แชร์

บทที่ 555

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“ท่านแม่ แค่เจอกันโดยบังเอิญเท่านั้น พวกเรากลับด้วยกันเถอะเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินกล่าว

หลิ่วหรูเยียนยิ้มบาง ลดเสียงลงเอ่ยว่า “ปกติท่านอ๋องยุ่งเสียขนาดนั้น จะบังเอิญมาเจอบ่อยๆ ได้อย่างไรกัน?”

“ตอนแรกที่พ่อเจ้าตามเกี้ยวข้าก็ใช้ข้ออ้างเช่นนี้เหมือนกัน ไม่ว่าไปที่ไหนก็บอกว่าบังเอิญบ้าง ผ่านทางมาพอดีบ้าง ทางนี้นอกจากคนที่มาไหว้พระแล้วก็ไม่มีใครมาหรอกนะ”

“ข้าได้ยินมาว่าฉู่อ๋องไม่เคยไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะแวะผ่านมาทางนี้ได้อย่างไรเล่า?”

ซ่งรั่วเจินได้ยินหลิ่วหรูเยียนเปิดโปงข้ออ้างนี้ตรงๆ ก็อดเหลือบมองฉู่จวินถิงไม่ได้ เห็นฝ่ายหลังปราศจากความกระอักกระอ่วนที่ถูกเปิดโปงแม้แต่น้อย เพียงแต่มองนางยิ้มๆ

ดวงตาสีดำเจิดจรัสคู่นั้นสะท้อนภาพดอกท้อดอกแล้วดอกเล่า งดงามชวนมองเป็นอย่างยิ่ง

ชั่วขณะนั้น กลับเป็นนางที่ต้านทานแววตาเช่นนั้นไม่ได้จนเป็นฝ่ายยอมแพ้ไปเสียก่อน

จนกระทั่งขึ้นรถม้า ซ่งรั่วเจินค่อยเอ่ยว่า “วันนี้ท่านมาได้อย่างไร?”

“เมื่อครู่ก็บอกแล้วนี่ว่าบังเอิญผ่านมา” ฉู่จวินถิงกล่าว

“ข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นนี้ของท่าน แม้แต่แม่ของหม่อมฉันยังรู้ว่าไม่จริง ยังคิดจะหลอกหม่อมฉันอีก?” ซ่งรั่วเจินกล่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
patty
ชอบๆ มีอีกเยอะหน่อยจ๊ะ
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
กรี๊ด!! พระนางหยอกเย้ากัน นานๆ จะมีให้เห็นบ้าง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 556

    “อาการคุณชายหร่วนเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”“หลังเจ้ารักษาอาการเขา อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สองวันนี้ไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว”ฉู่จวินถิงอดจะชมเชยไม่ได้ วิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจินเลิศล้ำจริงๆ ต่อให้ในเมืองหลวงมีหมอมากมายก็ยังไม่มีใครสามารถเทียบเคียงนางได้“เช่นนั้นก็ดีแล้วเพคะ” ซ่งรั่วเจินถอนหายใจโล่งอก“คราวก่อนรีบร้อนเกินไป อาการของอวี้เฉิงไม่สู้ดี เรื่องบางอย่างจึงไม่ทันได้บอกเจ้า สองวันนี้ค่อยนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องบอกเจ้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับบิดาเจ้า” ฉู่จวินถิงกล่าวซ่งรั่วเจินได้ยินแล้วดวงตาก็พลันวาววับ พอลองตรองดู...ถึงเวลาที่ท่านพ่อจะกลับมาแล้วจริงๆนางรู้มาตลอดว่าบิดายังไม่ตาย ทั้งยังเคยทำนายพบว่าเขาสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยจึงไม่ได้เข้าไปสอดมืออย่างไรเสีย กระดูกหักก็สมควรพักรักษาตัวดีๆ รีบร้อนกลับมาหาใช่เรื่องดีไม่ ในฐานะคนในสำนักวิชาเต๋า เปลี่ยนแปลงมากเกินไปก็หาใช่เรื่องดี ในเมื่อไม่มีผลกระทบ มิสู้รอคอยอย่างอดทนในนิยายต้นฉบับเวลานี้ตระกูลซ่งตกต่ำไปแล้ว ไม่สามารถรับมือจนซ่งหลินกลับมาได้ แต่ตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป บิดากลับมาทุกอย่างก็จะกลายเป็นข่าวดี!หลังจากหร่วนอวี้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 557

    หร่วนอวี้เฉิงมีสีหน้าจริงจัง ความรู้สึกขอบคุณของเขาไม่อาจใช้ถ้อยคำมาบรรยายได้เลย“คุณชายหร่วนเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าสามารถช่วยเหลือได้ก็ยินดีนัก นอกจากนี้ ข้ายังรู้จักกับแม่นางหร่วน ช่วยเหลือเป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินกล่าวเดิมนั้นซ่งรั่วเจินไม่นับว่าคุ้นเคยกับหร่วนอวี้เฉิงรวมถึงฉู่อ๋อง แต่ได้คุยกันสักพักก็รู้สึกว่าใกล้ชิดกว่าเดิมไม่น้อยฉู่อ๋องเดิมก็มีนิสัยน่าสนใจ เมื่อมาปะทะคารมกับหร่วนอวี้เฉิงก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่“อวี้เฉิง เจ้าบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับรั่วเจินไม่ใช่หรือ?” ฉู่จวินถิงกล่าวเมื่อได้รับคำเตือน หร่วนอวี้เฉิงก็รีบพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้ากลับมาจากชายแดนคราวนี้ ได้ตรวจสอบพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับแม่ทัพซ่ง”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น ซ่งรั่วเจินก็นึกยินดี แม้แต่ฉู่อวิ๋นกุยที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้าประหลาดใจ“หลังจากใต้เท้าซ่งหายสาบสูญจากสนามรบครั้งนั้นก็ไร้ข่าวคราวเรื่อยมา รอมานานขนาดนี้ก็ยังตรวจไม่พบข่าวคราวใดๆ เจ้าคงไม่ได้พบเบาะแสเกี่ยวกับแม่ทัพซ่งแล้วหรอกนะ?”ถ้าพบเบาะแสจริง นี่ย่อมเป็นข่าวดียิ่งสำหรับตระกูลซ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!เขาเข้าใจนิสัยหร่วนอวี้เฉิงดี หากเป็นข่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 558

    ฉู่อวิ๋นกุยกับหร่วนอวี้เฉิงเห็นอย่างนั้นก็สบตากันอย่างอดไม่อยู่ หากไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ผู้ใดจะกล้าเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าคือฉู่จวินถิงที่พวกเขารู้จักมาหลายปี!ชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงรัก...เหมือนต้องพิษร้ายโดยแท้!ซ่งรั่วเจินจับชีพจรให้หร่วนอวี้เฉิงอีกครั้งจนแน่ใจว่าอาการดีขึ้นแล้วจริงๆ ขอเพียงพักรักษาตัวอย่างเต็มที่ ผ่านไปสักพักก็จะฟื้นฟูโดยสมบูรณ์หร่วนอวี้เฉิงดีใจยิ่ง ตัดสินใจว่าจะกลับไปวันพรุ่งนี้ ไม่ได้กลับไปนานเพียงนี้ ต่อให้ปิดข่าวไว้ดีเพียงไร เกรงว่าคนที่บ้านก็คงค้นพบพิรุธไปแล้วณ จวนตระกูลกู้หลังจากฮูหยินผู้เฒ่ากู้กลับมาถึงจวน กู้ชิงซิวก็ตามหมอมาทันที“หมอโจว ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าหากท่านแม่หมดสติไป หมายความว่าอาการทรุดลงใช่หรือไม่?”หมอโจวมีสีหน้าหนักอึ้ง “ฮูหยินผู้เฒ่าหมดสติไปหรือขอรับ?”“วันนี้จู่ๆ ท่านแม่ก็หมดสติไประหว่างไปไหว้พระ หลังจากนั้นโชคดีที่มีคนให้ยามาเม็ดหนึ่ง ครั้งนี้ท่านแม่จึงได้สติคืนมา”กู้ชิงซิวจำคำพูดก่อนหน้านี้ของท่านหมอได้ มารดาเป็นโรคเรื้อรังมานานปี ต่อให้ระมัดระวังมาโดยตลอด แต่เมื่ออายุมากขึ้น อาการก็ยิ่งควบคุมได้ยากกว่าเดิมหมอโจวได้ยินแล้วก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 559

    เวลานั้น กู้ชิงเหยี่ยนกับกู้ชิงเจ๋อรู้จากปากข้ารับใช้แล้วว่าหลังจากมารดาหมดสติไปบนเขาก็ได้สติคืนมาเพราะได้ยาจากแม่นางตระกูลซ่ง“พี่ใหญ่ ท่านว่าพี่รองทำแบบนี้เหลวไหลหรือไม่? ทั้งที่รู้ความแค้นระหว่างตระกูลซ่งกับพวกเรา พวกนั้นจะช่วยเหลือท่านแม่อย่างจริงใจได้อย่างไรกัน?”“ถ้าท่านแม่เป็นอะไรไป จะต้องเป็นพวกนั้นที่จงใจคิดร้ายเป็นแน่!”กู้ชิงเจ๋อพลันระเบิดออกมา เขาอยากเปิดกะโหลกกู้ชิงซิวดูจริงๆ ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เกรงว่าคงเสียสติไปแล้วถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้!กู้ชิงเหยี่ยนกลับเยือกเย็นกว่าเขามาก “ข้าเชื่อในความประพฤติของตระกูลซ่ง หลายปีนี้กิตติศัพท์ของตระกูลซ่งในเมืองหลวงเป็นอย่างไรทุกคนล้วนรู้ดี เดิมก็เป็นตระกูลที่มีคุณธรรม ไม่เคยทำร้ายผู้อื่น”“นอกจากนี้ คนที่มีความแค้นกับพวกเขาคือตระกูลฉิน ตระกูลกู้ของพวกเราไม่เคยผูกความแค้นกับพวกเขา”“พี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงเป็นเหมือนพี่รองไปอีกคนเล่า? อวิ๋นเวยเป็นน้องสาวของพวกเรานะ นางแซ่กู้ เช่นนั้นก็เป็นคนในตระกูลกู้ของพวกเรา!”“ตอนนี้อวิ๋นเวยกับซวงซวงยังถูกคุมขังอยู่ในคุก พวกนั้นอยากให้พวกเราตายใจจะขาด ยังหวังให้พวกนั้นช่วยเหลือท่านแม่ นี่มิเท่ากับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 560

    “คุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก่อนหน้านี้สองขาพิการ คุณชายรองตระกูลซ่งยิ่งตาบอดสองข้าง หมอทั้งเมืองหลวงแทบถูกเชิญไปตรวจมาหมดแล้ว ล้วนแต่ไม่มีวิธีรักษา”“แต่ก่อนหน้านี้เริ่มจากคุณชายรองตระกูลกู้รักษาดวงตาสองข้างจนหายดี หลังจากนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก็กลับมายืนได้อีกครั้ง”“ทุกคนล้วนพูดกันว่าตระกูลซ่งหาหมอเทวดาที่เก่งกาจคนหนึ่งมาได้ แต่มีคนไม่น้อยไปสอบถามก็ไม่ได้ข่าวคราวอันใดแม้แต่น้อย”“ไม่เพียงเท่านี้ ตระกูลซ่งจะเป็นดองกับตระกูลลั่ว สุขภาพของแม่นางตระกูลลั่วไม่ดีมาโดยตลอด หลังจากตกน้ำแล้วอาการก็ยิ่งทรุดหนัก”“แต่ข้าได้ยินว่าตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว คิดว่าจะต้องเป็นฝีมือหมอเทวดาเบื้องหลังตระกูลซ่งผู้นั้นเป็นแน่!”ได้ยินดังนั้น พี่น้องตระกูลกู้ก็คิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาได้ เรื่องนี้มีคนเล่าลือกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถามแล้วไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อันใด ทุกคนจึงค่อยๆ ถอดใจไปในที่สุด“น้องรอง พวกเราต้องไปตระกูลซ่งสักรอบ”กู้ชิงเหยี่ยนตัดสินใจทันที พวกเขาไม่หวังว่าจะสามารถรักษาโรคของมารดาให้หายขาด ขอเพียงช่วยให้อาการของมารดาคงที่ นั่นก็เป็นเรื่องดียิ่งแล้วกู้ชิงซิวพยักหน้า “ข้าจะให้คนไปเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 561

    “พี่ใหญ่ เหตุใดจึงกล่าววาจาร้ายแรงเช่นนั้นเล่า? พี่รอง ท่านดูเขาสิ...”“พี่ใหญ่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว” กู้ชิงซิวเองก็เอ่ยด้วยใบหน้าเยียบเย็นเช่นกัน “หากเจ้าอยากไปก็ไปเสียเถิด ส่วนเรื่องพ่อแม่ต่อไปพวกข้าจะดูแลตอบแทนคุณท่านอย่างดีเอง“หากเจ้ายังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง วันข้างหน้าก็จงกตัญญูต่อพ่อแม่เสียบ้าง อย่างไรเสียเจ้าอยู่ข้างนอกก็มีเรือนมีเหย้าตน จะอยู่กับน้องสาวแสนดีของเจ้าก็สุดแล้วแต่ใจเจ้าเถิด แต่อย่าหวนมาหาพวกข้าอีก!”กู้ชิงเจ๋อตะลึงงันอยู่กับที่ ไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าตนเพียงกล่าวช่วยน้องสาวไปไม่กี่คำเท่านั้น พวกเขาก็ถึงกับคิดจะตัดสัมพันธ์กับเขาเสียแล้ว!“อวิ๋นเวยเป็นน้องสาวของพวกท่าน หาใช่ศัตรู! ข้าก็เพียงอยากช่วยเหลือนางเท่านั้น แต่พวกท่านกลับโกรธเกรี้ยวได้ถึงเพียงนี้ ข้าล่ะไม่เข้าใจจริงๆ!”กู้ชิงเจ๋อเองก็เริ่มมีน้ำโหแล้วเช่นกัน เขารู้สึกเพียงว่าสองคนนี้อาจโดนสกุลซ่งครอบงำไปแล้วก็ได้ จึงได้ทำตัวไร้เหตุผลได้ถึงเพียงนี้?“ยังคิดไม่ได้ก็ไปทบทวนเสียให้ดี คิดได้เมื่อใดค่อยกลับมา!”“หากคิดอย่างไรก็ยังคิดไม่ได้ ก็ไปหาน้องสาวแสนดีของเจ้าเสียเถิด!”กู้ชิงซิวคร้านจะต่อล้อต่อเถียง คิดแต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 562

    ตราบใดที่หลินรั่วหลานกลับคำพูดเสีย ความผิดทั้งหมดก็ย่อมไม่ตกอยู่ที่นางอีกต่อไปกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นางจะต้องออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่!“ลูกแม่ ท้องนี้ของเจ้าถือว่าดียิ่งนัก หากมิมีเรื่องพวกนี้แล้วเล่าก็ จะดีแค่ไหนหากเจ้าได้พักผ่อนดูแลครรภ์อยู่กับบ้านให้ดี?”“บัดนี้ต้องตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเลวร้ายเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่ดีกับเด็กในครรภ์เจ้านัก”กู้อวิ๋นเวยมองฉินซวงซวงอย่างห่วงใย ก่อนจะเหลือบมองหลินจือเยว่ด้วยความไม่พอใจ “เรื่องก่อนนี้ข้ามิอยากพูดถึงแล้ว บัดนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดเจ้าก็ต้องดูแลเด็กในครรภ์นี้ให้ดี!”“ซวงซวงมิเคยทำสิ่งใดผิดต่อเจ้า ในเมื่อเจ้าเป็นบุรุษ จะให้ภรรยาและลูกต้องมารับเคราะห์ด้วยกันหมดได้อย่างไรเล่า!”หลินจือเยว่รู้สึกสลับซับซ้อนในใจ เขาย่อมเข้าใจความหมายของกู้อวิ๋นเวยดี ซวงซวงกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา ย่อมต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพียงแต่เมื่อคิดดูแล้ว เรื่องครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย หากต้องให้เขามาแบกรับทุกสิ่งอย่างแล้วเล่าก็ ในใจเขาเองก็อดรู้สึกขัดข้องไม่ได้หากไม่ใช่เพราะซวงซวง เขาก็คงไม่ต้องกลายมาเป็นคนคุก แล้วยังต้องทนฟังถ้อยคำตำหนิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 563

    “กว่าเจ้าจะมีลูกได้สักคนมิได้ง่ายดาย ขอเพียงนางตั้งใจคลอดเด็กคนนี้อย่างสงบ ข้าเชื่อว่าด้วยกำลังของตระกูลฉิน ย่อมมิปล่อยให้นางต้องลำบาก จะต้องมีหนทางให้เจ้าได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้งเป็นแน่”ทว่าเมื่อได้ฟังถ้อยคำนี้แล้วหลินจือเยว่กลับเผยสีหน้าขมขื่นออกมา“เป็นไปมิได้หรอกขอรับ แม่ทัพฉินก็ปลดฉินฮูหยินไปแล้ว กระทั่งสองแม่ลูกคู่นั้นยังมิอยากจะข้องเกี่ยว เช่นนั้นจะมาช่วยเหลือข้าได้อย่างไร?”ได้ยินเช่นนั้น หลินรั่วหลานถึงกับเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้าว่ากระไรนะ? แม่ทัพฉินจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพวกนางแม่ลูกได้อย่างไร?”“เป็นเรื่องจริงขอรับ” หลินจือเยว่ถอนหายใจยาวเหยียด แรกได้ยินข่าวเขาก็รู้สึกตกใจเช่นกัน ทว่าเมื่อลองคิดดูแล้วแต่ไหนแต่ไรแม่ทัพฉินก็เป็นคนไม่แยแสเช่นนี้อยู่แล้วขณะนั้นเอง หลินรั่วหลานก็พลันลุกพรวดขึ้นมา ตะโกนด่ากราดกู้อวิ๋นเวยด้วยความเดือดดาล“นังหญิงชั่ว! เจ้าโกหกข้า!”กู้อวิ๋นเวยกลับหัวเราะเยาะขึ้นมา “ข้าหลอกเจ้าแล้วจะอย่างไร? หากมิใช่เพราะเจ้าก่อเรื่อง มีหรือที่ข้าจะถูกปลดได้?”“หากเจ้ามิก่อเรื่องเช่นนี้ ข้าก็ยังมีโอกาสช่วยพวกเขาได้ แต่ตอนนี้เจ้ากลับทำให้ข้าสูญเ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 981  

    ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”    นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์    “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”    เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา    “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”    แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?    นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่    หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 980

    นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 979

    “ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 978

    “เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status