แชร์

บทที่ 809

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“พี่สาม พวกเราไปเถอะ”

ซ่งรั่วเจินแย้มยิ้มราวกับว่าหมอกภายในดวงตาสลายไปแล้ว นางลากซ่งจืออวี้ เรียกเขาให้จากไปพร้อมกัน

เดิมทีก็มาลอบฟัง ฉู่จวินถิงและบิดาล้วนมีวิชายุทธ์ยอดเยี่ยม หากยังไม่ไป อีกเดี๋ยวจะต้องถูกจับได้แน่

ซ่งจืออวี้ถูกลากจากไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย จนกระทั่งออกห่างแล้วถึงไม่อาจอดกลั้นไหวอีกต่อไป

“น้องหญิงห้า เจ้าพูดเถอะ ท่านอ๋องพูดจริงหรือ? ต่อให้สาบานก็ไม่จำเป็นร้ายแรงถึงเพียงนี้กระมัง?”

“ข้าเข้าวังรับราชการมาระยะหนึ่งแล้ว ได้ยินข่าวไม่น้อย ฉู่อ๋องเป็นผู้มีอนาคตที่สุดในบรรดาองค์ชายเชียวนะ!”

ซ่งรั่วเจิน “...”

“น้องหญิงห้า เจ้าเคยคิดหรือไม่หากแต่งกับฉู่อ๋องแล้ว วันหนึ่งได้กลายเป็นฮองเฮา นั่นยอดเยี่ยมมากนัก!” ซ่งจืออวี้ยิ้มแย้ม นั่นคืออยู่เหนือคนนับหมื่นอยู่ใต้เพียงคนเดียว!

“มีอะไรดีกัน?” ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเฉยเมย “ท่านชอบฮองเฮามากหรือ?”

ซ่งจืออวี้ส่ายหน้า “ข้าย่อมไม่ชอบฮองเฮา แต่หากภายภาคหน้าเจ้าเป็น นั่นข้าก็ชอบแล้ว!”

“ท่านช่างเป็นพี่ชายของข้าโดยแท้!”

ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา มองท่าทางของพี่สามก็รู้ได้ว่าปกติเขาไม่มีเรื่องใดให้รำคาญใจ คิดง่ายมาก หนำซ้ำยังมีความสุขมาก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
ฟินฟิน อ่านไปยิ้มไป
goodnovel comment avatar
patty
โอ้ย นึกว่าตัวเองเป็นรั่วเจิน…บ้า..อย่าเข้ามาใกล้นะ
goodnovel comment avatar
Gatapan
ฉู่อ๋องก็มีมุมหวานๆด้วย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 810

    “ท่านดื่มมากไปแล้ว หม่อมฉันประคองท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงเลยว่าฉู่จวินถิงเมาเหล้าแล้วจะกลายเป็นเช่นนี้ พูดถ้อยคำที่นางฟังไม่เข้าใจ กลับเห็นได้ชัดว่าเชื่อฟังเป็นพิเศษดวงตาคมกริบคู่นั้น ปกติเจือแรงกดดันอย่างมาก ทว่าบัดนี้หางตากลับตกลงเล็กน้อย ลดความดุดันและคมกริบลง เปี่ยมแสงทอประกายระยับดุจดวงดารา คล้ายดวงตาของลูกสุนัขก็มิปาน ทันใดนั้นนางคิดว่าเขาที่เป็นเช่นนี้น่ารักเป็นพิเศษทำให้คนอยากลูบศีรษะปลอบโยนเขาอย่างอดไม่ได้ “ข้าไม่เมา” ฉู่จวินถิงเสียงแข็งขึ้นมา“ได้ๆๆ ท่านไม่เมา” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบเสียงนุ่มนวลนางย่อมรู้ว่าคนเมาชอบพูดว่าไม่เมา หากเอาจริงเอาจังกับเขา นั่นก็คือโง่เขลาขณะนางกำลังดึงแขนฉู่จวินสิงเตรียมประคองคนกลับไปอยู่นั้น กลับถูกฝ่ายชายดึงเข้าอ้อมกอดอย่างกะทันหันกลิ่นอายเย็นสบายบนตัวของฝ่ายชายเจือกลิ่นสุราอ่อนๆ โอบล้อมซ่งรั่วเจินไว้ อากาศเย็นเล็กน้อย อ้อมกอดของเขากลับอบอุ่นอย่างมากเท้าซ่งรั่วเจินยืนได้ไม่มั่นคง ครู่ต่อมาพิงประตู ฝ่ายชายปกป้องศีรษะของนางเอาไว้ กลับไม่มีความคิดปล่อยนางไป“ข้าอยากกอดเจ้า แค่ครู่เดียว ได้หรือไม่?”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 811

    ซ่งจิ่งเซินปล่อยข่าวออกไปในทันที เพราะเดินทางทางน้ำจึงว่องไวอย่างมาก เขาไปถึงคูเมืองอื่นแล้วกลับไม่พูดอะไร ทำเพียงสั่งให้คนไปซื้อเสบียงอาหารจำนวนมาก แม้แต่ผู้อยู่ใต้อาณัติเองก็สั่งให้ปิดปากเงียบไว้ ไม่ให้แย้มพรายเรื่องใดชื่อของสกุลซ่งในเมืองหลวง พ่อค้าทุกพื้นที่ล้วนเคยได้ยินมาก่อน อย่างไรเสียก็เป็นพ่อค้าอันดับต้นของเมืองหลวง เข้าร่วมทำการค้าเกือบทุกพื้นที่คนฉลาดที่เคยทำการค้าร่วมกับสกุลซ่งเมื่อหลายปีก่อนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำบัดนี้ได้เห็นสกุลซ่งเริ่มซื้อเสบียงชุดใหญ่ ต่อมาจึงนึกถึงอุทกภัยเมืองผิงหยางขึ้นได้“ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าสกุลซ่งใจดีมีเมตตามาโดยตลอด เผชิญหน้ากับความอดอยากก็แจกโจ๊ก ทว่าครั้งนี้คุณชายสี่ของสกุลซ่งถึงขั้นมาซื้อข้าวและบะหมี่ที่เมืองผิงหยางด้วยตนเอง นี่เตรียมตั้งโรงทานแจกโจ๊กหรือ? ทุ่มเทแรงกายแรงใจเกินไปแล้วกระมัง?”“ไม่รู้สิ ในอดีตไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ข้ายังลอบไปถามมาอีกด้วย แต่คนของสกุลซ่งกลับปิดปากเงียบ ไม่ได้ยินข่าวอันใดเลยแม้แต่น้อย!”“ข้ารู้เพียงว่าบัดนี้ราคาเสบียงอาหารเมืองผิงหยางสูงกว่าคูเมืองอื่นมากหลายเท่า พวกเจ้าว่าสกุลซ่งจะฉวยโอกาสนี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 812

    ไอ้คนชั่ว!“ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดอะไร?”ซ่งรั่วเจินมองซ่งหลินอย่างสงสัย เหตุใดพูดสิ่งที่นางไม่เข้าใจตั้งแต่เช้าเล่า?“ข้าพูดอะไร? เจ้าเป็นแม่นางในห้องหอยังไม่ออกเรือน ออกจากห้องของผู้ชายตั้งแต่เช้า หากเล่าลือออกไปชื่อเสียงของเจ้าเสียหายจะทำเยี่ยงไร?”ซ่งหลินหันมองทั่วสารทิศ ดึงซ่งรั่วเจินไปทางด้านข้างอย่างระมัดระวัง กลัวถูกผู้อื่นพบเข้าซ่งรั่วเจินนี่ถึงเข้าใจ รีบอธิบาย “เมื่อวานท่านอ๋องดื่มสุราจนเมา ข้าเห็นอวิ๋นหยางประคองเขาอย่างยากลำบาก จึงเสนอให้ท่านอ๋องสลับห้องนอน”“เมื่อคืนห้องนี้มีข้าเพียงคนเดียว ไป๋จื่อและชิงเถิงเองก็เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเจ้าค่ะ”“จริงหรือ?”ซ่งหลินหันมองภายในแวบหนึ่ง ได้เห็นไป๋จื่อและชิงเถิงไม่ผิดไปดังคาด ตรงข้ามกันคนของฉู่อ๋องมิได้อยู่ที่นี่ นี่ถึงพรูลมหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง“เจินเอ๋อร์ ผู้ชายล้วนไม่ใช่คนดี เจ้าอย่าถูกเอาเปรียบเป็นอันขาด!”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ นี่คือบิดานางร้อนใจจนด่าเหมารวมตนเองเข้าไปด้วยแล้ว!ฉู่จวินถิงตื่นเช้ามาก็หันมองห้องของคนแปลกหน้าเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลาเผยแววตกตะลึง แต่หลังจากจำได้ว่านี่คือห้องของรั่วเจิน เขาก็กุมหน้าผาก ควา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 813

    หลังผ่านการเมาครั้งนี้ ซ่งรั่วเจินได้เห็นอีกด้านของฉู่จวินถิง ระยะห่างที่กั้นกลางระหว่างทั้งคู่คล้ายถูกทำให้มลายหายไป ใกล้ชิดกันมากขึ้นไม่น้อยหลายครั้งทั้งๆ ที่ไม่ได้พูดอะไร แต่ขอเพียงได้สบสายตากับอีกฝ่าย ภายในใจก็เกิดความรู้สึกหวานล้ำขึ้นมาพวกซ่งหลินมองออก หรือพูดให้ถูกคือไม่อาจเมินข้ามไปได้ต่อให้เพียงแต่กินข้าว สายตาของฉู่อ๋องก็มักตกลงบนตัวซ่งรั่วเจินอยู่บ่อยครั้ง หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายคีบอาหารให้นางเพราะซ่งรั่วเจินรังเกียจความยุ่งยากจึงไม่ชอบกินปลา ฉู่อ๋องถึงขั้นเอาก้างปลาออกแล้วคีบใส่ชามของนาง ทว่ายามอยู่ต่อหน้าทุกคน เขายังปั้นหน้าเคร่งขรึมดังเดิม ท่าทางคล้ายไม่เป็นไรนี่ช่างขัดแย้งกันโดนแท้!จากนั้นทางการเริ่มแจกโจ๊ก ทุกวันสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยดีขึ้นมาก กอปรกับเงินบรรเทาภัยพิบัติที่ราชสำนักนำมา ฉู่จวินถิงให้นายอำเภอสร้างที่พักสำหรับพักผ่อนบางส่วนในเวลาเดียวกันบันทึกสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยไว้ในรายงาน หลังจากสถานการณ์ของเมืองผิงหยางดีขึ้นแล้ว ก็สามารถเลือกตามสถานการณ์ได้ว่าจะไปหรืออยู่ต่อคาดว่าราษฎรส่วนใหญ่ล้วนอยากกลับบ้านเกิด“ความคืบหน้าของเมืองไห่เทียนช่วงสองวันนี้มอบให้พ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 814

    “ขอเพียงมีความหวัง ก็สามารถลองดูได้”พูดไป จ้าวชิงหยวนเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว รีบพูด “แม่นางซ่ง รบกวนเจ้าช่วยดูหน่อยเถอะ เขาอาการหนักเกินไปจริงๆ”ซ่งรั่วเจินมองนายอำเภอโจวแวบหนึ่ง ผอมจนไม่คล้ายคน แต่มองผ่านหน้าตากลับมองออกได้อย่างง่ายดายว่านี่คือคนดีคนหนึ่ง“แม่นางซ่ง ยังมีหนทางช่วยท่านลุงโจวหรือไม่?” จ้าวผิงอันเอ่ยปากอย่างกังวลเขาเคยทรมานเพราะไอมรณะรุมเร้ามาก่อน นั่นคือความทรมานจนอยากตาย ชนิดที่ว่าถึงช่วงสุดท้าย ตนเองล้วนอยากตาย ท่านลุงโจวอดทนมาถึงตอนนี้ได้จะต้องลำบากมากแน่“มีข้าอยู่ ไฉนเลยจะตายง่ายถึงเพียงนั้น?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก เนตรขนงกลับจริงจัง ยื่นมือออกไปวนรอบตัวนายอำเภอโจวเพื่อเก็บไอมรณะนายอำเภอโจวรู้สึกเพียงความเย็นยะเยือกที่รุมเร้าเขามาโดยตลอดหายไปอย่างฉับพลัน ความเย็นแทงลึกถึงกระดูกนั้นแทรกซึมทุกอณูรูขุมขน ต่อให้ตากแดดอย่างไรก็ไม่รับรู้ถึงความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อยบัดนี้ ความรู้สึกเย็นยะเยือกหายไปแล้ว ต่อให้ไม่อบอุ่น แต่ก็ไม่รู้สึกเย็น“ร่างกายท่านต้องรักษาดีๆ สักระยะหนึ่ง ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว แต่อย่างไรเสียก็เคยถูกไอมรณะรุมเร้ามาเป็นเวลานาน อ่อนแออย่างมาก พยา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 815

    “เช่นนั้นบัดนี้ผู้ใดดูแลเมืองผิงหยางหรือเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้สกุลหลิงตั้งตนเป็นใหญ่ครอบครองอำนาจของเมืองผิงหยาง นายอำเภอจะต้องเป็นคนของสกุลหลิงแน่บัดนี้สกุลหลิงไปเมืองหลวงแล้ว หลิงเหวินเทาที่ทิ้งไว้เองก็ตายไปแล้ว กอปรกับนายอำเภอเองก็ถูกฆ่า เมืองผิงหยางมิใช่อยู่ในสถานการณ์ไร้ผู้ปกครองหรอกหรือ?“นายอำเภอตายไปแล้ว โจวหลี่รับช่วงต่องานของเขาชั่วคราว คนผู้นี้เป็นคนมีมโนสำนึกคนหนึ่ง พวกเรารู้จักเขามานานหลายปี จะต้องไม่ขูดเลือดขูดเนื้อราษฎรเหมือนนายอำเภอหยางแน่”สายตาซ่งหลินเย็นลง เดิมทีวางแผนว่าต่อให้รังเกียจนายอำเภอคนนี้เยี่ยงไร ก็จะไม่ฆ่าเขาในตอนนี้ ทำให้เกิดความโกลาหลภายในเมืองผิงหยางเพียงแต่คนผู้นั้นน่ารังเกียจเกินไป ต่อให้เก็บไว้ก็จะฉวยโอกาสขูดรีดราษฎร มิสู้ฆ่าให้ตายไปเสียเลย!ขบวนคนมาถึงทางการอย่างว่องไว“แม่ทัพซ่ง?”ยามผู้แทนนายอำเภอได้เห็นซ่งหลิน ภายในสายตาเปี่ยมความประหลาดใจ แต่ต่อมาก็กลายเป็นดีใจ“ท่านยังมีชีวิตอยู่ช่างดีเหลือเกิน!”“โจวหลี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกันอีกครั้งในเวลาเช่นนี้” สีหน้าซ่งหลินอ่อนโยน “บัดนี้สถานการณ์เมืองผิงหยางเป็น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 816

    โจวหลี่เผยสีหน้าเศร้าหมอง ในช่วงนี้เขาทำหมดทุกทางแล้ว อับจนหนทางอย่างแท้จริง“ตอนพวกเรามาก็นำเสบียงอาหารมาด้วย สามารถใช้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินก่อนได้” ซ่งหลินพูด“นั่นดีมากเหลือเกิน!” โจวหลี่เผยสีหน้าดีใจจากนั้น ชั่วขณะเขากำลังจะเร่งตามซ่งหลินไปดูเสบียงอาหาร กลับเกือบล้มหมดสติไปหร่วนเฉิงประคองเขาไว้ พูดว่า “ท่านไม่เป็นไรกระมัง? ข้าเห็นท่านสีหน้าขาวซีด เทียบกับก่อนหน้านี้ยามได้พบกันแล้วท่านผอมลงไม่น้อย คาดว่าตัวท่านเองก็หิวกระมัง!”“ข้าไม่เป็นไร” โจวหลี่โบกมือ “ทำให้พวกเจ้าเห็นเรื่องน่าขันแล้ว”“ตอนนี้ยกเรื่องนี้ให้พวกเราเถอะ ท่านไปกินอะไรสักหน่อย พักผ่อนดีๆ” ฉีอู่เอ่ยพวกบัณฑิตเหล่านี้แต่ละคนล้วนอ่อนแอไม่อาจต้องลม นายอำเภอของเมืองไห่เทียนก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนี้ บัดนี้โจวหลี่เองก็เป็นเช่นนี้ เขาเห็นแล้วไม่คุ้นชิน“ท่านอ๋องและราชครูกู้ใกล้จะมาถึงแล้ว อีกไม่นานเรื่องนี้ก็จะได้รับการแก้ไข เจ้าไปพักผ่อนอย่างสบายใจก่อนเถอะ”“เจินเอ๋อร์ เจ้านั่งเรือมาเหนื่อยเช่นเดียวกัน ข้าให้คนไปเก็บกวาดห้องไว้แล้ว เจ้าไปพักผ่อนก่อน ข้าจะไปจัดการเรื่องแจกโจ๊ก” ซ่งหลินเอ่ยสีหน้าซ่งรั่วเจินสะท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 817

    “ไอ้พวกชั่วเหล่านี้ ข้าเห็นแล้วอยากฆ่าพวกเขาให้ตายไปเสียเดี๋ยวนี้เลย แต่ละคนล้วนต้องถูกสวรรค์ลงโทษ!”“ข้าไม่อาจกลืนแค้นนี้ลงไปได้อย่างแท้จริง ราษฎรแต่ละคนล้วนหิวโหย พวกเขาโก่งราคาเสบียงอาหารก็ช่างเถอะ ถึงขั้นยังเหยียดหยามพวกเขา ช่างพูดเหลือเกิน!”ในที่ห่างออกไป เสียงโกรธเกรี้ยวของฉีอู่และหร่วนเฉิงดังออกมาก่อนหน้านี้ทั้งสองคนออกไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ บัดนี้ทั้งคู่โมโหหน้าแดงไปถึงคอ โกรธเกรี้ยวอย่างมาก!ซ่งรั่วเจินได้ยินเสียงก็เดินออกไป เอ่ยถามหนึ่งรอบถึงรู้ว่าตอนพวกเขานำเสบียงอาหารไปส่งได้เผชิญหน้ากับฉากพ่อค้าผู้มั่งคั่งของเมืองผิงหยางกำลังรังแกคนเห็นว่าราษฎรใกล้หิวตายแล้ว ขอร้องพวกเขาสามารถมอบอาหารให้สักมื้อได้หรือไม่ สรุปคือยังไม่ต้องพูดว่าคนผู้นั้นโยนหมั่นโถวลงพื้น ยังกระทืบแรงๆ อีกสองที สุดท้ายถึงยอมให้อีกฝ่ายเอาไปกินนี่เห็นได้ชัดว่ากำลังเหยียดหยามคน!ฉีอู่ได้เห็นแล้วก็เข้าไปต่อยตีคนหนึ่งยก หากไม่ใช่เพราะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายกลัวทำให้ราษฎรตื่นตระหนกตกใจ นี่คงฆ่าคนไปแล้ว!“เช่นนั้นท่านพ่อข้าเล่า?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ฉีอู่และหร่วนเฉิงล้วนโมโหจนกลายเป็นเช่นนี้

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 981  

    ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”    นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์    “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”    เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา    “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”    แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?    นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่    หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 980

    นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 979

    “ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 978

    “เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status