Share

บทที่ 139

Penulis: จี้เวยเวย
ดวงตาฉินซวงซวงฉายแววเคียดแค้นชิงชัง “เจ้าโกรธแค้นอยู่ในใจมาโดยตลอดจึงคิดวิธีการเช่นนี้ออกมา จำต้องยอมรับว่าสมใจเจ้าแล้ว!”

“หลินฮูหยิน สิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นคนคือการรู้จักตนเอง ทุกคนล้วนรู้ว่าข้าเป็นฝ่ายถอนหมั้น หากข้าพิสมัยในจวนตระกูลหลินจริง ไยต้องทำเช่นนั้น?”

“ส่วนความโกรธแค้นที่เจ้าอ้างก็เป็นแค่ความคิดข้างเดียวของเจ้าเท่านั้น”

ใบหน้างามพิลาศของซ่งรั่วเจินสะท้อนความไม่แยแส “บุรุษดีๆ ในเมืองหลวงมีมากมายถมไป ไม่ได้มีแค่หลินจือเยว่คนเดียวเสียหน่อย”

“หลังจากข้าถอนหมั้นก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเจ้าอีก ข้าไม่จำเป็นต้องลำบากวางแผนพวกนี้เลยสักนิด”

ท่าทีพูดอย่างไม่ใส่ใจของนางราวกับว่าไม่เคยเห็นหลินจือเยว่อยู่ในสายตาเลยก็ไม่ปาน

“เจ้าจะไม่แค้นใจได้อย่างไร? เจ้าตรากตรำดูแลจวนตระกูลหลินมาถึงสองปี หากเจ้าไม่มีใจให้สามีข้า ไยต้องทำถึงขนาดนั้น?”

ฉินซวงซวงวาจาเชือดเฉือน นางจะต้องเปิดโปงโฉมหน้าเสแสร้งจอมปลอมของซ่งรั่วเจินให้ได้!

นางชอบเขาขนาดนั้นแท้ๆ ชาติก่อนนางตายไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจปานนั้น แล้วจะไม่สนใจเลยสักนิดได้อย่างไรกัน?

“ที่ข้าดูแลจวนตระกูลหลินก็เพราะข้ากับเขามีพันธะหมั้นหมา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 140

    “ท่านแม่ ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินประหลาดใจ นางเดาว่าวันนี้ที่ศาลาว่าการซุ่นเทียนจะต้องไม่เลิกราโดยดีแน่จึงเรียกพี่สามออกมาด้วยกัน แต่คิดไม่ถึงว่ามารดาก็มาด้วยเช่นกัน“ถ้าข้าไม่อยู่ คนพวกนี้คงได้รังแกเจ้าตามใจชอบน่ะสิ”หลิ่วหรูเยียนเดินเข้ามาบังซ่งรั่วเจินไว้ด้านหลัง กวาดสายตามองพวกหลินจือเยว่ที่อยู่ข้างๆ“ลูกสาวข้าเป็นถึงบุตรีตระกูลซ่ง เป็นกุลสตรีชาติตระกูลดีทั้งยังเพียบพร้อมด้วยความสามารถ ดนตรีเดินหมากอักษรภาพวาดล้วนเชี่ยวชาญทุกแขนง”“ตอนแรกที่หมั้นหมายกันก็เพราะท่านหลินป๋อมาอ้อนวอนสู่ขอ ข้านึกว่าท่านเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ฮูหยินผู้เฒ่าก็พูดดิบดีว่าจะดูแลเจินเอ๋อร์อย่างดี ข้าจึงตอบตกลง”“ว่าตามตรงก็เป็นเพราะแม่อย่างข้าไม่ดีเอง ตาบอดไปถึงได้หมั้นหมายผิดๆ ให้ลูกสาวของตัวเอง” “เดิมนั้นข้าเห็นแก่หน้าตาของทั้งสองฝ่ายจึงไม่ได้ยืนกรานจะฉีกหน้ากันให้ได้ แต่ยามนี้พวกท่านทำผิดเองแต่ยังคิดจะลากลูกสาวข้าเข้าไปเกี่ยวข้อง ฝันไปเถอะ!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจบก็หันไปทางฉู่จวินถิงพลางกล่าวว่า “ท่านอ๋อง วันนี้ลูกสาวของหม่อมฉันอยู่ในจวนตลอดเวลา จำนวนครั้งที่ออกไปข้างนอกสามารถนับนิ้วได

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 141

    ส่วนซวงซวง... หากไม่ใช่เพราะซ่งรั่วเจินหมายจะเล่นงานหลินจือเยว่เอาให้ได้ บัดนี้นางคงใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญไปแล้วจะอย่างไรก็ยังเป็นสกุลซ่งอยู่วันยังค่ำที่ทำนางเดือดร้อน!“ท่านอ๋อง เรื่องเข้าฝันที่ว่านี้ล้วนเหลวไหลสิ้นดีเพคะ หวังว่าท่านอ๋องจะคืนความยุติธรรมให้ลูกสาวของหม่อมฉันได้!"“ซ่งฮูหยินวางใจเถิด ข้าไม่ยอมให้ผู้บริสุทธิ์ถูกป้ายสีใส่ความเป็นแน่” ฉู่จวินถิงกล่าวฉินซวงซวงเห็นหลิ่วหรูเยียนมาแสดงอำนาจตน ทำให้ผู้คนต่างเชื่อว่าซ่งรั่วเจินหาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จึงเกิดร้อนรนใจขึ้นมาบ้าง“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าซ่งรั่วเจินรู้เรื่องเงินได้อย่างไร แต่ข้ารู้ว่าเรื่องเข้าฝันเป็นจริงแน่!”“ต่งฮูหยินได้รู้ว่าลูกชายตนสิ้นชีพไปแล้ว ก็เพราะการเข้าฝันของซ่งรั่วเจินมิใช่หรือ ก่อนหน้านี้ยังเคยกล่าวขอบคุณกันอยู่แท้ๆ” “บัดนี้กลับกล่าวว่าไม่มีความสามารถเช่นนั้น จะไม่เป็นการหอกโล่ขัดแย้งกันเองหรอกหรือ?”ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาเคยได้ยินเรื่องราวของสกุลต่งมาแล้วเช่นกัน อีกทั้งต่งฮูหยินยังออกปากยอมรับด้วยตนเอง ว่าหากไม่ใช่เพราะซ่งรั่วเจินคุณชายน้อยสกุลต่งคงตายเปล่าเสียแล้ว!“แม่นางซ่ง ใน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 142

    เมื่อสองสามีภรรยาสกุลต่งออกตัวเป็นพยานเช่นนี้แล้ว ผู้คนต่างก็อดตะลึงในความสามารถของซ่งรั่วเจินตามไปด้วยไม่ได้“ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินข่าวลือมา ทว่าคิดเพียงออกจะอัศจรรย์จนเกินไป ไม่น่าเป็นจริงได้ นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ยินจากปากของใต้เท้าต่งเองเช่นนี้"“โชคดีที่แม่นางซ่งช่วยให้คุณชายน้อยสกุลต่งพ้นจากความอยุติธรรม ทั้งได้พบกันในฝันเช่นนี้ยิ่งทำต่งฮูหยินคลายทุกข์เศร้าลงได้บ้าง”ตอนที่คุณชายน้อยสกุลต่งหายตัวไป ถึงกับสั่นคลอนไปทั่วเมืองหลวง ต่อมาเมื่อได้รู้ว่าเขาถูกอาสะใภ้ของตนฆ่าตายยิ่งทำผู้คนตกตะลึงมากยิ่งขึ้นสวี่ชิงเหมยตลอดมาเป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือด้านความอ่อนโยนจิตใจดีงาม ใครจะคาดคิดว่านางกลับมีจิตใจโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้หากไม่มีความช่วยเหลือของแม่นางซ่ง เกรงว่าคุณชายน้อยสกุลต่งคงตายอย่างไร้ความยุติธรรมเสียแล้ว กระทั่งคุณชายใหญ่ช้าหรือเร็วก็อาจตกเป็นเหยื่อ ต้องทุกข์ทรมานด้วยเช่นกันฉู่จวินถิงเองก็รู้เรื่องนี้ดี บัดนี้เขาเชื่อแล้วว่าซ่งรั่วเจินมีความสามารถเช่นนี้จริง ส่วนเรื่องที่นางข้องเกี่ยวกับหยวนซิงเชานั้น เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน“ในเมื่อแม่นางซ่งได้ชี้แจงแถลงไขความจริงแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 143

    “หากท่านกังวลเรื่องฉินเซี่ยงเหิงจริง เหตุใดยามพวกท่านไปขอขมาลาโทษสกุลซ่งเมื่อวาน ฉินซวงซวงจึงมิได้อยู่ด้วยเล่า?”“ทั้งบุตรสาวบุตรเขยต่างรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแต่ยังไม่ไปด้วย หรือพวกท่านไม่คิดว่าน่าสงสัย?”“เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงคำแก้ตัวของพวกท่าน!” เหลียงเหยียนกล่าวสุ้มเสียงเกรี้ยวโกรธ“ท่านเป็นแม่ทัพ เดิมควรบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ปวงประชา แต่ท่านกลับสมคบคิดกับหยวนซิงเชายักยอกเงินบรรเทาทุกข์ราษฎร ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์มากมายต้องล้มตาย เจ้าตายเป็นหมื่นครั้งก็ยังไม่พอชดใช้!”ฉินเจิงโกรธจนหน้าดำคล้ำเขียว รู้สึกราวกับโทษทัณฑ์มหันต์ใหญ่ที่ตนไม่ได้ก่อถูกโยนเข้าใส่!“ในเมื่อแม่ทัพฉินไม่ยอมชี้แจงให้ชัดเจน เช่นนั้นก็พาตัวลงไปค่อย ๆ ถามค่อย ๆ ซักแล้วกัน!” “นำตัวไป!”ฉู่จวินถิงออกคำสั่งเด็ดขาด ให้พาตัวคนสกุลฉินและสกุลหลินไปด้วยกันทั้งหมด!ฉินเซี่ยงเหิงเห็นฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่ถูกพาตัวไป ในใจก็กระวนกระวายขึ้นมา ทว่าเขายังคงไม่ได้สนใจว่าสองคนนั้นจะโดนโทษทัณฑ์เช่นไร ห่วงพะวงเพียงบิดามารดาของตนจะมาช่วยได้เมื่อใดก็เท่านั้นเมื่อวานท่านแม่บอกชัดเจนแล้วว่าวันนี้จะมาช่วยเขาออกไป ศาลาว่าการซุ่นเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 144

    “ที่ข้าทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อท่านพี่ของข้าหรอกหรือ? หากไม่ใช่เพราะตระกูลซ่งคอยบีบคั้นจนข้ากลัวว่าเขาจะสูญเสียตำแหน่งขุนนางไป มีหรือข้าจะเสี่ยงทำเช่นนี้ได้!”ฉินซวงซวงกุมปิดใบหน้าที่ถูกตบ สีหน้าเต็มด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หากไม่ใช่เพราะนางทำเพื่อทุกคน มีหรือจะต้องทำเช่นนี้?“เจ้าไร้ทางเลือกจนยอมเสี่ยง เช่นนั้นก็ช่วยพวกเราแก้ไขปัญหานี้เสียสิ ที่เจ้าทำพวกเราถูกจับขังคุกอยู่เช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร?”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินสายตาเคียดแค้น “ชีวิตนี้ข้ายังไม่เคยเหยียบย่างเข้าคุกเลยด้วยซ้ำ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ตระกูลหลินของข้าจะยังเอาหน้าไปไว้ที่ใดได้?”“ข้าว่านะฮูหยินผู้เฒ่าหลิน เรื่องนี้ลูกสาวข้าก็ทำไปด้วยเจตนาดี หากไม่ใช่เพราะตระกูลเจ้าไร้ความสามารถ มีหรือจะต้องให้ลูกสาวข้ามากังวลใจถึงเพียงนี้?จริงอยู่ที่กู้อวิ๋นเวยโกรธฉินซวงซวง ทว่าคนบ้านตนก็หาได้จำเป็นต้องรับผิดชอบไม่ ยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหลินผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่นางมันใช้ได้ที่ไหน?“หากพวกเจ้าไม่มัวแต่เสวยสุข ใช้จ่ายเงินทองโดยฟุ่มเฟือย บัดนี้มีหรือจะมีหนี้สินล้นพ้นตัวเช่นนี้?”“ก่อนนี้ข้าได้ยินมาว่าสองปีมานี้เจ้ากินดีอยู่ดี ในจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 145

    “ท่านแม่ ท่านแม่สามี หยุดตีกันเถิด!”ฉินซวงซวงอดร้อนใจไม่ได้ นางยังอยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับจือเยว่ สองตระกูลควรสามัคคีปรองดองกันถึงจะถูกหากปล่อยให้บาดหมางกันต่อไปเช่นนี้ วันนี้สะสางความแค้นเสร็จสิ้น วันหน้าจะคืนดีกันได้อย่างไร?กู้อวิ๋นเวยกับหลินรั่วหลานต่างไม่อาจระงับโทสะได้ ยิ่งฉินซวงซวงพยายามเข้ามาคั่นกลางขวางกั้น ก็ทำให้เส้นผม ใบหน้า และร่างกายของนางเลอะขี้เลนตามไปด้วย ปิดคลุมกระทั่งดวงตาจนแทบมองไม่เห็น!“ท่านพี่ ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมท่านแม่หน่อยเถิด” ฉินซวงซวงรีบร้อนเอ่ยหลินจือเยว่ที่ก่อนนี้เคยรู้ซึ้งมาแล้วว่าขี้เลนเหล่านี้สกปรกเพียงใด กลิ่นเหม็นเน่าบนร่างก็แทบทำให้เขาทานทนไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นครานี้เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายทะเลาะกัน ก็ถอยออกห่างโดยสัญชาตญาณ“ท่านแม่ หยุดเถิด”หลินจือเยว่ทำหน้าเคร่ง หันไปทำความเคารพฉินเจิงกับกู้อวิ๋นเวย“ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ได้ จือเยว่รู้ดีว่าทำผิดไปไม่น้อย ทว่าอย่างไรเรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว พวกเราควรคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้เสียมากกว่า ไม่ใช่มาทะเลาะเบาะแว้งกันเองอยู่เช่นนี้” ฉินเจิงโมหะสุมแน่นเต็มท้อง แม้จะไม่พอใ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 146

    สวี่อิ๋งเฉียวได้ยินถ้อยคำนี้ แววตาทอประกายระยับ ดวงตาคู่นั้นกลับแดงเรื่ออย่างไม่รู้ตัว“แม่นางซ่ง ขอบคุณเจ้า ขอบคุณเจ้ามากจริงๆ”ต่งหานโจวเองก็เข้าใจความนัยของถ้อยคำนี้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาเองก็ยากจะปกปิดความดีใจเอาไว้ได้“แม่นางซ่ง เจ้าช่างเป็นผู้มีพระคุณของสกุลต่งโดยแท้ ภายภาคหน้ามีเรื่องใดให้พวกเราช่วยเหลือขอให้พูดโดยตรง” “สกุลต่งสามารถทำได้ ไม่มีวันบ่ายเบี่ยงแน่นอน แม้ว่าสกุลต่งทำไม่ได้ ก็จะหาทางทำให้สำเร็จ”ถ้อยคำนี้มีความสำคัญมาก หลิ่วหรูเยียนสงสัยอย่างอดไม่ได้ ลูกสาวของตนเพียงอวยพรหนึ่งประโยค เหตุใดสองคนนี้ถึงกระตือรือร้นเพียงนี้เล่า?“ซ่งฮูหยิน ท่านมีลูกสาวที่ดีคนหนึ่ง ลูกชายเองก็เอาการเอางาน ข้าเชื่อว่าภายภาคหน้าจะต้องดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน” ต่งหานโจวเอ่ยหลิ่วหรูเยียนมีรอยยิ้มเกลื่อนหน้า “ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมออกจากศาลาว่าการซุ่นเทียน กลับได้ยินเสียงฉู่จวินถิงดังขึ้นทางด้านหลัง“แม่นางซ่ง ช้าก่อน”ซ่งรั่วเจินหันหน้าก็มองเห็นฉู่จวินถิงเดินเนิบนาบเข้ามาเห็นเพียงเขาสวมชุดสีดำ รูปร่างเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ รัศมีสูงศักดิ์และกล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 147

    “เข้าใจแล้ว ตอนนี้ใต้เท้าเหลียงกับใต้เท้าจ้าวไปที่คุกแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะรู้ผล”……ณ จวนสกุลซ่งซ่งรั่วเจินเพิ่งกลับมาก็พบอวิ๋นเนี่ยนชูที่กำลังเร่งรีบออกจากจวน “เนี่ยนชู นี่เจ้ากำลังจะไปที่ใด?”“รั่วเจิน เจ้ากลับมาแล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงระคนดีใจ “เดิมทีวันนี้ข้าอยากมาคุยเล่นกับเจ้า ใครคิดเล่าว่าเจ้าจะไปศาลาว่าการซุ่นเทียน ข้ากำลังจะไปหาเจ้าน่ะ”“เจ้าเล่าให้ข้าฟังทีสิ วันนี้ศาลาว่าการซุ่นเทียนสอบสวนคดีของฉินเซี่ยงเหิงแล้วใช่หรือไม่? มีความคืบหน้าไหม?”ซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “ไม่มี”“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?” อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าไม่พอใจ “เรื่องใหญ่โตเพียงนี้ ไม่ว่าอย่างไรศาลาว่าการซุ่นเทียนก็สมควรมอบคำชี้แจงให้พวกเจ้า ไม่สามารถไม่สนใจไยดีเช่นนี้ได้หรอกกระมัง?”“วันนี้เกิดเรื่องกับสกุลฉินและสกุลหลิน เกรงว่าไม่มีเวลามาใส่ใจฉินเซี่ยงเหิงแล้ว”อวิ๋นเนี่ยนชูเบิกตากว้าง “เกิดเรื่องอันใดกับสกุลฉินรึ?”ซ่งรั่วเจินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด อวิ๋นเนี่ยนชูเพียงรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่รู้ว่าสมควรพูดอย่างไร“ฉินซวงซวงใจกล้าเกินไปแล้ว ถึงขั้นกล้าละโมบแม้แต่เงินพรรค์นี้

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 938

    “ซ่งรั่วเจินและฉู่อ๋องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เดิมทีอยากให้เชี่ยนเอ๋อร์แต่งงานกับฉู่อ๋อง ทั้งหมดจะได้คลี่คลาย ทางฝั่งฮองเฮาก็ถูกเจ้าพูดจนหวั่นไหวแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกันเล่า?”สีหน้านายหญิงหลิงแข็งทื่อ “ยังเพราะอันใดอีกเล่า? ไม่รู้ซ่งรั่วเจินกรอกน้ำแกงลุ่มหลงอันใดให้ฉู่อ๋องกิน ภายในสายตาเขามีเพียงซ่งรั่วเจินคนเดียว ไม่สนใจเชี่ยนเอ๋อร์เลยสักนิด ไม่ว่าพวกเราพยายามมากเพียงใดก็ไร้ผล”“ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องไม่ดีแน่ เดิมทีเชี่ยนเอ๋อร์ก็ถึงวัยแต่งงานแล้ว ก่อนหน้านี้เช่ออ๋องเอาอกเอาใจนางมากไม่ใช่หรือ?”“อย่างไรเสียบัดนี้เช่ออ๋องก็ไม่มีพระชายา คนก่อนนั้นก็ถูกจับขังคุกไปแล้ว ประจวบเหมาะกับเชี่ยนเอ๋อร์พอดี ขอเพียงนางแต่งเข้าราชวงศ์ได้ ตำแหน่งของสกุลหลิงพวกเราก็จะมั่นคงขึ้นอีกนิด”หลิงไท่ซือเอ่ยปากเสียงเย็น พูดตัดสินชี้ขาดออกมานายท่านหลิงพยักหน้า มองทางนายหญิงหลิง “อีกเดี๋ยวเจ้าบอกเรื่องนี้ให้เชี่ยนเอ๋อร์รู้ ให้นางรีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว”“เชี่ยนเอ๋อร์คล้ายไม่ชอบเช่ออ๋องเจ้าค่ะ” นายหญิงหลิงลังเลเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้เช่ออ๋องเอาอกเอาใจเชี่ยนเอ๋อร์อย่างมากจริงๆ แต่สถานกา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 937

    “เรื่องในตอนนั้นของกระหม่อมโด่งดังอึกทึกครึกโครม คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้ว่ากระหม่อมตาบอดไป กระหม่อมเองก็ไม่ได้สนใจมิใช่หรือ?”ซ่งจิ่งเซินเผยสีหน้าไม่ใส่ใจ แม้ตอนเขารู้เรื่องที่ตนทำในอดีตไม่กล้าออกไปสู้หน้าคนจริง แต่อย่างไรเสียที่ผ่านมาหน้าตาที่ควรเสียไปก็เสียไปจนสิ้นแล้ว บัดนี้ไม่มีอะไรให้ใส่ใจอีกซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านเรียนรู้จากพี่สี่หม่อมฉันเถอะ เรื่องในตอนนั้นอึกทึกครึกโครมจนคนในเมืองหลวงต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว เขากลับไม่สนใจเลยสักนิด เดิมทีก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ไม่เป็นไรหรอกเพคะ”“พูดให้ละเอียดดูแล้ว ชายโฉดหญิงชั่วล้วนมีศีลเสมอกัน คิดเพียงจะกอดซ้ายกอดขวา เสวยสุขกับคนรักมากมาย ไม่มีความสามารถเลยสักนิด”“ไปจากพวกท่านแล้วก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”“พี่สะใภ้ ท่านพูดถูกแล้ว ผิดก็ผิดไปแล้ว ภายภาคหน้าหากข้ามีคนที่ชอบอีก ข้าจะบอกท่านแน่ ให้ท่านช่วยข้าดู”ฉู่มู่เหยากะพริบตาปริบๆ ตัดสินใจภายในใจ ภายภาคหน้าจะไม่มีวันทำเรื่องขายหน้าเช่นนี้อีก!“กระหม่อมเองก็สามารถช่วยท่านดูได้” ซ่งจิ่งเซินพูดเย้าฉู่มู่เหยาเผยสีหน้าสงสัย “เจ้า?”“อะไรกัน? ดูเบากระหม่อมหรือ?” สายตาซ่งจิ่งเซินคมกริบ ตอบโ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 936

    “พี่สะใภ้ ขออภัยจริงๆ ก่อนหน้านี้ข้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะเลียนแบบร้านปิ้งย่างที่ท่านเปิด หากว่ารู้ ข้าไม่มีวันปล่อยให้พวกเขาทำเช่นนี้เป็นอันขาด”ฉู่มู่เหยาเผยสีหน้ารู้สึกผิด ก่อนหน้านี้นางก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เหตุใดตอนนางถามเสิ่นหวยอันว่าเตรียมจะเปิดร้านอะไร เขาถึงหลีกเลี่ยงไม่ยอมตอบมาโดยตลอด พูดเพียงว่าต้องการสร้างความประหลาดใจระคนดีใจให้นางอย่างหนึ่งจนกระทั่งมาวันนี้ หลังได้เห็นป้ายร้านเองกับตา อารมณ์ของนางก็แย่ลงทั้งๆ ที่เสิ่นหวยอันรู้ความสัมพันธ์ระหว่างนางและพี่สะใภ้ ร้านนี้ยังเอามาจากมือของพี่สะใภ้อีกด้วย ปรากฏว่าเขาทำเรื่องพรรค์นี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่คำนึงถึงนางเลยสักนิด“ท่านไม่รู้เรื่องนี้เสียหน่อย ไฉนเลยจะโทษท่านได้?”ซ่งรั่วเจินจูงมือของฉู่มู่เหยา “อย่าอารมณ์ไม่ดีเพราะคนพรรค์นี้เลย ใครบ้างเล่าอายุยังน้อยไม่เคยตาบอดมองคนพลาดมาก่อน? ขอเพียงตอนนี้มองออกอย่างชัดเจนก็พอ!”“แต่พวกเขาเปิดร้านนี้จะส่งผลกระทบต่อพวกท่านหรือไม่?” ฉู่มู่เหยายังรู้สึกผิดอยู่มาก บัดนี้รู้สึกเพียงว่าเสด็จแม่และพี่ห้าด่าว่าไม่ผิดไปเลยสักนิด“แค่ร้านของพวกเขานี้ ยังส่งผลต่อการค้าของพวกเราอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 935

    “องค์หญิง เหตุใดท่านใจร้ายถึงเพียงนี้?” ซ่งปี้อวิ๋นพูดออกมาอย่างสุดระงับฉู่มู่เหยาขมวดคิ้วแน่น กลับถูกซ่งรั่วเจินห้ามไว้ “เจ้าใจดีถึงเพียงนั้นก็ดูแลดีๆ เถอะ แต่เห็นแก่สายสัมพันธ์ของญาติพี่น้อง ข้าจะต้องเตือนเจ้าหนึ่งประโยค”“เจ้าเป็นแม่นางที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่ง อยู่ภายนอกจะต้องรักษาระยะห่างให้ดี ยื้อยุดฉุดกระชากท่ามกลางผู้คนมากมาย หากถูกท่านลุงใหญ่รู้เข้า คาดว่าจะต้องไม่พอใจกระมัง?”สีหน้าซ่งปี้อวิ๋นเปลี่ยนไป “หรือว่าท่านจะฟ้องท่านพ่อข้า?”“ข้าไม่ใช่คนชอบใส่ใจไม่เข้าเรื่องหรอกนะ เพียงแต่เตือนเจ้าสักครั้งเท่านั้น หากเจ้าไม่โง่ ก็ควรรู้ว่าผู้ชายเช่นนี้ไม่คู่ควรให้พึ่งพาอาศัย”“หันหลังกลับตอนนี้ยังมีโอกาส”เมื่อครู่ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนายดูแล้ว ทำนายได้ว่าหลังซ่งปี้อวิ๋นแต่งงานกับเสิ่นหวยอัน จะได้พบจุดจบอย่างอนาถแม้พูดว่าความสัมพันธ์ของพวกนางไม่ดีเท่าใดนัก แต่เดิมทีก็มีสายสัมพันธ์เป็นญาติมิตร นางจึงเตือนหนึ่งประโยค แต่ตกลงฟังหรือไม่ ยังต้องดูตัวซ่งปี้อวิ๋นเองเพียงซ่งปี้อวิ๋นได้ยิน รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินกำลังวางตัวสูงส่งเอ่ยเตือนนาง เห็นได้ชัดว่ากำลังดูเบานาง!“ข้าย่อมรู้ข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 934

    หากรู้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่มีวันบอกเสด็จแม่ บัดนี้ทุกคนล้วนรู้แล้ว นางไม่มีหน้าหลงเหลือแล้วจริงๆ“ญาติผู้พี่ แม้พูดว่าพวกเราแยกบ้านกันแล้ว แต่อย่างไรเสียก็มีบรรพบุรุษคนเดียวกัน ท่านก็แค่ไม่พอใจที่คุณชายเสิ่นเปิดร้านปิ้งย่าง ไม่ถึงขั้นต้องพูดจาว่าร้ายพวกเราต่อหน้าองค์หญิงหรอกกระมัง?”ซ่งปี้อวิ๋นเห็นทุกคนพูดเรื่องระหว่างนางและเสิ่นหวยอันออกมาแล้ว รู้สึกร้อนใจอย่างอดไม่ได้ฉู่มู่เหยาสั่งให้คนโบยเขาไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นความรักของพวกเขาอยู่ในสายตา เช่นนั้นก็ไม่สามารถปล่อยให้เรื่องลุกลามไปมากกว่านี้ได้อีก หาไม่แล้วสิ่งที่เสียหายก็คือชื่อเสียง“พวกเจ้าเปิดร้านปิ้งย่าง เหตุใดพวกเราต้องไม่สบอารมณ์ด้วยเล่า?” จู่ๆ ซ่งจิ่งเซินก็ถามกลับซ่งปี้อวิ๋นเผยท่าทางแข็งกระด้าง ย่อมรู้ว่าถ้อยคำนี้ของซ่งจิ่งเซินคือจงใจชี้นำนางให้พูดออกมาว่าเลียนแบบ เพียงแต่ระหว่างเลียนแบบและตั้งใจทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงความผิดสองข้อนี้ ย่อมต้องเลือกอย่างแรกคนเลียนแบบสกุลซ่งไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคน ไม่มีผู้ใดกำหนดว่ามีเพียงสกุลซ่งสามารถขายปิ้งย่างได้ พวกเขาเองก็สามารถขายได้เช่นเดียวกัน“ข้ารู้ร้านปิ้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 933

    ฉู่มู่เหยาเห็นเสิ่นหวยอันพูดเลยเถิดเกินไปมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากโทสะแล้ว มากที่สุดคือความอับอายนางไม่มีหน้าพบพี่สะใภ้และซ่งจิ่งเซินแล้ว!“เจ้ายังไม่หุบปากอีก!” ฉู่มู่เหยาโมโหจนอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง พูดเสียงเปี่ยมโทสะ “เข้ามา เสิ่นหวยอันจงใจทำลายชื่อเสียงของข้า ลากเขาออกไปโบยยี่สิบไม้!”“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง”จากนั้นองครักษ์ด้านนอกถลันขึ้นมาข้างหน้าอย่างว่องไว ลากเสิ่นหวยอันไปด้านนอกโดยไม่พูดจาเสิ่นหวยอันเห็นฉู่มู่เหยาพูดคล้ายไม่ใช่กำลังขู่เขา สีหน้าถึงเปลี่ยนไป พูดออกมาด้วยความเสียใจ“องค์หญิง ข้าผิดไปแล้ว เพราะภายในใจข้ามีท่านถึงพูดเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ข้าจริงใจต่อท่าน แต่ท่านกลับสงสัยข้าเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคของพวกเขา ข้าเสียใจจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”ฉู่มู่เหยาเห็นเสิ่นหวยอันยังไม่ยอมหุบปาก ปักใจทำลายชื่อเสียงของนาง นี่จึงตวาดเสียงเฉียบออกไป “ยังไม่รีบลากเขาออกไปอีก!”จนกระทั่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นที่หน้าประตู สายตาซ่งปี้อวิ๋นเองก็สะท้อนความตกตะลึงว้าวุ่น “องค์หญิง หากยังตียี่สิบไม้ต่อไป คุณชายเสิ่นจะทนไม่ไหวนะเพคะ!”“หากเจ้าสงสารเขา มิสู้เจ้าไปช่วยรับโทษแทนเขาดีหรือไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 932

    เสิ่นหวยอันมองซ่งจิ่งเซินที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวออกมา สีหน้าเข้มขึ้น “นี่เกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย?”“ข้าเห็นเจ้าขัดตา เพื่อต่อสู้กับอธรรม ข้าก็พร้อมชักดาบเข้าช่วย มีปัญหาอันใดหรือไม่?”“รูปร่างเหมือนคนแต่จิตใจกลับคล้ายสุนัข ไม่ทำเรื่องดีของคน อ้างบุญคุณช่วยชีวิต ไหว้วานองค์หญิงให้พวกเราสกุลซ่งยอมมอบร้านให้เจ้า ปรากฏว่าเจ้านำมาเปิดร้านปิ้งย่าง นี่ไม่มียางอายเลยหรือ?”“บัดนี้ร้านเปิดแล้ว พวกเราล้วนไม่พูดอันใด ยังคิดเชิดหน้าชูคอเป็นราชบุตรเขยอีกกระนั้น? เจ้าเองก็ไม่ส่องคันฉ่องดูบ้างเล่า ดูว่าตกลงเจ้าคู่ควรหรือไม่?”ซ่งจิ่งเซินเลิกคิ้วคมขึ้น ใบหน้างดงามเจือความโอหังและอันธพาลเล็กน้อย เขาเคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้มามากแล้ว เก็บกวาดได้ถนัดมือยิ่งนัก“มู่เหยา ท่านไม่เป็นไรกระมัง?”ซ่งรั่วเจินมองฉู่มู่เหยาอย่างห่วงใย นางสามารถมองออกว่าฉู่มู่เหยาถูกทำให้โมโหไม่เบา เดิมทีคิดอยากสั่งสอนเสิ่นหวยอันเพื่อคลายโทสะให้นาง ทว่าพลังต่อสู้ของพี่สี่บ้านตนนี้ มองดูแล้วนางไม่จำเป็นต้องออกหน้า!ฉู่มู่เหยาส่ายหน้า กลับรู้สึกอึดอัดภายในใจ เดิมทีก็ไม่อาจกลืนโทสะนี้ลงไปได้“พี่สะใภ้ เขาจงใจทำลายชื่อเสียงของข้า ทั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 931

    “องค์หญิง ตกลงท่านเป็นอะไรไป? มีเรื่องใดไม่สบอารมณ์ พวกเราพูดคุยกันส่วนตัวดีหรือไม่? เหตุใดจะต้องโวยวายจนถึงขั้นนี้?”เสิ่นหวยอันได้ยินเสียงเย้ยหยันเย็นชานั้น ฝืนข่มโทสะลงไป บัดนี้ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาดีชั่วอย่างไรก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง เหตุใดฉู่มู่เหยาต้องหักหน้าเขาต่อหน้าธารกำนัลครั้งแล้วครั้งเล่า?“ข้าโวยวายอะไร? คุณชายเสิ่น คำนี้ของท่านพูดได้แปลกยิ่งนัก”ฉู่มู่เหยามองเสิ่นหวยอันด้วยสายตาเย็นชา สังเกตเห็นโทสะภายในสายตาของเขา รู้สึกอยากขันภายในใจผู้ชายคนนี้คล้ายใช้ไม่ได้จริงๆ ก่อนหน้านี้ตนเองไม่เคยสังเกตมาก่อน บัดนี้เพราะเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ก็เริ่มโมโหเสียแล้ว“แม้ว่าท่านเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ท่านพูดว่าต้องการร้านอาหารนี้ ข้าก็ให้แม่นางซ่งยอมตัดใจยกให้พวกท่านแล้ว”“บัดนี้ร้านอาหารเปิดกิจการ ข้าก็นำของขวัญมามอบให้ด้วยตนเอง เพียงแต่พวกท่านไม่ชอบนั่นก็ช่างเถอะ แต่หวังว่าท่านจะรู้ฐานะของตน อย่าละเมิดกฎ อีกทั้งอย่าได้คิดถึงสิ่งที่ไม่สมควรคิดเหล่านั้น!”เสิ่นหวยอันกระวนกระวายใจมากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตเห็นว่าสถานการณ์ในวันนี้ไม่ชอบมาพากลฉู่มู่เหยาไม่ใช่กำลังหยั่งเชิง แต่ต้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 930

    ทุกคนล้วนร้องจิ๊ออกมาอย่างเสียดาย เพียงแค่พระหยกองค์นี้ราคาก็ไม่ธรรมดาแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวันแรกของการเปิดร้าน ที่ต้องระวังที่สุดก็คือสิ่งเหล่านี้ทุกคนเองก็เก้อกระดากเกินกว่าจะพูดออกมาโดยตรง แต่กลับรู้ดีภายในใจว่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น น่ากลัวว่าการค้าของร้านนี้ไม่มีวันเจริญรุ่งเรือง“ปี้อวิ๋น ตกลงเจ้าเป็นอะไรไป?”สายตาเสิ่นหวยอันสะท้อนความไม่พอใจ แม้แต่เสียงเองก็เจือคำตำหนิของที่ฉู่มู่เหยามอบให้จะต้องไม่ธรรมดา สิ่งของภายในวังล้วนไม่แย่ ยิ่งไปกว่านั้นนางเห็นตนเป็นคนในดวงใจ จะต้องตั้งใจเลือกออกมาอย่างดีแน่บัดนี้เขาก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเทพเจ้าแห่งโชคลาภนี้เป็นมงคลเยี่ยงไร ต่อให้ภายภาคหน้าไม่มีเงินจริง นำไปขายก็ได้เงินมหาศาล!บัดนี้กลับดี แตกไปเช่นนี้แล้ว“หวยอัน ไม่ใช่ข้าจริงๆ เมื่อครู่ข้ายังไม่ทันยื่นมือออกไป สาวใช้คนนั้นก็ปล่อยมือแล้ว ดังนั้นของจึงตกพื้นแตก”ซ่งปี้อวิ๋นเผยสีหน้าอึดอัดคับข้องใจ นางบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ของดีล้ำค่าถึงเพียงนี้ นางอยากจะรับไปดีๆ ใครคิดเล่าว่าจะเกิดผลลัพธ์เช่นนี้?เพียงชุ่ยจูได้ยินก็รีบพูดว่า “องค์หญิง ไม่ใช่บ่าวไม่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status