Share

บทที่ 479

Penulis: พิณเคล้าสายฝน
last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-14 18:00:00
เช้าตรูวันรุ่งขึ้น

บนบันไดหินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ ยังคงเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำค้างและน้ำฝน สายลมเย็นในฤดูใบไม้ร่วงทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่น เมื่อสายลมพัดผ่านลานที่เพิ่งทำความสะอาดไปเมื่อครู่ ใบแปะก๊วยสีทองอร่ามก็ปกคลุมไปทั่วอีกครา

ทุกครั้งที่สายลมพัดผ่าน ต้าหู่ชอบไล่ตามใบไม้ที่สายลมพัดร่วงลงมาอยู่ในลานบ้านอย่างมาก

ในตอนแรก ตอนที่ต้าหู่เข้ามาอยู่ในเรือนทิศตะวันออกได้ไม่นาน คนในจวนต่างพากันกลัวมัน เรื่องกินดื่มจึงเป็นหลินซวงเอ๋อร์ดูแลด้วยตัวเอง

ตงเหมยที่ใจกล้ามาแต่ไหนแต่ไรก็ยังตกใจไม่น้อย ใครที่ไหนเขาเลี้ยงเสือไว้ในลานบ้านกัน

หลินซวงเอ๋อร์จึงอธิบายให้นางด้วยความอดทน

“ต้าหู่อ่อนโยนมาก”

“ต้าหู่ไม่กัดคน”

“ต้าหู่รอบรู้มาก”

ตงเหมยไม่เชื่อ ยังคงรักษาระยะห่างกับต้าหู่ด้วยความเคารพ

หลินซวงเอ๋อร์เลียนแบบเยี่ยเป่ยเฉิง อยากให้ตงเหมยลองยื่นมือไปลูบต้าหู่

ตงเหมยไหนเลยจะกล้า ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ลูบต้าหู่

ต่อมา นานวันเข้า ตงเหมยพบว่า เจ้าต้าหู่เหมือนจะไม่ทำร้ายคนจริง แค่คำรามที่ฟังดูแล้วน่ากลัวเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่อ่อนโยนมาก

ตงเหมยแกล้งทำเป็นใจกล้ายื่นมือออกไปลูบหัวมัน ปรากฏว่าพอได้
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 480

    เดิมทีแค่ตั้งใจจะมายั่วยุนาง ทว่าหลินซวงเอ๋อร์กลับไม่คล้อยตามเลยสักนิด นางยังคงยิ้มอย่างเรียบเฉย ราวกับไม่ได้ตั้งใจฟังที่นางพูดเลย แค่ลูบเสือบนพื้นตัวนั้นอย่างอ่อนโยนเจียงหว่านเลยต้องพูดให้ชัดเจนอีกหน่อย “ยกตัวอย่างเช่นท่านอ๋อง ท่านอ๋องคือเทพสงครามแห่งต้าซ่งชีวิตนี้ถูกกำหนดให้เป็นคนจิตใจกว้างขวาง สูงส่งเหนือผู้คน บุรุษอย่างท่านอ๋อง ต้องคู่ควรกับสตรีที่สวยที่สุดในโลกใบนี้!”ในที่สุดหลินซวงเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้นมองนาง ทว่าวาจาที่กล่าวออกมากลับทำให้อีกฝ่ายประหลาดใจเล็กน้อย“แม่นางเจียง เจ้าอยากลูบต้าหู่ดูหน่อยไหม? มันเชื่องมากเลยนะ”เจียงหว่านหมดความอดทน กล่าวด้วยท่าทาโกรธ“แม่นางหลิน เจ้าฟังไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งเลอะเลือนกันแน่?”หลินซวงเอ๋อร์ยิ้ม นางไม่ชอบโต้เถียงกับคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ทว่าแม่นางเจียงผู้นี้ กลับเหมือนตั้งใจจะยั่วโมโหนางน้ำเสียงของหลินซวงเอ๋อร์ยังคงอ่อนโยนเช่นเคย “แม่นางที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยอย่างพวกเราสามารถมีชีวิตดีๆ ได้ก็นับว่าเพ้อฝันเกินตัวแล้ว เทียบไม่ได้กับแม่นางเจียงที่มีชาติกำเนิดสูงส่งหรอก ตั้งแต่เด็กก็รู้จักสี่หนังสือห้าคัมภีร์ เต็มไปด้วยความสามารถ ทั

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-14
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 481

    เจียงหว่านฝืนกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ข้าติดตามท่านอ๋องมาหลายปี ไยไม่เคยเห็นสัตว์ร้ายตัวนี้เลย"“มันชื่อว่าต้าหู่” หลินซวงเอ๋อร์เอ่ยแก้เจียงหว่านไม่เคยรู้มาก่อน ยังคงเรียกสัตว์ร้ายๆ เหมือนเดิมต้าหู่เหมือนจะเข้าใจ จึงหันกลับมาคำรามใส่นางอีกครั้งเจียงหว่านตกใจมากจนถอยหลังไปสองสามก้าวและหายใจถี่รัวขึ้นมาชั่วพริบตา“ต้าหู่ วันนี้เจ้าเป็นอะไรไป? เหตุใดถึงไม่เชื่อฟังขนาดนี้?” หลินซวงเอ๋อร์ลูบหัวเจ้าต้าหู่ พยายามทำให้มันสงบลง แต่ดูเหมือนเจ้าต้าหู่จะเกลียดเจียงหว่าน และมีความอาฆาตต่อนางอย่างแรงเจียงหว่านสงบสติลง สายตาที่มองต้าหู่ฉายประกายมืดมนออกมาอย่างรวดเร็ว“แม่นางเจียง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ วันนี้เจ้าต้าหู่อาจจะไม่สบายนิดหน่อย ทำให้เจ้าตกใจแล้วจริงๆ” หลินซวงเอ๋อร์หันไปกล่าวกับเจียงหว่าน เจียงหว่านเก็บสีหน้าทันที และกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อน "ไม่เป็นไร สัตว์ร้าย เกิดมาเลือดเย็น เลี้ยงให้เชื่องไม่ได้หรอก"หลินซวงเอ๋อร์รีบจับต้าหู่ไว้ทันที ทว่าสักพัก ต้าหู่ก็พยายามดิ้นจะไปตะครุบฉีกทึ้งเจียงหว่านทั้งเป็นเจียงหว่านหน้าซีดทันที“ต้าหู่!” เสียงตำหนิดังมาจากด้านหลัง ต้าหู่สงบลงทันทีหลินซวงเอ๋อ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-14
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 482

    นางกลับไปที่เรือนตะวันออกด้วยความสิ้นหวัง และไม่มีกระจิตกระใจเล่นกับต้าหู่แล้วต้าหู่นอนหมอบอยู่บนพื้น มองดูนางอย่างหงอยๆ เช่นกันหลินซวงเอ๋อร์เก็บใบแปะก๊วยขึ้นมาพลางเกาหูของต้าหู่ไปด้วย "เจ้าก็เกลียดเจียงหว่านเหมือนกันใช่หรือไม่?"เมื่อเห็นต้าหู่เงียบ หลินซวงเอ๋อร์ก็พึมพัมกับตัวเอง "ข้าก็ไม่ชอบเหมือนกัน..."ตลอดทั้งวัน หลินซวงเอ๋อร์ใจไม่อยู่กับร่องกับรอยนางนั่งอยู่บนบันไดหิน และรออยู่ทั้งอย่างนั้นจนถึงเย็น ก็ยังไม่เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงกลับมาตอนกลางคืนลมแรง ตงเหมยจึงนำน้ำร้อนมาให้นาง ก่อนจะให้นางกลับไปพักที่ห้องก่อนหลินซวงเอ๋อร์กล่าวด้วยความสนใจเล็กน้อย "แต่ท่านพี่ข้ายังไม่กลับมาเลยนะ"เขาไม่กลับมา นางจะนอนหลับได้อย่างไรนางเอามือเท้าคาง สองตาจ้องมองที่ประตู แทบจะรอคอยด้วยความร้อนใจ เหมือนหินเฝ้าสามีอย่างไรอย่างนั้นครั้นตงเหมยเห็นว่าโน้มน้าวนางไม่ได้ ก็ไปหยิบเสื้อคลุมสีแดงมีปกขนสุนัขจิ้งจอกมาจากในห้องแล้วสวมให้นางในการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วงครั้งนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงตั้งใจยิงสุนัขจิ้งจอกสองตัวเพื่อนาง ต่อมาก็ถูกเยี่ยเป่ยเฉิงเอามาทำเป็นเสื้อคลุมขนสัตว์ค่ำคืนในฤดูใบไม้ร่วงอากาศห

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-14
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 483

    หลินซวงเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเยี่ยเป่ยเฉิงจู่ๆ ถึงเคร่งขรึมใส่นางเช่นนี้ นางคิดไม่ออกว่าตัวเองทำไม่ดีตรงไหนอีก ถึงได้ไปยั่วให้เขาโมโหเข้าเมื่อเห็นอาหารที่ตั้งใจเตรียมหกลงบนพื้นหมด หลินซวงเอ๋อร์ก็ขอบตาแดงก่ำ จู่ๆ ก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาเล็กน้อยอาหารพวกนี้นางเตรียมมาตั้งแต่เช้า ทว่าเยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้กินเลยสักคำ นางก็ทำตกบนพื้นหมด น่าเสียดายจริงๆ …หลินซวงเอ๋อร์ก้มตัวนั่งลง ใช้มือเก็บขนมที่ตกกระจานอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ในถาดอาหารทีละนิดตงเหมยเองก็ตกใจกับเหตุการณ์กะทันหันนี้จนทำอะไรไม่ถูก ครั้นเห็นสีหน้าน้อยใจของหลินซวงเอ๋อร์ ตงเหมยก็อธิบาย “พระชายาเป็นห่วงว่าท่านอ๋องไม่ได้กินอะไรดีๆ จึงอยากมาส่งอาหารให้ท่านอ๋องด้วยตัวเองสักหน่อย แล้วก็เสื้อผ้าเปลี่ยนของพวกท่านทั้งสอง พระชายาก็เอามาด้วย…”“พาพระชายากลับไป! ต่อไปห้ามนางมาที่นี่อีก! ช่วงนี้ ที่ไหนก็ห้ามให้นางไป!” เยี่ยเป่ยเฉิงขัดคำพูดของตงเหมย น้ำเสียงดูน่าเกรงขามอย่างมาก ทำให้ผู้คนอดรู้สึกกลัวไม่ได้“หากเจ้ากล้าพานางออกจวนโดยพลการ ข้าจะหักขาของเจ้าซะ!”ตงเหมยหน้าซีด ไม่กล้าพูดแทนหลินซวงเอ๋อร์อีกหลินซวงเอ๋อร์กล่าวขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 484

    หลินซวงเอ๋อร์ยังคงไม่พูดจา ก้มหน้าก้มตาเก็บขนมที่กระจัดกระจายบนพื้นเจียงหว่านหยักยิ้ม ยามจะจากไปเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงหันกลับมาพูดกับหลินซวงเอ๋อร์ “ยากอเอี๊ยะหลายขวดที่ข้าเตรียมไว้ให้แม่นางหลินนั้น แม่นางหลินต้องใช้ตลอด รอยแผลเป็นบนตัวจะได้หายโดยไว”เมื่อเห็นเจียงหว่านไม่ได้ตามไป เยี่ยเป่ยเฉิงพลันชะงักฝีเท้า หันกลับมามองนาง ตะโกนเร่งรัด “เจียงหว่าน!”ครั้นได้ยินเยี่ยเป่ยเฉิงเรียกเขา เจียงหว่านจึงบอกหลินซวงเอ๋อร์ “ท่านอ๋องเรียกข้าแล้ว ข้าต้องไปก่อน” พูดจบก็จับชายกระโปรงวิ่งเบาๆตามไปตงเหมยถ่มน้ำลายไล่หลังเจียงหว่าน ซ้ำยังก่นด่าตามหลังไม่หยุด “อะไรกัน! ในเมื่อใสซื่อขนาดนี้ทำไมต้องอธิบายให้มากความด้วย! เห็นชัดๆว่ามีพิรุธ!”“ตงเหมย พวกเรากลับกันเถอะ” หลินซวงเอ๋อร์ยืนขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบ หันหลังเดินกลับไปตงเหมยถือสัมภาระทั้งสองไว้ข้างหลัง ภายในสัมภาระล้วนเป็นเสื้อผ้าที่เยี่ยเป่ยเฉิงซักเตรียมมาคืน สุดท้ายก็ส่งให้ไม่ทันอยู่ดี“จะทำอย่างไรกับเสื้อผ้าเหล่านี้ดี? พระชายาไม่เอาให้ท่านอ๋องแล้วหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์ปีนขึ้นรถม้า “ในเมื่อเขาไม่ต้องการ เช่นนั้นก็ไม่ต้องให้แล้ว”ตง

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 485

    นอกเมืองหลวงห่างไปร้อยลี้ แสงเพลิงสว่างไสวทั่วฟ้า การเข่นฆ่าอันไร้มนุษยธรรมยังคงดำเนินต่อเหล่าทหารในชุดเกราะถือดาบคมกริบ กำลังล้อมผู้คนนับร้อยไว้ดาบและกระบี่แหลมคมฉายแววเย็นเยียบภายใต้แสงเพลิง ชายหนุ่มคนอีกคนหนึ่งถูกทหารสองนายลากตัวออกมาจากกลุ่มฝูงชนชายหนุ่มดิ้นรนสุดชีวิต ทว่าร่างกายผ่ายผอมไร้เรี่ยวแรงไม่มีทางดิ้นรนได้อยู่แล้วชายหนุ่มทั้งหวาดกลัวทั้งไร้ที่พึ่งพา เขาพอรู้ถึงชะตาที่ตนกำลังจะต้องเผชิญในอีกไม่ช้าแล้ว เสียงอันหดหู่ดังขึ้น“ข้าไม่ได้ป่วย ข้าแค่โดนอากาศเย็นมากเกินไป ข้าหาได้แพร่เชื้อโรค ขอร้องนายท่าน......”“ข้าแค่ไม่ระวังต้องอากาศเย็นมากไป ทานยาสักนิดก็หายแล้ว......ท่านอย่าฆ่าข้าเลย ขอร้องท่านอย่าฆ่าข้าเลย......”ทว่าคำอ้อนวอนของเขากลับไร้ซึ่งการตอบกลับเหล่าทหารลากตัวเขาเข้าห้องปิดตายห้องหนึ่ง ไม่นาน เขาก็กลายเป็นร่างไร้วิญญาณเย็นเยียบนายทหารลากศพออกจากห้อง ก่อนโยนทิ้งลงเตาเผาขยะขนาดมหึมาชั่ววินาทีที่ศพตกลงไป เพลิงรอุพลันพวยพุ่งขึ้นฟ้า หลอมเหลวทุกสิ่งจนไฟปะทุทั่วเมื่อเผชิญกับสิ่งตรงหน้า ประชาชนที่ไร้ซึ่งอาวุธไม่กล้าเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว มองร่างไร้วิญญาณที่ม

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 486

    ”แม่......ท่านแม่......”เด็กชายหลบข้างหลังผู้เป็นแม่ด้วยความหวาดกลัว ดวงตาไร้เดียงสาฉายแววผวากลัวหมดหนทางทหารสองนายดึงตะขอเหล็กเหน็บเอว เดินหน้าเข้ามาหาทั้งสองตะขอเหล็กนั้นฉายแวววับ ปล่อยกลิ่นอายเย็นยะเยือก หญิงสาวปกป้องเด็กชายไว้ข้างหลังพลางเดินถอยไม่หยุด“ท่านผู้ดูแล เขาไม่เป็นอันใดหรอก แค่ไม่ทันระวังสำลักเข้า เขาหาได้ป่วยแต่อย่างใด……” เสียงหวาดกลัวสุดชีวิตของหญิงสาวไม่ได้ทำให้นายทหารเห็นอกเห็นใจแต่อย่างใด พวกเขาสะบัดตะขอเหล็กในมือ มาดหมายพาตัวเด็กชายเข้าห้องลับเพื่อ “ตรวจโรค”ปากว่าตรวจโรค ทว่าความจริงแล้วเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้นอันที่จริง ยามแรกเริ่มยังเชิญหมอมา แต่ต่อมาหมอก็ติดโรค ถูกโยนทิ้งในเตาเผาเช่นกัน จากนั้นก็ไม่มีหมอคนไหนมาอีก......ส่วนคนที่รอดมาได้ จึงกลายเป็นว่าต้องอยู่ที่นี่เพื่อรอความตายเท่านั้น.....“ท่านผู้ดูแล ขอร้องพวกท่านอย่าทำเช่นนี้เลย......เขายังเด็ก เขาไม่ได้ติดเชื้อ เขาไม่ได้ติดเชื้อจริงๆ......”หญิงสาวร้องไห้อ้อนวอนอย่างน่าสังเวช นางพับแขนเสื้อเด็กชายขึ้น ยื่นแขนเล็กๆของเขาให้ผู้ดูแลดู “ผู้ดูแล ท่านดูสิ พวกท่านเห็นไหม เขาไม่มีผื่นแดง เขาไม่ได้ติดเ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 487

    เว่ยหวยซานเอ่ย “เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดไป ถึงอย่างไรวันนี้ผู้คนเหล่านี้ ข้าก็จะพาไปให้ได้!” นายทหารหมดหนทาง ทำได้เพียงหลีกทาง ให้เว่ยหวยซานพาฝูงชนที่ยังไม่เกิดอาการออกไปเว่ยหวยซานให้องครักษ์เกราะทองคุ้มกัน ตนสวมหน้ากากปิดบังหน้า จากนั้นเคลื่อนย้ายเหล่าฝูงชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยยามจากไป นายทหารได้เอ่ยโน้มน้าวไว้ “นายพลเว่ย โรคระบาดนี้ร้ายแรงเกินคณา หากแพร่ระบาดไป ต้องตายสิ้นอย่างแน่นอน หากพวกท่านยืนกรานจะสอดมือข้องเกี่ยว เช่นนั้นก็คิดถึงผลที่ตามมาให้ดี......”เว่ยหวยซานเอ่ย “ฝ่าบาทของพวกเจ้าไร้ความสามารถ ทำใจหาหมอมาให้ประชาชนเหล่านี้ไม่ได้! มองชีวิตผู้คนเป็นเพียงมดแมลง! พวกเจ้าไม่รักษา ท่านอ๋องของเราจะหาหมอมารักษาเอง!”นายทหารมิกล้าขววางทางอีกต่อไป เว่ยหวยซานประชันหน้ากับนายทหาร ลำเลียงฝูงชนออกย้ายไปฐานที่มั่นใหม่ภายในรถม้า เด็กชายยังคงอยู่ในอ้อมกอดหญิงสาว “แม่ พวกเราถูกช่วยไว้แล้วใช่ไหม?”หญิงสาวเอ่ย “ท่านอ๋องช่วยเราไว้ เขาคือเทพสงครามแห่งราชวงศ์ซ่ง เป็นพระเจ้าที่คอยปกป้องพวกเราประชาชน มีเขาอยู่ พวกเราจะไม่เป็นอะไร......”เด็กชายเอ่ยต่อ “แต่ข้าได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า ท่านอ๋องเทพแ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-15

Bab terbaru

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status