Share

บทที่ 809

Author: จี้เวยเวย
“พี่สาม พวกเราไปเถอะ”

ซ่งรั่วเจินแย้มยิ้มราวกับว่าหมอกภายในดวงตาสลายไปแล้ว นางลากซ่งจืออวี้ เรียกเขาให้จากไปพร้อมกัน

เดิมทีก็มาลอบฟัง ฉู่จวินถิงและบิดาล้วนมีวิชายุทธ์ยอดเยี่ยม หากยังไม่ไป อีกเดี๋ยวจะต้องถูกจับได้แน่

ซ่งจืออวี้ถูกลากจากไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย จนกระทั่งออกห่างแล้วถึงไม่อาจอดกลั้นไหวอีกต่อไป

“น้องหญิงห้า เจ้าพูดเถอะ ท่านอ๋องพูดจริงหรือ? ต่อให้สาบานก็ไม่จำเป็นร้ายแรงถึงเพียงนี้กระมัง?”

“ข้าเข้าวังรับราชการมาระยะหนึ่งแล้ว ได้ยินข่าวไม่น้อย ฉู่อ๋องเป็นผู้มีอนาคตที่สุดในบรรดาองค์ชายเชียวนะ!”

ซ่งรั่วเจิน “...”

“น้องหญิงห้า เจ้าเคยคิดหรือไม่หากแต่งกับฉู่อ๋องแล้ว วันหนึ่งได้กลายเป็นฮองเฮา นั่นยอดเยี่ยมมากนัก!” ซ่งจืออวี้ยิ้มแย้ม นั่นคืออยู่เหนือคนนับหมื่นอยู่ใต้เพียงคนเดียว!

“มีอะไรดีกัน?” ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเฉยเมย “ท่านชอบฮองเฮามากหรือ?”

ซ่งจืออวี้ส่ายหน้า “ข้าย่อมไม่ชอบฮองเฮา แต่หากภายภาคหน้าเจ้าเป็น นั่นข้าก็ชอบแล้ว!”

“ท่านช่างเป็นพี่ชายของข้าโดยแท้!”

ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา มองท่าทางของพี่สามก็รู้ได้ว่าปกติเขาไม่มีเรื่องใดให้รำคาญใจ คิดง่ายมาก หนำซ้ำยังมีความสุขมาก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 810

    “ท่านดื่มมากไปแล้ว หม่อมฉันประคองท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงเลยว่าฉู่จวินถิงเมาเหล้าแล้วจะกลายเป็นเช่นนี้ พูดถ้อยคำที่นางฟังไม่เข้าใจ กลับเห็นได้ชัดว่าเชื่อฟังเป็นพิเศษดวงตาคมกริบคู่นั้น ปกติเจือแรงกดดันอย่างมาก ทว่าบัดนี้หางตากลับตกลงเล็กน้อย ลดความดุดันและคมกริบลง เปี่ยมแสงทอประกายระยับดุจดวงดารา คล้ายดวงตาของลูกสุนัขก็มิปาน ทันใดนั้นนางคิดว่าเขาที่เป็นเช่นนี้น่ารักเป็นพิเศษทำให้คนอยากลูบศีรษะปลอบโยนเขาอย่างอดไม่ได้ “ข้าไม่เมา” ฉู่จวินถิงเสียงแข็งขึ้นมา“ได้ๆๆ ท่านไม่เมา” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบเสียงนุ่มนวลนางย่อมรู้ว่าคนเมาชอบพูดว่าไม่เมา หากเอาจริงเอาจังกับเขา นั่นก็คือโง่เขลาขณะนางกำลังดึงแขนฉู่จวินสิงเตรียมประคองคนกลับไปอยู่นั้น กลับถูกฝ่ายชายดึงเข้าอ้อมกอดอย่างกะทันหันกลิ่นอายเย็นสบายบนตัวของฝ่ายชายเจือกลิ่นสุราอ่อนๆ โอบล้อมซ่งรั่วเจินไว้ อากาศเย็นเล็กน้อย อ้อมกอดของเขากลับอบอุ่นอย่างมากเท้าซ่งรั่วเจินยืนได้ไม่มั่นคง ครู่ต่อมาพิงประตู ฝ่ายชายปกป้องศีรษะของนางเอาไว้ กลับไม่มีความคิดปล่อยนางไป“ข้าอยากกอดเจ้า แค่ครู่เดียว ได้หรือไม่?”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 811

    ซ่งจิ่งเซินปล่อยข่าวออกไปในทันที เพราะเดินทางทางน้ำจึงว่องไวอย่างมาก เขาไปถึงคูเมืองอื่นแล้วกลับไม่พูดอะไร ทำเพียงสั่งให้คนไปซื้อเสบียงอาหารจำนวนมาก แม้แต่ผู้อยู่ใต้อาณัติเองก็สั่งให้ปิดปากเงียบไว้ ไม่ให้แย้มพรายเรื่องใดชื่อของสกุลซ่งในเมืองหลวง พ่อค้าทุกพื้นที่ล้วนเคยได้ยินมาก่อน อย่างไรเสียก็เป็นพ่อค้าอันดับต้นของเมืองหลวง เข้าร่วมทำการค้าเกือบทุกพื้นที่คนฉลาดที่เคยทำการค้าร่วมกับสกุลซ่งเมื่อหลายปีก่อนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำบัดนี้ได้เห็นสกุลซ่งเริ่มซื้อเสบียงชุดใหญ่ ต่อมาจึงนึกถึงอุทกภัยเมืองผิงหยางขึ้นได้“ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าสกุลซ่งใจดีมีเมตตามาโดยตลอด เผชิญหน้ากับความอดอยากก็แจกโจ๊ก ทว่าครั้งนี้คุณชายสี่ของสกุลซ่งถึงขั้นมาซื้อข้าวและบะหมี่ที่เมืองผิงหยางด้วยตนเอง นี่เตรียมตั้งโรงทานแจกโจ๊กหรือ? ทุ่มเทแรงกายแรงใจเกินไปแล้วกระมัง?”“ไม่รู้สิ ในอดีตไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ข้ายังลอบไปถามมาอีกด้วย แต่คนของสกุลซ่งกลับปิดปากเงียบ ไม่ได้ยินข่าวอันใดเลยแม้แต่น้อย!”“ข้ารู้เพียงว่าบัดนี้ราคาเสบียงอาหารเมืองผิงหยางสูงกว่าคูเมืองอื่นมากหลายเท่า พวกเจ้าว่าสกุลซ่งจะฉวยโอกาสนี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 812

    ไอ้คนชั่ว!“ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดอะไร?”ซ่งรั่วเจินมองซ่งหลินอย่างสงสัย เหตุใดพูดสิ่งที่นางไม่เข้าใจตั้งแต่เช้าเล่า?“ข้าพูดอะไร? เจ้าเป็นแม่นางในห้องหอยังไม่ออกเรือน ออกจากห้องของผู้ชายตั้งแต่เช้า หากเล่าลือออกไปชื่อเสียงของเจ้าเสียหายจะทำเยี่ยงไร?”ซ่งหลินหันมองทั่วสารทิศ ดึงซ่งรั่วเจินไปทางด้านข้างอย่างระมัดระวัง กลัวถูกผู้อื่นพบเข้าซ่งรั่วเจินนี่ถึงเข้าใจ รีบอธิบาย “เมื่อวานท่านอ๋องดื่มสุราจนเมา ข้าเห็นอวิ๋นหยางประคองเขาอย่างยากลำบาก จึงเสนอให้ท่านอ๋องสลับห้องนอน”“เมื่อคืนห้องนี้มีข้าเพียงคนเดียว ไป๋จื่อและชิงเถิงเองก็เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเจ้าค่ะ”“จริงหรือ?”ซ่งหลินหันมองภายในแวบหนึ่ง ได้เห็นไป๋จื่อและชิงเถิงไม่ผิดไปดังคาด ตรงข้ามกันคนของฉู่อ๋องมิได้อยู่ที่นี่ นี่ถึงพรูลมหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง“เจินเอ๋อร์ ผู้ชายล้วนไม่ใช่คนดี เจ้าอย่าถูกเอาเปรียบเป็นอันขาด!”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ นี่คือบิดานางร้อนใจจนด่าเหมารวมตนเองเข้าไปด้วยแล้ว!ฉู่จวินถิงตื่นเช้ามาก็หันมองห้องของคนแปลกหน้าเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลาเผยแววตกตะลึง แต่หลังจากจำได้ว่านี่คือห้องของรั่วเจิน เขาก็กุมหน้าผาก ควา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 813

    หลังผ่านการเมาครั้งนี้ ซ่งรั่วเจินได้เห็นอีกด้านของฉู่จวินถิง ระยะห่างที่กั้นกลางระหว่างทั้งคู่คล้ายถูกทำให้มลายหายไป ใกล้ชิดกันมากขึ้นไม่น้อยหลายครั้งทั้งๆ ที่ไม่ได้พูดอะไร แต่ขอเพียงได้สบสายตากับอีกฝ่าย ภายในใจก็เกิดความรู้สึกหวานล้ำขึ้นมาพวกซ่งหลินมองออก หรือพูดให้ถูกคือไม่อาจเมินข้ามไปได้ต่อให้เพียงแต่กินข้าว สายตาของฉู่อ๋องก็มักตกลงบนตัวซ่งรั่วเจินอยู่บ่อยครั้ง หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายคีบอาหารให้นางเพราะซ่งรั่วเจินรังเกียจความยุ่งยากจึงไม่ชอบกินปลา ฉู่อ๋องถึงขั้นเอาก้างปลาออกแล้วคีบใส่ชามของนาง ทว่ายามอยู่ต่อหน้าทุกคน เขายังปั้นหน้าเคร่งขรึมดังเดิม ท่าทางคล้ายไม่เป็นไรนี่ช่างขัดแย้งกันโดนแท้!จากนั้นทางการเริ่มแจกโจ๊ก ทุกวันสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยดีขึ้นมาก กอปรกับเงินบรรเทาภัยพิบัติที่ราชสำนักนำมา ฉู่จวินถิงให้นายอำเภอสร้างที่พักสำหรับพักผ่อนบางส่วนในเวลาเดียวกันบันทึกสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยไว้ในรายงาน หลังจากสถานการณ์ของเมืองผิงหยางดีขึ้นแล้ว ก็สามารถเลือกตามสถานการณ์ได้ว่าจะไปหรืออยู่ต่อคาดว่าราษฎรส่วนใหญ่ล้วนอยากกลับบ้านเกิด“ความคืบหน้าของเมืองไห่เทียนช่วงสองวันนี้มอบให้พ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 814

    “ขอเพียงมีความหวัง ก็สามารถลองดูได้”พูดไป จ้าวชิงหยวนเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว รีบพูด “แม่นางซ่ง รบกวนเจ้าช่วยดูหน่อยเถอะ เขาอาการหนักเกินไปจริงๆ”ซ่งรั่วเจินมองนายอำเภอโจวแวบหนึ่ง ผอมจนไม่คล้ายคน แต่มองผ่านหน้าตากลับมองออกได้อย่างง่ายดายว่านี่คือคนดีคนหนึ่ง“แม่นางซ่ง ยังมีหนทางช่วยท่านลุงโจวหรือไม่?” จ้าวผิงอันเอ่ยปากอย่างกังวลเขาเคยทรมานเพราะไอมรณะรุมเร้ามาก่อน นั่นคือความทรมานจนอยากตาย ชนิดที่ว่าถึงช่วงสุดท้าย ตนเองล้วนอยากตาย ท่านลุงโจวอดทนมาถึงตอนนี้ได้จะต้องลำบากมากแน่“มีข้าอยู่ ไฉนเลยจะตายง่ายถึงเพียงนั้น?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก เนตรขนงกลับจริงจัง ยื่นมือออกไปวนรอบตัวนายอำเภอโจวเพื่อเก็บไอมรณะนายอำเภอโจวรู้สึกเพียงความเย็นยะเยือกที่รุมเร้าเขามาโดยตลอดหายไปอย่างฉับพลัน ความเย็นแทงลึกถึงกระดูกนั้นแทรกซึมทุกอณูรูขุมขน ต่อให้ตากแดดอย่างไรก็ไม่รับรู้ถึงความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อยบัดนี้ ความรู้สึกเย็นยะเยือกหายไปแล้ว ต่อให้ไม่อบอุ่น แต่ก็ไม่รู้สึกเย็น“ร่างกายท่านต้องรักษาดีๆ สักระยะหนึ่ง ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว แต่อย่างไรเสียก็เคยถูกไอมรณะรุมเร้ามาเป็นเวลานาน อ่อนแออย่างมาก พยา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1

    ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวงเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษแขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?เกิดเหตุอันใดขึ้น?ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 2

    ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้วเหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใดใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 3

    “แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ยเพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริงครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!“ไอ้สารเลว!”หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปากซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคล

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 814

    “ขอเพียงมีความหวัง ก็สามารถลองดูได้”พูดไป จ้าวชิงหยวนเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว รีบพูด “แม่นางซ่ง รบกวนเจ้าช่วยดูหน่อยเถอะ เขาอาการหนักเกินไปจริงๆ”ซ่งรั่วเจินมองนายอำเภอโจวแวบหนึ่ง ผอมจนไม่คล้ายคน แต่มองผ่านหน้าตากลับมองออกได้อย่างง่ายดายว่านี่คือคนดีคนหนึ่ง“แม่นางซ่ง ยังมีหนทางช่วยท่านลุงโจวหรือไม่?” จ้าวผิงอันเอ่ยปากอย่างกังวลเขาเคยทรมานเพราะไอมรณะรุมเร้ามาก่อน นั่นคือความทรมานจนอยากตาย ชนิดที่ว่าถึงช่วงสุดท้าย ตนเองล้วนอยากตาย ท่านลุงโจวอดทนมาถึงตอนนี้ได้จะต้องลำบากมากแน่“มีข้าอยู่ ไฉนเลยจะตายง่ายถึงเพียงนั้น?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก เนตรขนงกลับจริงจัง ยื่นมือออกไปวนรอบตัวนายอำเภอโจวเพื่อเก็บไอมรณะนายอำเภอโจวรู้สึกเพียงความเย็นยะเยือกที่รุมเร้าเขามาโดยตลอดหายไปอย่างฉับพลัน ความเย็นแทงลึกถึงกระดูกนั้นแทรกซึมทุกอณูรูขุมขน ต่อให้ตากแดดอย่างไรก็ไม่รับรู้ถึงความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อยบัดนี้ ความรู้สึกเย็นยะเยือกหายไปแล้ว ต่อให้ไม่อบอุ่น แต่ก็ไม่รู้สึกเย็น“ร่างกายท่านต้องรักษาดีๆ สักระยะหนึ่ง ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว แต่อย่างไรเสียก็เคยถูกไอมรณะรุมเร้ามาเป็นเวลานาน อ่อนแออย่างมาก พยา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 813

    หลังผ่านการเมาครั้งนี้ ซ่งรั่วเจินได้เห็นอีกด้านของฉู่จวินถิง ระยะห่างที่กั้นกลางระหว่างทั้งคู่คล้ายถูกทำให้มลายหายไป ใกล้ชิดกันมากขึ้นไม่น้อยหลายครั้งทั้งๆ ที่ไม่ได้พูดอะไร แต่ขอเพียงได้สบสายตากับอีกฝ่าย ภายในใจก็เกิดความรู้สึกหวานล้ำขึ้นมาพวกซ่งหลินมองออก หรือพูดให้ถูกคือไม่อาจเมินข้ามไปได้ต่อให้เพียงแต่กินข้าว สายตาของฉู่อ๋องก็มักตกลงบนตัวซ่งรั่วเจินอยู่บ่อยครั้ง หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายคีบอาหารให้นางเพราะซ่งรั่วเจินรังเกียจความยุ่งยากจึงไม่ชอบกินปลา ฉู่อ๋องถึงขั้นเอาก้างปลาออกแล้วคีบใส่ชามของนาง ทว่ายามอยู่ต่อหน้าทุกคน เขายังปั้นหน้าเคร่งขรึมดังเดิม ท่าทางคล้ายไม่เป็นไรนี่ช่างขัดแย้งกันโดนแท้!จากนั้นทางการเริ่มแจกโจ๊ก ทุกวันสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยดีขึ้นมาก กอปรกับเงินบรรเทาภัยพิบัติที่ราชสำนักนำมา ฉู่จวินถิงให้นายอำเภอสร้างที่พักสำหรับพักผ่อนบางส่วนในเวลาเดียวกันบันทึกสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยไว้ในรายงาน หลังจากสถานการณ์ของเมืองผิงหยางดีขึ้นแล้ว ก็สามารถเลือกตามสถานการณ์ได้ว่าจะไปหรืออยู่ต่อคาดว่าราษฎรส่วนใหญ่ล้วนอยากกลับบ้านเกิด“ความคืบหน้าของเมืองไห่เทียนช่วงสองวันนี้มอบให้พ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 812

    ไอ้คนชั่ว!“ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดอะไร?”ซ่งรั่วเจินมองซ่งหลินอย่างสงสัย เหตุใดพูดสิ่งที่นางไม่เข้าใจตั้งแต่เช้าเล่า?“ข้าพูดอะไร? เจ้าเป็นแม่นางในห้องหอยังไม่ออกเรือน ออกจากห้องของผู้ชายตั้งแต่เช้า หากเล่าลือออกไปชื่อเสียงของเจ้าเสียหายจะทำเยี่ยงไร?”ซ่งหลินหันมองทั่วสารทิศ ดึงซ่งรั่วเจินไปทางด้านข้างอย่างระมัดระวัง กลัวถูกผู้อื่นพบเข้าซ่งรั่วเจินนี่ถึงเข้าใจ รีบอธิบาย “เมื่อวานท่านอ๋องดื่มสุราจนเมา ข้าเห็นอวิ๋นหยางประคองเขาอย่างยากลำบาก จึงเสนอให้ท่านอ๋องสลับห้องนอน”“เมื่อคืนห้องนี้มีข้าเพียงคนเดียว ไป๋จื่อและชิงเถิงเองก็เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดเจ้าค่ะ”“จริงหรือ?”ซ่งหลินหันมองภายในแวบหนึ่ง ได้เห็นไป๋จื่อและชิงเถิงไม่ผิดไปดังคาด ตรงข้ามกันคนของฉู่อ๋องมิได้อยู่ที่นี่ นี่ถึงพรูลมหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง“เจินเอ๋อร์ ผู้ชายล้วนไม่ใช่คนดี เจ้าอย่าถูกเอาเปรียบเป็นอันขาด!”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ นี่คือบิดานางร้อนใจจนด่าเหมารวมตนเองเข้าไปด้วยแล้ว!ฉู่จวินถิงตื่นเช้ามาก็หันมองห้องของคนแปลกหน้าเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลาเผยแววตกตะลึง แต่หลังจากจำได้ว่านี่คือห้องของรั่วเจิน เขาก็กุมหน้าผาก ควา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 811

    ซ่งจิ่งเซินปล่อยข่าวออกไปในทันที เพราะเดินทางทางน้ำจึงว่องไวอย่างมาก เขาไปถึงคูเมืองอื่นแล้วกลับไม่พูดอะไร ทำเพียงสั่งให้คนไปซื้อเสบียงอาหารจำนวนมาก แม้แต่ผู้อยู่ใต้อาณัติเองก็สั่งให้ปิดปากเงียบไว้ ไม่ให้แย้มพรายเรื่องใดชื่อของสกุลซ่งในเมืองหลวง พ่อค้าทุกพื้นที่ล้วนเคยได้ยินมาก่อน อย่างไรเสียก็เป็นพ่อค้าอันดับต้นของเมืองหลวง เข้าร่วมทำการค้าเกือบทุกพื้นที่คนฉลาดที่เคยทำการค้าร่วมกับสกุลซ่งเมื่อหลายปีก่อนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำบัดนี้ได้เห็นสกุลซ่งเริ่มซื้อเสบียงชุดใหญ่ ต่อมาจึงนึกถึงอุทกภัยเมืองผิงหยางขึ้นได้“ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าสกุลซ่งใจดีมีเมตตามาโดยตลอด เผชิญหน้ากับความอดอยากก็แจกโจ๊ก ทว่าครั้งนี้คุณชายสี่ของสกุลซ่งถึงขั้นมาซื้อข้าวและบะหมี่ที่เมืองผิงหยางด้วยตนเอง นี่เตรียมตั้งโรงทานแจกโจ๊กหรือ? ทุ่มเทแรงกายแรงใจเกินไปแล้วกระมัง?”“ไม่รู้สิ ในอดีตไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ข้ายังลอบไปถามมาอีกด้วย แต่คนของสกุลซ่งกลับปิดปากเงียบ ไม่ได้ยินข่าวอันใดเลยแม้แต่น้อย!”“ข้ารู้เพียงว่าบัดนี้ราคาเสบียงอาหารเมืองผิงหยางสูงกว่าคูเมืองอื่นมากหลายเท่า พวกเจ้าว่าสกุลซ่งจะฉวยโอกาสนี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 810

    “ท่านดื่มมากไปแล้ว หม่อมฉันประคองท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา คิดไม่ถึงเลยว่าฉู่จวินถิงเมาเหล้าแล้วจะกลายเป็นเช่นนี้ พูดถ้อยคำที่นางฟังไม่เข้าใจ กลับเห็นได้ชัดว่าเชื่อฟังเป็นพิเศษดวงตาคมกริบคู่นั้น ปกติเจือแรงกดดันอย่างมาก ทว่าบัดนี้หางตากลับตกลงเล็กน้อย ลดความดุดันและคมกริบลง เปี่ยมแสงทอประกายระยับดุจดวงดารา คล้ายดวงตาของลูกสุนัขก็มิปาน ทันใดนั้นนางคิดว่าเขาที่เป็นเช่นนี้น่ารักเป็นพิเศษทำให้คนอยากลูบศีรษะปลอบโยนเขาอย่างอดไม่ได้ “ข้าไม่เมา” ฉู่จวินถิงเสียงแข็งขึ้นมา“ได้ๆๆ ท่านไม่เมา” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบเสียงนุ่มนวลนางย่อมรู้ว่าคนเมาชอบพูดว่าไม่เมา หากเอาจริงเอาจังกับเขา นั่นก็คือโง่เขลาขณะนางกำลังดึงแขนฉู่จวินสิงเตรียมประคองคนกลับไปอยู่นั้น กลับถูกฝ่ายชายดึงเข้าอ้อมกอดอย่างกะทันหันกลิ่นอายเย็นสบายบนตัวของฝ่ายชายเจือกลิ่นสุราอ่อนๆ โอบล้อมซ่งรั่วเจินไว้ อากาศเย็นเล็กน้อย อ้อมกอดของเขากลับอบอุ่นอย่างมากเท้าซ่งรั่วเจินยืนได้ไม่มั่นคง ครู่ต่อมาพิงประตู ฝ่ายชายปกป้องศีรษะของนางเอาไว้ กลับไม่มีความคิดปล่อยนางไป“ข้าอยากกอดเจ้า แค่ครู่เดียว ได้หรือไม่?”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 809

    “พี่สาม พวกเราไปเถอะ”ซ่งรั่วเจินแย้มยิ้มราวกับว่าหมอกภายในดวงตาสลายไปแล้ว นางลากซ่งจืออวี้ เรียกเขาให้จากไปพร้อมกันเดิมทีก็มาลอบฟัง ฉู่จวินถิงและบิดาล้วนมีวิชายุทธ์ยอดเยี่ยม หากยังไม่ไป อีกเดี๋ยวจะต้องถูกจับได้แน่ซ่งจืออวี้ถูกลากจากไปด้วยสีหน้าเหม่อลอย จนกระทั่งออกห่างแล้วถึงไม่อาจอดกลั้นไหวอีกต่อไป“น้องหญิงห้า เจ้าพูดเถอะ ท่านอ๋องพูดจริงหรือ? ต่อให้สาบานก็ไม่จำเป็นร้ายแรงถึงเพียงนี้กระมัง?”“ข้าเข้าวังรับราชการมาระยะหนึ่งแล้ว ได้ยินข่าวไม่น้อย ฉู่อ๋องเป็นผู้มีอนาคตที่สุดในบรรดาองค์ชายเชียวนะ!”ซ่งรั่วเจิน “...”“น้องหญิงห้า เจ้าเคยคิดหรือไม่หากแต่งกับฉู่อ๋องแล้ว วันหนึ่งได้กลายเป็นฮองเฮา นั่นยอดเยี่ยมมากนัก!” ซ่งจืออวี้ยิ้มแย้ม นั่นคืออยู่เหนือคนนับหมื่นอยู่ใต้เพียงคนเดียว!“มีอะไรดีกัน?” ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเฉยเมย “ท่านชอบฮองเฮามากหรือ?”ซ่งจืออวี้ส่ายหน้า “ข้าย่อมไม่ชอบฮองเฮา แต่หากภายภาคหน้าเจ้าเป็น นั่นข้าก็ชอบแล้ว!”“ท่านช่างเป็นพี่ชายของข้าโดยแท้!”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา มองท่าทางของพี่สามก็รู้ได้ว่าปกติเขาไม่มีเรื่องใดให้รำคาญใจ คิดง่ายมาก หนำซ้ำยังมีความสุขมาก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 808

    พ่อตาสร้างความลำบากให้ลูกเขย นี่เป็นเรื่องปกติอย่างมาก ทว่าท่านพ่อให้ฉู่อ๋องทิ้งตำแหน่งฮ่องเต้ นี่ไม่โอหังเกินไปหน่อยหรือ?ข่าวนี้เล่าลือออกไป บิดาตนมีศีรษะให้ตัดมากน้อยเพียงใดกันเล่า!สำคัญที่สุดคือ...เหตุใดฉู่อ๋องถึงตอบตกลง?“น้องหญิงห้า เมื่อครู่ข้าไม่ได้ดื่มเหล้านี่นา เหตุใดเกิดภาพหลอนได้เล่า?” ซ่งจืออวี้เผยสีหน้าว้าวุ่นซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าฉู่จวินถิงจะตัดสินใจเช่นนี้แท้จริงแล้วฮองเฮาไม่ชอบฐานะของนาง นางรู้ตั้งแต่แรกแล้ว อีกทั้งยังไม่คิดเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ภายในราชวงศ์ นับตั้งแต่ฉู่จวินถิงสารภาพรักนางก็ปฏิเสธไปแล้วเพียงแต่ต่อมาฉู่จวินถิงค่อยๆ ดีต่อนาง นางเองก็เห็นอยู่ภายในสายตา นางไม่อยากทิ้งเขาเพียงเพราะฮองเฮา นี่ถึงปล่อยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เดินมาถึงขั้นนี้อันที่จริงพูดไปแล้ว นางคิดง่ายมากความรักเรื่องพรรค์นี้ เข้ากันได้ก็มา เข้ากันไม่ได้ก็จากไป ภายในใจฉู่จวินถิงมีนาง ภายในใจนางก็มีฉู่จวินถิง นั่นก็ไม่จำเป็นต้องทำให้ตนเองต้องทุกข์ใจหากวันหนึ่งความรักถูกเรื่องเหล่านี้ทำให้จืดจางลง นั่นก็แยกจากกันไป นางไม่มีวันปล่อยให้พันธนาการเช่นนี้ผูกมัดตนเองไปชั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 807

    “อิงตามที่กระหม่อมรู้ ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ฮองเฮามีเจตนาจับคู่ท่านและคุณหนูสกุลหลิง ก่อนหน้านี้ยังจงใจทำให้เจินเอ๋อร์ลำบากอีกด้วย อยากให้นางได้พบอุปสรรคและยอมถอยไปเอง”ซ่งหลินนึกถึงเรื่องเหล่านี้ที่ได้รู้ผ่านปากของลูกชายขึ้นได้ รู้สึกไม่สบอารมณ์ภายในใจอย่างสุดระงับเจินเอ๋อร์เป็นดั่งหัวใจของเขา เป็นแก้วตาดวงใจตั้งแต่เด็ก ในสายตาของเขาเจินเอ๋อร์ล้วนดีไปหมดทุกอย่างเรื่องถอนหมั้น เป็นความผิดของพวกเขาที่เป็นบิดามารดาที่มองคนผิดไป โชคดีเจินเอ๋อร์มีความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว หันหัวม้าก่อนตกหน้าผาได้ทัน ทว่าฮองเฮากลับใช้เรื่องนี้มาสร้างความลำบากให้เจินเอ๋อร์ เขาก็ยากจะสงบอารมณ์พลุ่งพล่านนี้ลงได้“ฉู่อ๋อง กระหม่อมรู้ความสามารถอันโดดเด่นของท่าน ไม่มีใครในราชสำนักไม่รู้ กระหม่อมเองก็ชื่นชมอย่างมาก”“แต่นับตั้งแต่โบราณจนถึงตอนนี้ ปัญหาแม่สามีลูกสะใภ้เป็นปัญหาแก้ได้ยาก ต่อให้ชมชอบมาก่อน แต่ยามได้อยู่ด้วยกันก็ยังมีความขัดแย้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฮองเฮาที่เดิมทีก็ไม่ชอบเจินเอ๋อร์อยู่แล้ว นี่จะขัดแย้งกันมากยิ่งขึ้น”“กระหม่อมมีเจินเอ๋อร์เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียว หวังว่าชาตินี้นางจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 806

    สีหน้าซ่งหลินเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมา ก่อนหน้านี้มองหลินจือเยว่พลาดไป แม้พูดว่าบัดนี้ได้เห็นเจินเอ๋อร์แล้วคล้ายไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ แต่เขาเข้าใจ จะต้องเสียใจเป็นเวลานานมากแน่บัดนี้คนที่ต้องการสู่ขอนางยังเป็นฉู่อ๋องอีกด้วย ราชวงศ์ในสายตาผู้อื่นคือหรูหราสูงศักดิ์ แต่พวกเขากลับรู้ดีว่านั่นไม่ต่างจากถ้ำเสือสระมังกรทว่า เขารู้คุณสมบัติของฉู่อ๋องดี ยิ่งไปกว่านั้นสองวันนี้มองผ่านสีหน้าของลูกสาวบ้านตน เขาก็รู้ว่าภายในใจของลูกสาวมีฉู่อ๋องอยู่“เชิญแม่ทัพซ่งพูดเถอะ”“ก่อนหน้านี้เจินเอ๋อร์เคยถอนหมั้นมาก่อน คาดว่าท่านอ๋องเองก็เข้าใจดีว่าเรื่องพรรค์นี้สำหรับคนธรรมดาไม่นับเป็นอะไร แต่ภายในเมืองหลวงย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำวิจารณ์ไปได้”“ท่านอ๋องท่านมีฐานะสูงศักดิ์ ฮองเฮายังให้ความสำคัญต่อชื่อเสียงและฐานะที่สุดอีกด้วย ด่านนี้ผ่านไปได้ยากยิ่ง”“อันที่จริงกระหม่อมมองดูแล้ว ท่านอ๋องสมควรเลือกแม่นางอายุที่เหมาะสมเพื่อแต่งงาน นี่ถึงจะมั่นคงที่สุด”ซ่งหลินเผยสีหน้าจริงจัง เขาอยู่ในราชสำนักมานานหลายปี ย่อมรู้เรื่องในวังหลังดีมากฮองเฮาให้ความสำคัญต่อเรื่องเหล่านี้ที่สุด ฉู่อ๋องยังเป็นลูกชา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status