Share

10

last update Last Updated: 2024-10-22 22:24:22

นัยน์ตาลุ่มลึกมากล้นด้วยเสน่ห์ หลุบลงมองร่างผอมบาง นางตัวเล็กกว่าเขามาก ใบหน้าก็จิ้มลิ้ม แก้มน่าหยิก นางยืนเต็มเท้ายังสูงเพียงระดับบ่าของเขา

“ข้าเกิดความรู้สึกเอ็นดูเจ้า มิใช่เพียงเรื่องบุญคุณที่เจ้าเฝ้าเอาใจใส่ข้า”

“เรื่องอะไรเจ้าคะ?”

“เจ้าช่างน่ารักใคร่... แก้มแดง ๆ ของเจ้า กลิ่นกายเจ้า เรือนผมของเจ้า... เย้ายั่วใจชาย...” ใต้รอยยิ้มมีลับลมคมใน เจียลี่หาได้รู้ใจท่านอา หากเป็นตรงกันข้ามกับท่านอา ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านดวงตาคู่สวยใส เต็มไปด้วยความรักใคร่หลงใหล แม้นางจะปฏิเสธเขาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า

“ท่านอาขี้เมาเจ้าค่ะ”

“ขี้เมา... แล้วเจ้าไม่ชอบข้าหรือ?”

“นานครั้งสังสรรค์กับมิตรสหายคงไม่เป็นไร ถ้าหากว่าไม่เมาบ่อย ๆ จะดีกว่า...” แล้วนางจึงเงียบไป นัยน์ตาหลงใหลเฝ้ามองใบหน้าคร้ามคม บัดนี้แลดูมีชีวิตชีวาเพราะนาง ชายผู้นี้กลับมาหล่อเหลา รูปลักษณ์ตรึงใจสตรี เหมือนเมื่อคราวที่นางเคยริษยาท่านอาหญิง...

ดวงใจเจ็บปวดรวดร้าวเฝ้ามองสองหนุ่มสาวโอบกอดพลอดรักกัน พวกเขาเป็นคู่ครองผู้เหมาะสมชนชั้นวรรณะ รูปลักษณ์งดงามราวกิ่งทองใบหยก

นางเคยชิงชังท่านอาหญิงเท่าไร หาได้มีผู้ใดล่วงรู้ความลับของนาง ผู้ทำได้เพียงซุกซบบนหมอนในห้องนอนมืดแคบ ปลดปล่อยน้ำตาให้รินไหลอยู่ภายใน

เจียลี่เอาแต่จ้องท่านอา นางได้กลิ่นหอมอบอวลจากเสื้อผ้าของเขา กลบด้วยบางกลิ่นที่หอมมากกว่า

“กลิ่นอะไรเจ้าคะ?”

“กำยาน” 

หวังเฟยจุดเทียนหลายเล่มบนโต๊ะเรียบร้อยดีแล้วนางยังคงไม่ละวางตาไปจากเขา เขานึกขบขันนางในใจ มือปัดควันจากกำยานขนาดเท่าฝ่ามือ ทำจากหินสีดำสลักลายด้วยทองคำ ขณะรอยยิ้มมีเลศนัยขยับอยู่ตรงมุมปากหนา

เจียลี่กะพริบตาถาม “ท่านอาพูดจริงหรือ?”

“เรื่องอะไร?”

“ท่าน... ว่าข้าน่ารักใคร่”

“ใช่...” ในสีหน้าเรียบเฉยตอบ หลังจากที่เขาเกือบจะทำให้นางพูดความในใจด้วยกำยาน

 โถสีนิลอันหนึ่งให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หวังเฟยรับรู้มาจากท่านอาหญิงของนางว่าหลานสาวน่ะแพ้กลิ่นหอมของเครื่องประทินกลิ่นต่าง ๆ นางมักจะนอนหลับไปเสียเฉย ๆ หากท่านย่าของนางจุดมันที่ใดในเรือน

“เจ้าล่ะ ไยเจ้ามาเอาอกเอาใจข้าทุกวัน ข้าเป็นชายฉลาดเฉลียวใจ ข้ารู้เรื่องหญิงสาวดี เจ้าบอกข้ามาเถิด”

“ข้ารู้สึกง่วงนอนเจ้าค่ะ ข้าไม่ค่อยชอบกลิ่น... กำยาน…”

“เช่นนั้นเจ้างีบนอนสักเดี๋ยว ข้าจะปลุกเจ้าไปส่งเจ้าถึงบ้าน ไม่ให้มีเรื่องเสื่อมเสีย”

เจียลี่พยักหน้า เปลือกตาที่อ่อนกำลังลงราวกับว่านางจะหลับทั้งยืนได้ นางเดินไปจากท่านอา หย่อนก้นนั่งลงบนตั่งไม้ในห้องรับรองแล้วหลับไป ท่านอาก็คงไม่รู้ว่านางผ่อนคลายสบายในนิทราแสนหวานไปเพราะกำยาน

ท่านอาเขยในนามถือโอกาสโน้มตัวลงช้อนข้อพับเนียนขึ้น แทรกตัวเข้าไปบนตั่งนั่ง วางนางไว้บนหน้าตักแกร่ง เมื่อเห็นว่านางพักพิงศีรษะชนแผงอกของเขาไว้ คงนอนหลับไม่สบายนัก นางลืมตาขึ้นครั้งหนึ่งโดยไม่ได้เอ่ยคำประท้วงเรื่องชายหญิง หากยังไม่แต่งงานก็ไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน นางหลับตานอนอย่างย่ามใจในอ้อมกอดอุ่น ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจว่าท่านอาไม่ล่วงเกินนางแน่ 

นั่นอาจเป็นเพียงความคิดของนางฝ่ายเดียว มิฉะนั้นเขาจะจุดกำยานไปเพื่ออะไร

บ่าวรับใช้นำสุรามาให้ในอีกไม่ช้า หวังเฟยเกิดความลังเลใจว่าควรให้บ่าวอยู่หรือไป เขาไม่อยากขยับมือไปรินสุราลงในจอก หญิงผู้ดูแลเรื่องการรินเหล้าก็กำลังหลับตานิ่ง 

กระนั้นการจะได้อยู่ร่วมกับเจียลี่ตามลำพังช่างหาได้ยากนัก การที่นางนอนหลับใหลในอ้อมอกของเขายิ่งแล้วใหญ่ นี่เป็นโอกาสทองของเขาที่จะได้โอบกอดนาง

ใบหน้าหวานงามแลดูผ่อนคลาย นางผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ พับมือทั้งสอง กำมือเอาไว้ ราวเด็กสาวตัวน้อย เป็นภาพอันงดงามจับตาจนเขาไม่ปรารถนาให้นางตื่น ให้นางหลับอยู่นาน ๆ ถึงรุ่งเช้าเลยยิ่งดี

เมื่อตัดสินใจได้ว่าควรไล่บ่าวไป เพราะไม่อยากให้มีส่วนเกินในห้อง หวังเฟยยกไหสุราขึ้นดื่มไปเรื่อย ๆ ไม่นานนัก นางก็ปรือตามองเขาด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง

“ตื่นแล้วหรือ? หลับสบายดีไหม”

“ดีเจ้าค่ะ... เพียงแต่...” ปลายเสียงเงียบไป ใบหน้าสดสวยเปียกปอนข้าวหมักกลิ่นหอมกรุ่นเงยขึ้นมองดวงตาคู่คมเบิกกว้างตกใจ ท่านอากำไหเหล้าแน่น

“ท่านอาดื่มเหล้าหกใส่หัวข้า...”

 --------------------------

ด้วยอายุวัยของเจียลี่ นางกำลังเป็นสาวสะพรั่ง มีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาพยายามเข้าหา บุตรชายเศรษฐีในเมืองมาซื้อเสื้อผ้าไปสวมใส่ได้แทบทุกอาทิตย์เพื่อจะได้พบหน้านาง ทักทายนาง เชิญชวนนางไปนั่งจิบชาในตลาด

มารดาของนางนั้นสนับสนุนหากว่าเขาผู้นั้นแลดูมีฐานะร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคม ไม่เป็นชนชั้นสูงก็ขอให้เป็นชนชั้นกลาง ให้นางพิจารณาไว้เถิด อย่าได้ดำเนินรอยตามมารดาที่ไม่เอาไหน ได้สามีเป็นชาวนาผู้ยากไร้ใกล้เคียงทาส นางจะได้สวมใส่เสื้อผ้าดี ๆ ไม่ต้องทนลำบาก ตรากตรำทำงานขายผ้า ให้นางไปอยู่บ้านหลังใหญ่ ให้นางสุขสบาย

เป็นนางเองไม่ยอมไป ใครจะมาลากพานางให้ไปนั่งรินชาให้คุณชายที่ไหน หัวเด็ดตีนขาดนางก็ไม่ไป

“งานข้าค่อนข้างรัดตัวทีเดียว ไม่มีผู้ใดไปสั่งงานแทนข้า จำเป็นต้องคุมบ่าวรับใช้ไม่ให้งานตกหล่น เถ้าแก่จะดุว่าข้าเอาได้ ข้าจะถูกเฆี่ยนตีแน่ ๆ หากข้าทำงานผิดพลาด ข้าขออภัยท่านด้วย ข้ารู้สึกเสียใจที่ปฏิเสธท่าน”

ถ้อยคำรื่นหูที่นางเฝ้าปฏิเสธบุรุษทั้งหลาย นางแสนนอบน้อมถ่อมตน ไม่ให้ใครว่านางไร้มารยาทได้ หรือจะมาอาละวาดหน้าร้านขายผ้าในตลาด ต่อว่านางอย่างนักเลงพาล เมื่อถูกปฏิเสธน้ำใจหลายต่อหลายครั้ง คุณชายทั้งหลายก็คงตามตื๊อนางไม่นาน ยิ่งนางแสนถ่อมตนไม่บอกว่านางเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เพื่อที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้ไม่มาเข้าหานางทางผู้ใหญ่ ให้เข้าใจว่านางเป็นลูกจ้างธรรมดา ๆ ของร้านขายผ้าสกุลเยี่ยนั่นแหละดี

Related chapters

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   11

    ในสังคมล้วนถือยศถือศักดิ์ พี่น้องแก่งแย่งชิงดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบนางกล่าวว่านางเป็นบุตรสาวชาวนา หนุ่มผู้ดีมีสกุลรุนชาติคงไม่แลมองนางแม้หางตา ถึงมอง พวกเขาจะถูกห้ามปรามโดยผู้ใหญ่ ไม่ให้มาเฉียดใกล้นาง“ข้าพยายามแนะนำผู้ชายให้เจ้าไม่สนใจสักคน ปีนี้เจ้าควรออกเรือนได้แล้ว ข้าจะลองหาดูสักคนให้เจ้า”“ขอให้ข้าได้ใช้ช่วงเวลาของข้าเถิดท่านแม่ จะตายวันตายพรุ่งก็หาได้รู้ไม่ ข้าไม่รีบร้อน เอาไว้ข้าค่อยแต่งตอนอายุยี่สิบเก้าปี หรือสามสิบปีก็ได้”“อายุสามสิบปีรึ! ใครจะมาเอาเจ้าเป็นภรรยา ตาย ๆ เจียลี่” มารดาโวยวาย ด้วยความที่ไม่อยากให้บุตรสาวดำเนินรอยตามตน และก็ไม่อยากให้เป็นอย่างน้องสาว ป่านนี้ไม่แต่งงานเสียที ลี่จิ่นกลับมาจากแคว้นเว่ยแล้วเมื่อวานนี้ ออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ในเมือง ร่ำสุราในโรงเตี๊ยม คุณชายสามตามมาพบที่ร้านเหล้า ไม่เห็นพูดเรื่องแต่งงานกับผู้ใหญ่“ได้ยินว่าท่านอาหวัง วันก่อนชักชวนเจ้าไปร่ำสุรา เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”“ไม่เมาเจ้าค่ะ ดื่มเหล้าไม่กี่จอก นั่งเล่นชมทิวทัศน์ ชักชวนข้าสนทนาซะมากกว่า”“อ้อ งั้นหรือ”จินเยว่แทบไม่เชื่อหูว่าน้องเขยน่ะหรือจะไม่เมา ยังมองเห็นแก้มแดง ๆ ของบุตรสาว เลื่

    Last Updated : 2024-10-22
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   12

    เจียลี่ไม่ทันฉุกใจคิดว่าเป็นการกระทำผิดพลาดอย่างยิ่งยวด เมื่อพบชายร่างสูงใหญ่ยืนตาขวางอยู่ด้านหน้าเรือน ในอ้อมแขนของเขากอดไหสุรา ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ“ทำไมบ่าวรับใช้ได้อาหารของเจ้าก่อนข้า”“ข้าให้เขาไปแล้ว ไม่สามารถขอคืนได้ กับข้าวของท่านก็ตั้งมากมาย เกือบจะเท่าสำรับอาหารขุนนาง ข้าทำมาให้เป็นอย่างดี ควรแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง”หวังเฟยไม่เข้าใจที่นางพูดหรอก เขาแทบจะไม่ได้ยินนาง ร่างสูงสง่าในเสื้อผ้าสีฟ้าครามเดินโงนเงน ล้มลุกคลุกคลานเข้าเรือน มือยกไหสุราดื่มต่างน้ำเป็นการยากหลีกเลี่ยงความเมามาย เมื่อมิตรสหายยื่นสุราให้เขาก็ไม่เคยปฏิเสธ กลับมาถึงเรือนกว้างขวางนั่งอยู่ลำพังผู้เดียว เรียกบ่าวให้ไปเอาเหล้ามา เขาร่ำสุราไปหลายขวดทีเดียว จึงเริ่มส่งเสียงโวยวาย พูดจาไม่รู้ความเจียลี่สั่งให้บ่าวนำของไปเก็บในครัว นางไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรเพราะเห็นว่าอาการดีขึ้นมากกระทั่งพบท่านอาหญิง นางคิดว่าเขายังมีเยื่อใยต่อกันถึงได้เป็นเช่นนี้ ทว่านางเข้าใจผิดไปทั้งหมด พอท่านอาตะคอกนาง“เจียลี่! มีชายสูงศักดิ์มาพบหญิงหลายใจ มาซื้อผ้า เจียลี่ เจ้าไปจากข้าไม่ได้!”หวังเฟยบริภาษว่าหนุ่มน้อยใหญ่ที่มาหานาง เขารู้ว

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   13

    ที่ผ่านมาท่านอาไม่เคยแตะต้องนางแม้ปลายผม กระทั่งถ้อยคำรื่นหูของเขา หาใช่เสียงตะคอกโวยวายเพราะความเมา นางไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน“เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจียลี่ รอข้าสักหน่อย ข้าจะไปสู่ขอเจ้ามาอยู่กับท่านอาขี้เมาทุกวัน...”หวังเฟยรู้ว่าโรคทางใจได้รับการเยียวยารักษาเป็นอย่างดี เขาจึงมิใช่ท่านอาคนเดิมเห็นใบหน้าตกใจของนาง เรียวปากอิ่มสีชาดเม้มปิดสนิทแน่น พาให้เป็นสุขโดยไร้สาเหตุ นางลุกขึ้นไปเรียกบ่าวให้ต้มน้ำ เตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ ถังไม้ลอยด้วยดอกไม้หอม เขาแสร้งทำโวยวายเรียกคนดูแลให้เข้ามา“มีอะไรเจ้าคะ ท่านอา... น้ำร้อนไปหรือ?”เจียลี่ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างกำยำลุกขึ้นมาคว้าเอวนางกอดเข้าหมับ นางร้องวี้ดว้ายตกใจ ยันแผงอกกว้างไว้ด้วยแรงน้อยนิด หน้าตาตื่นตระหนกเงยขึ้นมองฝ่ายรุกเร้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าแต่ยังอยู่ชุดที่เกือบจะหลุดก็ไม่ยอมหลุด“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้ว ท่านอาทำอะไรน่ะ” นางก็กลัวว่าจะเปียกไปด้วยกับเขาที่ลงไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าไม่ยอมถอด ตาหลุบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ“เจ้ามี ข้าเห็นว่าเจ้านำเสื้อผ้ามาเผื่อทุกครั้ง ข้าชอบทำเสื้อผ้าของเจ้าเลอะเทอะ”“วันนี้ข้าไม่ได้นำติดมือมา ตั้ง

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   14

    เมื่อท่านอาหนุ่มแทรกมือเข้าบีบเคล้นเต้าเต่งตึง ไม่ยอมให้นางห้ามปรามเขาได้อีก ฝ่ามืออีกข้างจับมือของนางสอดประสานทุกปลายนิ้ว เขาก้มหน้าจูบนางซ้ำ ๆ ให้นางหลงใหลในวังวนเสน่หา นางไม่แม้จะเอ่ยห้ามปรามเขาด้วยความหวาดกลัว หากให้การต้อนรับท่านอาไม่ต่างจากนางบำเรอร่างสูงใหญ่กำยำ มิใช่ชายขี้เมา ไร้สตรีเหลียวแล ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วยอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน วัน ๆ เขาเฝ้ากอดแต่ไหเหล้า คนในบ้านสกุลเยี่ยหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังว่าเขาจะยังใช้การได้หรือเปล่า ถึงส่งเจียลี่ไปดูแล นางงามเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งขึงขึ้นมาได้หวังเฟยลบคำสบประมาทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงดื่มด่ำยอดปทุมถัน ทั้งซ้ายขวาอย่างเท่าเทียม มือบีบเคล้นเนินอกเต่งตึง ด้วยความระมัดระวังเอาใจนาง ไม่ให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย กระทั่งสตรีร่างเล็กรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ผงาดรอนางอยู่เหนือหน้าท้อง น้ำเปียกฉ่ำไม่รู้ว่าเป็นน้ำในอ่างหรืออย่างไรแน่“ท่านอา... ร่างกายข้าฝืนทนไม่ไหวอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ควรรังแกข้า...” ริมฝีปากสีชาดที่เม้มสนิทคลายออก เพื่อเอ่ยคำขอร้องเขาอย่าได้กลั่นแกล้งนาง ให้นางต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดมากมา

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   15

    หัวใจของนางเต้นระส่ำระสาย เมื่อท่านอามอบสัจวาจาว่าจะมาสู่ขอนางให้เร็วที่สุด เขายังต่อว่านางไม่ให้พูดถึงท่านอาหญิงด้วยจุมพิตแสนหวาน กระชับกอดเอวนางอย่างหวงแหน ไม่ยอมให้นางออกจากเรือนง่ายดายนักมารดาและคนทางบ้านตำหนินางเรื่องเวลา ทำไมนางจึงมาทำงานช้า ถึงแม้ว่าจะมีบ่าวล่วงหน้าไปที่ร้านผ้าก่อน ก็นางเคยทำตัวเหลวไหลเสียเมื่อไร‘ท่านอานะท่านอา ข้าเกือบโดนทำโทษ แถมโดนหักหวนเฉียน[1]ไปตั้งเยอะ’ นางบ่นในใจ หากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ความร้อนวูบวาบยังคงฝังติดบนเรือนกาย การถูไถประสาชายหญิงทำให้นางเพิ่งรู้ว่าท่อนแข็งขึงหน้าตาประหลาดนั่นทำอะไรได้ เขามอบความสุขสมให้นางเท่าไรมันยังแปลกที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาเป็นที่หนึ่งสำหรับนางเสมอ วันนี้นางโดนหักเงินกลับอารมณ์ดี ยิ้มแก้มปริ คนในบ้านทักนางอย่างสงสัยว่ามีเรื่องดีอะไรหรือเปล่า ขณะบ่าวรับใช้มารอรับนางพร้อมรถม้า บ่าวชายสองคนยังคงเป็นคนเดิม นางเข้าไปเจรจากับพวกเขาอย่างสุภาพ ขอให้อดทนอยู่กับเจ้านายเถิด ท่านหวังเฟยอารมณ์ดีบ้างร้ายบ้าง เดี๋ยวก็หาย เขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่ผู้คนรอบกายไม่ทอดทิ้งเขาให้โดดเดี่ยวเดียวดายกลับมาถึงเรือนไม้กว้างขวางในยามเซิน

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   16

    เจียลี่นั่งหมอบอยู่บนพื้นหญ้า คารวะท่านปู่ท่านย่าเป็นใหญ่โตราวคำนับฮ่องเต้ นางก้มหน้าผากแนบพื้น สองมีแปะผืนหญ้าจนผู้ใหญ่ขอให้นางลุก โดยเฉพาะท่านย่า ได้ใจอ่อนกับหลานสาวไปเสียทุกที ถึงเจียลี่อาจไม่เป็นที่รักที่สุด พวกเขารู้แก่ใจดีว่าหากนางจะไม่ต้องออกเรือน ให้นางทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด นางไม่ยินดีตบแต่งกับหนุ่มผู้ดีคนไหนในเมือง ขอแค่นางได้ทำงานเก็บเงินเที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆบ่าวรับใช้บ้านท่านอาหวังเรียกขานนางว่า ‘นายหญิง’ หากเมื่อพบลี่จิ่นกลับเรียกแม่นางสกุลเยี่ยอย่างให้ความเคารพ เฉกเช่นผู้สูงศักดิ์ทั่วไปถึงพวกเขาจะเคารพนอบน้อมเท่าไร ก็ยังไม่เท่ากับที่พวกเขาเคารพนายหญิงเจียลี่น่าประหลาดใจนัก น้องสาวของนางได้พบบ่าวรับใช้บ้าน ก็ว่าแปลกกระนั้นเจียลี่ยังไม่เข้าใจบ่าวรับใช้ หลายครั้งหลายคราพวกเขาไม่ยอมบอกว่าตนคิดสิ่งใด นางเคยได้ยินว่าหากเป็นในวังหลวง อาจถึงขั้นต้องจับพวกเขาไปทรมานทีเดียว บ่าวถึงจะยอมแพร่งพรายความลับของเจ้านาย แต่จะว่าไปแล้ว บ่าวผู้รักศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดก็มี พวกเขายินยอมการถูกทรมานจนตายไปกับความลับของเจ้านาย กระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย กัดลิ้นตายเองก็มี“ข้าจะไป

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   17

    “อยู่เล่นกับพวกข้าก่อน วันนี้ข้าไม่ได้เอาขี้วัวมาทาเจ้า ข้ารับปากว่าจะไม่ฝังหญิงพิการขาเสียไว้ในกับดักสัตว์ ให้เจ้าเน่าตายในหลุม ข้ามีของเล่นที่น่าสนใจกว่า...”“เป็นผู้ดีมีสกุลแท้ ๆ ไยพวกเจ้าไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีได้” นางต่อว่าด้วยท่าทีก้าวร้าว พวกเขากลับหัวเราะเป็นเรื่องสนุก เด็กชายวัยสิบสามนับว่าตัวโตมากพอมีความคิดสรรหาวิธีรังแกนาง แถมมากันถึงแปดคน ล้อมรอบนางไม่ให้นางหนี เหลียงฟางซินได้เหล็กปลายแหลมมาหนึ่งอัน หยิบออกมาจากชายเสื้อที่ซุกซ่อนไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เจียลี่... วันนี้ข้าได้ลักลอบดูตำราเพศสตรี เพียงไม่เคยพบเห็นของจริง หอนางโลมข้าก็ยังเข้าไม่ได้ ท่านพ่อไม่ให้ข้าไปแน่ เจ้าคงไม่ใช่สตรีเหนียมอายใช่ไหม? ข้าล่ะนึกอยากรู้ว่าหญิงพิการจะมีรูเล็ก ๆ นั่นหรือไม่”สิ้นเสียงหัวเราะร่าเริง เด็กชายสองคนพลันล้มไปต่อหน้าต่อตา ชายเสื้อสีขาวสะอาดของผู้ดีร่างอวบถูกลากไปกับพื้นดิน แท่งเหล็กแหลมกระเด็นจากมือของเหลียงฟางซินไปอยู่ใต้เกือกอาชาสีน้ำตาล ตัวเขาก็ถูกลากไปกับเกือกม้านั้นด้วยชายร่างกำยำควบม้าถีบหน้าพวกเขาไม่สนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เด็กชายอันธพาลร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เม

    Last Updated : 2024-12-12
  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   18

    “ท่านว่าบ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ? ท่านอาพอจะบอกสตรีอย่างข้าได้หรือไม่ เผื่อว่าข้าอาจหาทางเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน”“บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ แตกแยกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ราชวงศ์ไม่สามารถปกครองบ้านเมือง ราชสำนักก็อ่อนแอ ผู้ครองแคว้นไร้ซึ่งคุณธรรม ข้าควรได้อยู่กับเจ้า เป็นตายร้ายดี ขอให้ได้ฝังศพข้างเคียงกัน”“ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเจ้าค่ะ แม้ข้าจะเป็นหญิงต่ำต้อย ขาพิการ...”“เจ้ามีความคิดเช่นนั้นก็คงไม่แปลก พวกชั่วช้าคอยกรอกหูเจ้า รังแกเจ้าแต่เล็กจนโต ข้าเองก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเจ้ามากนัก หากว่าข้าไม่ผ่านมาพบเจ้า”ต่อจากไปนี้จะไม่มี...หวังเฟยไม่ได้กล่าวคำนั้นกับนาง เพียงตั้งใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะเฝ้าติดตามหญิงสาวข้อเท้าไม่ดีผู้นี้ไปเรื่อย ๆ ที่ใดมีเขา ก็มีนาง จนกว่าชีวิตจะหาไม่--------------------------หญิงร่างผอมบางเนื้อตัวมอมแมม นั่งโงนเงนบนหลังอานม้า นางบ่นพึมพำว่านางรอดตายแล้ว นางรู้สึกเหมือนกำลังนอนเล่นในเปลแกว่งไกวไปมาใต้ลมเยียบเย็นที่ลูบแก้มนางอย่างอ่อนโยน ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป หวังเฟยเฝ้ามองนางงีบหลับในอ้อมแขน น่าเอ็นดูนัก เขาลักลอบจูบแก้มนาง ขมับนาง บังคับม

    Last Updated : 2024-12-12

Latest chapter

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   18

    “ท่านว่าบ้านเมืองแตกแยกวุ่นวาย มีเรื่องอะไรหรือเจ้าคะ? ท่านอาพอจะบอกสตรีอย่างข้าได้หรือไม่ เผื่อว่าข้าอาจหาทางเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน”“บ้านเมืองร้อนเป็นไฟ แตกแยกเป็นแคว้นเล็กแคว้นน้อย ราชวงศ์ไม่สามารถปกครองบ้านเมือง ราชสำนักก็อ่อนแอ ผู้ครองแคว้นไร้ซึ่งคุณธรรม ข้าควรได้อยู่กับเจ้า เป็นตายร้ายดี ขอให้ได้ฝังศพข้างเคียงกัน”“ข้าก็อยากอยู่กับท่านอาเจ้าค่ะ แม้ข้าจะเป็นหญิงต่ำต้อย ขาพิการ...”“เจ้ามีความคิดเช่นนั้นก็คงไม่แปลก พวกชั่วช้าคอยกรอกหูเจ้า รังแกเจ้าแต่เล็กจนโต ข้าเองก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเจ้ามากนัก หากว่าข้าไม่ผ่านมาพบเจ้า”ต่อจากไปนี้จะไม่มี...หวังเฟยไม่ได้กล่าวคำนั้นกับนาง เพียงตั้งใจเป็นมั่นเหมาะว่าจะเฝ้าติดตามหญิงสาวข้อเท้าไม่ดีผู้นี้ไปเรื่อย ๆ ที่ใดมีเขา ก็มีนาง จนกว่าชีวิตจะหาไม่--------------------------หญิงร่างผอมบางเนื้อตัวมอมแมม นั่งโงนเงนบนหลังอานม้า นางบ่นพึมพำว่านางรอดตายแล้ว นางรู้สึกเหมือนกำลังนอนเล่นในเปลแกว่งไกวไปมาใต้ลมเยียบเย็นที่ลูบแก้มนางอย่างอ่อนโยน ไม่นานนักก็ผล็อยหลับไป หวังเฟยเฝ้ามองนางงีบหลับในอ้อมแขน น่าเอ็นดูนัก เขาลักลอบจูบแก้มนาง ขมับนาง บังคับม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   17

    “อยู่เล่นกับพวกข้าก่อน วันนี้ข้าไม่ได้เอาขี้วัวมาทาเจ้า ข้ารับปากว่าจะไม่ฝังหญิงพิการขาเสียไว้ในกับดักสัตว์ ให้เจ้าเน่าตายในหลุม ข้ามีของเล่นที่น่าสนใจกว่า...”“เป็นผู้ดีมีสกุลแท้ ๆ ไยพวกเจ้าไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีได้” นางต่อว่าด้วยท่าทีก้าวร้าว พวกเขากลับหัวเราะเป็นเรื่องสนุก เด็กชายวัยสิบสามนับว่าตัวโตมากพอมีความคิดสรรหาวิธีรังแกนาง แถมมากันถึงแปดคน ล้อมรอบนางไม่ให้นางหนี เหลียงฟางซินได้เหล็กปลายแหลมมาหนึ่งอัน หยิบออกมาจากชายเสื้อที่ซุกซ่อนไว้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม“เจียลี่... วันนี้ข้าได้ลักลอบดูตำราเพศสตรี เพียงไม่เคยพบเห็นของจริง หอนางโลมข้าก็ยังเข้าไม่ได้ ท่านพ่อไม่ให้ข้าไปแน่ เจ้าคงไม่ใช่สตรีเหนียมอายใช่ไหม? ข้าล่ะนึกอยากรู้ว่าหญิงพิการจะมีรูเล็ก ๆ นั่นหรือไม่”สิ้นเสียงหัวเราะร่าเริง เด็กชายสองคนพลันล้มไปต่อหน้าต่อตา ชายเสื้อสีขาวสะอาดของผู้ดีร่างอวบถูกลากไปกับพื้นดิน แท่งเหล็กแหลมกระเด็นจากมือของเหลียงฟางซินไปอยู่ใต้เกือกอาชาสีน้ำตาล ตัวเขาก็ถูกลากไปกับเกือกม้านั้นด้วยชายร่างกำยำควบม้าถีบหน้าพวกเขาไม่สนว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เด็กชายอันธพาลร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เม

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   16

    เจียลี่นั่งหมอบอยู่บนพื้นหญ้า คารวะท่านปู่ท่านย่าเป็นใหญ่โตราวคำนับฮ่องเต้ นางก้มหน้าผากแนบพื้น สองมีแปะผืนหญ้าจนผู้ใหญ่ขอให้นางลุก โดยเฉพาะท่านย่า ได้ใจอ่อนกับหลานสาวไปเสียทุกที ถึงเจียลี่อาจไม่เป็นที่รักที่สุด พวกเขารู้แก่ใจดีว่าหากนางจะไม่ต้องออกเรือน ให้นางทำงานหามรุ่งหามค่ำก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด นางไม่ยินดีตบแต่งกับหนุ่มผู้ดีคนไหนในเมือง ขอแค่นางได้ทำงานเก็บเงินเที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆบ่าวรับใช้บ้านท่านอาหวังเรียกขานนางว่า ‘นายหญิง’ หากเมื่อพบลี่จิ่นกลับเรียกแม่นางสกุลเยี่ยอย่างให้ความเคารพ เฉกเช่นผู้สูงศักดิ์ทั่วไปถึงพวกเขาจะเคารพนอบน้อมเท่าไร ก็ยังไม่เท่ากับที่พวกเขาเคารพนายหญิงเจียลี่น่าประหลาดใจนัก น้องสาวของนางได้พบบ่าวรับใช้บ้าน ก็ว่าแปลกกระนั้นเจียลี่ยังไม่เข้าใจบ่าวรับใช้ หลายครั้งหลายคราพวกเขาไม่ยอมบอกว่าตนคิดสิ่งใด นางเคยได้ยินว่าหากเป็นในวังหลวง อาจถึงขั้นต้องจับพวกเขาไปทรมานทีเดียว บ่าวถึงจะยอมแพร่งพรายความลับของเจ้านาย แต่จะว่าไปแล้ว บ่าวผู้รักศักดิ์ศรีไม่ยอมพูดก็มี พวกเขายินยอมการถูกทรมานจนตายไปกับความลับของเจ้านาย กระโดดบ่อน้ำฆ่าตัวตาย กัดลิ้นตายเองก็มี“ข้าจะไป

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   15

    หัวใจของนางเต้นระส่ำระสาย เมื่อท่านอามอบสัจวาจาว่าจะมาสู่ขอนางให้เร็วที่สุด เขายังต่อว่านางไม่ให้พูดถึงท่านอาหญิงด้วยจุมพิตแสนหวาน กระชับกอดเอวนางอย่างหวงแหน ไม่ยอมให้นางออกจากเรือนง่ายดายนักมารดาและคนทางบ้านตำหนินางเรื่องเวลา ทำไมนางจึงมาทำงานช้า ถึงแม้ว่าจะมีบ่าวล่วงหน้าไปที่ร้านผ้าก่อน ก็นางเคยทำตัวเหลวไหลเสียเมื่อไร‘ท่านอานะท่านอา ข้าเกือบโดนทำโทษ แถมโดนหักหวนเฉียน[1]ไปตั้งเยอะ’ นางบ่นในใจ หากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ความร้อนวูบวาบยังคงฝังติดบนเรือนกาย การถูไถประสาชายหญิงทำให้นางเพิ่งรู้ว่าท่อนแข็งขึงหน้าตาประหลาดนั่นทำอะไรได้ เขามอบความสุขสมให้นางเท่าไรมันยังแปลกที่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มาเป็นที่หนึ่งสำหรับนางเสมอ วันนี้นางโดนหักเงินกลับอารมณ์ดี ยิ้มแก้มปริ คนในบ้านทักนางอย่างสงสัยว่ามีเรื่องดีอะไรหรือเปล่า ขณะบ่าวรับใช้มารอรับนางพร้อมรถม้า บ่าวชายสองคนยังคงเป็นคนเดิม นางเข้าไปเจรจากับพวกเขาอย่างสุภาพ ขอให้อดทนอยู่กับเจ้านายเถิด ท่านหวังเฟยอารมณ์ดีบ้างร้ายบ้าง เดี๋ยวก็หาย เขาจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ตราบใดที่ผู้คนรอบกายไม่ทอดทิ้งเขาให้โดดเดี่ยวเดียวดายกลับมาถึงเรือนไม้กว้างขวางในยามเซิน

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   14

    เมื่อท่านอาหนุ่มแทรกมือเข้าบีบเคล้นเต้าเต่งตึง ไม่ยอมให้นางห้ามปรามเขาได้อีก ฝ่ามืออีกข้างจับมือของนางสอดประสานทุกปลายนิ้ว เขาก้มหน้าจูบนางซ้ำ ๆ ให้นางหลงใหลในวังวนเสน่หา นางไม่แม้จะเอ่ยห้ามปรามเขาด้วยความหวาดกลัว หากให้การต้อนรับท่านอาไม่ต่างจากนางบำเรอร่างสูงใหญ่กำยำ มิใช่ชายขี้เมา ไร้สตรีเหลียวแล ไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วยอย่างเมื่อหลายเดือนก่อน วัน ๆ เขาเฝ้ากอดแต่ไหเหล้า คนในบ้านสกุลเยี่ยหัวเราะเยาะเย้ยลับหลังว่าเขาจะยังใช้การได้หรือเปล่า ถึงส่งเจียลี่ไปดูแล นางงามเท่าไรก็คงไม่สามารถทำให้ความเป็นชายของเขาแข็งขึงขึ้นมาได้หวังเฟยลบคำสบประมาทเหล่านั้นโดยสิ้นเชิง เขาก้มหน้าลงดื่มด่ำยอดปทุมถัน ทั้งซ้ายขวาอย่างเท่าเทียม มือบีบเคล้นเนินอกเต่งตึง ด้วยความระมัดระวังเอาใจนาง ไม่ให้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย กระทั่งสตรีร่างเล็กรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง ผงาดรอนางอยู่เหนือหน้าท้อง น้ำเปียกฉ่ำไม่รู้ว่าเป็นน้ำในอ่างหรืออย่างไรแน่“ท่านอา... ร่างกายข้าฝืนทนไม่ไหวอีกแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ควรรังแกข้า...” ริมฝีปากสีชาดที่เม้มสนิทคลายออก เพื่อเอ่ยคำขอร้องเขาอย่าได้กลั่นแกล้งนาง ให้นางต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดมากมา

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   13

    ที่ผ่านมาท่านอาไม่เคยแตะต้องนางแม้ปลายผม กระทั่งถ้อยคำรื่นหูของเขา หาใช่เสียงตะคอกโวยวายเพราะความเมา นางไม่เคยคิดว่าจะได้ยิน“เจ้าอย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจียลี่ รอข้าสักหน่อย ข้าจะไปสู่ขอเจ้ามาอยู่กับท่านอาขี้เมาทุกวัน...”หวังเฟยรู้ว่าโรคทางใจได้รับการเยียวยารักษาเป็นอย่างดี เขาจึงมิใช่ท่านอาคนเดิมเห็นใบหน้าตกใจของนาง เรียวปากอิ่มสีชาดเม้มปิดสนิทแน่น พาให้เป็นสุขโดยไร้สาเหตุ นางลุกขึ้นไปเรียกบ่าวให้ต้มน้ำ เตรียมน้ำอุ่นให้เขาอาบ ถังไม้ลอยด้วยดอกไม้หอม เขาแสร้งทำโวยวายเรียกคนดูแลให้เข้ามา“มีอะไรเจ้าคะ ท่านอา... น้ำร้อนไปหรือ?”เจียลี่ไม่ทันได้ระวังตัว ร่างกำยำลุกขึ้นมาคว้าเอวนางกอดเข้าหมับ นางร้องวี้ดว้ายตกใจ ยันแผงอกกว้างไว้ด้วยแรงน้อยนิด หน้าตาตื่นตระหนกเงยขึ้นมองฝ่ายรุกเร้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าแต่ยังอยู่ชุดที่เกือบจะหลุดก็ไม่ยอมหลุด“ข้าไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้ว ท่านอาทำอะไรน่ะ” นางก็กลัวว่าจะเปียกไปด้วยกับเขาที่ลงไปแช่น้ำทั้งเสื้อผ้าไม่ยอมถอด ตาหลุบมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ“เจ้ามี ข้าเห็นว่าเจ้านำเสื้อผ้ามาเผื่อทุกครั้ง ข้าชอบทำเสื้อผ้าของเจ้าเลอะเทอะ”“วันนี้ข้าไม่ได้นำติดมือมา ตั้ง

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   12

    เจียลี่ไม่ทันฉุกใจคิดว่าเป็นการกระทำผิดพลาดอย่างยิ่งยวด เมื่อพบชายร่างสูงใหญ่ยืนตาขวางอยู่ด้านหน้าเรือน ในอ้อมแขนของเขากอดไหสุรา ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ“ทำไมบ่าวรับใช้ได้อาหารของเจ้าก่อนข้า”“ข้าให้เขาไปแล้ว ไม่สามารถขอคืนได้ กับข้าวของท่านก็ตั้งมากมาย เกือบจะเท่าสำรับอาหารขุนนาง ข้าทำมาให้เป็นอย่างดี ควรแบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง”หวังเฟยไม่เข้าใจที่นางพูดหรอก เขาแทบจะไม่ได้ยินนาง ร่างสูงสง่าในเสื้อผ้าสีฟ้าครามเดินโงนเงน ล้มลุกคลุกคลานเข้าเรือน มือยกไหสุราดื่มต่างน้ำเป็นการยากหลีกเลี่ยงความเมามาย เมื่อมิตรสหายยื่นสุราให้เขาก็ไม่เคยปฏิเสธ กลับมาถึงเรือนกว้างขวางนั่งอยู่ลำพังผู้เดียว เรียกบ่าวให้ไปเอาเหล้ามา เขาร่ำสุราไปหลายขวดทีเดียว จึงเริ่มส่งเสียงโวยวาย พูดจาไม่รู้ความเจียลี่สั่งให้บ่าวนำของไปเก็บในครัว นางไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรเพราะเห็นว่าอาการดีขึ้นมากกระทั่งพบท่านอาหญิง นางคิดว่าเขายังมีเยื่อใยต่อกันถึงได้เป็นเช่นนี้ ทว่านางเข้าใจผิดไปทั้งหมด พอท่านอาตะคอกนาง“เจียลี่! มีชายสูงศักดิ์มาพบหญิงหลายใจ มาซื้อผ้า เจียลี่ เจ้าไปจากข้าไม่ได้!”หวังเฟยบริภาษว่าหนุ่มน้อยใหญ่ที่มาหานาง เขารู้ว

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   11

    ในสังคมล้วนถือยศถือศักดิ์ พี่น้องแก่งแย่งชิงดี โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบนางกล่าวว่านางเป็นบุตรสาวชาวนา หนุ่มผู้ดีมีสกุลรุนชาติคงไม่แลมองนางแม้หางตา ถึงมอง พวกเขาจะถูกห้ามปรามโดยผู้ใหญ่ ไม่ให้มาเฉียดใกล้นาง“ข้าพยายามแนะนำผู้ชายให้เจ้าไม่สนใจสักคน ปีนี้เจ้าควรออกเรือนได้แล้ว ข้าจะลองหาดูสักคนให้เจ้า”“ขอให้ข้าได้ใช้ช่วงเวลาของข้าเถิดท่านแม่ จะตายวันตายพรุ่งก็หาได้รู้ไม่ ข้าไม่รีบร้อน เอาไว้ข้าค่อยแต่งตอนอายุยี่สิบเก้าปี หรือสามสิบปีก็ได้”“อายุสามสิบปีรึ! ใครจะมาเอาเจ้าเป็นภรรยา ตาย ๆ เจียลี่” มารดาโวยวาย ด้วยความที่ไม่อยากให้บุตรสาวดำเนินรอยตามตน และก็ไม่อยากให้เป็นอย่างน้องสาว ป่านนี้ไม่แต่งงานเสียที ลี่จิ่นกลับมาจากแคว้นเว่ยแล้วเมื่อวานนี้ ออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ในเมือง ร่ำสุราในโรงเตี๊ยม คุณชายสามตามมาพบที่ร้านเหล้า ไม่เห็นพูดเรื่องแต่งงานกับผู้ใหญ่“ได้ยินว่าท่านอาหวัง วันก่อนชักชวนเจ้าไปร่ำสุรา เป็นอย่างไรบ้างล่ะ?”“ไม่เมาเจ้าค่ะ ดื่มเหล้าไม่กี่จอก นั่งเล่นชมทิวทัศน์ ชักชวนข้าสนทนาซะมากกว่า”“อ้อ งั้นหรือ”จินเยว่แทบไม่เชื่อหูว่าน้องเขยน่ะหรือจะไม่เมา ยังมองเห็นแก้มแดง ๆ ของบุตรสาว เลื่

  • ท่านอา อย่าร่ำสุรา   10

    นัยน์ตาลุ่มลึกมากล้นด้วยเสน่ห์ หลุบลงมองร่างผอมบาง นางตัวเล็กกว่าเขามาก ใบหน้าก็จิ้มลิ้ม แก้มน่าหยิก นางยืนเต็มเท้ายังสูงเพียงระดับบ่าของเขา“ข้าเกิดความรู้สึกเอ็นดูเจ้า มิใช่เพียงเรื่องบุญคุณที่เจ้าเฝ้าเอาใจใส่ข้า”“เรื่องอะไรเจ้าคะ?”“เจ้าช่างน่ารักใคร่... แก้มแดง ๆ ของเจ้า กลิ่นกายเจ้า เรือนผมของเจ้า... เย้ายั่วใจชาย...” ใต้รอยยิ้มมีลับลมคมใน เจียลี่หาได้รู้ใจท่านอา หากเป็นตรงกันข้ามกับท่านอา ราวกับว่าเขาสามารถมองทะลุผ่านดวงตาคู่สวยใส เต็มไปด้วยความรักใคร่หลงใหล แม้นางจะปฏิเสธเขาด้วยน้ำเสียงตัดพ้อต่อว่า“ท่านอาขี้เมาเจ้าค่ะ”“ขี้เมา... แล้วเจ้าไม่ชอบข้าหรือ?”“นานครั้งสังสรรค์กับมิตรสหายคงไม่เป็นไร ถ้าหากว่าไม่เมาบ่อย ๆ จะดีกว่า...” แล้วนางจึงเงียบไป นัยน์ตาหลงใหลเฝ้ามองใบหน้าคร้ามคม บัดนี้แลดูมีชีวิตชีวาเพราะนาง ชายผู้นี้กลับมาหล่อเหลา รูปลักษณ์ตรึงใจสตรี เหมือนเมื่อคราวที่นางเคยริษยาท่านอาหญิง...ดวงใจเจ็บปวดรวดร้าวเฝ้ามองสองหนุ่มสาวโอบกอดพลอดรักกัน พวกเขาเป็นคู่ครองผู้เหมาะสมชนชั้นวรรณะ รูปลักษณ์งดงามราวกิ่งทองใบหยกนางเคยชิงชังท่านอาหญิงเท่าไร หาได้มีผู้ใดล่วงรู้ความลับของนาง ผ

DMCA.com Protection Status