เดิมทีสหายที่ดีเหล่านั้นของซ่งจิ่งเซินก็รอคอยวันนี้มานานมากแล้วบัดนี้ได้เห็นซ่งจิ่งเซินฟื้นคืนสติ ใบหน้าใสซื่อแต่ใจคดของสกุลเคอใกล้ถูกฉีกออกแล้ว แต่ละคนได้ยินก็ดีใจมาก“สกุลเคอไม่มีวันเบี้ยวหนี้ เมื่อครู่คนสกุลเคออีกสามบ้านก็พูดแล้วมิใช่หรือ?”“ยังมิใช่อีกหรือ? จวนเคอยิ่งใหญ่ ไม่เห็นสิ่งที่จิ่งเซินส่งมาอยู่ในสายตา ไฉนเลยจะเบี้ยวหนี้ได้? น่ากลัวว่าอยากจะรีบส่งคืนกลับมาในทันที!”อีกสามบ้านของสกุลเคอว้าวุ่นใจอย่างอดไม่ได้ ทีแรกคิดว่าเป็นเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น อย่างไรเสียก็เป็นบ้านใหญ่คืนเงิน ไม่เกี่ยวอันใดกับพวกเขาใครคาดคิดว่าจะต้องคืนแปดแสนตำลึง? สำหรับพวกเขานี่คือราคาสูงเทียมฟ้า!“พี่สะใภ้ใหญ่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจิ่งเซินมอบให้พวกท่าน บัญชีนี้สมควรเป็นพวกท่านคืนด้วยตนเอง จะลากพวกเราลงน้ำไปด้วยไม่ได้”คนของบ้านรองร้อนใจอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง ต้องการล้างความสัมพันธ์“ใช่ๆ เงินทองเหล่านี้ล้วนเข้ากระเป๋าบ้านใหญ่ของพวกท่าน พวกเราไม่ได้รับประโยชน์อันใดเลยแม้แต่น้อย” บ้านสามเอ่ยตอบบ้านสี่เห็นสภาพการณ์แล้วก็ร้อนใจ “พวกท่านมีความสัมพันธ์อันดีต่อบ้านรองและบ้านสาม พวกเราต่างหากไม่ได้รับป
ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องที่เขาก่อ กลับไม่เคยคิดหาทางช่วยนางคลี่คลายสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย“จิ่งเซิน ข้ารู้ท่านแค้นข้าเพราะข้าหมั้นหมายกับคุณชายชวี นี่ถึงทำให้ข้าอับอาย แต่เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ต้องทำตามคำสั่งบิดามารดาแม่สื่อ ท่านจะต้องบังคับข้าจนหมดหนทางให้ได้เลยหรือ?”“พวกเรารู้จักกันมานานหลายปีแล้ว จะต้องก่อเรื่องจนถึงขั้นนี้เชียวหรือ?”เคอหยวนจื่อหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตา โศกเศร้าเสียใจมาก“นี่เจ้าพูดอันใดกัน ข้าก็แค่ทำให้เจ้าสมปรารถนา รับสิ่งของที่เจ้าไม่เห็นอยู่ในสายตากลับมาก็เท่านั้น เหตุใดกลายเป็นข้าบังคับเจ้าจนหมดหนทางกันเล่า?”“ชื่อนี้ ข้ามิกล้ารับไว้เป็นอันขาด”ซ่งจิ่งเซินมองทั้งหมดตรงหน้านิ่งๆ เยาะหยันภายในใจเมื่อวานเคอหยวนจื่อแสดงท่าทางโอหังมากเพียงใด วันนี้ก็น่าขันมากเพียงนั้นจู่ๆ เขาก็คิดว่าครั้งนี้สมองตนกระทบกระเทือนกลับไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หาไม่แล้วหากยังมีสมองเฉกเช่นที่ผ่านมา น่ากลัวว่าทั้งหมดต้องถูกเคอหยวนจื่อสูบจนเหือดแห้ง!เพียงสตรีตรงหน้าก็คิดเชิญเขาเข้าห้องสนทนาไปจนถึงเสแสร้งแสดงท่าทีน่าสงสาร เขาสามารถตัดสินชี้ขาดได้ว่าแม้ว่าแม่นางคนนี้หมั้นหมายแล้ว แ
“ข้ามิได้มีความคิดบังคับเจ้าแต่งงานกับข้า ต่อให้เจ้าอยากแต่ง ข้าก็ไม่ยินดีสู่ขอ ท่านแม่ข้ากำลังทาบทามสู่ขอให้ข้าแล้ว”“ยิ่งไปกว่านั้น สุภาพบุรุษไม่แย่งชิงของคนอื่น ข้าไม่สนใจฮูหยินของคนอื่นหรอกนะ”สายตาเคอหยวนจื่อเปี่ยมความรู้สึกเหลือจะเชื่อ ซ่งจิ่งเซินถึงขั้นปฏิเสธนาง!เขาจะปฏิเสธนางได้เยี่ยงไร?ทั้งๆ ที่ขอเพียงได้ยินว่านางยินดีแต่งกับเขาก็จะดีใจจนยอมทำทุกอย่างแล้ว แต่ตอนนี้ถึงขั้นปฏิเสธตน นี่เป็นไปไม่ได้!ซ่งรั่วเจินและซ่งจืออวี้สองสามคนสบตากัน ยกมุมปากขึ้นอย่างสุดระงับสาแก่ใจ!จิ่งเซินสูญเสียความทรงจำเป็นเรื่องดียิ่งใหญ่เรื่องหนึ่ง! น่าปลาบปลื้มยินดี!“ในเมื่อพวกเจ้ายังไม่สามารถคืนได้ทันที เช่นนั้นคืนมาส่วนหนึ่งก่อน ที่เหลือเขียนหนังสือรับรองหนี้หนึ่งฉบับ คืนภายในหนึ่งเดือนก็พอแล้วกระมัง?”“อย่าได้พูดว่าข้าบังคับข่มขู่สตรีเป็นอันขาด พวกเราสกุลซ่งองอาจผ่าเผย ไม่เคยทำเรื่องพรรค์นี้”มองเห็นใบหน้าตกตะลึงหวาดกลัวของซ่งจิ่งเซิน กลัวเคอหยวนจื่อจะอยากแต่งงานกับเขาจึงเป็นฝ่ายขยายระยะเวลาด้วยตนเอง ทุกคนคล้ายรับรู้ถึงปัญหาหนึ่งได้ในที่สุดเขาคล้ายไม่ชอบเคอหยวนจื่อจริงๆ!คนรักที่เ
“ขอบคุณคุณชายชวีมากเจ้าค่ะ”ชวีคั่วยิ้มลำพองใจ “เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าข้าใกล้จะแต่งงานกันแล้ว เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้า!”ถึงตอนนั้น ทุกคนต่างรู้ว่าซ่งจิ่งเซินใจแคบมากเพียงใด ส่วนเขาใจกว้างมากเพียงใด!บัดนี้ซ่งจิ่งเซินสั่งให้คนเขียนหนังสือรับรองหนี้ไว้อย่างดีแล้ว พูดว่า “ทั้งหมดแปดแสนตำลึง พวกเจ้าสามารถลงนามได้แล้ว”ชวีคั่วได้ยินจำนวนนี้ก็ชะงัก ครู่ต่อมาสงสัยว่าตนฟังผิดไป “เจ้าพูดว่าเท่าไรนะ?”“แปดแสนตำลึง” ซ่งจิ่งเซินพูดซ้ำอีกรอบชวีคั่วเบิกตากว้าง เมื่อครู่ซ่งจิ่งเซินมิใช่พูดว่าเงินเพียงเล็กน้อยหรือ?นี่ใช่เงินเล็กน้อยที่ใดกัน นี่คือต้องการขุดเอาทรัพย์สินทั้งสกุลชวีไปจนหมดสิ้น!“เจ้าติดหนี้ซ่งจิ่งเซินแปดแสนตำลึง?”ชวีคั่วสบมองเคอหยวนจื่อด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้เขาก็เคยได้ยินมาว่าซ่งจิ่งเซินใจกว้างต่อนางมาก แต่แปดแสนตำลึง จำนวนนี้ช่างน่าตกใจเกินไปจริงๆทีแรกเขาคิดว่าซ่งจิ่งเซินจะต้องเสียสติไปแล้วอย่างแน่นอน ถึงขั้นจ่ายเงินให้กับแม่นางที่ยังไม่แต่งงานเข้าบ้านมากถึงเพียงนี้ จากนั้นก็คิดว่าเคอหยวนจื่อต่างหากที่เสียสติ นางถึงขั้นต้องการเง
ทุกคนที่ตามมารับชมความครึกครื้นพึงพอใจมาก ความสนุกสนานเช่นนี้พบเห็นได้ไม่บ่อยนักปกติสองแม่ลูกสกุลเคอโอหังจนคุ้นชิน วันนี้ตบหน้าพวกเขาแรงๆ หนึ่งฉาด รู้สึกเพียงมีความสุขยิ่งนัก!แปดแสนตำลึงนี้ มองจากท่าทีของคนสกุลเคอดูแล้วน่ากลัวว่าไม่ง่ายดายเพียงนั้น น่ากลัวว่าต่อจากนี้มีละครฉากสนุกให้รับชมแล้ว...ขบวนคนสกุลซ่งนำสิ่งของและหนังสือรับรองหนี้กลับไป ออกจากสกุลเคออย่างพึงพอใจส่วนใต้เท้าเคอเลิกประชุมกลับมาแล้วได้รู้ว่าฮูหยินและลูกสาวถึงขั้นติดหนี้สกุลซ่งแปดแสนตำลึง ทันใดนั้นรู้สึกราวกับฟ้าถล่มอยู่ตรงหน้า!เงินมากเพียงนี้ สกุลเคอจะคืนได้เยี่ยงไร?เพียะ!ใต้เท้าเคอยกมือตบหน้านายหญิงเคอหนึ่งฉาด “ดูเรื่องดีที่เจ้าทำสิ! แปดแสนตำลึงถูกพวกเจ้าใช้ไปจนหมดแล้วหรือ?”“ท่านตบข้า?”นายหญิงเคอปิดหน้าตนเอง เห็นอีกสามบ้านกำลังมองเรื่องตลกก็ตะโกนด่าทั้งน้ำตาออกไปอย่างสุดระงับ“ตอนแรกจ่ายเงินมากน้อยเพียงใด หรือว่าภายในใจของท่านไม่รู้จำนวนเลยหรือ? ตอนนี้ถึงขั้นตำหนิข้า ท่านมิได้ใช้เงินเหล่านั้นหรือ?”ใต้เท้าเคอย่อมใช้เงินจริง ที่บ้านมีคนโง่อย่างซ่งจิ่งเซินมอบเงินให้ไม่หยุดคนหนึ่ง ทีแรกพวกเขายังปฏิเ
ซ่งจืออวี้คลี่ยิ้มลำพองใจ “ใครให้เจ้านั่นโง่เขลาเองเล่า? ปล่อยน้องหญิงห้าสตรีงามดุจหงส์คนนี้ไป กลับต้องการแต่งงานกับไก่ป่าชอบนอกใจเขาคนนั้น บัดนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้วมิใช่หรือ?”ซ่งรั่วเจิน “...” ท่านสรุปเก่งเสียจริงซ่งจิ่งเซินเลิกคิ้ว เขาเพิ่งกลับมา ระยะก่อนได้รับข่าวมากเกินไป ดังนั้นจึงไม่รู้รายละเอียดมากมายอันใดนัก“นั่นก็สมน้ำหน้าเขาแล้ว ตอนนี้ติดหนี้พวกเรามากเพียงนี้ คืนแล้วหรือไม่?”“ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปรับจวนของพวกเขาแล้ว ระยะนี้ยุ่งมากจนเกินไป ไม่มีเวลาใส่ใจ”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก นางได้รู้ว่าฉินซวงซวงกลับจวนหลินแล้ว แม้ไม่รู้ว่าตกลงหลินจือเยว่คิดเช่นไรจึงยอมให้อภัยนาง แต่ในเมื่อต้องการจวน ก็ต้องให้คนอยู่พร้อมหน้ากันถึงจะดีซ่งจิ่งเซินและซ่งจืออวี้สบตากันแวบหนึ่ง ทันใดนั้นนึกสนุกขึ้นมาแล้ว“พวกเราจะไปเป็นเพื่อนเจ้า!”ซ่งอี้อันพยักหน้า แม้พูดว่าสุภาพชนไม่ฆ่าคน แต่คนรังแกน้องสาวของเขาจะต้องชดใช้!หลินจือเยว่พบจุดจบเช่นนี้ เป็นเขารนหาที่เองณ สกุลหลินฉินซวงซวงถูกหลินจือเยว่รับกลับมาแล้ว รู้สึกดีใจขึ้นมาระลอกหนึ่ง“จือเยว่ ข้าก็รู้ภายในใจท่านยังมีข้า ท่านฟังข้าอธิบายเรื
ทันใดนั้นสีหน้าหลินจือเยว่บึ้งตึง “นี่เจ้าหมายความว่ากระไร? ถามไล่เรียงข้า?”สีหน้าฉินซวงซวงเปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดอธิบาย “ข้ามิได้หมายความเช่นนี้ ข้าเพียงบังเอิญได้ยินข่าวนี้ก็เท่านั้น...”“เจ้าเองก็รู้หลังเกิดเรื่องนี้ท่านแม่โมโหมากเพียงใด คิดเพียงให้ข้าหย่ากับเจ้า จากนั้นให้ข้าแต่งงานใหม่อีกครั้ง”“เรื่องนี้ทำให้นางเสียใจมากจนเกินไป ข้าเองก็ไม่สามารถปฏิเสธน้ำใจนางไปตลอดได้ นี่ถึงฝืน...”เพียงฉินซวงซวงได้ยินว่ามีเรื่องนี้จริง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้ว นังเฒ่าเจ้าสำนักซ่องคนนั้นไม่ใช่คนดีดังคาด!นางเพียงออกจากสกุลหลินระยะหนึ่งเท่านั้น นางถึงขั้นยุแยงให้หลินจือเยว่แต่งงานใหม่อีกครั้ง ช่างอำมหิตนัก!“ทีแรกข้าเองก็ไม่เห็นด้วย เจ้าเองก็รู้ภายในใจข้า ไม่ว่าแม่นางคนใดก็เทียบเจ้าไม่ได้ แต่ซุนเยียนเอ๋อร์คนนี้เป็นญาติผู้น้องของซ่งรั่วเจิน เจ้ารู้ดี” หลินจือเยว่พูดขึ้นฉินซวงซวงขมวดคิ้ว “ท่านพี่ ท่านหมายความว่า?”“ซ่งฮูหยินและซุนฮูหยินเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นหลายปีมานี้สกุลซุนสามารถอยู่อย่างไร้กังวลได้ก็หนีไม่พ้นสกุลซ่งคอยดูแล”“ได้ยินมาว่าสกุลซุนมักไปขูดรีดที่สกุล
“ก่อนหน้านี้ดีชั่วอย่างไรก็เป็นจวนโหวแห่งหนึ่ง บัดนี้เสื่อมโทรมกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว มองออกว่าให้กำเนิดเพียงตัวไร้ประโยชน์ สุดท้ายก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “พูดมีเหตุผล”“น้องหญิงห้า หลังรับจวนหลังนี้แล้วเจ้าวางแผนเยี่ยงไร?”“ข้าคิดว่าซื้อมาทำร้านอาหารแห่งหนึ่งเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินครุ่นคิด พูดว่า “แม้ว่าโทรมไปบ้าง แต่กลับกว้างขวาง ซ่อมแซมดีๆ สักหน่อย แบ่งออกเป็นลานเล็กๆ”ก่อนหน้านี้นางเคยเห็นร้านอาหารแห่งอื่นภายในเมืองหลวง กิจการนับว่าไม่เลว แต่ห้องส่วนตัวบนชั้นสอง ความเป็นส่วนตัวยังแย่เกินไปหากในเวลานี้เปิดร้านอาหารเช่นนี้แห่งหนึ่ง เชื่อว่าจะต้องมีคนมากมายเลือกใช้ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีนางก็ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ก่อนหน้านี้ชอบอาหารเลิศรสหลากหลายอย่าง วิธีการทำเทียบกับอาหารเหล่านั้นภายในเมืองหลวงตอนนี้แล้ว นางมีตำรับอาหารเลิศรสมากมายยิ่งกว่าถึงตอนนั้นนำออกมาเป็นจานเด็ดประจำร้าน ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีลูกค้า แม้แต่ราคาก็สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อยได้ยินถ้อยคำของซ่งรั่วเจิน ดวงตาซ่งจิ่งเซินทอประกายระยับ “นี่กลับเป็นความคิดที่ดีอย่างหนึ่ง ดูท่าแล้วระยะที่ข้าไม่อยู่นี้
ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ
ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ
บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส
ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ
ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน
ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า
“ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน
ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง
ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข