แชร์

3 : มิติพิเศษ  

ผู้แต่ง: หิมะที่ปลิดปลิว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-26 11:19:20

3 : มิติพิเศษ  

          เซี่ยซือซือขยำ ๆ ต้นหอมป่ายัดใส่ในท้องปลา ช่วยกลบกลิ่นคาวปลาได้บ้างเล็กน้อย หากมีเกลือมีเครื่องปรุง ปลาตัวนี้คงจะอร่อยไม่น้อย

          “ท่านพี่ ปลา ซู้ด” เสียงสูดน้ำลายของเซี่ยซือหยาง ทำให้พี่สาวทั้งสองหัวเราะออกมาดัง ๆ

          “ดูเจ้าตัวตะกละตัวนี้สิท่านพี่ แทบจะทนรอปลาสุกไม่ไหวอยู่แล้ว รีบเช็ดน้ำลายของเจ้าเสียน้องเล็ก น่าอายชะมัด”

          “ข้าไม่ได้กินเนื้อมานานมากแล้ว ขอข้ามองปลาตัวนี้นาน ๆ หน่อยเถอะท่านพี่” เด็กน้อยยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดน้ำลาย จ้องปลาตัวโตแทบไม่วางตา

          เซี่ยซือซือยกฝ่ามือลูบศีรษะน้องชายตัวเองเบา ๆ ไม่รู้สึกว่าท่าทางของน้องชายน่ารังเกียจแต่อย่างใด

          “ต่อไปในภายภาคหน้าเจ้าจะได้กินเนื้อบ่อย ๆ”

          “จริงหรือท่านพี่”

          “จริงสิข้าจะหลอกเจ้าทำไม”

          “ไอหยา ! ข้าจะได้กินเนื้อบ่อย ๆ แล้ว จะกินเนื้อ ๆ ๆ” เซี่ยซือหยางกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ กองไฟอย่างมีความสุข

          “ท่านพี่ท่านก็อย่าตามใจน้องเล็กมากนักเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวก็เก็บเอาไปฝันว่าได้กินเนื้อทุกวันหรอก”

          เซี่ยซานซานใช้ไม้เขี่ยท่อนไฟตรงหน้า มุมปากกระตุกยิ้มเบา ๆ เข้าใจว่าพี่สาวเพียงแค่ต้องการปลอบใจน้องชายเท่านั้น

          ไม่นานนักปลาที่ย่างไฟไว้ก็สุกได้ที่ เซี่ยซือซือเลือกตรงเนื้อท้องอ่อนนุ่มให้น้องชาย ระมัดระวังก้างเป็นอย่างมาก จากนั้นก็แบ่งปันกับน้องสาว

          “ปลาอร่อยมากเลยท่านพี่ พี่รอง พวกท่านรีบกินเข้า” เซี่ยซือหยางตวัดลิ้นเลียมุมปากตัวเองไปด้วย

          เซี่ยซือซือลองกินเนื้อปลาที่ย่างสุกดู ไม่ได้มีกลิ่นคาวอย่างที่นางคาดไว้ เป็นปลาธรรมชาติที่รสชาติหวานเลยทีเดียว นางดูแคลนปลายุคโบราณไม่ได้เลยจริง ๆ

          “เนื้อปลาหวานกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก อาซาน น้องเล็ก พวกเจ้ากินกันเยอะ ๆ เลยนะ หมดแล้วก็กินพุทราป่านี่ต่อ ข้าเก็บมาเยอะเลย”

          “ขอรับท่านพี่ / เจ้าค่ะท่านพี่”

          เซี่ยซือซือกินปลาเพียงเล็กน้อย นางหันมากินพุทราป่าแทน แม้รสชาติจะไม่ได้อร่อยเหมือนในปัจจุบัน แต่ก็สามารถกินได้เรื่อย ๆ พอให้หายอยากได้อยู่ นางวางแผนไว้หลังจากน้อง ๆ กินมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว จะพากันเข้าไปเก็บผักป่าด้านในภูเขา ตอนนี้นางมีมิติพิเศษ สามารถหาจุดที่มีผักป่าและหลีกเลี่ยงสัตว์ร้ายได้

          “พวกเราจะเข้าไปเก็บผักป่าด้านในภูเขา”

          “ท่านพี่ข้าว่านี่ก็ลึกมากแล้วนะเจ้าคะ ขืนเข้าไปลึกกว่านี้อาจเจอพวกเสือหรือฝูงหมาป่าได้”

          เซี่ยซานซานไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้

          “อาซานหากพวกเราไม่มีผักป่ากลับไป ท่านย่าจะมาหาเรื่องพวกเราที่ไม่ทำงานบ้านวันนี้เจ้าเข้าใจหรือไม่ แต่หากพวกเรามีผักป่าหรืออะไรก็ได้ที่สามารถเป็นของกินในตะกร้า เราก็จะมีข้ออ้างว่าพวกเราหิวเลยขึ้นมาหาของกินในป่ากัน”

          เซี่ยซานซานพยายามคิดตามคำพูดของพี่สาว จากนั้นก็ต้องพยักหน้าลงอย่างจนใจ

          “น้องเล็กล่ะเจ้ากลัวหรือไม่”

          “ไม่กลัวขอรับ ท่านพี่กับพี่รองไม่กลัว ข้าก็ไม่กลัว” เซี่ยซือหยางยืดอกน้อย ๆ ขึ้น

          “เก่งมาก”

          “เจ้าก็ดีแต่ปากเก่ง ครั้นเจอเสือเข้าจะร้องไห้ไม่ออก”

          “พี่รองปากไม่ดี เข้าป่าใครเขาพูดถึงเสือกัน”

          “เจ้านี่ !”

          “เอาละ ๆ พวกเจ้าไปเก็บของได้แล้ว”

          ระหว่างบอกน้องทั้งสอง เซี่ยซือซือก็วางฝ่ามือลงบนพื้น มองหาจุดที่มีผักป่าใกล้ที่สุด แค่อึดใจหนึ่งนางก็หาเจอ อีกทั้งยังมีต้นมันฝรั่งอยู่แถวนั้นด้วย

          “ท่านพี่จะเข้าไปลึกไหมเจ้าคะ” เซี่ยซานซานยังนึกห่วง

          “ไม่ลึกหรอกอาซานราวสองเค่อก็ถึงแล้ว”

          “สองเค่อ ?” ในหัวของเซี่ยซานซานเต็มไปด้วยคำถาม ทำไมพี่สาวของนางถึงได้รู้กระทั่งเรื่องนี้ นางได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ หันไปจูงมือน้องชายเดินตามหลังพี่สาวไป

          ราวสองเค่อสามพี่น้องก็มาถึงลานผักป่าจริง ๆ

          “ท่านพี่ท่านรู้ได้อย่างไรว่าตรงนี้มีผักป่า ท่านไม่เคยเข้ามาที่นี่เลยนะเจ้าคะ”

          คำถามของน้องสาวทำให้เซี่ยซือซือชะงักอยู่กับที่ ก่อนหันมายิ้มให้นางเล็กน้อย

          “อาซานเจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนพี่ตกลงไปในน้ำ พี่เหมือนคนตายไปแล้วหนหนึ่ง พอพี่รอดตายขึ้นมาได้ ในหัวของพี่ก็มีเรื่องราวมากมายผุดขึ้นเต็มไปหมด”

          ยามโกหกก็ต้องให้แนบเนียน เมื่อโลกโบราณเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ เซี่ยซือซือเลยต้องเอ่ยเรื่องนี้ออกมา

          “เรื่องไหนหรือเจ้าคะ”

          “เหมือนพี่สาวของเจ้าจะมีสัมผัสพิเศษ รู้ว่าตรงไหนบนภูเขาลูกนี้มีอาหารอยู่อย่างไรเล่า”

          “ท่านพี่นี่ท่านหลอกเด็กอยู่หรือเปล่าเจ้าคะ”

          “ใครหลอกเจ้ากันล่ะ”

          “ข้าเชื่อท่านพี่ขอรับ” เสียงน้องเล็กดังขึ้นขัดจังหวะของทั้งคู่

          “หืม นอกจากจะตะกละแล้วเจ้ายังจะประจบเก่งอีกนะน้องเล็ก”

          “พี่รองไม่เชื่อท่านพี่เองนี่ขอรับ จะมาโทษข้าได้อย่างไร”

          “เรื่องนั้นช่างเถอะ ตอนนี้พวกเจ้ามาเก็บผักป่ากันได้แล้ว”

          “ขอรับท่านพี่” เซี่ยซือหยางก้าวขาสั้น ๆ ไปทางพี่สาวคนโตของตนเอง จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาเด็ดผักป่าอย่างคล่องแคล่ว ท่าทางเหมือนคนทำเรื่องแบบนี้จนชำนาญ

          ช่วงหนึ่งก้านธูป[1]ผักป่าก็ถูกเก็บจนเกลี้ยง ตะกร้าของเซี่ยซานซานกับเซี่ยซือหยางเต็มไปด้วยกองผักป่า แต่ตะกร้าของเซี่ยซือซือกลับยังมีพื้นที่ว่าง

          “อาซานเจ้ารู้จักต้นมันฝรั่งต้นนี้หรือไม่”

          “ต้นวัชพืชนี่หรือเจ้าคะ ข้าไม่รู้จักหรอกท่านพี่”

          “นี่ไม่ใช่วัชพืชนะอาซาน นี่ต้นมันฝรั่ง ใต้ดินมีมันฝรั่งอยู่”

          “มันฝรั่ง ? ท่านพี่ข้าไม่เคยได้ยินชื่อมันนี้เลยเจ้าค่ะ”

          หืม หรือยุคนี้ไม่รู้จักมันฝรั่ง

          เซี่ยซือซือใช้จอบที่พกติดตัวมาขุดดินรอบต้นมันฝรั่ง ไม่ช้าก็พบหัวมันฝรั่งสามสี่หัวอยู่ด้านล่าง พอยกหัวมันขึ้นมา น้องทั้งสองของนางก็จ้องตาเขม็ง

          “เจ้าสิ่งนี้กินได้” นางเลยต้องอธิบายเพิ่ม

          “แต่ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดนำเจ้านี่ไปทำอาหารเลยนะท่านพี่” เซี่ยซานซานไม่เคยได้ยินว่าชาวบ้านคนไหน เก็บมันเหล่านี้ไปทำอาหารกินสักคน

          “เช่นนั้นมื้อเที่ยงข้าจะเผามันฝรั่งให้พวกเจ้ากินดีหรือไม่”

          เซี่ยซานซานหันไปมองสบตากับน้องชาย ก่อนที่ทั้งคู่จะยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา ด้วยไม่รู้จะห้ามปรามพี่สาวได้อย่างไร

          เซี่ยซือซือใช้น้องสาวติดไฟ ส่วนนางก็ขุดมันฝรั่งให้ได้มากที่สุด นำไปใส่ตะกร้าของตนเอง แล้วเอาผักป่าคลุมไว้อีกที ส่วนหัวมันหกหัวนางต้องการนำมาเผาไฟเป็นมื้อเที่ยง และเก็บหัวที่เผาสุกแล้วไว้กินมื้อเย็นที่บ้านอีกคนละหนึ่งหัว

          ในคราแรกสองพี่น้องไม่กล้ากินมันฝรั่งเผา แต่พอเห็นเซี่ยซือซือกินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งคู่ก็ไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป

          “อ้ำ อร่อยมากท่านพี่” เซี่ยซือหยางยิ้มจนตาปิด กลิ่นหอมฟุ้งของมันฝรั่งกระจายเต็มกระพุ้งแก้ม

          “กินได้จริงด้วยท่านพี่ อร่อยอีกต่างหาก ท่านพี่ท่านดีที่สุด” เซี่ยซานซานได้ลิ้มลองมันฝรั่งเผาแล้ว รู้สึกคุ้มค่ากับการเข้าป่าลึกมาหามันจริง ๆ นางนั่งกินมันเผาอย่างเมามัน ลืมกระทั่งความสงสัยก่อนหน้า ทำไมพี่สาวของตนถึงได้รู้เรื่องมันฝรั่งเหล่านี้สามารถกินได้

          เมื่อนัดแนะกับน้องทั้งสองเรียบร้อยแล้ว เซี่ยซือซือก็แบกตะกร้าขึ้นหลัง พาพวกเขาเดินออกจากป่าไป ตอนลงมาจากภูเขาไฉ่หง ได้เจอกับเด็กสาวสามคนกำลังเดินเล่นกันอยู่ พวกนางแต่งตัวราวกับคุณหนูในตัวตำบล แตกต่างจากเด็กสาวคนอื่นในหมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ มีเซี่ยฮุ่ยหนิงบุตรสาวคนเล็กอายุสิบสี่ปีของบ้านใหญ่ ด้านข้างคืออวี่ไป๋ชิงอายุสิบสามปี กับอวี่เยี่ยนเอ๋ออายุสิบเอ็ดปี ทั้งคู่เป็นสหายสนิทของเซี่ยฮุ่ยหนิง

          อวี่เยี่ยนเอ๋อรีบเดินมาดักหน้าสามพี่น้อง นางยืดตัวกอดอกตัวเอง เหยียดตามองเซี่ยซือซือ “จุ๊ ๆ อาซือเจ้าจะออกเรือนอยู่แล้วยังจะขึ้นเขาไปทำสิ่งใด ไม่เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่กับเรือนเหมือนเจ้าสาวคนอื่น ๆ เขาล่ะ”

          “ไอหยา ! เยี่ยนเอ๋อเจ้านี่ไม่รู้สิ่งใดเอาเสียเลย ไหนนางจะมีวาสนาดีเช่นนั้น นางถูกท่านย่าของข้าขายให้คนพิการด้วยเงินแค่ห้าตำลึง คิก คิก”

          เซี่ยฮุ่ยหนิงเดิมทีนั้นไม่ชอบลูกพี่ลูกน้องคนนี้อยู่แล้ว เนื่องจากหน้าตาของเซี่ยซือซือนั้นงดงามกว่านางมากนัก เป็นเรื่องที่นางไม่อาจทำใจยอมรับได้ กระทั่งผอมแห้งเห็นกระดูกอยู่แบบนี้ นางก็ยังงดงามมิเสื่อมคลาย

          “ฮุ่ยหนิงเจ้าไม่คิดว่าห้าตำลึงมากไปหรอกหรือ ข้าว่าอย่างนางหากเอาไปขายซ่องคงได้ไม่ถึงสองตำลึงด้วยซ้ำ” อวี่ไป๋ชิงสะบัดผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดปากแสร้งหัวเราะเบา ๆ

          “เจ้าคนปากพล่อย !” เซี่ยซานซานผลักทีเดียวอวี่ไป๋ชิงก็ตกลงไปในคูนา เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน

          “อ๊าย ! เซี่ยซานซานข้าจะฆ่าเจ้า” อวี้ไป๋ชิงวิ่งขึ้นมาตบกระชากเซี่ยซานซานจนล้มลงไปกับพื้นดิน สหายทั้งสองไม่รอช้า วิ่งเข้ามาช่วยกันลงมือตบตีเซี่ยซานซาน

          เพียะ ! เพียะ !

          “พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ !” เซี่ยซือซือรีบวางตะกร้าลงให้น้องชายเฝ้าไว้ ตัวนางรีบวิ่งเข้าไปช่วยน้องสาวอย่างทุลักทุเล

          นางได้ดื่มน้ำพุในมิติพิเศษมาแล้ว จึงมีพละกำลังมากเป็นพิเศษ ผลักเซี่ยฮุ่ยหนิงกับสหายชั่วของนางกระเด็นตกคูนาไปคนละทิศทาง เห็นเซี่ยซานซานมุมปากแตกเพราะถูกตบ ศีรษะปูดนูนขึ้นเพราะถูกกระแทกเข้ากับก้อนดินบนคันนา ทันใดดวงตาของนางก็เปิดกว้าง เมื่อนึกถึงหนทางรอดของน้องสาวตนเองออก

          “อาซานเจ้ารีบสลบเร็วเข้า !”

          “ทำเช่นนั้นทำไมท่านพี่”

          เซี่ยซือซือมองซ้ายขวาก่อนกระซิบเบา ๆ ตรงหูของน้องสาว “เจ้าต้องทำเหมือนถูกพวกนางตีจนสลบแล้วไม่ฟื้น คนอย่างท่านย่าไม่อยากเสียเงินรักษาเจ้าแน่ พวกเราจะได้แยกบ้านออกมาอยู่กันเอง ไม่ต้องทนทำงานหนักให้คนชั่วพวกนั้นอย่างไรล่ะ”

          “ท่านพี่ข้า”

          “ข้าจะหาทางช่วยเอง เจ้าแค่ห้ามฟื้นจนกว่าข้าจะบอกเข้าใจหรือไม่”

          “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

          “ฆ่าคนแล้ว ! สวรรค์เหตุใดถึงทำกับข้าเช่นนี้ อาซานเจ้าลืมตาขึ้นมา เจ้าอย่าตายนะอาซาน ฮือ ๆ ๆ”

[1] 1ก้านธูป คือ 1ชั่วโมง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   4 : ท่านย่า ! ท่านจะฆ่าน้องชายข้าอีกคนหรือเจ้าคะ

    4 : ท่านย่า ! ท่านจะฆ่าน้องชายข้าอีกคนหรือเจ้าคะ เสียงร้องไห้โหยหวนปานคนกำลังจะขาดใจตายของเซี่ยซือซือ ไม่เพียงทำให้เด็กน้อยอย่างเซี่ยซือหยางร้องไห้ตาม เซี่ยฮุ่ยหนิงกับสหายของนางที่กำลังปีนขึ้นจากคูนา หมายจะตามมาตบตีทั้งคู่เป็นอันต้องชะงักอยู่กับที่ ได้แต่มองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าพูดบ้าอันใดกันอาซือ มีใครตายที่ไหนกัน” เซี่ยฮุ่ยหนิงรีบเดินเข้าไปใกล้ ๆ สองพี่น้อง พอเห็นศีรษะของเซี่ยซานซานปูดบวม มุมปากก็มีเลือดไหลออกมา ยังทั้งยังไม่ได้สติไม่รู้เป็นหรือตาย นางตกใจจนผงะถอยหลังไปสองก้าว “พี่ฮุ่ยหนิง ท่านมันฆาตกร ! ท่านทำให้อาซานของข้าต้องตาย ฮือ ๆ ๆ” เซี่ยซือซือชี้นิ้วก่นด่านาง ส่งเสียงร้องไห้ดังขึ้นกว่าเดิม มีชาวบ้านสี่ห้าคนทยอยเดินมามุงดูเหตุการณ์ ก่อนหน้าพวกเขาแค่มองดูอยู่ไกล ๆ เสียงร้องไห้ของนางเรียกร้องความสนใจจากชาวบ้านได้ นางจงใจเอ่ยชื่อเซี่ยฮุ่ยหนิงเพียงผู้เดียว ยัดเยียดให้นางเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ “อย่ามาใส่ร้ายข้านะ ข้าไม่ได้ทำ !” เซี่ยฮุ่ยหนิงสะบัดแขนเสื้อหันไปทางอวี่ไป๋ชิงกับอวี่เยี่ยนเอ๋อ พวกนางกลับหลบตาไปทางอ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   5 : จ่ายเงินค่าหมอหรือแยกบ้าน     

    5 : จ่ายเงินค่าหมอหรือแยกบ้าน ภายในห้องโถงของบ้านสกุลเซี่ย ท่านหมออวี่กำลังบอกเล่าถึงอาการของเซี่ยซานซานให้ทุกคนได้รับรู้ เซี่ยซือซือให้น้องชายอยู่เป็นเพื่อนน้องสาวในห้องนอน ตัวนางออกมายืนฟังผู้ใหญ่คุยกันอยู่ในห้องโถง อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นไปตามที่นางคาดคิดไว้หรือไม่ “ค่าหมอสองตำลึง ส่วนเทียบยาใบนี้ข้าคิดแค่หนึ่งตำลึงเป็นพอ” ท่านหมออวี่บอกค่ารักษาให้ทุกคนได้รับรู้ “อันใดกันท่านหมออวี่ คนก็รักษาไม่ฟื้นท่านยังมีหน้าจะมาคิดค่าหมอกับข้าอีก” แม่เฒ่าเซี่ยไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก ตวัดตาไปมองเซี่ยซือซืออย่างเอาเรื่อง “นังตัวดีใครใช้ให้เจ้าไปตามท่านหมออวี่มา เจ้ากี้เจ้าการนักนะ !” “ท่านย่าข้าไม่ได้ให้คนไปตามท่านหมออวี่มานะเจ้าคะ เป็นชาวบ้านที่เขาสงสารพวกข้าเลยพากันไปตามมาต่างหาก” เซี่ยซือซือเม้มปากทำท่าคล้ายอยากร้องไห้อีกรอบ “ตอนนี้อาซานถูกทำร้ายนอนแน่นิ่งไม่ฟื้นคืนสติ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าชีวิตนี้นางจะฟื้นขึ้นมาอีกไหม ฮืออ ท่านย่านางต้องได้กินยาที่ท่านหมออวี๋เขียนให้นะเจ้าคะ ข้าขอร้องท่านย่าท่านช่วยอาซานของข้าด้วยเถอะ”

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   6 : กั้นกำแพง

    6 : กั้นกำแพง “ตามธรรมเนียมการแยกบ้านนั้น จำต้องระบุไว้ว่าคนเป็นลูก จะต้องแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดาด้วยนะพี่ใหญ่” แม่เฒ่าเซี่ยยังหมายหวังผลประโยชน์จากเด็กทั้งสาม “เจ้ายังมีหน้ามาพูดเรื่องนี้อีกหรือจิ่วเม่ย เจ้าขายอาซือไปแล้วจะให้นางเอาอันใดมาตอบแทนบุญคุณเจ้า นางกลายเป็นคนบ้านอื่นไปแล้ว อาซานก็ป่วยติดเตียงซือหยางยังเป็นเด็กเล็ก จิ่วเม่ยไหนเจ้าลองบอกพี่ใหญ่คนนี้ให้กระจ่างซิ เจ้ายังต้องการสิ่งใดจากเด็กน่าสงสารพวกนี้อีก !” เซี่ยคุนทั้งโกรธทั้งอยากทุบตีน้องสะใภ้คนนี้เหลือเกิน หากน้องชายของเขายังอยู่ เด็กทั้งสามไม่มีทางวันได้รับความคับข้องใจแบบนี้เป็นแน่ “ข้าเห็นด้วยกับท่านผู้นำตระกูล แม่เฒ่าเซี่ยเจ้าอย่าได้คิดเอาเปรียบเด็ก ๆ เหล่านี้เลย ไม่เพียงแค่นั้นเจ้ายังต้องมอบธัญพืชให้เด็ก ๆ ไว้สำหรับเลี้ยงชีพอีกด้วย” อวี่กังออกความเห็นช่วยเด็กบ้านสาม “อันใดกัน ! พวกนางอยากแยกบ้านออกไปเอง มีสิทธิ์อันใดมาขอธัญพืชจากข้าอีก” “จิ่วเม่ยนั่นหลานของเจ้าเองนะ เป็นสายเลือดของเจ้าแท้ ๆ แค่ให้ธัญพืชพวกเขาไว้กินสักสองสามวันจะเป็นอันใดไป ยังมีบ้านกับที่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   7 : เซี่ยเหมยลี่

    7 : เซี่ยเหมยลี่ เซี่ยซือซือบอกน้องสาวให้สงบจิตใจเอาไว้ก่อน นางกำลังพยายามหาหนทางให้สามพี่น้องได้อยู่ด้วยกัน ระหว่างนี้เซี่ยซานซานยังต้องแกล้งนอนติดเตียงเช่นเดิมอยู่ แม้แต่น้องเล็กก็ห้ามบอกความจริง เหตุเพราะเขายังเด็กนัก เกิดออกไปวิ่งเล่น แล้วมีชาวบ้านมาหลอกถาม อาจทำให้หลุดพูดความจริงออกไปแบบไม่รู้ตัว “ข้าเชื่อฟังท่านพี่เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่มีทางเลือกอื่น นางจำเป็นต้องนอนติดเตียงไปก่อนสักระยะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย นางจะกลับมาใช้ชีวิตได้ดังเดิม “ลำบากเจ้าต่อไปอีกสักพักนะอาซาน แต่ไม่นานนักหรอกเจ้าอย่าได้กังวลเกินเหตุ ให้ข้าไปดูลาดเลาที่บ้านท่านป้าถานก่อน ข้าไม่รู้ว่าทางนั้นเขาอยู่กันอย่างไร” เซี่ยซือซือมีความคิดแก้ไขสถานการณ์อยู่ในใจ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจในทันที นางเพิ่งทะลุมิติมาที่นี่ได้ไม่กี่วัน ผลีผลามเกินไปย่อมไม่เป็นผลดี “ท่านพี่ท่านคงไม่คิดจะพาข้ากับน้องเล็กไปอยู่กับท่าน ที่บ้านท่านป้าถานหรอกนะเจ้าคะ” “ทำไมเล่า ทำเช่นนั้นไม่ได้หรือ” นางเอียงคอมองน้องสาวคล้ายไม่เข้าใจ “ไม่ได้เจ้าค่ะ มีชาวบ้านคนไหนแต่งภรรยาแล้วต้องให้ที

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   8 : สำรวจมิติพิเศษ

    8 : สำรวจมิติพิเศษ นางยิ้มอย่างพึงพอใจ ละสายตาจากบ่อน้ำพุมองไปยังทุ่งหญ้ากว้างไกล ก่อนจะวกสายตาไปที่กระท่อมหลังน้อย รีบก้าวเท้าตรงไปสำรวจในทันที ภายในกระท่อมมีเพียงเตียงนอนหนึ่งหลัง ชั้นวางตำราที่มีตำราวางเรียงรายอยู่นับสิบเล่ม แน่นอนว่าเป็นภาษาโบราณซึ่งนางอ่านไม่ออก ไม่รู้ว่ามันเขียนสิ่งใดเอาไว้ มีสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ[1]วางอยู่บนโต๊ะ นางใช้พู่กันกับหมึกโบราณเป็นเสียที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าสิ่งนี้มันเปล่าประโยชน์สำหรับนางหรอกหรือ มีห้องครัวสำหรับทำอาหารด้วย มีเพียงอุปกรณ์พวกเตาหม้อกระทะเหล็ก แต่กลับไร้เงาของวัตถุดิบประกอบอาหาร ในกระท่อมหมดความน่าสนใจไปเพียงเท่านั้น แต่พอเปิดประตูด้านหลังกระท่อมออกไป พลันดวงตาของนางก็สว่างจ้าขึ้นด้วยทิวทัศน์แสนงดงาม มีธารน้ำไหลมาจากที่ไหนสักแห่ง นางลองชิมดูแล้วไม่ปรากฏว่ามีพลังพิเศษแต่อย่างใด แตกต่างจากน้ำพุใจกลางลาน ต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายอยู่รอบด้าน มีต้นผิงกั่ว[2] อยู่สามต้น ซึ่งผลของมันสีแดงสุกเต็มต้น รีบเอื้อมมือออกไปเด็ดมาชิมดูผลหนึ่ง เซี่ยซือซืออ้าปากกว้างกัดดังกร๊วบ ! ผิงกั่วผลนี้หวานอร่อยสดชื่น

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   9 : นางถานมารับตัวเซี่ยซือซือ

    9 : นางถานมารับตัวเซี่ยซือซือ ยามเฉิน[1] เสียงดังเหมือนคนกำลังก่อสร้างบางอย่าง รบกวนสามพี่น้องในตอนเช้าของอีกวัน เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดใจ น้องสาวของนางยันตัวลุกขึ้นมานั่งเหมือนกัน ทั้งคู่หันไปมองเจ้าตัวน้อยมุมในสุดของเตียง เซี่ยซือหยางยังคงนอนหลับอุตุอยู่ที่เดิม สองพี่น้องจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ข้าจะออกไปดูเองเจ้านอนต่อเถอะ” เซี่ยซือซือกระซิบเสียงเบา น้องสาวของนางก็เอนตัวลงนอนอย่างว่าเชื่อฟัง พอเดินออกมาอยู่หน้าบ้าน เซี่ยซือซือถึงได้รู้ว่าท่านลุงใหญ่กับท่านลุงรองของนาง กำลังช่วยกันปั้นก้อนดินก่อกำแพงกั้นบ้านอยู่ ทำงานกันเช้าเพียงนี้เชียวหรือ ดูท่าแม่เฒ่าเซี่ยคงอยากตัดขาดพวกนางให้เร็วที่สุด เซี่ยฉางเงยหน้าขึ้นมาเห็นหลานสาวของตน สายตาพลันเย็นชาขึ้นในทันที “ข้าไม่อยู่แค่วันเดียวเจ้าก็ปีกกล้าขาแข็งขอแยกบ้าน ช่างเป็นเด็กเนรคุณจริง ๆ” เมื่อวานเซี่ยฉางกับน้องชายเซี่ยชุน พากันเข้าไปเยี่ยมบุตรชายที่สำนักศึกษาในอำเภอ จึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ขอแยกบ้าน พอกลับมาถึงช่วงเย็นภรรยาของพวกเขา ต่างก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   10 : เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ

    10 : เจ้ากล้าสาบานไหมซือซือ หลังจิบน้ำต้มจอกที่สองจนหมด นางถานถึงรู้สึกหายใจคล่องคอขึ้น อาการไอก่อนหน้าหยุดลง ตัวนางนั้นย่อมรู้ดีว่ามันจะหยุดแค่ชั่วคราว สักพักจะกลับมาไอรุนแรงอีกครั้ง เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา “เอาล่ะ ๆ ข้าดีขึ้นมากแล้ว มาว่าเรื่องของเจ้าต่อซือซือ เจ้ารีบไปเก็บของแล้วตามข้ากลับบ้านเถอะ” เซี่ยซือซือมองนางถานอีกหน มองให้ลึกไปถึงความเป็นจริงตรงหน้า ก่อนจะหันมองไปรอบ ๆ บ้านหลังเก่าทรุดโทรมแห่งนี้ ด้วยอายุของเจ้าของร่างกับอายุของน้องทั้งสองคน อันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้อยู่ตามลำพังได้ “ท่านป้าถานเจ้าคะ ท่านรู้เรื่องแยกบ้านของข้าแล้วใช่ไหม” “ข้าย่อมรู้ดี ข้าไปหาแม่เฒ่าเซี่ยมาก่อนหน้า นี่ใบซื้อขายตัวของเจ้า” นางถานดึงเอกสารซื้อขายตัวออกมาจากอกเสื้อตนเอง “แต่แม่เฒ่าเซี่ยไม่ยอมพาเจ้าออกมาให้ข้า บอกว่าแยกบ้านกันแล้วให้ข้ามาตามเจ้าที่บ้านสามเอง พวกเขาช่างกั้นกำแพงได้รวดเร็วยิ่งนัก ข้าล่ะนึกแปลกใจจริง ๆ” เซี่ยซือซือสัมผัสได้ถึงความเห็นอกเห็นใจในคำพูดของนางถาน พลอยทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย อย่างน้อยแม่สามีของนางก็ไม่ได้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   11 : ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ

    11 : ท่านแม่ ท่านขาดทุนแล้วล่ะ “ท่านพี่สามีท่านงามมาก” เซี่ยซือหยางเอ่ยขึ้นหลังก้าวเท้าเข้าไปภายในห้องนอนของพวกเขาแล้ว ทันใดนั้นคนบนเตียงนอนก็ลืมตาขึ้นข้างเดียว เงี่ยหูฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มไปหมด ก่อนหน้าเซี่ยซานซานผุดลุกผุดนั่ง คลายความขบเมื่อยอยู่หลายรอบ พอได้ยินเสียงคนเดินมานางก็รีบกลับไปนอนนิ่งอยู่ตามเดิม นางเองก็อยากเห็นพี่เขยของตัวเองเหมือนกัน ตั้งแต่ถานจ้านพิการเขาก็ไม่ค่อยออกจากบ้านไปไหน ภาพจำของนางจึงติดอยู่ตอนก่อนที่เขาจะพิการ “เจ้าอย่าได้เอ่ยคำนี้ต่อหน้าพี่ถานจ้านเด็ดขาด บุรุษไม่พึงพอใจให้ผู้อื่นชมตนเองว่างามหรอก ต้องชมว่าหล่อเหลาเข้าใจไหม” “เช่นนั้นข้าก็ต้องหล่อเหลาใช่ไหมท่านพี่” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นยิ้มตาหยีให้พี่สาว “ถูกต้องน้องเล็กของข้านั้นหน้าตาหล่อเหลาเหลือเกิน ปานเทพเซียนตัวน้อย ๆ” เซี่ยซือซืออุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา แล้วแนบแก้มถูไถเบา ๆ “ท่านพี่บุรุษสตรีไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน” “ไอหยา ! เจ้าตัวเท่านี้ไม่นับว่าเป็นบุรุษหรอก” นางอุ้มน้องชายขึ้นแล้วหมุนไปรอบ ๆ เจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   114 : ยวนยางคู่ (จบ)

    114 : ยวนยางคู่ (จบ) สองเดือนต่อมา เสียงประทัดจุดขึ้นตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย ถานจ้านเป็นฝ่ายแต่งเข้ามาเป็นเขยของตระกูล คนนอกไม่รู้มักคิดติฉินนินทา แต่การที่เซี่ยซือซืออยู่กับสองแม่ลูกตระกูลถานมาตั้งแต่ต้น พวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมาหลายปีแล้ว ไม่แบ่งแยกว่าใครต้องแต่งเข้าบ้านใคร นางถานเองย่อมรู้ว่าการที่บุตรชายแต่งเข้าบ้านของภรรยา เป็นเพราะเขาต้องการช่วยนางดูแลน้อง ๆ ทั้งสองคน ตัวนางเองมีวันนี้ได้เพราะเซี่ยซือซือเช่นเดียวกัน “เจ้าไม่เสียใจแน่นะเหลี่ยฮวา” แม่เฒ่าจางแอบถามก่อนพิธีเริ่มต้นขึ้น “ข้าไม่เสียใจเจ้าค่ะแม่เฒ่าจาง ลูกชายข้ายังใช้แซ่ของข้ามาตั้งแต่เกิด ข้าไม่สนใจเรื่องชื่อแซ่หรอกเจ้าค่ะ สนใจแค่ว่าเขามีความสุขในชีวิตหรือไม่ ข้าเคยถามเรื่องซื้อเรือนเป็นของตัวเอง จ้านเออร์ปฏิเสธในทันที เขาไม่ยอมแยกจากซือซือไปไหน และรู้ว่านางเองก็ไม่สามารถแยกจากน้อง ๆ ไปได้เช่นเดียวกัน พวกเราอยู่ด้วยกันเช่นนี้ก็มีความสุขดีแล้วนี่เจ้าคะ ยังท่านมีครอบครัวอาจารย์ฮู่ ล้วนแล้วแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน” “เจ้าคิดเช่นนี้ย่อมดีแก่พวกเขา อย่าไปฟังเสียงผ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   113 : ขอแต่งงาน

    113 : ขอแต่งงาน ถานจ้านพานางไปเลือกซื้อโคมไฟอันใหม่ จากนั้นก็ชวนกันไปล่องเรือในบึง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของผืนน้ำ ที่สะท้อนแสงเป็นดวงไฟน้อยใหญ่เต็มไปหมด ฝีพายยืนอยู่ด้านหลังทำเป็นไม่สนใจคู่สามีภรรยา ที่กำลังอิงอกซบไหล่กันอยู่ ถานจ้านถอดเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกออกคลุมให้ภรรยา “ซือซือ” “หืม” “เจ้าอายุสิบแปดแล้วนะ” “อื้ม” “เราแต่งงานกันเถอะ” เซี่ยซือซือ “...” นางรีบดันศีรษะตัวเองออก เงยหน้ามองเขาด้วยความงุนงง “ไม่ใช่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วรึ” “ใช่ แต่เราไม่เคยเข้าพิธีแต่งงานกัน และยังไม่เคยร่วมหอ” ทำไมเซี่ยซือซือได้ยินแล้วรู้สึกว่า เขาย้ำสองคำสุดท้ายแบบแปลก ๆ ก้มลงเล่นนิ้วมือตัวเองเงียบ ๆ “ร่วมเหอหรือ” พวงแก้มแดงปลั่ง ภายใต้แสงจากโคมไฟที่แขวนไว้ตรงหัวเรือ “เจ้าเคยเล่าให้ข้าฟังว่า โลกของเจ้าบุรุษขอสตรีแต่งงาน จะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย” ถานจ้านล้วงหยิบแหวนหยกเนื้อดีสีขาวออกมาจากแขนเสื้อ บรรจงสวมใส่บนนิ้วนางข้างซ้ายให้นาง “แต่งงานกับข้านะซือซือ” เซี่ยซือซือมองแหวนบนนิ้ว

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   112 : ชีวิตในเมืองหลวง

    112 : ชีวิตในเมืองหลวง เมื่อแคว้นฉีแพ้สงครามย่อยยับ เพื่อแสดงความจริงใจว่าจะไม่บุกแคว้นจ้าวในช่วงสิบปีนับจากนี้ พวกเขาจึงยอมส่งองค์ชายหกซึ่งมีอายุเพียงห้าปี มาเป็นตัวประกันที่แคว้นจ้าว หลังจากนั้นเพียงห้าเดือน เมืองหลวงได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากฮ่องเต้ทรงสวรรคตลงด้วยโรคร้าย ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องห้าจึงต้องนำทัพ เข้าไปปราบปรามขุนนางชั่วที่ก่อกบฏ และปลดองค์รัชทายาทผู้ไร้ความสามารถลงจากบัลลังก์ ท่านอ๋องเจ็ดได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ให้ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้องค์ถัดไป เมืองหลวงที่เคยเต็มไปด้วยขุนนางชั่ว กลับถูกกำจัดทิ้งไปในเวลาเพียงสองปีกว่า แน่นอนว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง คอยเฝ้าดูคนชั่วและชี้เป้าหมายความผิดได้อย่างแม่นยำ ยังเป็นเซี่ยซือซือคนเดิม แม้นางไม่ขอรับตำแหน่งใด ๆ เพราะอยากทำการค้าเพื่อความร่ำรวย แต่หากมีเรื่องสำคัญจริง ๆ อยากให้นางช่วย นางก็พร้อมช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ แม่ทัพโหย่วถูกย้ายมาเป็นแม่ทัพประจำเมืองหลวง ฮ่องเต้ได้มอบจวนให้เขาได้อยู่อาศัยอย่างสมเกียรติ และมอบตำแหน่งให้บุตรชายทั้งสอง โหย่วหยางหลงได้เป็นหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร แม้เขาแขนพ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   111 : ขับไล่ข้าศึก

    111 : ขับไล่ข้าศึก เซี่ยซือซือนอนไปได้เพียงหนึ่งชั่วยามเศษ ท่านอ๋องเจ็ดก็ส่งคนมาตามนางที่กระโจม ให้นางตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ค่ายของข้าศึก เซี่ยซือซือใช้เวลาไม่นานก็พบว่าฤทธิ์ของยาเริ่มทำงาน ท่านหมอใช้ยาที่ทำให้ร่างกายอ่อนแรง ไร้รสไร้กลิ่นไร้สี ม้าศึกนับหมื่นตัวล้มเกลื่อนอยู่บนพื้น ส่วนทหารหนึ่งในสี่ต่างก็ลุกไม่ขึ้นเช่นกัน “ได้ผลเจ้าค่ะท่านอ๋อง แม้จำนวนที่ได้รับยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้กองทหารม้าทมิฬไร้อาชาสู้รบได้จริง ๆ” “เช่นนั้นดี ออกคำสั่งไปให้เตรียมตัวออกรบ ส่งข่าวให้ทางซื่อจื่อได้รู้ด้วย” ท่านอ๋องเจ็ดจะรุกฆาตข้าศึกในเช้านี้ เซี่ยซือซือตัดสินใจพูดเรื่องน้ำพุวิเศษกับท่านอ๋องเจ็ดตามลำพัง นางไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้มากนัก แต่ทหารนับแสนนาย นางไม่สามารถลงมือคนเดียวได้ “เจ้าบอกว่าน้ำพุวิเศษสามารถทำให้กำลังวังชาเพิ่มขึ้นได้เช่นนั้นรึ” “เจ้าค่ะ ท่านลองดื่มดูก็ได้แต่แค่อึกเดียวพอนะเจ้าคะ มันช่วยในการรักษาเป็นหลัก ร่างกายคนปกติหากดื่มเกินหนึ่งอึก มันจะส่งผลเสีย” นางล้วงหยิบขวดน้ำพุวิเศษยื่นให้ท่านอ๋องเจ็ด ท่านอ๋องเจ็ดรับข

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   110 :  กำจัดหน่วยสอดแนม

    110 : กำจัดหน่วยสอดแนม ซื่อจื่อได้รับจดหมายเตือนแล้วถึงกับหน้าดำคล้ำในทันที หากไม่มีการเตือนจากฝั่งท่านอ๋องเจ็ด เขาคงไม่ได้สนใจข้าศึกที่แอบมาด้านข้างเป็นแน่ รีบออกคำสั่งให้ทหารหลักสามหมื่นนาย ดักซุ่มโจมตีข้าศึกที่จ้องทำลายคลังเสบียงในคืนนี้ ส่วนข้าศึกด้านหน้าที่แสร้งทำเป็นบุกโจมตี ก็ให้กองทัพย่อย ๆ ออกไปจัดการส่วนหนึ่ง ที่เหลือตรึงกำลังอยู่กับที่ ห้ามผลีผลามโดยเด็ดขาด ยามดึกทหารทั้งสองฝั่งต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ถานจ้านนำทหารร้อยนาย ตามด้วยเซี่ยซือซือกับอาจารย์ฮู่ ลอบเข้าไปโจมตีหน่วยสอดแนมของอีกฝ่าย หนนี้พวกมันมากันเพียงสิบสองคน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มละหกคน เซี่ยซือซือชี้เป้าให้พลธนูโจมตีได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็ปลีกตัวไปช่วยสามีกับอาจารย์ฮู่ หน่วยสอดแนมทั้งแปดกลายเป็นศพในเวลาอันรวดเร็ว “จุดพลุส่งสัญญาณ” นางสั่งทหารด้านหลัง ปัง ! ปัง ! ตามที่ตกลงกันไว้ หากพลุส่งสัญญาณดังขึ้น รุ่งเช้าทหารทุกนายต้องเดินทางลงจากเทือกเขาชิงเทียนอย่างเงียบ ๆ กลุ่มของถานจ้านจะเดินทางนำหน้าไปก่อน เพื่อที่จะได้ส่งสัญญาณบอกคนด้านหลังเป็นระยะ เป

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ

    109 : เข้าสู่สมรภูมิรบ เรือนโหย่วเสวี่ยหยา เซี่ยซานซานฝึกฝนวรยุทธ์กับคุณหนูสามจนเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งกินขนมที่สาวใช้นำมาให้ ส่วนโหย่วเสวี่ยหยาขอตัวเข้าไปอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ความจริงนางชวนเซี่ยซานซานไปอาบน้ำด้วย แต่เซี่ยซานซานปฏิเสธไม่อยากรบกวน “เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” เสียงนุ่มทุ้มของโหย่วหยางหลงดังขึ้นอยู่ด้านหลัง “คุณชายใหญ่” เซี่ยซือซือรีบลุกขึ้นโค้งศีรษะให้เขา “ข้าเห็นสาวใช้บอกว่าเสวี่ยหยามีแขก นึกว่าจะเป็นใครที่ไหนเสียอีก นั่งลงสิเจ้ากำลังกินขนมอยู่ไม่ใช่รึ” “เจ้าค่ะ” เซี่ยซานซานไม่อยากอยู่กับคนผู้นี้ตามลำพัง นางเหมือนเด็กน้อยขี้ขลาด มองไปทางประตูห้องของโหย่วเสวี่ยหยาตลอดเวลา “เหตุใดถึงไม่นั่ง รังเกียจข้ารึ” “มะไม่ใช่เจ้าค่ะ ข้านั่งแล้ว” นางไม่กล้ามองสบสายตากับเขาด้วยซ้ำ นั่งลงบนเก้าอี้อย่างจำใจ “กลัวข้ารึ” มุมปากของโหย่วหยางหลงกระตุกเบา ๆ นึกอยากแกล้งเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา “เจ้ามาฝึกวรยุทธ์กับน้องสามของข้า เหตุใดไม่มาลองฝึกกับข้าดูบ้างล่ะ” “ข้าฝีมืออ่อนหัดนัก ไม่บังอาจไ

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   108 :  รักษาท่านอ๋องห้า   

    108 : รักษาท่านอ๋องห้า แม่เฒ่าจางกับเสี่ยวเป่าเริ่มปรับตัวเข้ากับทุกคนได้แล้ว นางคอยช่วยเหลืองานบ้านทุกอย่าง ไม่ทำตัวนิ่งดูดายแต่อย่างใด แม้ว่านางถานจะบอกให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอันใด แต่ความเกรงใจของหญิงชรานั้นมีมากเหลือเกิน เซี่ยซือซือเลยปล่อยให้ท่านทำไป การอยู่เฉย ๆ จะยิ่งทำให้รู้สึกเครียด นางคอยกำชับแม่เฒ่าจางว่า นางมีเงินสามารถเลี้ยงดูทั้งคู่ได้ ไม่ต้องคิดว่านางจะลำบาก แม่เฒ่าจางถึงได้วางใจ “ท่านพี่ข้าไปหาคุณหนูสามได้หรือไม่” เซี่ยซานซานอยากเจอหน้าโหย่วเสวี่ยหยา นางอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ถอนหมั้นไปแล้วทางซื่อจื่อจะตำหนินางหรือไม่ “อืม” เซี่ยซือซือคิดหนักเพราะนางต้องไปทำงานนี่สิ “ไปเพิ่มอีกคนคงไม่เป็นไรหรอกซือซือ” ถานจ้านหน้าน้องสาวภรรยาแล้วรู้สึกสงสาร “แล้วน้องเล็กล่ะ” เซี่ยซือซือมองหาน้องชายบ้าง เพราะปกติเซี่ยซานซานจะเป็นคนคอยดูแลเขา เซี่ยซานซาน “เขาเล่นอยู่กับเสี่ยวเป่าหลังบ้านเจ้าค่ะ มีหนิงเซียนคอยดูอยู่” “เจ้าเข้าไปบอกท่านแม่ไว้ก่อน เผื่อไม่เห็นเจ้าท่านจะเป็นห่วงเอา” “ได้ท่านพี่” เซี่ยซา

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่

    107 : คุณชายเริ่นก้งเยว่กับพี่หญิงใหญ่ วันต่อมาโรงประมูลหยางชุนกระจายข่าวออกไปอย่างหนาหู ว่าคุณชายเริ่นก้งเยว่ได้นำของล้ำค่ามาร่วมประมูล ผู้คนต่างแห่มาซื้อตั๋วเข้าชมกันอย่างล้นหลาม รวมไปถึงคนในจวนท่านอ๋องห้าด้วย “เจ้าแน่ใจนะว่าข้าเหมือนสตรีแล้ว” สตรีร่างสูงอย่างถานจ้านเริ่มรู้สึกประหม่า เขาแอบออกมาแต่งตัวที่โรงเตี๊ยมด้านนอก เพราะไม่อยากให้คนในบ้านรู้เรื่องนี้ “พี่หญิงใหญ่เหตุใดไม่เชื่อมือข้าล่ะขอรับ” เซี่ยซือซือที่อยู่ในชุดของคุณชายเริ่นก้งเยว่กลั้นขำแทบตาย นางถักเปียทำมวยผมให้เขาอย่างน่ารัก ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงาม “พี่หญิงใหญ่ท่านงามมากขอรับ บุรุษในโรงประมูลต้องคลั่งไคล้ท่านแน่” ถานจ้าน “...!?” เขามองพ่อหนุ่มน้อยหน้าตาเกลี้ยงเกลาตรงหน้า นางจะรู้บ้างไหมว่าแต่งเช่นนี้แล้วดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งนัก “เจ้ารีบสวมหมวกเถอะ” เขาหยิบหมวกใบใหญ่ครอบลงบนศีรษะของนาง ก่อนจะสวมให้ตัวเองอีกด้วย หากเซี่ยซือซือไม่บอกว่านางสวมหมวกปิดบังใบหน้า ไว้ตลอดเวลาที่ปลอมตัวเป็นคุณชายเริ่นก้งเยว่ เขาคงห้ามไม่ให้นางเข้าไปยังโรงประมูลแล้ว ก่อนหน้

  • ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ   106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! 

    106 : เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม ! รถม้าวิ่งช้า ๆ ผ่านถนนที่มีขอทานกับคนไร้บ้านรวมตัวกันอยู่ เซี่ยซือซือไม่อยากให้น้องชายของนาง เห็นภาพน่าเวทนาเหล่านี้ นางอยากพาเขากลับเข้าไปนั่งในรถม้า แต่ไม่มีที่ให้จอดรถม้าได้อย่างปลอดภัย หากจอดไปแล้วเกรงว่าคนไร้บ้านเหล่านี้ จะกรูกันเข้ามารุมทึ้งรถม้าของนางเข้า จึงต้องให้เขานั่งอยู่บนตักของนางต่อไป เซี่ยซือหยางกินขนมในมือแล้วมองสองข้างทางไปด้วย เขาเห็นคนยากไร้นอนเกลื่อนข้างถนนเต็มไปหมด เขาได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า ก้มลงมองขาสั้น ๆ กับนิ้วมือป้อม ๆ ของตัวเอง จะไปช่วยเหลืออันใดผู้อื่นได้ “แต่เอ๋ ?” เขาหันกลับไปมองดูอีกที ขนมในมือถูกปล่อยทิ้งลงพื้น ลุกขึ้นยืนหันหน้ามองไปยังด้านหลัง “น้องเล็กอันตรายอย่าลุก” เซี่ยซือซือจับเขาเอาไว้แน่น ๆ แต่เหตุใดเขาถึงได้ดิ้นรน อยากมองไปด้านหลังเช่นนี้ “เสี่ยวเป่า นั่นเจ้าใช่ไหม !” ถานจ้านถึงกับค่อย ๆ หยุดรถม้าลง เขาหันไปมองหน้าเซี่ยซือหยางด้วยความแปลกใจ “เสี่ยวซือหยางเจ้าเรียกใคร” “เหมือนข้าจะเห็นเสี่ยวเป่า” เขาพูดคล้ายไม่แน่ใจ “เสี่ยวเป

DMCA.com Protection Status