เมื่อเห็นฉินเซี่ยงเหิงพยายามดึงตัวจ้าวซูหว่านอีกครั้ง สวีเฮ่ออันกับอวิ๋นเฉิงเจ๋อจึงรีบก้าวเข้ามาขวางไว้ทันที“ฉินเซี่ยงเหิง เจ้าบอกเองว่าเจ้ากับคุณหนูจ้าวไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แล้วเจ้าจะมีสิทธิ์อันใดมาจัดการแทน?” สวีเฮ่ออันเอ่ยถามขณะเดียวกัน อวิ๋นเนี่ยนชูก็ฉวยโอกาสยัดยาลูกกลอนใส่มือจ้าวซูหว่าน “รีบกินเถิด!”จ้าวซูหว่านรีบกลืนยาลงไป ซ่งรั่วเจินจับชีพจรของนางอย่างรวดเร็ว และพบว่ากรณีของนางเป็นอันตรายอย่างยิ่ง จึงหยิบเข็มเงินออกมาและเริ่มลงมือรักษาทันทีซ่งอี้อันที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดเงียบ ๆ สั่งมั่วอวี่ให้ไปเชิญหมอมาในเมื่อจ้าวซูหว่านตั้งครรภ์ เรื่องนี้ก็จะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดในการยืนยันความสัมพันธ์ลับ ๆ ของพวกเขา!อวิ๋นเฉิงเจ๋อมองไปยังเฉียนเหว่ยและพรรคพวก ใบหน้าที่เย็นชาของเขาแสดงถึงความเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด “นี่หรือ สหายฉินที่พวกเจ้าชื่นชมกันว่าเป็นผู้มีปณิธานสูงส่ง มีความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่?”ได้ยินคำเย้ยหยันของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ หากเป็นก่อนหน้านี้ เฉียนเหว่ยและพรรคพวกคงโต้กลับพร้อมกับเหยียดหยามเขาอย่างแน่นอนทว่าในเวลานี้ ทุกคนกลับนิ่งเงียบราวกับกลายเป็นคนบื้อใบ้ ไ
จ้าวซูหว่านร่ำไห้อย่างเสียสติ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความเคียดแค้นก่อนหน้านี้นางเคยถามฉินเซี่ยงเหิงอยู่หลายครา หากความลับนี้ถูกเปิดเผยจะทำเช่นไรดี?เขาเอ่ยคำสาบานอย่างหนักแน่นว่าจะบอกให้ทุกคนรู้และแต่งนางเป็นภรรยา แต่พอมาถึงวันนี้แล้ว เขานั้นไม่เพียงไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่กลับสาดโคลนมาให้นางสตรีนางหนึ่งถูกทำให้ชื่อเสียงป่นปี้ นั่นไม่ต่างอะไรกับการผลักนางไปสู่ความตาย!ฝูงชนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน“ฉินเซี่ยงเหิงช่างเลวทรามเกินให้อภัย รู้ดีว่านางเป็นคู่หมั้นของสหายแต่ยังจงใจหลอกล่อ เช่นนี้…คำสอนของนักปราชญ์ที่ร่ำเรียนมาช่างเสียเปล่าโดยแท้!”“คนต่ำช้าไร้ยางอายเช่นนี้ จะเขียนบทความดี ๆ ได้อย่างไร? เกรงว่าบทความพวกนั้นก็คงขโมยมากระมัง?”“ข้าดูแล้ว จ้าวซูหว่านตั้งครรภ์จริง ๆ ฉินเซี่ยงเหิงยังกล้าพูดปดหน้าตาย รอให้เด็กคลอดออกมา ก็ทำการหยดเลือดพิสูจน์เสียสิ ดูว่าถึงตอนนั้นเขาจะกล้าเถียงอะไรอีก?”อวิ๋นเนี่ยนชูกวาดตามองเฉียนเหว่ยและคนอื่น ๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าไม่ใช่เคยเอ่ยปากชมฉินเซี่ยงเหิงว่าเป็นคนดีอยู่ร่ำไปหรือ? ข้าขอเตือนพวกเจ้าเสียหน่อย อย่าให้ถึงตอนที่ฮูหยินของตั
เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบกายล้วนเป็นไปในทางเดียวกัน“ฉินเซี่ยงเหิง เราสองคนเป็นสหายร่วมสำนักกันมาหลายปี แท้จริงแล้วข้าเคยทำสิ่งใดให้เจ้าขุ่นเคืองหรือ ถึงต้องทำเช่นนี้กับข้า?”ซ่งอี้อันหันหน้าไปทางที่ฉินเซี่ยงเหิงยืนอยู่ ใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความเจ็บปวดระคนไม่เข้าใจ“ข้าไม่ได้ทำ! พวกเจ้าไม่มีหลักฐานอันใด หรือพวกเจ้าบอกว่าเช่นไรก็เป็นเช่นนั้นหรือ?”“ข้าไม่มีความสัมพันธ์ใดกับจ้าวซูหว่าน และยิ่งไม่มีทางเป็นคนที่ทำร้ายเจ้า เจ้าคิดจะโยนความผิดมาให้ข้าหรือ ไม่มีทางเด็ดขาด!”ฉินเซี่ยงเหิงกัดฟันแน่นและไม่ยอมรับตราบใดที่พวกเขาหาหลักฐานไม่ได้ ลูกของจ้าวซูหว่านแท้งไป เขาก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งยังอาจพลิกกลับมาโจมตีให้ตระกูลซ่งต้องมาขอโทษเขาได้!ทว่าใบหน้าของซ่งอี้อันที่งดงามดุจหยกนั้นกลับไม่แสดงท่าทีหวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับดูสงบนิ่งอย่างมาก“หากข้ามีหลักฐานเล่า?”ฉินเซี่ยงเหิงตกตะลึง “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”“วันนั้น ข้าได้ต่อสู้กับคนร้ายและบังเอิญเก็บเศษกระเบื้องที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมากรีดแขนของเขา บาดแผลลึกมาก คงทิ้งรอยแผลเป็นไว้อย่างแน่นอน”“ในเมื่อเจ้ายืนยันว่าตนเป็นผู
ฉินเซี่ยงเหิงเห็นว่าจ้าวซูหว่านถูกคนประคองไว้ได้ ทั้งดูจะไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอันใด ในใจก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังเขาทุ่มเทไปมากขนาดนี้ แต่กลับต้องมาพังพินาศเพราะน้ำมือสตรีผู้เดียว ต่อให้เขาสอบติดอันดับต้นๆ ในการสอบฤดูใบไม้ผลิ เรื่องนี้ก็ทำให้ชื่อเสียงเขาป่นปี้ไปหมดแล้ว!“ไม่ผิด ข้าเคยหลับนอนกับจ้าวซูหว่านจริงๆ แต่นางเป็นหญิงที่มีสัมพันธ์กับผู้ชายไม่เลือกหน้า ผู้ใดจะไปรู้ว่าเด็กในท้องนางเป็นลูกใครกันแน่?”“ท่านว่าอะไรนะ?”จ้าวซูหว่านสะบัดฝ่ามือออกไปด้วยความโมโห!ฉินเซี่ยงเหิงถูกตบไปหนึ่งฉาด แววตายิ่งแข็งกร้าวกว่าเดิม “หากเจ้าเป็นหญิงที่รักนวลสงวนตัว มีพันธะหมั้นหมายแล้วแท้ๆ ยังจะมาข้องแวะกับข้าอีกทำไม?“ตอนนี้พอเรื่องแดงออกมาก็โยนความรับผิดชอบมาให้ข้า ผู้หญิงคนอื่นไม่มีชายใดมาชมชอบหลังจากหมั้นหมายเลยเช่นนั้นหรือ? เหตุใดถึงมีแต่เจ้าที่คบชู้สู่ชายกันเล่า?”จ้าวซูหว่านโมโหจนทั้งร่างสั่นระริก สีหน้าที่เพิ่งจะมีเลือดฝาดค่อยๆ เผือดสีลงทีละนิด“เรื่องมาถึงขั้นนี้ ข้าจะบอกพวกท่านก็ได้ว่าทำไมอาภรณ์ข้าจึงไม่เรียบร้อยเช่นนี้? นั่นก็เพราะ...”“ฉินเซี่ยงเหิง ท่านหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”จ
สายตาของซ่งรั่วเจินกวาดไปทางสวีเฮ่ออันและอวิ๋นเฉิงเจ๋อที่อยู่ข้างๆ สหายของพี่รองล้วนมีชาติสกุลดี ฉินเซี่ยงเหิงไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุดในจำนวนนั้น เหตุใดจึงมีเขาคนเดียวที่ทำเรื่องแบบนี้?สองคนนี้เดิมทีก็เป็นหญิงร้ายชายเลวไม่มีใครดีสักคน วันนี้พอเรื่องถูกเปิดโปงกลับโยนความผิดให้จ้าวซูหว่านคนเดียว ช่างน่าขันนัก!คนอื่นไม่รู้ แต่นางกลับกระจ่างใจดีว่าฉินเซี่ยงเหิงเป็นคนเริ่มก่อน!แม้ว่าในนิยายสุดท้ายแล้วจ้าวซูหว่านจะได้แต่งให้ฉินเซี่ยงเหิง แต่ก็ไม่ได้มีจุดจบที่ดีแต่ฉินซวงซวงเป็นนางเอกในนิยาย มีนางคอยคิดแผนการ เป็นคนทำให้ทั้งจวนหลินโหวและสกุลฉินได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงสามารถปิดบังเรื่องสกปรกของฉินเซี่ยงเหิงเอาไว้ได้ครั้นพวกสวีเฮ่ออันคนถูกซ่งรั่วเจินมองมาก็รีบก้าวออกมาแสดงท่าที“มีแต่คนหน้าหนาไร้ยางอายอย่างเจ้าถึงทำเรื่องผิดศีลธรรมพรรค์นี้ออกมาได้!”อวิ๋นเฉิงเจ๋อตวัดสายตาไปทางเฉียนเหว่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเจ้ายังยินดีเป็นสหายกับคนแบบฉินเซี่ยงเหิงอยู่อีกงั้นรึ?”พวกเฉียนเหว่ยเปลี่ยนท่าทีตั้งแต่เรื่องราวเปิดเผยออกมาแล้ว ถึงพวกเขาจะอิจฉาซ่งอี้อัน แต่ก็รังเกียจพฤติกรรมของฉินเซี่ยงเห
“คิดไม่ถึงว่าจะเกิดไฟไหม้บนเรือของพวกเขาจึงสามารถเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของสองคนนั้นได้อย่างราบรื่น ประเดี๋ยวพวกเราเรียกพี่ใหญ่กับน้องสามมาดื่มฉลองด้วยกันดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินหยักมุมปากขึ้นเล็กน้อย “พี่รอง เกรงว่าเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายดายปานนั้น...”“น้องหญิงห้า เจ้าหมายความว่า...อีกสักครู่คนสกุลฉินจะมาเยือนที่จวนหรือ?”หลังสงบลงแล้ว ซ่งอี้อันใคร่ครวญอย่างละเอียดก็ตระหนักถึงปัญหา“วันนี้เปิดโปงเรื่องงามหน้าของฉินเซี่ยงเหิงกับจ้าวซูหว่าน สกุลจ้าวคงไม่มากเรื่องนัก แต่ฉินเซี่ยงเหิงเป็นสหายร่วมสำนักกับท่าน เป็นอดีตสหายสนิท เขาทำร้ายท่านจนตาบอดสองข้าง นี่คืออาชญากรรม!”“พี่รอง ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าวันนั้นหลังเกิดเรื่องขึ้นกับท่าน ท่านแม่ไปแจ้งความกับทางการไว้ว่าอันธพาลลอบทำร้ายจนท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส”“ยามนี้พบตัวผู้ร้ายแล้ว ทางการจะต้องมอบคำอธิบายให้พี่รองแน่นอน แต่ใกล้จะถึงการสอบฤดูใบไม้ผลิแล้ว สกุลฉินจะยอมปล่อยให้ฉินเซี่ยงเหิงพลาดโอกาสสอบรับราชการเพราะเรื่องนี้งั้นหรือ?”ประกายแห่งสติปัญญาสะท้อนอยู่ในดวงตาของซ่งรั่วเจิน หากพลาดการสอบฤดูใบไม้ผลิครานี้ไปก็ต้องรอถึงสามปีฉินเซี
ฉินเจิงเดือดดาลอยู่เป็นทุนเดิม ครั้นได้ยินวาจาของบุตรชายทั้งสองก็ยกเท้าเตะไปทางฉินเซี่ยงเหิง“เจ้าลูกสารเลว ทำไมข้าถึงมีลูกทรพีแบบเจ้าได้!”ฉินเซี่ยงเหิงถูกเตะล้มโดยไม่ทันตั้งตัว ร้องเสียงต่ำด้วยความเจ็บปวด ถึงกับกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง“เหิงเอ๋อร์!” กู้อวิ๋นเวยหน้าเปลี่ยนสี รีบเข้ามาประคองฉินเซี่ยงเหิง ถามอย่างร้อนใจว่า “เจ้าไม่เป็นไรนะ? รีบไปเชิญหมอมาเร็วเข้า!”“ตามหมอมาตามทำไม? เจ้าลูกน่าขายหน้าพรรค์นี้ ปล่อยให้ตายไปทั้งอย่างนี้แหละ!”ฉินเจิงตวาดเสียงเกรี้ยว ในดวงตามีเพียงความเดือดดาล เพียงนึกถึงว่าจะต้องถูกเพื่อนร่วมงานเยาะเย้ยถากถางในท้องพระโรงวันพรุ่งนี้ เขาก็แค้นใจจนอยากตัดขาดสัมพันธ์พ่อลูกเสียให้ได้!“ท่านแม่ทัพ เรื่องนี้เหิงเอ๋อร์ทำไม่ถูกจริงๆ ท่านใจเย็นลงก่อน”กู้อวิ๋นเวยรีบร้อนเอ่ยปาก ตวัดสายตาไปทางคนสองคนที่จงใจกระพือไฟ ในใจมีความโกรธที่พูดออกมาไม่ได้ ทำได้เพียงอดทนอดกลั้นเอาไว้อย่างเต็มกำลังนางเป็นภรรยาที่มาทีหลัง ถึงจะไม่ชอบบุตรชายที่อดีตภรรยาเอกให้กำเนิด แต่ก็ไม่อาจได้ชื่อว่าปฏิบัติต่อลูกๆ อย่างโหดร้าย ดังนั้นจะไม่พอใจอย่างไรก็ไม่สามารถเอ่ยปากตำหนิ“ท่านแม่ทัพ
สุดท้ายจ้าวซูหว่านก็ตายไปในฤดูหนาวคราวนั้นสำหรับฉินซวงซวง จ้าวซูหว่านเป็นเพียงสตรีที่ไม่สลักสำคัญคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจผู้ใดจะคาดคิดว่าวันนี้เรื่องราวจะลุกลามบานปลายเช่นนี้ ถึงกับถูกเปิดโปงออกมา เหตุใดเหตุการณ์ต่างๆ จึงแตกต่างจากชาติก่อนมากขนาดนี้?พอฉินซวงซวงมาถึงก็รีบถามว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้ จะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิด[1]ที่จวนสกุลซ่งโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ!”“แบกกิ่งหนามยอมรับความผิด? สกุลฉินของพวกเรายอมขายหน้าเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะ!”ฉินเจิงมีสีหน้าบึ้งตึงที่ผ่านมา ซ่งหลินกดหัวเขาไว้มาโดยตลอด ยามนี้ในที่สุดซ่งหลินก็ตายไปในสนามรบได้เสียที สกุลซ่งปราศจากผู้นำ พวกเขายังจะต้องไปแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดต่อสกุลซ่งอีก จะมิกลายเป็นเรื่องน่าขำไปหรอกรึ?“อนาคตของท่านพี่จะรอช้าไม่ได้ ตอนนี้มีแต่ต้องแบกกิ่งหนามยอมรับความผิดและได้รับการให้อภัยจากสกุลซ่ง จะให้เรื่องไปถึงทางการไม่ได้เด็ดขาดเจ้าค่ะ!”ฉินซวงซวงมีสีหน้าจริงจัง นี่เป็นวิธีคลี่คลายเพียงวิธีเดียวที่นางคิดออกในตอนนี้แม้เรื่องนี้พูดขึ้นมาแล้วอาจไม่น่าฟัง แต่ก็ไม่ได้ละเมิดกฎระเบียบของราชสำนัก