แชร์

บทที่ 203

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินรู้สึกสงสัย นางเชื่อฟังขนาดนี้แล้วแท้ๆ เหตุใดจึงยังดูโกรธเคืองอยู่?

ดูเหมือนข่าวลือจะไม่มีผิดเพี้ยน ฉู่อ๋องเป็นคนเย็นชาเข้าถึงยาก ทั้งยังยากที่จะคาดเดาความคิดของเขาอีกด้วย

“ท่านอ๋องคล้ายจะอารมณ์ไม่ดีนัก เช่นนั้นหม่อมฉันไม่รบกวนจะดีกว่า”

ซ่งรั่วเจินคิดในใจว่าในบรรดาสามสิบหกกลยุทธ์ตอนนี้ นางถือกลยุทธ์ถอยลี้ไว้เป็นที่หนึ่ง เตรียมจะล่าถอยให้ไว เลี่ยงไม่ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้เกิดความไม่พอใจ มิเช่นนั้นย่อมยุ่งยากกว่าจัดการเรื่องเซียวอี้เจ๋อแน่นอน!

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นางกำลังหันหลังเดินจากมานั้น กลับถูกฉู่จวินถิงคว้ามือเอาไว้เสียก่อน

มือของชายหนุ่มกร้านกระด้างแข็งแรง ส่งผ่านอุณหภูมิความอบอุ่นมา ซ่งรั่วเจินหยุดก้าวลงในทันที เมียงมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหลังของตน

ฉู่จวินถิงรีบปล่อยมือออก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาฉายแววลังเลอยู่ครู่ กระแอมไอขึ้นมาเบาๆ พลางกล่าว

“จะอย่างไรข้าก็ช่วยเจ้าเอาไว้ เจ้าขอบคุณแค่เพียงวาจา ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะดูไม่จริงใจนัก”

“เช่นนั้นท่านอ๋องต้องการให้หม่อมฉันขอบคุณอย่างไร?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ

“ก่อนนี้เจ้าเคยคาดการณ์เอาไว้ว่าข้ามีเรื่องอยากจะถาม บัดนี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 204

    เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวอี้เจ๋อ หน้าของหลินจือเยว่ถึงกับถอดสี ดวงตาเต็มด้วยความตกตะลึง“คุณชายเซียว ทำเช่นนั้นไม่เหมาะกระมัง?"“มีอะไรไม่เหมาะสม?” เซียวอี้เจ๋อว่าด้วยแววตาใคร่กระหาย “บัดนี้ซ่งรั่วเจินไม่ใช่ผู้หญิงของเจ้าแล้ว ข้าสนใจนางก็นับเป็นโชคของนาง!”“ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการให้ข้าช่วย หากเจ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ ข้าจะช่วยเจ้าให้กลับเข้าสู่ราชสำนักเอง!”ดวงตาของหลินจือเยว่หรี่ลงเล็กน้อย เขาเองก็อยากจะกลับเข้าสู่ราชสำนักเสียเต็มแก่แล้วหากไม่ใช่ว่าตอนนี้เขาเป็นเพียงสามัญชน ซ่งเยี่ยนโจวมีหรือจะเมินเฉยไม่เห็นเขาในสายตาเช่นนี้ได้? กระทั่งซ่งจืออวี้ก็ยังอยากจะสั่งสอนเขาแล้ว!“คุณชายเซียว ท่านวางใจเถิด พวกเราจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย” ฉินซวงซวงกล่าวเซียวอี้เจ๋อผินมองไปยังฉินซวงซวงอย่างพึงพอใจ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนทำการใหญ่ได้ หากพวกเจ้าทำสำเร็จ ข้าย่อมมไม่เอาเปรียบพวกเจ้าแน่!”เขาอยากจะเห็นยิ่งนัก เมื่อซ่งรั่วเจินกลายเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว นางจะยังกล้าพูดเช่นที่พูดวันนี้กับเขาอยู่อีกไหม!เขาจะทรมานนางให้สาสม จากนั้นก็โยนนางให้คนอื่นต่อ กล้าทำให้เขาถูกโบยได้เช่นนี้ ย่อมไม่อา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 205

    ฉู่จวินถิงไม่ได้ใส่ใจดอกท้อนัก มองก็แต่เพียงรอยยิ้มสดใสของหญิงสาว ความงดงามและเปี่ยมสุขไร้การเติมแต่งที่หลั่งไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว คิ้วตาจึงพลันผ่อนคลายลงโดยไม่รู้ตัวครู่หนึ่ง ซ่งรั่วเจินหันมองชายหนุ่มข้างกาย “ท่านอ๋องมีเรื่องใดให้หม่อมฉันช่วยหรือเพคะ? บัดนี้โดยรอบหาได้มีผู้ใดแล้ว ท่านพูดออกมาได้โดยไม่ต้องกังวลแล้ว”พวกเขาเดินมาถึงยังส่วนลึกของสวน นอกจากเฉินเซียงและองครักษ์ของฉู่จวินถิงแล้ว ล้วนไม่มีผู้ใดอยู่บริเวณนี้เลย“สหายผู้หนึ่งของข้ามีนามว่าไป๋จื่อมู่ เรือนของเขาคล้ายจะมีบางอย่างแปลกพิกล”ฉู่จวินถิงมีสีหน้าซับซ้อน เรื่องภูตผีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย หากเป็นเมื่อก่อนเรียกได้ว่าไม่เคยเชื่อมาก่อน ทว่าจวบจนวันนี้ที่ได้เผชิญหลายสิ่งหลายอย่างนานัปการมาแล้ว ความคิดเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป “แปลกพิกลที่ตรงใดหรือ?” ซ่งรั่วเจินสนอกสนใจเป็นอย่างมาก“ในเรือนแห่งนั้นมีผู้คนเสียชีวิตติดต่อกันหลายราย ภายในเย็นเยียบชวนขนลุก ไม่มีผู้ใดกล้าอยู่อาศัย”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว “เรือนอาถรรพ์งั้นหรือ?”“เรื่องมันก็พิลึกที่ตรงนี้แล ผู้ใดเข้าไปยังที่แห่งนั้นต่างรู้สึกถึงบรรยากาศเย็นเยียบชวนผวา ทำเอาสั่น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 206

    วันต่อมาสกุลซ่งได้ยินข่าวจากสกุลลั่ว แต่ละคนล้วนเคร่งเครียด“เดิมทีสุขภาพของชิงอินก็ไม่ดีอยู่แล้ว เมื่อวานได้รับความตกใจ อีกทั้งยังเป็นหวัด ตอนนี้ไข้สูงไม่ยอมลด น่ากลัวว่าฟื้นขึ้นมาแล้วยังต้องพักรักษาตัวอีกระยะหนึ่ง”หลิ่วหรูเยียนสีหน้าเป็นกังวล “เด็กคนนี้ช่างน่าสงสาร หากพวกเรายังมีโอกาสให้นางแต่งเข้ามาได้ นั่นก็เป็นวาสนาของพวกเราแล้ว เพียงแต่เรื่องในปีนั้นทำให้ลั่วฮูหยินไม่ยอมเหลียวแลข้ามาโดยตลอด ส่งเทียบเชิญไปแล้วก็ปฏิเสธ...”พวกซ่งรั่วเจินสองสามคนสบตากัน นึกถึงเมื่อแรกพวกเขาและสกุลลั่วมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก ทว่าหลังซ่งเยี่ยนโจวแต่งงาน สกุลลั่วก็ไม่ไปมาหาสู่กับพวกเขาอีกคิ้วบนใบหน้าหล่อเหลาของซ่งเยี่ยนโจวขมวดแน่นไม่คลายออกจากกัน “ท่านแม่ ข้าอยากไปดูที่สกุลลั่วขอรับ”“สมควรไปดูๆ จริงนั่นล่ะ” หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า “เมื่อแรกข้าก็รู้ว่านางเป็นเด็กดีเอาใจใส่คนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าทำให้นางได้รับความทุกข์มากเพียงนี้” “เรื่องนี้เป็นพวกเราทำผิดต่อชิงอิน ทำผิดต่อสกุลลั่ว หลังไปแล้วไม่ว่าท่าทีของสกุลลั่วจะเป็นเช่นไร พวกเราก็ควรยอมรับแต่โดยดี เข้าใจหรือไม่?”เมื่อวานพวกซ่งรั่วเจินกล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 207

    “ไม่ใช่นะเจ้าคะ!” ซ่งรั่วเจินรีบโบกมือ “พวกท่านอย่าเข้าใจผิดเป็นอันขาด ฉู่อ๋องมารับข้าเพราะมีปัญหาเล็กน้อยต้องการให้ข้าช่วยเหลือ”ฉู่อ๋องในหนังสือไม่ได้แต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้นอวิ๋นอ๋องเองก็เตือนนางอย่าได้คิดเลยเถิดเกินไป นางจะปล่อยให้คนในครอบครัวเข้าใจผิดไม่ได้ ประเดี๋ยวจะเกิดปัญหายุ่งยากซ่งจืออวี้สีหน้าสงสัย “ฉู่อ๋องยอดเยี่ยมเพียงนั้น แม้แต่ปัญหาที่เขาแก้ไม่ได้ เจ้าจะสามารถแก้ได้หรือ?”“พี่สาม ท่านดูเบาข้ารึ?”ซ่งจืออวี้ส่ายหน้า แต่สีหน้ากลับเขียนว่าไม่เชื่อ “ในเมืองหลวงใครบ้างไม่รู้ความสามารถของฉู่อ๋อง? ได้ยินมาว่าคนมีความสามารถติดตามเขาเองก็ไม่น้อย แต่...คงไม่ใช่วิชาเต๋ากระมัง?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “เกี่ยวข้องกับสกุลไป๋”“สกุลไป๋?” หลิ่วหรูเยียนเข้าใจขึ้นมาในทันใด “ระยะก่อนข้าเองก็เคยได้ยินฮูหยินเหล่านั้นเอ่ยถึง พูดว่าน่าตกใจมาก เจินเอ๋อร์ จะเป็นอันตรายหรือไม่?”“ท่านแม่วางใจได้ จะต้องไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินโบกมือ นางเป็นถึงเจ้าสำนักสำนักเต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เรื่องเล็กแค่นี้ทำร้ายนางไม่ได้“พูดถึงคุณชายใหญ่สกุลไป๋ ข้ากลับเคยพบมาก่อน เขามีความสามารถมาก เพียงน่าเสียดายไม่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 208

    ณ จวนสกุลไป๋หลังซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงลงจากรถม้า มองปราดเดียวก็มองเห็นไป๋จื่อมู่กำลังยืนรออยู่ด้านนอกฝ่ายชายสวมชุดสีฟ้าอ่อน เส้นผมดำดุจกาถูกมัดไว้ด้วยแถบผ้าสีเดียวกัน ปอยผมพลิ้วไหวตามสายลม เผยความบริสุทธิ์อ่อนโยนเขาก็คล้ายภูผาสูงสายน้ำไหล เจือกลิ่นอายของบทกวี รัศมีสูงสง่าบริสุทธิ์ บางทีนี่อาจเป็นเสน่ห์ดั่งในท้องมีบทกวีมีความสง่างามด้วยตนเอง“ดังคาด ชายหล่อเหลาในยุคสมัยโบราณมีมากเหลือเกิน...”ซ่งรั่วเจินสลดใจอย่างอดไม่ได้ หลังตนเองทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ไม่เพียงกินดื่มโดยไร้กังวลภายในสกุลซ่ง ยังได้เห็นชายหล่อเหลาคนแล้วคนเล่า คุณชายไป๋ตรงหน้านี้ก็เป็นของชั้นเลิศพบเห็นได้ยากยิ่ง ช่างเป็นวาสนาต่อสายตาโดยแท้“เจ้าพูดว่าใครเป็นชายหล่อเหลา?”ฉู่จวินถิงได้ยินไม่ชัดเจนซ่งรั่วเจินพูดว่าอะไร ได้ยินเพียงชายหล่อเหลาสามพยางค์นี้ สายตาเลื่อนมองทางไป๋จื่อมู่อย่างไม่รู้ตัวคนผู้นี้สวมชุดสีฟ้า ท่วงท่าสง่างามดุจสายลมเป็นปกติดังเดิม เพียงแต่บัดนี้เขามองดูแล้วกลับรู้สึกไม่ถูกชะตาอยู่บ้าง“หม่อมฉันพูดว่าคุณชายไป๋และท่านอ๋องล้วนเป็นชายหล่อเหลาเพคะ”ซ่งรั่วเจินหัวเราะ ลอบรังเกียจตนเอง เหตุใดไม่ร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 209

    ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงล้วนสังเกตเห็นแผลบนหน้าผากของไป๋จวิ้นอวี่ พันผ้าไว้มองดูแล้วร้ายแรงเป็นพิเศษ“พี่ใหญ่ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ได้รับบาดเจ็บก็ช่างเถอะ ท่านอย่าพาฉู่อ๋องเข้าไปเป็นอันขาด หากได้รับบาดเจ็บจะทำเช่นไร?” ไป๋จวิ้นอวี่ตำหนิอย่างอดไม่ได้ไป๋จื่อมู่ขมวดคิ้วแน่น เขาอยู่ที่บ้านชินชากับการใช้คำพูดเช่นนี้มากดดันตนของไป๋จวิ้นอวี่แล้ว นึกถึงเมื่อแรกยังนับว่าไว้หน้า บัดนี้กำเริบเสิบสาน นับว่าฉีกหน้ากันแล้ว“ข้ากำลังคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจจึงตั้งใจมาเป็นพิเศษ”สุ้มเสียงฉู่จวินถิงเยียบเย็น ทันใดนั้นทำให้ไป๋จวิ้นอวี่เงียบปากลงในทันใดเขาเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ เผชิญหน้ากับเรื่องพรรค์นี้ไม่สมควรหลีกเลี่ยงหรอกหรือ? เหตุใดฉู่อ๋องจึงตั้งใจมาดูเล่า?อาศัยช่วงเวลาทุกคนกำลังพูดคุย ซ่งรั่วเจินมองเรือนอึมครึมมืดมน สลดใจอย่างสุดระงับไอแค้นฝังลึกเพียงนี้ คาดการณ์ว่ามีมาหลายปีแล้วคนปกติอยู่ที่นี่ได้ไม่เกินสามวันก็ต้องเกิดเรื่อง ตรงข้ามกันไป๋จื่อมู่ท่าทางธรรมดา กลับไม่มีพลังชั่วร้ายรอบกายแม้แต่น้อยผิดกับไป๋จวิ้นอวี่ เมื่อหลายวันก่อนเข้าไปเพียงเที่ยวเดียว จุดอิ้นถังก็เริ่มดำ ดว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 210

    ชั่วขณะมือของซ่งรั่วเจินสัมผัสสตรีชุดแดง ภาพเหตุการณ์ในชีวิตแต่ละภาพก็ผ่านตาอย่างรวดเร็วเริ่มจากนางดีใจที่ได้แต่งงานกับไป๋เฉิงหง ต้องการคลอดลูกชายลูกสาวให้เขา จนถึงตอนนี้ที่พบว่าทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเท็จบัณฑิตหน้าขาวที่นางชอบเป็นเรื่องเท็จ แต่งงานกราบไหว้ฟ้าดินเป็นเรื่องเท็จ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องหลอกลวงที่ไป๋เฉิงหงแต่งขึ้นนางที่กำลังตั้งครรภ์ถูกพามาที่สกุลไป๋ นี่ถึงรู้ว่าไป๋เฉิงหงเป็นคุณชายใหญ่สกุลไป๋ แต่งงานตั้งนานแล้ว ส่วนนางเป็นเพียงอนุที่ถูกเลี้ยงดูอยู่ภายนอกคนหนึ่งหลังอวี้เยว่หลิงถูกพากลับบ้านก็ได้รับการเลี้ยงดูอาศัยอยู่ภายในเรือนแห่งนี้ นางเคยคิดจากไป ทั้งยังเคยอ้อนวอนไป๋เฉิงหงหลายครั้ง กลับได้รับคำหลอกลวงและปลอบใจครั้งแล้วครั้งเล่าจากเขาสุดท้าย ลูกก็คลอดออกมานางอยากพาลูกจากไป ถึงขั้นอยากไปขอให้ไป๋ฮูหยินรับปาก กลับพบว่าลูกกลายเป็นคุณชายใหญ่ ส่วนแม่มิใช่นางนางถึงรู้ว่า...ที่แท้ไป๋ฮูหยินหลี่ว์เหวินซิ่วและไป๋เฉิงหงแต่งงานกันมาสามปีแต่ไม่มีลูกมาโดยตลอด ไป๋เฉิงหงถึงออกตามหานางจากภายนอกหลี่ว์เหวินซิ่วรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ตัดสินใจให้นางช่วยคลอดลูกออกมาคนหนึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 211

    “นางมองข้าด้วยสายตาอันอ่อนโยน เป็นความรักความห่วงใยจากผู้ใหญ่ที่ข้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่ไม่นานนัก ท่านแม่ของข้าก็พบเข้า ไม่เพียงแค่ตำหนิข้าอย่างรุนแรง ยังสั่งห้ามข้าไม่ให้มาอีก”“นั่นเป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นท่านแม่ดุถึงเพียงนั้น อีกทั้งยังโดนโบย ในคืนนั้นข้าก็ป่วยเป็นไข้สูง หลังจากฟื้นตัว ข้าพยายามถามแม่นม และเคยถามเหล่าบ่าวไพร่เช่นกัน”“ทุกคนล้วนกล่าวว่าในจวนนี้ไม่มีอี๋เหนียง คงเป็นเพราะข้าตัวร้อนจนสับสน คิดไปเองว่าฝันเป็นความจริง”ใบหน้าของไป๋จื่อมู่แสดงอารมณ์สับสน ความทรงจำในครั้งนั้นยังคงฝังลึก ราวกับไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน แต่เมื่อเขาเติบโตขึ้นและกลับมาที่นี่อีกครั้ง ก็พบเพียงเรือนที่รกร้าง ไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่สักคนนานวันเข้า แม้แต่เขาเองก็เริ่มเชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดอาจเป็นเพียงความฝัน“แต่เดิมข้าไม่ได้พำนักอยู่ที่นี่ เพียงเพราะน้องชายคนรองร่ำร้องอยากได้เรือนของข้า ท่านพ่อจึงให้ข้าย้ายไปหาเรือนใหม่”“ข้าก็ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงนึกถึงเรือนนี้ จึงสั่งให้คนซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนจะย้ายเข้ามาอาศัยอย่างสบายใจ แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ กลับเกิดเหตุประหลาดขึ้นมากมาย”“ท่านแม่และน้องชายทั

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status