Share

บทที่ 71

Author: จี้เวยเวย
“คิดไม่ถึงแม่นางซ่งอายุยังน้อย ถึงขั้นมองอุบายต้มตุ๋นของผู้มีวิชาออก เมื่อนั้นข้าเองก็เกือบถูกหลอก ต้องขอบคุณแม่นางซ่งมาก”

สวีเยว่เอ๋อร์มาพร้อมชายอีกหนึ่งคน ได้เห็นซ่งรั่วเจินก็รู้สึกสนิทสนมมากเป็นพิเศษ

“รั่วเจิน เจ้ามาแล้วดีเหลือเกิน ก่อนนี้ได้ยินเรื่องความชอบของเจ้า ตั้งใจซื้อของหวานผลไม้ที่เจ้าชอบมาจากร้านอวิ๋นหย่าเป็นพิเศษ อีกเดี๋ยวไปชิมดีหรือไม่?”

“ได้เลย” ซ่งรั่วเจินพยักหน้ารับคำ

“เฮ่ออัน นี่ก็คือรั่วเจิน ต้องขอบคุณนางพวกเราถึงหาน้องหญิงของเจ้าพบ” สวีรั่วหลานยิ้มแย้มเอ่ยปากแนะนำ “รั่วเจิน นี่คือลูกชายข้าเฮ่ออัน”

ซ่งรั่วเจินมองชายหนุ่มตรงหน้า เห็นเขาสวมชุดผ้าไหมสีขาว รูปร่างสูงใหญ่ ยังห้อยหยกหยางจือหนึ่งชิ้นที่เอว รัศมีโดดเด่น

ใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายหยักยิ้มสุภาพอ่อนโยน บนตัวไม่มีไอเย็นแม้แต่น้อย เห็นชัดว่าเป็นคุณชายสง่างามใสสะอาดท่านหนึ่ง

“ขอบคุณแม่นางซ่งมากที่ช่วยเหลือ ข้าคนสกุลสวีมีวาสนาแล้ว”

ภายในสายตาสวีเฮ่ออันสะท้อนแววตกตะลึงวูบหนึ่ง

เรื่องซ่งรั่วเจินถอนหมั้นเอะอะเอิกเกริกไปทั่ว เขาได้ยินข่าวตั้งแต่แรกแล้ว ได้ยินท่านแม่ชื่นชมนางงดงามดุจจันทรา กลับไม่เคยพบหน้ามาก่อ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 72

    “ซวงซวงเองก็ถูกผู้มีวิชาหลอก มิได้ตั้งใจ เหตุใดแม่นางซ่งต้องว่าร้ายไปทุกที่ด้วยเล่า?”“ให้ข้าพูด เดิมทีเจ้าก็ไม่รู้วิชาเต๋า ก็เพียงจับพลัดจับผลูช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวพบเท่านั้น นี่ก็โอ้อวดโอหังเพียงนี้ ช่างน่าขันเกินไปแล้ว!”เหอเซียงหนิงมองทางทุกคน เอ่ยเตือน “ทุกท่านคงมิได้ลืมไปแล้วหรอกกระมัง?”“ครั้งก่อนในงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวา ซ่งรั่วเจินยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างฮูหยินทั้งสองท่านของบ้านใหญ่และบ้านรองสกุลต่ง ยังพูดว่าคุณชายน้อยต่งถูกอาสะใภ้ฆ่าตาย นำพาให้ความสัมพันธ์ของสกุลต่งบ้านแตกสาแหรกขาด ฮูหยินรองสกุลต่งเสียใจหนัก จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา!”“ให้ข้าพูด ซ่งรั่วเจินโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งกว่าซวงซวงร้อยเท่า! ซวงซวงมิได้ตั้งใจ แต่นางกลับทำเพราะมีเจตนา”“ข้าชี้แนะทุกท่านยังอยู่ให้ห่างจากคนเช่นนี้สักหน่อย หาไม่แล้วใครรู้เล่าว่าจะสร้างเรื่องอันใดออกมาอีก?”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนก็นึกถึงข่าวลือสกุลต่ง อย่างไรเสียวันนั้นก็โวยวายไม่งามตามาก“ข้าได้ยินมาว่าคืนวันนั้นสวี่อิ๋งเฉียวกับสามีเร่งรุดไปเมืองซีอวิ๋น จนกระทั่งวันนี้ยังไม่ได้รับข่าวส่งกลับมา ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 73

    “พวกเจ้าปล่อยข้า! เป็นนางตบข้า พวกเจ้าจับข้าไว้ทำอันใด?”สายตาซ่งรั่วเจินเยียบเย็น “ตบสองฉาดนี้เป็นการสั่งสอนเจ้า ข้าถอนหมั้นไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า”“หากจวนหลินไม่พอใจ ย่อมต้องมาพูดกับข้าเอง ตรงข้ามกันเจ้าใช้ฐานะอะไรมาพูดถ้อยคำเหล่านี้?”“คนรู้ก็คิดว่าเจ้าเป็นสหายสนิทของฉินซวงซวง คนไม่รู้ยังคิดว่าเจ้าหลงรักหลินจือเยว่จึงทวงความยุติธรรมแทนเขา”“ส่วนสกุลต่ง หากข้าพูดเท็จ สกุลต่งย่อมมาคิดบัญชีกับข้าเอง ยังไม่ต้องให้เจ้ามาถาม!”คนรอบกายเห็นซ่งรั่วเจินกล้าลงมือตบคน ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังนึกถึงคำพูดของเหอเซียงหนิง เหตุที่หลินจือเยว่เสียตำแหน่งไปก็เพราะสกุลซ่งสตรีเช่นนี้ หากให้นางแต่งเข้าจวน เกิดความขัดแย้งขึ้นมา น่ากลัวว่าต้องไม่สงบสุขจริง“รั่วเจิน เจ้าไม่ควรลงมือ ภายภาคหน้าเรื่องเช่นนี้ให้แม่ทำเอง”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกเสียใจภายหลังอย่างอดไม่ได้ เมื่อครู่นางตอบสนองเชื่องช้าไปบ้าง แต่ตอนนี้ลูกสาวตบก็ตบไปแล้ว พลาดโอกาสอันดีไป นางเองก็ไม่สามารถไปตบคนได้อีกเดิมทีซ่งรั่วเจินคิดว่าหลิ่วหรูเยียนตำหนิตนเองลงมือ คิดไม่ถึงได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็เกือบหัวเราะออกมาส่วนสายตาคนรอบกายเหล่านี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 74

    สวี่อิ๋งเฉียวขอบตาแดงก่ำ ใบหน้าสะท้อนความเจ็บปวดทุกข์ระทม“ข้าคิดไม่ถึงว่าสวี่ชิงเหมยจะโหดเหี้ยมเพียงนี้ สามารถลงมือกับหลานชายของตนได้!”“หากมิใช่เพราะแม่นางซ่งบอกความจริงทั้งหมดแก่ข้า น่ากลัวว่าเป๋ยอวี่ของข้าต้องตายตาไม่หลับอยู่ในบ่อน้ำไปทั้งชาติแน่นอน!”บรรยากาศเงียบลงในทันใดแม้แต่เสียงเข็มตกยังได้ยินทุกคนล้วนเบิกตากว้าง พวกเขาได้ยินอะไรแล้ว?ต่งเป๋ยอวี่มิได้หายไป แต่ถูกสวี่ชิงเหมยฆ่าตายแล้วโยนลงในบ่อน้ำ?“ต่งฮูหยิน ท่านรีบลุกขึ้นเถิด” ซ่งรั่วเจินรีบเข้าไปประคองคนขึ้นมาสวี่อิ๋งเฉียวปาดน้ำตาที่หางตา แม้เจ็บปวดมาก แต่ภายในสายตาเปี่ยมความซาบซึ้งใจ“ข้าคิดมาโดยตลอดว่าเป๋ยอวี่ไม่รู้ความจึงถูกคนหลอกพาไป ยามสวี่ชิงเหมยเสแสร้งต่อหน้าข้า ข้ายังปลอบนาง คิดว่าทั้งหมดเป็นความผิดของข้า”“หากมิใช่เพราะข้าสั่งสอนเป๋ยอวี่เข้มงวดจนเกินไป เขาก็ไม่มีวันโมโหจากไป หากมิใช่เจ้าเตือนสติข้า ข้ายังไม่รู้ว่าจะต้องเลอะเลือนไปถึงยามใด”ต่งหานโจวเองก็เอ่ยปากขอบคุณ “แม่นางซ่ง ขอบคุณเจ้ามากที่ทวงความยุติธรรมให้เป๋ยอวี่ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา!”“ภายภาคหน้ามีที่ใดให้สกุลต่งช่วยเหลือขอให้เอ่ยปาก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 75

    เหอเซียงหนิงโง่งมแล้วนับตั้งแต่สวี่อิ๋งเฉียวคุกเข่า สมองนางก็ขาวโพลนในทันทีทันใดคำพูดของซ่งรั่วเจินเป็นความจริงได้อย่างไร? เดิมทีนางก็ไม่สามารถรู้เรื่องพรรค์นี้ได้นี่!“เหอเซียงหนิง เจ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือ?”ซ่งรั่วเจินหันมองทางหญิงสาวที่กำลังก้มหน้า ต้องการหนีออกไป เมื่อครู่สาดน้ำเสียใส่นาง ตอนนี้คิดหนีไปเงียบ ๆ มีเรื่องดีเพียงนี้ที่ใดกัน?“ข้า...ข้าไม่มีอะไรจะพูด...”เหอเซียงหนิงตกใจมาก ครู่ต่อมาคิดหนีไป คิดไม่ถึงจะชนเข้ากับฉู่อวิ๋นกุย“บังอาจ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ถึงขั้นขวัญกล้าชนอวิ๋นอ๋อง!”“หม่อมฉันมิได้ตั้งใจ ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วยเพคะ!” เหอเซียงหนิงตกใจจนหมดความกล้า รีบคุกเข่าลงฉู่อวิ๋นกุยปรายตามองเหอเซียงหนิงแวบหนึ่ง สายตาหันมองผู้กระทำผิดอย่างเสด็จพี่สามของตน ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่คนเกือบถูกชนก็คือเสด็จพี่สาม!ใครคาดคิดเสด็จพี่สามคล่องแคล่วว่องไว ขยับถอยหลังหนึ่งก้าว หญิงคนนี้จึงชนเขา!เวรกรรม!ฉู่จวินถิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “น้องห้า อิงตามกฎราชสำนัก สร้างข่าวลือเท็จต้องจัดการเยี่ยงไร?”“อิงตามกฎ ผู้กระทำผิดต้องถูกตัดลิ้น”เหอเซียงหนิงเบิกตาโต สายตาเปี่ยมความตกตะลึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 76

    ภายในห้องสวีรั่วหลานกับหลิ่วหรูเยียนสบมองสวี่อิ๋งเฉียวก็ตาแดงไปด้วยอย่างสุดระงับ ในฐานะมารดาเฉกเดียวกัน เรื่องพรรค์นี้ไม่ต่างจากถูกฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก ๆใครคาดคิดเล่าว่าสะใภ้ใต้ชายคาเดียวกันจะน่ากลัวเพียงนี้?“ปกติสวี่ชิงเหมยมองดูแล้วอ่อนโยนบอบบาง คิดไม่ถึงจะโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ สามารถลงมือกับเด็กได้ลง” หัวคิ้วสวีรั่วหลานขมวดมุ่น ข่าวนี้ช่างน่าตกตะลึงโดยแท้“แม้ปกติข้าไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนาง ก็เห็นว่าอุปนิสัยต่างกันเท่านั้น เห็นนางเป็นญาติ แต่นาง...”สวี่อิ๋งเฉียวปาดน้ำตา ข่มอารมณ์ตนเองให้สงบลง พูดอย่างรู้สึกผิด “วันนี้เดิมทีเป็นงานนับญาติวันมงคล กลับถูกข้ารบกวนแล้ว ขออภัยจริงๆ...”“อย่าได้กล่าวเช่นนี้เลย พวกเราล้วนเป็นแม่คนเหมือนกัน ไฉนเลยจะไม่เข้าใจความรู้สึกของท่าน?”สวีรั่วหลานรีบโบกมือ เอ่ยถามอย่างห่วงใย “เรื่องนี้นายท่านต่งจะตัดสินอย่างไร?”“หลังนายท่านรู้เรื่องนี้ก็ไม่ได้ปกป้องสวี่ชิงเหมย ยอมให้พวกเราพาคนไปส่งศาลาว่าการ พูดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมอบคำชี้แจงให้เป๋ยอวี่ให้ได้”สวี่อิ๋งเฉียวพูดถึงเรื่องนี้ก็ซาบซึ้งใจ ก่อนนี้กลับมาถึงนางยังลังเล แต่มากที่สุดก็ตัดสิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 77

    สวี่อิ๋งเฉียวอึ้งงัน คิดเพียงว่าถ้อยคำนี้ของซ่งรั่วเจินคล้ายยังมีความนัยอื่น ก็ไม่รู้ว่าเป็นไปตามที่นางคาดเดาหรือไม่ขณะนางเตรียมเอ่ยถาม ต่งหานโจวกับราชครูสวีก็เดินเข้ามาพร้อมกัน“ฮูหยิน พวกเรากลับก่อนเถิด ที่บ้านยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีกมาก”สวี่อิ๋งเฉียวดึงสายตากลับ นึกได้ว่าแม้สวี่ชิงเหมยถูกส่งไปที่ศาลาว่าการแล้ว แต่ภายในเรือนยังมีเรื่องอีกมากให้จัดการ ท่านพ่อท่านแม่ถูกทำร้ายไปไม่น้อยกว่าพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาเล็ก“ซ่งฮูหยิน แม่นางซ่ง บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจกล่าวเพียงคำขอบคุณได้หมด”ต่งหานโจวมองทางพวกหลิ่วหรูเยียนสองคนและทำความเคารพอย่างเต็มรูปแบบหากมิใช่ซ่งรั่วเจินเอ่ยทั้งหมดนี้ออกมา บิดาเลอะเลือนอย่างเขาต่อให้ตายไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับลูกอย่างไรจนกระทั่งสองสามีภรรยาสกุลต่งจากไป หลิ่วหรูเยียนถูกพวกสวีฮูหยินดึงไปจิบชาที่อีกฝั่งแล้ว“รั่วเจิน พวกเราเองก็ไปชิมผลไม้กันเถอะ?” สวีเยว่เอ๋อร์เอ่ยปากเสนอซ่งรั่วเจินพยักหน้า เรียกอวิ๋นเนี่ยนชูไปพร้อมกัน“วันนี้สกุลสวีจัดงานเลี้ยงได้ดีมาก ขนมเหล่านี้ล้วนมาจากร้านชื่อดัง”“เจ้าดูขนมดอกกุ้ยฮวา ก่อนนี้ให้บ่าวรับใช้ไปซ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 78

    “แม่นางซ่ง หลังเกิดเรื่องกับอี้อันข้าก็ไม่ได้พบเขาอีก ไม่รู้บัดนี้อาการของเขาเป็นเช่นไร?”“ก่อนนี้อี้อันเคยส่งคนมาหาข้า หยิบหนังสือไปสองสามเล่ม ต่อมาข้าก็เลือกหนังสืออีกบางส่วน มีส่วนช่วยในการสอบฤดูใบไม้ผลิ เพียงแต่คิดไม่ถึงต่อมาจะเกิดเรื่องกับอี้อัน...”สายตาสวีเฮ่ออันสะท้อนความเสียดาย เขาเคยเห็นเรียงความของซ่งอี้อันมาก่อน มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง ต่อให้เป็นอาจารย์ที่ถ่อมตนเสมอมาก็ยังชื่นชมเขาอย่างอดไม่ได้เดิมทีคิดว่าการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ ซ่งอี้อันจะต้องสร้างความตกตะลึงแน่นอน คิดไม่ถึงจะเกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้นได้ดวงตาซ่งรั่วเจินทอประกาย “คุณชายสวี ไม่ทราบว่าข้าสามารถนำหนังสือเหล่านั้นกลับไปได้หรือไม่?”โรคตาของพี่รองใกล้ฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว แต่ใกล้กับช่วงสอบฤดูใบไม้ผลิมากนัก ระยะนี้พี่รองได้รับผลกระทบจากอารมณ์ แต่การเรียนจะตกลงไปไม่ได้บัดนี้นำหนังสือกลับไป ต่อให้ต้องให้มั่วอวี่อ่านให้พี่รองฟังทุกวันก็เป็นเรื่องดี“ไม่มีปัญหาแน่นอน” สวีเฮ่ออันรับคำ “ข้าจะสั่งคนไปหยิบเดี๋ยวนี้เลย”“ข้าขอบคุณคุณชายสวีแทนพี่รองข้าแล้ว”สวีเฮ่ออันโบกมือ “แม่นางซ่งช่วยข้าตามหาน้องสาว เป็นผู้มีพร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 79

    “พรุ่งนี้พวกเราเองก็จะไปด้วยหรือไม่? หากถูกสวีเฮ่ออันแย่งไปก่อน มิใช่ขาดทุนหนักหรอกหรือ?”“อะไรคือแย่งไปก่อน? ก็แค่ไปเที่ยวเล่นทะเลสาบเท่านั้น เกี่ยวอันใดกับข้า?”ฉู่จวินถิงหมุนกายจากไปอย่างไม่ใส่ใจ คล้ายไม่ยี่หระทว่าเขากลับเกิดความร้อนใจบางอย่างขึ้นภายในใจก็...มองสวีเฮ่ออันขัดตาณ จวนซ่งซ่งรั่วเจินกลับมาแล้วก็เร่งรุดไปที่เรือนของซ่งอี้อัน วางตำราที่นำกลับมาด้วยลงบนโต๊ะ“น้องหญิงห้า นี่เจ้าเอาอะไรมาหรือ?”วันนี้ซ่งอี้อันพบว่าตนเองสามารถมองเห็นเงาของซ่งรั่วเจินได้แล้ว แม้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน กลับเห็นเค้าโครงเลือนราง ทำให้เขารู้ว่ากำลังมองเห็นสิ่งใดการค้นพบนี้ทำให้เขาดีใจมากอย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องให้คนประคอง มิหนำซ้ำยังไม่เดินชนเดินกระแทกของแล้ว“เมื่อครู่ข้าเพิ่งกลับจากจวนสกุลสวี นี่คือหนังสือที่คุณชายสวีให้ข้านำกลับมา พูดว่าสามารถช่วยท่านในการสอบฤดูใบไม้ผลิได้”“สหายสวีช่างมีน้ำใจโดยแท้”ซ่งอี้อันตกตะลึงดีใจอย่างอดไม่ได้ เมื่อแรกไม่ว่าการสอบฤดูใบไม้ผลิหรือสอบในราชสำนักสวีเฮ่ออันก็ได้คะแนนสูงมาก หนังสือที่เก็บไว้จึงล้ำค่ามากอย่างไม่ต้องสงสัย“พี่รอง รอหลังวันนี้ฝังเข็มให

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 638

    ผ่านไปเพียงไม่นาน ลู่หมิ่นฮุ่ยก็มาถึงแล้วนับตั้งแต่เข้ามา สายตาของนางก็ตกลงบนตัวซ่งรั่วเจิน ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายซ่งรั่วเจินถูกสายตานี้มองเสียจนประหม่า เกิดความสงสัยภายในใจ ระยะนี้นางมิได้ล่วงเกินพระชายาอันหลาน คงมิใช่มาคิดบัญชีกับนางเพราะฮองเฮาหรอกกระมัง?ดวงตาดำดุจหมึกของฉู่จวินถิงสะท้อนความสงสัยสายหนึ่ง ขยับขึ้นมากำบังซ่งรั่วเจินไว้ข้างหลัง เอ่ยว่า “ท่านน้า วันนี้ท่านมาพบท่านป้าด้วยเหตุใด?”“ไม่ใช่” ลู่หมิ่นฮุ่ยโบกมือ “ข้าได้ยินว่าวันนี้เจ้าและแม่นางซ่งมา นี่จึงตั้งใจมาพบ”พูดไป มองเห็นลู่หมิ่นฮุ่ยสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มกว้างจับมือซ่งรั่วเจิน ตบๆ อย่างสนิทสนม“แม่นางซ่ง ครั้งก่อนขอบคุณเจ้ามาก หากไม่ใช่เจ้าช่วยข้า ข้ายังไม่รู้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ยามใด”“พระชายาไม่จำเป็นต้องเกรงใจถึงเพียงนี้ ต่อให้หม่อมฉันไม่พูด พระชายาก็จะมีข่าวดีอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยฉู่จวินถิงเห็นท้องนูนขึ้นมาเล็กน้อยของลู่หมิ่นฮุ่ย นึกได้ว่าชาติก่อนท่านน้ามิได้ตั้งครรภ์ว่องไวถึงเพียงนี้หากไม่ใช่รั่วเจินกล่าวเตือน ยังต้องรออีกหนึ่งปี ครรภ์นี้ต้องขอบคุณรั่วเจินจริงๆ“ไม่ๆ ต้องขอบคุณเจ้า!”รอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 637

    เช้าวันต่อมา ฉู่จวินถิงมารับซ่งรั่วเจินแล้วซ่งจืออวี้เห็นว่าเพิ่งได้สนทนากับน้องสาวบ้านตนสองประโยค คนก็จากไปแล้ว สลดใจอย่างอดไม่ได้“เมื่อวานน้องหญิงห้าก็ออกไปกับฉู่อ๋องทั้งวันแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดวันนี้ยังไปอีกเล่า? ฉู่อ๋องมาเยี่ยมเยียนบ่อยเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่มีอะไรน่าแปลกกัน? ได้พบกับแม่นางที่ชมชอบย่อมต้องเร็วสักหน่อย หาไม่แล้วจะได้อุ้มหญิงงามกลับไปยามใดกันเล่า?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าเข้าใจ ผินมองซ่งจืออวี้สายตารังเกียจแวบหนึ่ง “มิน่าเล่าท่านถึงยังไม่เปิดใจ!”“เจ้ากลับเปิดใจแล้ว ยังมิสู้ไม่เปิดใจ!” ซ่งจืออวี้เย้ยหยันกลับไป เย้ยหยันเขาด้านอื่นก็ช่างเถอะ บัดนี้ซ่งจิ่งเซินยังเย้ยหยันเขาด้านนี้ นั่นไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย!“ได้ยินมาว่าสองวันนี้เคอหยวนจื่อปรากฎตัวภายในร้าน น่าจะตั้งใจมาหาเจ้ากระมัง? เมื่อวานยามข้าไปหยิบของที่ร้าน นางเกือบจำข้าเป็นเจ้าไปแล้ว”ซ่งจิ่งเซินหน้าดำทึบทึม “ข้ายอมรับ ก่อนนี้ข้าตาบอด พอใจแล้วกระมัง!”ซ่งจืออวี้หัวเราะอย่างอดไม่ได้ “ข้าเห็นว่าหลายวันนี้เจ้าพักผ่อนอยู่ที่บ้านเถอะ ปล่อยให้ผู้ดูแลมารายงานสถานการณ์กับเจ้าในจวนก็พอ หาไม่แล้วเคอหยวนจื่อและสหายน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 636

    ดวงตาฉู่จิ่นหวยทอประกาย “ใช่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้! ข้าถามท่านแม่ว่าตกลงฝันถึงอะไร นางกลับไม่ยอมพูด พูดเพียงหลับไม่สนิท บอกให้ข้าไม่ต้องกังวล”“พูดเช่นนี้แล้ว สถานการณ์ของพวกเขาล้วนเหมือนกัน?” คนเงียบขรึมอย่างฉู่จวินถิงขมวดคิ้ว สังเกตเห็นปัญหาอย่างว่องไว “เกิดขึ้นตั้งแต่ยามใด?”“ท่านแม่ข้าบอกว่าเมื่อเจ็ดวันก่อน” ฉู่จิ่นหวยเอ่ยตอบอวิ๋นเนี่ยนชูกลับพูด “แม่ข้าเมื่อห้าวันก่อน”“ที่แท้ก็ฝันต่อเนื่องกันหลายวันนี่เอง พวกเราเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่หลายวันนี้ไม่เพียงจิตใจว้าวุ่น แม้แต่คนก็เริ่มบ่นงึมงำ ข้ารู้สึกผิดปกติยิ่งนัก”ได้ยินดังนั้น ซ่งรั่วเจินคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแต่ท่านป้าและพระชายาเซียงอ๋องคล้ายไม่มีอะไร เหตุใดถึงฝันร้ายเช่นนี้เล่า?“ระยะอันใกล้นี้มีสิ่งของพิเศษอันใดเพิ่มขึ้นมา หรือมีที่ใดพิเศษบ้างหรือไม่?”ฉู่จิ่นหวยครุ่นคิด พูดว่า “วันปกติท่านแม่ซื้อของไม่น้อย ส่วนมีสิ่งใดเพิ่มขึ้นมานั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ”“ระยะนี้ท่านน้ามิได้เพิ่มสิ่งใด เพียงแต่เมื่อห้าวันก่อนอนุอวิ๋นมาเที่ยวหนึ่ง อ้างว่าหวังดีต่อนางจึงนำของบางส่วนส่งมาให้ แต่ท่านน้าให้คนโยนทิ้งไปทั้งหมด”“ต่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 635

    ในห้องรับรองส่วนตัว อวิ๋นเนี่ยนชูนั่งลงด้านข้างซ่งรั่วเจิน สายตามองไปมาระหว่างซื่อจื่อน้อยผู้มีใบหน้าเปื้อนยิ้มและฉู่อ๋องใบหน้าเย็นชาไม่หยุดนางอดไม่ได้ที่จะดึงมือของซ่งรั่วเจินและกระซิบว่า “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าบรรยากาศที่นี่ค่อนข้างแปลกกัน?”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง “บางทีพวกเขาอาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ไม่ค่อยสนิทกันนัก?”อวิ๋นเนี่ยนชูรู้สึกอึดอัด “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”ซ่งรั่วเจินเฝ้ามองอาหารเลิศรสที่ถูกนำมาทีละจาน จึงพูดสร้างบรรยากาศขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าอาหารในหอสุราเลิศรสอย่างมาก ปกติแล้วจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้า ทุกท่านมาลองชิมดูกันดูเถอะ?”ขณะพูด นางก็คีบกุ้งใส่ลงในชามของฉู่จวินถิง ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้มนับตั้งแต่เข้ามา ฉู่จวินถิงก็มีสีหน้าเย็นชา ต้องพูดเลยว่ายามเขาไม่ยิ้ม จะมีบรรยากาศกดดันอย่างยิ่งจนผู้อื่นไม่กล้าหายใจฉู่จวินถิงเหลือบมองกุ้งในชาม คิ้วคลายออกเล็กน้อย และยื่นมือไปคีบอาหารให้ซ่งรั่วเจิน “วันนี้เดินเล่นมานานมากแล้ว เจ้าก็คงหิวมากแล้ว กินเยอะๆ เล่า”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า นางก็ไม่เกรงใจและเริ่มกินทันที ทั้งยังพูดกับอวิ๋นเนี่ยนชูและคนอื่นๆ ว่า “พวกท่านก็รีบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 634

    เมื่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ที่นั่นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที ทว่าก็เข้าใจในไม่ช้า “เนี่ยนชู เจ้าจะไปหาคุณหนูซ่งเพื่อพูดคุยเรื่องฝันร้ายของท่านน้าใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูโดยไม่รู้ตัว “ท่านป้าก็ฝันร้ายเช่นกันหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ช่วงนี้ท่านพ่อของข้ามักจะไปหาท่านแม่ตลอด ท่านตากับท่านน้าเองก็คอยไปกดดันท่านแม่ โดยหวังว่าท่านแม่จะเปลี่ยนใจทว่าท่านแม่ไม่ยอมเปลี่ยนใจ สถานการณ์จึงตึงเครียดไปหมด อนุอวิ๋นคนนั้นชอบสร้างเรื่อง ชอบพูดจาเสียดสีอยู่เรื่อย เพียงหวังว่าท่านแม่ของข้าจะไม่กลับไป นางจะได้มีโอกาสขึ้นเป็นอวิ๋นฮูหยินตอนแรกท่านแม่เพียงจิตใจเหนื่อยล้า ทว่าต่อมาจู่ๆ ก็เริ่มฝันร้ายจึงไปหาท่านหมอ ท่านหมอเพียงบอกว่านางวิตกกังวลมากเกินไปและความทุกข์รุมเร้า จึงจ่ายยาสงบใจให้จำนวนหนึ่งวันนี้ข้านัดพบกับท่านพี่ที่นี่ก็เพื่อคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้”อย่างไรก็ตาม อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลับพูดว่า “คุณหนูซ่ง ข้าคิดว่าสถานการณ์ของท่านน้าไม่ง่ายขนาดนั้น กลัวว่าจะเป็นการกระทำของวิญญาณร้าย”“เหตุใดคุณชายอวิ๋นจึงพูดเช่นนี้?”“แม้ว่าหลายปีมานี้ใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 633

    “นึกถึงเมื่อข้าก็ได้ยินถึงความสง่างามของเสด็จพี่มาตลอด ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเราจะได้กลายมาเป็นพี่น้องกัน วันหน้ามิสู้วันนี้ ถ้าหากเสด็จพี่ไม่รังเกียจก็ให้ข้าได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงมื้อเย็นได้หรือไม่?” ฉู่จวินถิงมองฉู่จิ่นหวยและอู๋เมี่ยวเสวียนที่อยู่ข้าง ๆ “ในเมื่อเจ้ามีคนที่นัดไว้แล้ว แล้วยังต้องรักษาท่านป้าอีก ธุระสำคัญไม่ควรชักช้า ค่อยเลี้ยงวันหลังเถิด”อย่างไรก็ตาม ฉู่จิ่นหวยนั้นกลับไม่อยากจะเลิกล้ม เขายิ้มพูด “มิเป็นไร คุณหนูอู๋เพียงแค่แนะนำหมอเทวดาให้ข้าเท่านั้น ค่อยส่งเด็กรับใช้ไปส่งท่านหมอมาที่จวนก็ได้”ซ่งรั่วเจินและอวิ๋นเนี่ยนซูย่อมเข้าใจดี หมอเทวดาที่แนะนำสามารถส่งคนมารับไปที่จวนเซียงอ๋องได้โดยตรงอู๋เมี่ยวเสวียนกลับมิได้ทำเช่นนั้น นั่นเพราะเขาต้องการใช้มันเป็นข้ออ้างเพื่อมาพบฉู่จิ่นหวย“คุณหนูซ่ง ที่จริงแล้วข้าคิดว่าอาการฝันร้ายของท่านแม่นั้นแปลก ข้าได้ยินว่าเจ้าเก่งในศาสตร์ลึกลับ ดังนั้นข้าจึงอยากขอคำชี้แนะจากเจ้าหน่อยข้าไม่มั่นใจ กังวลว่าการไปที่จวนนั้นจะยิ่งรบกวนเจ้า ในเมื่อยามนี้ได้พบเจ้าแล้วจึงอยากจะถาม”ฉู่จิ่นหวยพูดเหตุผลที่แท้จริงออกมาเมื่อฟังคำพูดนั้น ซ่งรั่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 632

    เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ซื่อจื่อน้อยก็เป็นน้องชายของฉู่อ๋องเช่นกัน หรือว่าฉู่อ๋องจะไม่ให้เกียรตินางเลยหรือ?นางนั้นลังเลยังไม่กล้าพูด ทันใดนั้นนางก็มองเห็นร่างสูงโปร่งดูอ่อนโยนเดินเข้ามา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มในพริบตา“ซื่อจื่อน้อย ท่านมาแล้วหรือ!”ซ่งรั่วเจินหันไปมอง เห็นฉู่จิ่นหวยค่อย ๆ เดินเข้ามา ดวงตาพราวใสมีความประหลาดใจแล่นผ่านเมืองหลวงนั้นช่างเล็กเสียจริง แค่เพียงชั่วขณะเดียวก็บังเอิญพบเจอคนที่คุ้นเคยหลายคนจากงานเลี้ยงนับญาติครั้งก่อน นางก็ไม่เคยเห็นฉู่จิ่นหวยอีกเลย แต่ตอนที่พี่ใหญ่แต่งงาน จวนเซียงอ๋องกลับส่งของขวัญแสดงความยินดีมาให้ ทว่าได้ยินมาว่าพระชายาเซียงอ๋องไม่สบาย จึงไม่สามารถมาเข้าร่วมได้บัดนี้ได้พบกับฉู่จิ่นหวยอีกครั้ง หน้าตาของเด็กหนุ่มนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อก่อนประมาณหนึ่ง ไม่ปิดกั้นมากอย่างนั้นแล้ว แต่ยังคงมีความเศร้าหลงเหลืออยู่จาง ๆ“คุณหนูซ่ง?”เมื่อฉู่จิ่นหวยนั้นเห็นซ่งรั่วเจิน สายตานั้นเป็นประกายขึ้นมาบางส่วน แม้แต่เสียงก็ขึ้นสูงอย่างไม่รู้ตัว คล้ายมีความยินดีเป็นอย่างมาก “นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเจ้า เจ้ามาภัตตาคารเพื่อกินอาหารเย็นเช่นกันหร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 631

    “ข้ารู้สึกว่าอวิ๋นฮูหยินปฏิบัติต่ออวิ๋นเฉิงเจ๋อดียิ่งนัก ไม่ใช่ลูกในไส้ของนางสักหน่อย หรือเป็นลูกชายในไส้จริงๆ?”เพียงแต่หากเป็นเช่นนี้ แม้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่ต้องตบแต่งกับอวิ๋นซีหว่าน แต่มิใช่ทำให้อวิ๋นเนี่ยนชูเสียเวลาหรอกหรือ? หากไม่มีตระกูลอวิ๋นและตระกูลจาง นางก็เป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่ง เกรงว่าจะแต่งเข้าตระกูลดีๆไม่ได้”ทุกคนต่างจุ๊ปากสะท้อนใจ เรื่องนี้อวิ๋นฮูหยินช่างไร้คุณธรรมยิ่งนัก แต่การที่อวิ๋นฮูหยินกระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่าทำร้ายคนอื่นก็ทำร้ายถูกตัวเองด้วยในสายตาของหลายคนคือ ได้ไม่คุ้มเสียเพราะหลังจากหย่าร้างก็มิใช่ภรรยาของข้าราชการแล้ว ทั้งไม่มีความช่วยเหลือจากครอบครัวมารดาอีก นางก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว“มารดาของเจ้าปกป้องแต่ญาติผู้พี่ของเจ้าเท่านั้น และไม่คำนึกถึงเจ้าเลยแม้แต่น้อย ได้ยินมาว่าเพราะนางไม่มีลูกชาย จึงเลี้ยงญาติผู้พี่ของเจ้าดั่งลูกชายแท้ๆ?”อู๋เมี่ยวเสวียนหัวเราะเยาะ “ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่ามาชิงกับข้า มันไม่เป็นผลดีกับเจ้าหรอก”“นี่เป็นเรื่องของครอบครัวข้า เจ้าไม่มีสิทธิที่จะเอามาพูด วันนี้เจ้าอย่าคิดจะชิงกับข้า!”“ท่านอ๋อง เนี่ยนชูเพคะ”ซ่งรั่วเจินอยู่ข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 630

    งานเลี้ยงวันเกิดของฉู่มู่เหยาใกล้จะถึงแล้ว จะต้องรีบจัดเตรียมงานโดยเร็วฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินภาพวาดเป็นครั้งแรก พบว่าวิธีการวาดภาพของนางไม่เหมือนกับที่เห็นตามปกติทั่วไปแค่นางตวัดปลายพู่กันอย่างสบายเพียงไม่กี่ครั้งก็ปรากฏเรือนร่างอรชรของหญิงสาวได้ กระนั้นยังวาดรายละเอียดอันวิจิตของกระโปรงออกมาได้อีกทุกจุดออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งความยาว ความกว้าง แม้กระทั่งวัสดุที่เลือกใช้ก็เขียนไว้ด้านข้างอย่างชัดเจน ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเสื้อผ้าของลั่วเซินฟางจึงมีเอกลักษณ์มากเมื่อก่อนรู้แค่ว่านางเก่งเรื่องศาสตร์ลี้ลับ และยังรู้จักทำการค้า ร้านที่นางเปิดกิจการก็เป็นไปได้ดี แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วนางยังมีพรสวรรค์เพียงนี้หญิงสาวเช่นนี้...เมื่อก่อนในเมืองหลวงต้องได้รับฉายาว่าเป็นกุลสตรีตระกูลใหญ่เท่านั้น ช่างเป็นสตรีที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากเสียจริงหวนนึกถึงชาติที่แล้วเห็นเพียงแค่ซ่งรั่วเจินผู้เศร้าโศก ต่างจากคนตรงหน้านี้...อุปนิสัยช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซ่งรั่วเจินเลือกผ้าด้วยตนเอง และหารือกับช่างเย็บปักเกี่ยวกับแบบลวดลายปัก แล้วจึงเดินไปด้านหน้าฉู่จวินถิงชายหนุ่มยืนรอนางอยู่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status