห้องคลอดโชคดีที่ฮูหยินฉู่ดึงเขาไว้ทันเวลา“เจ้ารีบร้อนอะไร รอเฉยๆ ก่อน!”รอในห้องคลอดจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว หมอตำแยต้องอุ้มเด็กออกมาให้พวกเขาดูแน่น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 375

    พลันอวิ๋นฝูหลิงเหลือบไปมอง หมอหญิงติงจึงจะรู้ตัวว่าไม่ควรส่งเสียง รีบยกมือปิดปากทันทีอวิ๋นฝูหลิงกลับเริ่มไม่ปลื้มแล้วแค่นี้ก็เอะอะส่งเสียงดัง ขวัญอ่อนเกินไปแล้วนางหันไปมองเหยากวงแวบหนึ่งเหยากวงเดินเข้าไปหิ้วหมอหญิงติง โยนนางออกจากห้องคลอดโดยตรงเมื่อหมอหญิงติงออกจากห้องคลอด ก็ถูกสายตาหลายคู่จ้องมองหมอหลวงรีบเดินเข้าไปสอบถามทันที “เจ้าออกมาได้อย่างไร สถานการณ์ข้างในเป็นอย่างไรบ้าง?”เพราะเหยากวงโยนคนออกมาก็กลับเข้าไปแล้ว การเคลื่อนไหวของนางเร็วมาก ทำให้อยากถามนางก็ถามไม่ทันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สายตาของทุกคนจ้องไปที่หมอหญิงติงหมอหญิงติงรู้ว่าตัวเองทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถูกอวิ๋นฝูหลิงรังเกียจแล้วหมอหลวงจงมาถามเวลานี้ นางยิ่งอับอายแล้วใบหน้าของนางแดงก่ำ พูดจาอ้ำอึ้ง “การผ่าตัดเริ่มแล้ว ข้า…ข้าไม่กล้าลงมีด ก็เลยออกมาแล้ว”หมอหลวงจงมองนางอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง เริ่มขมวดคิ้วในเมื่อเป็นการผ่าท้องทำคลอด ย่อมขาดการลงมีดไม่ได้เรื่องนี้นางรู้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือในเมื่อกลัวลงมีด เหตุใดยังต้องตอบตกลงตามโอวหยางหมิงมา?ความสามารถในการเลือกคนของโอวหยางหมิง ต้องพัฒนาแล้วจริงๆแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 374

    พระชายาคังจวิ้นอ๋องก็ประหม่าเช่นกัน อย่างไรก็ตามอีกเดี๋ยวคนที่จะถูกผ่าท้องคือลูกสาวของตนเองไม่เพียงพวกนางสองแม่ลูก คนอื่นก็ประหม่าไม่มากก็น้อยเช่นกันมีเพียงคนเดียวที่ไม่ประหม่าก็คงเป็นอวิ๋นฝูหลิงแล้วชาติที่แล้วนางเคยทำการผ่าตัดเช่นนี้ครั้งนับไม่ถ้วน ชินนานแล้วฮูหยินน้อยฉู่เห็นท่าทางของอวิ๋นฝูหลิงดูสงบมาก ราวกับมีความมั่นใจในการผ่าตัดของวันนี้มากความประหม่าของนางจึงจะบรรเทาลงบ้างฮูหยินน้อยฉู่ถูกส่งเข้าไปในห้องคลอด ส่วนพระชายาคังจวิ้นอ๋องถูกอวิ๋นฝูหลิงห้ามไว้ที่นอกห้องคลอดอย่างไรก็ตามอีกเดี๋ยวจะเป็นภาพที่นองเลือด นางกลัวพระชายาคังจวิ้นอ๋องที่เป็นแม่คนนี้รับไม่ไหว จะส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดสกุลฉู่ทำตามคำขอของอวิ๋นฝูหลิง เลือกห้องที่สะอาด กว้าง และแสงดีมากมาทำเป็นห้องคลอดภายในห้องคลอดมีแค่เตียงนอนหนึ่งเตียง โต๊ะหนึ่งตัว และเก้าอี้อีกสองสามตัวและรมควันชางจู๋ทั้งห้องตามที่อวิ๋นฝูหลิงบอกหนึ่งรอบก่อนฮูหยินน้อยฉู่เข้าห้องคลอด ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและสะอาดแล้วหลังจากเข้าห้องคลอด นางถอดเสื้อชั้นนอก สวมเพียงเสื้อชั้นในนอนลงบนเตียงไม้ด้านบนของเตียงไม้ มีผ้าม่านแขว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 373

    อวิ๋นฝูหลิงอบรมขั้นพื้นฐานหมอหญิงทั้งสี่คนก่อนเข้าผ่าตัดระหว่างการอบรม นางก็คอยสังเกตคุณสมบัติของหมอหญิงทั้งสี่คนในบรรดาพวกนาง มีหมอหญิงคนหนึ่งแซ่ซุน เรียนได้เร็วที่สุดและดีที่สุด ความจำก็ดีคนต่อมาก็คือหมอหญิงแซ่ติงอวิ๋นฝูหลิงตั้งใจจะให้หมอหญิงซุนกับหมอหญิงติงเป็นผู้ช่วยของนางหมอและหมอหญิงล้วนมากันครบแล้ว อวิ๋นฝูหลิงไปตรวจห้องคลอดและวัตถุดิบยาที่สกุลฉู่เตรียมไว้อีกครู่หนึ่งเมื่อเห็นของพร้อมแล้ว และไม่มีข้อผิดพลาดอะไร อวิ๋นฝูหลิงแอบโล่งอกถ้าหากมีคนคิดไม่ดีจริงๆ ลงมือจากวัตถุดิบยาเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดก็เหมือนกับครั้งก่อนตอนรักษาฮ่องเต้จิ่งผิง มีคนสลับวัตถุดิบยาดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงใส่ใจวัตถุดิบยาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด นางยังลากโอวหยางหมิงและคนอื่นมาช่วยกันตรวจด้วยกลับพบว่าวัตถุดิบยาที่สกุลฉู่ไม่มีปัญหาเลยแต่ว่าอวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ได้ประมาท ให้หมอหลวงจงกับโอวหยางหมิงร่วมกันรับผิดชอบดูแลเรื่องวัตถุดิบยาและการต้มยาโอวหยางหลันคิดแค่ว่าอวิ๋นฝูหลิงใช้ยาอย่างระมัดระวัง เป็นการปฏิบัติในฐานะหมอที่มีความรับผิดชอบหมอหลวงจงกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จากกา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status