Share

บทที่ 96

Author: จี้เวยเวย
ณ พระราชวัง ห้องทรงพระอักษร

“การสอบประจำฤดูใบไม้ผลิใกล้เข้ามาแล้ว เราได้ยินว่ามีผู้สอบจำนวนมากมายังเมืองหลวง ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาก ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอาจารย์พอจะมีผู้ใดที่เห็นว่ามีพรสวรรค์บ้างหรือไม่?” ฮ่องเต้ตรัสถามด้วยรอยยิ้ม

“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กระหม่อมได้อ่านเรียงความที่ยอดเยี่ยมหลายบท เรียงความเหล่านี้เขียนโดยผู้มีพรสวรรค์ กระหม่อมจึงให้คนคัดลอกไว้ ฝ่าบาทโปรดทอดพระเนตร”

อัครเสนาบดีส่งเรียงความที่เตรียมไว้ล่วงหน้าให้กับขันทีใหญ่ และขันทีใหญ่ก็นำไปถวายฮ่องเต้

“เป็นเรียงความที่ดีจริง ๆ เต็มไปด้วยพรสวรรค์ ควรมีชื่อของเขาในการสอบประจำฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้”

ฮ่องเต้ตรัสถามด้วยความพอพระทัยว่า “ผู้สอบผู้นี้มีนามว่าอะไร?”

“ทูลฝ่าบาท เขาคือฉินเซี่ยงเหิงจากสำนักศึกษาหลวง กระหม่อมเชื่อว่าท่านอาจารย์เว่ยก็น่าจะรู้จักดี” เสนาบดีถังตอบด้วยรอยยิ้ม

อาจารย์เว่ยขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อของฉินเซี่ยงเหิง เขารู้ว่าฉินเซี่ยงเหิงมีความสามารถ แต่หากถึงขั้นที่คนทั้งเมืองหลวงพูดถึง แม้แต่อัครเสนาบดีและฮ่องเต้ก็ยังชมเชย เขาไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น

“ฝ่าบาท กระหม่อมขอดูเรียงความนั้นได้หรือไ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Seerana Joy Nampun
สนุกค่ะ ติดตามค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 97

    อาจารย์เว่ยย่อมทราบดีว่าหากเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในช่วงเวลานี้ จะต้องส่งผลกระทบอย่างแน่นอน จึงกราบทูลว่า“ฝ่าบาท กระหม่อมเห็นว่าเวลานี้มิใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ทรงนิ่งพลางตรึกตรองครู่หนึ่ง “เช่นนั้นก็รอจนการสอบประจำฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไปก่อน แล้วค่อยจัดการเรื่องนี้ พวกท่านทั้งสองอย่าได้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเป็นอันขาด เราจะดูว่าเขาจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้นมาอีก”อัครเสนาบดีและอาจารย์เว่ยมองตากัน พลางรู้สึกกังวลแทนท่านแม่ทัพฉินในใจลึก ๆการมีบุตรชายเช่นนี้ ช่างเป็นเวรกรรมโดยแท้ท้องฟ้าสดใสอากาศบริสุทธิ์ แสงแดดส่องสว่างเจิดจ้าเมื่อซ่งรั่วเจินและซ่งอี้อันมาถึง สวีเฮ่ออันและคนอื่น ๆ ก็มาถึงก่อนแล้ว เพียงแต่ว่ากลับมีบุคคลที่ไม่คาดคิดเพิ่มมาอีกหนึ่งคน...อวิ๋นซีหว่านเมื่อเดินเข้าไปใกล้ ซ่งรั่วเจินก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ดูไม่ค่อยดีนัก“ข้าบอกแล้วว่าไม่อยากให้นางมา แต่นางก็ยังดึงดันจะตามมา!” อวิ๋นเนี่ยนชูลากซ่งรั่วเจินไปอีกทาง ใบหน้าของนางฉายชัดไปด้วยความรำคาญใจซ่งรั่วเจินปรายตามองอวิ๋นซีหว่าน นางพึ่งถูกน้ำแกงลวกที่ร้านอวิ๋นหย่าเมื่อไม่กี่วันก่อนและยังไม่หายดี แต่ถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 98

    “นี่มิใช่สหายซ่งหรอกหรือ? ตั้งแต่เจ้าสูญเสียการมองเห็นก็ไม่เคยพบเจอกันอีกเลย ข้ายังคิดว่าเจ้าคงไม่อยากพบผู้คนไปตลอดชีวิตเสียแล้ว”“คุณชายรองซ่งเป็นผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ช่างน่าเสียดายนัก ในยามนั้นท่านมีภารกิจมากมายจนเหล่าคนธรรมดาเช่นพวกข้าไม่มีแม้แต่โอกาสจะเอ่ยปากสนทนาด้วย”“แต่ตอนนี้เกรงว่าคงอยากให้พวกเราพูดด้วยสักคำสองคำบ้างกระมัง? อยู่ในจวนทั้งวันไม่มีผู้ใดพูดคุยคงน่าอึดอัดน่าดู!”เฉียนเหว่ยมองซ่งอี้อันด้วยสายตาเย็นชา ย้อนกลับไปในอดีต เขาเคยพยายามประจบสอพลอซ่งอี้อัน แต่อีกฝ่ายกลับทระนงในพรสวรรค์ของตนและไม่ยอมรับเขา ทำให้เฉียนเหว่ยต้องเก็บความขุ่นเคืองไว้ในใจมาโดยตลอดยามนี้เมื่อเห็นซ่งอี้อันตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาก็รู้สึกสะใจยิ่งนัก!“เป็นถึงบัณฑิต แต่กลับเอาแต่ประจบสอพลอผู้ที่มีอำนาจและเหยียดหยามสหายร่วมสำนัก หรือว่าเอาความรู้ในตำราไปให้สุนัขกินหมดแล้วหรืออย่างไร?”สวีเฮ่ออันที่เพิ่งจัดเตรียมทุกอย่างบนเรือเสร็จ เมื่อออกมารับซ่งอี้อันก็ได้ยินคำพูดเย้ยหยันเหล่านี้ ใบหน้าของเขาพลันเย็นชา“คุณ...คุณชายสวี?”เฉียนเหว่ยกับพรรคพวกไม่คาดคิดว่าวันนี้ซ่งอี้อันจะร่วมเดินทางมากับสวีเฮ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 99

    “สหายฉิน ซ่งอี้อันเคยหยิ่งผยองในความสามารถของตนเอง พวกเราก็รู้กันดีอยู่แล้ว เจ้าจะเกรงใจเขาไปไย? คนตาบอดเช่นนี้ ไม่แน่ว่าเมื่อใดอาจจะสะดุดล้มตายไปเองก็เป็นได้!”“ซ่งอี้อัน สหายฉินต่างหากที่เป็นคนถ่อมตนจริง ๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ทั้งเมืองหลวงกำลังชื่นชมเรียงความที่สหายฉินเขียน?”ซ่งอี้อันแสร้งทำเป็นงุนงง “เรียงความอะไรหรือ?”ฉินเซี่ยงเหิงกำลังจะห้ามเฉียนเหว่ย แต่แล้วก็ได้ยินเฉียนเหว่ยอ่านประโยคที่เป็นจุดสำคัญของเรียงความนั้นออกมาสีหน้าของซ่งอี้อันเปลี่ยนไปเล็กน้อย “นี่มันเรียงความที่ข้าเขียนชัดๆ!”เมื่อสิ้นประโยค ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“ซ่งอี้อัน เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่? นี่เป็นเรียงความที่สหายฉินเขียนชัด ๆ พวกเราเห็นกับตาว่าสหายฉินเขียนขึ้นเอง เจ้าคิดจะมาทึกทักว่าเป็นของตัวเองหรือ?”“ใช่แล้ว พวกเราทุกคนเห็นกันหมด หรือว่าสหายฉินท่องบทความของเจ้ามาแล้วค่อยเขียนใหม่อย่างนั้นหรือ?” เฉียนเหว่ยเย้ยหยันหัวใจของฉินเซี่ยงเหิงสะท้านขึ้นมา เขาอยากจะฉีกปากเฉียนเหว่ยให้ขาดเสียจริงไอ้โง่!“ใช่แล้ว”ซ่งอี้อันเผยใบหน้าสงบนิ่งและเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 100

    จ้าวซูหว่านถูกสายตาของซ่งรั่วเจินจ้องมาก็รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาทันที ราวกับว่าถูกมองอย่างทะลุปรุโปร่ง“ตั้งสติหน่อย! เจ้าถอนหมั้นกับซ่งอี้อันแล้ว จะกลัวอะไรอีก?” ฉินเซี่ยงเหิงพูดด้วยเสียงต่ำจ้าวซูหว่านได้สติกลับมา ใบหน้าก็แสดงความไม่พอใจออกมา “รั่วเจิน เจ้าถอนหมั้นแล้วก็ยังออกมาล่องเรือชมทะเลสาบได้มิใช่หรือ แล้วเหตุใดข้าจะมาไม่ได้?”ซ่งรั่วเจินยิ้มเยาะ “ข้าถอนหมั้นแล้วก็จริง แต่ข้าไม่เสียใจ กลับเป็นเจ้าเสียอีก ที่ไม่กี่วันก่อนวิ่งแจ้นมาที่จวนของเรา ร้องห่มร้องไห้พร่ำบอกว่าเสียใจต่อพี่รองของข้า”“อย่าบอกนะว่าเจ้าแค่แสร้งทำ เพื่อที่จะได้เข้าไปขโมยเรียงความในห้องหนังสือของพี่ชายข้าน่ะ?”จ้าวซูหว่านตกใจ “ข้า...ข้าไม่ได้...”แต่คำพูดของนางยังไม่ทันจบก็ถูกซ่งรั่วเจินขัดขึ้น“ข้าเคยคิดว่าเจ้าเป็นเพียงคนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น ไม่คิดว่านิสัยใจคอของเจ้าจะเลวร้ายยิ่งกว่า โชคดีนักที่เจ้าไม่ได้แต่งกับพี่รองของข้า ไม่เช่นนั้นคงเป็นเคราะห์ร้ายของตระกูลข้าอย่างแท้จริง”พูดจบ ซ่งรั่วเจินก็พยุงซ่งอี้อันหันหลังเดินเข้าห้องโดยสารเรือไป ไม่แม้แต่จะชายตาแลอีกจ้าวซูหว่านโกรธจนขบฟันแน่น แต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 101

    “ข้ามองเห็นท่าทีคนถ่อยลำพองใจของเฉียนเหว่ยแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากจะเหยียบมันให้จมดิน!”“ท่านเป็นญาติผู้พี่ของข้า เป็นคุณชายของตระกูลอวิ๋น อีกทั้งยังเปี่ยมด้วยความสามารถ การสอบประจำฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ ชื่อของท่านต้องติดอยู่ในรายชื่อผู้สอบผ่านเป็นแน่!”อวิ๋นเนี่ยนชูโกรธเกรี้ยว นางรู้ดีว่าญาติผู้พี่ของตนนั้นขยันหมั่นเพียรในการทบทวนตำราเพียงใด เทียบกับพวกที่ใช้เล่ห์กลแล้ว เขาเหนือกว่ามากนัก“ข้าเห็นกับตาว่าคุณชายฉินเป็นคนเขียนบทกวีออกมาเอง หรือว่ามีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันหรือไม่?” อวิ๋นซีหว่านอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นนางเห็นจ้าวซูหว่านยังคงตามติดฉินเซี่ยงเหิงอยู่ไม่ห่าง ในใจรู้สึกขุ่นเคืองยิ่งนักหญิงผู้นั้นโชคดีอย่างไม่น่าเชื่อที่ได้หมั้นหมายกับซ่งอี้อัน แต่บัดนี้พอเพิ่งถอนหมั้นเสร็จ ก็มาเกาะติดกับคุณชายฉินอีก คนอย่างนางก็คู่ควรงั้นหรือ?อวิ๋นเนี่ยนชูเหลือบมองอวิ๋นซีหว่านแวบหนึ่ง “เจ้าไม่ได้มีใจให้ฉินเซี่ยงเหิงหรอกหรือ? เหตุใดไม่ไปอยู่กับพวกเขา แต่กลับมานั่งกับพวกเราที่นี่เล่า?”อวิ๋นซีหว่านถึงกับพูดไม่ออก ที่จริงแล้วนางก็อยากไปอยู่เหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรได้เล่า บาดแผลบนใบหน้ายังไม่ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 102

    “ข้าว่าตระกูลซ่งช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ไม่ใช่แค่ซ่งอี้อันเท่านั้น พวกเจ้าเห็นแม่นางซ่งผู้นั้นหรือไม่?”“หลินจือเยว่เพียงต้องการแต่งงานกับแม่นางฉิน แต่นางกลับปฏิเสธหมั้นหมายทันที แถมยังไปฟ้องร้องต่อหน้าพระพักตร์ ทำให้หลินจือเยว่ต้องเสียบรรดาศักดิ์โหวไป ทั้งยังทำให้แม่นางฉินถูกขังคุกอีกด้วย”“เจ้าคิดดูสิ สตรีเช่นนี้ไม่ใช่จิตใจชั่วร้ายดั่งอสรพิษหรอกหรือ?”เหล่าคนฟังยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธเคืองกันถ้วนหน้า “ตระกูลซ่งช่างโหดร้ายเหลือเกิน ตั้งใจจะเล่นงานครอบครัวของสหายฉินชัดๆ”“ข้าว่าคนพวกนี้ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ต่อไปเลย ตายไปเสียยังดีกว่า”เฉียนเหว่ยยิ่งพูดยิ่งเดือดดาล ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลงและระยะห่างระหว่างเรือสองลำนั้นใกล้เข้ามา ในใจเขาก็พลันผุดแผนการบางอย่างขึ้นเฉียนเหว่ยล้วงเอาพับไฟ[1]ที่ซ่อนไว้ในอกเสื้อโยนข้ามไปยังเรือลำตรงข้ามทันที“แม่นางซ่ง ฟ้ามืดแล้ว ยังยืนชมทิวทัศน์ทะเลสาบอยู่อีกหรือ?”สวีเฮ่ออันเห็นซ่งรั่วเจินยืนอยู่ด้านนอกเรือ ปล่อยให้สายลมยามค่ำคืนพัดผมสีดำของนางพลิ้วไหวไปมา ราวกับภาพวาดในห้วงฝันกลางรัตติกาลที่ชวนให้หัวใจเต้นแรงซ่งรั่วเจินเหลือบมองไปยังผู้มาใหม่ ก่อนจะคิดใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 103

    “อวิ๋นซีหว่าน เจ้าพูดจาเหลวไหลสิ้นดี! รั่วเจินเป็นสตรีจะให้ไปช่วยบุรุษเช่นนี้ได้อย่างไร? หากเรื่องนี้แพร่ออกไปนางจะเสียชื่อเสียงแค่ไหน เจ้าคิดบ้างหรือไม่?” อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธอวิ๋นซีหว่านรีบแก้ต่าง “ก็ญาติผู้พี่กับคุณชายสวีว่ายน้ำไม่เป็น ข้าจึงเสนอเช่นนี้”ส่วนซ่งอี้อัน ตอนนี้การช่วยเหลือตัวเองยังเป็นเรื่องลำบาก เรื่องช่วยผู้อื่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอวิ๋นเนี่ยนชูถึงกับหมดคำพูด “ถ้าเจ้าอยากช่วยนัก เหตุใดไม่ไปช่วยเองเล่า? ไม่แน่หากเจ้าช่วยชีวิตเขาไว้ เจ้าคงได้แต่งกับฉินเซี่ยงเหิงสมใจ”ทว่าหลังนางฟังคำพูดนั้นแล้วกลับทำให้อวิ๋นซีหว่านนิ่งคิดและไตร่ตรองหากนางช่วยฉินเซี่ยงเหิงไว้ได้ นางก็จะกลายเป็นผู้มีพระคุณของเขา!ภายใต้สายตาของผู้คนมากมาย หากนางสามารถช่วยชีวิตฉินเซี่ยงเหิงได้ เรื่องหมั้นหมายนี้อาจเกิดขึ้นจริงก็เป็นได้!ทุกคนในเมืองหลวงต่างพากันยกย่องในความสามารถของฉินเซี่ยงเหิง อีกทั้งเมื่อการสอบในฤดูใบไม้ผลิสิ้นสุดลง ไม่แน่ว่าเขาอาจได้เป็นจอหงวน[1]ก็ได้ เช่นนั้นแล้วนางก็จะกลายเป็นฮูหยินของจอหงวนน่ะสิ!ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สังเกต อวิ๋นซีหว่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 104

    “แค่กๆ”ฉินเซี่ยงเหิงสำลักน้ำออกมาเป็นจำนวนมากก่อนจะค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อเขาลืมตาขึ้นก็เห็นสตรีสองนางกำลังตบตีกันอย่างดุเดือดราวกับแม่ค้าร้านตลาด ทำให้เขารู้สึกมึนงงอย่างมาก“คุณชายฉิน ท่านไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”อวิ๋นซีหว่านเมื่อเห็นฉินเซี่ยงเหิงฟื้นคืนสติ ก็รีบผละจากการตบตีกับจ้าวซูหว่านทันที นางกล่าวด้วยน้ำเสียงน้อยใจ “โชคดีที่ท่านไม่เป็นไรแล้ว ข้าเพียงตั้งใจจะช่วยชีวิตท่าน แต่จ้าวซูหว่านตบตีข้าราวกับว่าเสียสติไปแล้ว...”ใบหน้าขาวของหญิงสาวยิ่งดูซีดเผือดกว่าเดิมหลังจากถูกแช่ในน้ำเย็น ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงจากการตบตีกัน จนดูราวกับผีสาวประกอบกับสีหน้าที่ดูน่าเวทนานั่น...ยิ่งทำให้ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้“เจ้าช่วยข้าไว้หรือ?” ฉินเซี่ยงเหิงถามด้วยความสงสัย “แล้วเหตุใดพวกเจ้าจึงต้องตบตีกันเล่า?”“พี่เซี่ยงเหิง นางไม่รู้จักอาย กล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนั้นกับท่านต่อหน้าธารกำนัล ข้าจึง...”จ้าวซูหว่านเอ่ยด้วยใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากไร้สีเลือด นางพยายามจะก้าวเข้าไปหาเขา แต่กลับถูกอวิ๋นซีหว่านผลักจนล้มลงกับพื้น“โอ๊ย!” จ้าวซูหว่านร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด“คุณชายฉิน ท่านอย่าไปฟังนา

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status