Share

บทที่ 55

Author: จี้เวยเวย
“สองปีมานี้ นางใส่ใจดูแลข้า ดูแลจวน เทียบกับนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นแล้วยังดีกว่าไม่รู้กี่มากน้อย!”

หลินรั่วหลานนึกถึงตอนที่ฉินซวงซวงแต่งเข้ามา อย่าว่าแต่เรื่องสินเดิมที่ว่างเปล่าเลย ยังสร้างความเดือดร้อนให้ลูกชายต้องอับอายขายหน้าอีก เพียงแต่งเข้ามาก็ถูกทางการจับตัวไป ยังต้องให้ลูกชายหาหนทางไปพานางออกมาอีกด้วย

ไหนเลยจะเทียบเคียงซ่งรั่วเจินได้?

“ท่านแม่ ข้ากับซวงซวงแต่งงานกันแล้ว ข้าไม่มีวันแต่งงานกับซ่งรั่วเจินเป็นอันขาด ภายภาคหน้าขอท่านอย่าได้พูดเช่นนี้อีก ให้ซวงซวงรอในคุกอยู่ตลอดก็มิใช่เรื่องดี ท่านหาทางช่วยข้ารวบรวมเงินหนึ่งแสนตำลึงที ข้าจะไปไถ่ตัวนางออกมา”

หลินจือเยว่ขมวดคิ้วแน่น ซวงซวงรออยู่ข้างในมากหนึ่งวัน ที่เสียไปก็คือหน้าของเขา เขารู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าต้องยังมีเงินอยู่ในมือแน่นอน

“นางแพศยาคนนั้นทำเรื่องน่าขายหน้าพรรค์นี้ด้วยตนเอง ยังต้องให้พวกเรานำเงินไปไถ่อีกรึ?” หลินรั่วหลานเอ่ยถามเสียงแหลม “ให้สกุลฉินหาทางเอาเองเถอะ!”

“บัดนี้ซวงซวงเป็นคนของพวกเราสกุลหลินแล้ว”

สีหน้าหลินจือเยว่หนักแน่น เขารักเพียงซวงซวง แม้ครั้งนี้ซวงซวงจะทำผิดจริง แต่เขารู้ว่าซวงซวงทำถึงเพียงนี้ก็เพราะ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 56

    “ฝ่าบาท กระหม่อม กระหม่อมกำลังหาทาง...”หลินจือเยว่เหงื่อผุดดุจเม็ดฝน เขาประเมินการตัดสินใจเฉียบขาดของสกุลซ่งต่ำไป ถึงขั้นแม้เสียหน้าก็ต้องทำลายเขาให้ได้!“เจ้าคิดวิธีอันใดได้เล่า? ได้ยินว่าสองปีมานี้ เจ้าไม่เพียงยกมารดาเฒ่าในจวนให้แม่นางซ่งดูแล ตนเองอยู่ที่ชายแดนยังเขียนจดหมายขอเงินสกุลซ่งบ่อยครั้ง ตอนแต่งงานเจ้าก็สู่ขอภรรยาหลวงที่มีศักดิ์ทัดเทียมกันมาหยามเกียรติแม่นางซ่งอีกด้วย เจ้าช่างไม่สมควรเป็นคนยิ่งนัก!”ฮ่องเต้กริ้วหนัก ก่อนนี้ชมชอบหลินจือเยว่มากเพียงใด บัดนี้ก็คับข้องหมองใจมากเพียงนั้นสีหน้าหลินจือเยว่ซีดเผือด คิดไม่ถึงว่าซ่งจืออวี้ไม่เพียงพูดเรื่องหนี้สิน แม้แต่เรื่องเหล่านี้ก็กราบทูลต่อเบื้องพระพักตร์ฝ่าบาทจนหมดสิ้น นี่...นี่ช่างเป็นการตัดอนาคตของเขาโดยแท้!“ฝ่าบาท กระหม่อมเองก็ไม่คิดว่ารักษามารดาต้องใช้เงินมากเพียงนี้ นับตั้งแต่รู้เรื่องกระหม่อมก็คิดหาทางชดใช้ เพียงแต่ว่าจำนวนเงินนั้นไม่น้อยนัก จึงทำให้เสียเวลาไปหลายวัน...”เห็นหลินจือเยว่เปิดปากก็โยนความรับผิดชอบไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าหลิน ซ่งจืออวี้ย่อมไม่อาจยอมรับ“ฝ่าบาท น้องหญิงของกระหม่อมถูกหลินโหวทำร้ายจิตใจ ปรารถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 57

    “หลินโหว แม่นางฉินเป็นคนเคียงหมอนของเจ้า วันแต่งงานเจ้าพูดไปทุกถ้อยคำว่านางจิตใจดีมีเมตตา รู้จักนางดี บัดนี้กลับพูดว่าไม่รู้เรื่อง เจ้าเป็นขุนนางในราชสำนักถึงขั้นมองจิตใจชั่วร้ายโหดเหี้ยมของคนเคียงหมอนไม่กระจ่าง นี่ไม่เลอะเลือนเกินไปหน่อยหรือ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยปากเสียงเรียบหลินจือเยว่สายตาโง่งม ถูกกล่าวโทษเพิ่มอีกหนึ่งข้อแล้วกระนั้นหรือ?“ซวงซวงเองก็ถูกผู้มีวิชาหลอก พูดไปแล้วทั้งหมดล้วนต้องโทษนักต้มตุ๋นผู้นั้นที่ทำร้ายผู้คนมากถึงเพียงนี้” หลินจือเยว่อธิบายราชครูสวีเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “นั่นเพราะโง่เขลาเบาปัญญา ทำร้ายตนเองทั้งสิ้น!”หนึ่งคนต่อหนึ่งคนกล่าวโทษ สีหน้าหลินจือเยว่ซีดเผือด ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าซ่งหลานจือเป็นหรือตาย ก็สูญเสียอำนาจใหญ่ไปแล้ว ภายในราชสำนักอย่างมากที่สุดก็มีแม่ทัพไป๋ที่ยินดีช่วยพูดแทนพวกเขาเท่านั้น เหตุใดราชครูสวีกับฉู่อ๋องก็ล้วนปกป้องจวนสกุลซ่งเล่า?ซ่งจืออวี้เองก็มองอย่างโง่งมตอนมาตีกลองร้องทุกข์ในวันนี้ แท้จริงแล้วเขาเองก็กระวนกระวายใจ แต่บัดนี้คนที่สามารถกระทำเรื่องนี้ได้ก็เหลือเพียงเขาคนเดียวที่เหมาะสมที่สุด มิหนำซ้ำน้องหญิงห้ายังช่วยเขาคิดคำพูดดี ๆ ไว้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 58

    ณ จวนสกุลซ่งซ่งรั่วเจินได้ยินข่าวนี้ก็ดีใจมาก แม้แต่ซ่งอี้อันก็กินข้าวมื้อกลางวันมากขึ้นอีกหนึ่งชาม“ฝ่าบาทตรัสว่าครั้งนี้ทำให้เจ้าต้องเสียใจแล้ว รางวัลพระราชทานเหล่านี้ล้วนมอบให้เจ้า” ซ่งจืออวี้วางผ้าไหมสูจิ่นและปิ่นมุกลงตรงหน้าซ่งรั่วเจิน ทั้งยังพูดกับหลิ่วหรูเยียน “ฝ่าบาทยังรับสั่งว่าท่านพ่อไม่รู้เป็นหรือตาย พระองค์ทรงจำทุกเรื่องที่ท่านพ่อทำเพื่อราชสำนักไว้หมดแล้ว จะต้องไม่ปล่อยให้คนรังแกสกุลซ่งของพวกเราแน่นอน”หลิ่วหรูเยียนขอบตาแดงเรื่อ “ฝ่าบาทยังจำนายท่านได้...”“ท่านแม่ ไม่ช้าก็เร็วท่านพ่อจะต้องกลับมาแน่นอนเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบ “ท่านดูผ้าไหมสูจิ่นเหล่านี้ ข้าดูแล้วสีดอกไม้นี้เหมาะกับท่านมาก ยังมีปิ่นมุกดอกโบตั๋นนี้อีก เหมาะกับท่านยิ่งนัก”หลิ่วหรูเยียนมองผ้าไหมและเครื่องประดับ อารมณ์ดีขึ้นหลายส่วน “นี่ล้วนเป็นฝ่าบาทพระราชทานให้เจ้า เจ้านำไปตัดชุดสวย ๆ มากหน่อยเถอะ”“ฝ่าบาทพระราชทานให้มากเพียงนี้ ท่านแม่ก็เลือกเอามากหน่อยเถิด ที่เหลือข้าค่อยนำไปตัดเสื้อผ้าก็ยังนับว่าพอเหลือ”“ได้ แม่รู้ว่าเจ้ากตัญญู”หลิ่วหรูเยียนสั่งให้บ่าวรับใช้ถือผ้าไหมสูจิ่น ก่อนจะออกไปพร้อมรอย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 59

    อ้างว่ามาหาเจ้าของร่างเดิมและปรากฏตัวข้างกายซ่งอี้อัน ยิ่งไปกว่านั้นยังใจกล้าสารภาพรัก ถูกปฏิเสธอย่างต่อเนื่องหลายครั้งกลับไม่ตัดใจ ซ่งอี้อันถึงได้ค่อย ๆ เปลี่ยนความคิดจนใจที่เนื้อแท้ของจ้าวซูหว่านไม่ใช่คนสงบเสงี่ยม ทว่าซ่งอี้อันควบคุมตนเองรักษามารยาท แม้หมั้นหมายแล้วก็ไม่เคยล่วงเกินเลยแม้แต่น้อย จ้าวซูหว่านไม่อาจข่มความเปล่าเปลี่ยวได้จึงไปคบหากับฉินเซี่ยงเหิง กลิ่นเหม็นเน่าบนตัวของทั้งสองคนผสานเข้ากันได้ดี ชายโรคจิตกับหญิงแพศยา บัดนี้ลอบสานสัมพันธ์ลึกซึ้งจนตั้งครรภ์แล้วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ ซ่งรั่วเจินก็ต้องลอบสบถในใจ!“ข้าไม่เข้าใจ” ซ่งรั่วเจินพูดอย่างไม่เกรงใจจ้าวซูหว่านตาแดงก่ำ “รั่วเจิน เจ้าพูดเช่นนี้ก็เพราะต้องการตีตัวออกห่างจากข้า ข้าเป็นสหายที่ดีของเจ้ามาโดยตลอด ยามนี้ข้าไม่มีโอกาสเป็นพี่สะใภ้ของเจ้าแล้ว ข้าเองก็เสียใจมาก เหตุใดพวกเจ้าต้องโทษข้าด้วยเล่า?”ซ่งรั่วเจิน “...” นี่มันดอกบัวขาว[1]ดอกใหญ่มากเชียวล่ะ“จ้าวซูหว่าน จะพูดอะไรก็ต้องมีมโนธรรม หลังเจ้าถอนหมั้น พวกเราสกุลซ่งเคยว่าอะไรสักคำหรือไม่?”“พี่รองของข้าช่วยเจ้าจึงตาบอด หากเป็นคนมีมโน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 60

    ภายในเรือนจ้าวซูหว่านเห็นว่าซ่งรั่วเจินกับหลินจืออวี้จากไปแล้วจึงได้ถอนหายใจโล่งอก แต่ไหนแต่ไรมาซ่งอี้อันมีอุปนิสัยอบอุ่นอ่อนโยน หากไม่ใช่เพราะพวกซ่งรั่วเจินสองคนนั้นยุแยง เมื่อครู่ก็ไม่มีทางปฏิบัติต่อนางเช่นนั้นบัดนี้เหลือเพียงพวกเขาสองคน ขอเพียงนางใช้ลูกไม้เล็กน้อย ซ่งอี้อันจะต้องให้อภัยนางแน่นอน ชนิดที่ว่าคิดแทนนางและฝากฝังนางไว้กับพี่เซี่ยงเหิง เมื่อถึงเวลานั้นนางก็สามารถแต่งเข้าจวนสกุลฉินได้อย่างไรเสียพี่เซี่ยงเหิงก็น่าสนใจกว่าเจ้าหนอนหนังสือผู้นี้มากนัก!“พี่อี้อัน ข้ารู้ว่าท่านยังมีโทสะภายในใจ รั่วเจินเองก็แค้นข้า แต่ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่ง ไม่มีทางเลือกจริงๆ...”ขอบตาจ้าวซูหว่านเปียกรื้น ท่าทางน้อยใจเหลือหลาย “หากข้าสามารถเลือกได้ ข้าจะไม่ถอนหมั้นกับท่านแน่นอน ข้ารู้สึกอย่างไรกับท่าน ท่านก็รู้”ซ่งอี้อันฟังเสียงร้องไห้ตัดพ้อของฝ่ายหญิงเงียบ ๆ สมองย้อนคิดถึงวันวาน หากไม่ได้ยินบทสนทนานั้นของจ้าวซูหว่านกับฉินเซี่ยงเหิง เขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าความรู้สึกของจ้าวซูหว่านก่อนหน้านี้เป็นความเท็จพวกเขาถอนหมั้นกันเพียงสองสามวัน นางก็ตั้งครรภ์แล้ว ดูก็รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 61

    ไม่ไกลกันนั้น ซ่งรั่วเจินกับซ่งจืออวี้นั่งอยู่บนหลังคารับชมการแสดงแสนสนุกทางด้านล่าง น่าเสียดายที่ขาดเมล็ดแตงไป จึงหมดสนุกไปบ้าง“คิดไม่ถึงว่าแต่ไหนแต่ไรมาพี่รองเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน ปฏิบัติต่อคุณหนูจ้าวก็นุ่มนวลมาก วันนี้สามารถเย็นชาเพียงนี้ได้ ข้ายังกังวลว่าพี่รองจะคิดไม่ตก บัดนี้นับว่าวางใจแล้ว” ซ่งจืออวี้ถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่งซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “พี่รองอุปนิสัยซื่อสัตย์อ่อนโยนจริงนั่นล่ะ ทว่าเขากลับฉลาดมาก ในเมื่อไม่ใช่คนดี ก็ต้องยับยั้งตนเองให้ทันท่วงที เพียงแต่...เกรงว่าจ้าวซูหว่านจะไม่ยอมจากไปง่ายดายเพียงนั้น”“พี่รองพูดถึงขั้นนี้แล้ว หรือสตรีผู้นี้จะยังหน้าหนาไร้ยางอายอยู่ที่นี่ต่ออีกรึ?” ซ่งจืออวี้ประหลาดใจ“ท่านดูไปเถิด” ซ่งรั่วเจินหรี่ตา นางเองก็อยากพิสูจน์ว่าตนเองคิดผิดไปหรือไม่จ้าวซูหว่านเห็นซ่งอี้อันไม่มอบโอกาสให้เลยสักเศษเสี้ยว จึงทำเพียงเอ่ยปาก “ก่อนหน้านี้ข้าทิ้งของสิ่งหนึ่งไว้ในห้องท่าน ข้าสามารถไปหยิบมาได้หรือไม่?”พี่เซี่ยงเหิงสำทับนักสำทับหนา นางมาจวนสกุลซ่งในครั้งนี้จะต้องนำเรียงความที่ซ่งอี้อันเขียนไว้เมื่อก่อนกลับไปให้ได้ อย่างไรเสียตอนนี้ซ่งอี้อันก็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 62

    จ้าวซูหว่านเพิ่งออกจากสกุลซ่งได้ไม่ไกล ก็ถูกฉินเซี่ยงเหิงเร่งรุดมาลากเข้าไปในตรอกเล็กแห่งหนึ่ง“เป็นอย่างไรบ้าง? ของที่ข้าให้เจ้าไปเอาได้มาแล้วหรือไม่?”จ้าวซูหว่านลอบยื่นเรียงความให้ฉินเซี่ยงเหิง สีหน้าภาคภูมิใจ “วางใจเถอะ ท่านให้ข้านำมาข้าก็นำมาแล้ว แต่ท่านไม่ใช่พูดว่าเรียงความของท่านยอดเยี่ยมกว่าซ่งอี้อันหรือ เหตุใดต้องขโมยของเขาด้วยเล่า?”“หากว่ากันตามพรสวรรค์ เดิมทีซ่งอี้อันเทียบข้าไม่ได้ หากไม่ใช่เพราะเขามีความสัมพันธ์อันดีกับอาจารย์ เรียงความที่เขียนล้วนได้รับคำชี้แนะจากอาจารย์ ไฉนเลยจะได้รับคำชมบ่อยครั้ง?”“ข้าไม่อาจยอมทนได้ พูดไปแล้วก็เป็นเพราะอาจารย์กับแม่ทัพซ่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมากอยู่สักหน่อย ซ่งอี้อันถึงได้พึ่งบารมี รอข้าโดดเด่นในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ จะทำให้คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ถึงความสามารถของข้า!”ในดวงตาจ้าวซูหว่านสะท้อนแววเลื่อมใส “พี่เซี่ยงเหิง ข้ารู้ว่าท่านยอดเยี่ยมที่สุด! ของก็นำมาแล้ว เช่นนั้นท่านจะมาสู่ขอข้ายามใด?”“เจ้าพูดกับซ่งอี้อันแล้วหรือ? เขารับปากฝากฝังเจ้าไว้กับข้าหรือไม่?” ฉินเซี่ยงเหิงถามกลับจ้าวซูหว่านลังเลครู่หนึ่ง นางกลับอยากพูด แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 63

    ดวงตากลมของซ่งจืออวี้เบิกกว้าง ตกตะลึงไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง เพราะพี่รองมองไม่เห็นจึงไม่ว้าวุ่น เขาที่กำลังมองดูเช่นนี้กลับรู้สึกตกใจยิ่งนักน้องหญิงห้ากับพี่รองช่างเป็นหนึ่งคนกล้ารักษา หนึ่งคนกล้าเชื่ออย่างแท้จริง!ซ่งรั่วเจินจับเข็มเงินแทงลงบนจุดฝังเข็มอย่างแผ่วเบา พลังวิญญาณไหลเข้าสมองของซ่งอี้อันไปตามเข็ม ค่อย ๆ สลายลิ่มเลือดในสมองส่วนนั้นซ่งอี้อันเพียงรู้สึกปวดหัวระลอกหนึ่ง กำมือทั้งสองข้างแน่นไม่ส่งเสียง สีหน้ากลับซีดเผือด เม็ดเหงื่อผุดพรายบนหน้าผาก“พี่รอง ท่านอดทนไว้ก่อน กระบวนการรักษาค่อนข้างเจ็บ”ครู่ต่อมา ตอนซ่งรั่วเจินดึงเข็มเงินออก สีหน้านางซีดเซียวสะท้อนความอ่อนล้า“น้องหญิงห้า เจ้าไม่เป็นไรนะ?” ซ่งจืออวี้มองน้องหญิงห้าที่กำลังโงนเงนอย่างกังวล ตกตะลึงอย่างสุดระงับ พี่รองดูแล้วคล้ายใกล้อดทนต่อไปไม่ไหว แต่เหตุใดน้องหญิงห้าดูแล้วคล้ายอาการหนักยิ่งกว่าพี่รองเสียอีก?“ข้าไม่เป็นไร” ซ่งรั่วเจินโบกมือ หยิบหมึกพู่กันทางด้านข้างเขียนเทียบยาแผ่นหนึ่ง“มั่วอวี่ เจ้าบดส่วนผสมของยาตามวิธีที่เขียนไว้ในตำรับยานี้ ทาบนผ้าโปร่ง ตอนกลางคืนพี่รองพักผ่อนก็ประคบไว้บนดวงตาของเขา”“ขอร

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status