“เจ้าจะนั่งอยู่อย่างนี้”
สายตาคู่คมมองชุดของภรรยาเพียงครู่ หันหลังเดินจากไปพร้อมกับคนที่อยู่ด้านใน เหลือไว้เพียงข้ารับใช้ ที่รู้ใจฟางซินมากที่สุด
“นายหญิงคะ ข้าเตรียมน้ำไว้แล้วค่ะ”
“เจ้าชื่ออะไร?”
“คะ? ข้าเหรอ ข้าชื่อหลิงหลินไงเจ้าคะ”
“แฮะๆ ข้าจำไม่ค่อยเก่ง เจ้าช่วยนำทางข้าที”
การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต้องมีคนช่วย และคนแรกที่เธอต้องการ ก็คือข้ารับใช้อย่างหลิงหลินนี่แหละ แม้ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครนี้มากนัก แต่แววตาที่ไม่มีพิษมีภัย ก็พอจะทำให้ฝากชีวิตของฟางซินและตัวเองไว้ได้นิดๆแหละนะ
ห้องอาบน้ำที่หลิงหลินพามา เป็นบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ออกมาจากห้องถึงได้รู้ว่าข้างนอกเย็นมาก เย็นจนหนาวเข้าไปถึงข้างใน ตัวสั่นหงึกๆ อย่างคนไม่เคยเจออากาศหนาวเย็นมาก่อน ห้องที่เคยพักอาศัยอยู่มีแค่พัดลมเก่าๆช่วยคลายร้อน มันแทบจะคลายความร้อนให้ไม่ได้เลย เพราะแดดเมืองไทยร้อนสุดๆ ต่างกันกับที่นี่มาก จนเผลอคิดถึงบรรยากาศภายในห้องเก่าๆของตัวเองขึ้นมา
“นายหญิงหนาวหรือเจ้าคะ วันนี้มีหิมะตกด้วย”
หิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่ด้านนอก ทำให้ใบหน้าสวยเผลอลอบยิ้มออกมา เธอเข้ามาอยู่ในนิยายจริงๆด้วย ชีวิตจริงเธอไม่มีวันได้เห็นอะไรแบบนี้หรอก นักเขียนโนเนมที่มียอดโหลดนิยายแบบอีบุ๊คแค่ไม่กี่เล่ม จะเอาปัญญาที่ไหนซื้อตั๋วเครื่องบินไปเที่ยว แค่เซเว่นหน้าปากซอย ยังไปได้อาทิตย์ละครั้งเลย เป็นชีวิตที่โคตรจะอาภัพเรื่องเงินทอง
“เจ้าออกไปเถอะ ถ้าเสร็จแล้วข้าจะเรียก”
“แต่ท่าน!”
“ข้าทำทุกอย่างเองได้ เจ้าแค่เตรียมชุดหนาๆไว้ให้ข้าก็พอ”
พูดจบก็ยืนมองจนกระทั่งหลิงหลินเดินออกไป ลงมือถอดชุดออกอย่างรีบร้อน ชุดถอดยากมากแต่เพราะความหนาวเหน็บ ทำให้ไม่มีเวลาให้บ่น เมื่อถอดเสร็จก็กระโดดลงไปในบ่อน้ำ จนน้ำในบ่อแตกกระเซ็นเป็นละออง บางส่วนแข็งเป็นเกร็ดน้ำแข็งทันที เพราะอากาศเย็นจัด
“ฮ่าๆ เคยอ่านแต่นิยายของคนอื่น ที่ทะลุมิติไปเป็นนางเอกบ้าง นางร้ายบ้าง นี่ฉันทะลุเข้ามาเองเลยเหรอ โคตรดีเลยอะ”
หญิงสาวหัวเราะอย่างชอบใจ แม้ตอนนี้เธอกำลังสิงอยู่ในร่างของนางร้าย ที่จะต้องตายในตอนจบของเรื่อง แต่เธอไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด เธอเป็นคนเขียนเรื่องนี้เชียวนะ เรื่องอะไรจะพาตัวเองเดินไปพบจุดจบแบบนั้นล่ะ เธอจะเปลี่ยนมันให้หมด ทั้งจุดจบที่น่าเศร้า ทั้งบทบาทของตัวละครอย่างฟางซิน
ใบหน้าสวยหวานแย้มยิ้มดีใจ สายตาทอดมองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างชื่นชม สวยงามจริงๆ เป็นทิวทัศน์ที่สวยงามมาก จนไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นโลกในนิยาย ถ้าหากไม่ต้องตายในตอนจบ ถ้าหากเรื่องราวมันเปลี่ยนไปตามใจเธอในตอนนี้ ก็อยากจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตโดดเดี่ยวที่โลกนั้นอีกแล้ว
ชีวิตของเธอที่ชื่อมินนี่นั้น เป็นชีวิตของเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ที่ดิ้นรนใช้ชีวิตมาด้วยตัวเอง ไม่มีปัญญาส่งตัวเองเรียนไปจนถึงระดับปริญญา จึงเรียนจบเพียงแค่ชั้นมัธยมปลาย ตามการศึกษาขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลสนับสนุน
ใช้ชีวิตลำบากลำบนมาจนถึงยี่สิบสองปี มีเงินเก็บอยู่หนึ่งก้อน เลยตัดสินใจเอามันไปซื้อโทรศัพท์มาลองเขียนนิยาย ลองเขียนมาหลายแนว แต่ไม่แมสเลยสักเรื่อง ก็ขายได้แหละ แต่ไม่พอใช้จ่ายในแต่ละวัน ชีวิตที่เหนื่อยอย่างนั้น อยากละทิ้งไปก็บ่อยครั้ง แต่ก็ยังฝืนลุกขึ้นสู้มาตลอด ตอนนี้ดีใจมากถึงมากที่สุด ที่ได้มีโอกาสมาลองใช้ชีวิตในโลกใหม่ โลกที่นางร้ายคนนี้ร่ำรวยกว่าตัวเอง ฟางซินเป็นลูกสาวของขุนนางเชียวนะ แน่นอนว่าฐานะทางบ้านของนางร่ำรวยมาก
“ฮัดชิ่ว! ฮัดชิ่ว!”
เผลอคิดอะไรไปนาน จนลืมว่าตัวเองนอนแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางหิมะโปรยปราย กว่าจะรู้ว่าควรขึ้นจากน้ำ ร่างกายก็ประท้วงหนักด้วยการจามอยู่หลายที คนที่ไม่เคยเป็นหวัดมาก่อน ถึงกับมุ่ยหน้า
ร่างกายของฟางซินบอบบางกว่าร่างกายเธอสินะ
หงึก หงึก!
ในขณะที่กำลังหยิบเสื้อผ้าที่สาวใช้นำมาวางไว้ให้ขึ้นมาสวม ฟันบนล่างก็กระทบเข้าหากันดังหงึกๆ ไม่รู้ว่าต้องใส่ชุดยังไง ตอนถอดว่ายากแล้ว ตอนใส่มันสิยากกว่า เมื่อร่างกายสั่นสะท้านเกินจะควบคุม จำต้องร้องขอให้คนด้านนอกเข้ามาช่วยเหลือ
“กึก! มีใคร มีใครอยู่ข้างนอกไหม!?”
แอ๊ด!
ประตูไม้สลักถูกผลักออกทันที คนที่เปิดประตูเดินเข้ามาหา เป็นสามีไม่ใช่สาวใช้อย่างที่ควร คนที่กำลังง่วนอยู่กับการใส่เสื้อผ้าหน้าแดงก่ำ รวบชายชุดเข้าหากันแน่น มองใบหน้าหล่อเหลาของสามีตาขวาง
“ข้าไม่ได้เรียกท่านนะคะ”
พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เพราะสำหรับเธอ เขาคือชายแปลกหน้า แม้หน้าตาจะหล่อเหลาเหมือนพระเอกในซีรี่ย์จีนที่เคยดูก็เถอะ แต่เขาไม่ได้พิศวาสฟางซินนี่นา การมีชีวิตรอดในที่แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องให้พ่อตัวประกอบรูปหล่อคนนี้ช่วยก็ได้
“แต่ข้าได้ยินเสียงเรียก”
ร่างสูงกำยำขยับเท้าก้าวเข้าไปชิดอย่างรวดเร็ว ดึงคนที่หันหลังหนีกลับมาจนชิดลำตัว ก้มใบหน้าลงใกล้ สำรวจใบหน้าแดงก่ำน่ามอง รอยยิ้มประหลาดผุดขึ้นบนใบหน้า จนคนตัวเล็กกว่าเผลอมองจ้องไม่วางตา
หลิวหยางเกิดมาเพื่อฆ่าเธอชัดๆ ใบหน้าขาวนวล ดวงตาเฉี่ยวคมสีดำเหมือนน้ำทะเลลึก เวลาที่มุมปากนั้นขยับขึ้น มันขับให้ใบหน้าเย็นชาดูอ่อนโยน
ทำไมฟางซินไม่ชอบผู้ชายคนนี้นะ เขาน่าจะหล่อไม่แพ้อ๋องเฉินเลย เผลอๆอาจจะหล่อกว่าก็ได้เพราะเธอยังไม่เคยเห็นหน้าของอ๋องเฉิน ตอนนี้หลิวหยางเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในสายตาเธอ
“เจ้าอาบน้ำนานเกินไปหรือเปล่า”“คะ?”“ก็ผิวเจ้าแดง เหมือนจะมีไข้ด้วย”ผ่ามือหนายกขึ้นวางลงบนหน้าผาก รอยยิ้มมุมปากกับแววตาเจ้าเล่ห์ ทำให้คนมองเผลอคิดอีกแล้ว หลิวหยางไม่ได้รักเมียไม่ใช่เหรอ แต่ที่เขาทำอยู่นี่ มันมากกว่าคำว่ารักอีกมั้ง ทั้งท่าทีที่อ่อนโยน ทั้งแววตาแสนเจ้าเล่ห์แต่แฝงความอบอุ่นฟางซิน! ถ้าเธอไม่เอา ฉันเอานะ!“ก็ ก็ข้าอาบน้ำท่ามกลางหิมะนี่นา”ขยับร่างกายเข้าหาไออุ่น ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างแน่นหนันของสามีตัวโต ชีวิตนี้เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายเลย มันจะเป็นอะไรไหม ถ้าเธออยากจะลองสัมผัสดูสักครั้ง มันก็ไม่ผิดไม่ใช่เหรอ ในเมื่อฟางซินกับแม่ทัพหลิวหยางแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว เผลอๆอาจจะเคยร่วมหอกันไปแล้วก็ได้“เจ้าบอกว่าชอบนี่”นิ้วมือใหญ่เกี่ยววนบนไรผมเหนือหน้าผาก แววตาอ่อนแสงลง มองการกระทำคนตัวเล็กที่กำลังซุกตัวในแผ่นอกเงียบๆ กระชับมือถ่ายทอดไออุ่นให้ร่างเย้ายวนในอ้อมกอด กดริมฝีปากลงไปบนกลุ่มผมดำสนิทเบาๆปึก!“ข้า ข้าจะไปให้หลิงหลินแต่งตัวให้”ผลักแผ่นอกที่มอบไออุ่นให้ตัวเองออกห่าง หลงลืมไปแล้วเหรอว่าเขามีตัวละครลับที่เขาชอบอยู่ ถ้าหากเผลอเข้าใกล้จนหลงรักเขาขึ้นมา มันจะยุ่งยากไม่
“ท่านแม่ทัพงั้นหรือ?” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติ“คะ?”ใบหน้าสวยเอียงเล็กน้อยอย่างเคยตัว คนตัวโตกว่าขยับไปนั่งหมิ่นเหม่อยู่ปลายเตียง เมื่อสามีไม่ยอมคลายข้อสงสัย เธอก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ท่าทางเหมือนจะลุกหนีไปของสามี ทำให้รีบคว้าชายชุดไว้แน่นอีตาสามีนี่งอนอะไรนักหนา พูดอะไรผิดหูอีกแล้วเนี่ย หน้าตึงบ่อยๆแบบนี้ ฟางซินเข้าใจว่าไม่รักก็ไม่แปลกหรอก“เจ้ามักจะเรียกข้าว่าสามี”“หา! ข้าเรียกท่านแบบนั้นจริงๆเหรอ?”“ใช่!”“ข้าเรียกท่านพี่ได้ไหมอะ เหมือนท่านจะอายุมากกว่าข้าเยอะอยู่นะ”“ท่านพี่งั้นหรือ ข้าไปเป็นพี่ชายของเจ้าตั้งแต่ตอนไหน” ใบหน้าดุดันหันกลับไปมอง ฟางซินตัวปลอมขนลุกไปทั้งตัวก็ใช่ไง เห็นเป็นพี่ก็ดีแล้วไหม ให้คิดเป็นอย่างอื่นมันไม่ดีมั้ง แม้เขาจะหน้าตาหล่อสุดๆ แล้วก็มีหุ่นน่าฟัดก็เถอะ แต่เธอไม่ชอบผู้ชายของคนอื่น ถ้าเกิดวันหนึ่งข้างหน้ายัยฟางซินตัวจริงเกิดกลับมา แล้วรู้ว่าเธอใช้ร่างกายทำอะไรกับเขาไปบ้าง นางคงจะโกรธน่าดู เอาเป็นว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน นี่ก็เพิ่งจะไม่กี่วันเอง“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าแค่รู้สึกอายที่จะเรียกแบบนั้นต่างหาก” ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน กับอีแค
ร่างบอบบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ กระชับเสื้อคลุมเข้าหากันแน่น เดินผ่านทางเดินไปยังตำหนัก ที่ข้ารับใช้เคยบอกไว้ว่า เป็นห้องทำงานของท่านแม่ทัพ ห้ามเฉียดกายเข้าไปรบกวนการทำงานของเขาเด็ดขาดเมื่อเดินมาถึงจนหน้าห้องนั้น มือบางยกขึ้นผลักประตูโดยไม่สนเสียงห้ามปรามของนายทหารด้านหน้า เดินเข้าไปข้างในรวดเร็ว ยกมือวาดลงบนซีกหน้าข้างขวา ของคนที่เงยขึ้นมองสุดแรง จนใบหน้าหล่อเหลาหันไปอีกด้านเพี๊ยะ!“ท่าน! ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! แต่พอข้าฟื้นขึ้นมา ก็ทำดีด้วยราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ท่าน…ฮึก! ท่านใจร้าย”น้ำตาไหลรวมขึ้นมาคลอหน่อย รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็หยดแมะลงบนพื้นอย่างสุดจะกลั้นแม้ฟางซินจะถูกกำหนดให้รับบทเป็นตัวร้าย แต่ชีวิตนางก็ค่อนข้างน่าสงสาร นางแค่หลงรักอ๋องเฉินที่เข้ามาทำดีด้วย นางผิดที่เลือกใช้วิธีการแบบนั้นทำร้ายคนอื่น แต่ในช่วงชีวิตสุดท้ายนางก็สำนึกผิดอยู่นะ แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงช่วงที่นางรังแกคนอื่นหนักหนาเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องใจร้ายกับนางขนาดนี้“ออกไป!”เสียงตวาดดังขึ้นเพื่อขับไล่ข้ารับใช้ ที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่หน้าห้อง แต่คนที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้ากลับก้าวขาแทน มือเรียวเล็กยกข
มินนี่ นักเขียนโนเนม เพิ่งจะฝึกเขียนนิยายจีนเป็นครั้งแรก วางโครงเรื่องที่จะเขียนไว้เพียงคร่าวๆ ดังนี้ “หญิงสาวนามว่าฟางซิน จะทิ้งสามีไปถวายตัวเป็นสนมของท่านอ๋องเฉิน ผู้ชายที่ได้รับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ความร้ายกาจของนาง จะกลายเป็นอุปสรรคคอยขัดขวางเส้นทางรักของพระเอกนางเอก นางทั้งกลั่นแกล้ง ทั้งทำร้ายนางเอกที่แสนบอบบาง จนเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งเรื่อง และสุดท้ายนางได้ตัดสินใจจบชีวิตลงอย่างเดียวดายพล็อตที่วางไว้แล้ว มีเพียงแค่ช่วงต้นเรื่อง อิมเมจของตัวละคร ก็ร่างไว้เพียงแค่ไม่กี่ตัว และเขียนดำเนินเรื่องมาได้แค่นิดหน่อย กลับต้องมาหัวตันคิดอะไรต่อไม่ออกด้วยความเหนื่อยล้าสะสม ทำให้กินยาพาราเซตามอลไปถึงสองเม็ด บวกกับยาแก้แพ้อากาศอีกหนึ่ง หวังให้ตัวยาไปช่วยลดอาการปวดหัว และหวังให้ตัวเองหลับนานกว่าที่เคย ตื่นมาสมองจะได้ปลอดโปร่งโล่งสบาย ทำงานได้ไหลลื่นกว่าแต่มันไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วพบว่าโลกที่ตัวเองเคยอยู่ไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย ห้องเช่าแคบๆที่เธออาศัยอยู่ กลายเป็นห้องนอนแบบโบราณ ที่เคยเห็นตอนดูซีรี่ย์เพื่อหาข้อมูลนี่มันเรื่องบ้าอะไร!“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้
ร่างบอบบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ กระชับเสื้อคลุมเข้าหากันแน่น เดินผ่านทางเดินไปยังตำหนัก ที่ข้ารับใช้เคยบอกไว้ว่า เป็นห้องทำงานของท่านแม่ทัพ ห้ามเฉียดกายเข้าไปรบกวนการทำงานของเขาเด็ดขาดเมื่อเดินมาถึงจนหน้าห้องนั้น มือบางยกขึ้นผลักประตูโดยไม่สนเสียงห้ามปรามของนายทหารด้านหน้า เดินเข้าไปข้างในรวดเร็ว ยกมือวาดลงบนซีกหน้าข้างขวา ของคนที่เงยขึ้นมองสุดแรง จนใบหน้าหล่อเหลาหันไปอีกด้านเพี๊ยะ!“ท่าน! ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! แต่พอข้าฟื้นขึ้นมา ก็ทำดีด้วยราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ท่าน…ฮึก! ท่านใจร้าย”น้ำตาไหลรวมขึ้นมาคลอหน่อย รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็หยดแมะลงบนพื้นอย่างสุดจะกลั้นแม้ฟางซินจะถูกกำหนดให้รับบทเป็นตัวร้าย แต่ชีวิตนางก็ค่อนข้างน่าสงสาร นางแค่หลงรักอ๋องเฉินที่เข้ามาทำดีด้วย นางผิดที่เลือกใช้วิธีการแบบนั้นทำร้ายคนอื่น แต่ในช่วงชีวิตสุดท้ายนางก็สำนึกผิดอยู่นะ แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงช่วงที่นางรังแกคนอื่นหนักหนาเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องใจร้ายกับนางขนาดนี้“ออกไป!”เสียงตวาดดังขึ้นเพื่อขับไล่ข้ารับใช้ ที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่หน้าห้อง แต่คนที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้ากลับก้าวขาแทน มือเรียวเล็กยกข
“ท่านแม่ทัพงั้นหรือ?” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติ“คะ?”ใบหน้าสวยเอียงเล็กน้อยอย่างเคยตัว คนตัวโตกว่าขยับไปนั่งหมิ่นเหม่อยู่ปลายเตียง เมื่อสามีไม่ยอมคลายข้อสงสัย เธอก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ท่าทางเหมือนจะลุกหนีไปของสามี ทำให้รีบคว้าชายชุดไว้แน่นอีตาสามีนี่งอนอะไรนักหนา พูดอะไรผิดหูอีกแล้วเนี่ย หน้าตึงบ่อยๆแบบนี้ ฟางซินเข้าใจว่าไม่รักก็ไม่แปลกหรอก“เจ้ามักจะเรียกข้าว่าสามี”“หา! ข้าเรียกท่านแบบนั้นจริงๆเหรอ?”“ใช่!”“ข้าเรียกท่านพี่ได้ไหมอะ เหมือนท่านจะอายุมากกว่าข้าเยอะอยู่นะ”“ท่านพี่งั้นหรือ ข้าไปเป็นพี่ชายของเจ้าตั้งแต่ตอนไหน” ใบหน้าดุดันหันกลับไปมอง ฟางซินตัวปลอมขนลุกไปทั้งตัวก็ใช่ไง เห็นเป็นพี่ก็ดีแล้วไหม ให้คิดเป็นอย่างอื่นมันไม่ดีมั้ง แม้เขาจะหน้าตาหล่อสุดๆ แล้วก็มีหุ่นน่าฟัดก็เถอะ แต่เธอไม่ชอบผู้ชายของคนอื่น ถ้าเกิดวันหนึ่งข้างหน้ายัยฟางซินตัวจริงเกิดกลับมา แล้วรู้ว่าเธอใช้ร่างกายทำอะไรกับเขาไปบ้าง นางคงจะโกรธน่าดู เอาเป็นว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน นี่ก็เพิ่งจะไม่กี่วันเอง“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าแค่รู้สึกอายที่จะเรียกแบบนั้นต่างหาก” ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน กับอีแค
“เจ้าอาบน้ำนานเกินไปหรือเปล่า”“คะ?”“ก็ผิวเจ้าแดง เหมือนจะมีไข้ด้วย”ผ่ามือหนายกขึ้นวางลงบนหน้าผาก รอยยิ้มมุมปากกับแววตาเจ้าเล่ห์ ทำให้คนมองเผลอคิดอีกแล้ว หลิวหยางไม่ได้รักเมียไม่ใช่เหรอ แต่ที่เขาทำอยู่นี่ มันมากกว่าคำว่ารักอีกมั้ง ทั้งท่าทีที่อ่อนโยน ทั้งแววตาแสนเจ้าเล่ห์แต่แฝงความอบอุ่นฟางซิน! ถ้าเธอไม่เอา ฉันเอานะ!“ก็ ก็ข้าอาบน้ำท่ามกลางหิมะนี่นา”ขยับร่างกายเข้าหาไออุ่น ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างแน่นหนันของสามีตัวโต ชีวิตนี้เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายเลย มันจะเป็นอะไรไหม ถ้าเธออยากจะลองสัมผัสดูสักครั้ง มันก็ไม่ผิดไม่ใช่เหรอ ในเมื่อฟางซินกับแม่ทัพหลิวหยางแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว เผลอๆอาจจะเคยร่วมหอกันไปแล้วก็ได้“เจ้าบอกว่าชอบนี่”นิ้วมือใหญ่เกี่ยววนบนไรผมเหนือหน้าผาก แววตาอ่อนแสงลง มองการกระทำคนตัวเล็กที่กำลังซุกตัวในแผ่นอกเงียบๆ กระชับมือถ่ายทอดไออุ่นให้ร่างเย้ายวนในอ้อมกอด กดริมฝีปากลงไปบนกลุ่มผมดำสนิทเบาๆปึก!“ข้า ข้าจะไปให้หลิงหลินแต่งตัวให้”ผลักแผ่นอกที่มอบไออุ่นให้ตัวเองออกห่าง หลงลืมไปแล้วเหรอว่าเขามีตัวละครลับที่เขาชอบอยู่ ถ้าหากเผลอเข้าใกล้จนหลงรักเขาขึ้นมา มันจะยุ่งยากไม่
“เจ้าจะนั่งอยู่อย่างนี้”สายตาคู่คมมองชุดของภรรยาเพียงครู่ หันหลังเดินจากไปพร้อมกับคนที่อยู่ด้านใน เหลือไว้เพียงข้ารับใช้ ที่รู้ใจฟางซินมากที่สุด“นายหญิงคะ ข้าเตรียมน้ำไว้แล้วค่ะ”“เจ้าชื่ออะไร?”“คะ? ข้าเหรอ ข้าชื่อหลิงหลินไงเจ้าคะ”“แฮะๆ ข้าจำไม่ค่อยเก่ง เจ้าช่วยนำทางข้าที”การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต้องมีคนช่วย และคนแรกที่เธอต้องการ ก็คือข้ารับใช้อย่างหลิงหลินนี่แหละ แม้ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครนี้มากนัก แต่แววตาที่ไม่มีพิษมีภัย ก็พอจะทำให้ฝากชีวิตของฟางซินและตัวเองไว้ได้นิดๆแหละนะห้องอาบน้ำที่หลิงหลินพามา เป็นบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ออกมาจากห้องถึงได้รู้ว่าข้างนอกเย็นมาก เย็นจนหนาวเข้าไปถึงข้างใน ตัวสั่นหงึกๆ อย่างคนไม่เคยเจออากาศหนาวเย็นมาก่อน ห้องที่เคยพักอาศัยอยู่มีแค่พัดลมเก่าๆช่วยคลายร้อน มันแทบจะคลายความร้อนให้ไม่ได้เลย เพราะแดดเมืองไทยร้อนสุดๆ ต่างกันกับที่นี่มาก จนเผลอคิดถึงบรรยากาศภายในห้องเก่าๆของตัวเองขึ้นมา“นายหญิงหนาวหรือเจ้าคะ วันนี้มีหิมะตกด้วย”หิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่ด้านนอก ทำให้ใบหน้าสวยเผลอลอบยิ้มออกมา เธอเข้ามาอยู่ในนิยายจริงๆด้วย ชีวิตจริงเธอไม่มีวันได้เห็น
มินนี่ นักเขียนโนเนม เพิ่งจะฝึกเขียนนิยายจีนเป็นครั้งแรก วางโครงเรื่องที่จะเขียนไว้เพียงคร่าวๆ ดังนี้ “หญิงสาวนามว่าฟางซิน จะทิ้งสามีไปถวายตัวเป็นสนมของท่านอ๋องเฉิน ผู้ชายที่ได้รับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ความร้ายกาจของนาง จะกลายเป็นอุปสรรคคอยขัดขวางเส้นทางรักของพระเอกนางเอก นางทั้งกลั่นแกล้ง ทั้งทำร้ายนางเอกที่แสนบอบบาง จนเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งเรื่อง และสุดท้ายนางได้ตัดสินใจจบชีวิตลงอย่างเดียวดายพล็อตที่วางไว้แล้ว มีเพียงแค่ช่วงต้นเรื่อง อิมเมจของตัวละคร ก็ร่างไว้เพียงแค่ไม่กี่ตัว และเขียนดำเนินเรื่องมาได้แค่นิดหน่อย กลับต้องมาหัวตันคิดอะไรต่อไม่ออกด้วยความเหนื่อยล้าสะสม ทำให้กินยาพาราเซตามอลไปถึงสองเม็ด บวกกับยาแก้แพ้อากาศอีกหนึ่ง หวังให้ตัวยาไปช่วยลดอาการปวดหัว และหวังให้ตัวเองหลับนานกว่าที่เคย ตื่นมาสมองจะได้ปลอดโปร่งโล่งสบาย ทำงานได้ไหลลื่นกว่าแต่มันไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วพบว่าโลกที่ตัวเองเคยอยู่ไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย ห้องเช่าแคบๆที่เธออาศัยอยู่ กลายเป็นห้องนอนแบบโบราณ ที่เคยเห็นตอนดูซีรี่ย์เพื่อหาข้อมูลนี่มันเรื่องบ้าอะไร!“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้