แชร์

บทที่ 556

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“อาการคุณชายหร่วนเป็นอย่างไรบ้างเพคะ?”

“หลังเจ้ารักษาอาการเขา อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สองวันนี้ไม่รู้สึกเจ็บอีกแล้ว”

ฉู่จวินถิงอดจะชมเชยไม่ได้ วิชาแพทย์ของซ่งรั่วเจินเลิศล้ำจริงๆ ต่อให้ในเมืองหลวงมีหมอมากมายก็ยังไม่มีใครสามารถเทียบเคียงนางได้

“เช่นนั้นก็ดีแล้วเพคะ” ซ่งรั่วเจินถอนหายใจโล่งอก

“คราวก่อนรีบร้อนเกินไป อาการของอวี้เฉิงไม่สู้ดี เรื่องบางอย่างจึงไม่ทันได้บอกเจ้า สองวันนี้ค่อยนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องบอกเจ้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับบิดาเจ้า” ฉู่จวินถิงกล่าว

ซ่งรั่วเจินได้ยินแล้วดวงตาก็พลันวาววับ พอลองตรองดู...ถึงเวลาที่ท่านพ่อจะกลับมาแล้วจริงๆ

นางรู้มาตลอดว่าบิดายังไม่ตาย ทั้งยังเคยทำนายพบว่าเขาสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยจึงไม่ได้เข้าไปสอดมือ

อย่างไรเสีย กระดูกหักก็สมควรพักรักษาตัวดีๆ รีบร้อนกลับมาหาใช่เรื่องดีไม่ ในฐานะคนในสำนักวิชาเต๋า เปลี่ยนแปลงมากเกินไปก็หาใช่เรื่องดี ในเมื่อไม่มีผลกระทบ มิสู้รอคอยอย่างอดทน

ในนิยายต้นฉบับเวลานี้ตระกูลซ่งตกต่ำไปแล้ว ไม่สามารถรับมือจนซ่งหลินกลับมาได้ แต่ตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป บิดากลับมาทุกอย่างก็จะกลายเป็นข่าวดี!

หลังจากหร่วนอวี้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 557

    หร่วนอวี้เฉิงมีสีหน้าจริงจัง ความรู้สึกขอบคุณของเขาไม่อาจใช้ถ้อยคำมาบรรยายได้เลย“คุณชายหร่วนเกรงใจเกินไปแล้ว ข้าสามารถช่วยเหลือได้ก็ยินดีนัก นอกจากนี้ ข้ายังรู้จักกับแม่นางหร่วน ช่วยเหลือเป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินกล่าวเดิมนั้นซ่งรั่วเจินไม่นับว่าคุ้นเคยกับหร่วนอวี้เฉิงรวมถึงฉู่อ๋อง แต่ได้คุยกันสักพักก็รู้สึกว่าใกล้ชิดกว่าเดิมไม่น้อยฉู่อ๋องเดิมก็มีนิสัยน่าสนใจ เมื่อมาปะทะคารมกับหร่วนอวี้เฉิงก็ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่“อวี้เฉิง เจ้าบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับรั่วเจินไม่ใช่หรือ?” ฉู่จวินถิงกล่าวเมื่อได้รับคำเตือน หร่วนอวี้เฉิงก็รีบพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้ากลับมาจากชายแดนคราวนี้ ได้ตรวจสอบพบข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับแม่ทัพซ่ง”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น ซ่งรั่วเจินก็นึกยินดี แม้แต่ฉู่อวิ๋นกุยที่อยู่ข้างๆ ก็มีสีหน้าประหลาดใจ“หลังจากใต้เท้าซ่งหายสาบสูญจากสนามรบครั้งนั้นก็ไร้ข่าวคราวเรื่อยมา รอมานานขนาดนี้ก็ยังตรวจไม่พบข่าวคราวใดๆ เจ้าคงไม่ได้พบเบาะแสเกี่ยวกับแม่ทัพซ่งแล้วหรอกนะ?”ถ้าพบเบาะแสจริง นี่ย่อมเป็นข่าวดียิ่งสำหรับตระกูลซ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!เขาเข้าใจนิสัยหร่วนอวี้เฉิงดี หากเป็นข่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 558

    ฉู่อวิ๋นกุยกับหร่วนอวี้เฉิงเห็นอย่างนั้นก็สบตากันอย่างอดไม่อยู่ หากไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ผู้ใดจะกล้าเชื่อว่าบุรุษตรงหน้าคือฉู่จวินถิงที่พวกเขารู้จักมาหลายปี!ชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงรัก...เหมือนต้องพิษร้ายโดยแท้!ซ่งรั่วเจินจับชีพจรให้หร่วนอวี้เฉิงอีกครั้งจนแน่ใจว่าอาการดีขึ้นแล้วจริงๆ ขอเพียงพักรักษาตัวอย่างเต็มที่ ผ่านไปสักพักก็จะฟื้นฟูโดยสมบูรณ์หร่วนอวี้เฉิงดีใจยิ่ง ตัดสินใจว่าจะกลับไปวันพรุ่งนี้ ไม่ได้กลับไปนานเพียงนี้ ต่อให้ปิดข่าวไว้ดีเพียงไร เกรงว่าคนที่บ้านก็คงค้นพบพิรุธไปแล้วณ จวนตระกูลกู้หลังจากฮูหยินผู้เฒ่ากู้กลับมาถึงจวน กู้ชิงซิวก็ตามหมอมาทันที“หมอโจว ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าหากท่านแม่หมดสติไป หมายความว่าอาการทรุดลงใช่หรือไม่?”หมอโจวมีสีหน้าหนักอึ้ง “ฮูหยินผู้เฒ่าหมดสติไปหรือขอรับ?”“วันนี้จู่ๆ ท่านแม่ก็หมดสติไประหว่างไปไหว้พระ หลังจากนั้นโชคดีที่มีคนให้ยามาเม็ดหนึ่ง ครั้งนี้ท่านแม่จึงได้สติคืนมา”กู้ชิงซิวจำคำพูดก่อนหน้านี้ของท่านหมอได้ มารดาเป็นโรคเรื้อรังมานานปี ต่อให้ระมัดระวังมาโดยตลอด แต่เมื่ออายุมากขึ้น อาการก็ยิ่งควบคุมได้ยากกว่าเดิมหมอโจวได้ยินแล้วก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 559

    เวลานั้น กู้ชิงเหยี่ยนกับกู้ชิงเจ๋อรู้จากปากข้ารับใช้แล้วว่าหลังจากมารดาหมดสติไปบนเขาก็ได้สติคืนมาเพราะได้ยาจากแม่นางตระกูลซ่ง“พี่ใหญ่ ท่านว่าพี่รองทำแบบนี้เหลวไหลหรือไม่? ทั้งที่รู้ความแค้นระหว่างตระกูลซ่งกับพวกเรา พวกนั้นจะช่วยเหลือท่านแม่อย่างจริงใจได้อย่างไรกัน?”“ถ้าท่านแม่เป็นอะไรไป จะต้องเป็นพวกนั้นที่จงใจคิดร้ายเป็นแน่!”กู้ชิงเจ๋อพลันระเบิดออกมา เขาอยากเปิดกะโหลกกู้ชิงซิวดูจริงๆ ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เกรงว่าคงเสียสติไปแล้วถึงได้ตัดสินใจเช่นนี้!กู้ชิงเหยี่ยนกลับเยือกเย็นกว่าเขามาก “ข้าเชื่อในความประพฤติของตระกูลซ่ง หลายปีนี้กิตติศัพท์ของตระกูลซ่งในเมืองหลวงเป็นอย่างไรทุกคนล้วนรู้ดี เดิมก็เป็นตระกูลที่มีคุณธรรม ไม่เคยทำร้ายผู้อื่น”“นอกจากนี้ คนที่มีความแค้นกับพวกเขาคือตระกูลฉิน ตระกูลกู้ของพวกเราไม่เคยผูกความแค้นกับพวกเขา”“พี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงเป็นเหมือนพี่รองไปอีกคนเล่า? อวิ๋นเวยเป็นน้องสาวของพวกเรานะ นางแซ่กู้ เช่นนั้นก็เป็นคนในตระกูลกู้ของพวกเรา!”“ตอนนี้อวิ๋นเวยกับซวงซวงยังถูกคุมขังอยู่ในคุก พวกนั้นอยากให้พวกเราตายใจจะขาด ยังหวังให้พวกนั้นช่วยเหลือท่านแม่ นี่มิเท่ากับ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 560

    “คุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก่อนหน้านี้สองขาพิการ คุณชายรองตระกูลซ่งยิ่งตาบอดสองข้าง หมอทั้งเมืองหลวงแทบถูกเชิญไปตรวจมาหมดแล้ว ล้วนแต่ไม่มีวิธีรักษา”“แต่ก่อนหน้านี้เริ่มจากคุณชายรองตระกูลกู้รักษาดวงตาสองข้างจนหายดี หลังจากนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก็กลับมายืนได้อีกครั้ง”“ทุกคนล้วนพูดกันว่าตระกูลซ่งหาหมอเทวดาที่เก่งกาจคนหนึ่งมาได้ แต่มีคนไม่น้อยไปสอบถามก็ไม่ได้ข่าวคราวอันใดแม้แต่น้อย”“ไม่เพียงเท่านี้ ตระกูลซ่งจะเป็นดองกับตระกูลลั่ว สุขภาพของแม่นางตระกูลลั่วไม่ดีมาโดยตลอด หลังจากตกน้ำแล้วอาการก็ยิ่งทรุดหนัก”“แต่ข้าได้ยินว่าตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว คิดว่าจะต้องเป็นฝีมือหมอเทวดาเบื้องหลังตระกูลซ่งผู้นั้นเป็นแน่!”ได้ยินดังนั้น พี่น้องตระกูลกู้ก็คิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาได้ เรื่องนี้มีคนเล่าลือกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถามแล้วไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์อันใด ทุกคนจึงค่อยๆ ถอดใจไปในที่สุด“น้องรอง พวกเราต้องไปตระกูลซ่งสักรอบ”กู้ชิงเหยี่ยนตัดสินใจทันที พวกเขาไม่หวังว่าจะสามารถรักษาโรคของมารดาให้หายขาด ขอเพียงช่วยให้อาการของมารดาคงที่ นั่นก็เป็นเรื่องดียิ่งแล้วกู้ชิงซิวพยักหน้า “ข้าจะให้คนไปเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 561

    “พี่ใหญ่ เหตุใดจึงกล่าววาจาร้ายแรงเช่นนั้นเล่า? พี่รอง ท่านดูเขาสิ...”“พี่ใหญ่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว” กู้ชิงซิวเองก็เอ่ยด้วยใบหน้าเยียบเย็นเช่นกัน “หากเจ้าอยากไปก็ไปเสียเถิด ส่วนเรื่องพ่อแม่ต่อไปพวกข้าจะดูแลตอบแทนคุณท่านอย่างดีเอง“หากเจ้ายังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง วันข้างหน้าก็จงกตัญญูต่อพ่อแม่เสียบ้าง อย่างไรเสียเจ้าอยู่ข้างนอกก็มีเรือนมีเหย้าตน จะอยู่กับน้องสาวแสนดีของเจ้าก็สุดแล้วแต่ใจเจ้าเถิด แต่อย่าหวนมาหาพวกข้าอีก!”กู้ชิงเจ๋อตะลึงงันอยู่กับที่ ไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าตนเพียงกล่าวช่วยน้องสาวไปไม่กี่คำเท่านั้น พวกเขาก็ถึงกับคิดจะตัดสัมพันธ์กับเขาเสียแล้ว!“อวิ๋นเวยเป็นน้องสาวของพวกท่าน หาใช่ศัตรู! ข้าก็เพียงอยากช่วยเหลือนางเท่านั้น แต่พวกท่านกลับโกรธเกรี้ยวได้ถึงเพียงนี้ ข้าล่ะไม่เข้าใจจริงๆ!”กู้ชิงเจ๋อเองก็เริ่มมีน้ำโหแล้วเช่นกัน เขารู้สึกเพียงว่าสองคนนี้อาจโดนสกุลซ่งครอบงำไปแล้วก็ได้ จึงได้ทำตัวไร้เหตุผลได้ถึงเพียงนี้?“ยังคิดไม่ได้ก็ไปทบทวนเสียให้ดี คิดได้เมื่อใดค่อยกลับมา!”“หากคิดอย่างไรก็ยังคิดไม่ได้ ก็ไปหาน้องสาวแสนดีของเจ้าเสียเถิด!”กู้ชิงซิวคร้านจะต่อล้อต่อเถียง คิดแต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 562

    ตราบใดที่หลินรั่วหลานกลับคำพูดเสีย ความผิดทั้งหมดก็ย่อมไม่ตกอยู่ที่นางอีกต่อไปกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นางจะต้องออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่!“ลูกแม่ ท้องนี้ของเจ้าถือว่าดียิ่งนัก หากมิมีเรื่องพวกนี้แล้วเล่าก็ จะดีแค่ไหนหากเจ้าได้พักผ่อนดูแลครรภ์อยู่กับบ้านให้ดี?”“บัดนี้ต้องตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเลวร้ายเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่ดีกับเด็กในครรภ์เจ้านัก”กู้อวิ๋นเวยมองฉินซวงซวงอย่างห่วงใย ก่อนจะเหลือบมองหลินจือเยว่ด้วยความไม่พอใจ “เรื่องก่อนนี้ข้ามิอยากพูดถึงแล้ว บัดนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดเจ้าก็ต้องดูแลเด็กในครรภ์นี้ให้ดี!”“ซวงซวงมิเคยทำสิ่งใดผิดต่อเจ้า ในเมื่อเจ้าเป็นบุรุษ จะให้ภรรยาและลูกต้องมารับเคราะห์ด้วยกันหมดได้อย่างไรเล่า!”หลินจือเยว่รู้สึกสลับซับซ้อนในใจ เขาย่อมเข้าใจความหมายของกู้อวิ๋นเวยดี ซวงซวงกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา ย่อมต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเพียงแต่เมื่อคิดดูแล้ว เรื่องครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย หากต้องให้เขามาแบกรับทุกสิ่งอย่างแล้วเล่าก็ ในใจเขาเองก็อดรู้สึกขัดข้องไม่ได้หากไม่ใช่เพราะซวงซวง เขาก็คงไม่ต้องกลายมาเป็นคนคุก แล้วยังต้องทนฟังถ้อยคำตำหนิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 563

    “กว่าเจ้าจะมีลูกได้สักคนมิได้ง่ายดาย ขอเพียงนางตั้งใจคลอดเด็กคนนี้อย่างสงบ ข้าเชื่อว่าด้วยกำลังของตระกูลฉิน ย่อมมิปล่อยให้นางต้องลำบาก จะต้องมีหนทางให้เจ้าได้กลับมาเมืองหลวงอีกครั้งเป็นแน่”ทว่าเมื่อได้ฟังถ้อยคำนี้แล้วหลินจือเยว่กลับเผยสีหน้าขมขื่นออกมา“เป็นไปมิได้หรอกขอรับ แม่ทัพฉินก็ปลดฉินฮูหยินไปแล้ว กระทั่งสองแม่ลูกคู่นั้นยังมิอยากจะข้องเกี่ยว เช่นนั้นจะมาช่วยเหลือข้าได้อย่างไร?”ได้ยินเช่นนั้น หลินรั่วหลานถึงกับเบิกตากว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้าว่ากระไรนะ? แม่ทัพฉินจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพวกนางแม่ลูกได้อย่างไร?”“เป็นเรื่องจริงขอรับ” หลินจือเยว่ถอนหายใจยาวเหยียด แรกได้ยินข่าวเขาก็รู้สึกตกใจเช่นกัน ทว่าเมื่อลองคิดดูแล้วแต่ไหนแต่ไรแม่ทัพฉินก็เป็นคนไม่แยแสเช่นนี้อยู่แล้วขณะนั้นเอง หลินรั่วหลานก็พลันลุกพรวดขึ้นมา ตะโกนด่ากราดกู้อวิ๋นเวยด้วยความเดือดดาล“นังหญิงชั่ว! เจ้าโกหกข้า!”กู้อวิ๋นเวยกลับหัวเราะเยาะขึ้นมา “ข้าหลอกเจ้าแล้วจะอย่างไร? หากมิใช่เพราะเจ้าก่อเรื่อง มีหรือที่ข้าจะถูกปลดได้?”“หากเจ้ามิก่อเรื่องเช่นนี้ ข้าก็ยังมีโอกาสช่วยพวกเขาได้ แต่ตอนนี้เจ้ากลับทำให้ข้าสูญเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 564

    “ท่านแม่ จู่ๆ กลับคำพูดต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเช่นนั้น มีโทษถึงตายเลยมิใช่หรือ?”“ก็แน่นอนว่านางต้องตายอยู่แล้วสิ!”ภายในดวงตาของกู้อวิ๋นเวยฉายชัดถึงความตื่นเต้นและอำมหิต นางเฝ้ารอที่จะได้เห็นหลินรั่วหลานตายตกไปแทบไม่ไหวอยู่แล้ว!หญิงมากความผู้นี้กล้าตบตีทำร้ายนาง ซ้ำยังทำนางต้องตกเป็นภรรยาที่ถูกขับไล่ หากปล่อยให้อยู่ดีมีสุขต่อไปแล้วความแค้นที่สุมแน่นอยู่ในอกนางจะมอดดับลงได้อย่างไรเล่า?ฉินซวงซวงถึงกับหน้าถอดสี “โทษถึงตายเชียวหรือ?”กู้อวิ๋นเวยพยักหน้า “นางทำตัวเองแท้ๆ หากนางมิเข้าวังไปร้องทุกข์ต่อฝ่าบาทเรื่องราวก็คงมิบานปลายมาถึงขั้นนี้หรอก นางสมควรแล้ว!”“นางตายไปเสียก็ดีแล้ว อยู่ไปก็คอยแต่จะสร้างปัญหามิให้ได้หยุดหย่อน ขอเพียงไร้นาง วันข้างหน้าเจ้าก็จะมิมีแม่สามีน่ารำคาญใจเช่นนี้อีกต่อไป”แม้ฉินซวงซวงจะรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง ทว่าเมื่อครุ่นคิดให้ดีก็กลับรู้สึกโล่งอกขึ้นมา อย่างไรเสียนางก็ไม่ถูกชะตากับหลินรั่วหลานอยู่นานแล้ว!“หลินรั่วหลานจะถูกกุดหัวในเที่ยงวันพรุ่งนี้!”ผู้คุมผู้หนึ่งเดินเข้ามาแจ้งข่าวคราวได้ยินเช่นนั้น หลินรั่วหลานที่เดิมทียังคงพร่ำพรรณาถึงความทุกข์ยากในห้อ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 981  

    ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”    นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์    “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”    เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา    “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”    แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?    นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่    หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 980

    นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 979

    “ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 978

    “เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status