แชร์

6

ผู้เขียน: ม่านกู่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-22 22:23:05

นางตั้งคำถามในใจ จนมาถึงด้านหน้าเรือน พบชายในเสื้อผ้าเปรอะเปื้อนนอนแผ่หราบนพื้นหญ้า ไหสีน้ำตาลอยู่ในอ้อมกอดของเขาราวกับว่าไหใบเล็กกลมได้กลายเป็นสตรีผู้เป็นที่รักยิ่ง นางตกใจลนลาน เข้าไปแบกเขาขึ้นบันไดไม้อย่างทุลักทุเล ถึงไม่เหลือบ่ากว่าแรงมากนัก เมื่อท่านอาตัวไม่หนักเท่าไร นางเคยพบชายร่างสูงกำยำกว่านี้ในโรงงานถลุงแร่

บ่าวรับใช้ทั้งสองก็เข้ามาช่วยเหลือนาง อีกสองกำลังวิ่งวุ่นในเรือน หวังเฟยคงร่ำสุรามากไป เขาลุกขึ้นโวยวายหน้าแดงก่ำ ไล่ตะเพิดบ่าวให้ออกไปให้หมด ให้เหลือแค่เจียลี่ นางรีบนำชามาวางไว้บนโต๊ะข้างฟูกนอนเขา

“โธ่... ท่านอา ท่านเมาเละเทะแล้ว”

“อะไรกับข้านักเล่า... เจียลี่!”

“ท่านโวยวาย เรียกข้า?” ปลายนิ้วชี้หน้าตนเองอย่างประหลาดใจ เจียลี่จำได้ว่าท่านอาเมามายเมื่อไรมักเรียกหาแต่ท่านอาหญิง ลี่จิ่น เจ้าไปไหน เจ้ากล้าทิ้งข้าเรอะ! นังแพศยา หญิงโฉดชั่ว โป้ปดลวงโลก อะไรสักอย่างนางก็ฟังไม่ถนัดหูนัก ลึก ๆ นางคงดีใจที่เขาเรียกหานาง ไม่ด่าทอนางเป็นหลานสาวนังแพศยา ไล่ตะเพิดนางไปพร้อมกับบ่าวชุดใหม่ทั้งสามคน

“แปลว่าท่านยังไม่เมา ท่านเอาเหล้าอีกไหม? ข้าจะไปเอามาให้ท่านดื่ม”

“เจ้า... กล้าประชดข้าหรือเจียลี่ กล้าอวดดีกับข้ารึ?”

เจียลี่ฉีกยิ้มกว้างประชดประชัน หากทว่าเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ท่านอาเจ้าคะ เจียลี่จำได้ว่าท่านเคยหล่อล่ำบึกบึน อกผายไหล่ผึ่งดุจแม่ทัพกองหน้าผู้เกรียงไกร ไม่ว่าท่านจะก้าวขาเดินไปที่ใดหญิงสาวต่างลอบมองท่านด้วยแววตาหลงใหล ทุกวันนี้ท่านผ่ายผอม...” นางเงียบ เหลือบตามองเสื้อผ้าที่หลวมไปถนัดตา น้ำหนักของเขาอาจหายไปราว ๆ สิบกิโลกรัม นางอุตส่าห์ตั้งใจทำอาหารสุดฝีมือ หวังว่าเขาจะน้ำหนักขึ้นสักหน่อย เขาก็หันกลับไปร่ำสุรา

“ขี้เมาอีกต่างหาก”

“คำก็ขี้เมา สองคำก็ไอ้ขี้เมา” เขาเข่นเขี้ยวขู่นางจนมองเห็นไรฟันขาว เขี้ยวคมตรงมุมปากแลดูเป็นอสุรกายที่น่ากลัว นัยน์ตาแดงก่ำปรากฏโทสะราวกับว่าจะบีบคอนางเสีย พลันตะโกนใส่หน้านาง “ไปเอาเหล้ามา!”

“เจ้าค่ะ!”

--------------------------

เจียลี่คอยปรนนิบัติท่านอามาร่วมสามเดือน นางทำอาหารให้เขาวันละมื้อ แวะเวียนมาตรวจตราความเรียบร้อยในเรือนไม้กว้างขวาง ไม่ไกลจากตลาดในตัวเมืองทุกเย็นหลังจากที่นางเลิกงานขายผ้า ถึงแม้ว่านางจะยุ่งวุ่นวายสักเท่าไร

ก็ไม่แปลกที่นางสามารถแยกแยะได้ว่าวันไหนเขาเมาเล็กน้อย อาจแค่มึนศีรษะ เพียงแต่ว่ายังไม่เมา วันไหนเขาเมาเละเทะ เมาหัวราน้ำ หรือว่าแสร้งเมา...

หลายวันมานี้นางพบมิตรสหายของท่านอา แลเห็นว่าเขาแสร้งเมาเสียมากกว่าเมาเละเทะ เขาไม่นำสุราซึ่งนางยอมรับเงินของเขาไปเป็นธุระให้ มาแช่อาบ ทว่าดื่มกินอย่างละเมียดละไม รินใส่จอกเหล้า ขณะเจรจาเรื่องงานกับชายผู้สวมอาภรณ์ขุนนาง

“มาแล้วหรือเจียลี่” เสียงเข้มถามทันทีที่พบร่างบางในอาภรณ์สีขาวสะอาด นางถือตะกร้าอาหาร วางห่อผ้าลงบนโต๊ะไม้สักในห้องรับรองแขก

“วันนี้มีอะไรมาให้ข้ากิน?”

“ผัดผัก แกงจืดผักกาดขาว ไก่ตุ๋น ขนมอีกหลายอย่างเจ้าค่ะท่านอา” ริมฝีปากอิ่มงามด้วยกระดาษชาดตอบอย่างสำรวม นางหันไปยกมือทำความเคารพแขกของท่านอาอย่างสุภาพนอบน้อม 

“ยินดีที่ได้พบแม่นางเจียลี่ สกุลเยี่ยใช่หรือไม่? ท่านหวังเฟยพูดถึงเจ้าอยู่”

“เจ้าค่ะ”

“ไม่ยักรู้ว่าท่าน... มีสาวงามมาคอยส่งข้าวปลาอาหารด้วย มิน่าเล่า พักนี้ถึงดูแลตัวเองดี” 

“พวกข้าขอตัวลาก่อนดีกว่า ไว้มาดื่มกันใหม่”

ชายในอาภรณ์ขุนนางทั้งสี่กล่าวลาเจ้าของเรือน ถือไหสุราลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับแขก แทนที่จะให้นางเป็นฝ่ายออกไปไม่รบกวนพวกเขา 

เจียลี่วางตัวไม่ถูกนัก เมื่อนางอยู่ในสถานะสตรีชนชั้นต่ำกว่า อายุวัยน้อยกว่าพวกเขามาก มิตรสหายของเขาลอบยิ้มกรุ้มกริ่มมองนางและเจ้าของบ้านก่อนจะขึ้นรถม้าไป หวังเฟยเรียกนางซึ่งยืนรอเขาอยู่ด้านหน้า ให้เข้ามานั่งด้วยกัน

บรรดามิตรสหายคงรู้ว่าแม่ครัวคนนี้ทำให้น้ำหนักที่เคยลดฮวบของหวังเฟยคืนกลับมา แก้มที่เคยซูบตอบแลดูอิ่มเอิบ เคราครึ้มแซมเทาบนใบหน้าหล่อเหลาก็เกลี้ยงเกลา เรือนกายกำยำมีมัดกล้ามอย่างชายชาตินักรบผู้ทำงานกับโรงถลุงแร่และงานตีเหล็ก

“เจ้ารู้ว่าข้าชอบกินอะไร พวกเขาเลยไม่รบกวนข้า ให้ข้าได้กินอาหารให้อิ่มเสียก่อน ร่ำสุราเมื่อใดก็ได้ ไม่ใช่ปัญหา” หวังเฟยไขข้อข้องใจให้นางเลิกสงสัย นางนั่งลงหน้าโต๊ะอาหารในห้องรับรองแขก ในฝั่งตรงข้ามกับท่านอา

“ท่านอาชอบผัดผักใส่ไข่ อาหารไม่เค็มจัด ต่างจากผู้อื่น นิยมกินอาหารรสชาติเค็ม แต่อันที่จริงแล้ว... ข้าเห็นท่านกินทุกอย่าง”

“ไท่เป่า ชื่นชมอาหารฝีมือเจ้า คงจะขอวานเจ้าเอามาให้ข้าอีก ข้ามีค่าจ้างให้เจ้าทำ”

“ข้าไม่ชอบรับเงินจากท่านเท่าไร”

“รับอย่างอื่นดีไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ขณะใบหน้าสวยหวานก้มลงมองอาหารบนโต๊ะ นางคีบอาหารเข้าปากอย่างระวังกิริยามารยาท อาหารคำเล็ก ๆ ในมือเรียว อยู่ในสายตาเอ็นดูของท่านอา เขากินข้าวชามใหญ่ ตักข้าวถึงสามถ้วย ไม่ใช่หวังเฟยผู้ซูบผอมเป็นโครงกระดูก

หวังเฟยกำลังนึกถึงเรื่องที่นางพูดกับเขา มีปากเสียงกับนางเมื่อเดือนก่อนที่จะกลับมารับประทานอาหารให้มากขึ้น

‘ทีเจ้ายังไม่ชอบให้ใครมาดูแคลนเจ้าเรื่องขาของเจ้า ไยลับหลังข้า ได้ยินจากบ่าวว่าเจ้าพูด... ข้าเป็นไอ้ขี้เมา ผ่ายผอมเป็นยาจก’

‘ข้าเป็นเช่นนี้มาแต่กำเนิด ผิดจากท่านที่เลือกได้ว่าจะผ่ายผอมหรือแข็งแรง ท่านสามารถเลือกได้ว่าจะออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์และงดสุรา’

คำพูดจาของเจียลี่คล้ายกับว่ากำลังสั่งสอนท่านอาทางอ้อม หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน เขาก็เริ่มไล่ตะเพิดบ่าวรับใช้ ขว้างปาถ้วยชามแตกกระจาย จึงไม่มีใครอยู่ทน บ่าววิ่งวุ่นกันไปหมด มาช่วยงานไม่กี่วันก็สลับเปลี่ยนผู้อื่นให้เข้ามา เพื่อที่ตนจะได้กลับไปทำงานหน้าเตาเผา คงสบายใจกว่ารองรับอารมณ์ร้อน ๆ ของผู้คุมโรงแร่ที่เกิดบ้าคลั่งเพราะฤทธิ์สุรา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   7

    “เจ้าไปแจ้งสกุลเยี่ยด้วยว่าไม่ต้องนำผ้ามาให้ข้าอีก ข้าไม่ใช่หญิงงามที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน วันละหลาย ๆ ชุด ให้ทันยุคสมัยตามใครเขาสวมใส่อะไร หากข้าอยากได้ผ้าเมื่อไร ข้าจะไปซื้อที่หน้าร้านด้วยตัวข้าเอง”“ข้าจะรีบกลับไปบอกผู้อาวุโสเจ้าค่ะ”“ไม่ต้องรีบไป เจ้ากินให้อิ่มก่อน” หวังเฟยกำชับนาง ด้วยเห็นว่านางเป็นสตรีกินข้าวเชื่องช้า นั่นก็เป็นเรื่องดีของเขาอีกอย่างหนึ่ง เมื่อเขาจะได้พบนางวันละหนึ่งมื้อเป็นเวลานาน เฝ้ามองนางคีบอาหารเข้าปากทีละคำ“วันนี้ข้าไม่ได้กลิ่นขี้วัว?”“ข้าเดินเลี่ยงไปทางอื่น ไม่เจอพวกเด็ก ๆ แกล้งข้า...”“เด็กพวกนั้นถูกตามใจจนเคยตัว ควรได้รับโทษทัณฑ์ ฐานกลั่นแกล้งผู้อื่นเสียบ้าง ได้ยินว่าเป็นลูกหลานคหบดี ทำตัวเป็นนักเลงโตมานาน”หวังเฟยพอรู้มาบ้างว่านางถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำตั้งแต่เล็ก เพราะเรื่องขาของนางเป็นจุดสนใจ มารดาของนางไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคม อยู่ ๆ ก็ร่ำรวยขึ้นมาหลังสกุลเยี่ยเปิดกิจการขายผ้า เด็กชายกลุ่มหนึ่งละแวกบ้านของนางเติบโตเป็นวัยรุ่น ตั้งใจมาเฝ้ารอนาง หากวันไหนนางเดินเท้ากลับบ้าน“ข้าไม่เป็นไร ข้าชินแล้ว ท่านอย่าได้ไปสนใจพวกเขาเลย คุยเรื่องอื่นดีกว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   8

    ท่านอาก้าวขึ้นรถม้า ยื่นมือช่วยเหลือนางผู้ยอมรับน้ำใจของเขา บอกให้บ่าวนำทางไปสกุลเยี่ย แก้มขาวนวลแดงระเรื่อ เมื่อเผลอสัมผัสฝ่ามือหนาหยาบของบุรุษผู้ทำงานหนักในโรงถลุงแร่“เรื่องอาหารวันพรุ่งนี้ เจ้าจะรับค่าจ้างเป็นเงิน... หรือเป็นน้ำใจจากข้า?”“ข้ารู้สึกเกรงใจท่านจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ข้าไม่อยากรับเงินจากท่าน ผู้คนจะว่าเอาได้ว่าข้าขี้งก รับเงินจากท่านยายไม่พอ ยังมารับจ้างส่งอาหารบ้านท่านอา”“แปลว่าเจ้ายินดีรับน้ำใจจากข้า”“อะไรหรือเจ้าคะ?” ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยคำถามอีกตามเคย ท่านอามิได้เมามายสุรา เขาหัวเราะเยาะนาง เปลี่ยนหัวข้อเจรจาเรื่องการมาพบเขาในคราวหน้า การเดินทางกลับบ้านของนาง ขอไม่ให้เกินตะวันตกดิน หากว่าเขาไม่ว่างไปส่งนาง ให้มีบ่าวรับใช้ของบ้านเขาตามไปกับนางด้วยทุกครั้ง--------------------------เจียลี่ไม่เข้าใจอารมณ์แปรปรวนของท่านอาเขย หลายเดือนก่อนเขาสนใจไยดีนางเสียเมื่อไร ตอนนี้เขาเฝ้าตามติดนาง เอาใจนางราวกับว่าเป็นคนละคน นางพบท่านอาเขยเข้ามาพูดคุยกับท่านอาหญิงยามอู่ ท่านอาหญิงเพิ่งกลับมาจากแคว้นวุ่ย คุยโม้โอ้อวดเรื่องงานตบแต่งกับคุณชายผู้กำลังจะได้เป็นผู้ครองแคว้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   9

    “ลูกสาวของเจ้าเสียสละมาดูแลไอ้ขี้เมาอย่างข้าทุกวัน ข้าย่อมดูแลนางเป็นการตอบแทน ยามนี้นางอยู่ในวัยออกเรือน ชายมากหน้าหลายตาหวังจะเข้าหานาง ข้าเองก็กลัวว่าจะไม่มีข้าวกิน มิได้ดื่มสุราชั้นเลิศจากนางนำมาปรนเปรอข้าอยู่เสมอ เรื่องปากท้องสำคัญเท่าฟ้า ”ข้ออ้างเรื่องปากท้องฟังดูไม่สมเหตุสมผล ด้วยความเป็นเจ้าโรงงานถลุงแร่ภายใต้การดูแลผูกขาดของราชสำนัก ทำการค้าขายกับต่างแคว้นมากมาย ส่งบรรณาการให้กับกษัตริย์ราชวงศ์โจว หวังเฟยนั้นร่ำรวยมากพอสรรหาอาหารดี ๆ สุราชั้นเลิศเขาก็ฝากให้บ่าวไปเป็นธุระได้ เขาอาจเลี้ยงข้าวประชาชนทั้งหมู่บ้านสักสิบมื้อก็ยังมีเงินเหลือกินเหลือใช้ ไม่จำเป็นต้องมารอรับประทังปากท้องจากบุตรสาวสกุลเยี่ยเจียลี่สงสัยว่าท่านอามีความคิดอย่างไรกันแน่ ถึงเป็นห่วงนางขึ้นมา กระทั่งเขานั่งรถม้าไปส่งนางถึงหน้าจวน แม่ทัพหยางออกมารับห่อผ้าด้วยตนเอง เขาถือโอกาสทักทายท่านแม่ทัพ ประสามิตรสหายผู้เคยร่วมวงสุรานารี ก่อนจะขอตัวลาไปพร้อมเด็กสาวส่งผ้าผู้กลายเป็นคนสำคัญรถม้าที่ออกเดินทางไปพร้อมบ่าว นำพาความรู้สึกประหลาดในอกของหญิงสาว นางเป็นผู้เฝ้ามองเขามาโดยตลอด แม้ในยามหลับใหล ขนตางามงอนเป็นแพยาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   10

    นัยน์ตาลุ่มลึกมากล้นด้วยเสน่ห์ หลุบลงมองร่างผอมบาง นางตัวเล็กกว่าเขามาก ใบหน้าก็จิ้มลิ้ม แก้มน่าหยิก นางยืนเต็มเท้ายังสูงเพียงระดับบ่าของเขา“ข้าเกิดความรู้สึกเอ็นดูเจ้า มิใช่เพียงเรื่องบุญคุณที่เจ้าเฝ้าเอาใจใส่ข้า”“เรื่องอะไรเจ้าคะ?”“เจ้าช่างน่ารักใคร่... แก้มแดง ๆ ของเจ้า กลิ่นกายเจ้า เรือนผมของเจ้า... เย้ายั่วใจชาย...” ใต้รอยยิ้มมีลับลมคมใน เจียลี่หาได้รู้ใจท่านอา หากเป็นตรงกันข้ามกับท่านอา ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านดวงตาคู่สวยใส เต็มไปด้วยความรักใคร่หลงใหล แม้นางจะปฏิเสธเขาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า“ท่านอาขี้เมาเจ้าค่ะ”“ขี้เมา... แล้วเจ้าไม่ชอบข้าหรือ?”“นานครั้งสังสรรค์กับมิตรสหายคงไม่เป็นไร ถ้าหากว่าไม่เมาบ่อย ๆ จะดีกว่า...” แล้วนางจึงเงียบไป นัยน์ตาหลงใหลเฝ้ามองใบหน้าคร้ามคม บัดนี้แลดูมีชีวิตชีวาเพราะนาง ชายผู้นี้กลับมาหล่อเหลา รูปลักษณ์ตรึงใจสตรี เหมือนเมื่อคราวที่นางเคยริษยาท่านอาหญิง...ดวงใจเจ็บปวดรวดร้าวเฝ้ามองสองหนุ่มสาวโอบกอดพลอดรักกัน พวกเขาเป็นคู่ครองผู้เหมาะสมชนชั้นวรรณะ รูปลักษณ์งดงามราวกิ่งทองใบหยกนางเคยชิงชังท่านอาหญิงเท่าไร หาได้มีผู้ใดล่วงรู้ความลับของนาง ผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   11

    ในสังคมล้วนถือยศถือศักดิ์ พี่น้องแก่งแย่งชิงดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบนางกล่าวว่านางเป็นบุตรสาวชาวนา หนุ่มผู้ดีมีสกุลรุนชาติคงไม่แลมองนางแม้หางตา ถึงมอง พวกเขาจะถูกห้ามปรามโดยผู้ใหญ่ ไม่ให้มาเฉียดใกล้นาง“ข้าพยายามแนะนำผู้ชายให้เจ้าไม่สนใจสักคน ปีนี้เจ้าควรออกเรือนได้แล้ว ข้าจะลองหาดูสักคนให้เจ้า”“ขอให้ข้าได้ใช้ช่วงเวลาของข้าเถิดท่านแม่ จะตายวันตายพรุ่งก็หาได้รู้ไม่ ข้าไม่รีบร้อน เอาไว้ข้าค่อยแต่งตอนอายุยี่สิบเก้าปี หรือสามสิบปีก็ได้”“อายุสามสิบปีรึ! ใครจะมาเอาเจ้าเป็นภรรยา ตาย ๆ เจียลี่” มารดาโวยวาย ด้วยความที่ไม่อยากให้บุตรสาวดำเนินรอยตามตน และก็ไม่อยากให้เป็นอย่างน้องสาว ป่านนี้ไม่แต่งงานเสียที ลี่จิ่นกลับมาจากแคว้นเว่ยแล้วเมื่อวานนี้ ออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ในเมือง ร่ำสุราในโรงเตี๊ยม คุณชายสามตามมาพบที่ร้านเหล้า ไม่เห็นพูดเรื่องแต่งงานกับผู้ใหญ่“ได้ยินว่าท่านอาหวัง วันก่อนชักชวนเจ้าไปร่ำสุรา เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”“ไม่เมาเจ้าค่ะ ดื่มเหล้าไม่กี่จอก นั่งเล่นชมทิวทัศน์ ชักชวนข้าสนทนาซะมากกว่า”“อ้อ งั้นหรือ”จินเยว่แทบไม่เชื่อหูว่าน้องเขยน่ะหรือจะไม่เมา ยังมองเห็นแก้มแดง ๆ ของบุตรสาว เลื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-22
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   12

    เจียลี่ไม่ทันฉุกใจคิดว่าเป็นการกระทำผิดพลาดอย่างยิ่งยวด เมื่อพบชายร่างสูงใหญ่ยืนตาขวางอยู่ด้านหน้าเรือน ในอ้อมแขนของเขากอดไหสุรา ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ“ทำไมบ่าวรับใช้ได้อาหารของเจ้าก่อนข้า”“ข้าให้เขาไปแล้ว ไม่สามารถขอคืนได้ กับข้าวของท่านก็ตั้งมากมาย เกือบจะเท่าสำรับอาหารขุนนาง ข้าทำมาให้เป็นอย่างดี ควรแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง”หวังเฟยไม่เข้าใจที่นางพูดหรอก เขาแทบจะไม่ได้ยินนาง ร่างสูงสง่าในเสื้อผ้าสีฟ้าครามเดินโงนเงน ล้มลุกคลุกคลานเข้าเรือน มือยกไหสุราดื่มต่างน้ำเป็นการยากหลีกเลี่ยงความเมามาย เมื่อมิตรสหายยื่นสุราให้เขาก็ไม่เคยปฏิเสธ กลับมาถึงเรือนกว้างขวางนั่งอยู่ลำพังผู้เดียว เรียกบ่าวให้ไปเอาเหล้ามา เขาร่ำสุราไปหลายขวดทีเดียว จึงเริ่มส่งเสียงโวยวาย พูดจาไม่รู้ความเจียลี่สั่งให้บ่าวนำของไปเก็บในครัว นางไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรเพราะเห็นว่าอาการดีขึ้นมากกระทั่งพบท่านอาหญิง นางคิดว่าเขายังมีเยื่อใยต่อกันถึงได้เป็นเช่นนี้ ทว่านางเข้าใจผิดไปทั้งหมด พอท่านอาตะคอกนาง“เจียลี่! มีชายสูงศักดิ์มาพบหญิงหลายใจ มาซื้อผ้า เจียลี่ เจ้าไปจากข้าไม่ได้!”หวังเฟยบริภาษว่าหนุ่มน้อยใหญ่ที่มาหานาง เขารู้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   13

    ที่ผ่านมาท่านอาไม่เคยแตะต้องนางแม้ปลายผม กระทั่งถ้อยคำรื่นหูของเขา หาใช่เสียงตะคอกโวยวายเพราะความเมา นางไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน“เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจียลี่ รอข้าสักหน่อย ข้าจะไปสู่ขอเจ้ามาอยู่กับท่านอาขี้เมาทุกวัน...”หวังเฟยรู้ว่าโรคทางใจได้รับการเยียวยารักษาเป็นอย่างดี เขาจึงมิใช่ท่านอาคนเดิมเห็นใบหน้าตกใจของนาง เรียวปากอิ่มสีชาดเม้มปิดสนิทแน่น พาให้เป็นสุขโดยไร้สาเหตุ นางลุกขึ้นไปเรียกบ่าวให้ต้มน้ำ เตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ ถังไม้ลอยด้วยดอกไม้หอม เขาแสร้งทำโวยวายเรียกคนดูแลให้เข้ามา“มีอะไรเจ้าคะ ท่านอา... น้ำร้อนไปหรือ?”เจียลี่ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างกำยำลุกขึ้นมาคว้าเอวนางกอดเข้าหมับ นางร้องวี้ดว้ายตกใจ ยันแผงอกกว้างไว้ด้วยแรงน้อยนิด หน้าตาตื่นตระหนกเงยขึ้นมองฝ่ายรุกเร้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าแต่ยังอยู่ชุดที่เกือบจะหลุดก็ไม่ยอมหลุด“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้ว ท่านอาทำอะไรน่ะ” นางก็กลัวว่าจะเปียกไปด้วยกับเขาที่ลงไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าไม่ยอมถอด ตาหลุบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ“เจ้ามี ข้าเห็นว่าเจ้านำเสื้อผ้ามาเผื่อทุกครั้ง ข้าชอบทำเสื้อผ้าของเจ้าเลอะเทอะ”“วันนี้ข้าไม่ได้นำติดมือมา ตั้ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   14

    เมื่อท่านอาหนุ่มแทรกมือเข้าบีบเคล้นเต้าเต่งตึง ไม่ยอมให้นางห้ามปรามเขาได้อีก ฝ่ามืออีกข้างจับมือของนางสอดประสานทุกปลายนิ้ว เขาก้มหน้าจูบนางซ้ำ ๆ ให้นางหลงใหลในวังวนเสน่หา นางไม่แม้จะเอ่ยห้ามปรามเขาด้วยความหวาดกลัว หากให้การต้อนรับท่านอาไม่ต่างจากนางบำเรอร่างสูงใหญ่กำยำ มิใช่ชายขี้เมา ไร้สตรีเหลียวแล ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วยอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน วัน ๆ เขาเฝ้ากอดแต่ไหเหล้า คนในบ้านสกุลเยี่ยหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังว่าเขาจะยังใช้การได้หรือเปล่า ถึงส่งเจียลี่ไปดูแล นางงามเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งขึงขึ้นมาได้หวังเฟยลบคำสบประมาทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงดื่มด่ำยอดปทุมถัน ทั้งซ้ายขวาอย่างเท่าเทียม มือบีบเคล้นเนินอกเต่งตึง ด้วยความระมัดระวังเอาใจนาง ไม่ให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย กระทั่งสตรีร่างเล็กรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ผงาดรอนางอยู่เหนือหน้าท้อง น้ำเปียกฉ่ำไม่รู้ว่าเป็นน้ำในอ่างหรืออย่างไรแน่“ท่านอา... ร่างกายข้าฝืนทนไม่ไหวอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ควรรังแกข้า...” ริมฝีปากสีชาดที่เม้มสนิทคลายออก เพื่อเอ่ยคำขอร้องเขาอย่าได้กลั่นแกล้งนาง ให้นางต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดมากมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   18

    “ท่านว่าบ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ? ท่านอาพอจะบอกสตรีอย่างข้าได้หรือไม่ เผื่อว่าข้าอาจหาทางเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน”“บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ แตกแยกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ราชวงศ์ไม่สามารถปกครองบ้านเมือง ราชสำนักก็อ่อนแอ ผู้ครองแคว้นไร้ซึ่งคุณธรรม ข้าควรได้อยู่กับเจ้า เป็นตายร้ายดี ขอให้ได้ฝังศพข้างเคียงกัน”“ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเจ้าค่ะ แม้ข้าจะเป็นหญิงต่ำต้อย ขาพิการ...”“เจ้ามีความคิดเช่นนั้นก็คงไม่แปลก พวกชั่วช้าคอยกรอกหูเจ้า รังแกเจ้าแต่เล็กจนโต ข้าเองก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเจ้ามากนัก หากว่าข้าไม่ผ่านมาพบเจ้า”ต่อจากไปนี้จะไม่มี...หวังเฟยไม่ได้กล่าวคำนั้นกับนาง เพียงตั้งใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะเฝ้าติดตามหญิงสาวข้อเท้าไม่ดีผู้นี้ไปเรื่อย ๆ ที่ใดมีเขา ก็มีนาง จนกว่าชีวิตจะหาไม่--------------------------หญิงร่างผอมบางเนื้อตัวมอมแมม นั่งโงนเงนบนหลังอานม้า นางบ่นพึมพำว่านางรอดตายแล้ว นางรู้สึกเหมือนกำลังนอนเล่นในเปลแกว่งไกวไปมาใต้ลมเยียบเย็นที่ลูบแก้มนางอย่างอ่อนโยน ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป หวังเฟยเฝ้ามองนางงีบหลับในอ้อมแขน น่าเอ็นดูนัก เขาลักลอบจูบแก้มนาง ขมับนาง บังคับม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   17

    “อยู่เล่นกับพวกข้าก่อน วันนี้ข้าไม่ได้เอาขี้วัวมาทาเจ้า ข้ารับปากว่าจะไม่ฝังหญิงพิการขาเสียไว้ในกับดักสัตว์ ให้เจ้าเน่าตายในหลุม ข้ามีของเล่นที่น่าสนใจกว่า...”“เป็นผู้ดีมีสกุลแท้ ๆ ไยพวกเจ้าไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีได้” นางต่อว่าด้วยท่าทีก้าวร้าว พวกเขากลับหัวเราะเป็นเรื่องสนุก เด็กชายวัยสิบสามนับว่าตัวโตมากพอมีความคิดสรรหาวิธีรังแกนาง แถมมากันถึงแปดคน ล้อมรอบนางไม่ให้นางหนี เหลียงฟางซินได้เหล็กปลายแหลมมาหนึ่งอัน หยิบออกมาจากชายเสื้อที่ซุกซ่อนไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เจียลี่... วันนี้ข้าได้ลักลอบดูตำราเพศสตรี เพียงไม่เคยพบเห็นของจริง หอนางโลมข้าก็ยังเข้าไม่ได้ ท่านพ่อไม่ให้ข้าไปแน่ เจ้าคงไม่ใช่สตรีเหนียมอายใช่ไหม? ข้าล่ะนึกอยากรู้ว่าหญิงพิการจะมีรูเล็ก ๆ นั่นหรือไม่”สิ้นเสียงหัวเราะร่าเริง เด็กชายสองคนพลันล้มไปต่อหน้าต่อตา ชายเสื้อสีขาวสะอาดของผู้ดีร่างอวบถูกลากไปกับพื้นดิน แท่งเหล็กแหลมกระเด็นจากมือของเหลียงฟางซินไปอยู่ใต้เกือกอาชาสีน้ำตาล ตัวเขาก็ถูกลากไปกับเกือกม้านั้นด้วยชายร่างกำยำควบม้าถีบหน้าพวกเขาไม่สนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เด็กชายอันธพาลร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   16

    เจียลี่นั่งหมอบอยู่บนพื้นหญ้า คารวะท่านปู่ท่านย่าเป็นใหญ่โตราวคำนับฮ่องเต้ นางก้มหน้าผากแนบพื้น สองมีแปะผืนหญ้าจนผู้ใหญ่ขอให้นางลุก โดยเฉพาะท่านย่า ได้ใจอ่อนกับหลานสาวไปเสียทุกที ถึงเจียลี่อาจไม่เป็นที่รักที่สุด พวกเขารู้แก่ใจดีว่าหากนางจะไม่ต้องออกเรือน ให้นางทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด นางไม่ยินดีตบแต่งกับหนุ่มผู้ดีคนไหนในเมือง ขอแค่นางได้ทำงานเก็บเงินเที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆบ่าวรับใช้บ้านท่านอาหวังเรียกขานนางว่า ‘นายหญิง’ หากเมื่อพบลี่จิ่นกลับเรียกแม่นางสกุลเยี่ยอย่างให้ความเคารพ เฉกเช่นผู้สูงศักดิ์ทั่วไปถึงพวกเขาจะเคารพนอบน้อมเท่าไร ก็ยังไม่เท่ากับที่พวกเขาเคารพนายหญิงเจียลี่น่าประหลาดใจนัก น้องสาวของนางได้พบบ่าวรับใช้บ้าน ก็ว่าแปลกกระนั้นเจียลี่ยังไม่เข้าใจบ่าวรับใช้ หลายครั้งหลายคราพวกเขาไม่ยอมบอกว่าตนคิดสิ่งใด นางเคยได้ยินว่าหากเป็นในวังหลวง อาจถึงขั้นต้องจับพวกเขาไปทรมานทีเดียว บ่าวถึงจะยอมแพร่งพรายความลับของเจ้านาย แต่จะว่าไปแล้ว บ่าวผู้รักศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดก็มี พวกเขายินยอมการถูกทรมานจนตายไปกับความลับของเจ้านาย กระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย กัดลิ้นตายเองก็มี“ข้าจะไป

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   15

    หัวใจของนางเต้นระส่ำระสาย เมื่อท่านอามอบสัจวาจาว่าจะมาสู่ขอนางให้เร็วที่สุด เขายังต่อว่านางไม่ให้พูดถึงท่านอาหญิงด้วยจุมพิตแสนหวาน กระชับกอดเอวนางอย่างหวงแหน ไม่ยอมให้นางออกจากเรือนง่ายดายนักมารดาและคนทางบ้านตำหนินางเรื่องเวลา ทำไมนางจึงมาทำงานช้า ถึงแม้ว่าจะมีบ่าวล่วงหน้าไปที่ร้านผ้าก่อน ก็นางเคยทำตัวเหลวไหลเสียเมื่อไร‘ท่านอานะท่านอา ข้าเกือบโดนทำโทษ แถมโดนหักหวนเฉียน[1]ไปตั้งเยอะ’ นางบ่นในใจ หากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ความร้อนวูบวาบยังคงฝังติดบนเรือนกาย การถูไถประสาชายหญิงทำให้นางเพิ่งรู้ว่าท่อนแข็งขึงหน้าตาประหลาดนั่นทำอะไรได้ เขามอบความสุขสมให้นางเท่าไรมันยังแปลกที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาเป็นที่หนึ่งสำหรับนางเสมอ วันนี้นางโดนหักเงินกลับอารมณ์ดี ยิ้มแก้มปริ คนในบ้านทักนางอย่างสงสัยว่ามีเรื่องดีอะไรหรือเปล่า ขณะบ่าวรับใช้มารอรับนางพร้อมรถม้า บ่าวชายสองคนยังคงเป็นคนเดิม นางเข้าไปเจรจากับพวกเขาอย่างสุภาพ ขอให้อดทนอยู่กับเจ้านายเถิด ท่านหวังเฟยอารมณ์ดีบ้างร้ายบ้าง เดี๋ยวก็หาย เขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่ผู้คนรอบกายไม่ทอดทิ้งเขาให้โดดเดี่ยวเดียวดายกลับมาถึงเรือนไม้กว้างขวางในยามเซิน

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   14

    เมื่อท่านอาหนุ่มแทรกมือเข้าบีบเคล้นเต้าเต่งตึง ไม่ยอมให้นางห้ามปรามเขาได้อีก ฝ่ามืออีกข้างจับมือของนางสอดประสานทุกปลายนิ้ว เขาก้มหน้าจูบนางซ้ำ ๆ ให้นางหลงใหลในวังวนเสน่หา นางไม่แม้จะเอ่ยห้ามปรามเขาด้วยความหวาดกลัว หากให้การต้อนรับท่านอาไม่ต่างจากนางบำเรอร่างสูงใหญ่กำยำ มิใช่ชายขี้เมา ไร้สตรีเหลียวแล ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วยอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน วัน ๆ เขาเฝ้ากอดแต่ไหเหล้า คนในบ้านสกุลเยี่ยหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังว่าเขาจะยังใช้การได้หรือเปล่า ถึงส่งเจียลี่ไปดูแล นางงามเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งขึงขึ้นมาได้หวังเฟยลบคำสบประมาทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงดื่มด่ำยอดปทุมถัน ทั้งซ้ายขวาอย่างเท่าเทียม มือบีบเคล้นเนินอกเต่งตึง ด้วยความระมัดระวังเอาใจนาง ไม่ให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย กระทั่งสตรีร่างเล็กรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ผงาดรอนางอยู่เหนือหน้าท้อง น้ำเปียกฉ่ำไม่รู้ว่าเป็นน้ำในอ่างหรืออย่างไรแน่“ท่านอา... ร่างกายข้าฝืนทนไม่ไหวอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ควรรังแกข้า...” ริมฝีปากสีชาดที่เม้มสนิทคลายออก เพื่อเอ่ยคำขอร้องเขาอย่าได้กลั่นแกล้งนาง ให้นางต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดมากมา

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   13

    ที่ผ่านมาท่านอาไม่เคยแตะต้องนางแม้ปลายผม กระทั่งถ้อยคำรื่นหูของเขา หาใช่เสียงตะคอกโวยวายเพราะความเมา นางไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน“เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจียลี่ รอข้าสักหน่อย ข้าจะไปสู่ขอเจ้ามาอยู่กับท่านอาขี้เมาทุกวัน...”หวังเฟยรู้ว่าโรคทางใจได้รับการเยียวยารักษาเป็นอย่างดี เขาจึงมิใช่ท่านอาคนเดิมเห็นใบหน้าตกใจของนาง เรียวปากอิ่มสีชาดเม้มปิดสนิทแน่น พาให้เป็นสุขโดยไร้สาเหตุ นางลุกขึ้นไปเรียกบ่าวให้ต้มน้ำ เตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ ถังไม้ลอยด้วยดอกไม้หอม เขาแสร้งทำโวยวายเรียกคนดูแลให้เข้ามา“มีอะไรเจ้าคะ ท่านอา... น้ำร้อนไปหรือ?”เจียลี่ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างกำยำลุกขึ้นมาคว้าเอวนางกอดเข้าหมับ นางร้องวี้ดว้ายตกใจ ยันแผงอกกว้างไว้ด้วยแรงน้อยนิด หน้าตาตื่นตระหนกเงยขึ้นมองฝ่ายรุกเร้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าแต่ยังอยู่ชุดที่เกือบจะหลุดก็ไม่ยอมหลุด“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้ว ท่านอาทำอะไรน่ะ” นางก็กลัวว่าจะเปียกไปด้วยกับเขาที่ลงไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าไม่ยอมถอด ตาหลุบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ“เจ้ามี ข้าเห็นว่าเจ้านำเสื้อผ้ามาเผื่อทุกครั้ง ข้าชอบทำเสื้อผ้าของเจ้าเลอะเทอะ”“วันนี้ข้าไม่ได้นำติดมือมา ตั้ง

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   12

    เจียลี่ไม่ทันฉุกใจคิดว่าเป็นการกระทำผิดพลาดอย่างยิ่งยวด เมื่อพบชายร่างสูงใหญ่ยืนตาขวางอยู่ด้านหน้าเรือน ในอ้อมแขนของเขากอดไหสุรา ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ“ทำไมบ่าวรับใช้ได้อาหารของเจ้าก่อนข้า”“ข้าให้เขาไปแล้ว ไม่สามารถขอคืนได้ กับข้าวของท่านก็ตั้งมากมาย เกือบจะเท่าสำรับอาหารขุนนาง ข้าทำมาให้เป็นอย่างดี ควรแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง”หวังเฟยไม่เข้าใจที่นางพูดหรอก เขาแทบจะไม่ได้ยินนาง ร่างสูงสง่าในเสื้อผ้าสีฟ้าครามเดินโงนเงน ล้มลุกคลุกคลานเข้าเรือน มือยกไหสุราดื่มต่างน้ำเป็นการยากหลีกเลี่ยงความเมามาย เมื่อมิตรสหายยื่นสุราให้เขาก็ไม่เคยปฏิเสธ กลับมาถึงเรือนกว้างขวางนั่งอยู่ลำพังผู้เดียว เรียกบ่าวให้ไปเอาเหล้ามา เขาร่ำสุราไปหลายขวดทีเดียว จึงเริ่มส่งเสียงโวยวาย พูดจาไม่รู้ความเจียลี่สั่งให้บ่าวนำของไปเก็บในครัว นางไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรเพราะเห็นว่าอาการดีขึ้นมากกระทั่งพบท่านอาหญิง นางคิดว่าเขายังมีเยื่อใยต่อกันถึงได้เป็นเช่นนี้ ทว่านางเข้าใจผิดไปทั้งหมด พอท่านอาตะคอกนาง“เจียลี่! มีชายสูงศักดิ์มาพบหญิงหลายใจ มาซื้อผ้า เจียลี่ เจ้าไปจากข้าไม่ได้!”หวังเฟยบริภาษว่าหนุ่มน้อยใหญ่ที่มาหานาง เขารู้ว

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   11

    ในสังคมล้วนถือยศถือศักดิ์ พี่น้องแก่งแย่งชิงดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบนางกล่าวว่านางเป็นบุตรสาวชาวนา หนุ่มผู้ดีมีสกุลรุนชาติคงไม่แลมองนางแม้หางตา ถึงมอง พวกเขาจะถูกห้ามปรามโดยผู้ใหญ่ ไม่ให้มาเฉียดใกล้นาง“ข้าพยายามแนะนำผู้ชายให้เจ้าไม่สนใจสักคน ปีนี้เจ้าควรออกเรือนได้แล้ว ข้าจะลองหาดูสักคนให้เจ้า”“ขอให้ข้าได้ใช้ช่วงเวลาของข้าเถิดท่านแม่ จะตายวันตายพรุ่งก็หาได้รู้ไม่ ข้าไม่รีบร้อน เอาไว้ข้าค่อยแต่งตอนอายุยี่สิบเก้าปี หรือสามสิบปีก็ได้”“อายุสามสิบปีรึ! ใครจะมาเอาเจ้าเป็นภรรยา ตาย ๆ เจียลี่” มารดาโวยวาย ด้วยความที่ไม่อยากให้บุตรสาวดำเนินรอยตามตน และก็ไม่อยากให้เป็นอย่างน้องสาว ป่านนี้ไม่แต่งงานเสียที ลี่จิ่นกลับมาจากแคว้นเว่ยแล้วเมื่อวานนี้ ออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ในเมือง ร่ำสุราในโรงเตี๊ยม คุณชายสามตามมาพบที่ร้านเหล้า ไม่เห็นพูดเรื่องแต่งงานกับผู้ใหญ่“ได้ยินว่าท่านอาหวัง วันก่อนชักชวนเจ้าไปร่ำสุรา เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”“ไม่เมาเจ้าค่ะ ดื่มเหล้าไม่กี่จอก นั่งเล่นชมทิวทัศน์ ชักชวนข้าสนทนาซะมากกว่า”“อ้อ งั้นหรือ”จินเยว่แทบไม่เชื่อหูว่าน้องเขยน่ะหรือจะไม่เมา ยังมองเห็นแก้มแดง ๆ ของบุตรสาว เลื่

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   10

    นัยน์ตาลุ่มลึกมากล้นด้วยเสน่ห์ หลุบลงมองร่างผอมบาง นางตัวเล็กกว่าเขามาก ใบหน้าก็จิ้มลิ้ม แก้มน่าหยิก นางยืนเต็มเท้ายังสูงเพียงระดับบ่าของเขา“ข้าเกิดความรู้สึกเอ็นดูเจ้า มิใช่เพียงเรื่องบุญคุณที่เจ้าเฝ้าเอาใจใส่ข้า”“เรื่องอะไรเจ้าคะ?”“เจ้าช่างน่ารักใคร่... แก้มแดง ๆ ของเจ้า กลิ่นกายเจ้า เรือนผมของเจ้า... เย้ายั่วใจชาย...” ใต้รอยยิ้มมีลับลมคมใน เจียลี่หาได้รู้ใจท่านอา หากเป็นตรงกันข้ามกับท่านอา ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านดวงตาคู่สวยใส เต็มไปด้วยความรักใคร่หลงใหล แม้นางจะปฏิเสธเขาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า“ท่านอาขี้เมาเจ้าค่ะ”“ขี้เมา... แล้วเจ้าไม่ชอบข้าหรือ?”“นานครั้งสังสรรค์กับมิตรสหายคงไม่เป็นไร ถ้าหากว่าไม่เมาบ่อย ๆ จะดีกว่า...” แล้วนางจึงเงียบไป นัยน์ตาหลงใหลเฝ้ามองใบหน้าคร้ามคม บัดนี้แลดูมีชีวิตชีวาเพราะนาง ชายผู้นี้กลับมาหล่อเหลา รูปลักษณ์ตรึงใจสตรี เหมือนเมื่อคราวที่นางเคยริษยาท่านอาหญิง...ดวงใจเจ็บปวดรวดร้าวเฝ้ามองสองหนุ่มสาวโอบกอดพลอดรักกัน พวกเขาเป็นคู่ครองผู้เหมาะสมชนชั้นวรรณะ รูปลักษณ์งดงามราวกิ่งทองใบหยกนางเคยชิงชังท่านอาหญิงเท่าไร หาได้มีผู้ใดล่วงรู้ความลับของนาง ผ

DMCA.com Protection Status