ซ่งอี้อันยืนอยู่เงียบ ๆ ที่มุมหนึ่ง ผ้าผืนบางที่ปิดตาของเขาไม่ได้ปิดบังการมองเห็นอย่างสิ้นเชิงเขาเห็นทุกอย่างชัดเจน ตั้งแต่ฉินเซี่ยงเหิงที่แต่งกายไม่เรียบร้อย ไปจนถึงเสื้อผ้าของจ้าวซูหว่านที่ยุ่งเหยิง ซ่งอี้อันก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นคนทั้งสองนี้แอบลักลอบคบชู้กันลับหลังเขา ถึงขั้นมีบุตรด้วยกันแล้ว และยังจะนำตัวเขามาบังหน้าอีก ช่างน่าขันยิ่งนัก!“ระหว่างเรานั้นบริสุทธิ์ใจต่อกันจริง ตั้งแต่สามเดือนก่อน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าจะตั้งใจเตรียมตัวสอบ เราก็ไม่ได้พบหน้ากันอีก” “หากเจ้าจะตั้งครรภ์จริง ๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าแม้แต่น้อย”ซ่งอี้อันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบแผ่วเบาดุจสายน้ำใสที่ไหลริน ชวนให้คนฟังรู้สึกเชื่อถือ ยิ่งไปกว่านั้น หากจ้าวซูหว่านตั้งครรภ์จริง เช่นนั้นแล้วนางย่อมไม่มีทางถอนหมั้นเป็นแน่สีหน้าของจ้าวซูหว่านแข็งค้าง ซ่งอี้อันตัดตัวเองออกจากเรื่องราวนี้อย่างชัดเจน แต่กลับไม่ได้เอ่ยคำใดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของนาง"จ้าวซูหว่าน หากเจ้าตั้งครรภ์จริง ก็จงสารภาพออกมาเถิด ข้ายังอาจช่วยรักษาเด็กในครรภ์ของเจ้าไว้ได้”“ตอนนี้เด็กยังไม่ถึงสามเดือน แต่หากเลือดออกมากเช่นน
เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งรั่วเจิน จ้าวซูหว่านแสดงอาการลังเลออกมา นางเผลอมองไปทางฉินเซี่ยงเหิงโดยไม่รู้ตัวเมื่อฉินเซี่ยงเหิงรับรู้ถึงสายตาของนาง หัวใจของเขาก็เต้นระรัว รีบส่งสายตาห้ามปรามให้แก่นางอย่างสุดชีวิตหากกล้าพูดชื่อเขาออกมา ทุกอย่างจบสิ้นแน่!“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะปิดบังอะไรได้อีก? ในเมื่อเจ้าตั้งใจจะให้เด็กคนนี้เกิดมา แล้วเจ้าไม่คิดจะแต่งงานกับเขาเลยหรือ?”ซ่งรั่วเจินที่สังเกตเห็นท่าทางของทั้งคู่ จึงเอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ “หากพลาดโอกาสวันนี้ ต่อให้กระโจนลงแม่น้ำฮวงโห เจ้าก็ชำระล้างชื่อเสียงไม่ได้แล้ว[1]”อวิ๋นเนี่ยนชูที่ดูทุกอย่างอยู่ ยิ่งแสดงอาการรังเกียจจ้าวซูหว่าน นางรู้สึกสงสารซ่งอี้อันอย่างที่สุด แต่เมื่อเห็นซ่งรั่วเจินยังคงสงบนิ่ง และเลือกพูดเตือนจ้าวซูหว่านอย่างใจเย็น ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจไม่ด่าทอเสียให้สิ้นก็ถือว่าให้เกียรติมากแล้ว ยังจะมาเกลี้ยกล่อมนางอีกหรือ?ซ่งรั่วเจินส่งสายตาให้สัญญาณแก่อวิ๋นเนี่ยนชู แม้จ้าวซูหว่านจะน่าชัง แต่เหตุการณ์วันนี้ที่เกิดขึ้น นางคงไม่สามารถสร้างปัญหาใดได้อีกต่อไปคนที่น่ารังเกียจที่สุดยังคงเป็นฉินเซี่ยงเหิง เขากับฉินซวงซวงเห
ซ่งอี้อันสั่นสะท้านด้วยความโกรธที่เก็บกักไว้ไม่อยู่ คำถามที่หลุดออกมาจากปากเขาแต่ละคำ ทำเอาผู้คนที่ได้ยินอดรู้สึกสงสารไม่ได้เรื่องเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็คงยากที่จะยอมรับได้ ยิ่งไปกว่านั้นซ่งอี้อันเป็นบุตรชายของท่านแม่ทัพ อีกทั้งยังเป็นผู้มากความสามารถที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองหลวงครั้งหนึ่งเขาคือบุรุษที่สตรีมากมายทั่วทั้งแคว้นหมายปอง ยามที่เขาหมั้นหมายกับจ้าวซูหว่านนั้น ไม่รู้ว่าทำให้แม่นางน้อยหัวใจสลายไปกี่คนส่วนฉินเซี่ยงเหิง เคยประกาศตนเป็นสหายที่ดีกับซ่งอี้อัน ได้ยินว่ามีครั้งหนึ่งฉินเซี่ยงเหิงร่ำสุราจนเมามายแล้วก่อเรื่อง เกือบถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต แต่โชคดีที่ซ่งอี้อันช่วยเอาไว้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนที่เขาไว้ใจที่สุดสองคนนี้ กลับลอบคบหากันลับหลังเขา ทั้งยังทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้สวีเฮ่ออันที่เฝ้าฟังเรื่องราวสุดฉาวระบือโลกเช่นนี้ จากเดิมที่เขาคิดว่าการที่ฉินเซี่ยงเหิงขโมยเรียงความไปก็ถือว่าน่าละอายพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าความจริงกลับยิ่งเลวร้ายกว่าที่คิด“ไม่ควรคิดเกินเลยต่อภรรยาของสหาย ฉินเซี่ยงเหิง การกระทำของเจ้าเลวทรามจนทำให้ผู้คนขยะแขยะนัก! เกียรติของสำนักศึกษาหลวงก็เสียหายเ
เมื่อเห็นฉินเซี่ยงเหิงพยายามดึงตัวจ้าวซูหว่านอีกครั้ง สวีเฮ่ออันกับอวิ๋นเฉิงเจ๋อจึงรีบก้าวเข้ามาขวางไว้ทันที“ฉินเซี่ยงเหิง เจ้าบอกเองว่าเจ้ากับคุณหนูจ้าวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แล้วเจ้าจะมีสิทธิ์อันใดมาจัดการแทน?” สวีเฮ่ออันเอ่ยถามขณะเดียวกัน อวิ๋นเนี่ยนชูก็ฉวยโอกาสยัดยาลูกกลอนใส่มือจ้าวซูหว่าน “รีบกินเถิด!”จ้าวซูหว่านรีบกลืนยาลงไป ซ่งรั่วเจินจับชีพจรของนางอย่างรวดเร็ว และพบว่ากรณีของนางเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จึงหยิบเข็มเงินออกมาและเริ่มลงมือรักษาทันทีซ่งอี้อันที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบ ๆ สั่งมั่วอวี่ให้ไปเชิญหมอมาในเมื่อจ้าวซูหว่านตั้งครรภ์ เรื่องนี้ก็จะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดในการยืนยันความสัมพันธ์ลับ ๆ ของพวกเขา!อวิ๋นเฉิงเจ๋อมองไปยังเฉียนเหว่ยและพรรคพวก ใบหน้าที่เย็นชาของเขาแสดงถึงความเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด “นี่หรือ สหายฉินที่พวกเจ้าชื่นชมกันว่าเป็นผู้มีปณิธานสูงส่ง มีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่?”ได้ยินคำเย้ยหยันของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ หากเป็นก่อนหน้านี้ เฉียนเหว่ยและพรรคพวกคงโต้กลับพร้อมกับเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอนทว่าในเวลานี้ ทุกคนกลับนิ่งเงียบราวกับกลายเป็นคนบื้อใบ้ ไ
จ้าวซูหว่านร่ำไห้อย่างเสียสติ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นก่อนหน้านี้นางเคยถามฉินเซี่ยงเหิงอยู่หลายครา หากความลับนี้ถูกเปิดเผยจะทำเช่นไรดี?เขาเอ่ยคำสาบานอย่างหนักแน่นว่าจะบอกให้ทุกคนรู้และแต่งนางเป็นภรรยา แต่พอมาถึงวันนี้แล้ว เขานั้นไม่เพียงไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่กลับสาดโคลนมาให้นางสตรีนางหนึ่งถูกทำให้ชื่อเสียงป่นปี้ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักนางไปสู่ความตาย!ฝูงชนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน“ฉินเซี่ยงเหิงช่างเลวทรามเกินให้อภัย รู้ดีว่านางเป็นคู่หมั้นของสหายแต่ยังจงใจหลอกล่อ เช่นนี้…คำสอนของนักปราชญ์ที่ร่ำเรียนมาช่างเสียเปล่าโดยแท้!”“คนต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้ จะเขียนบทความดี ๆ ได้อย่างไร? เกรงว่าบทความพวกนั้นก็คงขโมยมากระมัง?”“ข้าดูแล้ว จ้าวซูหว่านตั้งครรภ์จริง ๆ ฉินเซี่ยงเหิงยังกล้าพูดปดหน้าตาย รอให้เด็กคลอดออกมา ก็ทำการหยดเลือดพิสูจน์เสียสิ ดูว่าถึงตอนนั้นเขาจะกล้าเถียงอะไรอีก?”อวิ๋นเนี่ยนชูกวาดตามองเฉียนเหว่ยและคนอื่น ๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าไม่ใช่เคยเอ่ยปากชมฉินเซี่ยงเหิงว่าเป็นคนดีอยู่ร่ำไปหรือ? ข้าขอเตือนพวกเจ้าเสียหน่อย อย่าให้ถึงตอนที่ฮูหยินของตั
เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบกายล้วนเป็นไปในทางเดียวกัน“ฉินเซี่ยงเหิง เราสองคนเป็นสหายร่วมสำนักกันมาหลายปี แท้จริงแล้วข้าเคยทำสิ่งใดให้เจ้าขุ่นเคืองหรือ ถึงต้องทำเช่นนี้กับข้า?”ซ่งอี้อันหันหน้าไปทางที่ฉินเซี่ยงเหิงยืนอยู่ ใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความเจ็บปวดระคนไม่เข้าใจ“ข้าไม่ได้ทำ! พวกเจ้าไม่มีหลักฐานอันใด หรือพวกเจ้าบอกว่าเช่นไรก็เป็นเช่นนั้นหรือ?”“ข้าไม่มีความสัมพันธ์ใดกับจ้าวซูหว่าน และยิ่งไม่มีทางเป็นคนที่ทำร้ายเจ้า เจ้าคิดจะโยนความผิดมาให้ข้าหรือ ไม่มีทางเด็ดขาด!”ฉินเซี่ยงเหิงกัดฟันแน่นและไม่ยอมรับตราบใดที่พวกเขาหาหลักฐานไม่ได้ ลูกของจ้าวซูหว่านแท้งไป เขาก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังอาจพลิกกลับมาโจมตีให้ตระกูลซ่งต้องมาขอโทษเขาได้!ทว่าใบหน้าของซ่งอี้อันที่งดงามดุจหยกนั้นกลับไม่แสดงท่าทีหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับดูสงบนิ่งอย่างมาก“หากข้ามีหลักฐานเล่า?”ฉินเซี่ยงเหิงตกตะลึง “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”“วันนั้น ข้าได้ต่อสู้กับคนร้ายและบังเอิญเก็บเศษกระเบื้องที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมากรีดแขนของเขา บาดแผลลึกมาก คงทิ้งรอยแผลเป็นไว้อย่างแน่นอน”“ในเมื่อเจ้ายืนยันว่าตนเป็นผู
ฉินเซี่ยงเหิงเห็นว่าจ้าวซูหว่านถูกคนประคองไว้ได้ ทั้งดูจะไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอันใด ในใจก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังเขาทุ่มเทไปมากขนาดนี้ แต่กลับต้องมาพังพินาศเพราะน้ำมือสตรีผู้เดียว ต่อให้เขาสอบติดอันดับต้นๆ ในการสอบฤดูใบไม้ผลิ เรื่องนี้ก็ทำให้ชื่อเสียงเขาป่นปี้ไปหมดแล้ว!“ไม่ผิด ข้าเคยหลับนอนกับจ้าวซูหว่านจริงๆ แต่นางเป็นหญิงที่มีสัมพันธ์กับผู้ชายไม่เลือกหน้า ผู้ใดจะไปรู้ว่าเด็กในท้องนางเป็นลูกใครกันแน่?”“ท่านว่าอะไรนะ?”จ้าวซูหว่านสะบัดฝ่ามือออกไปด้วยความโมโห!ฉินเซี่ยงเหิงถูกตบไปหนึ่งฉาด แววตายิ่งแข็งกร้าวกว่าเดิม “หากเจ้าเป็นหญิงที่รักนวลสงวนตัว มีพันธะหมั้นหมายแล้วแท้ๆ ยังจะมาข้องแวะกับข้าอีกทำไม?“ตอนนี้พอเรื่องแดงออกมาก็โยนความรับผิดชอบมาให้ข้า ผู้หญิงคนอื่นไม่มีชายใดมาชมชอบหลังจากหมั้นหมายเลยเช่นนั้นหรือ? เหตุใดถึงมีแต่เจ้าที่คบชู้สู่ชายกันเล่า?”จ้าวซูหว่านโมโหจนทั้งร่างสั่นระริก สีหน้าที่เพิ่งจะมีเลือดฝาดค่อยๆ เผือดสีลงทีละนิด“เรื่องมาถึงขั้นนี้ ข้าจะบอกพวกท่านก็ได้ว่าทำไมอาภรณ์ข้าจึงไม่เรียบร้อยเช่นนี้? นั่นก็เพราะ...”“ฉินเซี่ยงเหิง ท่านหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”จ
สายตาของซ่งรั่วเจินกวาดไปทางสวีเฮ่ออันและอวิ๋นเฉิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ สหายของพี่รองล้วนมีชาติสกุลดี ฉินเซี่ยงเหิงไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุดในจำนวนนั้น เหตุใดจึงมีเขาคนเดียวที่ทำเรื่องแบบนี้?สองคนนี้เดิมทีก็เป็นหญิงร้ายชายเลวไม่มีใครดีสักคน วันนี้พอเรื่องถูกเปิดโปงกลับโยนความผิดให้จ้าวซูหว่านคนเดียว ช่างน่าขันนัก!คนอื่นไม่รู้ แต่นางกลับกระจ่างใจดีว่าฉินเซี่ยงเหิงเป็นคนเริ่มก่อน!แม้ว่าในนิยายสุดท้ายแล้วจ้าวซูหว่านจะได้แต่งให้ฉินเซี่ยงเหิง แต่ก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดีแต่ฉินซวงซวงเป็นนางเอกในนิยาย มีนางคอยคิดแผนการ เป็นคนทำให้ทั้งจวนหลินโหวและสกุลฉินได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงสามารถปิดบังเรื่องสกปรกของฉินเซี่ยงเหิงเอาไว้ได้ครั้นพวกสวีเฮ่ออันคนถูกซ่งรั่วเจินมองมาก็รีบก้าวออกมาแสดงท่าที“มีแต่คนหน้าหนาไร้ยางอายอย่างเจ้าถึงทำเรื่องผิดศีลธรรมพรรค์นี้ออกมาได้!”อวิ๋นเฉิงเจ๋อตวัดสายตาไปทางเฉียนเหว่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเจ้ายังยินดีเป็นสหายกับคนแบบฉินเซี่ยงเหิงอยู่อีกงั้นรึ?”พวกเฉียนเหว่ยเปลี่ยนท่าทีตั้งแต่เรื่องราวเปิดเผยออกมาแล้ว ถึงพวกเขาจะอิจฉาซ่งอี้อัน แต่ก็รังเกียจพฤติกรรมของฉินเซี่ยงเห