Accueil / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย / อย่างไรข้าก็ไม่มีทางชอบสตรีเช่นเจ้า

Share

อย่างไรข้าก็ไม่มีทางชอบสตรีเช่นเจ้า

last update Dernière mise à jour: 2024-11-30 19:49:12

บทที่ 4  อย่างไรข้าก็ไม่มีทางชอบสตรีเช่นเจ้า

จิวฉิงได้บอกให้เข่อซิงไปสั่งพ่อครัวของที่นี่จัดอาหารมาให้ทั้งสามได้กินด้วยกัน ผ่านไปสักระยะก็มีสาวใช้ได้ยกสำรับมาจัดวางอยู่บนโต๊ะจนเต็มไปหมด จิวฉิงมองดูเด็กทั้งสองยังคงกลัวว่านางมีแผนร้ายเมื่ออาหารมาวางตรงหน้าจิวฉิงก็ได้นำตะเกียบคีบทุกอย่างเข้าปากอย่างละนิดอย่างละน้อยจนทำให้เด็กมั่นใจว่านางไม่ได้วางยาพิษ

“เห็นมั้ยว่าข้าไม่คิดจะทำอันใดพวกเจ้าหากข้าใส่ยาพิษปานนี้ข้าคงโดนพิษไปแล้ว กินเถิดตอนที่ทุกอย่างยังร้อน ๆ หากเย็นแล้วจะไม่อร่อย ” เด็กทั้งสองมองหน้ากันก่อนผู้เป็นพี่ได้พยักหน้าให้น้องสาวกินอาหารที่อยู่ตรงหน้า

จิวฉิงมองดูทั้งสองอย่างเอ็นดู ทั้งสามคนก็ได้กินอาหารอย่างอร่อย ๆ จิวฉิงได้พูดคุยอย่างที่เจ้าของร่างไม่เคยทำมาก่อน

“เจ้าทั้งสองได้ร่ำเรียนหนังสือหรือไม่ ?”

“ตัวของข้าท่านพ่อให้อ่านตำราอยู่ที่เรือนเสียก่อนเพราะท่านอาจารย์ยังไม่รับข้าเป็นศิษย์”

“อย่างนี้นี่เอง แล้วลู่เอ๋อร์เล่า ?”

“ท่านแม่ข้าเป็นสตรีหน้าที่ของข้าคือการเรียนรู้การเย็บปักถักร้อยเจ้าค่ะ แต่ข้ายังเด็กนักท่านพ่อให้ข้าเรียนรู้กิริยาเท่านั้นเจ้าค่ะ” ลู่เอ๋อร์เริ่มกล้าที่จะพูดกับหานเสี่ยว์

“เช่นนั้นก็ดีต่อจากนี้ไปลู่เอ๋อร์เจ้าต้องมาหาที่ห้องของข้าหลังจากที่เจ้ากินอาหารเช้าเสร็จข้าจะพาเจ้าทำเรื่องสนุก ๆ เองส่วนกิริยามารยาทนั้นข้าว่าเจ้ามีเพียบพร้อมทุกอย่างแล้ว ”

จิวฉิงยิ้มอย่างดีใจที่เด็ก ๆ กล้าที่จะพูดกับนางแล้ว

เหิงเยว์ที่กลับมาจากด้านนอก ห้องของเขาต้องเดินผ่านห้องโถงใหญ่ก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะกัน เขาเลยเดินเข้าไปดูก็พบว่าหานเสี่ยว์กำลังนั่งกินอาหารกับเด็ก ๆ อยู่ เขารีบเข้าไปห้ามเด็ก ๆ ไม่ให้กินอาหารกับนาง หานเสี่ยว์ต้องมีแผนร้ายแน่ ๆ นางคงจะจัดการกับลูกของเขาที่ทำให้นางตกลงในบึงน้ำ ไม่เช่นนั้นสตรีที่ใจโหดเหี้ยมเช่นนางคงไม่มาทำเช่นนี้กับเด็ก ๆได้

“นี่เจ้าทำอันใดลูกของข้า เลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์วางตะเกียบเดี๋ยวนี้ นางบังคับพวกเจ้าอีกแล้วหรือ” น้ำเสียงเข้มขรึมได้เอ่ยขึ้นมาทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงหันไปมองเป็นทางเดียว แววตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวงย่างเท้าเข้ามาด้วยความเร่งรีบดึงลูกทั้งสองออกมาจากเก้าอี้

“นี่ท่านเด็ก ๆ ยังไม่อิ่มท่านมาทำเช่นนี้ทำไมกัน ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเด็กทั้งสองสักนิด” เขาจ้องมองหน้าเธอด้วยดวงตาแข็งกร้าว

“สตรีเช่นเจ้า ข้าไม่มีทางไว้ใจว่าเจ้าไม่มีแผนอันใด เจ้าอาจจะใส่ยาพิษลงไปในอาหารก็ได้ นี่พวกเจ้าไปตามท่านหมอมาตรวจดูร่างกายของลูกข้าเดี๋ยวนี้” เหิงเยว์ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นเขายังมองว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าเป็นสตรีที่เสแสร้งริษยาที่จะคอยรังแกลูก ๆ ของเขา 

“ดีเช่นนั้นก็ให้ท่านหมอมาตรวจข้าด้วยเพราะข้าเองก็กินอาหารที่อยู่บนโต๊ะนี่ทุกอย่างและข้าก็กินก่อนเด็ก ๆ ด้วยซ้ำ พ่อกับลูกช่างเหมือนกันเสียจริงเห็นข้าเป็นนางมารหรือไง ไปสิรีบไปตามท่านหมอมา หากว่าร่างกายของเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไม่มีพิษแม้แต่นิดเดียวท่านต้องขอโทษที่กล่าวหาข้าด้วย” แม้ว่าจิวฉิงจะหวั่นกลัวชายที่อยู่ตรงหน้าแต่เธอจะไม่ยอมให้เขามาต่อว่าได้อีกต่อไป

“ท่านพ่อ ข้ากับท่านพี่กินอาหารพวกนี้กับท่านแม่ไม่มียาพิษหรอกเจ้าค่ะ ท่านพ่ออย่าต่อว่าท่านแม่เลย ข้าขอบคุณท่านแม่มากนะเจ้าคะวันนี้ข้ากินอาหารเยอะเลยตอนนี้อิ่มแล้วต้องขอตัวกลับห้องก่อน แล้วพรุ้งนี้ข้าจะไปหาท่านแม่นะเจ้าคะ”ลู่เอ๋อร์เริ่มเปิดใจให้หานเสี่ยว์เพราะนางเปลี่ยนไปมากจริง ๆ และไม่อยากให้ท่านพ่อกับนางต้องมาทะเลาะกันลู่เอ๋อร์จึงได้บอกแก่ท่านพ่อของตน

“เห็นมั้ย ว่าข้าไม่ได้ทำใดเลย " เหิงเยว์ยังคงมองนางไม่ละสายตาเขายังคงไม่เชื่อว่านางจะทำตัวดีกับลูก ๆ ของเขา

“หากเจ้าอิ่มแล้วก็กลับห้องเถิด เลี่ยงเฟิงเจ้าเองก็กลับไปพร้อมลู่เอ๋อร์เถิด” เขาหันไปบอกเด็ก ๆ อย่างอ่อนโยนแตกต่างจากมองจิวฉิงเมื่อครู่ยิ่งนัก

“ได้ขอรับท่านพ่อ ลู่เอ๋อร์เราไปกันเถิด” เด็กทั้งสองได้จับมือกันเดินออกไป เมื่อไม่มีเด็ก ๆ แล้วเหิงเยว์ก็ได้กวักมือไล่ให้สาวใช้ออกไปด้านนอกเขามีเรื่องที่จะพูดกับหานเสี่ยว์เพียงลำพัง

เข่อซิงเมื่อเห็นสัญญาณก็ได้เดินออกไปรอด้านนอก

“นี่เข่อซิงเจ้าไปไหน รอข้าด้วย ” จิวฉิงรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากดวงตาของเหิงเยว์นางก็ไม่อยากอยู่ที่นี่กับเขาเพียงสองคนจึงลุกขึ้นจะเดินตามเข่อซิงออกไป แต่แล้วก็ต้องถูกเหิงเยว์ขว้างหน้าเอาไว้ก่อน

“จะรีบไปที่ใด "

“ตอนนี้ก็มืดแล้วข้าก็ต้องกลับห้องนะสิ ท่านหลีกทางข้าหน่อยสิ”

“ตอนนี้ในห้องมีเพียงเจ้ากับข้าเลิกเสแสร้งเสียที เจ้ามีแผนอันใดถึงทำดีกับลูกของข้า ข้าเคยเตือนเจ้าแล้วใช่หรือไม่หากเจ้ากล้ารังแกลูกของข้าอีกข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ ”

เหิงเยว์เดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนจิวฉิงเดินถอยหลังนั่งลงที่เก้าอี้ แม้ร่างเดิมจะไม่เกรงกลัวแถมยังมีจิตใจที่แข็งแกร่งแตกต่างจากจิวฉิงยิ่งนัก เธอก็เป็นแค่หญิงสาวที่ถูกต่อว่าข่มเหงเรื่อยมาเมื่อเจอเช่นนี้ก็ทำให้นางเกรงกลัวชายตรงหน้าเช่นกัน

“ขะ.. ข้าไม่มีแผนอันใดเลย ข้าแค่อยากให้เด็ก ๆ มีความสุขเท่านั้น”นางได้เอ่ยออกมาเสียงสั่น

“เจ้าโกหก เมื่อก่อนเจ้าไม่เห็นเคยหลบตาข้าแต่ตอนนี้แม้กระทั่งหน้าของข้าเจ้ายังไม่กล้ามอง เจ้ามีแผนอันใดบอกข้ามาเดี๋ยวนี้” เหิงเยว์ตะโกนใส่จิวฉิงจนนางตกใจเงยหน้ามองเขาที่กำลังจ้องนางอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่แล้วนางก็ต้องตกตะลึงใบหน้าที่เข้ารูปหล่อเหลานัยษ์ตาสีน้ำตาลแวววาวเป็นประกายของเหิงเยว์ทำให้จิวฉิงเข้าใจแล้วทำไมหานเสี่ยว์ถึงได้ตกหลุมรักชายผู้นี้ถึงขั้นยอมเป็นแม่เลี้ยงของเด็ก ๆ

“ว่าแล้วทำไมถึงได้ยอมถึงขนาดนี้เพราะหล่อมาก ๆ อย่างนี้นี่เอง” จิวฉิงเผลอตัวใช้มือจับหน้าของเหิงเยว์อย่างลืมตัว

“ทำบ้าอะไรของเจ้า ” เขาได้ปัดมือของนางออกอย่างไม่ยั้งมือ ทำให้จิวฉิงได้สติ

“โอ๊ย เจ็บนะ! "

“อย่าทำเช่นนี้อีก อย่างไรข้าก็ไม่มีทางชอบสตรีเช่นเจ้า และไม่มีวันชอบเจ้า หากเจ้าอยากจะหย่าข้าก็พร้อมที่จะหย่าให้เจ้า”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Related chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   หาทางกลับ

    บทที่ 5 หาทางกลับจิวฉิงยิ้มร่าออกมาอย่างดีใจ“ท่านเอ่ยออกมาเองนะห้ามกลับคำ รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งท่านพ่อหลังจากนั้นข้าจะออกจากเรือนของท่านทันที” คำพูดของนางทำเอาเหิงเยว์ต้องสงสัยคิ้วขมวดเข้าหากัน นางยอมมาอยู่ที่เรือนของเขานานนับ 5 ปี ไม่ยอมไปไหนแต่เหตุใดวันนี้นางถึงดีใจที่เขาจะหย่าให้นางเช่นนี้ แต่ก็ดีเช่นกันตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่ได้มีใจให้นางสักนิด แม้นางจะงดงามแต่เวลาที่มองใบหน้าของนางก็เห็นใบหน้าของภรรยาทับซ้อนเข้ามาทุกครั้ง ทำให้เขาไม่เคยมานอนที่ห้องของนางเลยตั้งแต่แต่งนางเข้ามา“หากเจ้าต้องการเช่นนั้นก็เป็นการดีต่อตระกูลของข้าเช่นกัน” พูดจบเหิงเยว์ก็ได้เดินออกไปด้านนอก เข่อซิงก็ได้เดินเข้ามาเห็นนายหญิงของตนเองยิ้มมุมปากนางจึงเกิดความสงสัยมีเรื่องอันใดที่ทำให้นางมีความสุขได้ขนาดนี้ “คุณหนูยิ้มเช่นนี้มีเรื่องดี ๆ อันใด หรือเจ้าคะ”“เข่อซิง คุณชายเหิงเยว์บอกว่าจะหย่าให้ข้า วันรุ่งขึ้นข้าจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อท่านพ่อเจ้ารีบไปพักผ่อนเถิดข้าเองก็จะไปพักเช่นกัน ” เข่อซิงงงงวยเอะใจที่เห็นคุณหนูดีใจขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางต้องร้องกรี๊ดออกมาไม่พอใจเป็นแน่ และไม่มีทา

    Dernière mise à jour : 2024-11-30
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 6 ไข้หวัด

    บทที่ 6 ไข้หวัดรุ่งสางของอีกวันแสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบร่างกายของหานเสี่ยว์แต่ทว่าตอนนี้นางกลับมีอาการหนาวสั่นไปทั้งร่างกาย เข่อซิงที่เขามาดูแลจัดการเสื้อผ้าอาภรณ์ของหานเสี่ยว์ในทุก ๆ เช้าเมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนเองยังไม่ตื่นก็รู้สึกผิดแปลกเพราะหานเสี่ยว์นั้นมักจะตื่นมารอเข่อซิงในทุก ๆ เช้าเพื่อให้นางยกน้ำมาให้ล้างตา เข่อซิงจึงได้เข้าไปดูที่ห้องนอนก็พบว่าหานเสี่ยว์นอนหนาวสั่นอยู่บนเตียงนอน เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นเหงื่อที่ผุดออกมาจากรูขุมขนมากมาย“คุณหนู คุณหนูท่านไม่สบายหรือเจ้าคะ” เข่อซิงมาจับตัวของหานเสี่ยว์ก็รับรู้ถึงความร้อนของร่างกายราวกับเพลิงเผาไหม้“โอ๊ะ! คุณหนูท่านตัวร้อนมากเลย นี่ผู้ใดอยู่ข้างนอกเข้ามานี่ที " เข่อซิงเรียกสาวใช้อีกคนที่อยู่ด้านนอกเข้ามาด้านใน“มีอะไรหรือ ".“เจ้าไปตามท่านหมอมาตรวจร่างกายของฮูหยินที ดูเหมือนนางจะไม่สบาย” เข่อซิงสั่งสาวใช้ให้ไปตามท่านหมอมาโดยเร็ว “ได้ข้าจะไปตามเดี๋ยวนี้” สาวใช้รีบเดินออกไปตามท่านหมอที่โรงหมอในหมู่บ้านทันที ส่วนเข่อซิงก็ได้นำผ้ากระถังน้ำมาเช็ดตัวให้หานเสี่ยว์บรรเทาความร้อนลงได้บ้างฝั่งด้านลู่เอ๋อร์นางตื่นเต้นมากที่จะได้ไปห

    Dernière mise à jour : 2024-12-03
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 7 เฝ้าไข้

    บทที่ 7 เฝ้าไข้ฝั่งด้านเลี่ยงเฟิงมาถึงห้องอ่านตำราของท่านพ่อเขาก็ไม่ได้มีกระจิตกระใจกับการอ่านตำราสักเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็เป็นห่วงว่าลู่เอ๋อร์อาจจะติดไข้จากหานเสี่ยว์ได้ จนเหิงเยว์สังเกตได้จึงได้จับตำราที่อยู่มือของเลี่ยงเฟิงออกมาจากตัวของเขา“วันนี้เจ้าเป็นอันใดข้าเห็นเจ้าเอาแต่เหม่อลอยแถมอ่านตำราหน้าเดียวเป็นเวลานาน”“คือว่าข้าเป็นห่วงลู่เอ๋อร์ขอรับท่านพ่อ”“ลู่เอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นกับนางหรือว่าหานเสี่ยว์รังแกนางอีกแล้ว”“มิใช่ขอรับแต่ที่ข้าเป็นห่วงเพราะกลัวว่านางจะติดไข้จากท่านแม่มากกว่า ก่อนที่ข้าจะมาหาพ่อข้าได้ไปส่งลู่เอ๋อร์ที่ห้องท่านแม่ตามที่นางสั่ง แต่เมื่อข้าไปถึงก็พบว่าท่านแม่นอนสั่นเทาอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียวแถมยังมีท่านหมอมาตรวจร่างกายท่านแม่อีกด้วยไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านแม่จะฟื้นหรือยัง " เลี่ยงเฟิงได้เอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง ทำให้เหิงเยว์ที่ครุ่นคิดนางบอกว่าจะไปหาท่านพ่อของนางเมื่อฟ้าสาง หรือนี่จะเป็นแผนของนางอีกเพราะนางไม่อยากหย่าอย่างที่นางบอก เขาจึงจะไปดูใบหน้าที่เสแสร้งของนางว่าตอนนี้นางเล่นละครตบตาคนในเรือนจนเชื่อสนิทได้อย่างไร“เจ้าอ่านตำราอยู่ในห้องนี้ไปก่อนเดี๋ยวข

    Dernière mise à jour : 2024-12-03
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 8   หากบาดเจ็บขึ้นมาจะทำเช่นไร

    บทที่ 8 หากบาดเจ็บขึ้นมาจะทำเช่นไรหานเสี่ยว์เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ดีของเลี่ยงเฟิงก็รีบถามทันที“เป็นอันใดสีหน้าของเจ้าถึงเป็นเช่นนี้ ”“ที่ต้นไม้ใหญ่ตรงด้านหน้าห้องของท่านพ่อ ข้าเห็นนกน้อยตกลงมาข้าสงสารอยากจะนำตัวนกน้อยไปไว้บนรัง หากแม่นกกลับมาจะได้พบเจอลูกน้อย แต่ว่าเขาไม่สามารถปีนขึ้นไปได้” เลี่ยงเฟิงก้มหน้าสงสารนกน้อยที่อยู่ในมือ“เจ้าช่างมีจิตใจที่ดีเหลือเกิน มาเถิดนำข้าไปที่รังของมัน ข้าจะส่งนกขึ้นรังเอง” จิวฉิง ถอนหายใจคิดว่าเรื่องใหญ่อะไร“แต่ว่าฮูหยินเจ้าคะ ท่านพึ่งหายจะมีแรงปีนป่ายต้นไม้หรือเจ้าคะ อีกอย่างตั้งแต่ข้าตามดูแลท่านมาท่านไม่เคยปีนป่ายต้นไม้สักครา หากท่านตกต้นไม้จะเกิดอันใดขึ้นข้าไม่อยากนึกเลย” เข่อซิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เอ่ยขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง“วางใจเถิดเข่อซิง ข้าทำได้” ใช่แล้วหากเป็นจิวฉิงนางทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะให้นางไปทำงานของสาวใช้นางก็สามารถทำได้สบาย ทั้งสี่คนก็ได้เดินไปที่ต้นไม้หน้าห้องของเหิงเยว์ จิวฉิงไม่รอช้าเมื่อเห็นต้นไม้ที่เลี่ยงเฟิงบอกก็ได้แบมือขอนกน้อยเพื่อนำไปไว้ที่รังของมัน นางปีนขึ้นไปอย่างง่ายดายโชคดีที่ต้นไม้ไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก เด็กๆ ทั้

    Dernière mise à jour : 2024-12-03
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 9 อ้อมกอดที่อบอุ่น

    บทที่ 9 อ้อมกอดที่อบอุ่นเหิงเยว์กลับมาจากวังหลวงอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อมาถึงเรือนก็ได้นำม้าให้แก่บ่าวไปผูกไว้ที่คอก เขาเองก็อยากกลับมาพักผ่อนที่ห้องแต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้จะถึงห้องของตนเองก็ได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของเด็ก ๆ เรียกท่านแม่ เขาวิตกกังวลคิดว่าหานเสี่ยว์จะทำมิดีมิร้ายกับเด็ก ๆ อีกแต่เมื่อเขาไปถึงก็เห็นว่าหานเสี่ยว์กำลังล่วงหล่นมาจากต้นไม้ เขารีบกระโดดเข้าไปรับนางทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรกลัวนางจะได้รับบาดเจ็บเสียมากกว่า อิสตรีปากร้ายจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนางเมื่อเขาเห็นนางนอนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่สมกับเป็นนางสักเท่าไหร่นักและจิตใจของเขาเองก็หงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อเขารับตัวนางไว้ได้ใจของเหิงเยว์โมโหมากที่นางไม่รู้จักระวังตัวหากได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้นางต้องนอนอยู่บนเตียงนานหลายวันเป็นแน่ แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของนางอย่างใกล้ชิดใจของเขาก็เริ่มสั่นไหว นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ ทั้งที่เขาต้องเกลียดนางที่คอยรังแกเด็ก ๆ เขาจึงทำได้เพียงตวาดใส่นางอย่างหงุดหงิดใจ ไม่รู้ว่าเพราะเขาไม่เคยสังเกตหรือเพราะว่านางเปลี่ยนไปถึงทำให้เขาว้าวุ่นหัวใจได้ถึงเพียงนี้ ก่อนที่นางจะขอโทษแล

    Dernière mise à jour : 2024-12-06
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 10 ฝันร้าย

    บทที่ 10 ฝันร้ายเมื่อส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จแล้ว หานเสี่ยว์ก็ได้เดินกลับห้องของตัวเอง เหิงเยว์มองดูนางพร้อมกับเดินตามหลังนางไปอย่าง ๆ ช้าหานเสี่ยว์ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่ได้ดังเพียงแค่เท้าเดียวนางจึงหยุดเดินและหันไปมองด้านหลังก็พบเหิงเยว์ที่เดินตามมา“นี่ท่านเดินตามข้ามาจะมาหาเรื่องอะไรข้าอีก "“ข้าก็แค่เดินตามทางเท่านั้นไม่ได้เดินตามเจ้าเสียหน่อย ”"แต่ว่าห้องของท่านไม่ได้มาทางนี้เสียหน่อย ""ข้าจะเดินไปที่ใดล้วนแต่เป็นที่ของข้า ไม่ว่าข้าจะย่างกรายที่ใดมันเกี่ยวอันใดกับเจ้าเล่า""เฮอะ แล้วแต่ท่านเถิดเจ้าค่ะ" หานเสี่ยว์หันหน้าเดินหนีเหิงเยว์อย่างไม่สนใจแต่เขาก็ยังคงเดินตามนางอยู่จนหานเสี่ยว์รู้สึกอึดอัด นางจึงหยุดเดินเพื่อถามเขาให้รู้ความ"นี่ ท่านจะเดินตามข้าไปถึงเมื่อไหร่ หากท่านจะเอ่ยว่าเดินไปทางใดก็เรื่องของท่าน แต่ช่วยเดินไปทางอื่นได้หรือไม่ หรือว่าท่านมีเรื่องอันใดข้องใจก็เอ่ยออกมา""เจ้าบอกข้ามาว่าเจ้ามีแผนอันใดกันแน่ ที่เข้าหาบุตรของข้าทั้งสองคน สตรีเช่นเจ้าข้าไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนนิสัยได้รวดเร็วปานนี้""เฮ้อ ! จะต้องให้ข้าทำเช่นใด ท่านถึงจะเชื่อว่าข้ามิได้มีแผนอันใด ""แล้วเห

    Dernière mise à jour : 2024-12-06
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 11  ผู้มาเยือน

    บทที่ 11 ผู้มาเยือนหานเสี่ยว์ได้ออกมานั่งอยู่ที่ห้องโถงเพราะตอนนี้ลู่เอ๋อร์ยังคงนอนอยู่บนเตียง นางได้มานั่งจิบชาเพื่อรอลู่เอ๋อร์ตื่นจะได้กินอาหารพร้อมกันแต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาทางนางอย่างเร่งรีบ“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ” เลี่ยงเฟิงเหนื่อยหอบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาหานเสี่ยว์นางจึงรีบลุกขึ้นไปจับกายของเลี่ยงเฟิงอย่างสงสัย“เหตุใดเจ้าถึงรีบร้อนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเช่นนี้ด้วย”“ลู่เอ๋อร์ ลู่เอ๋อร์หายไปขอรับ สาวใช้ได้ออกตามหานางจนทั่วห้องก็ไม่พบ หรือว่าท่านแม่จะทำร้ายนาง ไม่! ไม่ใช่หรอกท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วนี่น่า หรือว่าท่านทรงเสแสร้งทำดีกับพวกเราทำให้พวกเราหลงเชื่อ และจัดการหรือขอรับ”หานเสี่ยว์ที่กำลังซึ้งที่พี่ชายเป็นห่วงน้องสาวได้มากขนาดนี้ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดที่เลี่ยงเฟิงเอ่ยคำหลังออกมาอย่างแผ่วเบา“เจ้ายังคิดว่าข้าทำเช่นนั่นอยู่หรือ ไม่แน่ข้าคงจะจับน้องสาวของเจ้าโยนลงน้ำแล้วก็ได้ หรือไม่ข้าก็ให้ชายฉกรรจ์จับตัวลู่เอ๋อร์ไปขายเป็นทาสให้กับใต้เท้าไปอื่นดีล่ะ " ใบหน้าของเลี่ยงเฟิงซีดเซียวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงของหานเสี่ยว์ที่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“ท่าน ท่านใจร้า

    Dernière mise à jour : 2024-12-06
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 12  ข้าจะเผยความชั่วของนางเอง

    บทที่ 12 ข้าจะเผยความชั่วของนางเองหานเสี่ยว์ลุกขึ้นยืนทอดสายตามองไปด้านนอกหน้าต่างตอบคำถามที่ลู่ฟางได้เอ่ยถาม“ใช่ ! ข้าเองไม่อยากจะให้นางต้องมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ อีกต่อไป ตลอดเวลาที่นางแต่งเข้ามาข้าเองก็ไม่ได้มีใจให้นางเลย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางรังแกเด็ก ๆ จนกระทั้งตอนที่นางตกน้ำจากการผลักของลู่เอ๋อร์ ข้าก็ได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านมาข้าเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเสียจริงปล่อยให้นางรักแกลูกของตนเองได้” เขาเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวดไม่รู้เรื่องที่ลูก ๆ ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานใจเช่นนี้“แล้วทำไมท่านพี่ถึงได้ไม่ลงโทษฮูหยินของท่านล่ะเจ้าคะเด็ก ๆ น่าสงสารเสียจริง”ลู่ฟางใบหน้าเศร้าสลดทำท่าทีสงสารเด็ก ๆ แสร้งว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่องทั้ง ๆ ที่นางเองก็รับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่นางไม่อยากจะบอกเหิงเยว์เพราะนางอยากให้เหิงเยว์ได้รับรู้ด้วยตนเอง และหย่าพร้อมไล่หานเสี่ยว์ออกจากเรือนนี้ไปส่ะ หลังจากนั้นนางจะเข้ามาแทนที่เอง“เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อของนางเป็นขุนนางที่มีอำนาจ แค่นางยอมหย่าให้ข้าก็ดีมากแล้ว ในตอนแรกนางบอกจะหย่าให้แท้ ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปไม่ยอมหย่าเสียอย่างนั้น ข้าเองจึงไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างช

    Dernière mise à jour : 2024-12-07

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บที่ 39  น้องของสองแฝด

    บที่ 39 น้องของสองแฝด1 ปีต่อมา หลังจากวันนั้นหานเสี่ยว์ก็ได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันกับเหิงเยว์ใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางนั้นได้ตั้งท้องให้กับเหิงเยว์จนตอนนี้ท้องเริ่มแก่มากแล้ว แถมฤดูนี้ก็เป็นฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย เหิงเยว์จึงเฝ้าประคบประหงมไม่ให้หานเสี่ยว์ไปใกล้แม่น้ำนั้นอีกเลย ในตอนแรกเขาแทบสั่งให้บ่าวนำดินมากลบบ่อน้ำนั้นไปส่ะเพราะกลัวว่าหานเสี่ยว์คิดจะกลับไปอีก แต่ถูกนางขอไว้ เพราะนี่คือความทรงจำที่ดีของนางหากไม่มีบ่อน้ำนี้ก็ไม่มีนางเช่นกัน เหิงเยว์ถึงยอมตามใจฮูหยินของเขา "คุณหนูเข้าไปด้านในเถิดเจ้าค่ะยืนนาน ๆ จะทำให้เหนื่อยเอาได้นะเจ้าคะท้องของคุณหนูก็โตมากกว่าสตรีที่อายุครรภ์เท่ากันด้วยซ้ำ หรือว่าคุณหนูจะตั้งท้องแฝดเจ้าคะ"เข่อซิงที่คอยประคองหานเสี่ยว์ได้เอ่ยขึ้นพร้อมมองไปที่ท้องของหานเสี่ยว์ "จริงหรือท่านแม่ เช่นนั้นก็ดีนะสิ" เลี่ยงเฟิงที่เดินมาจากห้องของตนเองก็ได้ยินที่เข่อซิงกล่าว "ท่านแม่จะมีน้องสองคนหรือเจ้าคะ งั้นก็เป็นเรื่องดีเสียจริงข้ากับท่านพี่จะได้ไม่ต้องแย่งกัน น้องจ๋าเจ้าจงออกมาเป็นหญิงหนึ่งบุรุษหนึ่งนะได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่" ลู่เอ๋อร์ใช้มือเล็กลู

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง

    บทที่ 38 ทำน้องให้เด็กทั้งสอง"หานเสี่ยว์เมื่อไหร่เจ้าจะฟื้นนี่ก็ล่วงเลยมาหลายวันแล้ว ข้าเฝ้ารอเจ้าอยู่ทุกวันเด็ก ๆ ทั้งสองก็อยากเข้ามาหาเจ้าแต่ข้าก็ต้องโกหกไปว่าเจ้าไม่สบาย เพราะข้าไม่อยากให้เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ต้องเสียใจที่รู้ว่าเจ้าจากไป เจ้าอยู่ที่ใดไม่สงสารใจข้าบางหรือ ข้าทำได้เพียงเฝ้ารอเจ้าอย่างท้อใจข้ามิอาจทำเช่นใดได้เลยกับมาหาข้าเถอะนะ หานเสี่ยว์ ไม่สิซู่ซ่าน หรือว่าจิวฉิง ไม่ว่าเจ้าจะชื่อนามอันใดข้าก็รักที่เจ้าเป็นเจ้ากลับมาหาข้าเถอะนะตอนนี้หัวใจของข้าแทบสลายแล้ว อย่าจากข้าไปเลย ข้ารักเจ้า เจ้าได้ยินมั้ยว่าข้ารักเจ้าเพียงใด" น้ำเสียงโศกเศร้าใบหน้าซูบผอมของเหิงเยว์ที่คร่ำครวญอยู่ข้างร่างหานเสี่ยว์พร้อมจับมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย "รักเพียงใดหรือเจ้าคะ" จิวฉิงที่ฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของหานเสี่ยว์ก็ส่งยิ้มพร้อมเอ่ยถามบุรุษที่พร่ำรักนางอยู่ต่อหน้า"ข้ารักเจ้ามาก ชีวิตของข้าก็ให้เจ้าได้ เอ๊ะ! เดี๋ยวสินางยังไม่ฟื้นนี่น่าหรือว่าข้าสติฟั่นเฟือนไปแล้ว " เหิงเยว์ชะงักเมื่อจู่ ๆ เขาก็ตอบคำถามหานเสี่ยว์ จึงได้ใช้มือตบหน้าตนเองเบา ๆจนหานเสี่ยว์ต้องจับมือของเขาเอาไว้"อย่าตีตนเองเลยนี่มิใช่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป

    บทที่ 37 อย่าทิ้งข้าไป"นี่เจ้าจะทิ้งข้า ทิ้งเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ไปจริง ๆ หรือ แล้วข้าจะอยู่อย่างไรเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไร ไม่ข้าไม่เชื่อเจ้าต้องฟื้นสิ ท่านหมอหลอกลวงข้าเจ้าต้องฟื้น แล้วเช่นนี้ข้าจะทนได้อย่างเล่าในเมื่อตอนนี้ข้ารักเจ้าหมดทั้งหัวใจ " ความเคว้งคว้างในหัวใจของเหิงเยว์ได้ก่อตัวขึ้น เขาซบหน้าลงซบร่างกายของหานเสี่ยว์สะอึกไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ภายในห้องก็มีเพียงเสียงร้องไห้ทุกข์ระทมของทุกคน เหิงเยว์ทำอะไรมิได้ทำได้เพียงร้องไห้แม้แต่เรี่ยวแรงที่เช็ดน้ำตาของตนเขายังทำไม่ได้เสมือนโลกทั้งใบได้แตกสลายไปแล้ว ความรู้สึกนี้เหมือนตอนที่เขาได้เสียซู่ซ่านไปมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ต่อให้เขาเรียกนางซ้ำ ๆ เท่าไร่ร่างบางที่นอนแน่นิ่งก็มิอาจตอบสนอง "ข้ามิอาจจะช่วยเหลือฮูหยินของท่านได้ ต้องขออภัยอีกครั้งร่างที่นอนไร้สติของฮูหยินไม่นานชีพจรอาจจะหยุดเต้น ถึงเวลานั้นท่านคงรู้นะขอรับ หมดหน้าที่ข้าแล้วข้าขอตัว" ท่านหมอโค้งคำนับพร้อมออกจากห้องไป ปล่อยให้เหิงเยว์จมอยู่กับความทรมานใจอยู่เช่นนั้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ในตอนแรกเขาคิดว่าเป็นท่านหมอ แต่เมื่อเงยหน้ามองกลับพบเห็

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 36 ลาก่อน

    บทที่ 36 ลาก่อนฝั่งด้านหานเสี่ยว์นางกินอาหารเย็นเสร็จสิ้นก็ไล่ให้เข่อซิงกลับไปพักผ่อน วันนี้เป็นวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นวันที่นางรอคอยมาตลอด จึงอ้างกับเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ว่านางมีอาการไม่ค่อยสบายจึงไม่ได้ไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย เด็กทั้งสองเห็นท่านแม่มีอาการแปลกไปจึงคิดว่าไม่สบายจริง ๆ และไม่อยากรบกวนให้ท่านแม่ได้พักผ่อน นางรอจนทุกคนเข้านอนเมื่อนางเปิดประตูดูสถานการณ์ด้านนอกเมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงได้เดินออกมาจากห้องเพื่อไปที่สระน้ำอยู่ด้านหลังเรือน ความเงียบสงัดทำให้หานเสี่ยว์เองก็รู็สึกเงียบเหงาเหลือเกิน นางเดินไปอย่างเชื่องช้า มองรอบ ๆ เห็นภาพความทรงจำที่ผ่านมาน้ำตาใส ๆ ก็เริ่มเอ่อนอง ความผูกพันธ์กับคนที่นี่ล้วนมีความหมายกับนางเหลือเกินมันเป็นความทรงจำที่มีค่ามาก ๆ ยิ่งก้าวเท้าเดินก็ยิ่งเจ็บถึงขั่วหัวใจ รอยยิ้มแววตาของเด็กทั้งสองที่คอยยิ้มให้ก็ยิ่งทำให้นางร้องไห้มากกว่าเดิม แต่ทุกอย่างนางต้องทิ้งไว้ที่นี่ "จากนี้ข้าคงไม่ได้พบเจอพวกเจ้าอีกแล้ว หวังว่าพวกเจ้าจะมีความสุขในทุก ๆ วัน ลาก่อนนะเลี่ยงเฟิงลู่เอ๋อร์ " เมื่อมาถึงสะพานหานเสี่ยว์ก็ได้ก้าวเท้าขึ้นไปยังสะพานเพื่อไปอยู่ตรงกลางแม่น้ำ ก่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 35  คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลา

    บทที่ 35 คำสอนของท่านแม่คล้ายคำกล่าวลารุ่งสางมาเยือนอีกคราหานเสี่ยว์ร้องไห้ทั้งคืนเมื่อนางตื่นเช้ามาเปลือกตาของนางก็มีอาการบวมแดง เข่อซิงได้เข้ามานำน้ำมาให้นางล้างหน้าล้างตาก็ต้องตกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอันใดเพราะเป็นเรื่องของเจ้านาย"คุณหนูข้านำน้ำมาให้เจ้าค่ะ วันนี้ด้านนอกอากาศดีมากหากคุณหนูล้างหน้าเสร็จแล้วเราไปด้านนอกดีมั้ยเจ้าคะ" "ดีเช่นกัน" หานเสี่ยว์ก็ได้ล้างหน้าล้างตาเข่อซิงเองก็ช่วยแปรงผมให้ ไม่นานทั้งสองก็ได้ออกมารับลมด้านนอกต้นไม้นานาชนิดเริ่มผลิใบเขียวขจี อากาศสดชื่นยิ่งนักหานเสี่ยว์ทอดสายตามองเหล่าผีเสื้อแมลงปอต่างพากันบินวนดมเกสรดอกไม้เพื่อดำรงชีวิต "คงถึงเวลาแล้วสินะ" นางเอ่ยออกมาเมื่อถึงเวลาที่นางจะต้องไปแต่หัวใจของนางตอนนี้ช่างปวดร้าวเหลือเกิน ไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางรอคอยเวลานี้มาตลอด นางคิดว่าวันที่นางไม่อยู่เด็กทั้งสองจะเป็นเช่นไรจะคิดถึงนางหรือไม่? หรือจะร้องไห้คร่ำครวญเพราะคิดถึงนาง แต่หากนางไม่ไปก็เป็นห่วงคุณย่าที่รอคอยนางอยู่อีกโลก นางยังมีห่วงหากจะอยู่ที่นี่ต่อ หานเสี่ยว์ยังคงต้องรอวันที่ดวงจันทร์เต็มดวงนางถึงจะกลับได้ นางถึงเอ่ยถามเข่อ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 34  เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะ

    บทที่ 34 เรามาจบเรื่องนี้กันเถอะเข่อซิงเมื่อรับรู้ว่าคุณชายเหิงเยว์ต้องการอยู่เพียงลำพังกับนายหญิงของตนนางก็ก้มหน้าเพื่อรับรู้และเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมนางเองก็อยากให้นายหญิงของตนมีความสุขเสียที เพราะอย่างไรตอนนี้คุณชายเหิงเยว์ก็ได้แสดงท่าทีว่ารักนายหญิงของนางเข้าแล้วและพร้อมจะดูแลนางตลอดไป เพียงแต่นายหญิงของนางต่างหากที่เริ่มเปลี่ยนไป "อย่าพึ่งไปอยู่ชมจันทร์กับข้าเสียก่อน ""ไม่ข้าอยากจะพัก ข้าเหนื่อย" เหิงเยว์มองใบหน้าของหานเสี่ยว์ก่อนจะตัดสินใจอุ้มนางมาอยู่ในอ้อมแขน ทำให้นางตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัวและกลับตกจากอ้อมแขนของเขา"หากข้าอุ้มเจ้าอยู่เช่นนี้เจ้าคงไม่เหนื่อยใช่หรือไม่ ?""อ๊าย ! นี่ท่านทำอะไรของท่านปล่อยข้าลงไปนะ ""ทำไมล่ะ เจ้าเอ่ยเองว่าเจ้าเหนื่อยข้าก็ช่วยให้เจ้าได้พักอยู่นี่อย่างไรล่ะ ""มะ....ไม่ต้องปล่อยข้าลง ข้ายืนเองดีกว่า""ฮึ ก็ได้ " เขาปล่อยนางให้ยืนเอาเอง ตอนนี้หัวใจของหานเสี่ยว์เต้นแรงเมื่อร่างกายสัมผัสกันแถมเมื่อครู่ตอนที่เขาอุ้มนางได้กอดคอเขาแน่นเพราะกลัวตกได้ยินเสียงหัวใจของเหิงเยว์ที่เต้นไม่เป็นจังหวะทั้ง ๆ ที่นางพยายามห

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 33  ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะ

    บทที่ 33 ใกล้ถึงเวลาแล้วสินะหานเสี่ยว์ย้อนคิดในยามที่ตนตกอยู่ในอันตรายมันช่างโหดร้ายมากแค่ไหน ทุกหนทางช่างน่ากลัวจนไม่คิดว่าตนเองจะรอดกลับมายิ่งมารู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของลู่ฟางนางยิ่งโกรธไปมากกว่าเดิม จนไม่สามารถอภัยให้ได้หากเทียบกับสิ่งที่นางทำ"แม้ว่าข้าจะโกรธนางมากเท่าไหร่แต่ข้าก็มิอาจจะสั่งให้ตัดหัวนางได้ ข้าอยากให้นางอยู่ใช้ชีวิตและเรียนรู้ว่าทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้มิได้มาแต่โดยง่ายการใช้ชีวิตก็เช่นกัน ข้าอยากให้โบยนางสัก 50 ครั้งและเนรเทศไม่ให้นางมาเหยียบที่แคว้นพร้อมปลดครอบครัวของนางยึดทรัพย์สินให้จนหมดให้นางไปใช้ชีวิตเยี่ยงสาวรับใช้เจ้าค่ะท่านพ่อ เท่านี้คงเพียงพอ" "เช่นนั้นก็เอาเช่นเจ้ากล่าวมา แล้วเจ้าเล่าเห็นดีกับบทลงโทษนี้หรือไม่ ? " ใต้เท้าห่าวอู่ได้หันไปถามเหิงเยว์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล"ขอรับ ไม่ว่าหานเสี่ยว์จะเอ่ยลงโทษนางเช่นใดข้าก็เห็นด้วย เพราะตอนนี้ข้ากับลู่ฟางตัดขาดสายเลือดกันแล้วขอรับ" หานเสี่ยวเหลือบไปมองใบหน้าของเหิงเยว์ก็มิได้เห็นใบหน้าแห่งความกังวลจึงคิดว่าเขาคงคิดอย่างที่เอ่ยมาจริง ๆ เมื่อพูดคุยกับท่านพ่อเสร็จก็ได้เดินทางกลับภายในห้องจึงมีเพียงเหิงเยว์กับหานเสี่ย

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 32 ตัดขาด

    บทที่ 32 ตัดขาดลู่ฟางไม่ได้สังเกตใบหน้าของเหิงเยว์เพราะหลงดีใจที่ได้ใกล้ชิดเขา เมื่อมาถึงเรือนของนางเหิงเยว์ก็ได้กระโดดลงจากหลังม้าก่อนจะผายมือให้นางจับเพื่อกระโดดลงมา "ขอบคุณท่านพี่เหิงเยว์ที่มาส่งข้าที่เรือนเข้ามาด้านในก่อนเจ้าค่ะข้าจะให้สาวใช้เตรียมน้ำชาชั้นดีมาให้ท่านพี่ได้ดื่ม " นางเชิญเขาเข้าเรือนเมื่อนางก้าวเท้าเข้ามาก็ต้องพบกับทหารของวังหลวงจำนวนมากที่ตอนนี้ได้อ้อมล้อมเรือนของนางไว้หมดแล้ว และนี่ก็เป็นแผนของเหิงเยว์เขาได้ให้คนใช้ของเขาไปแจ้งเรื่องนี้กับใต้เท้าห่าวอู่หลังจากที่ช่วยเหลือหานเสี่ยว์ได้แล้ว ใต้เท้าห่าวอู่โมโหมากที่บุตรสาวคนเดียวของเขาต้องมาถูกกระทำเช่นนี้ "นี่มันเรื่องอันใดกันเจ้าคะ เหตุใดทหารถึงมาอยู่ที่เรือนของข้าเต็มไปหมด""เจ้าหยุดเสแสร้งเถอะ ที่หานเสี่ยว์ได้รับบาดเจ็บก็เพราะเจ้ามันเป็นแผนของเจ้า เรื่องราวครั้งนี้ข้ามิอาจปล่อยผ่านไปได้ เจ้าทำเช่นนี้ทำไม" เหิงเยว์ไม่ทนที่จะมองดูนางเสแสร้งต่อไปจึงได้เอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา"ข้ามิได้ทำอันใดนะเจ้าคะ ข้าไม่รู้เรื่องที่ท่านพี่เหิงเยว์เอ่ยมาสักนิด"ลู่ฟางยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องแต่แล้วนางก็ถูกดึงจากด้านหลังให้หันไป

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 31 ไม่มีทางให้อภัย

    บทที่ 31 ไม่มีทางให้อภัยเหิงเยว์ได้ควบม้าจนมาใกล้ถึงหุบเขาก็ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดของหานเสี่ยว์เขาจึงได้ควบม้าไปหาเสียงนั่นทันที และเมื่อเขาเห็นนางกำลังถูกชายชั้นต่ำนันกำลังลวนลามยิ่งทำให้เขาเกรี้ยดโกรธเป็นอย่างมากที่กล้าใช้มือสกปรกแตะต้องฮูหยินของเขา เขาได้เข้าไปจัดการกับชายทั้งสองที่ยืนคอยอยู่อีกฝั่ง โดยที่ทั้งสองไม่ทันได้ตอบโต้แม้แต่น้อยไม่ช้าคนของเหิงเยว์ก็ได้ตามมาจนถึง เหิงเยว์มองเห็นหานเสี่ยว์ที่นั่งตัวสั่นร้องไห้ใช้มือกอดอกตนเองเพื่อปิดบังเรือนร่างตนเองเอาไว้ยิ่งทำให้เขาโมโหมากกว่าเดิมจนอยากจะฆ่าชายชั่วนั้นให้แหลกเป็นชิ้น ๆ แต่เขาเองก็อยากจะรู้ว่านี่คือการปล้นหรือมีผู้บงการอยู่เบื้องหลังกันแน่ "เจ้าช่างกล้ามายุ่งกับฮูหยินของข้า การตายเท่านั้นที่คู่ควรกับเจ้า" ชายผู้นั้นเห็นว่าคนของเหิงเยว์นั้นมามากเหลือเกินหากเขาสู้ก็คงไม่มีทางรอดและคนของเขาก็ถูกเหิงเยว์จัดการจนหมดแล้ว ก็เกิดอาการกลัวตายทันที "นายท่านข้ากลัวแล้ว อย่าฆ่าข้าเลยนะขอรับ""เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือแล้วนางเล่าสตรีที่ไร้ทางสู้เพียงผู้เดียวแต่เจ้าตามไล่ล่านางถึงสามสี่คน ช่างกล้าเอ่ยออกมาว่ากลัวงั้นหรือ" เขาตวาดใส่เสียงแข

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status