Share

บทที่ 141

Penulis: จี้เวยเวย
last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-05 18:00:00
ส่วนซวงซวง... หากไม่ใช่เพราะซ่งรั่วเจินหมายจะเล่นงานหลินจือเยว่เอาให้ได้ บัดนี้นางคงใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญไปแล้ว

จะอย่างไรก็ยังเป็นสกุลซ่งอยู่วันยังค่ำที่ทำนางเดือดร้อน!

“ท่านอ๋อง เรื่องเข้าฝันที่ว่านี้ล้วนเหลวไหลสิ้นดีเพคะ หวังว่าท่านอ๋องจะคืนความยุติธรรมให้ลูกสาวของหม่อมฉันได้!"

“ซ่งฮูหยินวางใจเถิด ข้าไม่ยอมให้ผู้บริสุทธิ์ถูกป้ายสีใส่ความเป็นแน่” ฉู่จวินถิงกล่าว

ฉินซวงซวงเห็นหลิ่วหรูเยียนมาแสดงอำนาจตน ทำให้ผู้คนต่างเชื่อว่าซ่งรั่วเจินหาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ จึงเกิดร้อนรนใจขึ้นมาบ้าง

“แม้ข้าจะไม่รู้ว่าซ่งรั่วเจินรู้เรื่องเงินได้อย่างไร แต่ข้ารู้ว่าเรื่องเข้าฝันเป็นจริงแน่!”

“ต่งฮูหยินได้รู้ว่าลูกชายตนสิ้นชีพไปแล้ว ก็เพราะการเข้าฝันของซ่งรั่วเจินมิใช่หรือ ก่อนหน้านี้ยังเคยกล่าวขอบคุณกันอยู่แท้ๆ”

“บัดนี้กลับกล่าวว่าไม่มีความสามารถเช่นนั้น จะไม่เป็นการหอกโล่ขัดแย้งกันเองหรอกหรือ?”

ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขาเคยได้ยินเรื่องราวของสกุลต่งมาแล้วเช่นกัน อีกทั้งต่งฮูหยินยังออกปากยอมรับด้วยตนเอง ว่าหากไม่ใช่เพราะซ่งรั่วเจินคุณชายน้อยสกุลต่งคงตายเปล่าเสียแล้ว!

“แม่นางซ่ง ใน
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 142

    เมื่อสองสามีภรรยาสกุลต่งออกตัวเป็นพยานเช่นนี้แล้ว ผู้คนต่างก็อดตะลึงในความสามารถของซ่งรั่วเจินตามไปด้วยไม่ได้“ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินข่าวลือมา ทว่าคิดเพียงออกจะอัศจรรย์จนเกินไป ไม่น่าเป็นจริงได้ นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้ยินจากปากของใต้เท้าต่งเองเช่นนี้"“โชคดีที่แม่นางซ่งช่วยให้คุณชายน้อยสกุลต่งพ้นจากความอยุติธรรม ทั้งได้พบกันในฝันเช่นนี้ยิ่งทำต่งฮูหยินคลายทุกข์เศร้าลงได้บ้าง”ตอนที่คุณชายน้อยสกุลต่งหายตัวไป ถึงกับสั่นคลอนไปทั่วเมืองหลวง ต่อมาเมื่อได้รู้ว่าเขาถูกอาสะใภ้ของตนฆ่าตายยิ่งทำผู้คนตกตะลึงมากยิ่งขึ้นสวี่ชิงเหมยตลอดมาเป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือด้านความอ่อนโยนจิตใจดีงาม ใครจะคาดคิดว่านางกลับมีจิตใจโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้หากไม่มีความช่วยเหลือของแม่นางซ่ง เกรงว่าคุณชายน้อยสกุลต่งคงตายอย่างไร้ความยุติธรรมเสียแล้ว กระทั่งคุณชายใหญ่ช้าหรือเร็วก็อาจตกเป็นเหยื่อ ต้องทุกข์ทรมานด้วยเช่นกันฉู่จวินถิงเองก็รู้เรื่องนี้ดี บัดนี้เขาเชื่อแล้วว่าซ่งรั่วเจินมีความสามารถเช่นนี้จริง ส่วนเรื่องที่นางข้องเกี่ยวกับหยวนซิงเชานั้น เขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน“ในเมื่อแม่นางซ่งได้ชี้แจงแถลงไขความจริงแ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-05
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 143

    “หากท่านกังวลเรื่องฉินเซี่ยงเหิงจริง เหตุใดยามพวกท่านไปขอขมาลาโทษสกุลซ่งเมื่อวาน ฉินซวงซวงจึงมิได้อยู่ด้วยเล่า?”“ทั้งบุตรสาวบุตรเขยต่างรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนแต่ยังไม่ไปด้วย หรือพวกท่านไม่คิดว่าน่าสงสัย?”“เห็นได้ชัดว่าเป็นเพียงคำแก้ตัวของพวกท่าน!” เหลียงเหยียนกล่าวสุ้มเสียงเกรี้ยวโกรธ“ท่านเป็นแม่ทัพ เดิมควรบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ปวงประชา แต่ท่านกลับสมคบคิดกับหยวนซิงเชายักยอกเงินบรรเทาทุกข์ราษฎร ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์มากมายต้องล้มตาย เจ้าตายเป็นหมื่นครั้งก็ยังไม่พอชดใช้!”ฉินเจิงโกรธจนหน้าดำคล้ำเขียว รู้สึกราวกับโทษทัณฑ์มหันต์ใหญ่ที่ตนไม่ได้ก่อถูกโยนเข้าใส่!“ในเมื่อแม่ทัพฉินไม่ยอมชี้แจงให้ชัดเจน เช่นนั้นก็พาตัวลงไปค่อย ๆ ถามค่อย ๆ ซักแล้วกัน!” “นำตัวไป!”ฉู่จวินถิงออกคำสั่งเด็ดขาด ให้พาตัวคนสกุลฉินและสกุลหลินไปด้วยกันทั้งหมด!ฉินเซี่ยงเหิงเห็นฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่ถูกพาตัวไป ในใจก็กระวนกระวายขึ้นมา ทว่าเขายังคงไม่ได้สนใจว่าสองคนนั้นจะโดนโทษทัณฑ์เช่นไร ห่วงพะวงเพียงบิดามารดาของตนจะมาช่วยได้เมื่อใดก็เท่านั้นเมื่อวานท่านแม่บอกชัดเจนแล้วว่าวันนี้จะมาช่วยเขาออกไป ศาลาว่าการซุ่นเ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-06
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 144

    “ที่ข้าทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อท่านพี่ของข้าหรอกหรือ? หากไม่ใช่เพราะตระกูลซ่งคอยบีบคั้นจนข้ากลัวว่าเขาจะสูญเสียตำแหน่งขุนนางไป มีหรือข้าจะเสี่ยงทำเช่นนี้ได้!”ฉินซวงซวงกุมปิดใบหน้าที่ถูกตบ สีหน้าเต็มด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ หากไม่ใช่เพราะนางทำเพื่อทุกคน มีหรือจะต้องทำเช่นนี้?“เจ้าไร้ทางเลือกจนยอมเสี่ยง เช่นนั้นก็ช่วยพวกเราแก้ไขปัญหานี้เสียสิ ที่เจ้าทำพวกเราถูกจับขังคุกอยู่เช่นนี้มันหมายความว่าอย่างไร?”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินสายตาเคียดแค้น “ชีวิตนี้ข้ายังไม่เคยเหยียบย่างเข้าคุกเลยด้วยซ้ำ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ตระกูลหลินของข้าจะยังเอาหน้าไปไว้ที่ใดได้?”“ข้าว่านะฮูหยินผู้เฒ่าหลิน เรื่องนี้ลูกสาวข้าก็ทำไปด้วยเจตนาดี หากไม่ใช่เพราะตระกูลเจ้าไร้ความสามารถ มีหรือจะต้องให้ลูกสาวข้ามากังวลใจถึงเพียงนี้?จริงอยู่ที่กู้อวิ๋นเวยโกรธฉินซวงซวง ทว่าคนบ้านตนก็หาได้จำเป็นต้องรับผิดชอบไม่ ยามนี้ฮูหยินผู้เฒ่าหลินผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่นางมันใช้ได้ที่ไหน?“หากพวกเจ้าไม่มัวแต่เสวยสุข ใช้จ่ายเงินทองโดยฟุ่มเฟือย บัดนี้มีหรือจะมีหนี้สินล้นพ้นตัวเช่นนี้?”“ก่อนนี้ข้าได้ยินมาว่าสองปีมานี้เจ้ากินดีอยู่ดี ในจ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-06
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 145

    “ท่านแม่ ท่านแม่สามี หยุดตีกันเถิด!”ฉินซวงซวงอดร้อนใจไม่ได้ นางยังอยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับจือเยว่ สองตระกูลควรสามัคคีปรองดองกันถึงจะถูกหากปล่อยให้บาดหมางกันต่อไปเช่นนี้ วันนี้สะสางความแค้นเสร็จสิ้น วันหน้าจะคืนดีกันได้อย่างไร?กู้อวิ๋นเวยกับหลินรั่วหลานต่างไม่อาจระงับโทสะได้ ยิ่งฉินซวงซวงพยายามเข้ามาคั่นกลางขวางกั้น ก็ทำให้เส้นผม ใบหน้า และร่างกายของนางเลอะขี้เลนตามไปด้วย ปิดคลุมกระทั่งดวงตาจนแทบมองไม่เห็น!“ท่านพี่ ท่านช่วยเกลี้ยกล่อมท่านแม่หน่อยเถิด” ฉินซวงซวงรีบร้อนเอ่ยหลินจือเยว่ที่ก่อนนี้เคยรู้ซึ้งมาแล้วว่าขี้เลนเหล่านี้สกปรกเพียงใด กลิ่นเหม็นเน่าบนร่างก็แทบทำให้เขาทานทนไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นครานี้เมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายทะเลาะกัน ก็ถอยออกห่างโดยสัญชาตญาณ“ท่านแม่ หยุดเถิด”หลินจือเยว่ทำหน้าเคร่ง หันไปทำความเคารพฉินเจิงกับกู้อวิ๋นเวย“ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ได้ จือเยว่รู้ดีว่าทำผิดไปไม่น้อย ทว่าอย่างไรเรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว พวกเราควรคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้เสียมากกว่า ไม่ใช่มาทะเลาะเบาะแว้งกันเองอยู่เช่นนี้” ฉินเจิงโมหะสุมแน่นเต็มท้อง แม้จะไม่พอใ

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-06
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 146

    สวี่อิ๋งเฉียวได้ยินถ้อยคำนี้ แววตาทอประกายระยับ ดวงตาคู่นั้นกลับแดงเรื่ออย่างไม่รู้ตัว“แม่นางซ่ง ขอบคุณเจ้า ขอบคุณเจ้ามากจริงๆ”ต่งหานโจวเองก็เข้าใจความนัยของถ้อยคำนี้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาเองก็ยากจะปกปิดความดีใจเอาไว้ได้“แม่นางซ่ง เจ้าช่างเป็นผู้มีพระคุณของสกุลต่งโดยแท้ ภายภาคหน้ามีเรื่องใดให้พวกเราช่วยเหลือขอให้พูดโดยตรง” “สกุลต่งสามารถทำได้ ไม่มีวันบ่ายเบี่ยงแน่นอน แม้ว่าสกุลต่งทำไม่ได้ ก็จะหาทางทำให้สำเร็จ”ถ้อยคำนี้มีความสำคัญมาก หลิ่วหรูเยียนสงสัยอย่างอดไม่ได้ ลูกสาวของตนเพียงอวยพรหนึ่งประโยค เหตุใดสองคนนี้ถึงกระตือรือร้นเพียงนี้เล่า?“ซ่งฮูหยิน ท่านมีลูกสาวที่ดีคนหนึ่ง ลูกชายเองก็เอาการเอางาน ข้าเชื่อว่าภายภาคหน้าจะต้องดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน” ต่งหานโจวเอ่ยหลิ่วหรูเยียนมีรอยยิ้มเกลื่อนหน้า “ขอบคุณมากเจ้าค่ะ”ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมออกจากศาลาว่าการซุ่นเทียน กลับได้ยินเสียงฉู่จวินถิงดังขึ้นทางด้านหลัง“แม่นางซ่ง ช้าก่อน”ซ่งรั่วเจินหันหน้าก็มองเห็นฉู่จวินถิงเดินเนิบนาบเข้ามาเห็นเพียงเขาสวมชุดสีดำ รูปร่างเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ รัศมีสูงศักดิ์และกล

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 147

    “เข้าใจแล้ว ตอนนี้ใต้เท้าเหลียงกับใต้เท้าจ้าวไปที่คุกแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะรู้ผล”……ณ จวนสกุลซ่งซ่งรั่วเจินเพิ่งกลับมาก็พบอวิ๋นเนี่ยนชูที่กำลังเร่งรีบออกจากจวน “เนี่ยนชู นี่เจ้ากำลังจะไปที่ใด?”“รั่วเจิน เจ้ากลับมาแล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงระคนดีใจ “เดิมทีวันนี้ข้าอยากมาคุยเล่นกับเจ้า ใครคิดเล่าว่าเจ้าจะไปศาลาว่าการซุ่นเทียน ข้ากำลังจะไปหาเจ้าน่ะ”“เจ้าเล่าให้ข้าฟังทีสิ วันนี้ศาลาว่าการซุ่นเทียนสอบสวนคดีของฉินเซี่ยงเหิงแล้วใช่หรือไม่? มีความคืบหน้าไหม?”ซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “ไม่มี”“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?” อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าไม่พอใจ “เรื่องใหญ่โตเพียงนี้ ไม่ว่าอย่างไรศาลาว่าการซุ่นเทียนก็สมควรมอบคำชี้แจงให้พวกเจ้า ไม่สามารถไม่สนใจไยดีเช่นนี้ได้หรอกกระมัง?”“วันนี้เกิดเรื่องกับสกุลฉินและสกุลหลิน เกรงว่าไม่มีเวลามาใส่ใจฉินเซี่ยงเหิงแล้ว”อวิ๋นเนี่ยนชูเบิกตากว้าง “เกิดเรื่องอันใดกับสกุลฉินรึ?”ซ่งรั่วเจินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด อวิ๋นเนี่ยนชูเพียงรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่รู้ว่าสมควรพูดอย่างไร“ฉินซวงซวงใจกล้าเกินไปแล้ว ถึงขั้นกล้าละโมบแม้แต่เงินพรรค์นี้

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 148

    “ข้ามีอันใดให้กังวลกัน? ข้ากับญาติผู้พี่รู้จักกันมานานหลายปี เขารู้อุปนิสัยของข้าตั้งแต่แรกแล้ว” “ส่วนคนภายนอกจะมองข้าอย่างไร ข้าคร้านจะใส่ใจ เป็นเช่นนี้ดียิ่งนัก ประเดี๋ยวตระกูลอื่นมาสู่ขอตระกูลข้าอีก ข้าจะบ่ายเบี่ยงก็ยากแล้ว”อวิ๋นเนี่ยนชูรื่นเริงใจมาก ถึงขั้นไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ“รั่วเจิน บัดนี้ข้าไม่แน่ใจความคิดของญาติผู้พี่แล้ว เจ้าเองก็รู้ว่าครั้งก่อนที่ข้ากลับไปเยี่ยมญาติ ก็เมามายจนสารภาพความในใจออกไป” “ทว่าเขาไม่ตอบกลับเลยแม้แต่น้อย คล้ายไม่เคยเห็นข้าเป็นสตรีมาก่อน ทั้งๆ ที่เขาดีต่อข้ามาโดยตลอด” “ข้าไม่เชื่อหรอกว่านั่นเป็นเพียงการปฏิบัติต่อน้องสาวเท่านั้น”อวิ๋นเนี่ยนชูถอนหายใจหนักๆ ท่าทางคล้ายแม่นางน้อยที่กำลังมีปัญหาด้านความรัก“หากเจ้าอยากรู้ หาโอกาสลองดูก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่หรือ?” ซ่งรั่วเจินถามกลับอวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าประหลาดใจ “ลองอย่างไร?”“หากภายในใจเขามีเจ้า ย่อมไม่อาจทนเห็นเจ้าอยู่กับคุณชายผู้อื่นได้ หากเขาไม่มีท่าทีตอบสนองต่อเรื่องนี้ ก็หมายความว่าไม่มีความรู้สึกระหว่างชายหญิง”ซ่งรั่วเจินยกมุมปาก ในหนังสืออวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่ได้แสดงออกอะไรมาโดยตลอดไม่ว่

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-07
  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 149

    ซ่งรั่วเจินรู้สึกคลื่นเหียนขึ้นมาอย่างสุดระงับ ก่อนฝานซืออิ๋งจากไปก็ทะเลาะกับท่านแม่ไปแล้วรอบหนึ่ง นำเงินจากห้องบัญชีไปก็ไม่น้อยเมื่อนั้นเกิดเรื่องกับพี่ใหญ่ เดิมทีภายในบ้านก็วุ่นวายอยู่แล้ว ท่านแม่เองก็ไม่มีใจอยากทะเลาะเช่นเดียวกัน นางอยากไปก็ไปเถอะ ขอเพียงไม่หย่าร้างกับพี่ใหญ่ ทำให้พี่ใหญ่คิดไม่ตกก็พอแล้วในระยะที่ผ่านมานี้ พี่สะใภ้ใหญ่ไม่เคยกลับมาเลยสักครั้ง อีกทั้งยังไม่เคยถามถึงอาการของพี่ใหญ่“เงินเล็กน้อยเท่านั้นจะใช้พอได้อย่างไร?”ฝานซืออิ๋งนับตั๋วเงินในมือ “ข้าได้ยินมาว่าซ่งรั่วเจินไปจวนโหวเพียงสองปี ถึงขั้นใช้จ่ายเงินมากเพียงนั้น!” “นางเป็นเพียงบุตรสาวคนหนึ่ง บุตรสาวแต่งออกไปก็คือน้ำที่สาดออกไปแล้ว นี่ยังสามารถหักใจได้ เช่นนั้นพี่ใหญ่ของเจ้าเป็นบุตรสายตรง หรือว่าเบี้ยหวัดรายเดือนยังเทียบนางไม่ได้อีกกระนั้นรึ?”“ดูท่าแล้วพี่สะใภ้ใหญ่คงไม่พอใจข้ามากกระมัง?”ซ่งรั่วเจินเดินออกมา สายตาเย็นชาจับจ้องฝานซืออิ๋งที่อยู่ตรงหน้าในหนังสือฝานซืออิ๋งเป็นหญิงใจดำคนหนึ่ง ในบ้านยังมีน้องชายนักพนันอยู่คนหนึ่ง หลังแต่งกับซ่งเยี่ยนโจวก็หาเรื่องทะเลาะโวยวายจนอยู่ไม่เป็นสุขแท้จริงแล้ว

    Terakhir Diperbarui : 2024-10-08

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 480

    “พูดจาเหลวไหลอะไร? พวกเขาล้วนพูดความจริง!” ถังเสวี่ยหนิงรีบตอบโต้กลับ“เจ้ามีหลักฐานอะไรว่าพวกเขาพูดความจริง?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ “ล้วนอาศัยปากพูดทั้งนั้นมิใช่หรือ? ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพวกเจ้าซื้อตัวพวกเขามาปรักปรำข้า!”ถังเสวี่ยหนิงรู้สึกเหลือเชื่อ “พวกเขาล้วนพูดความจริงต่อหน้าแล้ว เจ้ายังปฏิเสธไม่ยอมรับ ไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง!”“หาสองสามคนออกมาตั้งใจปรักปรำข้า นี่ง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง!”ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเยาะหยัน เลื่อนสายตาหันมองทางคนโกหกเหล่านั้น สายตาคมกริบ“ข้าขอเตือนพวกเจ้า วันนี้ฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินคืนความยุติธรรม มิใช่สถานที่ให้พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลได้!”“หากเป็นไปตามที่พวกเจ้าพูดจริง ยืนกรานป้ายความผิดให้ข้า พวกเจ้าเองก็หนีไม่พ้น ทั้งหมดล้วนต้องเข้าคุกหลวง!”“ข้าขอชี้แนะพวกเจ้าให้คิดให้ดี ถึงตอนนั้นเข้าคุกแล้วอย่าได้นึกเสียใจภายหลัง!”ได้ยินดังนั้น สายตาอวิ๋นจู๋สะท้อนแววตกตะลึง “เข้าคุกหลวง?”พวกเขาถึงขั้นต้องเข้าคุกหลวง?“ย่อมต้องเข้าคุกหลวง ต่อให้น้องหญิงของข้าเป็นผู้สั่งการ แต่คนลงมือคือพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้หรือ?” ซ่งอี้อันพูดเสียงเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 479

    สีหน้าเหอเซียงหนิงกระตือรือร้น มองถังเสวี่ยหนิงเป็นผู้มีพระคุณของตนเดิมทีซ่งจืออวี้ยังตื่นเต้น น้องหญิงของตนทำอะไร คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เขารู้ดีอยู่เต็มอกคืนวันนั้นทั้งๆ ที่เหอเซียงหนิงวางอุบายทำร้ายน้องหญิงตน ต้องการลักพาตัวน้องหญิงไปที่ตรอกหย่งอัน โชคดีน้องหญิงมีความสามารถ ทำลายแผนของพวกเขาหาไม่แล้ว บัดนี้คนถูกทำลายก็คือน้องหญิง!บัดนี้เหอเซียงหนิงแว้งกัด เขาเองก็กังวลพวกคนที่ถูกส่งออกไปสองสามคนนั้นจะถูกพากลับมาได้ แต่เมื่อได้เห็นว่าใบหน้าเหล่านั้นมิใช่สองสามคนก่อนหน้านี้ กลับสงบใจลงไม่น้อยแล้ว“คุณหนู นั่นไม่ใช่อวิ๋นจู๋หรือ?”เฉินเซียงเห็นหนึ่งในชายกลุ่มนั้น สีหน้าเปลี่ยนไป ภายในสายตาเปี่ยมโทสะระคนความรู้สึกเหลือเชื่อ“ไอ้คนเนรคุณ ที่ผ่านมาคุณหนูดีต่อเขาไม่เลว เขาถึงขั้นถูกพวกเขาซื้อไว้มาทำร้ายท่าน!”ซ่งรั่วเจินเองก็จำหนึ่งในชายเหล่านั้นได้แล้ว เป็นบ่าวรับใช้ภายในเรือนนางก่อนหน้านี้ เมื่อหลายวันก่อนพูดว่ามารดาที่บ้านตายไป นางยังมอบเงินให้หนึ่งก้อนเพื่อให้เขากลับไปจัดการงานศพดีๆใครคาดคิดเล่าว่าจะเป็นคนเนรคุณคนหนึ่ง เพียงชั่วพริบตาก็กลายเป็นสุนัขรับใช้ของเหอเซียงหนิงแล้ว?

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 478

    เห็นว่าอุบายเล็กๆ ถูกเปิดโปงแล้ว ถังเสวี่ยหนิงก็ไม่สามารถเก็บอารมณ์บนสีหน้าได้อีกนางประเมินซ่งรั่วเจินต่ำเกินไปแล้ว!ทำเรื่องต่ำช้าถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังถูกเปิดโปงต่อหน้าธารกำนัล แต่กลับไม่ว้าวุ่น ชนิดที่ว่ายังเกิดความคิดหาข้อผิดพลาดของนางอีกด้วยมิน่าเล่าอายุมากแล้วอีกทั้งยังถอนหมั้น แต่ยังสามารถยั่วยวนฉู่อ๋องได้ เพียงวิธีการนี้ สตรีทั่วไปล้วนไม่ใช่คู่ต่อของนาง“ความคิดเจ้าโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ทำลายเหอเซียงหนิงเพราะแค้นส่วนตัว ข้าก็แค่อยากเปิดเผยต่อหน้าทุกคนเท่านั้น นี่มีอะไรผิดกัน?”“สำหรับคนไร้เมตตาอย่างเจ้าคนนี้ ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยม ข้าก็แค่อยากทวงความบริสุทธิ์ให้เหอเซียงหนิงเท่านั้น!”ถังเสวี่ยหนิงพูดอย่างองอาจมีคุณธรรม ราวกับวีรสตรีผู้มุ่งมั่นเพื่อปวงประชาอย่างแท้จริง หวังเพียงจับคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายเท่านั้นวันนี้มีนางอยู่ ซ่งรั่วเจินอย่าได้คิดพลิกสถานการณ์กลับมาได้เลย!ครู่ต่อมา นางเลื่อนสายตามองทางเหอเซียงหนิง “เซียงหนิง เอาพยานของเจ้าออกมาเถอะ!”เหอเซียงหนิงกังวลใจ นางไม่เคยเห็นเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดว่ายังมีฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินหากจั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 477

    ซ่งอี้อันเอ่ยปากเสียงเย็น “หากน้องหญิงห้าของข้าถูกพวกเจ้าปรักปรำจนคิดไม่ตกฆ่าตัวตายไป หรือว่าทุกท่านที่นี่มิใช่มือสังหารกันเล่า?”“ไม่มีหลักฐาน อาศัยเพียงปากของนางก็ปรักปรำความผิดแล้ว นี่น่าขันเกินไปแล้ว!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนที่ด่าว่าซ่งรั่วเจินก็เงียบปากลงในทันใด ไม่กล้าตั้งข้อสันนิษฐานส่งเดชอีกซ่งรั่วเจินมองทางพี่รองของตนอย่างแปลกใจ สมเป็นผู้มีพรสวรรค์ของจอหงวน เพียงเปิดปากก็ได้ผลลัพธ์ไม่ธรรมดา“แม่นางถัง เจ้าจงใจพาเหอเซียงหนิงมาพูดเช่นนี้ น่าจะมีหลักฐานกระมัง?”“มิสู้นำออกมาเสียเลย หาไม่แล้วเพื่อปรักปรำข้าจึงแต่งเรื่องออกมาเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาบนโลกนี้ไม่ใช่ใครร้องไห้คนนั้นก็มีเหตุผลหรอกนะ”“ข้าและคุณชายสวีบริสุทธิ์ใจต่อกัน เหอเซียงหนิงคิดว่าข้าและนางเป็นศัตรูหัวใจกัน แต่ในสายตาข้า เดิมทีข้าและนางก็ไม่จำเป็นต้องต่อสู้เป็นปรปักษ์กัน ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องหึงหวง”“ขอถามหน่อยเถิด...เหตุใดข้าต้องทำร้ายนางถึงเพียงนี้ด้วยเล่า? คงมิใช่พูดหน้าซื่อตาใส ก็สามารถตั้งข้อหากล่าวโทษข้าได้หรอกกระมัง?”ดวงตาคู่งามดำดุจหมึกของซ่งรั่วเจินจับจ้องถังเสวี่ยหนิง ดวงหน้างดงามขาวนวลไม่มีควา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 476

    “หากเรื่องนี้มีเงื่อนงำอยู่จริง เหอเซียงหนิงเองก็น่าสงสารเกินไปแล้วกระมัง!”“นี่คือบีบคั้นคนให้ตาย จะต้องได้รับความทุกข์ใจอย่างหนักเป็นแน่ ซ่งรั่วเจินโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!”กลุ่มคนต่างชี้หน้าบริภาษขึ้นมาระลอกหนึ่ง ฉินซวงซวงลอบลำพองใจภายในใจ เพื่อทำให้ชื่อเสียงซ่งรั่วเจินเสื่อมเสีย นางวางแผนทั้งหมดไว้อย่างดีแล้ว!ฉู่จวินถิงเหลียวมองคนที่เป็นผู้นำของกลุ่มคน ออกคำสั่งผู้อยู่ใต้อาณัติ “จับตามองคนเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด ห้ามมิให้หลุดรอดไปได้แม้คนเดียว”“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”“ไม่ต้องกังวล คนเหล่านี้น่าจะถูกซื้อตัวไว้แล้ว จงใจพูดเช่นนี้ อีกเดี๋ยวสอบสวนอย่างละเอียดก็จะรู้ผล”สุ้มเสียงฉู่จวินถิงมั่นใจมาก สอบสวนคนเหล่านี้ เดิมทีก็ไม่ต้องใช้วิธีการมากมายอะไร เพียงถามอย่างไม่ตั้งใจก็สามารถรู้ได้ซ่งรั่วเจินเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋องไม่สงสัยหม่อมฉันเลยหรือ?”“เหตุใดข้าต้องสงสัยเจ้าด้วย?” ฉู่จวินถิงสุขุมสงบนิ่ง “ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกเหอเซียงหนิงทำกับเจ้าเยี่ยงไร ข้าเข้าใจทั้งหมดแล้ว”“ยิ่งไม่ต้องพูดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือเจ้า ต่อให้เป็นฝีมือเจ้า ก็ไม่มีอะไรไม่เหมาะสม”ภายในสายตาของฉู่จวิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 475

    “เจ้าว่ามาเถิด” ฮองเฮาเอ่ยเรือนคิ้วฉู่จวินถิงขมวดขึ้นเล็กน้อย สายตาที่เขาใช้มองไปยังถังเสวี่ยหนิงแกมแฝงด้วยความเยียบเย็นหญิงผู้นี้ยังไม่คิดจะลดราวาศอกอีก!“อย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่”ฉู่จวินถิงหันมองซ่งรั่วเจิน แสดงท่าทีให้นางมั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะอยู่ข้างกายนางเสมอซ่งรั่วเจินย่อมไม่หวั่นเกรงต่อเล่ห์กลของถังเสวี่ยหนิงและพรรคพวกอยู่แล้ว ทว่าเมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของฉู่จวินถิง ในใจก็ยังคงอดรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาไม่ได้อยู่ดีถังเสวี่ยหนิงกลับเกรงกลัวฉู่จวินถิงเสียจนแทบไม่กล้าสบสายตาเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อหันมองไปยังซ่งรั่วเจิน ท่าทีก็ยังคงกระด้างกระเดื่องเช่นเดิม“คุณหนูซ่ง ข้าได้ยินเรื่องเช่นนี้แล้วก็ตกใจมากจริงๆ มิอยากจะเชื่อเลยว่าในเมืองหลวงจะยังมีผู้ใดอาจหาญกล้าทำเรื่องเช่นนี้ลงได้ ช่างลบหลู่กฎเกณฑ์ราชสำนักเกินไปแล้ว!”“ดังนั้นข้าจึงอยากใช้โอกาสนี้ถามไถ่ให้ชัดแจ้ง หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”ถ้อยคำหลายต่อหลายคำของถังเสวี่ยหนิง ทำเอาสีหน้าของผู้คนโดยรอบเปลี่ยนไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ต่างพากันสงสัยว่าเป็นเรื่องร้ายแรงประการใดกัน?“รั่วเจิน พวกถังเสวี่ยหนิงดูท่าคงมิได้มีเจตนาดีเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 474

    อวิ๋นเนี่ยนชูเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ปิดไม่มิดถึงความอิจฉา “โชคดีนักที่หลินจือเยว่มิได้แต่งกับนาง หาไม่แล้วคงคลาดกันกับคนดีเช่นฉู่อ๋องไปแล้วกระมัง?”“ฉู่อ๋องไม่เพียงมีรูปโฉมงดงาม วรยุทธเลิศล้ำ อีกทั้งฐานะยังมิธรรมดา สำคัญที่สุดก็คือผู้คนต่างรู้กันดีว่าฉู่อ๋องอารมณ์ร้ายเพียงใด แต่กลับดีต่อนางอยู่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้น่าอิจฉาที่สุดแล้ว”อวิ๋นเฉิงเจ๋อเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้างกาย นำเอาภาพใบหน้าฉายแววอิจฉานั้นเก็บเอาไว้จนสุดสายตา ไม่รู้ว่าในใจคิดอ่านถึงสิ่งใดอยู่ทว่าถ้อยคำนี้กลับลอยไปเข้าหูหลินจือเยว่เข้าพอดิบพอดี สีหน้าที่หมองหม่นอยู่ก่อนแล้วจึงได้ย่ำแย่เสียยิ่งกว่าเก่าก่อนนี้เขาคิดเพียงว่าฉู่อ๋องคงหูตามืดบอด ตอนนี้เขาเห็นแจ้งแล้วว่าตนเองต่างหากที่หูตามัวหมองไปเลือกคนผิดมาแต่งงานด้วยจนชีวิตพังพินาศ แต่จะทำกระไรได้อีกเล่า?ฉินซวงซวงยืนจ้องมองคนที่ในชาติที่แล้วนางคอยตามตื๊ออยู่นานอย่างฉู่อ๋อง กระทั่งเคยยอมทอดทิ้งศักดิ์ศรีมาแล้วก็ยังไม่อาจแลกเปลี่ยนเป็นการแลเหลียวจากเขาได้แม้แต่สักครั้ง แต่เขากลับปฏิบัติต่อซ่งรั่วเจินดีเช่นนั้น ทำเอานางริษยาเสียจนแทบบ้าอยู่แล้ว!มีสิทธิ์อะไรกัน?ซ่งรั่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 473

    เมื่อถือเวลาประกาศผลสุดท้าย ก็พลันระเบิดเสียงฮือฮาดังขึ้นมากลางหมู่ฝูงชน“อันดับหนึ่งได้แก่ฉู่อ๋อง!”สิ้นเสียงประกาศ ผู้คนก็ต่างพากันเอ่ยชื่นชมไม่ขาดปาก ทว่าก็หาได้มีผู้ใดแปลกใจแม้แต่น้อย“ฝีมือการขี่ม้าและยิงธนูของฉู่อ๋องตลอดมาก็ล้วนเหนือผู้ใด วันนี้ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตองค์ชายทั้งสองพระองค์ไว้ได้ อีกทั้งยังคว้าชัยได้อันดับหนึ่งมาครอบครอง สมกับที่ชื่อเสียงเลื่องลือเสียจริงๆ!”“ได้ยินมาว่าสองคนที่หนีรอดไปได้ก็ฉู่อ๋องนั่นล่ะที่จับตัวเอาไว้ได้ เก่งกาจยิ่งนัก!”โดยปกติแล้วฉู่จวินถิงไม่ได้ใส่ใจกับความสำเร็จในลักษณะนี้แม้แต่น้อย ทว่าขณะนั้นเอง สายตาของเขาพลันหันมองไปยังซ่งรั่วเจินซ่งรั่วเจินเองก็หันไปมองฉู่อ๋องทันทีที่ได้ยินคำประกาศ เห็นแต่เพียงใบหน้าหล่อเหลาไม่เป็นสองรองใครของเขากำลังคลี่ยิ้มออกมาเจิดจ้าราวแสงอาทิตย์ชั่วขณะนั้น เขาก็ดูคล้ายจะเปล่งประกายเสียยิ่งกว่าแสงอาทิตย์เสียอีก รอยยิ้มอบอุ่นของเขาแกมแฝงด้วยความไม่แยแสยี่หระ ยิ่งกว่านั้นยังเปี่ยมอิสระเสรีไม่ยึดติดอันเป็นเอกลักษณ์ของคนหนุ่มทำเอาจังหวะเต้นของหัวใจใครหลายคนต่างสะดุดไปตามๆ กันในฐานะอันดับหนึ่ง รางวัลที่ได้ก็ย่อม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 472

    ตั้งแต่ซ่งจิ่งเซินกลับมา เขาก็ได้รับรู้ว่าหลินจือเยว่ทอดทิ้งน้องสาวของตนไปเพราะฉินซวงซวง ในใจก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าขุ่นเคืองเพียงใดเดิมทีคิดจะหาโอกาสสั่งสอนหลินจือเยว่เสียบ้าง ต่อมาได้รู้ว่าพวกน้องสามได้จัดการกันไปแล้ว จนบัดนี้แม้แต่ที่ให้ซุกหัวนอนก็ยังไม่มีจะอยู่หากเป็นคนทั่วไปแล้วเล่าก็ ใครยังจะมีแก่ใจมาพลอดรักกันอวดผู้คนให้อับอายขายขี้หน้าเช่นนี้ โชคยังดีที่น้องหญิงห้ายังไม่ทันได้แต่งออกไปกับคนเช่นนั้น!“หน้าของฉินซวงซวงนี่ก็ช่างหนายากจะหาผู้ใดเทียมเทียบจริงเชียว!”เมิ่งชิ่นหรี่เดินตาหยีด้วยแขยงสายตามาอยู่ข้างกายซ่งรั่วเจิน “ตั้งแต่นางมาวันนี้ก็ทำเอาผู้คนไม่น้อยเกิดไม่พอใจ แต่ดูเหมือนนางจะไม่ใส่ใจสักนิด ซ้ำยังจะมีหน้ามาทำระรื่นอยู่ได้”“ข้าว่าหลินจือเยว่ยิ้มได้มิน่าดูเสียยิ่งกว่าร้องไห้อีก แต่นางราวกับมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้น ข้าว่าอย่างไรพวกเขาคงไปกันได้ไม่นานนักหรอก”ซ่งรั่วเจินมองเมิ่งชิ่นที่ยู่ตรงหน้าพลางยิ้มบาง “ยันต์คุ้มกายที่ข้าให้ไปใช้ได้ผลดีหรือไม่?”“ได้ผลดียิ่งเลยล่ะ!” เมิ่งชิ่นจับมือซ่งรั่วเจินความตื้นเต้นในใจ หน่วยดวงตาเต็มด้วยความตื้นต้น “หากมิใช่เพราะเจ้า ต

DMCA.com Protection Status