แชร์

บทที่ 105

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
“คุณชาย ฟ้ามืดแล้ว วันนี้กลับเข้าเมืองไม่ทันแล้ว คงต้องลำบากท่านพักแรมที่ข้างนอกสักคืน”

องครักษ์ที่ขับรถม้าเดินเข้าไป กล่าวรายงานผ่านม่าน

“รู้แล้ว” เสียงที่ไพเราะสายหนึ่งดังออกมาจากในรถม้า

องครักษ์ที่พูดลากรถม้าไปทางสถานที่ที่อวิ๋นฝูหลิงและคนอื่นตั้งค่าย

สุดท้ายหยุดลงตรงจุดที่ห่างจากพวกเขาระยะหนึ่ง

ทันทีที่รถม้าหยุดลง คนที่แต่งตัวเหมือนเด็กรับใช้คนหนึ่งลงมาจากรถม้าก่อน หลังจากนั้นหันไปประคองคนที่อยู่ในรถม้า

“คุณชาย ท่านช้าหน่อย!”

ภายใต้การประคองของเด็กรับใช้ ชายหนุ่มสวมอาภรณ์สีขาวพระจันทร์เดินออกมาจากในรถม้า

ผมของเขาดำดุจหมึก ขับให้ใบหน้าขาวดังหิมะ ระหว่างคิ้วมีภาวะของการเจ็บป่วยแฝงอยู่

แม้เป็นฤดูร้อนที่อบอ้าว แต่เขากลับสวมผ้าคลุมกันลม เห็นได้ชัดว่าเป็นโรคกลัวหนาว

เมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียง ก็เงยหน้ามองแวบหนึ่ง

สายตาของเขากับอวิ๋นฝูหลิงบรรจบกันพอดี พลันพยักหน้าให้นางเล็กน้อยอย่างเกรงใจ

อวิ๋นฝูหลิงก็พยักหน้าคืนอย่างสุภาพ

เมื่อชายหนุ่มลงจากรถม้า ผู้ติดตามของเขาก็เริ่มทำงานทันที

ปูเบาะรองนั่ง จุดธูปไล่ยุ่งและแมลง ต้มน้ำชงชา ปิ้งขนมแป้ง

หลังจากขนมแป้งขาวถูกปิ้ง กลิ่นหอมของ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 106

    เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กรับใช้อยากหายาของคุณชายคืนมาก็ยากแล้วเขาเริ่มร้องไห้โฮ“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”หลังจากอวิ๋นฝูหลิงเห็นชายหนุ่มคนนั้นมอบขนมแป้งให้ ในใจก็รู้แล้วว่าแย่แน่แล้วผู้ประสบภัยเหล่านั้นลุกฮือเหมือนแมวที่ได้กลิ่นคาวอย่างที่คิดนางกลัวผู้ประสบภัยเหล่านั้นแย่งของจนติดใจ จะลงมือกับพวกเขาเป็นรายต่อไป ดังนั้นจึงรีบสั่งให้ชาวบ้านระวังตัวใครจะรู้ว่าจู่ๆ ชายหนุ่มคนนั้นก็ล้มลงอวิ๋นฝูหลิงไม่มีเวลาให้คิดมาก รีบพุ่งพรวดเข้าไปช่วยคนทันที“ข้าเป็นหมอ ให้ข้าดูเขาหน่อย!”เมื่อองครักษ์ที่จะเข้ามาขวางในตอนแรกได้ยิน ก็ปล่อยนางเข้าไปทันทีอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจร พบว่าหัวใจของคนคนนี้หยุดเต้น และไม่มีชีพจรแล้วนางคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเมื่อครู่ ผู้ประสบภัยลุกฮือแย่งของกะทันหัน ชั่วขณะชายหนุ่มสะเทือนใจ อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นนางทำการปั๊มหัวใจทันทีหวังว่ายังจะกู้ชีพทันเวลาเด็กรับใช้กับองครักษ์เห็นหลังจากอวิ๋นฝูหลิงตรวจชีพจร ก็วางสองมือลงบนหน้าอกคุณชายก็กดไม่หยุดพวกเขาไม่เคยเห็นวิธีช่วยคนเช่นนี้ แอบสงสัยว่าอวิ๋นฝูหลิงคงจะไม่ใช่หมอผีหรือแม่มดอะไรกระมัง?

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 107

    เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง กู้อี่อันเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อร่างกายเขาอ่อนแอตั้งแต่เด็ก กินยากับกินข้าวพอๆ กันหมอยิ่งไปหามาแล้วกี่คนก็ไม่รู้ แม้แต่หมอหลวงในวัง ก็เคยทุ่มเงินหาเส้นสายเชิญมาตรวจชีพจรให้เขา แต่ไม่เคยมีหมอคนไหนที่สามารถบอกอาการของเขาเหมือนกับอวิ๋นฝูหลิง ยิ่งกว่านั้นยังกล้าพูดว่าสามารถรักษาได้กู้อี่อันตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวเสียงสั่น “ได้โปรดท่านหมอเทวดาช่วยลงมือขจัดโรคภัยให้ข้า ท่านหมอเทวดามีข้อเรียกร้องอะไร พูดมาได้เลย!”อวิ๋นฝูหลิงนำยาสงบจิตออกมาหนึ่งขวด “เมื่อรู้สึกหัวใจไม่สบายก็กินหนึ่งเม็ด”“ขวดนี้มียี่สิบเม็ด หนึ่งเม็ดสองตำลึงเงิน ทั้งหมดยี่สิบตำลึง”“ต่อไปพยายามทำใจให้สงบ ห้ามมีอารมณ์ที่ดีใจหรือเศร้าอย่างรุนแรง”“ข้าจ่ายเทียบยาให้ท่านอีกหนึ่งใบ ท่านนำเทียบยาไปหาซื้อยาที่ร้านยาเอง กินก่อนสิบเทียบ หลังจากกินหมดข้าจะตรวจท่านใหม่”“ค่ายาลูกกลอน บวกค่ารักษา บวกค่าเทียบยา ทั้งหมดเป็นห้าสิบตำลึงเงิน!”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวจบ เห็นกู้อี่อันไม่มีปฏิกิริยา อดไม่ได้ที่จะคิดหรือนางขอมากเกินไป?คนคนนี้เป็นนายน้อยของร้านค้าอะไรสักอย่าง ห้าสิบตำลึงเงินสำหรับ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 108

    “ทางฝ่าบาทต้องขอคำอธิบายกับเจ้าแน่ ไม่เช่นนั้นยากจะผ่านด่านไทเฮา”จั่วเยี่ยนเข้าใจทันทีว่าเซียวจิ่งอี้กำลังชี้แนะเขาเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ อย่างไรก็ต้องมีคำอธิบายอีกทั้งการตายของเจียงโจวอ๋อง ต้องทำให้ไทเฮาไม่พอใจฝ่าบาทแน่นอน ความผิดนี้จะไปตกที่ฝ่าบาทไม่ได้เด็ดขาดจั่วเยี่ยนนึกถึงสิ่งที่สืบพบในช่วงนี้ ในใจมีแผนรับมือแล้ว“ท่านอ๋อง เมื่อช่วงที่ผ่านมา ผู้น้อยได้ตรวจนับพยานบุคคลและพยานหลักฐานเกี่ยวกับการก่อกบฏของเจียงโจวอ๋อง พบว่ากุนซือข้างกายคนหนึ่งของเจียงโจวอ๋องหายไปขอรับ”“คนผู้นี้แซ่เหวิน ไม่ทราบชื่อที่แน่ชัด ทุกคนเรียกเขาว่าท่านจอมปราชญ์เหวิน”“เขาเป็นกุนซือข้างกายเจียงโจวอ๋องที่ได้รับความสำคัญและไว้วางใจที่สุด เจียงโจวอ๋องลักลอบขุดเหมืองเหล็ก สร้างอาวุธ ฝึกทหารโดยพลการ ล้วนเป็นฝีมือของเขา”“แต่หลังจากเกิดเรื่อง คนคนนี้กลับหายไปราวกับระเหยไปจากโลกนี้แล้ว”เซียวจิ่งอี้ขมวดคิ้ว “กุนซือคนหนึ่ง สามารถหนีรอดจากการไล่ล่าของหน่วยกระบี่เงา?”แรกเริ่มจั่วเยี่ยนก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพิ่งจะรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อไม่นานมานี้เอง“ท่านอ๋อง เกรงว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดาขอรับ!”เซียวจิ่งอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 109

    แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เรื่องราวกลับแพร่กระจายออกไป กลายเป็นข่าวครึกโครมไทเฮาไม่สามารถทนดูคุณหนูใหญ่อวิ๋นเสียชื่อ จึงมีพระบัญชาประทานงานแต่งให้คนทั้งสองใครจะรู้ว่าพระบัญชาเพิ่งไปถึงจวนจี้ชุนโหว ก็มีข่าวคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นไม่สามารถทนต่อความอัปยศ ภายใต้ความอับอาย จึงจุดไฟเผาตัวเองต่อมาหลังจากเซียวจิ่งอี้สืบพบความจริง ในใจรู้สึกผิดต่อคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นมากพอดีกับช่วงนั้นเขาไม่อยากอยู่ในเมืองหลวง เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระหว่างเหล่าองค์ชายด้วยกัน จึงอาศัยเรื่องนี้ไปที่ชายแดนเหนือปัจจุบันเซียวจิ่งอี้นึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น จำได้เพียงภายใต้ความโกรธที่ตัวเองหลงกลอุบายของผู้อื่น ไม่อยากมองหน้าคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นแม้แต่แวบเดียวเรื่องราวผ่านไปนานเช่นนี้แล้ว ปัจจุบันเขาย่อมจำไม่ได้ว่าหน้าตาของคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นเป็นอย่างไรแล้วเดิมทีเรื่องนี้ถูกเขาฝังไว้ในส่วนลึกของความทรงจำแล้ว แต่ตั้งแต่พบว่าอวิ๋นจิงมั่วมีหกนิ้ว จู่ๆในใจของเขาก็เกิดความสงสัยคุณหนูใหญ่อวิ๋นอาจจะยังไม่ตาย!บางทีแม่นางอวิ๋นท่านนั้น ที่จริงก็คือแม่นางอวิ๋น!เขาไม่ได้บอกการคาดเดาในใจของตัวเองกับจั่ว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 110

    เรื่องแผนกบฏของเจียงโจวอ๋องความแตก ต้องเกี่ยวข้องกับอี้อ๋องแน่นอนหลายวันนี้คนของเจียงโจวอ๋องตามหาเบาะแสอี้อ๋องไปทั่ว แทบจะพลิกทั้งแผ่นดินเจียวโจวแล้ว กลับไม่เจอแม้แต่เงาเวลานี้ท่านจอมปราชญ์เหวินลองคิดดูอย่างละเอียด สถานที่ที่อี้อ๋องถูกดักฆ่า ก็อยู่ห่างจากเขาเฟิ่งลั่วร้อยลี้เพียงแต่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยสังเกตเรื่องนี้ตอนถูกดักฆ่า อี้อ๋องหนีเอาชีวิตรอดอย่างตื่นตระหนก หลงเข้าไปในเขาเฟิ่งลั่ว และบังเอิญพบกับฝายเจียงหลิงแตก เช่นนั้นพวกเขาหาคนที่ข้างนอกไม่เจอมันก็ไม่แปลกแล้วอี้อ๋องเข้าไปในเขาเฟิ่งลั่ว ก็ย่อมพบความลับของเหมืองเหล็กหลังจากนั้นก็สืบมาจนถึงคลังอาวุธกับค่ายทหาร แล้วติดต่อหน่วยกระบี่เงารวบเจียงโจวอ๋องในคราวเดียวน่าเสียดายแผนที่เขาวางมาอย่างดิบดีในหลายปีนี้ ความพยายามทั้งหมดมันสูญเปล่าแล้ว หลังจากความแตก ท่านจอมปราชญ์เหวินเข้าลอบเข้าจวนอ๋อง เกลี้ยกล่อมเจียงโจวอ๋องเริ่มลงมือแม้ถูกจับได้แล้ว แต่ในมือเจียงโจวอ๋องมีทหารมีเงิน ไม่แน่ว่าความพยายามครั้งสุดท้ายอาจสามารถพลิกสถานการณ์แต่เจียงโจวอ๋องกลับเป็นคนใจเสาะ กลัวเสียแล้วและยังคิดหลังจากถูกคุมตัวกลับเมืองหลวง จะ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 111

    แม้ว่าก่อนมา กำนันของตำบลผิงเล่อจะบอกว่าที่ว่าการเขตปกครองเจียงหนิงกำลังให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดระเบียบที่อยู่อาศัย แต่จนกว่าเรื่องจะเข้าที่เข้าทาง ในใจของทุกคนก็ต่างยังเป็นกังวลในยามนี้เมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากที่ว่าการ จึงรู้ว่าสามารถปักหลักอยู่ได้ ทำให้จิตใจของเหล่าชาวบ้านหมู่บ้านหลินซานผ่อนคลายลงบ้างหัวหน้าหมู่บ้านโจวนำคนไปเข้าแถวลงทะเบียนหลังจากกู้อี่อันมาถึงที่ว่าการเขตปกครองเจียงหนิง ก็มิได้บอกลาและจากไป แต่มาเป็นเพื่อนพวกอวิ๋นฝูหลิงที่ไปลงทะเบียนเพื่อลงหลักปักฐานเดิมทีอยากเชิญให้อวิ๋นฝูหลิงเข้ามาที่จวนเพื่อช่วยเขาฟื้นฟูร่างกาย แต่หลังจากถูกปฏิเสธ ก็วางแผนจะจดจำว่าอวิ๋นฝูหลิงลงหลักปักฐานที่ใด ในอนาคตหากอยากเชิญนางมาดูอาการ จะได้สามารถไปหานางได้เมื่อเห็นว่าพวกอวิ๋นฝูหลิงกำลังต่อแถวลงทะเบียน กู้อี่อันก็อ้างว่าจะไปพักด้านข้าง และฉวยโอกาสรีบใช้สายตาส่งสัญญาณให้ฉางโซ่วผู้เป็นคนรับใช้ของตนฉางโซ่วเข้าใจ จึงรีบเดินผ่านฝูงชนไปหาหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ก่อนจะยื่นตั๋วเงินให้เขาสองใบ และกระซิบบอกบางสิ่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นเห็นตั๋วเงิน ก็ยิ้มไปถึงดวงตา และพยักหน้าหลายครั้งห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 112

    นายท่านหางยังรอให้อวิ๋นฝูหลิงไปช่วยชีวิตคน จึงเร่งเร้าให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่หวังลงทะเบียนให้อวิ๋นฝูหลิงและลูกก่อนหัวหน้าเจ้าหน้าที่หวังผู้นั้นเมื่อได้ยินว่าชีวิตของคุณชายสกุลลู่อยู่ในอันตราย และอวิ๋นฝูหลิงก็เป็นหมอเทวดาที่นายท่านหางมาเชิญด้วยตัวเอง ก็รีบดำเนินการขั้นตอนของอวิ๋นฝูหลิงและลูกเสร็จอย่างรวดเร็วทางด้านหัวหน้าหมู่บ้านโจวก็ได้ยินคำพูดของนายท่านหางเช่นกัน ดังนั้นเมื่ออวิ๋นฝูหลิงและลูกลงทะเบียนเสร็จแล้ว เขาจึงกล่าวว่า “แม่นางอวิ๋น เจ้าไปช่วยคนกับนายท่านหางก่อนเถอะ หลังจากพวกข้าลงทะเบียนเสร็จแล้ว จะไปหาเจ้าที่สำนักผิงอัน”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า ก่อนจะส่งอวิ๋นจิงมั่วให้ลูกพี่อู๋ดูแลจากที่ได้ฟังจากนายท่านหาง คนเจ็บถูกส่งไปที่สำนักผิงอัน นางจะไปช่วยคน จึงไม่มีเวลาดูแลอวิ๋นจิงมั่วในยามนี้เองนายท่านหางได้กล่าวว่า “ข้าจะให้อาฝูอยู่ที่นี่ หากมีอะไรต้องการให้ช่วย ก็ให้อาฝูไปส่งข่าวที่สำนักผิงอันได้”อาฝูเคยเดินทางไปที่เขาเฟิ่งลั่วกับนายท่านหาง ดังนั้นทุกคนจากหมู่บ้านหลินซานจึงรู้จักเขาหัวหน้าหมู่บ้านโจวกล่าวขอบคุณโดยพลันคราแรกที่พวกเขามาถึง เขตปกครองเจียงหนิงก็สับสนเป็นอย่างมาก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 113

    หญิงงามผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านข้าง กำลังกำผ้าเช็ดหน้าพลางร้องไห้อย่างโศกเศร้า ทั้งยังสะอื้นไห้กับชายหนุ่มบนเตียงไม้เป็นครั้งคราว “ลูกชายของแม่...”ห่างออกไปไม่ไกลจากเตียงไม้มีเก้าอี้ไท่ซือตัวหนึ่งอยู่ ซึ่งหญิงชราผู้น่าเกรงขามผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แม้ในแววตาของนางจะมีความวิตกกังวล แต่กลับมั่นคงกว่าหญิงสาวผู้นั้นหลังจากนั้นครู่หนึ่ง ท่านหมอเจิ้งผู้มีเคราแพะก็เปลี่ยนสีหน้า “นี่ เลือดนี่มันไม่หยุดเลย!”หมอคนอื่นซึ่งเห็นปริมาณเลือดที่กำลังไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนักเช่นกัน“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป...”หมอผู้นั้นไม่ได้เอ่ยจนจบประโยค แต่หมอทุกคนที่นี่ต่างเข้าใจความหมายท่อนหลังที่ยังพูดไม่จบหากเลือดยังไหลไม่หยุดเช่นนี้ จะต้องเสียเลือดมากเกินไปจนสิ้นใจแน่นอนยามนี้เอง ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ก็ลุกขึ้นยืนโดยพลัน แต่เป็นเพราะเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ทำให้ร่างกายโซเซสาวใช้ด้านข้างรีบพยุงนางไว้ฮูหยินผู้เฒ่าลู่ผลักมือสาวใช้ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างสั่นเทา“ทุกท่าน หลานชายข้าปีนี้เพิ่งจะอายุสิบเจ็ด อายุยังน้อยนัก ทุกท่านโปรดช่วยชีวิตเขาด้วยเถิด!”กล่าวจบ ร่างของฮูหยินผู้เฒ่

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 500

    “เป็นของที่ข้าใช้ยาสมุนไพรล้ำค่ามากมาย และใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำออกมาได้ไม่กี่หยด”“ท่านต้องเก็บให้ดีนะ”“ไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บหรือถูกพิษ ไม่ว่าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน ไม่ว่าพิษรุนแรงแค่ไหน ขอแค่ยังมีลมหายใจ เมื่อดื่มมันแล้ว ก็จะไม่อันตรายถึงชีวิต ดังนั้นข้าจึงตั้งชื่อมันว่ายาไม่ตาย”“ยาไม่ตายนี่ท่านเก็บไว้ ถ้าหากไม่ต้องใช้มันย่อมดีที่สุด ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ท่านก็มีวิธีเอาตัวรอดมากขึ้น!”เซียวจิ่งอี้มองน้ำเต้าหยกที่ห้อยอยู่ตรงหน้าอก รู้สึกอุ่นใจราวกับแช่อยู่ในบ่อน้ำร้อนเขากอดอวิ๋นฝูหลิงไว้ในอ้อมแขน “วางใจได้ ข้าไปเจียงหนานครั้งนี้จะระวัง หลังจากนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย”อวิ๋นฝูหลิงกอดเขา “ท่านพูดแล้วนะว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย!”ทั้งสองอาลัยอาวรณ์อยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นฝูหลิงกล่าวกะทันหัน “หรือไม่ข้าไปกับท่านด้วย?”เซียวจิ่งอี้ยังไม่รู้ว่าทางเจียงหนานเป็นอย่างไร อีกทั้งไปสืบคดีขี้ผึ้งทองที่เจียงหนานครั้งนี้ ยังเกี่ยวข้องกับชาวแคว้นเยว่ ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมายแน่นอนเขาไม่อยากให้อวิ๋นฝูหลิงตกอยู่ในอันตราย“ทางเมืองหลวงยังต้องมีเจ้าคอยดูแล”“ข้าได้สั่งการลงไปแล้ว เพื่อไม่แหวกหญ้าใ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 499

    การลอบสังหารเมื่อครั้งก่อน ถ้าหากทำสำเร็จจริงๆ การตายของเซียวจิ่งอี้ต้องทำให้ฮ่องเต้จิ่งผิงโกรธมากแน่คนฉลาดล้วนมองออก ฮ่องเต้จิ่งผิงได้เลือกเซียวจิ่งอี้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ถ้าหากเซียวจิ่งอี้ตาย เพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอดราชบัลลังก์ องค์ชายทั้งหลายต้องเอาการตายของเซียวจิ่งอี้มาเป็นเครื่องมือใส่ร้ายกันและกันแน่นอนถึงเวลาเหล่าองค์ชายห้ำหั่นกัน ต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่นอนและเหตุการณ์ขี้ผึ้งทองครั้งนี้ยิ่งร้ายแรงถ้าหากขุนนางและชนชั้นสูงของต้าฉีล้วนติดขึ้ผึ้งทอง พวกเขาจะไม่ฟังคำสั่งชาวแคว้นเยว่ที่อยู่เบื้องหลัง มอบต้าฉีออกไปหรือ?ถึงเวลาชาวแคว้นเยว่ไม่เสียทหารแม้แต่คนเดียว ก็สามารถทำความฝันฟื้นฟูแคว้นให้เป็นจริงเมื่อจ้าวเสวียซือตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ อดไม่ได้ที่จะกัดฟันกล่าว “ชาวแคว้นเยว่พวกนี้น่ารังเกียจจริงๆ!”เดิมทีแคว้นเยว่เป็นแคว้นเล็กๆ ที่อยู่แถบชายแดนฮ่องเต้องค์สุดท้ายโหดร้ายและไร้ความสามารถ ส่งผลให้ราษฎรอยู่อย่างยากไร้ เกิดจลาจลขึ้นทุกหนทุกแห่ง ราษฎรพากันลุกฮือช่วงสุดท้ายของสงคราม กองทัพต่อต้านที่นำโดยฮ่องเต้ไท่จูปะทะกับกองทัพของสกุลหวังแห่งเจียงโจวอย่างสูสีใค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 498

    เขาจะลากคอผู้อยู่เบื้องหลังที่คิดค้นขี้ผึ้งทองมาทำร้ายผู้คน ออกมากระทืบให้ตาย!ตอนที่เซียวจิ่งอี้กลับมา จ้าวเสวียซือเข้ามาขวางเขาระหว่างทาง ทั้งสองเข้าไปในห้องหนังสือหลังจากเข้าห้องหนังสือ เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง “เจ้าไม่เป็นไรแล้ว?”จ้าวเสวียซือพยักหน้า “สองวันนี้ไม่อยากเลย พระชายาเอาขี้ผึ้งทองมาถึงตรงหน้าข้า ข้าก็ไม่ได้อยากสูบมากเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว”“พระชายาบอกว่าเลิกสำเร็จชั่วคราว”“ข้ามาหาท่าน เพราะอยากถามดูว่าเจ้าตรวจสอบทางเรือนเสินเซียนไปถึงไหนแล้ว?”“คนที่อยู่เบื้องหลังใช้ขี้ผึ้งทองทำข้าเสียอนาถเลย ไม่รู้ว่าในเมืองหลวงยังมีผู้เคราะห์ร้ายอีกกี่คน ข้าไม่ละเว้นเขาเด็ดขาด!”ช่วงนี้เขายุ่งอยู่กับการเลิกขี้ผึ้งทอง รู้เพียงเซียวจิ่งอี้รายงานเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้จิ่งผิง และกำลังสืบแล้วส่วนสืบไปถึงไหนแล้ว เขาไม่รู้แต่ว่าจ้าวเสวียซืออยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้ มีอะไรก็พูด ไม่เคยอ้อมค้อมเขาไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเองเขาอยากเป็นผู้ช่วยของเซียวจิ่งอี้ ร่วมสืบคดีนี้กับเซียวจิ่งอี้เซียวจิ่งอี้มองจ้าวเสวียซือแวบหนึ่ง เขากำลังขาดคนที่เชื่อถือได้พอดี ในเมื่อจ้าวเสวียซ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 497

    เซียวจิ่งอี้กล่าวอธิบาย “ภายนอก เฟิ่งเหนียงเป็นเจ้าของหอชุนเฟิง แต่ความจริงอาศัยหอชุนเฟิงรวบรวมข่าวต่างๆ ให้ข้า”“นางมีทักษะเฉพาะที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เชี่ยวชาญการทำหน้ากากหนังมนุษย์”อวิ๋นฝูหลิงประหลาดใจเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าหอชุนเฟิงจะเป็นกิจการของเซียวจิ่งอี้หอชุนเฟิงเป็นหอคณิกาที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง แต่ว่าผู้หญิงในหอล้วนเป็นนางคณิกาชั้นสูง นับได้ว่าเป็นสถานที่เริงรมย์ระดับสูงผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้หญิงอายุประมาณสามสี่สิบที่มีเรือนร่างเย้ายวนคนหนึ่งถูกคนรับใช้พาเข้ามา นางคำนับอย่างเย้ายวน “เฟิ่งเหนียงคำนับท่านอ๋องและพระชายา!”หน้าตาของผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์มาก แววตายั่วยวนแม้เริ่มมีอายุแล้ว แต่ยังคงเป็นหญิงงามที่มีเสน่ห์หญิงงามเช่นนี้ แม้เป็นอวิ๋นฝูหลิงก็อดมองไม่ได้แต่ว่าเฟิ่งเหนียงคนนี้อยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิง ทำตัวเรียบร้อย แววตาสดใสเซียวจิ่งอี้ยกมือ “ลุกขึ้นเถอะ”สีหน้าของเขาเรียบเฉย ไม่ได้หวั่นไหวเพราะความงามของเฟิ่งเหนียง ราวกับว่านางไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป“วันนี้ที่เรียกเจ้ามา เพราะมีงานจะให้ทำ”เฟิ่งเหนียงหลุบตา “ท่านอ๋องเชิญสั่ง”เซียวจิ่งอี้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 496

    “แล้วค่อยตรวจสอบดูว่ามีกี่คนที่ติด ดูว่ามีวิธีรักษาหรือไม่”ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า “เรามอบอำนาจให้เจ้าสอบสวนเรื่องนี้ สามารถประหารก่อน รายงานทีหลัง!”“เรารู้สึกว่าความเป็นมาของขี้ผึ้งทองไม่ธรรมดา”“เกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังมีแผนการใหญ่”“อี้เอ๋อร์ เรื่องนี้จะรีบร้อนไม่ได้ เกี่ยวข้องกับเมืองหลวงและเจียงหนาน ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง อยากแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด”“ต้องรู้คนที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ เราก็อยากรู้เช่นกัน ใครกันที่ใช้วิธีชั่วช้าเช่นนี้ อยากทำลายรากฐานของต้าฉี”เซียวจิ่งอี้ประสานมือขานรับเขารับผิดชอบเรื่องสืบสวนคดี แต่เรื่องการรักษา ต้องพึ่งอวิ๋นฝูหลิงแล้วหลังจากเซียวจิ่งอี้ส่งฮ่องเต้จิ่งผิงกลับวัง ตอนที่ออกมา เทียนเฉวียนได้รับคำสารภาพจากการสอบสวนชุยซวี่ตงและคนอื่นแล้วเขาส่งคำสารภาพให้เซียวจิ่งอี้หลังจากเซียวจิ่งอี้ดูคำสารภาพที่หนาเป็นปึก กล่าวออกคำสั่ง “เจ้าพาคนกลุ่มหนึ่งไปเฝ้าเรือนเสินเซียน”“อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น”“อีกสองวัน ก็เป็นวันที่ผู้ดูแลเจียงหนานสั่งคนมาส่งของให้เรือนเสินเซียน”“รอถึงวันนั้นค่อยลงมือ”“ใช่แล้ว เรียกเฟิ่งเหนียงมา ข้ามีงานจะให

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 495

    เวลานี้สำหรับชุยซวี่ตง แรงดึงดูดของขี้ผึ้งทองอยู่เหนือกว่าเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย บอกสิ่งที่ตัวเองรู้ออกมาอย่างหมดเปลือกเรื่องร้ายแรงมีตั้งแต่เฉิงเอินกงอาศัยตำแหน่งของตัวเองซื้อขายยศตำแหน่ง ยักยอกทรัพย์ รับสินบน ยึดที่ดินทำกินเรื่องเล็กน้อยก็มีตั้งแต่น้องเมียเป็นชู้กับพี่สะใภ้ คุณหนูหนีตามผู้ชายไป เรื่องที่เสื่อมเสียชื่อเสียงต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตกใจทั้งสิ้นฮ่องเต้จิ่งผิงฟังจนหน้าบึ้งตึงเซียวจิ่งอี้รู้ว่าชุยซวี่ตงก็มีส่วนกับเรือนเสินเซียน จึงกล่าวถาม “ใครให้พวกเจ้าเปิดเรือนเสินเซียน? พวกเจ้าไปเอาของมาจากไหน?”สีหน้าชุยซวี่ตงซีดมาก แทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองแล้ว“ขี้ผึ้งเสินเซียน…ข้าต้องการขี้ผึ้งเสินเซียน…”เซียวจิ่งอี้หันไปขยิบตาให้เทียนเฉวียน เทียนเฉวียนเดินเข้าไป ส่งกล้องยาสูบของขี้ผึ้งทองให้ชุยซวี่ตงทันทีชุยซวี่ตงรีบใช้สองมือคว้ากล่องยาสูบ สูบแรงๆ ไปหนึ่งทีหลังจากร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อย บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงอารมณ์ความสุขที่พึงพอใจพริบตาต่อมา เทียนเฉวียนยึดกล้องยาสูบท่าทางของชุยซวี่ตงเหมือนต้องการมากกว่านี้ “ได้โปรด ให้ข้าสูบอีกครั้ง อีกแค่ครั้งเดียว…”

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 494

    หลังจากนั้นเขาให้องครักษ์ลับแอบลักพาตัวคนที่อยู่ในรายชื่อมาที่คฤหาสน์ในเมื่อจะให้ฮ่องเต้จิ่งผิงรู้ถึงความอันตรายของขี้ผึ้งทอง และสนับสนุนเขาตรวจสอบเรือนเสินเซียน เพื่อลากตัวคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาลงโทษตามกฎหมายแค่อธิบายด้วยคำพูด มันไม่เสียแรงเกินไปหรอกหรือยังมีอะไรที่น่าตกใจและน่ากลัวกว่าการได้เห็นอาการอยากด้วยตัวเอง?ก็เหมือนกับเมื่อคืน เขาเห็นด้านที่น่าเกลียดของจ้าวเสวียซือตอนอยากด้วยตาตัวเองชุยซวี่ตงคุณชายเจ็ดจวนเฉิงเอินกงจำได้ว่าเมื่อคืนตัวเองนอนอยู่ในห้องนอน แต่วันนี้เช้าพอตื่นขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคยเขาลุกขึ้นจะเปิดประตูออกไป กลับพบว่าประตูถูกลงกลอนจากข้างนอกไม่ว่าเขาจะตะโกนเสียงดังแค่ไหน ข่มขู่ อ้อนวอน ก็ไม่มีใครสนใจเขาชุยซวี่ตงทั้งกลัวทั้งตกใจ อดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่านี่คือฝีมือของใครกันแน่?คนคนนั้นลักพาตัวเขามาที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?หลังจากเวลาค่อยๆ ผ่านไป ชุยซวี่ตงเริ่มหาวบ่อยขึ้น ความรู้สึกฉุนเฉียวผุดออกมาจากส่วนลึกในใจเขายื่นมือไปล้วงขี้ผึ้งทองและกล้องยาสูบของตัวเอง เพื่อเอาออกมาสูบโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่เจออะไรเลยอาการคลั่งและค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 493

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงต้มยาเสร็จ ยกมาให้จ้าวเสวียซือดื่มแล้ว จึงจะกล่าว“ช่วงนี้เจ้าก็พักอยู่ที่จวนอี้อ๋องไปก่อน ข้าจะสั่งให้คนเฝ้าเรือนหลังนี้ไว้ จะให้เจ้ามีโอกาสเข้าใกล้ขี้ผึ้งทองไม่ได้”“ตอนนี้เจ้ายังไม่ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง ยังมีโอกาสเลิกพึ่งพาขี้ผึ้งทอง”“ข้าจะใช้การฝังเข็มกับยามาช่วยเจ้าเลิก สามารถลดความเจ็บปวดระหว่างที่เจ้าเลิกได้”“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจของเจ้า เจ้าต้องผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ด้วยตัวเอง”“ถ้าหากความตั้งใจของเจ้าไม่แน่วแน่ ผ่านมันไปไม่ได้ คนรอบข้างช่วยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!”จ้าวเสวียซือพยักหน้า สีหน้าตื้นตัน “พี่สะใภ้ วันนี้ขอบคุณมาก!”อวิ๋นฝูหลิง “ท่านอ๋องเห็นเจ้าเป็นพี่น้อง คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันเช่นนี้”เซียวจิ่งอี้ยกมือตบไหล่จ้าวเสวียซือ “ฟังพี่สะใภ้ของเจ้า เจ้าต้องเลิกขี้ผึ้งทองให้ได้!”“นอกจากชีวิตที่เหลือของเจ้าอยากถูกมันควบคุม”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวเสียงเย็น “ครึ่งชีวิตที่ไหนล่ะ ถ้าหากสูบเป็นเวลานาน อย่างมากสองสามปีก็ตายแล้ว!”จ้าวเสวียซือได้สัมผัสความร้ายกาจของขี้ผึ้งทองแล้ว เขารู้สึกเกลียดมันมากแค่นึกถึงอาการกำเริบก่อนหน้านี้ ฉุนเฉ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 492

    อย่างไรก็ตามจ้าวเสวียซือเคยสูบแค่สองครั้ง เขาอาจจะไม่ติดก็ได้ให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋อง ก็แค่เพื่อความมั่นใจเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าเขาจะติดจริงๆดูเหมือนขี้ผึ้งทองนั่น ร้ายกาจยิ่งกว่าที่อวิ๋นฝูหลิงรู้เวลานี้นางรู้สึกโชคดีมากรู้สึกโชคดีที่พบทันเวลา ยังสามารถช่วยจ้าวเสวียซือ ไม่เช่นนั้นภายใต้สถานการณ์ที่นางไม่รู้ จ้าวเสวียซือสูบขี้ผึ้งทองต่อไป เกรงว่าเขาคงหมดทางเยียวยาแล้วจริงๆและรู้สึกโชคดีที่วันนี้นางให้จ้าวเสวียซืออยู่จวนอี้อ๋องถ้าหากไม่ใช่เพราะสั่งให้คนเฝ้าไว้ จ้าวเสวียซือเกิดความอยาก ต้องแอบออกไปซื้อขี้ผึ้งทองสูบแน่นอนจ้าวเสวียซือเห็นเซียวจิ่งอี้ไม่ขยับเขยื้อน สายตาของเขาหันไปมองทางอวิ๋นฝูหลิงแทนเขานึกถึงขี้ผึ้งทองในกล่องของตัวเองถูกอวิ๋นฝูหลิงเอาไป รีบยื่นมือออกไปคว้าชายกระโปรงของอวิ๋นฝูหลิงทันที“พี่สะใภ้ เอาขี้ผึ้งทองให้ข้า…”“ได้โปรด!”“ให้ข้าสูบอีกครั้งเถอะ แค่ครั้งเดียวก็พอ”“ข้าสาบาน ข้าสูบครั้งนี้เสร็จ ต่อไปจะไม่แตะต้องอีกแล้ว!”“พี่สะใภ้ ได้โปรด…”อวิ๋นฝูหลิงไม่ขยับ หันไปกล่าวกับเซียวจิ่งอี้ “จับเขาไว้”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า ไปจับตัวจ้าวเสวียซือตามที่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status