แชร์

บทที่ 390

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
จากนั้นแม่ลูกสกุลเคอก็ย้ายของออกมา เดิมทีหลายบ้านของสกุลเคอยังร้อนตัวอยู่บ้าง บัดนี้มั่นใจเอวแข็งขึ้นมาแล้ว

“ดูเถอะ ของก็ยกมาทั้งหมดแล้ว คิดว่าสกุลเคอของพวกเราเป็นอะไรกัน ยังจะโลภสิ่งของของพวกเจ้าเพียงแค่นี้กระนั้นหรือ?” ฮูหยินบ้านรองสกุลเคอพูดขึ้น

ซ่งรั่วเจินปรายตามองกล่องสองสามใบที่กำลังกระจัดกระจายอยู่เหล่านั้น พูดว่า “เพียงแค่นี้ น่ากลัวว่ายังไม่หมดกระมัง”

บ้านรองสกุลเคอสำลัก รีบถลันขึ้นไปเปิดกล่องออก “แม้ว่าพวกเจ้าส่งของมาบ้าง แต่เหล่านี้ก็ไม่น้อยแล้ว พี่สะใภ้ใหญ่ไฉนเลยจะโลภของพวกเจ้า?”

นายหญิงเคอกำลังอึดอัดใจ เห็นบ้านรองตาไม่มีแววเพียงนี้ รู้สึกเกลียดที่ไม่สามารถตบปากของนางได้

แอ๊ด

กล่องถูกเปิดออก ทุกคนมองสิ่งที่อยู่ภายในกล่องอย่างตกตะลึง หันไปมองหนึ่งปราด ดวงตาทุกคนก็ทอประกายระยับ

เห็นว่าปิ่นไข่มุกภายในล้วนคือทอง แม้แต่เงินก็หาไม่พบ ยังมีไข่มุกหลากหลายแบบ สร้อยข้อมือโมรา ไปจนถึงต่างหู

นอกจากเหล่านี้ ถึงขั้นมีเครื่องประดับทำจากทอง หยกชั้นยอด หยกมันแพะ...

ซ่งจืออวี้หันมองซ่งจิ่งเซินอย่างอดไม่ได้ “หากมิใช่เพราะที่บ้านยังมีพวกเราสองสามคนอยู่ น่ากลัวว่าเจ้าคงยกสมบัติทั้งหมดข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
เสาวภาคย์ ด้วงปั้น
อัปเดตน้อยไปค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 391

    “ต่างหูหยกไป๋อวี้หลานหนึ่งคู่!”“สร้อยข้อมือไข่มุกหนึ่งเส้น!”ผู้ดูแลบ้านตะโกนเสียงดัง ยกของหนึ่งชิ้นนับหนึ่งรายการต่อหน้าทุกคนทุกคนยิ่งฟังยิ่งตกตะลึง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเล่น แต่ทุกชิ้นราคาไม่ธรรมดาเพียงกล่องเดียวก็มีราคาชวนตกตะลึงแล้ว ยังไม่ต้องพูดถึงรายงานสิ่งของยาวเหยียดคนมองแล้วก็สายตาพร่ามัว ช่างน่าตกใจเหลือเกิน!“พี่สี่ ท่านพูดซิ แม่นางเคอล้วนไม่ยินดีรับไว้ ท่านยังยัดเยียดสิ่งของมากมายเพียงนี้ สร้างความวุ่นวายให้นางมากเพียงใด!” ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วซ่งจิ่งเซินถูจมูก “ข้าผิดไปแล้ว”จากนั้น ถ้อยคำนี้ตกอยู่ในหูของทุกคน ใครบ้างไม่รู้อย่างกระจ่างชัด?หากไม่ยินดีรับไว้ สิบชิ้นรับไว้เพียงชิ้นเดียวก็พอ แต่ของมากเพียงนี้...นี่ไม่อยากรับไว้ที่ใดกัน?นี่รับมาจนมั่งคั่งร่ำรวยไปแล้ว!จนกระทั่งตรวจนับทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทุกคนพบว่ามียังมีไม่ถึงครึ่ง สายตาตกลงบนตัวนายหญิงเคอและเคอหยวนจื่อ“ที่เหลืออยู่ที่ใด?” ซ่งจิ่งเซินเอ่ยถามนายหญิงเคอเก้อกระดาก ฝืนยิ้มออกมา “จิ่งเซินเอ๋ย เหล่านี้มีผ้าไหมผ้าแพรล้วนนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแล้ว นี่จึงไม่มี”“มากเพียงนี้กลับไม่เหลือแล้ว?” ซ่งจื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 392

    เดิมทีสหายที่ดีเหล่านั้นของซ่งจิ่งเซินก็รอคอยวันนี้มานานมากแล้วบัดนี้ได้เห็นซ่งจิ่งเซินฟื้นคืนสติ ใบหน้าใสซื่อแต่ใจคดของสกุลเคอใกล้ถูกฉีกออกแล้ว แต่ละคนได้ยินก็ดีใจมาก“สกุลเคอไม่มีวันเบี้ยวหนี้ เมื่อครู่คนสกุลเคออีกสามบ้านก็พูดแล้วมิใช่หรือ?”“ยังมิใช่อีกหรือ? จวนเคอยิ่งใหญ่ ไม่เห็นสิ่งที่จิ่งเซินส่งมาอยู่ในสายตา ไฉนเลยจะเบี้ยวหนี้ได้? น่ากลัวว่าอยากจะรีบส่งคืนกลับมาในทันที!”อีกสามบ้านของสกุลเคอว้าวุ่นใจอย่างอดไม่ได้ ทีแรกคิดว่าเป็นเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น อย่างไรเสียก็เป็นบ้านใหญ่คืนเงิน ไม่เกี่ยวอันใดกับพวกเขาใครคาดคิดว่าจะต้องคืนแปดแสนตำลึง? สำหรับพวกเขานี่คือราคาสูงเทียมฟ้า!“พี่สะใภ้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจิ่งเซินมอบให้พวกท่าน บัญชีนี้สมควรเป็นพวกท่านคืนด้วยตนเอง จะลากพวกเราลงน้ำไปด้วยไม่ได้”คนของบ้านรองร้อนใจอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ต้องการล้างความสัมพันธ์“ใช่ๆ เงินทองเหล่านี้ล้วนเข้ากระเป๋าบ้านใหญ่ของพวกท่าน พวกเราไม่ได้รับประโยชน์อันใดเลยแม้แต่น้อย” บ้านสามเอ่ยตอบบ้านสี่เห็นสภาพการณ์แล้วก็ร้อนใจ “พวกท่านมีความสัมพันธ์อันดีต่อบ้านรองและบ้านสาม พวกเราต่างหากไม่ได้รับป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 393

    ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่เขาก่อ กลับไม่เคยคิดหาทางช่วยนางคลี่คลายสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย“จิ่งเซิน ข้ารู้ท่านแค้นข้าเพราะข้าหมั้นหมายกับคุณชายชวี นี่ถึงทำให้ข้าอับอาย แต่เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ต้องทำตามคำสั่งบิดามารดาแม่สื่อ ท่านจะต้องบังคับข้าจนหมดหนทางให้ได้เลยหรือ?”“พวกเรารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว จะต้องก่อเรื่องจนถึงขั้นนี้เชียวหรือ?”เคอหยวนจื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตา โศกเศร้าเสียใจมาก“นี่เจ้าพูดอันใดกัน ข้าก็แค่ทำให้เจ้าสมปรารถนา รับสิ่งของที่เจ้าไม่เห็นอยู่ในสายตากลับมาก็เท่านั้น เหตุใดกลายเป็นข้าบังคับเจ้าจนหมดหนทางกันเล่า?”“ชื่อนี้ ข้ามิกล้ารับไว้เป็นอันขาด”ซ่งจิ่งเซินมองทั้งหมดตรงหน้านิ่งๆ เยาะหยันภายในใจเมื่อวานเคอหยวนจื่อแสดงท่าทางโอหังมากเพียงใด วันนี้ก็น่าขันมากเพียงนั้นจู่ๆ เขาก็คิดว่าครั้งนี้สมองตนกระทบกระเทือนกลับไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หาไม่แล้วหากยังมีสมองเฉกเช่นที่ผ่านมา น่ากลัวว่าทั้งหมดต้องถูกเคอหยวนจื่อสูบจนเหือดแห้ง!เพียงสตรีตรงหน้าก็คิดเชิญเขาเข้าห้องสนทนาไปจนถึงเสแสร้งแสดงท่าทีน่าสงสาร เขาสามารถตัดสินชี้ขาดได้ว่าแม้ว่าแม่นางคนนี้หมั้นหมายแล้ว แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 394

    “ข้ามิได้มีความคิดบังคับเจ้าแต่งงานกับข้า ต่อให้เจ้าอยากแต่ง ข้าก็ไม่ยินดีสู่ขอ ท่านแม่ข้ากำลังทาบทามสู่ขอให้ข้าแล้ว”“ยิ่งไปกว่านั้น สุภาพบุรุษไม่แย่งชิงของคนอื่น ข้าไม่สนใจฮูหยินของคนอื่นหรอกนะ”สายตาเคอหยวนจื่อเปี่ยมความรู้สึกเหลือจะเชื่อ ซ่งจิ่งเซินถึงขั้นปฏิเสธนาง!เขาจะปฏิเสธนางได้เยี่ยงไร?ทั้งๆ ที่ขอเพียงได้ยินว่านางยินดีแต่งกับเขาก็จะดีใจจนยอมทำทุกอย่างแล้ว แต่ตอนนี้ถึงขั้นปฏิเสธตน นี่เป็นไปไม่ได้!ซ่งรั่วเจินและซ่งจืออวี้สองสามคนสบตากัน ยกมุมปากขึ้นอย่างสุดระงับสาแก่ใจ!จิ่งเซินสูญเสียความทรงจำเป็นเรื่องดียิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง! น่าปลาบปลื้มยินดี!“ในเมื่อพวกเจ้ายังไม่สามารถคืนได้ทันที เช่นนั้นคืนมาส่วนหนึ่งก่อน ที่เหลือเขียนหนังสือรับรองหนี้หนึ่งฉบับ คืนภายในหนึ่งเดือนก็พอแล้วกระมัง?”“อย่าได้พูดว่าข้าบังคับข่มขู่สตรีเป็นอันขาด พวกเราสกุลซ่งองอาจผ่าเผย ไม่เคยทำเรื่องพรรค์นี้”มองเห็นใบหน้าตกตะลึงหวาดกลัวของซ่งจิ่งเซิน กลัวเคอหยวนจื่อจะอยากแต่งงานกับเขาจึงเป็นฝ่ายขยายระยะเวลาด้วยตนเอง ทุกคนคล้ายรับรู้ถึงปัญหาหนึ่งได้ในที่สุดเขาคล้ายไม่ชอบเคอหยวนจื่อจริงๆ!คนรักที่เ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 395

    “ขอบคุณคุณชายชวีมากเจ้าค่ะ”ชวีคั่วยิ้มลำพองใจ “เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าข้าใกล้จะแต่งงานกันแล้ว เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า!”ถึงตอนนั้น ทุกคนต่างรู้ว่าซ่งจิ่งเซินใจแคบมากเพียงใด ส่วนเขาใจกว้างมากเพียงใด!บัดนี้ซ่งจิ่งเซินสั่งให้คนเขียนหนังสือรับรองหนี้ไว้อย่างดีแล้ว พูดว่า “ทั้งหมดแปดแสนตำลึง พวกเจ้าสามารถลงนามได้แล้ว”ชวีคั่วได้ยินจำนวนนี้ก็ชะงัก ครู่ต่อมาสงสัยว่าตนฟังผิดไป “เจ้าพูดว่าเท่าไรนะ?”“แปดแสนตำลึง” ซ่งจิ่งเซินพูดซ้ำอีกรอบชวีคั่วเบิกตากว้าง เมื่อครู่ซ่งจิ่งเซินมิใช่พูดว่าเงินเพียงเล็กน้อยหรือ?นี่ใช่เงินเล็กน้อยที่ใดกัน นี่คือต้องการขุดเอาทรัพย์สินทั้งสกุลชวีไปจนหมดสิ้น!“เจ้าติดหนี้ซ่งจิ่งเซินแปดแสนตำลึง?”ชวีคั่วสบมองเคอหยวนจื่อด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยได้ยินมาว่าซ่งจิ่งเซินใจกว้างต่อนางมาก แต่แปดแสนตำลึง จำนวนนี้ช่างน่าตกใจเกินไปจริงๆทีแรกเขาคิดว่าซ่งจิ่งเซินจะต้องเสียสติไปแล้วอย่างแน่นอน ถึงขั้นจ่ายเงินให้กับแม่นางที่ยังไม่แต่งงานเข้าบ้านมากถึงเพียงนี้ จากนั้นก็คิดว่าเคอหยวนจื่อต่างหากที่เสียสติ นางถึงขั้นต้องการเง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 396

    ทุกคนที่ตามมารับชมความครึกครื้นพึงพอใจมาก ความสนุกสนานเช่นนี้พบเห็นได้ไม่บ่อยนักปกติสองแม่ลูกสกุลเคอโอหังจนคุ้นชิน วันนี้ตบหน้าพวกเขาแรงๆ หนึ่งฉาด รู้สึกเพียงมีความสุขยิ่งนัก!แปดแสนตำลึงนี้ มองจากท่าทีของคนสกุลเคอดูแล้วน่ากลัวว่าไม่ง่ายดายเพียงนั้น น่ากลัวว่าต่อจากนี้มีละครฉากสนุกให้รับชมแล้ว...ขบวนคนสกุลซ่งนำสิ่งของและหนังสือรับรองหนี้กลับไป ออกจากสกุลเคออย่างพึงพอใจส่วนใต้เท้าเคอเลิกประชุมกลับมาแล้วได้รู้ว่าฮูหยินและลูกสาวถึงขั้นติดหนี้สกุลซ่งแปดแสนตำลึง ทันใดนั้นรู้สึกราวกับฟ้าถล่มอยู่ตรงหน้า!เงินมากเพียงนี้ สกุลเคอจะคืนได้เยี่ยงไร?เพียะ!ใต้เท้าเคอยกมือตบหน้านายหญิงเคอหนึ่งฉาด “ดูเรื่องดีที่เจ้าทำสิ! แปดแสนตำลึงถูกพวกเจ้าใช้ไปจนหมดแล้วหรือ?”“ท่านตบข้า?”นายหญิงเคอปิดหน้าตนเอง เห็นอีกสามบ้านกำลังมองเรื่องตลกก็ตะโกนด่าทั้งน้ำตาออกไปอย่างสุดระงับ“ตอนแรกจ่ายเงินมากน้อยเพียงใด หรือว่าภายในใจของท่านไม่รู้จำนวนเลยหรือ? ตอนนี้ถึงขั้นตำหนิข้า ท่านมิได้ใช้เงินเหล่านั้นหรือ?”ใต้เท้าเคอย่อมใช้เงินจริง ที่บ้านมีคนโง่อย่างซ่งจิ่งเซินมอบเงินให้ไม่หยุดคนหนึ่ง ทีแรกพวกเขายังปฏิเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 397

    ซ่งจืออวี้คลี่ยิ้มลำพองใจ “ใครให้เจ้านั่นโง่เขลาเองเล่า? ปล่อยน้องหญิงห้าสตรีงามดุจหงส์คนนี้ไป กลับต้องการแต่งงานกับไก่ป่าชอบนอกใจเขาคนนั้น บัดนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้วมิใช่หรือ?”ซ่งรั่วเจิน “...” ท่านสรุปเก่งเสียจริงซ่งจิ่งเซินเลิกคิ้ว เขาเพิ่งกลับมา ระยะก่อนได้รับข่าวมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่รู้รายละเอียดมากมายอันใดนัก“นั่นก็สมน้ำหน้าเขาแล้ว ตอนนี้ติดหนี้พวกเรามากเพียงนี้ คืนแล้วหรือไม่?”“ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปรับจวนของพวกเขาแล้ว ระยะนี้ยุ่งมากจนเกินไป ไม่มีเวลาใส่ใจ”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก นางได้รู้ว่าฉินซวงซวงกลับจวนหลินแล้ว แม้ไม่รู้ว่าตกลงหลินจือเยว่คิดเช่นไรจึงยอมให้อภัยนาง แต่ในเมื่อต้องการจวน ก็ต้องให้คนอยู่พร้อมหน้ากันถึงจะดีซ่งจิ่งเซินและซ่งจืออวี้สบตากันแวบหนึ่ง ทันใดนั้นนึกสนุกขึ้นมาแล้ว“พวกเราจะไปเป็นเพื่อนเจ้า!”ซ่งอี้อันพยักหน้า แม้พูดว่าสุภาพชนไม่ฆ่าคน แต่คนรังแกน้องสาวของเขาจะต้องชดใช้!หลินจือเยว่พบจุดจบเช่นนี้ เป็นเขารนหาที่เองณ สกุลหลินฉินซวงซวงถูกหลินจือเยว่รับกลับมาแล้ว รู้สึกดีใจขึ้นมาระลอกหนึ่ง“จือเยว่ ข้าก็รู้ภายในใจท่านยังมีข้า ท่านฟังข้าอธิบายเรื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 398

    ทันใดนั้นสีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึง “นี่เจ้าหมายความว่ากระไร? ถามไล่เรียงข้า?”สีหน้าฉินซวงซวงเปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดอธิบาย “ข้ามิได้หมายความเช่นนี้ ข้าเพียงบังเอิญได้ยินข่าวนี้ก็เท่านั้น...”“เจ้าเองก็รู้หลังเกิดเรื่องนี้ท่านแม่โมโหมากเพียงใด คิดเพียงให้ข้าหย่ากับเจ้า จากนั้นให้ข้าแต่งงานใหม่อีกครั้ง”“เรื่องนี้ทำให้นางเสียใจมากจนเกินไป ข้าเองก็ไม่สามารถปฏิเสธน้ำใจนางไปตลอดได้ นี่ถึงฝืน...”เพียงฉินซวงซวงได้ยินว่ามีเรื่องนี้จริง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้ว นังเฒ่าเจ้าสำนักซ่องคนนั้นไม่ใช่คนดีดังคาด!นางเพียงออกจากสกุลหลินระยะหนึ่งเท่านั้น นางถึงขั้นยุแยงให้หลินจือเยว่แต่งงานใหม่อีกครั้ง ช่างอำมหิตนัก!“ทีแรกข้าเองก็ไม่เห็นด้วย เจ้าเองก็รู้ภายในใจข้า ไม่ว่าแม่นางคนใดก็เทียบเจ้าไม่ได้ แต่ซุนเยียนเอ๋อร์คนนี้เป็นญาติผู้น้องของซ่งรั่วเจิน เจ้ารู้ดี” หลินจือเยว่พูดขึ้นฉินซวงซวงขมวดคิ้ว “ท่านพี่ ท่านหมายความว่า?”“ซ่งฮูหยินและซุนฮูหยินเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นหลายปีมานี้สกุลซุนสามารถอยู่อย่างไร้กังวลได้ก็หนีไม่พ้นสกุลซ่งคอยดูแล”“ได้ยินมาว่าสกุลซุนมักไปขูดรีดที่สกุล

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 729

    “ไปเส้นทางใต้ดิน”ไต้ซือเทียนจีไม่คิดมากนัก พาทุกคนไปยังเส้นทางใต้ดิน“ไต้ซือ เส้นทางไต้ดินนี้ไม่สามารถเดินทางตามสะดวกได้!”ทุกคนมองเส้นทางใต้ดิน ใบหน้าเผยความลังเล ก่อนหน้านี้เคยพูดมาก่อนหากไม่แจ้ง จะไม่สามารถใช้เส้นทางใต้ดินนี้ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยให้ถูกคนพบไม่ได้!“บัดนี้หมดหนทางแล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนเช่นไร? ในเมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่นี้ จะต้องแจ้งคนอื่นให้เข้ามาปิดล้อมแน่”“หากพวกเราไม่หนี ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น!”สีหน้าไต้ซือเทียนจีเคร่งขรึม เขาย่อมรู้ว่าเส้นทางใต้ดินนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้นอกจากตัวเลือกนี้แล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจ ไปอาจไม่ตาย แต่ไม่ไปจะต้องตายแน่!“ไป!”ครู่ต่อมา พวกซ่งเยี่ยนโจวมองเห็นกิ่งไม้หยุดหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด“กิ่งไม้นี้ถึงขั้นสามารถเปิดประตูได้?”จ้าวเจียงอ้าปากกว้าง คิดเพียงว่าหลังจากวันนี้ผ่านพ้นไปไม่ว่าคนอื่นพูดเรื่องเหลือจะเชื่อมากเพียงใดเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว!เพราะเรื่องแปลกประหลาดที่สุดถูกเขาพบแล้ว!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 728

    นางหยิบกิ่งไม้หนึ่งกิ่งขึ้นมาจากพื้น จากนั้นทุกคนได้เห็นกิ่งไม้นั้นลอยขึ้นกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นยังหันไปที่ทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเบิกตากว้าง“เยี่ยนโจว พวกเราดีชั่วอย่างไรก็รู้จักกันมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าน้องสาวของท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”จ้าวเจียงเผยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้ได้ยินก็คิดว่าเร้นลับเหลือเกิน จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาวันนี้ กลับรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดฝีมือนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!ซ่งเยี่ยนโจว “...” จะให้พูดได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วเขาก็เคยเห็นเป็นครั้งแรก?ที่ผ่านมาใช่ว่าไม่เคยเห็นน้องหญิงห้าแสดงฝีมือมาก่อน แต่นั่นก็แค่เขียนยันต์ไม่กี่ใบเท่านั้น ยามได้เห็นน้องหญิงห้าช่วยอนุอวิ๋นกำจัดความชั่วร้าย ก็เห็นเพียงเผายันต์หนึ่งใบ!ได้เห็นฉากนี้ รู้ว่าแตกต่างจากที่เคยได้เห็นก่อนหน้านี้นี่...นับเป็นการเคลื่อนที่กลางอากาศหรือไม่?“ไล่ตามไป!”กิ่งไม้ขยับไปข้างหน้าไม่นับว่าช้า ฉู่จวินถิงรีบเอ่ยเตือนทุกคนให้ไล่ตามพวกซ่งเยี่ยนโจวไม่กล้ารอช้า ใช้ความเร็วที่สุดไล่ตามไป การไล่ตามไปครั้งนี้กลับพบความมหัศจรรย์ กิ่งไม้นั้นคล้ายมีตา ยิ่งไปกว่านั้นยังหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 727

    ฉู่จวินถิงเลื่อนสายตาไปอย่างแปลกใจ ก็ได้เห็นดวงตาทอประกายระยับของแม่นางคนนี้ที่กำลังเดินมาหยุดต่อหน้าตน ภายในไม่มีความกลัวหรือรังเกียจเลยสักเศษเสี้ยว มีเพียงความตกตะลึงระคนเลื่อมใส“ท่านอ๋อง วิชาตัวเบาของท่านยอดเยี่ยมมาก ภายภาคหน้าสามารถสอนหม่อมฉันได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงหลุดหัวเราะออกมา ภายในสายตากลับเปล่งประกาย “ได้”บรรยากาศตึงเครียดรอบกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทุกคนหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ แม่นางคนนี้น่าสนใจมาก กล้าหาญไม่ธรรมดาหากได้อยู่กับท่านอ๋อง นี่จะต้องเหมาะสมไม่ธรรมดาแน่!“คนหนีไปหมดแล้ว”ซ่งเยี่ยนโจวขมวดคิ้วแน่น อีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามาแล้วก็หนีไปในทันที เมื่อครู่ไม่ทันได้ไล่ตาม บัดนี้ต้องตามรอยเบาะแสใหม่อีกครั้งแล้ว“วันนี้ไต้ซือเทียนจีหนีไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ!”ใบหน้าซ่งรั่วเจินเผยแววมั่นใจในตนเอง นางหยิบยันต์ออกมาหนึ่งปึกมอบให้ฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง ท่านให้ทุกคนพกยันต์ไว้ให้ดี จะได้ไม่ถูกวิชาพรางตาหลอกอีก”ซ่งเยี่ยนโจวเห็นเวลาเพียงชั่วพริบตาน้องสาวก็นำยันต์ออกมามากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความสงสัย ตกลงนางใส่ของเหล่านี้ไว้ที่ใด?เพียงออกจากบ้านก็นำของมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status