แชร์

บทที่ 541

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-28 18:00:00
“โชคดีที่เสด็จอาย้ายพวกชาวบ้านที่รอดมาได้ได้ทันเวลา พระเจ้าไม่ได้พวกเขาตาย เสด็จพ่อมิควรตำหนิเสด็จอา ทว่าควรตบรางวัลให้ถึงจะถูกเพคะ! ”

ขณะกล่าว ฮุ่ยอี๋ก็เจือจางเลือดที่นางเตรียมไว้ด้วยน้ำ แล้วแบ่งใส่ขวดสีขาวหลายขวด นางกล่าวกับฮ่องเต้ว่า “เสด็จพ่อดูสิ นี่คือยาดีที่หลินซวงเอ๋อร์หามาด้วยตวามยากลำบาก ในเมื่อเสด็จอามาแล้ว ก็ให้ท่านแบ่งยานี้ไปให้ผู้ป่วยดื่ม เมื่อดื่มยานี้แล้ว โรคระบาดก็จัดการได้แล้ว…”

วาจาที่ฮุ่ยอี๋กล่าว ได้ระงับโทสะของฮ่องเต้ไว้ได้ในที่สุด

ภายใต้อำนาจและผลประโยชน์ ฮ่องเต้มิได้ตำหนิโทษเยี่ยเป่ยเฉิง ทว่าฟังความเห็นของฮุ่ยอี๋ ให้เยี่ยเป่ยเฉิงนำยารักษาไปช่วยผู้ป่วยที่รอดชีวิตอยู่

เจียงหว่านเข้าวังไปพร้อมกับเยี่ยเป่ยเฉิง ครั้นเห็นฮุ่ยอี๋ดีขึ้นแล้วจริงๆ เจียงหว่านก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

นางอดถามขึ้นมาไม่ได้ “หม่อมฉันขอถามสักหน่อย องคืหญิงอาการดีขึ้นได้อย่างไรเพคะ?”

ฮุ่ยอี๋เหลือบมองนางอย่างเรียบเฉย “ข้าบอกแล้ว ท่านหมออวิ๋นโหยวจ่ายยาให้ข้า! ข้าดื่มแล้วจึงดีขึ้น!”

เจียงหว่านสืบถามต่อ “ขอมิบังอาจถามท่านหมออวิ๋นโหยวไหนหรือเพคะ วิชาแพทย์ถึงได้เก่งกาจเพียงนี้! เจียงหว่านอยากสอบถา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 542

    ฮุ่ยอี๋ให้จื่อหลานนำยาที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วส่งให้กับเยี่ยเป่ยเฉิง และยังมอบยาบำรุงเลือดมากมายให้แก่เขาด้วยฮุ่ยอี๋กล่าวกำชับ “ในขวดน้ำเหล่านี้ล้วนเป็นยาที่รักษาโรคระะบาดได้ เสด็จอาแบ่งให้ผู้ป่วยดื่มคนละขวดก็ดีขึ้นแล้ว ส่วนยาบำรุงเหล่านี้ข้าเตรียมไว้ให้ซวงเอ๋อร์”เยี่ยเป่ยเฉิงเลิกคิ้วขึ้น “เหตุใดถึงเตรียมพวกนี้ให้ซวงเอ๋อร์? ซวงเอ๋อร์เป็นอะไรหรือ?”ฮุ่ยอี๋ย่อมไม่กล้าบอกความจริง หากให้เขารู้ว่าในขวดยาหลายร้อยขวดนี้มีเลือดของหลินซวงเอ๋อร์ผสมอยู่ เยี่ยเป่ยเฉิงต้องโมโหนางขึ้นมาแน่!สำหรับเรื่องนี้ ฮุ่ยอี๋ปวดใจเช่นกัน อย่างไรเสีย เพื่อเตรียมเลือดเหล่านี้ หลินซวงเอ๋อร์กลั้นใจกรีดข้อมือตัวเอง หากไม่ใช่เพราะนางมีแรงจำกัด ยัยทึ่มคนนั้นคงปล่อยเลือดตัวเองให้แห้งเป็นแน่!เมื่อรุ้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทในวัง หลินซวงเอ๋อร์กลัวว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะตำหนิ เลยให้ฮุ่ยอี๋ส่งนางออกไปทางด้านหลังอย่างเงียบๆ เกรงว่าตอนนี้คนคงไปถึงที่จวนแล้วฮุ่ยอี๋มองเจียงหว่านที่ยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา จึงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ข้ามีเรื่องจะคุยกับเสด็จอา เจ้ายืนอยู่ที่นี่มันเกะกะ รับยาไปแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 543

    สิ้นเสียง เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างฉับพลันเมื่อเห็นท่าทางนี้ของเขา ฮุ่ยอี๋ก็เข้าใจทันที“ในเมื่อเสด็จอารู้ความรู้สึกของนาง ไยถึงให้นางอยู่ข้างกายอีก? ปล่อยผู้หญิงงามหยดขนาดนี้ไว้ตรงหน้า นานวันเข้าคงกลายเป็นความรักกระมัง?”“ไม่มีทาง! กระหม่อมไม่มีความรู้สึกใดต่อนาง!” เยี่ยเป่ยเฉิงตอบอย่างหนักแน่นฮุ่ยอี๋กล่าว “ไม่มีความรู้สึกใดๆ สักนิดจริงหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ไม่พะย่ะค่ะ!”ฮุ่ยอี๋กล่าว “ในเมื่อไม่มี เสด็จอาก้ไม่ควรเก็บนางไว้ในจวน พอนานวันเข้า มันมักจะทำให้คนมีช่องโหว่! อีกอย่าง! ผู้หญิงถือสาเรื่องเหล่านี้มาก! แม้ซวงเอ๋อร์จะไม่ถือสาในตอนนี้ วันหน้าหากนางรู้ความรู้สึกเจียงหว่านที่มีต่อท่านเข้า จะต้องถือสาแน่นอน”เยี่ยเป่ยเฉิงเงียบไปชั่วขณะ ก่อนกล่าว “หากซวงเอ๋อร์ไม่มีความสุข ข้าจะไม่ให้นางอยู่อีกแล้ว! วันนี้ให้นางย้ายออกไปได้เลย…”ได้ยินเช่นนี้ ฮุ่ยอี๋ก็ไม่พูดอีก ได้แต่ชำเลืองมองร่างนั้นที่อยู่ด้านนอก แล้วหยักยิ้มขึ้นเจียงหว่านยืนอยู่นอกประตู ได้ยินบทสนทนาด้านในอย่างชัดเจน นางกำมือแน่นจนเล็บหยักลงบนฝ่ามือ ในใจมีความเกลียดชังอย่างมาก!ในขณะนั้นเอง ก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บบที่ 544

    เยี่ยเป่ยเฉิงอยู่ข้างใน จ้าวชิงชิงเองก็มิกล้าบุ่มบ่ามเคาะประตู จึงเอาแต่ยืนรอด้านนอกกระทั่งประตูห้องเปิดออก เยี่ยเป่ยเฉิงเดินออกจากข้างใน จ้าวชิงชิงและเจียงหว่านเงยหน้ามองเขาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“ท่านอ๋อง...”“ท่านอ๋อง...”ทั้งสองแทบเรียกเป็นเสียงเดียวกันเยี่ยเป่ยเฉิงเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ออกจากตำหนัก!”ประโยคนี้พูดกับเจียงหว่าน ส่วนจ้าวชิงชิงนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงไม่แม้แต่ปรายตามองจ้าวชิงชิงหน้าดำหน้าแดง ปราดมองเจียงหว่านด้วยสายตาชิงชัง สายตาชิงชังคู่นั้นประหนึ่งอยากเฉือนนางเป็นชิ้นๆเจียงหว่านตามหลังเยี่ยเป่ยเฉิง ยามเดินผ่านจ้าวชิงชิงนางกลับชะลอฝีเท้า หยักยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย ก่อนเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “จ้าวชิงชิง พวกเราไม่มีใครชนะทั้งนั้น”สิ้นเสียง เจียงหว่านจึงเดินตัวปลิวผ่านหน้าจ้าวชิงชิงไปจ้าวชิงชิงมาดหมายจะเอ่ยปาก ทันใดนั้นพลันได้กลิ่นหอมกรุ่นบางอย่าง ทำเอาจามไปทีอย่างกลั้นไม่อยู่ นางคลึงจมูกครู่หนึ่ง ก่อนก่นด่าตามหลังเจียงหว่าน “ลมผีจากไหนกัน พัดกลิ่นสาบจิ้งจอกเจ้าเล่ห์มา!”เจียงหว่านมิได้เอ่ยปากแต่อย่างใด เร่งฝีเท้าตามติดเยี่ยเป่ยเฉิงครั้นเยี่ยเป่ยเฉิงจากไป จ้าว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-28
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 545

    จ้าวชิงชิงไม่เข้าใจเช่นกันว่าตอนนี้ตนเป็นอะไรไป สิ่งเดียวที่นึกได้คือเพิ่งไปในวังมา บางทีโรคของฮุ่ยอี๋ยังไม่หายสนิท ไม่ทันระวังจึงแพร่ใส่ตัวนางเข้าแล้วคิดได้ดังว่า จ้าวชิงชิงพลันหวาดกลัวทันใด กลัวว่าตนจะติดโรคเข้าให้แล้วไม่ช้าแพทย์ก็ถูกเชิญเข้าจวนเรื่องโชคดีคือ สิ่งที่นางติดมิใช่โรคระบาดแต่อย่างใด เป็นเพียงโรคลมพิษเท่านั้นทว่ารอยขีดข่วนน่ากลัวบนใบหน้าจะต้องใช้เวลากี่เดือนถึงจะฟื้นฟูเป็นปกติ......…..หลังจากกลับถึงค่ายทหาร เจียงหว่านมองโอสถที่ฮุ่ยอี๋ก่อนตกสู่ห้วงความคิดครานี้ เจียงหว่านไม่กล้าเสี่ยง จึงลองให้ผู้ป่วยติดโรคใกล้ตายกินดูก่อนสิ่งที่คาดไม่ถึงคือ โอสถที่ฮุ่ยอี๋ให้มาครานี้ได้ผลจริง เดิมทีโรคระบาดนี้อยู่ในช่วงวิกฤตสุดขีดแล้ว ทว่าเมื่อกินยาเข้าไป เมื่อย่างสู่วันที่สองอาการป่วยกลับหายเป็นปลิดทิ้งแต่อาการของเขารุนแรงยิ่ง จำต้องใช้ยาหลายครั้ง อีกทั้งผู้ป่วยในระยะแรกใช้ยาเพียงขวดเดียวก็หายแล้วครั้นเห็นสถานการณ์ดังว่า เจียงหว่านจึงบอกเยี่ยเป่ยเฉิง “ท่านอ๋อง ตรงนี้ให้ข้าจัดการเถิด ท่านไม่ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่มต่อกันหลายวันแล้ว ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด”เยี่ยเป่ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 546

    นางไม่รู้ว่าตนเป็นอันใดไป นางคิดว่าหากเยี่ยเป่ยเฉิงอยู่ด้วยคงดี เช่นนี้นางคงไม่ต้องคิดมากมายแล้ว และไม่ต้องฝันร้ายทุกคืนอีกต่อไปแต่นางรู้ดีว่าเยี่ยเป่ยเฉิงยุ่งมาก สิ่งที่เขาต้องทำล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ ดังนั้นนางจึงเก็บคำร้องขออันไร้เหตุผลนั้นไว้ในใจเงียบๆ ไม่กล้าออกมา และยามนี้ เป็นช่วงที่จิตสำนึกของนางอ่อนแอ ถึงได้แสดงด้านที่อ่อนแอที่สุดของตนออกมาให้เยี่ยเป่ยเฉิงเห็นในท้ายที่สุดชั่วเวลานั้น นางคิดถึงเขาจริงๆ ต่อให้ไม่ทำอะไร แค่ได้เห็นเขาก็เพียงพอแล้ว...ทว่า แม้แต่คำร้องขอเล็กๆนี้ยังกลายเป็นเพียงความหวังเกินฝันไปแล้ว...นางไม่เห็นเขา ทั้งยังมิอาจไปตามหาเขาที่ค่ายทหารได้นางทำได้เพียงเชื่อฟังสุดใจ รอคอยเยี่ยเป่ยเฉิงเป็นฝ่ายคิดถึงนางเอง จากนั้นค่อยกลับมาหานางหลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกประหลาดยิ่งแต่ก่อน นางไม่โหยหาพึ่งเขาขนาดนี้เด็ดขาด ทว่าช่วงที่ผ่านมาไม่รู้ว่าเป็นอันใด นางมักรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกโดดเดียวเงียบเหงาเสมอ ยามราตรีมักน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว ยามนางตื่นนอน หมอนก็เปียกชุ่มเป็นครึ่งแล้วนางรู้สึกว่าตนป่วยแน่ ทั้งยังป่วยหนักอีกด้วยหากแต่ตงเหมยบอกให้นางอย่าคิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 547

    ไม่คอยให้หลินซวงเอ๋อร์เอ่ยปาก เยี่ยเป่ยเฉิงคว้าไหล่นางไว้ กดร่างนางลงบนเตียง สายตาของเขาคมกริบน่าสะพรึง “หลินซวงเอ๋อร์! เจ้าควรเข้าใจให้กระจ่าง ยามนี้เจ้าเป็นหญิงของข้า หากข้าไม่อนุญาต เจ้าก็ห้ามทำร้ายตนเองเด็ดขาด! เข้าใจหรือไม่?”เขาจะบ้าตายแล้วจริงๆ ผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะลอบทำร้ายตัวเองลับหลังเขาเช่นนี้!ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขามิอาจทนได้ทั้งสิ้น!ครั้นเห็นท่าทีปะทุโทสะของเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ข้าเปล่า ข้ามิได้ตั้งใจทำร้ายตัวเอง แต่เป็นเพราะข้าจะช่วยคน...”“ช่วยคน?” เยี่ยเป่ยเฉิงแสยะยิ้มด้วยความเกรี้ยวกราด “ หลินซวงเอ๋อร์! เจ้าคิดว่าเจ้าผู้วิเศษหรืออย่างไร? แค่เพื่อช่วยคนถึงขั้นต้องทำร้ายตัวเองเชียวหรือ? ร่างกายของเจ้าเป็นของข้า! ใครอนุญาตให้เจ้าทำลายตนเองเช่นนี้!”ภายใต้แสงเทียนสลัว ร่างบุรุษหนุ่มคร่อมร่างนางไว้มิด บดเบียดจนคนใต้ร่างหายใจไม่คล่องความเจ็บปวดเสียดแทงจากก้นบึ้งหัวใจ ราวกับมีบางอย่างทิ่มกลางทรวง เจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้วความเจ็บปวดเสียดแทงหัวใจฉับพลันนี้ทำเอาหลินซวงเอ๋อร์มิอาจเอ่ยปากอธิบายได้ นางขมวดคิ้วเคร่ง พยายามทนต่อความอึดอัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 548

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือค้างกลางอากาศทันใดข้างนอก เสียงเสวียนอู่ฟังดูร้อนรนชัดเจนเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆดึงมือกลับ บอกหลินซวงเอ๋อร์เสียงอ่อน “ซวงเอ๋อร์ พักผ่อนให้ดี พี่ไปประเดี๋ยวก็มาแล้ว”สิ้นเสียง เยี่ยเป่ยเฉิงหันกายออกประตูไปทันทีข้างนอก เสียงบทสนทนาเลือนรางของเสวียนอู่และเยี่ยแป่ยเฉิงดังขึ้น“ท่านอ๋อง เขตกักกันโรคเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ได้ยินว่ายาไม่พอ ผู้ป่วยหลายคนจึงฉวยโอกาสก่อเรื่อง......”เยี่ยเป่ยเฉิงเอ่ย “ควบคุมผู้ป่วยเอาไว้ก่อน อย่าให้พวกเขานำโรคระบาดออกไปแพร่เชื้อ!”เสวียนอู่ตอบ “ควบคุมไว้แล้วขอรับ หากแต่ท่านรองหวังยังไม่วางใจ จึงให้ผู้น้อยมารายงานฝ่าบาท”เสียงสนทนาดังต่อพักหนึ่ง เสวียนอู่เอ่ย “มีท่านรองนายพลหวังอยู่ ท่านอ๋องอยู่ที่จวนกับพระชายาเถิด......”เงียบงันไปอักสักพัก วินาทีต่อมาเยี่ยเป่ยเฉิงจึงเอ่ย “ข้าไม่วางใจ ให้ข้าไปดูเองสักรอบก็แล้วกัน!”จากนั้น เสียงฝีเท้าจึงค่อยๆดังห่างออกไปหลินซวงเอ๋อร์นอนบนเตียง เจ็บปวดทั่วร่างเจียนตายนางคิดจะเรียกรั้งเยี่ยเป่ยเฉิงไว้ ทว่าความเจ็บปวดมหาศาลกลับทำให้นางมิอาจเอ่ยปากได้ ทำได้เพียงมองเยี่ยเป่ยเฉิงจากไปไกลทีละนิดตาปริบๆความเจ็บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 549

    สองมือเปื้อนเลือดค่อยๆยื่นไปทางบานประตู มาดหมายเปิดประตูขอความช่วยเหลือทว่าเรี่ยวแรงของนางน้อยนิดเกินไป น้อยเกินไปจริงๆนางเปิดประตูไม่ได้“ตงเหมย...ท่านพี่ พวกเจ้าไปไหนกัน...” นางสะอื้นร้องไห้ ฝ่ามือไร้เรี่ยวแรงพยายามทุบประตู หมายให้เกิดเสียงดังบ้างในที่สุด บานประตูก็เปิดออก ตงเหมยนั่นเองที่เปิดประตูเมื่อตงเหมยเห็นภาพเบื้องหน้า กะละมังทองแดงในมือพลันร่วงเสียงดังลั่นหลินซวงเอ๋อร์นอนเลือดท่วมทั่วกายอยู่บนพื้น ด้านหลังมีรอยเลือดลากยาว เป็นภาพชวนสะเทือนใจเกินบรรยายตงเหมยตะลึงงัน นิ่งตัวค้างอยู่ที่เดิมกระทั่งหลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น พูดกับนางด้วยเสียงอ่อนแรงเต็มที “ตงเหมย ข้าเจ็บเหลือเกิน...ข้าเจ็บท้องเหลือเกิน...”เมื่อนั้นตงเหมยถึงได้สติกลับมา“ซวงเอ๋อร์...ซวงเอ๋อร์อดทนไว้อีกนิด ข้าไปตามหมอมาให้…”ตงเหมยไม่ทันคิดให้มากความ รีบร้อนปรี่ออกจวนไปเรียกหมอเข้ามายามหมอมาถึง หลินซวงเอ๋อร์หมดสติไปเสียแล้วนางหายใจรวยริน ราวกับคนใกล้ตายหมอหยิบเข็มเงินออกมา เสียบผ่านผิวปักลงตามตำแหน่งฝังเข็มทีละเล่ม พยายามทำให้เจ้าตัวตื่นหากแต่ฝังเข็มไปแล้วนับหลายสิบเล่ม หลินซวงเอ๋อร์ก็ไร้ซึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status