แชร์

บทที่ 104

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
แต่น่าเสียดาย มีองครักษ์กลุ่มนั้นอยู่ นางไม่สามารถเข้าใกล้เซียวจิ่งอี้ด้วยซ้ำ

โอกาสบินขึ้นยอดกิ่งไม้กลายเป็นหงส์ฟ้าที่ดีเช่นนี้ เสียดายที่นางไม่สามารถคว้าไว้ได้!

เด็กหนุ่มร่างท้วมคนหนึ่งเดินไปที่ข้างกายฟางหลาน เขายิ้มให้นางแล้วกล่าว “เสี่ยวหลาน มา ข้าช่วยถือตะกร้าของเจ้า?”

ฟางหลานหันไปยิ้มให้เด็กหนุ่มที่ชื่อสือเฮ่าเทียน กล่าวด้วยสีหน้าตื้นตัน “ขอบคุณพี่สือ”

สือเฮ่าเทียนรับสัมภาระของฟางหลานมาด้วยความดีใจ “เกรงใจอะไรกับข้ากัน”

บนใบหน้าฟางหลานยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่กลับมองบนในใจ

แม้ว่าระหว่างทางนางได้รับผลประโยชน์จากสือเฮ่าเทียนไม่น้อย มีทั้งผักป่าและของกินต่างๆ แต่ในใจนางไม่ได้ชอบเขา

ถ้าหากไม่ใช่เพราะสือเฮ่าเทียนยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง นางไม่คิดจะคุยกับเขาด้วยซ้ำ

ต่อให้นางไม่สามารถจับชนชั้นสูงอย่างเซียวจิ่งอี้ แต่ก็ไม่มีทางแต่งงานกับชาวนาอย่างสือเฮ่าเทียน!

กลุ่มของเซียวจิ่งอี้เดินออกจากตำบลผิงเล่อได้ไม่ไกล ก็มารวมตัวกับกำลังคนที่รออยู่ที่นี่แล้ว

เซียวจิ่งอี้ปีนขึ้นหลังม้า หันกลับไปมองเทือกเขาเฟิ่งลั่วอันคดเคี้ยวและทอดยาวที่อยู่ไกลออกไป

เทียนเฉวียนเดินเข้ามาถาม “นายท่าน กลับเมืองห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 105

    “คุณชาย ฟ้ามืดแล้ว วันนี้กลับเข้าเมืองไม่ทันแล้ว คงต้องลำบากท่านพักแรมที่ข้างนอกสักคืน”องครักษ์ที่ขับรถม้าเดินเข้าไป กล่าวรายงานผ่านม่าน“รู้แล้ว” เสียงที่ไพเราะสายหนึ่งดังออกมาจากในรถม้า องครักษ์ที่พูดลากรถม้าไปทางสถานที่ที่อวิ๋นฝูหลิงและคนอื่นตั้งค่ายสุดท้ายหยุดลงตรงจุดที่ห่างจากพวกเขาระยะหนึ่งทันทีที่รถม้าหยุดลง คนที่แต่งตัวเหมือนเด็กรับใช้คนหนึ่งลงมาจากรถม้าก่อน หลังจากนั้นหันไปประคองคนที่อยู่ในรถม้า“คุณชาย ท่านช้าหน่อย!”ภายใต้การประคองของเด็กรับใช้ ชายหนุ่มสวมอาภรณ์สีขาวพระจันทร์เดินออกมาจากในรถม้าผมของเขาดำดุจหมึก ขับให้ใบหน้าขาวดังหิมะ ระหว่างคิ้วมีภาวะของการเจ็บป่วยแฝงอยู่แม้เป็นฤดูร้อนที่อบอ้าว แต่เขากลับสวมผ้าคลุมกันลม เห็นได้ชัดว่าเป็นโรคกลัวหนาวเมื่ออวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียง ก็เงยหน้ามองแวบหนึ่งสายตาของเขากับอวิ๋นฝูหลิงบรรจบกันพอดี พลันพยักหน้าให้นางเล็กน้อยอย่างเกรงใจอวิ๋นฝูหลิงก็พยักหน้าคืนอย่างสุภาพเมื่อชายหนุ่มลงจากรถม้า ผู้ติดตามของเขาก็เริ่มทำงานทันทีปูเบาะรองนั่ง จุดธูปไล่ยุ่งและแมลง ต้มน้ำชงชา ปิ้งขนมแป้งหลังจากขนมแป้งขาวถูกปิ้ง กลิ่นหอมของ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 106

    เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กรับใช้อยากหายาของคุณชายคืนมาก็ยากแล้วเขาเริ่มร้องไห้โฮ“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?”หลังจากอวิ๋นฝูหลิงเห็นชายหนุ่มคนนั้นมอบขนมแป้งให้ ในใจก็รู้แล้วว่าแย่แน่แล้วผู้ประสบภัยเหล่านั้นลุกฮือเหมือนแมวที่ได้กลิ่นคาวอย่างที่คิดนางกลัวผู้ประสบภัยเหล่านั้นแย่งของจนติดใจ จะลงมือกับพวกเขาเป็นรายต่อไป ดังนั้นจึงรีบสั่งให้ชาวบ้านระวังตัวใครจะรู้ว่าจู่ๆ ชายหนุ่มคนนั้นก็ล้มลงอวิ๋นฝูหลิงไม่มีเวลาให้คิดมาก รีบพุ่งพรวดเข้าไปช่วยคนทันที“ข้าเป็นหมอ ให้ข้าดูเขาหน่อย!”เมื่อองครักษ์ที่จะเข้ามาขวางในตอนแรกได้ยิน ก็ปล่อยนางเข้าไปทันทีอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจร พบว่าหัวใจของคนคนนี้หยุดเต้น และไม่มีชีพจรแล้วนางคาดว่าน่าจะเป็นเพราะเมื่อครู่ ผู้ประสบภัยลุกฮือแย่งของกะทันหัน ชั่วขณะชายหนุ่มสะเทือนใจ อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง จึงส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นนางทำการปั๊มหัวใจทันทีหวังว่ายังจะกู้ชีพทันเวลาเด็กรับใช้กับองครักษ์เห็นหลังจากอวิ๋นฝูหลิงตรวจชีพจร ก็วางสองมือลงบนหน้าอกคุณชายก็กดไม่หยุดพวกเขาไม่เคยเห็นวิธีช่วยคนเช่นนี้ แอบสงสัยว่าอวิ๋นฝูหลิงคงจะไม่ใช่หมอผีหรือแม่มดอะไรกระมัง?

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 107

    เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง กู้อี่อันเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อร่างกายเขาอ่อนแอตั้งแต่เด็ก กินยากับกินข้าวพอๆ กันหมอยิ่งไปหามาแล้วกี่คนก็ไม่รู้ แม้แต่หมอหลวงในวัง ก็เคยทุ่มเงินหาเส้นสายเชิญมาตรวจชีพจรให้เขา แต่ไม่เคยมีหมอคนไหนที่สามารถบอกอาการของเขาเหมือนกับอวิ๋นฝูหลิง ยิ่งกว่านั้นยังกล้าพูดว่าสามารถรักษาได้กู้อี่อันตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง จึงจะกล่าวเสียงสั่น “ได้โปรดท่านหมอเทวดาช่วยลงมือขจัดโรคภัยให้ข้า ท่านหมอเทวดามีข้อเรียกร้องอะไร พูดมาได้เลย!”อวิ๋นฝูหลิงนำยาสงบจิตออกมาหนึ่งขวด “เมื่อรู้สึกหัวใจไม่สบายก็กินหนึ่งเม็ด”“ขวดนี้มียี่สิบเม็ด หนึ่งเม็ดสองตำลึงเงิน ทั้งหมดยี่สิบตำลึง”“ต่อไปพยายามทำใจให้สงบ ห้ามมีอารมณ์ที่ดีใจหรือเศร้าอย่างรุนแรง”“ข้าจ่ายเทียบยาให้ท่านอีกหนึ่งใบ ท่านนำเทียบยาไปหาซื้อยาที่ร้านยาเอง กินก่อนสิบเทียบ หลังจากกินหมดข้าจะตรวจท่านใหม่”“ค่ายาลูกกลอน บวกค่ารักษา บวกค่าเทียบยา ทั้งหมดเป็นห้าสิบตำลึงเงิน!”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวจบ เห็นกู้อี่อันไม่มีปฏิกิริยา อดไม่ได้ที่จะคิดหรือนางขอมากเกินไป?คนคนนี้เป็นนายน้อยของร้านค้าอะไรสักอย่าง ห้าสิบตำลึงเงินสำหรับ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 108

    “ทางฝ่าบาทต้องขอคำอธิบายกับเจ้าแน่ ไม่เช่นนั้นยากจะผ่านด่านไทเฮา”จั่วเยี่ยนเข้าใจทันทีว่าเซียวจิ่งอี้กำลังชี้แนะเขาเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ อย่างไรก็ต้องมีคำอธิบายอีกทั้งการตายของเจียงโจวอ๋อง ต้องทำให้ไทเฮาไม่พอใจฝ่าบาทแน่นอน ความผิดนี้จะไปตกที่ฝ่าบาทไม่ได้เด็ดขาดจั่วเยี่ยนนึกถึงสิ่งที่สืบพบในช่วงนี้ ในใจมีแผนรับมือแล้ว“ท่านอ๋อง เมื่อช่วงที่ผ่านมา ผู้น้อยได้ตรวจนับพยานบุคคลและพยานหลักฐานเกี่ยวกับการก่อกบฏของเจียงโจวอ๋อง พบว่ากุนซือข้างกายคนหนึ่งของเจียงโจวอ๋องหายไปขอรับ”“คนผู้นี้แซ่เหวิน ไม่ทราบชื่อที่แน่ชัด ทุกคนเรียกเขาว่าท่านจอมปราชญ์เหวิน”“เขาเป็นกุนซือข้างกายเจียงโจวอ๋องที่ได้รับความสำคัญและไว้วางใจที่สุด เจียงโจวอ๋องลักลอบขุดเหมืองเหล็ก สร้างอาวุธ ฝึกทหารโดยพลการ ล้วนเป็นฝีมือของเขา”“แต่หลังจากเกิดเรื่อง คนคนนี้กลับหายไปราวกับระเหยไปจากโลกนี้แล้ว”เซียวจิ่งอี้ขมวดคิ้ว “กุนซือคนหนึ่ง สามารถหนีรอดจากการไล่ล่าของหน่วยกระบี่เงา?”แรกเริ่มจั่วเยี่ยนก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพิ่งจะรู้สึกถึงความผิดปกติเมื่อไม่นานมานี้เอง“ท่านอ๋อง เกรงว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดาขอรับ!”เซียวจิ่งอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 109

    แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เรื่องราวกลับแพร่กระจายออกไป กลายเป็นข่าวครึกโครมไทเฮาไม่สามารถทนดูคุณหนูใหญ่อวิ๋นเสียชื่อ จึงมีพระบัญชาประทานงานแต่งให้คนทั้งสองใครจะรู้ว่าพระบัญชาเพิ่งไปถึงจวนจี้ชุนโหว ก็มีข่าวคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นไม่สามารถทนต่อความอัปยศ ภายใต้ความอับอาย จึงจุดไฟเผาตัวเองต่อมาหลังจากเซียวจิ่งอี้สืบพบความจริง ในใจรู้สึกผิดต่อคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นมากพอดีกับช่วงนั้นเขาไม่อยากอยู่ในเมืองหลวง เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้ระหว่างเหล่าองค์ชายด้วยกัน จึงอาศัยเรื่องนี้ไปที่ชายแดนเหนือปัจจุบันเซียวจิ่งอี้นึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น จำได้เพียงภายใต้ความโกรธที่ตัวเองหลงกลอุบายของผู้อื่น ไม่อยากมองหน้าคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นแม้แต่แวบเดียวเรื่องราวผ่านไปนานเช่นนี้แล้ว ปัจจุบันเขาย่อมจำไม่ได้ว่าหน้าตาของคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นเป็นอย่างไรแล้วเดิมทีเรื่องนี้ถูกเขาฝังไว้ในส่วนลึกของความทรงจำแล้ว แต่ตั้งแต่พบว่าอวิ๋นจิงมั่วมีหกนิ้ว จู่ๆในใจของเขาก็เกิดความสงสัยคุณหนูใหญ่อวิ๋นอาจจะยังไม่ตาย!บางทีแม่นางอวิ๋นท่านนั้น ที่จริงก็คือแม่นางอวิ๋น!เขาไม่ได้บอกการคาดเดาในใจของตัวเองกับจั่ว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 110

    เรื่องแผนกบฏของเจียงโจวอ๋องความแตก ต้องเกี่ยวข้องกับอี้อ๋องแน่นอนหลายวันนี้คนของเจียงโจวอ๋องตามหาเบาะแสอี้อ๋องไปทั่ว แทบจะพลิกทั้งแผ่นดินเจียวโจวแล้ว กลับไม่เจอแม้แต่เงาเวลานี้ท่านจอมปราชญ์เหวินลองคิดดูอย่างละเอียด สถานที่ที่อี้อ๋องถูกดักฆ่า ก็อยู่ห่างจากเขาเฟิ่งลั่วร้อยลี้เพียงแต่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยสังเกตเรื่องนี้ตอนถูกดักฆ่า อี้อ๋องหนีเอาชีวิตรอดอย่างตื่นตระหนก หลงเข้าไปในเขาเฟิ่งลั่ว และบังเอิญพบกับฝายเจียงหลิงแตก เช่นนั้นพวกเขาหาคนที่ข้างนอกไม่เจอมันก็ไม่แปลกแล้วอี้อ๋องเข้าไปในเขาเฟิ่งลั่ว ก็ย่อมพบความลับของเหมืองเหล็กหลังจากนั้นก็สืบมาจนถึงคลังอาวุธกับค่ายทหาร แล้วติดต่อหน่วยกระบี่เงารวบเจียงโจวอ๋องในคราวเดียวน่าเสียดายแผนที่เขาวางมาอย่างดิบดีในหลายปีนี้ ความพยายามทั้งหมดมันสูญเปล่าแล้ว หลังจากความแตก ท่านจอมปราชญ์เหวินเข้าลอบเข้าจวนอ๋อง เกลี้ยกล่อมเจียงโจวอ๋องเริ่มลงมือแม้ถูกจับได้แล้ว แต่ในมือเจียงโจวอ๋องมีทหารมีเงิน ไม่แน่ว่าความพยายามครั้งสุดท้ายอาจสามารถพลิกสถานการณ์แต่เจียงโจวอ๋องกลับเป็นคนใจเสาะ กลัวเสียแล้วและยังคิดหลังจากถูกคุมตัวกลับเมืองหลวง จะ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 111

    แม้ว่าก่อนมา กำนันของตำบลผิงเล่อจะบอกว่าที่ว่าการเขตปกครองเจียงหนิงกำลังให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดระเบียบที่อยู่อาศัย แต่จนกว่าเรื่องจะเข้าที่เข้าทาง ในใจของทุกคนก็ต่างยังเป็นกังวลในยามนี้เมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากที่ว่าการ จึงรู้ว่าสามารถปักหลักอยู่ได้ ทำให้จิตใจของเหล่าชาวบ้านหมู่บ้านหลินซานผ่อนคลายลงบ้างหัวหน้าหมู่บ้านโจวนำคนไปเข้าแถวลงทะเบียนหลังจากกู้อี่อันมาถึงที่ว่าการเขตปกครองเจียงหนิง ก็มิได้บอกลาและจากไป แต่มาเป็นเพื่อนพวกอวิ๋นฝูหลิงที่ไปลงทะเบียนเพื่อลงหลักปักฐานเดิมทีอยากเชิญให้อวิ๋นฝูหลิงเข้ามาที่จวนเพื่อช่วยเขาฟื้นฟูร่างกาย แต่หลังจากถูกปฏิเสธ ก็วางแผนจะจดจำว่าอวิ๋นฝูหลิงลงหลักปักฐานที่ใด ในอนาคตหากอยากเชิญนางมาดูอาการ จะได้สามารถไปหานางได้เมื่อเห็นว่าพวกอวิ๋นฝูหลิงกำลังต่อแถวลงทะเบียน กู้อี่อันก็อ้างว่าจะไปพักด้านข้าง และฉวยโอกาสรีบใช้สายตาส่งสัญญาณให้ฉางโซ่วผู้เป็นคนรับใช้ของตนฉางโซ่วเข้าใจ จึงรีบเดินผ่านฝูงชนไปหาหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ก่อนจะยื่นตั๋วเงินให้เขาสองใบ และกระซิบบอกบางสิ่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้นั้นเห็นตั๋วเงิน ก็ยิ้มไปถึงดวงตา และพยักหน้าหลายครั้งห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 112

    นายท่านหางยังรอให้อวิ๋นฝูหลิงไปช่วยชีวิตคน จึงเร่งเร้าให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่หวังลงทะเบียนให้อวิ๋นฝูหลิงและลูกก่อนหัวหน้าเจ้าหน้าที่หวังผู้นั้นเมื่อได้ยินว่าชีวิตของคุณชายสกุลลู่อยู่ในอันตราย และอวิ๋นฝูหลิงก็เป็นหมอเทวดาที่นายท่านหางมาเชิญด้วยตัวเอง ก็รีบดำเนินการขั้นตอนของอวิ๋นฝูหลิงและลูกเสร็จอย่างรวดเร็วทางด้านหัวหน้าหมู่บ้านโจวก็ได้ยินคำพูดของนายท่านหางเช่นกัน ดังนั้นเมื่ออวิ๋นฝูหลิงและลูกลงทะเบียนเสร็จแล้ว เขาจึงกล่าวว่า “แม่นางอวิ๋น เจ้าไปช่วยคนกับนายท่านหางก่อนเถอะ หลังจากพวกข้าลงทะเบียนเสร็จแล้ว จะไปหาเจ้าที่สำนักผิงอัน”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า ก่อนจะส่งอวิ๋นจิงมั่วให้ลูกพี่อู๋ดูแลจากที่ได้ฟังจากนายท่านหาง คนเจ็บถูกส่งไปที่สำนักผิงอัน นางจะไปช่วยคน จึงไม่มีเวลาดูแลอวิ๋นจิงมั่วในยามนี้เองนายท่านหางได้กล่าวว่า “ข้าจะให้อาฝูอยู่ที่นี่ หากมีอะไรต้องการให้ช่วย ก็ให้อาฝูไปส่งข่าวที่สำนักผิงอันได้”อาฝูเคยเดินทางไปที่เขาเฟิ่งลั่วกับนายท่านหาง ดังนั้นทุกคนจากหมู่บ้านหลินซานจึงรู้จักเขาหัวหน้าหมู่บ้านโจวกล่าวขอบคุณโดยพลันคราแรกที่พวกเขามาถึง เขตปกครองเจียงหนิงก็สับสนเป็นอย่างมาก

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 376

    อวิ๋นฝูหลิงตรวจดู จมูกของเด็กไม่มีน้ำคร่ำอุดตัน แล้วก็มองหว่างขาของเด็กแวบหนึ่งเป็นเด็กผู้ชายเด็กออกจากน้ำคร่ำของมารดา ราวกับรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ก็ร้องไห้อุแว้ๆ เสียงดังทันทีแต่ว่าเสียงกลับเบากว่าเด็กทารกทั่วไปแม้ไม่ได้เสียงดังมาก แต่ทุกคนที่รออยู่นอกห้องคลอดยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กทารกชั่วขณะฉู่หมิงตะลึงเล็กน้อย เงยหน้ามองไปทางฮูหยินฉู่ กล่าวอย่างเหม่อลอย “ท่านแม่ ท่านได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?”ฮูหยินฉู่ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กเช่นกันแต่นี่ก็เร็วเกินไปแล้วตั้งแต่พวกเขาเข้าไปจนถึงตอนนี้ ยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามเลยนี่ก็คลอดแล้ว?พระชายาคังจวิ้นอ๋องกล่าวอย่างตื่นเต้น “เป็นเสียงร้องไห้ของเด็ก!”“คลอดแล้ว คลอดแล้ว!”“แต่ไม่รู้ว่าเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?”เมื่อได้ยินเสียงรอบข้าง ฉู่หมิงมั่นใจแล้วว่าเมื่อครู่ตัวเองไม่ได้หูฝาดลูกของเขาเกิดแล้ว!ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุข ตื่นเต้นจนจะวิ่งเข้าห้องคลอดโชคดีที่ฮูหยินฉู่ดึงเขาไว้ทันเวลา“เจ้ารีบร้อนอะไร รอเฉยๆ ก่อน!”รอในห้องคลอดจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว หมอตำแยต้องอุ้มเด็กออกมาให้พวกเขาดูแน่น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 375

    พลันอวิ๋นฝูหลิงเหลือบไปมอง หมอหญิงติงจึงจะรู้ตัวว่าไม่ควรส่งเสียง รีบยกมือปิดปากทันทีอวิ๋นฝูหลิงกลับเริ่มไม่ปลื้มแล้วแค่นี้ก็เอะอะส่งเสียงดัง ขวัญอ่อนเกินไปแล้วนางหันไปมองเหยากวงแวบหนึ่งเหยากวงเดินเข้าไปหิ้วหมอหญิงติง โยนนางออกจากห้องคลอดโดยตรงเมื่อหมอหญิงติงออกจากห้องคลอด ก็ถูกสายตาหลายคู่จ้องมองหมอหลวงรีบเดินเข้าไปสอบถามทันที “เจ้าออกมาได้อย่างไร สถานการณ์ข้างในเป็นอย่างไรบ้าง?”เพราะเหยากวงโยนคนออกมาก็กลับเข้าไปแล้ว การเคลื่อนไหวของนางเร็วมาก ทำให้อยากถามนางก็ถามไม่ทันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สายตาของทุกคนจ้องไปที่หมอหญิงติงหมอหญิงติงรู้ว่าตัวเองทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ถูกอวิ๋นฝูหลิงรังเกียจแล้วหมอหลวงจงมาถามเวลานี้ นางยิ่งอับอายแล้วใบหน้าของนางแดงก่ำ พูดจาอ้ำอึ้ง “การผ่าตัดเริ่มแล้ว ข้า…ข้าไม่กล้าลงมีด ก็เลยออกมาแล้ว”หมอหลวงจงมองนางอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง เริ่มขมวดคิ้วในเมื่อเป็นการผ่าท้องทำคลอด ย่อมขาดการลงมีดไม่ได้เรื่องนี้นางรู้ก่อนแล้วไม่ใช่หรือในเมื่อกลัวลงมีด เหตุใดยังต้องตอบตกลงตามโอวหยางหมิงมา?ความสามารถในการเลือกคนของโอวหยางหมิง ต้องพัฒนาแล้วจริงๆแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 374

    พระชายาคังจวิ้นอ๋องก็ประหม่าเช่นกัน อย่างไรก็ตามอีกเดี๋ยวคนที่จะถูกผ่าท้องคือลูกสาวของตนเองไม่เพียงพวกนางสองแม่ลูก คนอื่นก็ประหม่าไม่มากก็น้อยเช่นกันมีเพียงคนเดียวที่ไม่ประหม่าก็คงเป็นอวิ๋นฝูหลิงแล้วชาติที่แล้วนางเคยทำการผ่าตัดเช่นนี้ครั้งนับไม่ถ้วน ชินนานแล้วฮูหยินน้อยฉู่เห็นท่าทางของอวิ๋นฝูหลิงดูสงบมาก ราวกับมีความมั่นใจในการผ่าตัดของวันนี้มากความประหม่าของนางจึงจะบรรเทาลงบ้างฮูหยินน้อยฉู่ถูกส่งเข้าไปในห้องคลอด ส่วนพระชายาคังจวิ้นอ๋องถูกอวิ๋นฝูหลิงห้ามไว้ที่นอกห้องคลอดอย่างไรก็ตามอีกเดี๋ยวจะเป็นภาพที่นองเลือด นางกลัวพระชายาคังจวิ้นอ๋องที่เป็นแม่คนนี้รับไม่ไหว จะส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดสกุลฉู่ทำตามคำขอของอวิ๋นฝูหลิง เลือกห้องที่สะอาด กว้าง และแสงดีมากมาทำเป็นห้องคลอดภายในห้องคลอดมีแค่เตียงนอนหนึ่งเตียง โต๊ะหนึ่งตัว และเก้าอี้อีกสองสามตัวและรมควันชางจู๋ทั้งห้องตามที่อวิ๋นฝูหลิงบอกหนึ่งรอบก่อนฮูหยินน้อยฉู่เข้าห้องคลอด ก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรียบง่ายและสะอาดแล้วหลังจากเข้าห้องคลอด นางถอดเสื้อชั้นนอก สวมเพียงเสื้อชั้นในนอนลงบนเตียงไม้ด้านบนของเตียงไม้ มีผ้าม่านแขว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 373

    อวิ๋นฝูหลิงอบรมขั้นพื้นฐานหมอหญิงทั้งสี่คนก่อนเข้าผ่าตัดระหว่างการอบรม นางก็คอยสังเกตคุณสมบัติของหมอหญิงทั้งสี่คนในบรรดาพวกนาง มีหมอหญิงคนหนึ่งแซ่ซุน เรียนได้เร็วที่สุดและดีที่สุด ความจำก็ดีคนต่อมาก็คือหมอหญิงแซ่ติงอวิ๋นฝูหลิงตั้งใจจะให้หมอหญิงซุนกับหมอหญิงติงเป็นผู้ช่วยของนางหมอและหมอหญิงล้วนมากันครบแล้ว อวิ๋นฝูหลิงไปตรวจห้องคลอดและวัตถุดิบยาที่สกุลฉู่เตรียมไว้อีกครู่หนึ่งเมื่อเห็นของพร้อมแล้ว และไม่มีข้อผิดพลาดอะไร อวิ๋นฝูหลิงแอบโล่งอกถ้าหากมีคนคิดไม่ดีจริงๆ ลงมือจากวัตถุดิบยาเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุดก็เหมือนกับครั้งก่อนตอนรักษาฮ่องเต้จิ่งผิง มีคนสลับวัตถุดิบยาดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงใส่ใจวัตถุดิบยาเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด นางยังลากโอวหยางหมิงและคนอื่นมาช่วยกันตรวจด้วยกลับพบว่าวัตถุดิบยาที่สกุลฉู่ไม่มีปัญหาเลยแต่ว่าอวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ได้ประมาท ให้หมอหลวงจงกับโอวหยางหมิงร่วมกันรับผิดชอบดูแลเรื่องวัตถุดิบยาและการต้มยาโอวหยางหลันคิดแค่ว่าอวิ๋นฝูหลิงใช้ยาอย่างระมัดระวัง เป็นการปฏิบัติในฐานะหมอที่มีความรับผิดชอบหมอหลวงจงกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จากกา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status