ร่างบอบบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ กระชับเสื้อคลุมเข้าหากันแน่น เดินผ่านทางเดินไปยังตำหนัก ที่ข้ารับใช้เคยบอกไว้ว่า เป็นห้องทำงานของท่านแม่ทัพ ห้ามเฉียดกายเข้าไปรบกวนการทำงานของเขาเด็ดขาด
เมื่อเดินมาถึงจนหน้าห้องนั้น มือบางยกขึ้นผลักประตูโดยไม่สนเสียงห้ามปรามของนายทหารด้านหน้า เดินเข้าไปข้างในรวดเร็ว ยกมือวาดลงบนซีกหน้าข้างขวา ของคนที่เงยขึ้นมองสุดแรง จนใบหน้าหล่อเหลาหันไปอีกด้าน
เพี๊ยะ!
“ท่าน! ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! แต่พอข้าฟื้นขึ้นมา ก็ทำดีด้วยราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ท่าน…ฮึก! ท่านใจร้าย”
น้ำตาไหลรวมขึ้นมาคลอหน่อย รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็หยดแมะลงบนพื้นอย่างสุดจะกลั้น
แม้ฟางซินจะถูกกำหนดให้รับบทเป็นตัวร้าย แต่ชีวิตนางก็ค่อนข้างน่าสงสาร นางแค่หลงรักอ๋องเฉินที่เข้ามาทำดีด้วย นางผิดที่เลือกใช้วิธีการแบบนั้นทำร้ายคนอื่น แต่ในช่วงชีวิตสุดท้ายนางก็สำนึกผิดอยู่นะ แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงช่วงที่นางรังแกคนอื่นหนักหนาเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องใจร้ายกับนางขนาดนี้
“ออกไป!”
เสียงตวาดดังขึ้นเพื่อขับไล่ข้ารับใช้ ที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่หน้าห้อง แต่คนที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้ากลับก้าวขาแทน มือเรียวเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มแดงปรั่งแรงๆ ความโกรธเมื่อครู่ ผันเปลี่ยนเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจ
เออ! ไปก็ได้โว้ย! ไอ้ผัวใจร้าย
หมับ!
“เจ้าจะไปไหน?”
“ก็ท่านไล่ข้า ปล่อยข้านะ!”
ดิ้นรนออกจากวงแขนแกร่ง แอ่นร่างกายหนีสัมผัสของสามีตัวโต ฟางซินอยู่กับหลิวหยาง แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงแค่ลูกกระต่าย ส่วนเขาก็เป็นหมีโตเต็มวัย ร่างกายใหญ่โตของเขาให้ความรู้สึกน่าหวาดกลัวก็จริง แต่กลับสร้างความอบอุ่นจากความหนาวเย็นได้เป็นอย่างดี
“คิดว่าทำร้ายข้าแล้ว เจ้าจะเดินออกไปได้ง่ายๆอย่างนั้นหรือ”
ดวงตามาดร้ายทำให้ร่างบางสั่นระริก สู้สิรออะไร แม้ว่าร่างกายของฟางซินจะสั่นสะท้านเพราะหวาดกลัวคนตรงหน้า แต่เธอที่สิงอยู่ในร่างของนางไม่ได้กลัวหรอก จะเดินออกไปสวยๆให้ดู จับตาดูให้ดีนะ อีตาหมียักษ์
ผลัก!
พรึ่บ
“ว้าย หลิวหยางท่านจะอุ้มข้าไปไหน”
ผลักสามีออกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ก้าวออกไปไหน ก็ถูกอุ้มขึ้นไปพาดอยู่บนบ่า ดิ้นพล่านจะลงมาให้ได้ แต่ไม่นานก็ต้องห้อยต่องแต่งอย่างหมดสภาพ
โอ้ย! เกลียดร่างกายฟางซินชะมัด ดิ้นนิดดิ้นหน่อยก็เหนื่อยแล้ว ร่างกายอ่อนแอไม่สมกับที่เป็นนางร้ายเลย
พลุบ!
สัมผัสนุ่มนิ่มของผ้า ทำให้ใบหน้าหวานขึ้นริ้วสีแดงสด มองรอบตัวอย่างหวาดระแวง เธอมัวแต่คิดหาทางลงจากบ่าของอีตาหมี รู้สึกตัวอีกที ก็ถูกเขาจับมาวางอยู่บนเตียงซะแล้ว
“ท่าน!”
“ข้า?”
“ท่านจะทำอะไรข้า!?”
ตะโกนถามเสียงสั่น จ้องหน้าสามีตาขวาง อยากจะกางเล็บพุ่งเข้าไปตะกุยหน้าหล่อๆของเขา แต่ก็นึกเสียดายความหล่อเหลาที่หาได้ยากจึงเลือกจะปกป้องตัวเองแทน ด้วยการยกแขนขึ้นกอดหน้าอกไว้
“ทำอะไรเจ้างั้นหรือ?… ก็ทำอย่างที่เราเคยทำ”
ดวงตาคู่หวานเบิกโพรง เคยทำ? เคยทำอะไรกัน! ไม่เห็นจำได้เลยสักนิด ว่าตัวเองเขียนให้ทั้งสองคนมีอะไรกันไปตอนไหน นึกสินึก ฟางซินกับสามี เล่นจ้ำจี้กันไปตอนไหน โอ้ย!
“ข้าจำไม่เห็นได้เลย ว่าเคยนอนกับท่านแล้ว”
โมเมเอาตัวรอดไปก่อน ช้อนสายตาขึ้นมองนิดๆ อย่างต้องการให้มันดูน่าสงสาร แต่ต้องหลุบสายตาลงทันที เมื่อสบเข้ากับแววตาลึกล้ำดูอันตราย แววตาสีดำสนิทที่เหมือนจะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป ทั้งน่าหวาดหวั่น แต่ทว่าเธอกลับรู้สึกว่ามันน่าค้นหา อยากรู้เหลือเกินว่าด้านในสีดำนั้น มีอะไรซุกซ่อนอยู่
“หลอกเจ้าไม่ได้เลยสินะ ใช่! เจ้ากับข้ายังไม่เคยเข้าหอกันเลยสักครั้ง”
เป็นคำพูดที่ทำให้ใจชื้นขึ้นมาก แต่ทำไมสีหน้าและแววตาของคนพูด ถึงทำให้รู้สึกหวาดกลัวได้ขนาดนี้ แววตาดำมืดฉายแววบางอย่าง เธอกลัวจนรีบขยับถอยหลังหนี
มันไม่ใช่แค่เฉยชาแล้ว เขาโกรธฟางซินแน่ๆ แววตาของเขาเมื่อครู่ ดูชั่วร้ายราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง
พรึ่บ
หมับ!
“ว้าย! หลิวหยาง ปล่อยขาข้านะ ข้าเจ็บ!”
ข้อเท้าทั้งสองถูกดึงไปจับไว้อย่างแรง ข้อมือใหญ่ออกแรงดึงลาก ร่างเย้ายวนเข้าหาตัว คนหวาดกลัวนอนหอบหายใจแฮ่กๆ อยู่ใต้ร่างใหญ่โตที่โหมขึ้นมาคร่อมทับ ขาเรียวยาวกดทับขาเล็กไว้ทั้งสองข้าง ทับแน่นจนรู้สึกปวดร้าวไปถึงกระดูก
อีตาหมีบ้า! ขาฉันจะหักแล้วนะ
“หลิวหยาง ขาข้าจะหักแล้ว”
พรึ่บ!
“ว้าย!”
อีตาหมียักษ์จับเธอพลิกตัวอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นาน ร่างกายบอบบางก็ขึ้นมาคร่อมทับอยู่กึ่งกลางร่างกำยำ สาบเสื้อที่แหวกอยู่ตรงหน้า ทำให้สองมือเล็กรีบยกขึ้นรวบมันเข้าหากัน
กล้ามเนื้อสีขาวแน่นๆ อื้อ! น้ำลายแทบหก
“หลิว หลิวหยาง ท่าน ท่านปล่อยข้าลงเถอะนะ”
พูดเสียงสั่นเครือ มองคนใต้ร่างผ่านม่านน้ำตา เธอไม่อาจรู้ได้เลยว่าตัวละครตรงหน้าคิดอะไรอยู่ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ไม่กล้าคิดสานสัมพันธ์กับเขา กลัวจุดจบนิยายของตัวเอง มันเศร้ามากกว่าเดิม หลิวหยางมีคนรักอยู่แล้ว การแต่งงานนี้เป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า
“ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอีก”
มือหนาไต่วนอยู่บนสะโพก มือเล็กพยายามดึงมือทั้งสองข้างออก แต่แรงคนที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ ชายผู้ได้ฉายาว่าผู้ชนะสิบทิศ กลับมีมากกว่าข้อมือเล็กๆของเธอ ซ้ำเขายังรวบมือทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน โดยใช้มือเพียงข้างเดียว จับยกขึ้นสูงเหนือศรีษะ อีกมือที่เคยวนอยู่แถวสะโพก กดแผ่นหลังลงต่ำ ใบหน้าสวยหวานโน้มลงมาใกล้ จนริมฝีปากแนบชิดติดกัน
“อึก อือ!”
ริมฝีปากหนาบดคลึงหนักๆ บนกลีบปากรูปกระจับสีแดงสด ผิวขาวเนียนดังสีของหิมะ แดงก่ำขึ้นมาเพราะพิษสัมผัส ความหวานล้ำด้านในโพลงปาก ทำให้ร่างสูงใหญ่ส่งเสียงครางฮึมในลำคอ ต่างจากคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง เธอกำลังจะสำลักเพราะการกลั้นหายใจ
“อึก! อือ!”
“ฟางซิน หายใจทางปากเจ้าสิ”
น้ำเสียงนุ่มทุ้ม ทำให้เธอเผลอทำตามอย่างว่าง่าย สูดอากาศเข้าปอดผ่านริมฝีปากที่ถูกครอบครองอยู่ สมองอื้ออึงจนไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ได้แต่ปล่อยให้คนตัวโตมอบจูบหวานล้ำมาให้ เรียนรู้ประสบการณ์แปลกใหม่ โดยมีคนตัวโตเป็นคนชักนำ
มินนี่ นักเขียนโนเนม เพิ่งจะฝึกเขียนนิยายจีนเป็นครั้งแรก วางโครงเรื่องที่จะเขียนไว้เพียงคร่าวๆ ดังนี้ “หญิงสาวนามว่าฟางซิน จะทิ้งสามีไปถวายตัวเป็นสนมของท่านอ๋องเฉิน ผู้ชายที่ได้รับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ความร้ายกาจของนาง จะกลายเป็นอุปสรรคคอยขัดขวางเส้นทางรักของพระเอกนางเอก นางทั้งกลั่นแกล้ง ทั้งทำร้ายนางเอกที่แสนบอบบาง จนเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งเรื่อง และสุดท้ายนางได้ตัดสินใจจบชีวิตลงอย่างเดียวดายพล็อตที่วางไว้แล้ว มีเพียงแค่ช่วงต้นเรื่อง อิมเมจของตัวละคร ก็ร่างไว้เพียงแค่ไม่กี่ตัว และเขียนดำเนินเรื่องมาได้แค่นิดหน่อย กลับต้องมาหัวตันคิดอะไรต่อไม่ออกด้วยความเหนื่อยล้าสะสม ทำให้กินยาพาราเซตามอลไปถึงสองเม็ด บวกกับยาแก้แพ้อากาศอีกหนึ่ง หวังให้ตัวยาไปช่วยลดอาการปวดหัว และหวังให้ตัวเองหลับนานกว่าที่เคย ตื่นมาสมองจะได้ปลอดโปร่งโล่งสบาย ทำงานได้ไหลลื่นกว่าแต่มันไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วพบว่าโลกที่ตัวเองเคยอยู่ไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย ห้องเช่าแคบๆที่เธออาศัยอยู่ กลายเป็นห้องนอนแบบโบราณ ที่เคยเห็นตอนดูซีรี่ย์เพื่อหาข้อมูลนี่มันเรื่องบ้าอะไร!“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้
“เจ้าจะนั่งอยู่อย่างนี้”สายตาคู่คมมองชุดของภรรยาเพียงครู่ หันหลังเดินจากไปพร้อมกับคนที่อยู่ด้านใน เหลือไว้เพียงข้ารับใช้ ที่รู้ใจฟางซินมากที่สุด“นายหญิงคะ ข้าเตรียมน้ำไว้แล้วค่ะ”“เจ้าชื่ออะไร?”“คะ? ข้าเหรอ ข้าชื่อหลิงหลินไงเจ้าคะ”“แฮะๆ ข้าจำไม่ค่อยเก่ง เจ้าช่วยนำทางข้าที”การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต้องมีคนช่วย และคนแรกที่เธอต้องการ ก็คือข้ารับใช้อย่างหลิงหลินนี่แหละ แม้ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครนี้มากนัก แต่แววตาที่ไม่มีพิษมีภัย ก็พอจะทำให้ฝากชีวิตของฟางซินและตัวเองไว้ได้นิดๆแหละนะห้องอาบน้ำที่หลิงหลินพามา เป็นบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ออกมาจากห้องถึงได้รู้ว่าข้างนอกเย็นมาก เย็นจนหนาวเข้าไปถึงข้างใน ตัวสั่นหงึกๆ อย่างคนไม่เคยเจออากาศหนาวเย็นมาก่อน ห้องที่เคยพักอาศัยอยู่มีแค่พัดลมเก่าๆช่วยคลายร้อน มันแทบจะคลายความร้อนให้ไม่ได้เลย เพราะแดดเมืองไทยร้อนสุดๆ ต่างกันกับที่นี่มาก จนเผลอคิดถึงบรรยากาศภายในห้องเก่าๆของตัวเองขึ้นมา“นายหญิงหนาวหรือเจ้าคะ วันนี้มีหิมะตกด้วย”หิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่ด้านนอก ทำให้ใบหน้าสวยเผลอลอบยิ้มออกมา เธอเข้ามาอยู่ในนิยายจริงๆด้วย ชีวิตจริงเธอไม่มีวันได้เห็น
“เจ้าอาบน้ำนานเกินไปหรือเปล่า”“คะ?”“ก็ผิวเจ้าแดง เหมือนจะมีไข้ด้วย”ผ่ามือหนายกขึ้นวางลงบนหน้าผาก รอยยิ้มมุมปากกับแววตาเจ้าเล่ห์ ทำให้คนมองเผลอคิดอีกแล้ว หลิวหยางไม่ได้รักเมียไม่ใช่เหรอ แต่ที่เขาทำอยู่นี่ มันมากกว่าคำว่ารักอีกมั้ง ทั้งท่าทีที่อ่อนโยน ทั้งแววตาแสนเจ้าเล่ห์แต่แฝงความอบอุ่นฟางซิน! ถ้าเธอไม่เอา ฉันเอานะ!“ก็ ก็ข้าอาบน้ำท่ามกลางหิมะนี่นา”ขยับร่างกายเข้าหาไออุ่น ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างแน่นหนันของสามีตัวโต ชีวิตนี้เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายเลย มันจะเป็นอะไรไหม ถ้าเธออยากจะลองสัมผัสดูสักครั้ง มันก็ไม่ผิดไม่ใช่เหรอ ในเมื่อฟางซินกับแม่ทัพหลิวหยางแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว เผลอๆอาจจะเคยร่วมหอกันไปแล้วก็ได้“เจ้าบอกว่าชอบนี่”นิ้วมือใหญ่เกี่ยววนบนไรผมเหนือหน้าผาก แววตาอ่อนแสงลง มองการกระทำคนตัวเล็กที่กำลังซุกตัวในแผ่นอกเงียบๆ กระชับมือถ่ายทอดไออุ่นให้ร่างเย้ายวนในอ้อมกอด กดริมฝีปากลงไปบนกลุ่มผมดำสนิทเบาๆปึก!“ข้า ข้าจะไปให้หลิงหลินแต่งตัวให้”ผลักแผ่นอกที่มอบไออุ่นให้ตัวเองออกห่าง หลงลืมไปแล้วเหรอว่าเขามีตัวละครลับที่เขาชอบอยู่ ถ้าหากเผลอเข้าใกล้จนหลงรักเขาขึ้นมา มันจะยุ่งยากไม่
“ท่านแม่ทัพงั้นหรือ?” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติ“คะ?”ใบหน้าสวยเอียงเล็กน้อยอย่างเคยตัว คนตัวโตกว่าขยับไปนั่งหมิ่นเหม่อยู่ปลายเตียง เมื่อสามีไม่ยอมคลายข้อสงสัย เธอก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ท่าทางเหมือนจะลุกหนีไปของสามี ทำให้รีบคว้าชายชุดไว้แน่นอีตาสามีนี่งอนอะไรนักหนา พูดอะไรผิดหูอีกแล้วเนี่ย หน้าตึงบ่อยๆแบบนี้ ฟางซินเข้าใจว่าไม่รักก็ไม่แปลกหรอก“เจ้ามักจะเรียกข้าว่าสามี”“หา! ข้าเรียกท่านแบบนั้นจริงๆเหรอ?”“ใช่!”“ข้าเรียกท่านพี่ได้ไหมอะ เหมือนท่านจะอายุมากกว่าข้าเยอะอยู่นะ”“ท่านพี่งั้นหรือ ข้าไปเป็นพี่ชายของเจ้าตั้งแต่ตอนไหน” ใบหน้าดุดันหันกลับไปมอง ฟางซินตัวปลอมขนลุกไปทั้งตัวก็ใช่ไง เห็นเป็นพี่ก็ดีแล้วไหม ให้คิดเป็นอย่างอื่นมันไม่ดีมั้ง แม้เขาจะหน้าตาหล่อสุดๆ แล้วก็มีหุ่นน่าฟัดก็เถอะ แต่เธอไม่ชอบผู้ชายของคนอื่น ถ้าเกิดวันหนึ่งข้างหน้ายัยฟางซินตัวจริงเกิดกลับมา แล้วรู้ว่าเธอใช้ร่างกายทำอะไรกับเขาไปบ้าง นางคงจะโกรธน่าดู เอาเป็นว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน นี่ก็เพิ่งจะไม่กี่วันเอง“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าแค่รู้สึกอายที่จะเรียกแบบนั้นต่างหาก” ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน กับอีแค
ร่างบอบบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ กระชับเสื้อคลุมเข้าหากันแน่น เดินผ่านทางเดินไปยังตำหนัก ที่ข้ารับใช้เคยบอกไว้ว่า เป็นห้องทำงานของท่านแม่ทัพ ห้ามเฉียดกายเข้าไปรบกวนการทำงานของเขาเด็ดขาดเมื่อเดินมาถึงจนหน้าห้องนั้น มือบางยกขึ้นผลักประตูโดยไม่สนเสียงห้ามปรามของนายทหารด้านหน้า เดินเข้าไปข้างในรวดเร็ว ยกมือวาดลงบนซีกหน้าข้างขวา ของคนที่เงยขึ้นมองสุดแรง จนใบหน้าหล่อเหลาหันไปอีกด้านเพี๊ยะ!“ท่าน! ท่านทำให้ข้าเกือบตาย! แต่พอข้าฟื้นขึ้นมา ก็ทำดีด้วยราวกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ท่าน…ฮึก! ท่านใจร้าย”น้ำตาไหลรวมขึ้นมาคลอหน่อย รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็หยดแมะลงบนพื้นอย่างสุดจะกลั้นแม้ฟางซินจะถูกกำหนดให้รับบทเป็นตัวร้าย แต่ชีวิตนางก็ค่อนข้างน่าสงสาร นางแค่หลงรักอ๋องเฉินที่เข้ามาทำดีด้วย นางผิดที่เลือกใช้วิธีการแบบนั้นทำร้ายคนอื่น แต่ในช่วงชีวิตสุดท้ายนางก็สำนึกผิดอยู่นะ แล้วนี่ก็ยังไม่ถึงช่วงที่นางรังแกคนอื่นหนักหนาเลยด้วยซ้ำ ทำไมเขาต้องใจร้ายกับนางขนาดนี้“ออกไป!”เสียงตวาดดังขึ้นเพื่อขับไล่ข้ารับใช้ ที่ยืนรอดูสถานการณ์อยู่หน้าห้อง แต่คนที่ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้ากลับก้าวขาแทน มือเรียวเล็กยกข
“ท่านแม่ทัพงั้นหรือ?” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติ“คะ?”ใบหน้าสวยเอียงเล็กน้อยอย่างเคยตัว คนตัวโตกว่าขยับไปนั่งหมิ่นเหม่อยู่ปลายเตียง เมื่อสามีไม่ยอมคลายข้อสงสัย เธอก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ท่าทางเหมือนจะลุกหนีไปของสามี ทำให้รีบคว้าชายชุดไว้แน่นอีตาสามีนี่งอนอะไรนักหนา พูดอะไรผิดหูอีกแล้วเนี่ย หน้าตึงบ่อยๆแบบนี้ ฟางซินเข้าใจว่าไม่รักก็ไม่แปลกหรอก“เจ้ามักจะเรียกข้าว่าสามี”“หา! ข้าเรียกท่านแบบนั้นจริงๆเหรอ?”“ใช่!”“ข้าเรียกท่านพี่ได้ไหมอะ เหมือนท่านจะอายุมากกว่าข้าเยอะอยู่นะ”“ท่านพี่งั้นหรือ ข้าไปเป็นพี่ชายของเจ้าตั้งแต่ตอนไหน” ใบหน้าดุดันหันกลับไปมอง ฟางซินตัวปลอมขนลุกไปทั้งตัวก็ใช่ไง เห็นเป็นพี่ก็ดีแล้วไหม ให้คิดเป็นอย่างอื่นมันไม่ดีมั้ง แม้เขาจะหน้าตาหล่อสุดๆ แล้วก็มีหุ่นน่าฟัดก็เถอะ แต่เธอไม่ชอบผู้ชายของคนอื่น ถ้าเกิดวันหนึ่งข้างหน้ายัยฟางซินตัวจริงเกิดกลับมา แล้วรู้ว่าเธอใช้ร่างกายทำอะไรกับเขาไปบ้าง นางคงจะโกรธน่าดู เอาเป็นว่ารอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน นี่ก็เพิ่งจะไม่กี่วันเอง“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ข้าแค่รู้สึกอายที่จะเรียกแบบนั้นต่างหาก” ขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน กับอีแค
“เจ้าอาบน้ำนานเกินไปหรือเปล่า”“คะ?”“ก็ผิวเจ้าแดง เหมือนจะมีไข้ด้วย”ผ่ามือหนายกขึ้นวางลงบนหน้าผาก รอยยิ้มมุมปากกับแววตาเจ้าเล่ห์ ทำให้คนมองเผลอคิดอีกแล้ว หลิวหยางไม่ได้รักเมียไม่ใช่เหรอ แต่ที่เขาทำอยู่นี่ มันมากกว่าคำว่ารักอีกมั้ง ทั้งท่าทีที่อ่อนโยน ทั้งแววตาแสนเจ้าเล่ห์แต่แฝงความอบอุ่นฟางซิน! ถ้าเธอไม่เอา ฉันเอานะ!“ก็ ก็ข้าอาบน้ำท่ามกลางหิมะนี่นา”ขยับร่างกายเข้าหาไออุ่น ที่แผ่กระจายออกมาจากร่างแน่นหนันของสามีตัวโต ชีวิตนี้เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายเลย มันจะเป็นอะไรไหม ถ้าเธออยากจะลองสัมผัสดูสักครั้ง มันก็ไม่ผิดไม่ใช่เหรอ ในเมื่อฟางซินกับแม่ทัพหลิวหยางแต่งงานกันอย่างถูกต้องแล้ว เผลอๆอาจจะเคยร่วมหอกันไปแล้วก็ได้“เจ้าบอกว่าชอบนี่”นิ้วมือใหญ่เกี่ยววนบนไรผมเหนือหน้าผาก แววตาอ่อนแสงลง มองการกระทำคนตัวเล็กที่กำลังซุกตัวในแผ่นอกเงียบๆ กระชับมือถ่ายทอดไออุ่นให้ร่างเย้ายวนในอ้อมกอด กดริมฝีปากลงไปบนกลุ่มผมดำสนิทเบาๆปึก!“ข้า ข้าจะไปให้หลิงหลินแต่งตัวให้”ผลักแผ่นอกที่มอบไออุ่นให้ตัวเองออกห่าง หลงลืมไปแล้วเหรอว่าเขามีตัวละครลับที่เขาชอบอยู่ ถ้าหากเผลอเข้าใกล้จนหลงรักเขาขึ้นมา มันจะยุ่งยากไม่
“เจ้าจะนั่งอยู่อย่างนี้”สายตาคู่คมมองชุดของภรรยาเพียงครู่ หันหลังเดินจากไปพร้อมกับคนที่อยู่ด้านใน เหลือไว้เพียงข้ารับใช้ ที่รู้ใจฟางซินมากที่สุด“นายหญิงคะ ข้าเตรียมน้ำไว้แล้วค่ะ”“เจ้าชื่ออะไร?”“คะ? ข้าเหรอ ข้าชื่อหลิงหลินไงเจ้าคะ”“แฮะๆ ข้าจำไม่ค่อยเก่ง เจ้าช่วยนำทางข้าที”การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต้องมีคนช่วย และคนแรกที่เธอต้องการ ก็คือข้ารับใช้อย่างหลิงหลินนี่แหละ แม้ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับตัวละครนี้มากนัก แต่แววตาที่ไม่มีพิษมีภัย ก็พอจะทำให้ฝากชีวิตของฟางซินและตัวเองไว้ได้นิดๆแหละนะห้องอาบน้ำที่หลิงหลินพามา เป็นบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง ออกมาจากห้องถึงได้รู้ว่าข้างนอกเย็นมาก เย็นจนหนาวเข้าไปถึงข้างใน ตัวสั่นหงึกๆ อย่างคนไม่เคยเจออากาศหนาวเย็นมาก่อน ห้องที่เคยพักอาศัยอยู่มีแค่พัดลมเก่าๆช่วยคลายร้อน มันแทบจะคลายความร้อนให้ไม่ได้เลย เพราะแดดเมืองไทยร้อนสุดๆ ต่างกันกับที่นี่มาก จนเผลอคิดถึงบรรยากาศภายในห้องเก่าๆของตัวเองขึ้นมา“นายหญิงหนาวหรือเจ้าคะ วันนี้มีหิมะตกด้วย”หิมะที่กำลังโปรยปรายอยู่ด้านนอก ทำให้ใบหน้าสวยเผลอลอบยิ้มออกมา เธอเข้ามาอยู่ในนิยายจริงๆด้วย ชีวิตจริงเธอไม่มีวันได้เห็น
มินนี่ นักเขียนโนเนม เพิ่งจะฝึกเขียนนิยายจีนเป็นครั้งแรก วางโครงเรื่องที่จะเขียนไว้เพียงคร่าวๆ ดังนี้ “หญิงสาวนามว่าฟางซิน จะทิ้งสามีไปถวายตัวเป็นสนมของท่านอ๋องเฉิน ผู้ชายที่ได้รับบทเป็นพระเอกของเรื่อง ความร้ายกาจของนาง จะกลายเป็นอุปสรรคคอยขัดขวางเส้นทางรักของพระเอกนางเอก นางทั้งกลั่นแกล้ง ทั้งทำร้ายนางเอกที่แสนบอบบาง จนเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งเรื่อง และสุดท้ายนางได้ตัดสินใจจบชีวิตลงอย่างเดียวดายพล็อตที่วางไว้แล้ว มีเพียงแค่ช่วงต้นเรื่อง อิมเมจของตัวละคร ก็ร่างไว้เพียงแค่ไม่กี่ตัว และเขียนดำเนินเรื่องมาได้แค่นิดหน่อย กลับต้องมาหัวตันคิดอะไรต่อไม่ออกด้วยความเหนื่อยล้าสะสม ทำให้กินยาพาราเซตามอลไปถึงสองเม็ด บวกกับยาแก้แพ้อากาศอีกหนึ่ง หวังให้ตัวยาไปช่วยลดอาการปวดหัว และหวังให้ตัวเองหลับนานกว่าที่เคย ตื่นมาสมองจะได้ปลอดโปร่งโล่งสบาย ทำงานได้ไหลลื่นกว่าแต่มันไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วพบว่าโลกที่ตัวเองเคยอยู่ไม่เหมือนเดิมแม้แต่น้อย ห้องเช่าแคบๆที่เธออาศัยอยู่ กลายเป็นห้องนอนแบบโบราณ ที่เคยเห็นตอนดูซีรี่ย์เพื่อหาข้อมูลนี่มันเรื่องบ้าอะไร!“กรี๊ด!”เสียงกรีดร้