Share

บทที่ 547

Author: จี้เวยเวย
เพียงเฉินเซียงได้ยินก็รีบไปหาโหย่วฝู ในเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าหลินเปลี่ยนคำพูดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าได้ยินข่าวนี้แล้วจะเปลี่ยนคำพูดหรือไม่?

ถึงตอนนั้นล่วงเกินฝ่าบาท ยังทะเลาะจนแตกหักกับสกุลหลิน รวมสกุลเหยาเข้าไปด้วย เพียงคิดดูก็รู้ว่าจะเป็นฉากยิ่งใหญ่มากเพียงใด

อย่างไรเสียไม่ว่าใครซวย พวกเขาก็ล้วนยินดีจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลง

โหย่วฝูได้ยินแล้วก็อึ้งงัน สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “นี่...นี่จะต้องชุลมุนวุ่นวายมากแน่!”

“รั่วเจิน เมื่อครู่โหย่วฝูมา คงไม่ใช่ว่าเกินเรื่องอะไรภายในจวนหรอกกระมัง?” หลิ่วหรูเยียนถามนางอย่างกังวล

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายในจวนหรอกเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินโบกมือ เอ่ยถาม “ท่านแม่จุดธูปไหว้พระเรียบร้อยแล้วหรือ?”

หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า “หวังว่าพระโพธิสัตว์จะคุ้มครอง ภายภาคหน้าพวกเราสกุลซ่งจะมีความสงบสุข ราบรื่น”

“จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่” ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “ท่านแม่รอข้าเดี๋ยวหนึ่ง ข้าไปจ่ายค่าธูปไหว้พระก่อนเดี๋ยวมาเจ้าค่ะ”

“ไปเถอะ”

สายตาหลิ่วหรูเยียนอ่อนโยน หวังเพียงให้พวกหลินจือเยว่ถูกเนรเทศไปเร็วหน่อย เช่นนี้เจินเอ๋อร์ก็ไม่ต้องถูกคนต่ำต้อยตอแยอีก!

“ว้าย!”

ทันใดนั้น เสี
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 548

    เพียงแต่ นางคิดว่าคล้ายเคยเห็นใบหน้านี้ที่ใดมาก่อน...ทันใดนั้น นางนึกถึงซ่งรั่วเจินที่ระยะนี้มีชื่อเสียงโด่งดังภายในเมืองหลวง หรือก็คือคนที่หลานสาวคนนั้นของนางใส่ร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าก็คือคนตรงหน้านี้นี่ล่ะนึกถึงตรงนี้ สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเก้อกระดากไป มากที่สุดกลับเป็นรู้สึกผิดเพียงเรื่องที่ทั้งคู่เป็นฝ่ายช่วยเหลือนางก่อน ก็รู้ได้ว่าสองคนนี้ล้วนจิตใจดีซ่งรั่วเจินช่วยหลินจือเยว่ดูแลบ้านนานถึงสองปี นางเคยพบหลินรั่วหลานมาก่อน รู้ว่าร่างกายไม่แข็งแรงของนางบำรุงอย่างดีจนฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมายามนางได้ยินก็คิดว่านี่คือเรื่องราวที่งดงาม ใครคิดเล่าว่าหลินจือเยว่เป็นพวกลืมบุญคุณคน ซวงซวงเองก็แย่งสามีคนอื่นวันแต่งงาน ทำให้เกี้ยวของอีกฝ่ายไม่ได้เข้าบ้านแล้วยังต้องถอนหมั้นชีวิตนี้นางและสามีทำเรื่องสง่าผ่าเผยมาโดยตลอด กลับถูกลูกสาวและหลานสาวสร้างปัญหาขึ้นซ้ำๆ ไม่รู้จะเอาหน้าไปพบคนสกุลซ่งได้อย่างไรไม่นาน แม่นมและสาวใช้ของฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็กลับมาแล้ว ในมือแม่นมถือยันต์คุ้มภัยมาแผ่นหนึ่ง เห็นหลิ่วหรูเยียนสองแม่ลูกอยู่ข้างกาย อดสงสัยไม่ได้“ฮูหยินผู้เฒ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 549

    “นี่เกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังดีๆ อยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็หมดสติไปแล้วเล่า?” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้แม่นมทางด้านข้างรีบตอบสีหน้าว้าวุ่น “บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น เมื่อครู่หยินผู้เฒ่ายังดีๆ จู่ๆ ก็หมดสติไม่ฟื้นเจ้าค่ะ”“ฮูหยินผู้เฒ่ามีโรคอะไรหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินทางหนึ่งถามทางหนึ่งจับชีพจรฮูหยินผู้เฒ่า พบว่าอายุมากแล้ว ป่วยเป็นโรคหัวใจ ชีพจรอ่อนแอมาก ยิ่งไปกว่านั้นจากชีพจรยังพบความผิดปกติอยู่รางๆ“ฮูหยินผู้เฒ่าของพวกเรา หลายปีมานี้กินยาอยู่ตลอด ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาฮูหยินผู้เฒ่ามีสติแจ่มชัด กินยาตามเวลาทุกวัน”“วันนี้หลังกินยาก็ขึ้นเขามา อิงตามหลักการแล้วไม่สมควรเกิดเรื่องอะไร!”ซ่งรั่วเจินหยิบยาลูกกลอนออกมาหนึ่งเม็ด “ยานี้ของข้าสามารถทำให้อาการของฮูหยินผู้เฒ่ามั่นคงได้ ทำให้นางฟื้นขึ้นมา”แม่นมชะงักไปเบาๆ นางรู้ฐานะของซ่งรั่วเจินสองคนแล้ว รู้สึกลังเลอยู่บ้าง สองคนนี้น่าจะไม่คิดทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าหลังรู้ฐานะของนางหรอกกระมัง?“ลูกสาวข้ารู้วิชาแพทย์ นางพูดว่ามีประโยชน์ก็ย่อมมีประโยชน์” หลิ่วหรูเยียนคิดว่าแม่นมไม่เชื่อวิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจิน อธ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 550

    “หากเจ้าขวัญกล้านำยานี้ให้ฮูหยินผู้เฒ่ากิน นางก็จะตายอย่างรวดเร็ว!” เฉียนชิวเซียงเอ่ยขึ้นฝานซืออิ๋งพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง “ท่านแม่ข้าพูดถูกแล้ว ข้าอยู่ที่สกุลซ่งมานานหลายปี ไม่มีความดีความชอบก็มีความพยายาม ดีต่อนางไปทุกจุด แต่นางกลับต้องการจัดการข้าให้ตาย!”นางเกลียดซ่งรั่วเจินมาก!ชีวิตที่ดีของนางไม่มีอีกแล้ว ถือสิทธิ์อะไรบัดนี้สกุลซ่งประสบความสำเร็จรุ่งเรืองเช่นนี้?ทั้งๆ ที่ในอดีตหมอมารักษามากมายล้วนพูดว่าซ่งเยี่ยนโจวไม่มีหนทางรักษาแล้ว ต้องพิการไปทั้งชีวิต ไม่สามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง แต่หลังนางจากไปแล้วเขากลับยืนได้?ถือสิทธิ์อะไร!ทั้งๆ ที่เป็นสกุลซ่งตั้งใจวางแผนไว้อย่างดีแล้ว!ก็เพื่อไล่นางไป จะได้ให้ลั่วชิงอินเข้าบ้าน พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ส่วนนางชื่อเสียงเสื่อมเสียไม่หลงเหลือแล้ว!แม่นมข้างกายฮูหยินผู้เฒ่ากู้ลังเลอย่างอดไม่ได้ นางเกิดความกังวลภายในใจ หากฮูหยินผู้เฒ่าเป็นอะไรไป นั่นก็แย่แล้ว!เพียงแต่ หากไม่กินยา ฮูหยินผู้เฒ่าจะทนไหวหรือไม่?“หากข้าจะทำร้ายคนจริง ย่อมต้องใช้วิธีที่ไม่มีใครรู้ จะวางยาฆ่าคนต่อหน้าผู้อื่นกระนั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้ารังเกีย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 551

    “เรื่องนี้จะโทษพวกข้าได้อย่างไร? พวกข้าทำไปเพราะหวังดีต่อฮูหยินผู้เฒ่า เลี่ยงไม่ให้นางถูกคนทำร้ายหมายชีวิตนะ!”“พวกข้าไม่ใช่หมอเสียหน่อย นางอาการกำเริบเกี่ยวอันใดกับพวกข้าด้วย!” เฉียนชิวเซียงรีบร้อนกล่าว“พวกเจ้าดูแลไม่ดีเอง อย่าได้คิดจะโยนความผิดมาให้พวกข้าเชียวนะ!” ฝานซืออิ๋งรีบเสริมเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปภายในชั่วพริบตาของคนตระกูลฝานแล้ว แม่นมและสาวใช้ของตระกูลกู้ก็โมโหสุดขีด เจ้าคนหน้าไม่อายสองคนนี้ จะไร้ยางอายเกินไปแล้ว!วันนี้คุณชายรองสกุลกู้รู้สึกจิตใจไม่สงบตลอดเวลา คิดไปคิดมาก็ยังคงเป็นห่วงมารดาที่อายุมากแล้วแต่ยังไปไหว้พระขอพรจึงพักงานในมือไว้ก่อนชั่วคราวแล้วเดินทางมาที่วัดแม้จะคุยกันแล้วว่าจะไม่ช่วยเหลืออวิ๋นเวย แต่ในใจมารดาก็ยังปล่อยวางไม่ได้จึงไปไหว้พระเพื่อสงบจิตสงบใจเขาเข้าใจความรู้สึกของมารดา ยิ่งเข้าใจว่าหากช่วยเหลืออวิ๋นเวย มีครั้งที่หนึ่งก็ย่อมมีครั้งที่สอง ต่อไปก็จะไม่จบไม่สิ้นทว่าเขาเพิ่งมาถึงก็เห็นว่ามารดาเป็นลมหมดสติ ฉับพลันนั้นสีหน้าก็พลันเปลี่ยน“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”แม่นมบอกเล่าเรื่องราวออกมาด้วยสีหน้าซีดขาวตัวสั่นเทิ้ม ครั้นกู้ชิงซิวรู้ว่าซ่งรั่วเจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 552

    หากการยืนอยู่บนจุดสูงสุดของคุณธรรมทำให้พวกเขาเห็นว่าความปรองดองคือสิ่งล้ำค่า ยอมให้อภัยพวกกู้อวิ๋นเวยเพราะเห็นแก่ที่เป็นคนในครอบครัว นั่นต่างหากจึงจะน่าสะอิดสะเอียนอย่างแท้จริงหลิ่วหรูเยียนไม่ได้คิดมาก เห็นซ่งรั่วเจินบอกว่าไม่มีปัญหาก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก“ความจริงราชครูกู้และฮูหยินผู้เฒ่ากู้ล้วนเป็นคนดี ก่อนหน้านี้พ่อเจ้าเคยได้รับบุญคุณจากตระกูลกู้ แม้แต่ปู่เจ้ากับราชครูกู้ก็มีการคบหากัน”“ภายหลังเนื่องจากเรื่องบางอย่าง ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายจึงห่างเหินกันไป ตอนข้าแต่งเข้ามาก็ไม่มีการไปมาหาสู่กันอีกแล้ว พ่อเจ้ากลับมักส่งของขวัญไปให้บ่อยๆ เพื่อเป็นการแสดงมิตรไมตรี”“แม้ว่าฉินฮูหยินและฉินซวงซวงจะล้ำเส้นเกินไปจนไม่คู่ควรให้เอ่ยถึง แต่เห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่ากู้เกิดเรื่อง พวกเราสามารถช่วยได้ก็ช่วยเถอะ”หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจ ซ่งหลินหายสาบสูญไปนานขนาดนี้ก็ยังคงไม่มีข่าวคราวใดส่งกลับมาแม้ว่ามิตรสหายของซ่งหลินจะกลับไปยังสมรภูมิฝั่งนั้นอีกครั้ง บอกว่าเป็นต้องเห็นคนตายต้องพบศพ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพาซ่งหลินกลับมาให้ได้เดิมทีนางยังมีความหวังมาตลอด แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ความสิ้นหวังในใจน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 553

    ก่อนหน้านี้หมอเคยบอกว่าโรคหัวใจของมารดาหนักหนาสาหัสมาก ด้านหนึ่งเพราะเป็นมาหลายปีจนเรื้อรัง อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะอายุมากแล้ว ร่างกายอ่อนแอลงทุกทีหากหมดสติ สถานการณ์อันตรายอย่างยิ่ง อาจถึงขั้นอาการทรุดหนัก แต่ยามนี้หลังฟื้นขึ้นมาแล้วกลับแลดูไม่ต่างจากยามปกติ ปราศจากท่าทางไม่สบายใดๆ?ควรทราบว่าก่อนหน้านี้ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็เคยหมดสติมาก่อน หลังฟื้นขึ้นมาแล้วก็มักจะทรมานมาก นอนซมบนเตียงหลายวันถึงจะลุกขึ้นมาได้ ปฏิกิริยาในวันนี้เรียกได้ว่าเป็นความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงแม่นมเห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่าฟื้นแล้ว ฉับพลันนั้นก็มองพวกเฉียนชิวเซียงด้วยสายตาโกรธเคือง“เป็นเพราะพวกท่านพูดจาเหลวไหล เกือบทำให้โรคของฮูหยินผู้เฒ่าได้รับการรักษาล่าช้าไปเสียแล้ว พวกท่านต้องการอะไรกันแน่!”เฉียนชิวเซียงพลันหน้าเปลี่ยนสี “เรื่องนี้จะโทษพวกข้าได้อย่างไรกัน? พวกข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น ซ่งรั่วเจินผู้นั้นมีความแค้นกับพวกท่านลึกล้ำปานนี้ ยาที่นางให้พวกท่านก็ยังกล้ากิน!”“พวกข้าแค่โน้มน้าวด้วยความหวังดี ไม่ได้บังคับไม่ให้พวกท่านกินเสียหน่อย!”“ใช่แล้ว! ไม่แน่ว่าก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินอาจวางยาพิษฮูหยินผู้เฒ่าของพวก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 554

    “ท่านแม่ ท่านว่าทำไมซ่งรั่วเจินถึงโชคดีขนาดนี้นะ นางได้รับการเหลียวแลจากฉู่อ๋องเชียวนะเจ้าคะ!”ฝานซืออิ๋งยิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจ ตอนนั้นหลังไปจากตระกูลซ่งแล้ว คิดว่าพวกเขาจะต้องเคราะห์ร้ายแน่นอน อย่างไรเสียก็แค่คนพิการคนหนึ่ง นางตีจากมาหาเป็นไรไม่ผู้ใดจะคิดว่าซ่งเยี่ยนโจวไม่เพียงยืนขึ้นได้อีกครั้ง แต่ยังได้กลับมารับตำแหน่งแม่ทัพตงจงหลางอีกด้วยควรทราบว่าเรื่องที่ซ่งเยี่ยนโจวได้เป็นแม่ทัพตงจงหลางตั้งแต่อายุยังน้อยมีคนมากมายเท่าไรที่รู้สึกอิจฉา ลับหลังยิ่งไม่รู้ว่ามีคนตั้งมากมายเท่าไรอิจฉานางที่ได้แต่งงานกับบุรุษที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ตระกูลซ่งยังดีขึ้นทุกด้าน ซ่งอี้อันสอบรับราชการได้ ซ่งรั่วเจินก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะได้เป็นพระชายาฉู่อ๋องเรื่องสำคัญที่สุดก็คือ...ทุกความเปลี่ยนแปลงของตระกูลซ่งยังเกิดขึ้นหลังนางจากมาแล้ว ถึงขั้นมีคนบอกว่านางเป็นดาวหายนะเพราะเหตุนี้อีกด้วย!ช่างน่าโมโหนัก!“ยังไม่ใช่เพราะเจ้าโง่หรือไร! ตอนนั้นถ้าจับซ่งเยี่ยนโจวไว้แน่นๆ ต่อให้เขากลายเป็นคนพิการ ตระกูลซ่งก็ยังมีกิจการมากมาย ชั่วชีวิตมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ!”“ยามนี้เป็นอย่างไรเล่า ผลประโยชน์อันใดไม่ได้มาส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 555

    “ท่านแม่ แค่เจอกันโดยบังเอิญเท่านั้น พวกเรากลับด้วยกันเถอะเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินกล่าวหลิ่วหรูเยียนยิ้มบาง ลดเสียงลงเอ่ยว่า “ปกติท่านอ๋องยุ่งเสียขนาดนั้น จะบังเอิญมาเจอบ่อยๆ ได้อย่างไรกัน?”“ตอนแรกที่พ่อเจ้าตามเกี้ยวข้าก็ใช้ข้ออ้างเช่นนี้เหมือนกัน ไม่ว่าไปที่ไหนก็บอกว่าบังเอิญบ้าง ผ่านทางมาพอดีบ้าง ทางนี้นอกจากคนที่มาไหว้พระแล้วก็ไม่มีใครมาหรอกนะ”“ข้าได้ยินมาว่าฉู่อ๋องไม่เคยไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะแวะผ่านมาทางนี้ได้อย่างไรเล่า?”ซ่งรั่วเจินได้ยินหลิ่วหรูเยียนเปิดโปงข้ออ้างนี้ตรงๆ ก็อดเหลือบมองฉู่จวินถิงไม่ได้ เห็นฝ่ายหลังปราศจากความกระอักกระอ่วนที่ถูกเปิดโปงแม้แต่น้อย เพียงแต่มองนางยิ้มๆดวงตาสีดำเจิดจรัสคู่นั้นสะท้อนภาพดอกท้อดอกแล้วดอกเล่า งดงามชวนมองเป็นอย่างยิ่งชั่วขณะนั้น กลับเป็นนางที่ต้านทานแววตาเช่นนั้นไม่ได้จนเป็นฝ่ายยอมแพ้ไปเสียก่อนจนกระทั่งขึ้นรถม้า ซ่งรั่วเจินค่อยเอ่ยว่า “วันนี้ท่านมาได้อย่างไร?”“เมื่อครู่ก็บอกแล้วนี่ว่าบังเอิญผ่านมา” ฉู่จวินถิงกล่าว“ข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นนี้ของท่าน แม้แต่แม่ของหม่อมฉันยังรู้ว่าไม่จริง ยังคิดจะหลอกหม่อมฉันอีก?” ซ่งรั่วเจินกล่

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 738

    “ข้าว่าเรื่องนี้ก็เลิกแล้วต่อกันเพียงเท่านี้จะดีกว่า ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเชิญเช่ออ๋องมาแล้วละ”หลังนางกลับบ้านเดิม เช่ออ๋องก็มารับนางเป็นการเฉพาะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างหาได้ยากถ้าเช่ออ๋องรู้ว่าตนเองมาหาเรื่องถึงตระกูลซ่งจะต้องพิโรธมากเป็นแน่!“นั่นจะได้อย่างไรกัน?” ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “พี่สะใภ้ถึงขั้นตั้งใจมาคาดคั้นถึงตระกูลซ่ง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจผิดมากเพียงใด ถ้าข้าไม่มาเห็นเข้าพอดี เกรงว่าป่านนี้ซ่งรั่วเจินคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว”“นอกจากนี้ อีกสองวันข้าก็จะลงใต้แล้ว ถ้าไม่อธิบายเรื่องเข้าใจผิดกันให้ชัดเจน พอข้ากลับมาก็ไม่ได้เห็นซ่งรั่วเจินแล้วน่ะสิ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าติดต่อกัน กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บช้ำใจว่า “ท่านอ๋องพูดถูกเพคะ หม่อมฉันหวาดกลัวยิ่งนัก!”ซ่งจืออวี้เห็นน้องสาวของตนเองแสดงละครร่วมกับฉู่อ๋อง ใบหน้าพระชายาเช่ออ๋องเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงแล้วเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว จนเขาอดตะลึงไม่ได้ความเร็วในการเปลี่ยนสีหน้านี้ช่างรวดเร็วมากจริงๆ!หลังจากอวิ๋นหยางไปเชิญเช่ออ๋อง พระชายาเช่ออ๋องก็กระวนกระวายอย่างเห็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 737

    น้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้คนทั้งสองภายในห้องต่างนิ่งอึ้งไป ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงที่เดินเข้ามาในห้องอย่างแช่มช้า ดวงตางามก็ฉายแววตกใจเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร?คงไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของตนเองหรอกนะ?ซ่งจืออวี้อ่านสายตาน้องสาวตนเองออกจึงเหยียดริมฝีปากอย่างอ่อนใจ หัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ของซ่งรั่วเจินจึงหยุดเต้นไปในที่สุดได้ยินแล้วจริงๆ ด้วย!ชั่วขณะที่พระชายาเช่ออ๋องเห็นว่าฉู่อ๋องมาแล้ว ใบหน้าก็พลันถอดสี คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงเพียงนี้!ความลนลานวาบผ่านดวงตานาง แต่ก็กลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว นางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็ฉู่อ๋องมานี่เอง”“ข้าเพิ่งมาถึงก็ได้ยินว่าพี่สะใภ้กำลังข่มขู่คนอยู่ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องใดขึ้นหรือถึงได้มาขู่เอาชีวิตคนในจวนสกุลซ่งเช่นนี้?”ใบหน้าหล่อเหลาของฉู่จวินถิงมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ เลยสักนิด น้ำเสียงผ่อนคลายเรียบเรื่อยราวกับเป็นการถามไถ่ธรรมดาทั่วไป ทว่าความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาทั่วร่างรวมถึงสายตาเย็นเฉียบทำให้คนเข้าใจว่า เขามีโทสะแล้ว“ซ่งรั่วเจินไม่เคารพข้า...”พระชายาเช่ออ๋องยังพูดไม่จบ ฉู่จวินถิงก็กล่าวขึ้นว่า “อ้อ? พี่สะใภ้มาถึงตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 736

    “ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำตัวไม่รู้ดีชั่วเช่นนี้ วันนี้ข้าให้โอกาสเจ้ารักษาก็คือให้เกียรติเจ้า!”“ถ้าฉู่อ๋องรู้ว่าเจ้าไปยั่วยวนเช่ออ๋องลับหลังเขา เจ้าคิดว่าฉู่อ๋องยังจะชอบเจ้าอยู่งั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมา นางยั่วยวนเช่ออ๋อง?“พระชายาเช่ออ๋อง ท่านคิดว่าหม่อมฉันสมองไม่ดีหรือสายตามีปัญหาหรือเพคะ?”“ฉู่อ๋องยังไม่แต่งงาน กล้าหาญชาญศึกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงามของเมืองหลวง ไยหม่อมฉันจะต้องปล่อยมือจากฉู่อ๋องไปยั่วยวนเช่ออ๋องด้วยเพคะ?”เมื่อซ่งจืออวี้มาหาน้องหญิงห้าเป็นเพื่อนฉู่อ๋อง ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ก็ได้ยินคำพูดเช่นนี้ดังออกมาจากข้างใน เขาเบิกตากว้างอย่างอดไม่อยู่เหตุใดสตรีวิปลาสผู้นี้จึงมาใส่ร้ายน้องหญิงห้าส่งเดชเช่นนี้!“เช่ออ๋องไม่ดีตรงไหน? ฉู่อ๋องเย็นชาเสียขนาดนั้น เหมือนก้อนหินไม่มีผิด ถ้าไม่ระวังก็อาจเสียชีวิตเอาได้ ไหนเลยจะอ่อนโยนเหมือนเช่ออ๋อง?”พระชายาเช่ออ๋องแย้งกลับมาอีกประโยค “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ามันไม่รู้จักพอ!”“ฉู่อ๋องหน้าตาหล่อเหลาปานนั้น ถึงเขาจะตีหน้าเย็นชาทั้งวันแต่ก็เป็นชายรูปงามที่หาได้ยากนักในโลกนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 735

    ซ่งรั่วเจินเพิ่งมาถึงโถงหน้าก็เห็นพระชายาเช่ออ๋องที่แต่งกายอย่างหรูหราอาภรณ์สีชมพูตัดเย็บจากผ้าแพรชั้นดี คลุมทับด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาว รูปโฉมนางเหมือนสาวน้อยที่งดงามน่ารัก ผิวพรรณขาวบริสุทธิ์ ดวงตาชั้นเดียวเชิดขึ้นเล็กน้อยทอประกายคมกริบแม่นมสี่คนกับสาวใช้สี่คนยืนอยู่ข้างกาย กล่าวได้ว่าวางมาดใหญ่โตยิ่งนัก“คารวะพระชายาเช่ออ๋องเพคะ”ซ่งรั่วเจินแสดงคารวะ นางรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามจับจ้องตนเองตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว แต่การจ้องมองเช่นนี้...แสดงท่าทีของผู้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ในใจก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วนเห็นที...จะไม่ได้มาดีสินะ!“เจ้าก็คือซ่งรั่วเจิน?”พระชายาเช่ออ๋องมองประเมินซ่งรั่วเจิน ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าแม่นางผู้นี้เป็นหญิงงามผู้หนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถอาศัยสถานะหญิงที่เคยถอนหมั้นไปเข้าตาฉู่อ๋องได้แล้วสายตาฉู่อ๋องสูงส่งมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ไม่เคยต้องตาแม่นางคนใดมาก่อน แต่กลับถูกนางล่อลวงจนลุ่มหลงหัวปักหัวปำ ชั่วขณะนี้เมื่อได้เห็นแล้วก็จำต้องยอมรับว่างดงามจริงดังกล่าว“เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบรับ “ไม่ทราบว่าพระชายาเช่ออ๋องมาหาหม่อมฉันด้วยธุระอันใดหรือเพคะ?”“ข้าไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status